โว๊ะ!! ไอ้กายมึงนี่ แพ้ทางพี่เรนจริงๆ ว่ะ
Kaminsay-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ โชคครั้งที่ • 16.2 • • • • ต่อค่ะ 100% • • •
พี่เรนเมี๊ยว~
ผมก้มลงมองเมื่อได้ยินเสียงร้องของน้องหมี พาดผ้าขนหนูเอาไว้ที่ราวตากผ้าก่อนจะอุ้มน้องหมีขึ้นมากอด
“เดี๋ยวเรามาคุยด้วยนะ เราขอคุยกับน้องกายก่อน” ผมบอกกับน้องหมี หอมหัวน้องไปทีแล้วจึงวางลงกับพื้นแล้วเดินไปหาน้องกายที่นอนเล่นอยู่หน้าทีวี
“น้องกาย... อะ อ้าว...”
กายหลับไปแล้วครับ ผมยกมือโบกๆ ตรงหน้าแต่ก็ไม่รู้สึกตัวตื่นสงสัยคงจะเพลียจัด แต่ก็แน่ล่ะ... วันนี้ทั้งวันก็จัดซุ้มคณะ แล้วยังต้องมาเดินตามหาผมที่หลงทางอีกตั้งเป็นชั่วโมง ไม่ให้เหนื่อยจนเพลียแล้วหลับไปก็ให้มันรู้ไปสิ
พอเห็นน้องกายหลับสนิทแบบนี้ผมก็ไม่อยากจะรบกวน แต่ถ้าปล่อยให้นอนตรงนี้น่าจะปวดหลังเพราะพื้นที่ก็มาได้เยอะ พื้นก็เป็นพื้นกระเบื้องไม่ใช่พื้นปูพรมนุ่มๆ
ถึงจะไม่อยากปลุกแต่ก็ต้องปลุกและเนอะ อย่างน้อยก็จะได้ให้ขึ้นมานอนดีๆ บนเตียง
“กาย... น้องกาย...” ผมปลุกน้องกายที่นอนหลับอยู่ เรียกอยู่สองสามรอบน้องก็ลืมตาขึ้นมอง แต่ดูเหมือนจะง่วงมากจนจับใจความอะไรที่ผมพูดไม่ได้
“ไปนอนบนเตียงดีกว่า ตรงนี้พื้นมันเย็นมันแข็งเดี๋ยวไม่สบายตัว น้องกาย... กาย” น้องกายยังสะลึมสะลือเหมือนสมองปิดทำงานไปแล้ว
แต่พอผมดึงให้ลุกขึ้นก็ลุกนะ พาไปนอนที่เตียงก็เดินตามมาดีๆ แต่พอลงนอนก็หลับต่อไปเลย ตลกดีเนอะ
เหมียว~
น้องหมีร้องก่อนจะกระโดดขึ้นมาบนเตียง เดินย้ำไปมาบนตัวน้องกายอย่างชอบใจ
“น้องหมีไม่เอาสิ ไม่กวนพี่เขาแบบนั้น” ผมจัดการอุ้มน้องหมีมากอดเอาไว้ พลางหันไปมองน้องกายที่หลับสนิทไปแล้วเรียบร้อย
เรนชอบน้องกายเขาบ้างหรือยังอยู่ๆ คำถามของเพื่อนก็ลอยเข้ามาในความคิดให้ผมชะงัก น้องกายชอบผม... ช ชอบแบบคนรัก หลายครั้งแล้วที่น้องพูดแบบนั้น แล้วผมล่ะ ชอบหรือเปล่านะ
“น้องหมี... น้องหมีว่าเราชอบกายหรือเปล่า” ผมถามน้องหมี รู้หรอกว่าคงไม่มีคำตอบให้ แต่ผมก็ชอบคุยกับน้องหมีแบบนี้นะ
“วันนี้เราหลงทางในมหา’ลัยอีกแล้วล่ะ ตอนแรกเราก็ไม่อะไรหรอกเพราะเรารู้ดีว่าเราหลงทางประจำแต่เดี๋ยวเราก็หาทางไปได้เอง” ผมขยับลงนอนมองหน้าน้องหมีที่นอนขดอยู่บนหมอนของผม
“แต่วันนี้นะ อยู่ๆ เราก็คิดถึงน้องกายขึ้นมา คิดขึ้นมาว่าถ้าน้องกายอยู่ข้างๆ เราก็คงดี ถ้าน้องหาเราเจอเร็วๆ หรือเราเจอน้องเร็วๆ ก็คงจะดี เราถึงได้เดินวนไปวนมาเพื่อหาแต่เหมือนมันจะยิ่งทำให้เราหลง”
“เราเสียใจนะที่ทำให้น้องกายเป็นห่วงแบบนั้น แต่เราก็น้อยใจนะ น้องกายไม่เห็นถามเราเลยว่าเราเดินหาน้องเขาหรือเปล่า อยู่ๆ ก็มาดุเรา หึ!”
ผมทำหน้าบึ้งใส่น้องกายที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ก่อนจะหันกลับมามองน้องหมีอีกรอบ “น้องหมีว่า... แบบนี้เราชอบน้องกายหรือเปล่า”
ผมสับสน ผมไม่เคยมีความรักจริงๆ จังๆ สักครั้ง ไม่เคยมีคนมาชอบเพราะผมคิดว่าผมไม่ใช่คนหน้าตาดี ใส่แว่นอย่างกับเด็กเนิร์ด หน้าตาก็บ้านๆ มีดีแค่ผิวขาวแค่นั้นเอง ผมไปจีบผู้หญิงคนไหนก็อดหักหมด ผมเลยไม่รู้ว่าความรักมันเป็นยังไง
และก็...
“น้องหมีว่าน้องกายจะชอบจะรักเราจริงๆ หรือเปล่า หน้าตาอย่างเราเนี่ยนะ... คนอย่างน้องกายจะมาชอบ เขาเป็นถึงเดือนคณะเลยนะ คงมีคนหน้าตาดีๆ มาให้เขาชอบตั้งเยอะแยะ” ผมยื่นนิ้วไปจิ้มจมูกน้องหมี ถ้าเป็นปกติก็คงสะบัดหนีไม่ก็ไล่งับนิ้วผมแล้ว
แต่น้องหมีฉลาด น้องหมีรู้ว่าตอนนี้ผมกำลังสับสน อยากระบายความรู้สึกถึงได้อยู่นิ่งๆ ข้างๆ ผมแบบนี้
“เราน่ะ... เหมาะสมกับน้องกายเขาจริงๆ เหรอ”น้องกายผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาทับอยู่บนอกแล้วก็ขยับไปมา รู้สึกเปียกๆ ที่แก้มด้วย แล้วพอผมลืมตา
อือฮือ...
ชัดเจน...
ตีน เอ๊ย! เท้าขาวๆ นุ่มๆ ของหมีเหยียบอยู่บนหน้าผม เดี๋ยวนะเดี๋ยว เราสนิทกันถึงขนาดเหยียบหน้ากันได้แล้วเหรอเพื่อน ใจเย็นนะ นี่กายเอง... จะมาเหยียบหน้ากันอย่างนี้ไม่ได้นะเออ
ผมลุกพรวดขึ้นนั่งทันที หมีเลยกลิ้งกลุกๆๆ ลงไปที่ตักผมพร้อมร้องเหมียวเสียงดัง
“ฮ่าๆๆๆ อยากมาเหยียบหน้าเราดีนัก ตัวเธอต้องโดนลงโทษ” ผมหัวเราะชอบใจเมื่อหมีหันหน้ามามองด้วยสายตาวาวๆ อย่างเอาเรื่อง
ฮูย~ น่ากลัวนะเนี่ย
“โอ๋ๆ มาโอ๋มา” ผมอุ้มหมีขึ้นมากอดโอ๋ เลยโดนทีนแมวยันหน้าเข้าให้อีกรอบ “เล่นตัวว่ะ นี่หนุ่มหล่อมากอดมาหอมเลยนะ”
ผมฟัดหมีอยู่บนเตียงอย่างมันเขี้ยวน้อยๆ ปนหมั่นไส้เยอะๆ อยู่สักพักก่อนจะพึงนึกขึ้นไอ้ว่า... กูมาสิงอยู่ห้องพี่เรนนี่หว่า ว่าแต่ว่าเจ้าของห้องหายไปไหนกันนะ
ห้องแม้จะค่อนข้างกว้างแต่ก็มองเห็นได้ทั่วแค่นั่งบนเตียงหันซ้ายหันขวาก็เห็นรอบห้อง พี่เราไม่ได้อยู่ในห้อง ประตูห้องน้ำเปิดค้างเอาไว้ ข้างในนั้นก็ไม่มี ว่าแต่... พี่เรนหายไปไหนนะ ก่อนอื่น... ตอนนี้กี่โมงแล้ววะ
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาก่อนจะตาโต ไอ้เหี้ย! นึกว่าเช้า แต่นี่มันจะเที่ยงแล้วเถอะ ถ้าอย่างนั้นพี่เรนคงไปเรียนแล้วล่ะ ส่วนผมวันนี้ไม่มีเรียนครับ จริงๆ มี แต่ใกล้ไฟนอลแล้ว รวมไปถึงใกล้จัดงานนิทรรศการรูปภาพแล้ว อาจารย์เลยปล่อยให้นักศึกษาทำงานกันอย่างเต็มที่ ยกเว้นวิชานอกคณะยังคงเรียนตามปกติครับ
ผมส่งข้อความไปหาพี่เรนว่าตื่นแล้ว และจะกลับไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หันมองหมีที่นั่งมองผมอยู่ก็เลยส่งข้อความไปอีกรอบว่าพาหมีไปที่ห้องผมด้วย แต่พี่เรนยังไม่ได้อ่านผมก็เลยแค่ส่งข้อความทิ้งเอาไว้ คงกำลังเรียนอยู่
มือข้างหนึ่งอุ้มหมีเอาไว้ เดินวนรอบห้องพี่เรนเพื่อเช็คไฟเช็คปลั๊กว่าไม่ได้เปิดทิ้งเอาไว้ก่อนจะเดินกลับไปที่หอ
หอผมเองก็ไม่ได้ห้ามเรื่องเลี้ยงสัตว์แต่ว่าต้องดูแลให้ดีห้ามรบกวนคนอื่นเด็ดขาด แล้วก็ขนาดห้องไม่ได้กว้างเหมือนหอพี่เรน พื้นที่มันมีจำกัดที่หอผมเลยไม่ค่อยมีคนเลี้ยสัตว์เลี้ยงเท่าไหร่ จะเคยเจอก็แต่เลี้ยงกระต่าย เลี้ยงหนูแฮมเตอร์เท่านั้น พวกหมาแมวไม่ค่อยมี
ผมวางหมีลงบนพื้นหลังจากเข้ามาในห้องแล้วปล่อยให้เจ้าตัวสำรวจห้องผมตามสบาย
“สำรวจได้ แต่ห้ามทำของพังนะเข้าใจไหม แล้วก็ห้ามแตะต้องกล้องกับเลนส์ของเราด้วย! เราอาบน้ำแปบนึง” ผมหันไปบอกหมีก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ
ว่าแต่ว่า... เมื่อคืนเหมือนผมได้ยินพี่เรนพูดอะไรสักอย่าง พอนึกๆ ดูแล้วเหมือนจะโดนพี่เรนปลุกให้ไปนอนบนเตียง พอลงเตียงได้ผมก็หลับต่อ
แต่รู้สึกหนักๆ เหมือนโดนเหยียบโดนทับผมก็เลยรู้สึกตัวตื่น อ๋อ... น่าจะเป็นหมีมาเดินบนตัวผม
ร่างกายผมมันไม่ทำงาน ตาไม่ยอมลืมขึ้น ตัวไม่ขยับ ปากไม่พูด แต่สมองทำงาน หูทำงาน... พอนึกไปเรื่อยๆ เหมือนจะเริ่มจำได้ว่าพี่เรนพูดอะไรสักอย่าง แต่ไม่ได้พูดกับผม
‘น้องหมีว่าน้องกายจะชอบจะรักเราจริงๆ หรือเปล่า หน้าตาอย่างเราเนี่ยนะ... คนอย่างน้องกายจะมาชอบ เขาเป็นถึงเดือนคณะเลยนะ คงมีคนหน้าตาดีๆ มาให้เขาชอบตั้งเยอะแยะ’
‘เราน่ะ... เหมาะสมกับน้องกายเขาจริงๆ เหรอ’พี่เรนคงคิดว่าผมหลับสนิทถึงได้พูดแบบนั้น หรือจริงๆ แล้ว พี่เรนอาจจะชอบเล่าชอบพูดอะไรแบบนี้กับหมีเป็นประจำก็ได้
ผมจำไม่ได้ว่าก่อนหน้าประโยคเล่านี้พี่เรนพูดอะไรบ้าง เพราะมันจะหลับเสียให้ได้ แต่สองประโยคนี้ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ยินชันเจนแล้วก็จำได้แบบนี้ หรือเพราะมันเป็นประโยคที่สื่อถึงความรู้สึกลึกๆ ของพี่เรนกัน
โครม!!
ผมสะดุ้งหลุดจากความคิดเมื่อได้ยินเสียงโครมใหญ่ดังมาจากนอกห้องน้ำ ผมรีบล้างสบู่แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันเอวแล้วเปิดประตูออกไปดู
อยากจะยกมือตบหน้าผากตัวเอง ผมเดินไปสำรวจข้าวของ ไม่มีชิ้นไหนพัง แต่ข้าวของระเกะระกะเต็มพื้น กล้องถ่ายรูปที่วางอยู่บนชั้นไม่มีเสียหายและไม่มีตกพื้น
ผมหันไปมองหมี จะว่าก็ว่าไม่ลง เพราะหมีไม่ได้แตะต้องกล้องสุดที่รักของผม ไม่ได้ทำข้าวของผมเสียหายสักชิ้น แต่คาบมันมาเล่นบนพื้นจนเกลื่อน
จะบอกว่ามันฉลาดรู้จักว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ หรือจะบอกว่ามันกวนตีนผมดีนะ
แต่เอาจริงๆ ของที่หมีลากออกมาก็เป็นพวกหมอน หนังสือ แผ่นหนังที่ผมวางๆ เอาไว้บนพื้นนั่นแหละ มันไม่ได้กระโดดขึ้นไปเล่นบนตู้ บนชั้นวางของอะไร
“เดี๋ยวมาช่วยเราเก็บของเลย” ผมคาดโทษก่อนจะเดินไปแต่งตัวให้เรียบร้อย
นั่งลงบนพื้นอุ้มเจ้าตัวดีมาฟัดมางับหูอย่างหมั่นไส้ไปทีแล้วจึงปล่อย หมีมันเดินหนีผม กระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วก็จ้องหน้าผมเหมือนจะบอกว่า
เก็บของไปเจ้ามนุษย์ เราจะนอนมองอยู่ตรงนี้
ผมชี้หน้าหมีไปรอบก่อนจะลงมือเก็บของทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง เก็บเสร็จก็เดินไปนอนบนเตียงคว้าหมีมากอดฟัดเล่น เอาจริงๆ ผมอยากจะกอดฟัดเจ้าของแมวมากกว่าอีก
ผมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาดูเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า พี่เรนส่งข้อความมา บอกว่าเดี๋ยวมาหาผมที่ห้อง นึกแล้วก็ตื่นเต้นว่ะ เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่พี่เรนมาห้องผม ส่วนใหญ่ผมจะไปสิงอยู่ห้องพี่เรนเสียมากกว่า
ผมกดตอบข้อความกลับไปบอกชั้นบอกเลขห้องเรียบร้อยนี่ไม่ได้อ่อยแต่อย่างใด แค่อยากให้เขามาก็แค่นั้นเองนะครับ
ไม่นานหลังจากนั้นเสียงเคาะประตูห้องผมก็ดังขึ้น นี่กำลังจับเวลาอยู่เลยว่าถ้าหากช้ากว่าปกติคงต้องโทรไปถามแล้ว กลัวว่าจะหลงทางน่ะครับ ถึงหอจะอยู่ตรงข้ามกันแต่ผมก็เชื่อว่าพี่เรนสามารถหลงทางได้นะ... แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นแบบนั้นนะ
“พี่เรน มาถึงเร็วจังครับ” ผมเปิดประตูให้พี่เรน ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบให้พี่เขาเดินเข้ามาข้างใน ผมปิดประตูตามมองพี่เรนที่หันซ้ายหันขวาสำรวจห้องของผม
“ตินามาส่งน่ะ บอกว่ากลัวพี่หลงทาง” พี่เรนพูดพร้อมกับทำหน้ามุ่ย “พี่ก็กลับหอได้เถอะ หอกายอยู่ตรงข้ามหอพี่เองจะหลงได้ยังไงกัน”
ผมหัวเราะขำ ไม่บอกหรอกครับว่าผมคิดอย่างเดียวกันกับพี่ตินา ถ้าขืนพูดแบบนั้นคนหน้ามุ่ยคงนึกงอนนึกเคืองผมแน่นอน
“พี่ซื้อของกินมาด้วย กินข้าวกัน” พี่เรนชูถุงในมือให้ดู
“ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมเทใส่จานให้ พี่เรนนั่งเล่นกับหมีไปก่อนละกันครับ” ผมบอก แย่งถุงในมือพี่เรนมาก่อนจะเดินไปจัดการเทข้าวหมูแดงที่พี่เรนซื้อมาใส่จาน
เราสองคนนั่งกินข้าวกันไปดูโทรทัศน์กันไปอยู่ตรงโต๊ะญี่ปุ่นหน้าทีวี ห้องผมก็ไม่มีโต๊ะกินข้าวอะไรหรอกครับ ก็หอพักนี่เนอะไม่ใช่คอนโดอะไร จะเอาพื้นที่ตรงไหนมาตั้งโต๊ะกินข้าวล่ะ
จริงๆ ที่บ้านก็จะให้ผมไปอยู่คอนโดนะแต่มันไกลจากมหา’ลัยกว่าหอตรงนี้ อีกอย่างผมก็ว่าไม่จำเป็นด้วยเพราะเรียนจบผมก็ตั้งใจจะกลับไปอยู่บ้านนะ แต่ผมคิดว่าดีแล้วล่ะที่ผมไม่ตัดสินใจไปอยู่คอนโด เพราะถ้าผมไปอยู่ไกลกว่านี้ผมคงไม่ได้เจอพี่เรนแน่นอนครับ
“กาย...”
ผมหลุดออกจากความคิดของตัวเองแล้วเงยหน้ามองพี่เรนที่เรียกผม “ครับผม”
พี่เรนเงียบไปเมื่อผมขานรับ ทำท่าเหมือนจะพูดแต่ก็ลังเล จะว่าไป... เมื่อคืนเหมือนพี่เรนมีเรื่องจะคุยกับผมนี่น่า แต่ผมดันหลับไปก่อนเลยไม่ได้คุย
“พี่เรนมีอะไรจะคุยกับผมหรือเปล่าครับ เหมือนเมื่อคืนพี่เรนมีอะไรจะคุยนี่ครับ ใช่ไหม” ผมถามและพี่เรนก็พยักหน้ารับ
“พี่... พี่ขอโทษนะ” พี่เรนพูดออกมา ผมได้แต่เลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่าพี่เรนขอโทษผมเรื่องอะไรกัน แล้วผมก็ได้คำตอบเมื่อพี่เรนพูดต่อ “ขอโทษที่ทำให้กายเป็นห่วงมากขนาดนั้น... พ พี่ไม่คิดว่ากายจะห่วงมาก”
“ก็ต้องห่วงสิครับ ใจผมนี่หล่นหายไปเลยตอนรู้ว่าพี่หลงกับพวกพี่ตินา ยิ่งใจเสียตอนที่โทรหาก็ไม่รับ ตามหาก็ยังไม่เจอ พี่เรนรู้ไหม... เมื่อคืนผมทั้งโกรธทั้งโมโหเลยที่พี่หายไปแบบนั้น ที่พี่เดินไม่ระวังอย่างนั้น”
พอผมพูดแบบนั้นพี่เรนก็ทำหน้าหงอยกว่าเดิม “พี่ขอโทษ... ขอโทษจริงๆ นะ อย่าโกรธพี่เลยนะ”
“แต่พอเจอพี่เรน พอรู้ว่าไม่เป็นอะไร ผมก็ไม่โกรธแล้ว” ผมตอบพร้อมกับยิ้มให้
ผมพูดจริงครับ ตอนแรกผมโกรธ แต่พอเจอพี่เรนความรู้สึกพวกนั้นก็หายไปหมด เหลือแต่ความโล่งใจ ดีใจแทน
“พี่ดีใจ... ที่กายหาพี่เจอ”“หือ... อะไรนะครับ” ผมถามอย่างไม่แน่ใจว่าที่ได้ยินนั่นถูกหรือผิด
“จริงๆ แล้วพี่ก็ใจเสียไปเหมือนกันตอนรู้ว่าหลงกับพวกตินา พยายามเดินหากายให้เจอเพราะพี่คิดว่ากายคงช่วยพี่ได้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมยิ่งเดินยิ่งหลง พี่ใจเสียมากเลยล่ะถึงจะหลงในมหา’ลัยก็เถอะ... แต่พี่ดีใจนะที่สุดท้ายแล้วกายหาพี่เจอจนได้ ตอนเห็นกายพี่ดีใจมากๆ เลย”
ใครก็ได้... ตบผมที ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหมครับ
ผมคิดว่าผมกำลังฝัน กำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ แต่หัวใจที่เต้นระรัวกับคำพูดของพี่เรนนั้นก็ยืนยันกับผมได้ว่าผมไม่ได้ละเมอเพ้อพกไปเองคนเดียว ไม่ได้นอนหลับแล้วฝันหวาน แต่ผมกำลังตื่นอยู่จริงๆ และพี่เรนก็พูดอย่างนั้นจริงๆ
หัวใจมันฟูๆ ฟ่องๆ ปากก็ยิ้มไม่ยอมหุบเลยครับ
“ยังไงก็จะหาให้เจอให้ได้ ผมน่ะ... ต่อให้พี่เรนหลงทางแค่ไหน ผมก็จะตามไปหาพี่ให้เจอนั่นแหละ” ผมพูด รู้สึกร้อนๆ แก้ม แม่งหน้ากูต้องแดงแน่ๆ ตอนพูดแบบนี้
ถ้าหากเป็นคนอื่นพูดหรือได้ยินในโทรทัศน์ผมคงโก่งคออ้วกไปแล้ว โคตรจะหวานเลี่ยน แต่พอเป็นเรื่องจริงของผมกับพี่เรน ผมคิดอย่างที่พูดไปจริงๆ... ต่อให้พี่เรนหลงทางแค่ไหน ผมก็จะหาให้เจอให้ได้
“อะ... อือ...”
แก้มพี่เรนแดงมาก และผมก็เชื่อว่าแก้มผมหูผมก็คงแดงมากเช่นกัน นี่เราจะมาแข่งกันเขินเหรอวะ ไม่ได้ดิ พี่เรนเขินขนาดนี้ก็ยิ่งต้องรุกสิหว้า
“พี่เรน...” ผมเรียกพี่เขาเบาๆ แต่เพราะเราอยู่กันแค่นี้พี่เรนก็เลยได้ยินเสียงของผม “ผมชอบ ไม่สิ... ผมรักพี่เรนนะ รักจริงๆ ไม่โกหก ไม่หลอกหลวงด้วย”
“อ อืม...”
“พี่เรนยังไม่ต้องรักผมก็ได้ แต่ถ้าชอบผมบ้างแม้จะแค่นิดเดียวก็ได้ ถ้าพี่เรนรู้สึกชอบผมบ้างสักนิดก็... เป็นแฟนกันนะ”ใจเต้นตึกตัก ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัวไปหมด โอ๊ย ไอ้กายจะเป็นลมแล้วครับ
ผมนั่งรอคำตอบ ลุ้นจนฉี่จะราด โอ๊ย! ลุ้นยิ่งกว่าคะแนนสอบออกอีกครับ อะไรจะลุ้นขนาดนี้วะเนี่ย
“ถ้าพี่ยังไม่มั่นใจว่ารักผมก็ไม่เป็นไร ร... เราลองคงกันไปก่อน ถ้าถึงวันหนึ่งพี่เรนคิดว่าไม่ใช่ผมก็ไม่ว่าอะไร”
พอผมพูดแบบนั้นพี่เรนก็ทำหน้าเครียดเลยครับ ผมพูดอะไรผิดเปล่าวะ
“ถ้า... ถ้าๆ สมมติเป็นแบบนั้นก็เท่ากับว่าพี่เอาเปรียบน้องกายสิ”
ผมยิ้มกับความเป็นห่วงของพี่เรน ก็เล่นน่ารักแบบนี้จะไม่หลงรักได้ไงไหว
“ผมน่ะ รักพี่จริงๆ นะ ผมบอกไม่ได้หรอกว่าถ้าเกิดมีวันนั้นจริงๆ ผมจะไม่เสียใจ ผมก็คงเสียใจแหละแต่ผมก็จะไม่รั้งพี่เอาไว้หรอก”
พี่เรนยังคงมองผมอยู่ ท่าทางเหมือนกำลังคิดแล้วก็ลังเล หรือว่าผมเร่งรัดเกินไปวะ
“ถ้ายังไม่มีคำตอบก็ไม่เป็นไรนะครับ ยังไม่ต้องตอบผมก็ได้ เอาไว้ให้พี่เรนมั่นใจในความรู้สึกก่อนก็ได้ครับ ผมเร่งรัดไปเอง ขอโทษนะครับ”
ผมไม่ได้หงอย ไม่ได้เศร้าหรอกครับที่พี่เรนยังให้คำตอบผมไม่ได้ เพราะผมเชื่อว่าต่อให้วันนี้ไม่ได้คบกันความสัมพันธ์ของผมกับพี่เรนอย่างในตอนนี้จะไม่มีถอยหลังแน่นอน
ก็พี่เรน... เหมือนคนอื่นที่ไหนละเนอะ
************************************************
สวัสดีค่า มาต่อแล้วค่ะ ^^
อั๊ยะ น้องกายขอพี่เป็นแฟนแล้วล่ะ แล้วพี่จะตอบรับหรือปฏิเสธละเนี่ย ลุ้นแทนน้องประหนึ่งว่าตัวเองเป็นน้องเอง ฮ่าาาาา ยังไงก็มาช่วยกันลุ้นนะคะว่าน้องกาย จะนก หรือไม่นก เนอะ ^^
ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ
อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ