-จบบริบูรณ์- ★ มุจลินท์ ★ [Special Halloween] หน้าที่๑๗ {๑๐๐%} ๓๐.๑๐.๖๑
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -จบบริบูรณ์- ★ มุจลินท์ ★ [Special Halloween] หน้าที่๑๗ {๑๐๐%} ๓๐.๑๐.๖๑  (อ่าน 168836 ครั้ง)

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
คู่รองนี่แซ่บจริงๆ

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
บะบะโอ้บะบะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :ling1:  :sad11: สงสารน้องลินท์

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :a5:  :o12: เปรี้ยววววว โทรเลยลูก ให้ไวเลย แง้

ลินท์เอ้ย คนเรานะ เห้อม คนที่มีก็มีมากมาย

พอคนที่ไม่มีบทจะไม่มีก็ไม่สักบาท  :z3:

ปูลู น้องไทเกอร์น่ารักจังลูก

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ว้าย!! ปิดตาส่องช่องว่างระหว่างนิ้ว อิอิ  :hao7:

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :katai1: คุณผู้พันนนน เอาให้แน่นอน คิดให้ดีๆเด้อ

น้องยิ่งเด๋อๆ อย่าทำน้องเสียใจมากนะ ยิ่งซื่อๆ  :hao5:

แล้วก็ระวังไว้นะ เผลอทำไม่ดีกับน้องระวังพี่ชุมาคาบไปแดร้กเด้อ

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
แง้ เกี๊ยมมม  สรุปคือชอบลินท์จริงๆหรอ มากอดๆ :hao5:

เกี๊ยมยอมหลีกง่ายๆ แต่ชุนี่คงไม่ง่าย เมฆาอีกคงไม่ใช่อีกคนนะ

หวั่นใจจริงๆกลัวเกศกลับมาป่วน พ่อแม่พี่ฉลามอีก สู้ๆนะลูก

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
แหมมม แม่คุณ! อย่ามาทำเป็นหวงก้างนะ

ก่อนหน้านี้ทำไมไม่เห็นหัวละจ๊ะ

พอเขามีใหม่ละทำเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ   :z6:

น้องลินท์อย่ายอมนะลูก   :teach:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เดี๋ยวนะนนท์! 55555555555  :laugh: :m20:

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
กรี๊ดดดด  :beat: นังคุณเกศใช่ไหม  :z6:

ตบมันค่ะ แก้วมาจัดการมันนน พี่ปานนน มาช่วยน้องด่วนๆ

ห่วงคนที่เหนือรู้เรื่องแล้วไม่มีสมาธิก็ห่วง

ขอให้ลินท์ปลอดภัย :call:

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เอ้า อิพี่ชุวววววววววว คิดว่าจะดีแล้วเชียว  :ling2:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ม่ายยยยยยย  :mew4: แอบอ่านสปอยมา ใครอ่ะ ฮือออ

หม่อมหรอ หรือนัชที่ไม่รอด  :m15: ฮือออ น้ำตาซึม

 :z3:  :o12: เสียใจ หม่อมมมมม อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ไม่นะหม่อมมม โฮฮฮฮฮฮ  :o12:  หม่อมมมมมม  :ling3:

อยากให้หม่อมรอดอ่ะ ทำไม ทำไม (อินเกินㅋㅋㅋ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2018 21:44:28 โดย Noname_memi »

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
คุณฉลามมมมมม นี่ขนาดมองไม่เห็นยังหื่นได้ขนาดนี้!

หม่อมมมม หม่อมจะไม่รอดจริงๆหรอ  :monkeysad:


***เพิ่มเติม***
แค่หาหม่อมไม่เจอใช่ไหม งั้นก็มีโอกาสรอด ฮือ

ขอให้มีคนช่วย ขอให้นารถรอด แง้ ลุ้นมาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2018 21:45:06 โดย Noname_memi »

ออฟไลน์ DESZCZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขนาดมองไม่เห็นนะ น้องยังแย่ถ้ามองเห็นจะขนาดไหน

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

ออฟไลน์ Aunttk

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอ้ย พี่ฉลามม ตาบอดยังกินน้องได้แบบชิลขนาดนี้ ถ้าพี่หายแล้วไม่แกล้งน้องสามวันนติดเลยรึ พี่ต้องใจเย็นๆนะพี่~  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ตอนที่ ๒๙

   ปึง! ปึง! ปึง!

   “พี่วี ตื่น!” เสียงเคาะประตูดังถี่รัวจนชายหนุ่มตัวโตสองคนที่กำลังนอนซุกซบบนเตียงเล็กค่อยๆโผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม “พ่อกับแม่กลับมาแล้ว!”

   เขาเงี่ยหูฟังเสียงตะโกนที่แว่วเข้ามาในโสตประสาท ก่อนจะหันไปสอดมือเข้าหาเอวสอบของคนข้างๆ เนื้อขาวนวลอุ่นจัดเมื่อขดตัวอยู่ในผ้าห่มทั้งคืน อุ่นจนเขาไม่อยากจะไปไหนอยากจะนัวเนียอยู่ใต้ผ้าห่มนี้ไปนานๆ

   “วี น้องเรียก” ชัยวัตรลืมตาไม่ขึ้น แต่ใช้มือหนาผลักไหล่คนที่เข้ามาใกล้ออกไป “ออกไปคุยกับน้องไป..”

   “ไม่เอา” เด็กหนุ่มสูดกลิ่นตัวบริเวณไหล่ของคนตัวขาว “อยากกอดพี่วัตรอยู่เลย”

   “ให้มันน้อยๆหน่อย ลามปามแล้วมึงเนี่ย”

   “วีชอบกอดพี่วัตรที่สุดเลย” พูดด้วยน้ำเสียงงัวเงียแล้วก็กระชับกอดให้แน่นขึ้น ชายหนุ่มชะงักกึกรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมากะทันหัน แค่คำพูดเล็กน้อยเขาก็ดันใจเต้นไปกับเจ้าเด็กนี่ได้.. บ้าชะมัด

   “อือ.. ชอบเหมือนกัน”

   “หืม”

   “กูนอนต่อละ”

   “ฮื่อ เดี๋ยวสิครับพี่วัตร” เด็กหนุ่มยันตัวเท้าคางกับหมอน ดวงตากลมสีดำเป็นประกาย สลัดความง่วงงุนออกจนหมดสิ้น “เมื่อกี๊พี่พูดอะไรนะ”

   “จะนอน”

   “พี่วัตรคร้าบ”

   “หนวกหูโว้ย!”

   นึกว่าหลับไปแล้ว ดันหูดีอีก!

   “พี่วัตร ผมมีความสุขที่ได้อยู่กับพี่นะ” เด็กหนุ่มคลอเคลียแถวซอกคอขาว อยากจะงับเบาๆแต่กลัวโดนถีบตกเตียงอีก “ตื่นเช้ามาเจอพี่ ตอนเย็นกลับบ้านมาเจอพี่ ตอนกลางคืนได้นอนกอดพี่ทุกคืนแบบนี้ ผมมีความสุขเป็นบ้าเลย”

   “…”

   “ถ้าผมจะบอกพี่ว่า..” ชัยวัตรกลั้นหายใจรอลุ้นว่าเด็กหนุ่มจะพูดอะไร อีกใจก็ไม่อยากฟังเพราะหัวใจที่มันเต้นข้างในสั่นไหวจนเกินจะต้านทาน “ผมอยากดูแลพี่แบบนี้ไปเรื่อยๆ อยากเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตพี่ พี่จะคิดยังไง”

“…”

“เรา.. คบกันไหมครับ..”

   ชัยวัตรเอี้ยวตัวไปมองคนพูดที่กำลังส่งสายตาแพรวพราวระยิบระยับให้เขาไม่ขาด มือหนาเอื้อมมาสอดประสานเข้ากับเขาค่อยๆกอบกุมกระจายความอุ่นผ่านสัมผัสผิวที่แนบชิด วูบหนึ่งเขารู้สึกสั่นไหวคล้อยไปตามความรู้สึกส่วนลึกในใจ แต่อีกด้านกลับไม่มั่นใจกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น เพราะเขาเองยังไม่อยากจะผูกมัดกับใคร จะให้คนอย่างเขาคบหรือมีความรักกับใครมันจะเป็นไปได้หรือ..

   “ผมไม่เร่งรัดพี่หรอก” เด็กหนุ่มว่าพลางเกลี่ยเส้นผมนุ่มที่ปรกหน้าผากของนายตำรวจหนุ่มออก “แต่ผมจะแทรกซึมเข้าไปอยู่ทุกส่วนในชีวิตของพี่ จนพี่ขาดผมเองไม่ได้”

   “ตลกเหอะ” นายตำรวจหนุ่มหันไปทำหน้าเข้มใส่ ทั้งที่ปากจะเหยียดยิ้มแต่เขาต้องกัดเอาไว้ “ใครจะขาดใครไม่ได้กันแน่”

   “พี่เล่นแบบนี้ ผมก็แย่น่ะสิ” ปฐวีได้ยินก็เคลื่อนใบหน้าไปซุกหมอน ใบหูแดงก่ำจนเขาสังเกตได้ “แค่นี้ผมก็ขาดพี่ไม่ได้แล้ว”

   “จริงหรือ?” ผู้กำกับหนุ่มถามย้ำ อยากจะแกล้งไอ้เด็กตัวโตให้กลิ้งตกเตียงไปเลย “กูทำให้มึงขาดกูไม่ได้จริงดิ?”

   “ก็ผม..” เด็กหนุ่มโผล่หน้าออกมาจากหมอนนุ่ม ใบหน้าแดงก่ำช่างน่าเอ็นดู ลุกขึ้นนั่งตัวตรงสูดหายใจแรงๆแล้วก็จับมือเขาไว้แน่น “รักพี่นี่นา”

   ชัยวัตรเบิกตาโพลงมองคนตรงหน้าด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากเด็กหนุ่มด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าความรู้สึกมันก้ามข้ามผ่านคำว่าเพื่อนนอนมานานแค่ไหน แต่เขาก็สัมผัสความรู้สึกรักจากดวงตาคู่นั้นได้จริงๆ อยู่ดีๆมาบอกรักไม่ทันตั้งตัว เขาเลยไม่รู้จะตอบว่าอะไรได้แต่จ้องดวงตากลมสีดำขลับอยู่อย่างนั้น 

   “…”

   “…”

   “ผมไปอาบน้ำก่อนดีกว่า.. เดี๋ยวลงไปด้างล่างด้วย พี่นอนต่อไปเถอะนะครับ” ปฐวีทำลายความเงียบด้วยการผุดลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป

   “อือ” เขาตอบได้แค่นั้นก็มุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม หัวใจเต้นจนแทบจะหลุดออกมาจากในอก ผู้ชายอกสามศอกอย่างเขาต้องมาเขินเพราะคำบอกรักของเด็กเนี่ยนะ บ้าไปแล้วไอ้วัตร! 

   เขานอนลืมตาในผ้าห่มที่ยังอบอวลไปด้วยกลิ่นกายของเด็กหนุ่ม ไม่ว่าจะขยับย้ายตัวไปทางไหน มันก็ทำให้เขานึกถึงคำพูดของเด็กหนุ่มวนเวียนในหัวไม่หยุด เสียงประตูห้องงับปิดเบาๆทำให้ผู้กำกับหนุ่มโผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม ลุกขึ้นนั่งเอามือทาบอกตัวเอง ช่วงนี้หัวใจเขาเต้นแรงผิดปกติ หรือว่าเขาต้องลองไปให้หมอตรวจดูซะแล้ว..

   ผู้กำกับหนุ่มจัดแจงใส่เสื้อผ้าของเด็กหนุ่มที่เตรียมเอาไว้ให้อย่างดี เป็นเสื้อยืดสีพื้นและกางเกงผ้าขายาว เขามองอยู่สักครู่ก่อนโยนทิ้งไปอีกทางอย่างไม่ดี ก่อนจะไปรื้อตู้เสื้อผ้าได้กางเกงแบงแบงมาใส่หนึ่งตัว เขาตัดสินใจลงไปด้านล่างซึ่งเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาตลอดเวลาจนเขาเห็นแล้วก็ยังเวียนหัวแทน คนที่วิ่งไปมาคือเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม และผู้ชายตัวโตที่ใส่ผ้ากันเปื้อนถือถาดอาหารเสิร์ฟลูกค้า หญิงสาวดูมีอายุที่อยู่ตรงโต๊ะแคชเชียร์เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา เธอเป็นผู้หญิงผิวขาวเหลืองดวงตาคมสีดำกริบมองแล้วคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน หล่อนยิ้มหวานให้เขาก่อนจะเดินเข้ามาใกล้

   “สวัสดีครับ” เขากระพุ่มมือไหว้คนอายุมากกว่า “ผมเป็น..”

   “วี บอกแม่แล้วล่ะ มาทานข้าวก่อนเร็ว” เธอจูงมือเขาเข้าไปนั่งที่โต๊ะว่าง เปิดเมนูให้เขาเลือกจิ้มได้ตามใจชอบ “อยากกินอะไรก็สั่งเลยนะลูก” เสียงหวานใสพร้อมสายตาที่มองเขาด้วยความอ่อนโยน เขาพยักหน้ารับ ไม่วายยกมือไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่อีกรอบ

   “คุณแม่ใจดีจังเลย”

   “ทานเยอะๆนะวัตร เดี๋ยวแม่ให้วีมาดูแล อีกสักพักที่ร้านคนน่าจะเบาลงแล้ว.. โทษทีนะจ้ะ วันหยุดก็แบบนี้แหละ” เธอตอบเสียงใส มองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความปลื้มปริ่ม

   “ที่ร้านทำกันอยู่แค่นี้หรอครับ”

   “จ้ะ ถ้าวันไหนวีว่างก็มาช่วย เพราะพ่อเขาทำคนเดียวไม่ค่อยไหวแล้ว อายุเริ่มจะเยอะแล้ว”

   “นินทากันเผาขนเลยนะแม่” ผู้ชายสูงวัยผิวขาวจั๊วะ เดินยกจานที่ลูกค้าทานเสร็จแล้วเข้าหลังร้าน เขายกมือไหว้ นี่คงจะเป็นคุณพ่อของเด็กหนุ่ม พอลองมองดูแล้วปฐวีน่าจะได้แม่มาเกือบร้อยเปอร์เซ็นเลยทีเดียว ทั้งน้ำเสียง หน้าตา คำพูดคำจาหวานหู

   “ก็ลูกชายพาเพื่อนมาบ้านทั้งที แม่ก็ต้องเทคแคร์” เธอหันไปยิ้มให้สามี ส่วนมือก็ถือผ้าสะอาดคอยเช็ดตามโต๊ะต่างๆ “แล้วนี่ยัยลันตาบอกจะมาหาเจ้าวีไม่รู้มาถึงหรือยัง”

   “อะไรนะแม่ ยัยลันตาจะมาหรอ” หวานทำหน้าเลิ่กลั่กส่วนในมือก็กดโทรศัพท์ยิก “ยังไม่เลิกจะมาจับพี่วีอีก”

   “ก็ไปว่าพี่เขา”

   “หนูไม่ชอบยัยนั่นนี่” วันหวานขมวดคิ้ว เมื่อนึกถึงหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพี่ชาย สมัยก่อนรั้วบ้านติดกันเธอก็เลยได้รู้จักลันตาตั้งแต่เด็กๆ ยัยนั่นมันร้ายคิดจะจับพี่ชายเธอทำแฟนไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เคราะห์ดีที่เธอเข้าไปสะกัดแผนร้ายได้ตลอด จนกระทั่งพี่วีจะต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยและย้ายไปอยู่หอ ยัยลันตาหายไปพักใหญ่ แต่ก็ไม่วายยังกลับมารังควาญอีกหรือ เธอไม่ยอมแน่!

   เด็กสาวหันไปมองผู้กำกับหนุ่มที่นั่งบนเก้าอี้เรียบร้อย ใช้สายตาค่อยๆมองสังเกตตามเนื้อตัวร่างกายขาวผ่องที่โผล่พ้นออกมาจากเสื้อผ้า ให้ตายเถอะ คนบ้าอะไรผิวดีจริงๆ วันหวานยอมรับว่าแอบปลื้มผู้กำกับหนุ่มมานานแล้ว ทั้งรูปร่างหน้าตาและหุ่นทรมานใจสาว อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ ถ้าไม่ติดว่าเมื่อคืนเธอได้เสียงแปลกๆออกมาจากห้องพี่ชายจนกระทั่งเธอต้องมาเงี่ยหูฟังนั่นแหละ!

   ยัยลันตา ชั้นมีพี่สะใภ้แล้วย่ะ!

   เด็กสาวกำมือแน่นแล้วร้องเยสในใจ ส่วนในมือถือก็เม้ากับเพื่อนในกลุ่มเรื่องพี่สะใภ้คนใหม่ เธอไม่ซีเรียสเรื่องรสนิยมของพี่ชายอยู่แล้ว เพราะเธอเองเรียนโรงเรียนหญิงล้วนตั้งแต่เด็กยังพาแฟนที่เป็นผู้หญิงมาไหว้พ่อกับแม่อยู่เลย ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ พี่ชายเธอสุดยอด เล่นของสูง(อายุ)ซะด้วย

   “หวาน ไปเสริฟโต๊ะนู้นไป อย่ามัวแต่เล่นโทรศัพท์” ปฐวีส่งถาดให้น้องสาวที่ทำหน้ายับยู่ เห็นท่าทางทะโมนเกินวัยแล้วอยากจะเขกกะโหลกสักที เขามองหาคนตัวขาวที่นั่งอยู่ด้านในสุด เรียวขาขาวแม้จะมีกล้ามเนื้อก็ยังดูสวยโผล่พ้นออกมาจากกางเกงแบงแบงขาสั้นเหนือเข่าเป็นคืบ เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว กางเกงที่เขาเตรียมไว้ให้ไม่ใช่ตัวนี้นี่

   “วีมานั่งกับพี่เขาลูก”

   “ครับแม่” เขานั่งลงตรงข้ามนายตำรวจหนุ่ม “พี่วัตรสั่งอะไรหรือยังครับ”

   “อื้อ สั่งแล้ว” ชัยวัตรเหลือบมองหน้าเด็กหนุ่มได้เพียงครู่ก็ต้องหลบไปมองที่อื่น เขายังไม่ลืมประโยคบอกรักในห้องหรอกนะ ไม่รู้จะเอามือไม้ไปไว้ตรงไหนแล้วตอนนี้

   “พี่วัตร”

   “หืม?”

   “พี่เป็นอะไรหน้าแดงๆ”

   “อากาศร้อนมั้ง” เขาเสตามองไปทางอื่น ยกมือเกาหัวแก้เก้อทั้งๆที่แอร์ในห้องก็เย็นเฉียบจะไปร้อนได้ยังไง เห็นเด็กหนุ่มจุดยิ้มที่มุมปากเขาก็รู้ตัวว่าพลาดท่าเสียแล้ว เสียเชิงชะมัด.. 

“กางเกงตัวนี้ตั้งแต่ผมอยู่มอห้าแล้วพี่ใส่ได้ด้วยหรือ?”

“อะไร?” เขาก้มลงมอง “ใส่ได้ มันสบายดี”

“มันสั้นไป”

“กูใส่แบงแบงมาตั้งแต่เรียนเตรียมทหารละ” เขาตอบ เห็นสีหน้าถูกขัดใจของเด็กหนุ่มแล้วค่อยรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย “เลิกชวนคุย จะกินข้าว” แม่ยกกับข้าวเข้ามาให้เยอะเสียจนเขาน่าจะทานไม่หมด เลยต้องบังคับเด็กหนุ่มให้กินเป็นเพื่อนด้วยกัน

“แม่มึงใจดีสุดๆ” เขาตอบทั้งๆที่ยังเคี้ยวข้าวอยู่ในปาก ลืมภาพผู้กำกับหนุ่มแสนไฮโซไปได้เลย ตัวจริงเขาก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นแหละ “มึงบอกแม่ว่าอะไร? เพื่อน?” เห็นมารดาของเด็กหนุ่มต้อนรับเขาอย่างดี เลยอยากจะรู้ว่าเด็กหนุ่มไปบอกอะไรหรือเปล่า

“เมีย”

พรวดดดด

ข้าวผัดต้มยำทะเลกระจายเต็มโต๊ะ เขาคว้าน้ำเปล่ายกขึ้นดื่มก่อนจะจ้องเด็กหนุ่มเขม็ง ปฐวีหัวเราะเสียงดังกุมท้องแน่น ตัวสั่นตัวคลอนจนทุกคนในร้านหันมามองเป็นตาเดียว อดไม่ได้ที่จะด่าจริงๆ ไอ้เด็กคนนี้!

“สัด!”  กูยังไม่ตอบสักคำว่าจะเป็นแฟน มึงนี่ข้ามขั้นเกินไปละ!

“กินเด็กเขาว่าเป็นอมตะนะครับ” เขาคว้าทิชชู่เช็ดมุมปาก พลางมองหน้าไอ้เด็กที่ยิ้มกว้างแล้วโคตรหมั่นไส้ ห่างแค่สิบกว่าปีเองเว้ย! เยอะตรงไหน? “แต่ผมกินคนแก่.. ก็เป็นนิรันดร์ครับ”

เดี๋ยวก็รู้ว่าจะตายตรงนี้ได้ไหม ไอ้..!

นายตำรวจหนุ่มก้มหน้าก้มตาจัดการกับข้าวผัดต้มยำทะเลตรงหน้าจนหมดเกลี้ยงไม่ยอมเงยหน้าขึ้นไปสบสายตาแพรวพราวของเด็กหนุ่มที่มองไม่วางตาเลยสักนิด ปฐวีสวมเสื้อกล้ามหลวมโคร่งทำให้เห็นไหปลาร้าและกล้ามอกโผล่ออกมาวับแวมให้ชัยวัตรต้องเผลอเบือนสายตาไปมองอย่างอื่นบ้าง 

“อะ.. อิ่มละ”

“ยังไม่หมดเลย พี่วัตรทานนี่ด้วยสิครับ” เด็กหนุ่มเลื่อนจานผัดเปรี้ยวหวานให้เขาและต้มยำกุ้งน้ำข้นที่เหลืออยู่เต็มถ้วย เขากลืนน้ำลายลงคอ อาหารเต็มโต๊ะเยอะขนาดนี้เขาจะกินหมดได้ยังไง เขาเรียกให้มาช่วยกินไม่ได้ให้มานั่งมองหน้าเขาเสียหน่อย

“ช่วยกินหน่อย” เขามองหน้าปฐวี “เร็วๆ เดี๋ยวมันเย็นแล้วจะไม่อร่อย”

“จูบ”

“หะ?”

“ถ้าผมช่วยกิน พี่ต้องยอมให้จูบ” นายตำรวจหนุ่มชะงักค้างมองเด็กตัวโตที่ทำหน้ายิ้มกริ่มอย่างผู้ชนะ เขาขมวดคิ้วมุ่นรีบหยิบถ้วยเข้ามาใกล้ใช้ช้อนตักเข้าปาก เด็กหนุ่มร้องจิ๊จ๊ะในลำคอที่เขาไม่ให้ความร่วมมือ แต่ก็ยังไม่วายเอื้อมมือมาเช็ดคราบเปื้อนข้างแก้มเขาอีก ชัยวัตรใช้เท้าสะกิดใต้โต๊ะพร้อมขยับปากชัดๆ

เดี๋ยว-แม่-เห็น.. ไอ้-สัส!

“เห็นก็เห็นไปสิ ผมไม่มีอะไรปิด..อื้อ!” เขาพุ่งเข้าไปปิดปากเด็กหนุ่มจนแน่น เห็นแม่ของปฐวีหันมามองเขาก็ต้องยิ้มหวานส่งไปให้ หวังว่าจะมีไม่มีใครได้ยินนะ!

“พูดเหี้ยอะไรของมึง”

“อี้อ่อยอ้ม(พี่ปล่อยผม!)” เด็กหนุ่มส่งสายตาคาดโทษให้เขา เดี๋ยวนี้ชักปีกกล้าขาแข็ง ต้องสั่งสอนให้รู้สำนึกว่าใครเป็นใคร “พี่วัตร ผมเจ็บนะ” พอเห็นมันทำหน้าไม่พอใจเขาก็ปล่อยมือออก ความอุ่นร้อนที่ได้สัมผัสยังรู้สึกได้เต็มฝ่ามือ

“อย่ากวนตีนอีก เข้าใจ๊”

“แค่บอกแม่ว่าผมกับพี่เป็นอะไรกัน มันแย่มากเลยหรอ”

“กูบอกตอนไหนว่าจะคบกับมึง”

“ผมได้พี่กับตั้งหลายรอบแล้ว เมื่อคืนไอ้หวานก็ดะ..อื้อ” ชัยวัตรหน้าตึง หันขวับไปมองเด็กหนุ่มแล้วกระโจนเข้าไปล็อคคออีกรอบ 

“กูไม่แดกแล้ว ขึ้นไปบนห้องกับกูเดี๋ยวนี้!”

“อื้อ!”

“พี่วี!” นายตำรวจหนุ่มที่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากหันไปตามเสียงก็เห็นเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มผูกผมแกละสองข้างกำลังโบกไม้โบกมืออยู่หน้าประตู ชัยวัตรเห็นวันหวานเบะปากเป็นสระอิก่อนจะเดินเข้าไปหลังร้าน “ลันตาไม่เจอพี่วีตั้งนาน คิดถึ้งคิดถึงค่ะ”

“ลันตา เอ้อ สวัสดี” ปฐวีผละออกจากชายหนุ่มยิ้มหวานให้เด็กสาวซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกันมาตั้งแต่เขายังเด็ก “กินอะไรมาหรอยังล่ะ?”

“ยังเลย ข้างนอกร้อนมากๆ”

“งั้นนั่งพักก่อน”

“ขอบคุณนะ วีใจดีตลอดเลย”

ชัยวัตรมองเห็นออร่าสีชมพูเปล่งประกายออกมาจากเด็กสาว มันชัดเจนจนปิดไม่มิดว่าคิดกับปฐวีเกินกว่าเพื่อนไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เขาเลือกที่จะไม่สนใจแม้หางตาจะแอบเหลือบมองอยู่ตลอดเวลา ผู้กำกับหนุ่มนั่งลงที่เดิมคว้าน้ำส้มคั้นมาดูดมองหน้าจอโทรทัศน์จอแบนที่แขวนอยู่บนฝาผนัง 

   ‘ทีมหน่วยลาดตะเวนยุติการค้นหา ร.ต.อ นฤนารถ หลังหายสาบสูญนานสองสัปดาห์’

   ชัยวัตรขบกรามแน่นมองรูปถ่ายรุ่นน้องขึ้นจอด้วยความรู้สึกชอกช้ำ ตั้งแต่ที่นฤนารถหายไปเขาขออาสาไปค้นหาด้วยตนเองด้วยซ้ำ ชายหนุ่มที่เป็นเรี่ยวแรงกำลังของหน่วยจะต้องสังเวยให้กับการปฎิบัติภารกิจอีกคนงั้นหรือ เขาไม่เคยยอมรับได้สักครั้งเมื่อพบเห็นข่าวทำนองนี้ นฤนารถเป็นรุ่นน้องที่เขาสนิทสนมราวกับเป็นน้องชายคนหนึ่ง เขายอมรับไม่ได้.. ยอมรับไม่ได้จริงๆ

   เขาคว้าทิชชู่มาซับหางตาเมื่ออารมณ์อ่อนไหวและความรู้สึกสูญเสียกำลังเล่นงานเขา ชัยวัตรยังมีความหวังว่ารุ่นน้องของเขาจะต้องไม่เป็นอะไร จะต้องกลับมาหา มาช่วยงานเขาเหมือนเดิม

“พี่วัตรเป็นอะไร”

“ไม่ๆ กูไม่ได้เป็นอะไร” เขาส่ายหัว “ไปนั่งกับเพื่อนไป ไม่ต้องมายุ่ง” เขาแค่รู้สึกเสียดายและเสียใจที่ไม่สามารถปกป้องคนสำคัญในชีวิตได้อีกครั้ง

“ไม่เป็นอะไรแล้วจะร้องไห้ได้ยังไง” ปฐวีลนลาน เห็นคนตัวขาวเช็ดน้ำตาแล้วเขาใจคอไม่ดี ทำอะไรไม่ถูก เดิมทีจะต้องไปต้อนรับเพื่อนที่ไม่เจอมานานแต่ก็พะว้าพะวงเป็นห่วงชายหนุ่ม “ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ”

“ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ” เขาย้ำ “นั่งพักเดี๋ยวก็หาย”

“ผมปล่อยพี่ไม่ได้หรอก อยู่นี่แปบนะครับเดี๋ยวผมมา”

“เออๆ” เขาโบกมือไล่ เห็นหลังมันไวๆกระโจนเข้าไปในห้องครัว หายเข้าไปสักพักเสียงโหวกแหวกโวยวายก็ดังขึ้นมา วันหวานแผดเสียงเอาแต่ใจก่อนจะเดินกระแทกส้นเท้ามาที่โต๊ะmลันตากำลังนั่งอยู่

“จะกินอะไร”

“ไปตามวีมา”

“พี่วีให้ฉันมาดูแลเธอ” วันหวานกัดฟันกรอด นึกชังน้ำหน้าผู้หญิงตรงหน้าเต็มทน ถ้าไม่ติดว่าปฐวีมาขอร้องเพราะจะไปดูแลนายตำรวจหนุ่มละก็ อย่าได้หวังว่าเธอจะโผล่หน้ามาเจอ “รีบๆกินแล้วก็ไสหัวไปได้แล้ว”

“ฉันจะฟ้องวี!”

“เอาเลย!”

ชัยวัตรมองเด็กสาวสองคนที่จ้องตากันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เขาพยายามจะเดินเข้าไปคุยทักทายตามประสาหนุ่มฮอตอารมณ์ดีแต่ก็โดนกระชากจากเด็กหนุ่มเสียก่อน มองข้อมือหนาที่คว้าไหล่เขาไล่ขึ้นสบตาปวดร้าวที่กำลังแดงก่ำ

“เป็นอะไรอีก”

“ผมนั่นแหละต้องถามว่าพี่เป็นอะไร” ปฐวีถาม สายตาดูเป็นกังวล “ร้องไห้ทำไมครับ?”

“อะไรของมึงเนี่ย” เขาสะบัดตัวออกจากการเกาะกุม ขมวดคิ้วมองเด็กหนุ่มตรงหน้า “เรื่องของกูน่า”

“ผมถามจริงๆเหอะ” คนตัวโตน้ำเสียงสั่นเครือจนเขาต้องเงียบเสียง “พี่เคยเห็นผมอยู่ในสายตาบ้างไหม”

“…”

“ผมเป็นห่วงพี่นะ พี่เข้าใจความรู้สึกผมบ้างหรือเปล่า”

“เดี๋ยวอะไร กูงงไปหมดละ”

“ผมเคยคิดพอใจกับสถานะตัวเองตอนนี้ ไม่เคยอยากจะเรียกร้องอะไรขอแค่ได้อยู่ข้างๆพี่ก็พอ” ปฐวีก้มหน้าพูดพึมพำ “แต่เอาเข้าจริง ผมแม่งทำไม่เคยได้ ผมอยากเป็นทุกอย่างของพี่ เป็นคนที่พี่ต้องการ”

“…”

“ขอถามตรงๆนะ ผมไม่มีวันจะเป็นคนนั้นได้เลยใช่ไหม”

“วี..”

“ผมขอโทษที่ถามอะไรแบบนี้ พี่คงไม่สบายใจ” ปฐวีเดินนำไปทางบันได เอี้ยวตัวมาตอบแต่ไม่ยอมสบตาเขา “ไปนอนพักหน่อยไหมครับ เดี๋ยวบ่ายๆผมจะไปส่งที่คอนโด” ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่ชอบท่าทีห่างเหินอย่างนี้ของเด็กหนุ่มเอาเสียเลย หัวใจบีบรัดแน่นจนเขาปวดหนึบอยากจะคว้าแผ่นหลังกว้างที่งองุ้มมากอดแน่นๆ

“วี..”

“ครับ”

“ไปนอนเป็นเพื่อนหน่อยสิ”

“ครับ”

เขาเป็นฝ่ายจับจูงเด็กตัวโตเดินขึ้นชั้นบนแทน จากบรรยากาศคึกคักกลับมีเพียงเสียงเท้ากระทบขั้นบันไดเท่านั้น เขาผลักประตูเข้าไปกดเปิดไฟ เดินเข้าไปเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าแล้วนั่งลงบนเตียง ปฐวีมองหน้าเขาสายตาเจ็บปวดจนเขาเริ่มจะทนไม่ไหว

“เป็นอะไรอีก” เขาดึงมือเด็กหนุ่มให้ลงนั่งข้างๆ แต่เด็กดื้อก็ไม่ยอมนั่งลงดีๆ “ทำหน้าทำตาดูไม่ได้เลยนะ”

“…”

“วี.. งอนอะไรพี่” เขาพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย มองสบตาเข้าไปยังอีกฝ่าย ถึงแม้เขาจะไม่เคยบอกไม่เคยเอ่ยอะไรออกไปให้มันชัดเจนมัวแต่ลีลาและคิดถึงแต่ความรู้สึกของตัวเอง แต่ถ้าหากสังเกตตัวเองดีๆ เป็นเขาเองนั่นแหละที่ไม่ยอมให้ปฐวีอยู่ไกลจากสายตาเลยสักครั้ง

“ผมไม่ได้งอนเสียหน่อย”

“เห็นหน้าก็รู้แล้ว คิดว่าพี่ตาบอดหรือยังไง”

“พี่ใส่ใจผมด้วยหรือ?”

“นั่นไง งอนใหญ่แล้ว” เขาตบเตียงปุๆ “มานี่เร็ว เขยิบมานั่งข้างๆพี่มา”

“ไม่”

“จะมาไม่มา”

“ก็ได้” ปฐตอบเสียงอ่อนยอมนั่งข้างเขาแต่โดยดี เขาคว้ามือเด็กหนุ่มมากุมไว้แน่น หายใจเข้าออกเชื่องช้า ตั้งสติตัวเองไม่ให้หัวใจที่เต้นแรงมันดังจนอีกฝ่ายได้ยิน

“พี่แค่น้ำตาซึมที่เห็นข่าวรุ่นน้อง ไม่ได้ร้องไห้ให้ใครทั้งนั้นแหละ” เขาตอบ “คิดไปถึงไหนวะ?”

“ผมก็แค่คิดว่า.. พี่ไม่อยากบอกเพราะเห็นผมเป็นคนนอก มันก็น่าน้อยใจทั้งๆที่ผมห่วงพี่มากขนาดนี้” ปฐวีก้มหน้างุด บีบมือเขาตอบ

“ไอ้บ้าเอ๊ย มันไม่ใช่เรื่องสำคัญที่จะต้องบอก”

“แต่ผมอยากรับรู้ทุกเรื่องของพี่นะ”

“อยากรู้ขนาดนั้นเลย?” เขายิ้มขำ “รู้ไปแล้วจะได้อะไรวะ”

“ผมอยากแบ่งเบาความรู้สึกพี่บ้าง อยากเป็นคนที่พี่เล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังทุกวันหรือแบ่งปันเรื่องเหี้ยๆให้ฟังในวันที่มันโคตรแย่”

“เรื่องแย่ๆของพี่ อยากจะฟังไปทำไม”

“ผมก็จะได้ปลอบพี่ บอกพี่ว่าผมจะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน” เด็กหนุ่มเงยหน้าสบตาเขา สายตาแน่วแน่ “จะขออยู่ข้างๆพี่จนกว่าพี่จะไม่ต้องการ”

ชัยวัตรรับรู้ได้เลยว่าหัวใจตอนนี้ของเขามันแทบระเบิด เขารู้แล้วว่าทำไมเขาถึงมีอาการประหลาดที่แม้แต่ตัวเองก็ยังตอบไม่ได้ หัวใจมันสั่นมันอ่อนไหว มันอยากเห็นอีกคนอยู่ในสายตา มันอยากอยู่ชิดใกล้ไม่อยากไปไหนไกล อยากมีชีวิตที่มีอีกคนอยู่ข้างๆไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เขาเพิ่งรู้ว่าคำตอบที่เขาหามานาน แท้จริงแล้วมันอยู่ตรงหน้าเขานี่เอง..

“เป็นแฟนตำรวจต้องอดทนนะ” ชัยวัตรฟุบลงลาดไหล่กว้างของอีกฝ่าย ไม่อยากให้เห็นใบหน้าร้อนผ่าวยันใบหู “จะไหวหรือ”

“ไม่รู้สิครับ” เด็กหนุ่มจรดริมฝีปากเข้าใกล้ คลอเคลียแก้มขาวที่แดงจัด “สงสัยผมต้องลองเป็นดูแล้วล่ะ”

“ก็เอาสิ ตำแหน่งคุณนายยังว่าง”

 ปฐวีชะงักกึกมองคนตัวขาวที่แก้มขึ้นสีระเรื่อด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ หัวใจเต้นรัวเร็วราวกับมันจะเด้งออกมาจากอก อยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆเพื่อพิศูจน์ว่าตัวเองฝันไปหรือเปล่า เมื่อเห็นผู้กำกับหนุ่มยังนั่งมองเขาตาแป๋วเด็กหนุ่มจึงเชิดคางมนขึ้นแล้วบดจูบลงอย่างรวดเร็ว แขนหนาตวัดเอวให้เข้ามาใกล้ชิดและใช้ริมฝึปากดูดกลืนลมหายใจแตะลากไล้ชิมรสทั่วทุกอณูประกาศความเป็นเจ้าของอย่างย่ามใจ ในเมื่อเขาได้โอกาวที่ได้อยู่ข้างๆผู้ชายคนนี้ทุกตำแหน่งของร่างกายนี้เขาจะเป็นคนตีตราจองแต่เพียงผู้เดียว

TBC

คู่นี้คบกันแล้วนะคะ หลังจากพี่วัตรเล่นตัวมานาน
คู่นี้เจอกันอีกทีในตอนพิเศษในเล่มนะจ้ะ อิอิ
มีเกมแจก Boxset ในเพจนะคะ ไปร่วมสนุกกันได้ค่ะ
page : Banoffypie


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-03-2018 22:22:17 โดย Banoffypie.novel »

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ว้ายยย คู่นี้ละก็หวานกันจริงๆเล้ย  :katai2-1:

ส่วนข่าวหม่อมนั้น.....  :o12:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อู้หูวววว กว่าจะได้คบกัน

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ตอนที่ ๓๐

   เสียงหัวเราะของไทเกอร์ดังขึ้นไม่ไกลจากที่เขาอยู่นั่งมากนัก ชายหนุ่มนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ไม้รับลมที่ลอยผะแผ่วในช่วงเย็นย่ำ เสียงเห่าของเจ้ากะทิดังสลับกับเสียงของลูกชาย เขาเอียงหูรับฟังซึมซับความรู้สึกอบอุ่นที่มีคนรักอยู่รายล้อม ครอบครัวคือยาชั้นดีในการเยียวยาความเจ็บปวดของเขาจริงๆ หากไม่ได้มุจลินท์เขาคงจะกลายเป็นบ้าไปแล้ว จากคนที่มีร่างกายสมบูรณ์กลับต้องมาสูญเสียการมองเห็น คนที่เป็นเสาหลักของครอบครัวที่ต้องทำงานหาเลี้ยงลูก คนที่เป็นผู้นำมาตลอดกลับต้องมีคนอื่นมาคอยดูแล มันเป็นเรื่องที่เขาทำใจให้ยอมรับได้ยาก

   ชลธีกลับมาอยู่บ้านได้สองอาทิตย์แล้ว แม้จะโดนคุณพ่อและคุณแม่บ่นจนหูชาเรื่องที่เขาปิดบังไม่ยอมบอกใครจนทำให้เรื่องราวใหญ่โต ท้ายที่สุดเขาก็คิดได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวเสียหน่อย ยังมีคนรักและครอบครัวที่จะเป็นกำลังใจให้เขาอีกตั้งหลายคน

   “พี่ฉลาม.. หลับอยู่หรือเปล่าครับ”

“เปล่าครับ พี่ฟังลูกชายเล่นอยู่” เขาหันไปตามเสียงเรียกของเด็กหนุ่ม

“เข้าบ้านกันนะ วันนี้หนูทำขนมบัวลอยด้วย” เด็กหนุ่มประคองคนรักให้ลุกขึ้น ชลธีเบี่ยงตัวไม่ให้จับจนเขาต้องหยุดแล้วมองคนรักที่พยายามจะช่วยเหลือตัวเอง

“ไหนพาพี่ไปชิมบัวลอยหน่อยนะครับ”

“ฮื่อ” เขาเดินเข้าไปสอดประสานนิ้ว ส่งผ่านความอบอุ่นจากฝ่ามือ “พี่ต้องทานเยอะๆด้วยนะ”

“ได้สิครับ”

“พี่กังวลเรื่องผ่าตัดหรือครับ” เขาตัดสินใจถาม ช่วงที่ผ่านมาเขามักจะเห็นคนรักมีท่าทีเงียบขรึมและไม่ค่อยพูดจา อาจจะเป็นเพราะกำหนดการผ่าตัดที่ใกล้เข้ามาทำให้ชายหนุ่มเป็นกังวล

“นิดหน่อย”

“พี่ไม่ต้องกลัว.. หนูอยู่ข้างๆพี่นะ” เขากระชับมือให้แน่นขึ้น “จะไม่ยอมไปไหนด้วย”

“พี่รู้แล้วครับ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ”

เด็กหนุ่มซุกเข้าที่แผงอก มือขาวสอดเข้าที่เอวสอบ กลิ่นกายที่เขาคุ้นชินทำให้เขารู้สึกสงบมากขึ้น อีกไม่กี่วันคนรักจะต้องเข้ารับการผ่าตัดแล้ว ทุกคนที่บ้านคอยเป็นกำลังใจให้นายทหารหนุ่ม เขารู้ว่าชลธีกังวลเรื่องที่หากผ่าตัดแล้วอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ ทำให้เขาต้องคอยพูดคุยและอยู่ใกล้ๆเสมอ ยิ่งชลธีเครียดเขาก็ต้องช่วยให้คนรักผ่อนคลายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

   “ป๊าคับ” เด็กชายวิ่งเข้ามากอดคุณพ่อจนเขาต้องจับชลธีเอาไว้ไม่ให้ล้มลง กะทิวิ่งวนรอบตัวส่งเสียงเห่าใช้หัวถูไถกับช่วงขาจนเขาต้องเอี้ยวตัวหลบด้วยความจั๊กจี๋ ลูกชายเห็นก็หัวเราะตัวงอเป็นกุ้ง “ฮ่าๆ กาทิ้อย่าทำคุณแม่น้า”

   “เกอร์เล่นจนเลอะไปหมดแล้วนะลูก เข้าบ้านไปอาบน้ำนะครับ”

   “เกอร์อยากอาบน้ำกับป๊าอะแม่ลินท์” ว่าแล้วไทเกอร์ก็หันไปออดอ้อนคุณพ่อ เดี๋ยวนี้ลูกชายขี้อ้อนเก่งมากเป็นขวัญใจของทุกคนในบ้านจริงๆ “นะคับป๊า”

   “ได้สิลูก เดี๋ยวเราอาบน้ำกันด้วยกันนะ” ชลธีตอบพลางสัมผัสไปตามตัวของเด็กชายลูบกระหม่อมเล็กไปมาด้วยความเอื้อเอ็นดู

   “เย่ วันนี้อาบน้ำกับคุนป๊าแหละ”

   “โฮ่ง!”

   มุจลินท์แทบจะเวียนหัวเมื่อต้องรับมือกับลูกชายที่นับวันเริ่มจะพูดเก่งมากขึ้นเขาต้อนสองคนพ่อลูกเข้าไปในบ้านอย่างทุลักทุเลเพราะไทเกอร์อ้อนจะให้เขาอุ้ม เดือนร้อนคุณพ่อต้องอุ้มลูกชายขึ้นแนบอกส่วนเขามีหน้าที่จับจูงทั้งคู่ไปตามเส้นทางที่ไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ ภายในบ้านอบอวลไปด้วยกลิ่นกะทิที่เขาใช้ทำขนมหวาน คุณแม่กับคุณยายกำลังง่วนอยู่ในครัวเพราะต้องเตรียมอาหารตอนเย็น วันนี้คเชนทร์และสมุทรจะกลับมาทานข้าวที่บ้านทำให้ตอนนี้ทุกอย่างดูคึกคักและเต็มไปด้วยรอยยิ้มของทุกคน

   คุณปู่เดินเข้ามาเปิดโทรทัศน์แล้วนั่งจิบกาแฟ ส่วนเด็กชายคนเล็กสุดของบ้านถอดเสื้อยืดสีเหลืองลายหมีพูห์ออกทันทีที่คุณพ่อเหยียบเข้าประตูบ้านดิ้นร้องขอคุณพ่อให้วางลงเพราะเห็นในโทรทัศน์มีคุณฮีโร่กำลังจะมา เขาหันไปอุ้มลูกชายออกจากอกชลธี

   “เดี๋ยวเราจะไปทำอะไรกันครับ”

   “อาบน้ำคับ.. แต่ว่า” ไทเกอร์มองตาละห้อยไปทางทีวี “คุณเรนเจอร์มาแล้ว..”

   “หนูจะถอดเสื้อแล้วจะไปดูการ์ตูนทั้งอย่างนี้หรือครับลูก”

   “งะ คุณแม่…” เด็กอ้วนทำแก้มพอง หน้าตาอาลัยอาวรณ์การ์ตูนเหลือเกิน “เกอร์อาบน้ำก่อนก็ได้คับ”

   “เสื้อผ้าถอดเสร็จแล้วต้องเก็บไว้ไหนครับลูก”

   “ใส่ตระกร้าผ้าคับ” เด็กชายทำปากยู่ มองผลงานตัวเองที่หล่นแหมะอยู่หน้าประตูบ้าน “เกอร์ขอโทดคับ” กระพุ่มมือไหว้แล้วโผเข้ากอดคุณพ่อซุกหน้าแล้วแช่นิ่งไม่กล้าสบตากับคุณแม่

   “เด็กดีของป๊า” ชลธียิ้มขำให้กับความแสบของเด็กชาย “เด็กดีต้องทำอย่างไรครับลูก”

   “เกอร์เป็นเด็กดีคับ” เจ้าตัวรีบวิ่งไปเก็บเสื้อที่ถอดทิ้งไว้ใส่ตะกร้าผ้า แล้ววิ่งมารายงานตัว “เรียบร้อยแล้วคับ”

   “ลูกชายของป๊าน่ารักที่สุด”

“เกอร์รักป๊า เกอร์รักคุณแม่” เสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้นจนคุณปู่ที่นั่งฟังยังหัวเราะขำ

“แล้วย่าล่ะรักไหม” คุณย่าถือถ้วนขนมหวานออกมาจากครัว ตั้งลงโต๊ะญี่ปุ่นหน้าโซฟา กลิ่นหอมหวานกระจายฟุ้งจนเจ้าตัวเล็กหันไปมองตาโต “เจ้าตัวแสบอ้อนคุณพ่อตลอดเลย น่ารักจริงๆหลานคนนี้”

“เกอร์ก็รักคุณย่า กับคุณยายคับ” ได้รับคำชมก็ยิ่งตัวลอย รีบยิ้มแฉ่งบอกรักทุกคนในบ้าน

“ปากหวานจริงๆ” คุณยายชมเปาะ เห่อหลานชายคนเล็กกันทั้งบ้าน “ไปๆ รีบอาบน้ำเดี๋ยวมาทานข้าวกันนะลูกนะ”

“เย่ๆ” เขาจับจูงลูกชายไว้ส่วนอีกมือก็จับแขนคนรักเอาไว้ พากันขึ้นบันไดไปอาบน้ำชั้นบน ส่วนเสื้อผ้าเขาจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

“ไปรอคุณแม่ที่ห้องน้ำนะครับ” มุจลินท์กำชับกับลูกชาย ไทเกอร์พยักหน้าหงึกหงัก “อย่าลืมหยิบผ้าขนหนูนะ”

“คร้าบบบบบบบบบ” เห็นลูกชายวิ่งเผ่นแผล็วไปแล้วเขาก็หันมาจัดการกับคนรักต่อ

“อาบน้ำพร้อมลูกเลยใช่ไหม.. ให้หนูไปช่วยไหม”

“ไม่ต้องหรอก แค่ลินท์ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้พี่ก็พอ” มือหนาคว้าเข้าที่เอวบางแล้วรวบเข้ามาใกล้ “นะครับ” กระซิบข้างหู ลมร้อนพัดแผ่วจนเขารู้สึกวูบวาบ ต้องผละออกมาใช้มือขาวค่อยๆปลดกระดุมเสื้อออกเผยให้เห็นรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีแทนแลดูซีดลงกว่าเดิมเพราะคนตรงหน้าป่วยมาเกือบเดือนแล้ว เขาถอดเสื้อออกเสร็จก็คว้าผ้าขนหนูคล้องบ่าคนรัก

“เสร็จแล้วเรียกหนูแล้วกันนะ จะเข้าไปช่วย”

“ครับ ขอบคุณนะ”

“ไม่ต้องขอบคุณหนูหรอก ได้ดูแลพี่ทุกวันมันคือความสุขของหนู” เขาก้มหน้าเอียงอาย “เราเป็นคนรักกันไม่ใช่หรือ”

“พี่ชอบที่หนูเรียกพี่แบบนี้จัง เหมือนเราเป็นมากกว่าแฟน จริงๆเราก็เป็นมากกว่าแฟนอยู่แล้วนี่ครับ.. คุณภรรยา” ชลธีแตะริมฝีปากไปทั่วใบหน้าเด็กหนุ่ม กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆทำให้รู้ได้ทันทีว่าคนที่อยู่ข้างๆเขาคือใคร

“ฮื่อ ไม่ใช่เวลามาเล่นนะครับ เร็วเข้าจะได้ทานข้าวนะ” เด็กหนุ่มรีบรุนหลังให้คนรักเข้าห้องน้ำที่มีลูกชายกำลังรออยู่ ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ

“คร้าบ”

เสียงน้ำเปิดออกจากฝักบัวดังซู่ซ่า ชลธีกะระยะทางเดินเข้าไปทางอ่างอาบน้ำค่อยๆก้าวลงไปนั่ง ลูกชายยืดตัวขึ้นมาช่วยจับคุณพ่อ

“ป๊า.. ตรงนี้คับ” ไทเกอร์ดึงให้คุณพ่อนั่งแช่น้ำด้วย ปกติเด็กชายจะชอบอาบน้ำกับคุณพ่อเป็นประจำ หลังๆมานี้เจ้าตัวแสบรู้ว่าคุณพ่อไม่ค่อยสบายเลยไม่ค่อยไปกวนมากนัก “ป๊าเจ็บไหมคับ”

“หื้ม เจ็บอะไรหรือลูก”

“ตรงนี้” มือสั้นป้อมลูบที่แก้มสากแตะแผ่วขึ้นไปที่ขมับ แผลที่ยังพันอยู่บริเวณดวงตาทำให้เด็กชายรู้สึกสงสัยว่ามันคืออะไร

“ไม่เจ็บเลยครับ ป๊าเป็นซุปเปอร์แมน”

“จริงหรอคับ” เด็กชายนั่งบนตักคุณพ่อ “เกอร์จะดูแลป๊า ดูแลคุณแม่เองนะคับ”

“โตเป็นหนุ่มแล้วหรือเรา เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่นะ หื้ม?” ชลธีก้มลงจุมพิตลูกชาย เขาอยากเห็นลูกชายเติบโตขึ้น มันจะดีแค่ไหนถ้าหากเขากลับไปมองเห็นได้อีกครั้ง

“เกอร์ไม่อยากให้แม่ร้องไห้ ไม่อยากให้ป๊าเศร้า” เด็กชายพูดเสียงแจ๋ว นั่นทำให้เขาชะงัก เขาแสดงออกมากไปจนแม้แต่ลูกชายก็ยังสังเกตได้งั้นหรือ

“โถ่ลูก” กอดลูกชายแน่นจนเจ้าตัวจมเข้าไปในอ้อมกอด

“เกอร์รักป๊านะคับ”

“ป๊าก็รักเกอร์นะลูก” เขาก้มลงหอมแก้มเด็กอ้วนที่ปีนี้อายุสี่ขวบต้องไปเรียนชั้นอนุบาลแล้ว  “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หนูห้ามทิ้งคุณแม่นะ”

“เกอร์ไม่ทิ้ง เกอร์ไม่ทิ้ง ไม่เอา” เด็กชายซุกเข้าหาคุณพ่อแล้วกอดไว้แน่น “ป๊าห้ามทิ้งเกอร์นะ อย่าทิ้งเกอร์นะ” น้ำตาเด็กชายปริ่มจะไหลหากไม่มีคุณพ่อและคุณแม่

“ใครจะทิ้งเด็กอ้วนได้ลง มาเร็วรีบอาบน้ำจะได้ไปทานข้าวนะครับ”

“ค้าบบบ นี่ฉะบู่” ไทเกอร์บีบออกจากขวดแล้วชะโลมทาตัวถูจนเกิดฟองทั่ว เด็กชายหันไปถูให้คุณพ่อ แล้วเอื้อมไปหยิบอีกขวดที่อยู่ข้างกัน “นี่แชมพูคับ”

“ระวังเข้าตานะครับ” ชลธีช่วยลูกชายสระผมเพราะกลัวฟองจะเข้าตา แต่ดูเหมือนเด็กชายจะชอบ เพราะหัวเราะคิกคักเล่นน้ำไม่หยุด

“เกอร์ถูหลังให้ป๊านะคับ”

“ใครสอนเราเนี่ย”

“คุณแม่คับ คุณแม่บอกว่าอาบน้ำต้องอาบให้สะอาดต้องถูให้ทั่วคับ”

“หึหึ” ชายหนุ่มจุดยิ้ม “เก่งจังเลย”

สัมผัสได้ถึงมือเล็กป้อมที่กำลังถูไถอยู่บริเวณหลัง เขานึกขำเอ็นดูลูกชายจอมแสบจนอยากคว้ามาฟัดให้จมเขี้ยว เสียงหัวเราะดังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงียบหายไป

“เกอร์ครับ ไปไหนแล้วลูก”

“หนูพาลูกออกไปแต่งตัวแล้วจ้ะ” ใยฟองน้ำขัดเข้าที่บ่าเรื่อยลงมาท่อนแขน เสียงคนขัดดังอยู่ไม่ไกลจากหู ตามด้วยกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ “แช่น้ำนานเดี๋ยวไม่สบายพอดี”

“ช่วยพี่อาบน้ำก่อนสิ” เมื่อรู้ว่าเป็นคนรักเขาจึงหันไปกระเซ้าแหย่ มือหนาดึงคนรักให้ลงมาอาบด้วยกัน
“พี่อาบได้อยู่แล้ว ยังจะมาแกล้งหนูอีก” เด็กหนุ่มขืนตัวเอาไว้แต่ก็สู้แรงไม่ได้ เสื้อผ้าเขาเปียกไปครึ่งตัวแล้วเพราะมัวแต่เล่นกับชลธี

“นะครับ นะ”

“หนูช่วยถูตัวแล้ว” เด็กหนุ่มร้องห้ามแต่ก็ไม่ทันมือหนาของอีกฝ่ายที่ลูบไล้ไปทั่วตัวจนเขาเริ่มรู้สึกแปลกๆ “อ๊ะ อือ.. พี่” ชลธีเชยคางคนรักให้รับจูบดูดดึงจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบ เขาตัวอ่อนยวบแทบจะล้มทั้งยืน

“หวานที่สุดเลย”

“พอแล้ว.. เดี๋ยวคุณแม่กับคุณยายรอนานนะครับ” ดันแผงอกหนาให้ออกห่าง ไม่รู้ทำไมชลธีถึงได้รู้ว่าเขาอยู่ตรงไหนอยู่เรื่อย จะสัมผัสไวเกินไปแล้วนะ!

“อีกหน่อยน่า” ชายหนุ่มกอดคนรักแน่น ดอมดมกลิ่นหอมหวาน “ยังรู้สึกไม่พอเลย”

“ฮื่อ อย่าจับนะครับ!” เขาสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกลูบไล้ไปตามจุดอ่อนไหวที่เริ่มชูชัน “ปล่อยหนูก่อน..”

“ร้อนขนาดนี้เลยหรือ?” ชลธีหยอกเอินมุจลินท์น้อยที่เริ่มบวมคับกางเกง เด็กหนุ่มหน้าร้อนผ่าว เขินคนรักที่รู้ทันเขาไปเสียทุกอย่าง

“เพราะพี่นั่นแหละ อืออออออ.. อ๊ะ” มือหนารูดตามความยาวอีกสองสามครั้งแก่นกายพอดีตัวของเด็กหนุ่มก็พร้อมสู้เต็มที่ มุจลินท์ขบริมฝีปากกลั้นเสียงไม่ให้เล็ดลอด เขาไม่อยากให้คนรักได้ใจจนแกล้งเขาบ่อยๆ สองมือขาวโอบรัดรอบคอคนป่วยซุกใบหน้าเข้าลาดไหล่ สะอื้นเสียงเบาก่อนจะกระตุกไปทั้งตัวเมื่อความเสียวแล่นวาบไปหมด

“ไวจัง” ชายหนุ่มกระซิบเสียงพร่าเมื่อรู้สึกถึงน้ำอุ่นที่เลอะเต็มฝ่ามือเขา “เดี๋ยวความรู้สึกไวเป็นพิเศษนะ”

“ฮือ” เขาอยากจะร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือด ไม่เคยต้านทานสัมผัสเร่าร้อนจากคนรักได้เลย หรือว่าที่จริงแล้วเขานั่นแหละที่หื่น! “ฮืออออ”

“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับ” ชายหนุ่มกอดปลอบลูบหัวคนรักไปมา “พี่ไม่แกล้งแล้ว.. คนดี”

“คนบ้า!”

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ลินท์.. ลินท์เสร็จหรือยัง แม่ให้พี่มาตามแล้วนะ” คเชนทร์เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนใหญ่ของพี่ชายก็ไม่เจอใครก็นึกขึ้นได้ว่าคงจะอยู่ในห้องน้ำ เงี่ยหูฟังพร้อมเคาะประตูอีกรอบ

พี่ช้าง!

“อะอื้อ” เด็กหนุ่มละล่ำละลักตอบ มือก็คอยดันคนรักให้ออกห่าง “คอยแปบนะพี่ช้าง ลินท์ช่วยพี่ฉลามแต่งตัวอยู่จ้ะ”

“อะ..โอเค” ฝั่งคเชนทร์ได้ยินเสียงแปลกๆก็รีบหันตัวกลับออกไปแทบไม่ทัน ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันถึงพี่ชายคนรองของเขา ร้ายไม่เบาจริงๆ!

“แต่งตัวซะที่ไหน” ชลธีกอดหมับไม่ยอมปล่อย ซุกไซ้ซอกคอขาว

“อื้อ พี่ฉลามอย่าซน” เดิมทีเขาก็สู้แรงคนรักไม่เคยได้อยู่แล้ว รอบนี้ต้องปัดป่ายไม่ให้มือปลาหมึกซุกซนไปมากกว่านี้ ไม่งั้นเขาไม่ได้ลงไปทานข้าวแน่ๆ “ไม่มีวันไหนที่ไม่ทะลึ่งเลยนะครับ”

“ช่วยไม่ได้ เมียพี่น่ารักพี่ก็ต้องอยากรักเป็นธรรมดา”

“ร้ายกาจ!” ยั้งมือไว้ทันไม่ให้ไปทุบคนรักที่หัวเราะร่วน เขาใช้ผ้าขนหนูเช็ดไปตามร่างกายที่เปียกชื้น เตรียมเสื้อผ้าให้ชลธีสวมใส่ เป็นเสื้อยืดกางเกงผ้าที่เจ้าตัวชอบใส่ประจำ

“ลินท์เบื่อพี่ไหม” ชลธีรับรู้ได้ถึงเอาความใจใส่ของเด็กหนุ่มที่คอยดูแลเขาอยู่ทุกวันไม่เคยปริปากบ่นเลยสักครั้ง นึกแล้วก็ซึ้งใจกับความรักของอีกฝ่าย เขาเลือกคนไม่ผิดจริงๆ

“ไม่เบื่อ”

“พี่ทำให้ลินท์เสียเวลาหรือเปล่า”

“ไม่นี่ครับ” เขาจับจูงคนรักออกมาจากห้องน้ำหลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว “พี่นั่นแหละ ต้องอยู่กับหนูไปตลอดชีวิตพี่จะเบื่อหนูไหม หนูไม่ยอมให้พี่ไปมีคนอื่นได้อีกแล้วนะ” เขาขู่ฝ่อ ถ้าชายหนุ่มเห็นหน้าเขาตอนนี้คงนึกหมั่นเขี้ยวจับกินอีกรอบแน่ๆ แต่เรื่องอะไรเขาจะให้เห็นกันเล่า! เขาจะไม่ยอมปล่อยผู้ชายตรงหน้าไปให้ใครเด็ดขาด ประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาสอนให้เขาต้องรู้จักเห็นแก่ตัวมากกว่านี้ ถ้าไม่อยากจะเสียคนรักไป

ชลธีจับกระแสน้ำเสียงได้ก็เข้าใจอารมณ์ขุ่นมัวของเด็กหนุ่ม ในที่สุดเจ้าลูกเป็ดก็เริ่มจะโตขึ้นมาบ้างแล้วสินะ เขากอดคนรักแนบแน่น พร่ำบอกความในใจ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความหวาน หัวใจฟูพองไปด้วยความรักเต็มอก

“ไม่มีวันที่พี่จะเบื่อหนูแน่นอน..”


“ผมรอพี่จนไส้กิ่วแล้วนะ.. อาบน้ำขัดขี้ไคลออกมาเป็นกระบุงแล้วมั้ง” คเชนทร์หันไปกระทุ้งพี่ชายเพื่อให้อีกคนเงียบปากก่อนจะโดนด่าจนซวยไปด้วยกันทั้งคู่ เด็กหนุ่มเดินลงมาจากด้านบนได้ยินเสียงแซวก็ก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาใครทั้งนั้น รีบสาวเท้าประคองคนรักไปนั่งที่โต๊ะอาหาร

“พี่ปลาก็พูดไป พี่ฉลามไม่สบายก็เห็นอยู่” คเชนทร์รีบแก้ตัว มองเห็นใบหูแดงก่ำของเด็กหนุ่มก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ขืนปากเปาะมากกว่านี้ได้โดนพี่ชายคนรองเล่นแน่

“ไม่สบายแต่เตะปี๊บดัง กูก็ถือว่ายังสบายดี” สมุทรหัวเราะเสียงดัง ยิ่งทำให้เด็กหนุ่มยิ่งก้มหน้างุดเข้าไปอีก มุจลินท์เผลอบีบแขนคนรักด้วยความเขินอาย

“อย่าให้ถึงตากูมั่งนะ มึงมีเมียเมื่อไหร่ กูจะเล่นให้หนัก” ชลธีตอบ ค่อยๆหย่อนตัวนั่งเก้าอี้ เด็กหนุ่มรีบกุลีกุจอหยิบจานข้าวตักให้ผู้ใหญ่ก่อน วันนี้มีแกงส้มชะอมไข่ของโปรดคนรัก และผัดผักรวมมิตร ยังไม่รวมกับข้าวอื่นๆเรียงรายสวยงามบนโต๊ะอาหาร กลิ่นหอมจนคนนั่งรอน้ำลายสอคุณแม่ตั้งใจทำทุกอย่างสมกับเป็นแม่ครัวเก่าจริงๆ

“ยากว่ะพี่ชาตินี้.. คนที่จะทนผมได้เนี่ย..”

“ไม่มี ผมตอบแทนให้เลย เอ้า!”

“อ่าวไอ้ช้าง.. เดี๋ยวกูก็โทรฟ้องมะนาวหรอก กูรู้นะว่าคืนก่อนมึงไปปาร์ตี้เลี้ยงส่งน้องหมอคนสวยไม่ยอมบอกใคร” ทั้งโต๊ะหัวเราะครืน ส่วนคเชนทร์หน้าเลิ่กลั่ก สมุทรตักทอดมันปลากรายเข้าปากเคี้ยวหนุบหนับอย่างคนถือแต้มเหนือกว่า

“ไอ้พี่ปลาแม่งรู้ได้ไงวะ”

“กูเป็นนักสืบ สนิทกับโคนันนะ มึงรู้ไว้ซะ”

“คุยกับมันวันนี้ก็ไม่จบหรอกช้าง” ชลธีตอบ “ปล่อยมันไปเหอะ” ชายหนุ่มหันไปรับข้าวที่คนรักป้อน เจ้าลูกเป็ดคอยเช็ดริมฝีปากไม่ให้หกเลอะเทอะ คอยถามว่าอยากทานอะไร นายทหารหนุ่มไม่มีอิดออด เด็กหนุ่มป้อนอะไรเขาก็อ้าปากรับทั้งนั้น

“ทำไมพี่ทำกับผมแบบนี้ล่ะ ไม่มีใครเข้าข้างผมเลยอะแม่” สมุทรหันไปหามารดาที่นั่งอยู่อีกฝั่ง กำลังพูดคุยกับคุณยายและคุณพ่อไม่ได้สนใจเขาสักนิด

“ไปขอพี่หมีมาอยู่ข้างสิ” แม่หันไปตอบลูกชายตัวขาวแล้วกลับไปป้อนข้าวไทเกอร์ต่อ สมุทรทำปากยู่งอนมารดาหมดมาดทนายหนุ่มคนเก่งเลยทีเดียว

“รายนั้นก็ไปอยู่ญี่ปุ่นกับเมียเพลินเลยไม่ยอมกลับมาสักที ผมอยากอุ้มหลานแล้วนะ” คนเชนทร์บ่นถึงพี่ชายคนโตที่ไปเป็นวิศวกรที่ประเทศญี่ปุ่น “รอบนี้จะได้ของฝากเป็นอะไรนะ”

“มึงก็ได้หรอวะ” นายทหารหนุ่มถามน้องชาย “ได้อะไร?”

“ของแบบนี้พูดกันตรงโต๊ะอาหารได้หรือ พ่อกับแม่นั่งอยู่ผมอายนะ” สมุทรยิ้มเจ้าเล่ห์ทำเป็นเขินอาย แต่มือยังคงจ้วงอาหารบนจานไม่หยุด ทุกครั้งที่กลับมาที่บ้านเขาต้องเจริญอาหารทุกทีสิน่า

“เอ้า ผมก็ได้” คเชนทร์เงยหน้าขึ้นมาตอบ ไพล่ไปนึกถึงของเล่นที่พี่ชายส่งมาให้ รอบนั้นทำเอามนต์มนัสไม่คุยกับเขาเป็นอาทิตย์

ของฝากจากพี่หมี…

มุจลินท์นั่งนึกครุ่นคิดไปถึงของฝากที่คนรักเคยบอก นั่นคงไม่ใช่กล่องลายหมีน่ารักที่เขาเจอใต้เตียงหรอกใช่ไหม.. หันไปมองคนป่วยอีกรอบแล้วอยากจะทุบนัก ไม่คิดเลยว่าของขวัญของพี่หมีจริงๆแล้วมันคือถุงยางลายริลัคคุมะ!

“ทานข้าวเถอะ” สมุทรจ้วงหมูทอดเข้าปากไม่สนใจใครทั้งนั้น “ชักช้าอด!”

“พี่ปลาแม่ง” คุณหมอที่นั่งอยู่ข้างๆส่ายหัวให้พี่ชาย “ไวตลอด”

“ทานเยอะๆนะลูกนะ” คุณยายดันจานอาหารให้เข้ามาใกล้ เด็กหนุ่มกระพุ่มมือไหว้แล้วตักแบ่งใส่จานให้คนรักทาน ช่วงนี้เขาดูแลชลธีใกล้ชิดทำให้นายทหารหนุ่มทานอาหารมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

“พี่ฉลาม อ้ามครับ” เขาเรียกคนรัก “ค่อยๆเคี้ยวนะไม่ต้องรีบ”

“นี่ก็หวานกันตลอด” สมุทรมองแล้วก็อิจฉาตาร้อน หันไปมองน้องชายตัวเองก็แชทกับแฟนอมยิ้มจนน่าหมั่นไส้ ส่วนเขาน่ะหรือ.. “ทำไมผมไม่มีเมียอะแม่”

“ไปหาสิยะ!” คุณแม่เหมือนจะรำคาญ รีบหันไปแยกเขี้ยวใส่ “หน้าตาก็ดีได้ฉันไปหมดเปลือก แกต้องได้เมียสิ!”

“พี่กับน้องเขาก็มีแฟนกันหมด ทำไมปลาหาไม่ได้หรือลูก” คุณพ่อถามลูกชาย ทั้งโต๊ะหัวเราะครืนแม้กระทั่งเจ้าลูกเป็ดก็อดไม่ได้จะหลุดขำ 


“ทำไม จะเอาผัวหรือพี่” คเชนทร์ได้ทีแซวพี่ชายแล้วก็ยิ้มขำ จะว่าไปแล้วพี่ชายเขาคนนี้ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าตัวบ่นหรอก ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมก็มีผู้หญิงวิ่งตามกันเป็นทิวแถว ด้วยใบหน้าหวานทั้งจมูกโด่งได้รูปและดวงตากลมดำขลับถอดแบบมาจากคุณแม่ทุกอย่าง ทำให้บุคลิกของสมุทรราวกับคุณชายผู้สูงส่งมากกว่า

“พ่อง” สมุทรหันไปบริภาษน้องชายตัวแสบ ปากก็ขมุบขมิบบ่นในใจไปด้วย

“ฮ่า”

หัวเราะกันเข้าไป อย่าให้เขาได้มีนะโว้ย จะเอามาเดินอวดโชว์ที่บ้านสักสามเดือน!


(ต่อด้านล่าง)



ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
(ต่อจากด้านบน)

หลังจากทุกคนในบ้านรับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว มุจลินท์ก็พาคนรักไปนั่งพักที่โซฟาสีเทาเข้มที่ตั้งอยู่ในห้องรับแขก ในมือถือถ้วยขนมใบเล็กใส่บัวลอยไข่หวานไว้เต็ม เขาบรรจงตักให้พอดีคำเป่าด้วยปากจนมันหายร้อนก็ยื่นเข้าไปใกล้ชายหนุ่ม “พี่ฉลาม ทานบัวลอยนะครับ”

“อ้า” นายทหารหนุ่มอ้าปากรอก่อนจะค่อยๆละเลียดชิมความหวานจากขนมฝีมือคนรัก มือหนากุมมือของอีกฝ่ายไว้แนบแน่น ลูกเป็ดจะแงะออกก็ไม่ยอมปล่อยจนต้องยอมให้ชลธีจับเอาไว้อย่างนั้น

“หนูตักขนมไม่ได้”

“พี่ไม่กินก็ได้.. พี่อยากกินหนูมากกว่า”

ฮือ คนบ้า ไม่คิดว่าเขาจะอายบ้างหรือยังไง!

“บัวลอยที่ว่าหวานยังแพ้เลยนะครับว่าไหม” สมุทรแซวพี่ชายอีกรอบ และได้หมอนอิงปามาเป็นรางวัล เขาลูบหัวป้อยๆ สาบานว่าชลธีมองไม่เห็นจริงๆทำไมถึงได้ปาแม่นนัก!

“ใครหาแฟนให้พี่ปลาได้ ผมจ่ายเลยสามหมื่น!” 

“ไอ้น้องเวร!” เขาหันไปด่าคเชนทร์ “ไปๆ มึงรีบไปหามะนาวเลยไป”

“ไม่ต้องไล่ผมก็ไปแน่.. ไปหาแฟนดีกว่า”

“เบื่อคนมีแฟนโว้ย”

   คุณหมอยกมือไหว้ผู้ใหญ่ในบ้าน บอกลาพี่ชายและเด็กหนุ่มเสร็จก็เตรียมตัวจะออกไปโรงพยาบาล เช็คโทรศัพท์ว่าคนรักกำลังรออยู่ที่ไหนก็รีบเร่งจะสตาร์ทรถออก แต่ในระยะสายตากลับเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังยืนอยู่หน้าประตูรั้วบ้าน เขาชะโงกหัวออกไปดูคิดว่าตัวเองคงจะตาฝาดแน่ๆ แต่แล้วเมื่อหญิงสาวคนนั้นขยับตัวเขาก็ได้เห็นกับตาว่าเป็นใคร คเชนทร์ลงจากรถเดินออกไปยังประตูบ้าน

   “คุณมาหาใครครับ?”

   “ช้าง.. พี่เกศเอง.. พี่มาหาพี่ฉลาม”

“คุณยังมีหน้ามาเจอพี่ผมอีกหรือ” คุณหมอตอบเสียงแข็ง “คุณทำอะไรลงไปบ้าง รู้ตัวไหม?” เขาจำสภาพของมุจลินท์วันนั้นได้เป็นอย่างดี รู้ทั้งรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นคนลงมือและสั่งการทั้งหมด อยากจะเอาผิดให้ได้สักครึ่งกับที่น้องชายและพี่ชายเขาโดนกระทำ แต่จิตใต้สำนึกของความเป็นคนยังหลงเหลืออยู่มากพอที่จะให้กฎหมายเป็นคนตัดสินและลงโทษทั้งหมด

“พี่อยากคุยกับพี่ฉลามจริงๆ พี่ติดต่อเขาไม่ได้เลย เขายังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม”

“พี่ผมจะอยู่หรือตายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ”

“ขอร้องล่ะนะช้าง”

“คราวนี้จะมาไม้ไหนอีกครับ” คเชนทร์กำหมัดแน่น อารมณ์กรุ่นโกรธพวยพุ่งขึ้นมา “ผมว่าทางที่ดีคุณควรจะกลับไปอยู่ในที่ของตัวเองจะดีกว่า”

ข่าวของนายพลใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังธุรกิจสีเทาเป็นข่าวดังอยู่พักหนึ่งเนื่องมาจากพี่ชายเขาเป็นคนจับกุมและได้หลักฐานมัดตัวจนแน่น หลังศาลตัดสินจำคุกและดำเนินคดีกับบิดาของหญิงสาว ถึงแม้จะเคยเป็นฐาติเกี่ยวดองกันแต่เขาก็ไม่รู้สึกเสียใจสักนิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขานึกด้วยซ้ำว่าเกศราจะหลบหนีข่าวคาวไปอยู่ต่างประเทศเสียอีก ไม่คิดว่าจะกลับมาที่นี่อีก ที่ที่เคยเป็นบ้านของหล่อน..

“ถือว่าช่วยพี่เถอะ”

“ผมจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคุณจะไม่เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านผมอีก”

“พี่สัญญา”

คเชนทร์คิดอยู่ชั่วครู่ก็ตัดสินใจเปิดประตูบ้านก่อนจะเดินนำหญิงสาวเข้าไปในบ้าน เขาสังเกตดูแล้วคงจะไม่มีปัญหาอะไร ลำพังผู้หญิงตัวแค่นี้คงจะทำอะไรใครไม่ได้อยู่แล้ว ทันทีที่หญิงสาวเหยียบย่างเข้าไปในบ้านทุกคนก็ดูจะตกตะลึง เกศรายกมือไหว้ก่อนจะมองหาอดีตคนรัก เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนขมวดคิ้วแน่นบังชลธีเอาไว้ไม่ให้ใครบางคนเห็น
“เกศมาขอโทษทุกคนค่ะ แล้วก็อยากเจอพี่ฉลาม”

“เสร็จธุระแล้วก็กลับไปซะ” คุณแม่ส่งเสียงเข้ม หล่อนอุ้มหลานชายที่นอนกลางวันขึ้นชั้นสองของบ้านทันที ไม่สนใจหญิงสาวที่ยกมือไหวสักนิด

“เกศขอคุยกับพี่ฉลามได้ไหมคะ”

“มีอะไรก็พูดมา” ชลธีตอบ เด็กหนุ่มเบี่ยงตัวหันไปมองคนรัก เขายื่นมือไปกุมชายหนุ่มเอาไว้ “อยากเจอพี่มากไม่ใช่หรือ” เกศรากระตุกเฮือกค่อยๆสาวเท้าเข้าไปใกล้ กระพุ่มมือไหว้เชื่องช้า วงหน้าหวานแดงก่ำดูน่าสงสารหยดน้ำตาไหลพรากอาบแก้มเต็มไปหมด

“เกศขอโทษที่เกศเคยทำไม่ดีกับพี่กับทุกๆคน เกศฝากดูแลลูกด้วยนะคะ”

“อืม”

“เกศแค่อยากจะรู้” หล่อนเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้ามาด้วยสายตาแววับ “พี่ทำกับคุณพ่อได้ยังไง พี่จับพ่อเกศเข้าคุกทำไม ทำไม!” หล่อนตะโกนทั้งน้ำตา ร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อายใคร

“คุณพ่อทำผิดก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย พี่ช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะ”

“พี่ช่วยได้ แต่พี่ไม่ช่วย! คนใจร้าย ทำไมพี่ไม่ตายๆไปซะ แค่ตาบอดมันยังน้อยไป!”

เพี้ยะ!

เด็กหนุ่มเงื้อมมือฟาดไปยังแก้มขาว แม้จะออกแรงไม่มากแต่ก็ทำให้เกศราหน้าหันไปอีกทาง

“คุณออกไปจากบ้านผมได้แล้ว” เขาพูดเสียงสั่น ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะเคยโกรธใครมากขนาดนี้ เขาจะไม่ยอมให้ใครมาว่าร้ายคนที่เขารักเด็ดขาด โดยเฉพาะผู้หญิงคนนี้!

“แก! ไอ้เด็กเมื่อวานซืน แกกล้าตบหน้าฉันหรือ”

“ที่ผมทำมันยังน้อยไปกับสิ่งที่คุณทำกับครอบครัวของผม” เขาอโหสิกรรมให้ทุกอย่างแต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยให้เกศราเข้าใจได้ง่ายๆ ที่เขาไม่เอาเรื่องไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมไปทุกอย่าง นับแต่นี้ต่อไปเธอไม่มีสิทธิ์มายุ่งย่ามกับครอบครัวของเขาอีก!

“กรี๊ดดด ฉันจะฆ่าแก ฆ่าพวกแกให้หมด” เกศรากรีดร้องด้วยความโมโห หล่อนรู้สึกสูญเสียทุกอย่างทั้งครอบครัว คนรักหรือแม้แต่ทรัพย์สินเงินทองที่ถูกยึดไปจนหมด คเชนทร์รีบล็อคตัวเอาไว้ก่อนที่จะคลุ้มคลั่งมากไปกว่านี้ “พี่จะต้องโดนทิ้งแน่ ไม่มีใครเขาอยากได้คนตาบอดแบบพี่หรอก จำเอาไว้!”

“ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็ไปคุยกันที่โรงพัก ผมก็อยากจะรู้นักว่าคดีที่คุณพ่อคุณโดน คุณน่ะหรือจะไม่รู้เรื่อง!”

“ปล่อยฉัน!” คเชนทร์พาตัวหญิงสาวไปขึ้นรถ ส่วนสมุทรรีบออกไปเตรียมรถ งานนี้ทนายหนุ่มอย่างเขาไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆแน่ กล้ามาว่าพี่ชายเขาได้อย่างไร! “ออกไปนะ ไอ้พวกบ้า!”

“เตรียมคำพูดของคุณไปให้การในชั้นศาลเถอะ!” เสียงเอะอะเงียบลงเมื่อรถยนต์ส่วนตัวของคเชนทร์แล่นออกนอกรั้วบ้าน เด็กหนุ่มนั่งทรุดลงที่โซฟาโผเข้ากอดคนรักไว้แน่น 

“พี่ฉลาม”

“พี่ไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไรจริงๆ” เขาตอบคนรักทั้งๆที่มือของตัวเองเย็นเฉียบไปหมด มุจลินท์บีบมือให้กำลังใจ

“หนูจะอยู่กับพี่นะ” เขากอดชลธีพร่ำบอกวนไปมา ลูบแผ่นหลังหนาขึ้นลง

“อยู่กับพี่นะ” ชลธีกดจูบลงข้างขมับ กระชับกอดคนรักให้แน่นขึ้น ความเป็นห่วงที่ส่งผ่านมาเขาได้รับทุกอย่าง มันช่างอบอุ่นเหลือเกินจนไม่รู้จะขอบคุณอย่างไรดี

“ครับ”

เราจะเคียงข้างกันในทุกช่วงเวลาของชีวิต ไม่ว่าจะดีหรือเลวร้าย.. เขาให้คำสัญญา

TBC.

สวัสดีค่า <3

งานหนังสือที่จะถึงนี้ พายจะแวะไปแจกโปสการ์ดและมีกิจกรรมพูดคุยกันเล็กน้อยเกี่ยวกับนิยายเรื่องมุจลินท์

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ถึงเวลา กำจัดชะนี  :laugh:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด