ยาวเกิน อัพกระทู้เดิมไม่ได้ค่ะ ฮือ ;__;
-------
6th Monday (2)“ทำไมเข้ามาช้า?”
คุณเพื่อนขาสั้นถามทันทีที่ผมหย่อนก้นลงข้างมัน ความจริงอยากลองนั่งข้างคนอื่นบ้าง แต่เห็นใจคนอื่นถ้าจะต้องมานั่งข้างยอดชายนายซุกซนครับ เผื่อความดีนี้จะทำให้คุณกฤติเห็น แล้วงดประชุมวันจันทร์ครับ หรืออย่างน้อย ช่วยซัพพอร์ตเจลใส่ผมหน่อยก็ดี ผมไม่ขออะไรมาก ขอแค่
เจลสำหรับทุกวันจันทร์ก็พอครับ แกร๊บไบค์ทำหน้าม้าผมนี่เปิดข้างหน้าทะลุถึงหัวใจแล้วครับ เปิดอยู่กรุงเทพฯ เหม่งเห็นไกลไปถึงเชียงใหม่แล้วครับ
“เราคุยกับคุณเมฆอยู่ไง ซุกซนนั่นแหละหนีออกมาก่อน”
“กูเหม็น”
“...” ผมจะเตือนตัวเอง ว่าต้องบอกคุณเมฆเรื่องเหยียบขี้หมาจริงๆ
“เหม็นขิง”
“ซุกซนจมูกดีเหมือนไม่ใช่คนเลยนะเนี่ย”
เพื่อนทำหน้าเหมือนไม่รู้จะหัวเราะ ร้องไห้ โกรธหรือว่าควรจะลาออกจากงานไปตามหาดราก้อนบอลดี แต่ช่างมันครับ ซุกซนใจทรามจะทำอะไรก็ไม่มีสาระอยู่แล้ว ผมไม่ถือ มันเป็นบ้า ผมรู้ครับ ว่าเราไม่ควรถือสาคนบ้า ไม่ควรว่าซุกซน
“Hello. Good afternoon everyone.Thank you all for coming and joining us here. I’m very pleased to …”
เสียงของพิธีกรต่างชาติพูดดึงความสนใจของทั้งผมและซุกซน ผมพยายามนั่งตัวตรงเมื่อรู้สึกว่าการประชุมได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว เท่าที่ฟังหลักๆก็ไม่มีอะไรมากครับ แนะนำถึงนวัตกรรมใหม่ของบริษัท การเปิดสาขาในประเทศต่างๆ ความก้าวหน้าในการหาลูกค้ารายใหม่ การช่วยเหลือลูกค้าเวลามีปัญหา และพวกปัญหาที่เกิดขึ้น นั่นนู่นนี่ที่ผมไม่สนใจ เนี่ยแหละครับ พนักงานดีเด่น
ผมถอนหายใจแล้วเลื้อยไปบนเก้าอี้ เบื่อมาก ซุกซนที่นั่งอยู่ข้างๆนั่งทำหน้าตั้งใจผมก็ไม่อยากกวน เมื่อไม่รู้จะทำอะไรผมก็เลยกินครับ กินเสบียงเดียวที่มีในตอนนี้ คุกกี้รสกาแฟฟรีที่คุณโปรเจคฯแกให้มานั่งแหละครับ ผมแกะคุกกี้กินเงียบๆ ค่อยๆงับเพราะกลัวจะเสียงดังรบกวนคนอื่น
เฮ้ย อร่อยว่ะ! มันเป็นคุกกี้ธรรมดาเลยครับแบรนด์ที่เคยเห็นในห้าง แต่พอได้ฟรีแล้วโคตรอร่อยเลยครับ สวรรค์ที่แท้ เพราะไม่งั้นผมคงไหลลงไปกองบนพื้นแล้ว นี่รอคุกกี้หมดห่อก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยไหล
“คุกกี้?” มาแล้วครับคนใส่ใจเรื่องชาวบ้าน 2018 ซุกซนที่นั่งอยู่ข้างผมชะเง้อหน้ามาใส่ใจเต็มที่ ออกไปนะ อย่ามาแย่ง! “มึงได้จากไหนมาวะ? ตอนออกจากห้องไม่เห็นเอามาด้วย หรือเขาแจกหน้างานเหรอ?”
“นอกจากซุกซนใส่ใจเรื่องคนอื่นเก่งแล้ว ยังเห็นแก่กินด้วยนะเนี่ย”
“กวนตีนนะมึงอะ แย่งแดกแม่ง!”
“ซุกซน!”
ผมรีบหันหนีเอาตัวบัง เมื่อซุกซนใจทรามพยายามเอามือมาแย่งคุกกี้ของผม ไม่ให้ อันนี้ไม่ให้นะ! อย่ามายุ่ง!
“เป็นไรวะ? ปกติไม่ใช่คนขี้หวงนี่มึงง่ะ”
“ไม่รู้อะ แต่อันนี้เราหวง เราไม่ให้อะ”
“อะไรของมึงวะ? เอามาแดก!”
“ก็ไปกินอันอื่นสิ อันนี้เราหวง”
“เอามาแดก!!!”
“ไม่ให้!!!!”
ผมหันหลังให้คนที่ทำเหมือนได้คุกกี้ผมแล้วจะได้เงินเดือนขึ้น ปากก็แง้วๆว่ามันไปด้วย พยายามเตือนสติเพื่อนว่าการขโมยของกินเพื่อนมันไม่ดี โดยเฉพาะคุกกี้อันนี้ มันไม่ดีมากๆ!!
“หวงเหรอ มึงหวงเหรอ เอามาให้กูแดก!”
“ซุกซน อย่าใจทราม”
“เอามาแดกก่อน เดี๋ยวกูใจดีเลยทันที”
“อย่ามายุ่งนะ อันนี้ไม่ได้”
“หวงจังนะ ใครให้มาป้ะเนี่ย?”
“ไม่บอก!”
โชคดีที่ต่อจากนั้นมีเสียงปรบมือดังมาก ใครสักคนที่หน้าตาเอเชียที่ผมเคยเห็นหน้าในเว็บไซต์บริษัทเดินลงเวทีไป แล้วให้ใครอีกคนหน้าตาฝรั่งหน่อยที่อยู่บนหน้าเว็บบริษัทเหมือนกันเดินขึ้นเวทีต่อ ความสนใจของทั้งผมและซุกซน มันผละออกจากเป้าหมาย แล้วไปนั่งสนใจสปีกเกอร์คนใหม่ที่เพิ่งขึ้นเวทีมาแทน ผมเลยใช้โอกาสนี้กินคุกกี้คุณเมฆให้หมด จะได้ไม่ต้องโดนแย่ง
ไม่ได้ยัดทั้งหมดทีเดียวนะ แค่ใช้สกิลกินเร็วมากๆเท่านั้น เป็นสกิลที่มีมาตั้งแต่สมัยเรียนครับ เพื่อนทั้งกลุ่มมีหมด ตอนที่แอบก้มไปกินขนมใต้โต๊ะในเวลาเสี้ยววินาที ตอนที่ครูหันหลังเขียนกระดาน ซึ่งผมทำมาตั้งแต่ประถมครับ ตอนเด็กเลยโดนเพื่อนล้อว่าเอาของกินเก็บตรงถุงแก้มตลอดเวลา เครียดมากครับ มันไม่หล่ออะ
ซึ่งตรงจุดนี้ผมอิจฉาน้องกายมากที่น้องแก้มยุบตอนโต มีแต่ผมเนี่ยที่แก้มย้วย! พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน! ทำไมผมไม่ได้ส่วนสูงมาแทนแก้ม ยื่นเรื่องขอเอาแก้มไปแลกส่วนสูงได้ที่ไหน
พอคุกกี้หมด ชีวิตก็ไม่เหลือเรื่องน่าสนใจอีกต่อไป
เบื่อจัง เบื่อมาก เบื่อจริงๆนะ
หลังจากสปีกเกอร์คนสุดท้ายพูดจบ ความเบื่อของผมก็ผ่านไปสักที การประชุมราบรื่นยาวเลยไปยังตอนทำ workshop ที่ผมไม่ค่อยจะมีสติสมาธิเท่าไหร่ หลังจากนั้นก็มาประชุม wrap up นิดหน่อย ซึ่งผมไม่รู้เรื่องแล้ว หลุดไปนานแล้ว ผมเลยนั่งวัดสายตาตัวเองครับ ทดลองปิดตาข้างซ้ายแล้วมอง เสร็จแล้วก็ทดลองปิดตาขวา สรุปสิ่งที่ผมได้จากเวิร์คช็อปวันนี้คือตาสองข้างผมมองเห็นไม่เหมือนกันครับ ตาขวามันจะพร่าหน่อยๆ แต่ตาซ้ายชัดแจ๋วเลย
“มึงว่า คนเราเกิดมาทำไมวะ?”
อยู่ดีๆในระหว่างที่เขากำลังพูดกัน คนใจทรามมันก็ถามขึ้นมา ตายังจ้องจอโปรเจคเตอร์ เมื่อสามารถรู้สึกได้ว่าผมไม่เข้าใจ เพื่อนร่วมงานของผมก็ใจดีพูดต่ออีกนิดหน่อย ทั้งที่ผมไม่ได้อยากจะรับรู้อะไรด้วยเลย
“ถ้าเราจะต้องเกิดมานั่งเสียเวลาชีวิตเป็นชั่วโมงฟังในสิ่งที่มึงไม่แม้่แต่จะเข้าใจด้วยซ้ำว่าหัวข้อมันคืออะไร ลืมเนื้อหาข้างในไปเลย กูหลุดนานมากแล้ว เหมือนนั่งฟังบรรยายอยู่ในน้ำ … แล้วกูก็คิดขึ้นมาได้ว่า เราควรเอาเวลาไปตามหาคำตอบของชีวิต”
“...”
“ตอนกูปีหนึ่ง กูแอดฯเข้าไปเรียนบัญชี แต่พอเรียนไปกูรู้ว่ามันไม่ใช่ แต่พี่รหัสกูสวยสัด เป็นดาวคณะ กูเลยไม่ซิ่ว”
“...”
ผมต้องรับรู้เรื่องนี้จริงๆเหรอ? พี่รหัสผมเป็นใครก็ไม่รู้อะ เคยได้ยินชื่อแล้วก็หายไปในกองเปเปอร์ ซึ่งผมเข้าใจ ผมก็ปล่อยเขาไปตามทาง เพราะแค่นี้พี่แทนรักก็เลี้ยงผมไม่รู้จะเลี้ยงยังไงแล้วครับ
“จนตอนนี้จบมา กูถึงได้มานั่งคิดว่า คนเราถ้าเกิดมาไม่ได้ไปตามหาความฝัน แล้วเราจะเกิดมาทำไมวะ?”
“... เราขออะไรที่มันไม่ค่อย complex ได้มั้ย? แบบอะไรที่ทุกคนเขาก็พูดกันน่ะ”
“แต่กูแมสกว่านี้ไม่ได้แล้วมึง”
“ก็เรื่องของซุกซน”
“กูว่า” มันยังไม่จบ “กูจะลองไปตามหาความหมายของชีวิต”
ครับ เพื่อนผมบ้าไปแล้ว
“ตามหาที่ไหนอะ? Google จะมีมั้ย ลองเสิร์ชดูหรือยัง?”
“แทนใจ มึงอย่าเพิ่งกวนตีน กูจริงจัง”
“...” ก็แล้วแต่เลยครับ โบราณว่าไว้คนบ้าอย่าห้าม
“กูจะไปตามหาความหมายของชีวิต... ในวงเหล้าคืนนี้กับพวกเฮียเมฆ”
นี่ผมเสียเวลาชีวิตหลายวินาทีเพื่อฟังอะไรแบบนี้เหรอ?
รายการคืนความแฮปปี้ให้ประเทศหนึ่งยังดูมีสาระกว่านี้… อันนี้ชมนะ ชมจริงๆ
ผมพยายามเมินมันแล้วไปวัดสายตาตัวเองต่อ ในขณะที่ซุกซนใจทรามเริ่มตามหาความหมายของชีวิตในเฟสบุ๊ค
โอ๊ะ
แรงสั่นจากโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงทำให้ผมเอามือถือขึ้นมาดู มันเป็นห้องประชุมใหญ่คล้ายกับการอบรมสัมนามากกว่ามี้ตติ้ง แต่อย่าถามผมว่าทำไมเขาไม่เรียกสัมนาไปเลย ผมละสายตาจากคุณกฤติบนเวที (หัวหน้าผมเอง หล่อสุดแล้ว เชื่อเถอะ) คิ้วขมวดหันไปมองคนใจทรามที่หันมายักคิ้วให้อย่างกวนประสาท
ซุกซน ใจทราม ได้แท็กคุณในโพสต์
“นั่งข้างกัน จะแท็กทำไม?”
ผมบ่นใส่ซุกซนที่ไม่ได้สนใจอะไรเบาๆ ก่อนจะกดเข้าไปดู เห็นเมนต์ที่อ่านแล้วงง อะไร ไม่เข้าใจ เลยเลื่อนขึ้นไปอ่านโพสต์ก่อนละกัน อ๋อ คุณโปรเจคฯนี่เอง
นี่พวกพีเอม* (PM = Project Manager หรือโปรเจคฯที่ผมเรียกปกติ ผมเพิ่งรู้ว่าเขาเรียกกันแบบนี้ตอนที่มีชาวต่างชาติอยู่ด้วย นี่ตำแหน่งหรือฉายาดารารายการดาวกระจาย เยอะเหลือเกิน) เขาว่างกันขนาดมานั่งเล่นเฟสบุ๊คตลอดเวลาเลยเหรอ? แต่นั่นไม่น่าสนใจเท่าสเตตัสของเขาครับ
‘Mek Sitthikorn — feeling accomplished’ -- 45 minutes ago
กระต่ายกินแล้วนะครับ Liked by ซุกซน ใจทราม, and 687 others 54 comments 29 Sharesลงพร้อมด้วยรูปคุกกี้ที่เขาเอาให้ผมเมื่อเช้า ท่าทางจะถ่ายก่อนที่เขาจะเอามาให้ เพราะพื้นหลังของรูปเหมือนห้องพักในโรงแรม รูปมันไม่มีอะไรมากกว่านี้เลย แต่ทำให้ผมตกใจจนสะดุ้ง ผมขยี้ตาก่อนจะดูรูปพร้อมอ่านแค็ปชั่นอีกครั้ง อะไรเนี่ย?!
Pingpong kidteungtertookwan : กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ มึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พี่เมฆเขาให้กระต่ายกินคุกกี้ว่ะ มึง โคตรอบอุ่นเลย ผัวกู @Vorawan T.
Vorawan T.: อีดอก เลิกมโน เขาอ่อนโยนกับกระต่าย ไม่ใช่มึง
Pingpong kidteungtertookwan : มึงจะก๊อปวางแบบนี้ทุกสเตตัสที่กูหวีดพี่เขาไม่ได้
MewMew’ Mew: มีอีกมั้ยคะ หนูอยากกินบ้างอ่าาาาา
Beauty Kadkeng: หยั่กกินบ้างจุงเรอคร่าาาาา
Bubu Bewithyouforever : เลี้ยงกระต่ายด้วยกาแฟนะค่ะเพื่อนกู
Mek Sitthikorn : ถ้าใช้ ค่ะ ยาก กูแนะนำให้ใช้ ครับ
Bubu Bewithyouforever : กูรู้ว่ามึงไม่ชอบ กูเลยกวนตีนเล่น
Mek Sitthikorn : เหี้ยจริงๆ มึงถึงไม่มีแฟนไง
Bubu Bewithyouforever : แล้วมึงล่ะ ได้กระต่ายหรือยัง เขารู้หรือยังเนี่ยว่ามึงชอบ
Ball Natthakrit : ไอ้สัด จัดว่าเจ็บ “เขารู้หรือยังเนี่ยว่ามึงชอบ” @Mek Sitthikorn
ปีโป้ ปะปะปีปีโป้ : ไอ้สัด จัดว่าเจ็บ “เขารู้หรือยังเนี่ยว่ามึงชอบ” @Mek Sitthikorn
Alexander T. : ไอ้สัด จัดว่าเจ็บ “เขารู้หรือยังเนี่ยว่ามึงชอบ” @Mek Sitthikorn
Mek Sitthikorn : พวกเหี้ย กูจะบล็อกแม่งให้หมด สัดดดดดดดดดด
Wanjai Walaiporn : เมฆเลี้ยงกระต่ายด้วยเหรอ? โห เราไม่เคยรู้เลยนะเนี่ย
Mek Sitthikorn : เราชอบนะ น่ารักดี ^^ นอกจากนั้นส่วนใหญ่ก็เป็นคอมเมนต์อวยคุยเมฆว่าอบอุ่นดั่งใช้ดาวนี่อาบน้ำทุกวัน ซึ่งผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ผมเลื่อนลงมาอ่านคอมเมนต์ที่ซุกซนแท็กผมอีกครั้ง
ซุกซน ใจทราม : กระต่ายพี่แม่งโคตรขี้หวง ผมจะขอกินชิ้นเดียวขู่แง้วๆใส่หูแถมยังกอดไว้แน่น ไม่ยอมให้แย่งด้วยนะ ไม่รู้ว่าเพราะคุกกี้หรือเพราะคนให้… เล่นกินคนเดียวหมด จนแก้มย้วยจะแตก เฮ้อ อ๊องไม่พอนะ ตะกละเอ้ย @Tanjai Kraikiratikulchai เดี๋ยวนะ?
ไอ้สเตตัส
‘พรุ่งนี้เอาอะไรให้กระต่ายกินดีนะ ’ ของคุณเมฆที่อัพถึงกระต่ายเมื่อเช้า ที่ผมเข้าไปแซ็ว
นั่นแน่ นี่ไม่ได้หมายถึงกระต่ายจริงๆเหรอ
ความจริงแล้วสเตตัสนั้น ...หมายถึงผมเหรอ?
เริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไมซุกซนถึงเรียกผมว่าอ่องอ๊องแอ๊ โอ๊ย อายอะ อาย อายมาก อายกว่าตอนที่ไปเติมบัตรบีทีเอสแล้วบอกว่าขอซาลาเปาหมูแดงเพราะกำลังอยากกินมากๆเลยเผลอพูดไปแบบนั้นอีก เมื่อเช้าโป๊ะหมดเลยอะ แล้วผมจะมองหน้าคุณเมฆยังไงเนี่ย โหย โป๊ะมาก อายมาก นี่ผมทำอะไรลงไปเนี่ย?!
“เป็นไรมึง ทำไมทำหน้าเหมือนเห็นผี”
“ซุกซน… เรา….”
“อะไรมึง เวลาของกูเป็นเงินเป็นทอง”
คนที่พูดไปหาวไปทำหน้าเมื่อยไปตอบผมกลับมา ถ้าเป็นปกติผมคงจะพูดอะไรกลับไปให้เหมาะสมกับความซุกซนนั้น แต่ครั้งนี้ผมทำได้แค่เงียบ เพราะกำลังเรียบเรียงคำพูดในหัวอยู่ เรียบเรียงคำถามยังไงดีอะ ยากกว่าการสอบวิชาเรียนรวมของปีหนึ่งให้ผ่านอีก
“เรามีอะไรจะถามอะ คือเราสงสัยเรื่อง--”
“เรื่องที่พี่เมฆเขาจีบมึงอะเหรอ” “...”
อ้าว นั่นคือเขาจีบผมเหรอ?
พอมานั่งนึกดูมันก็แปลกนิดหน่อย ที่คนที่เจอกันแค่ในร้านกาแฟวันจันทร์จะมาซื้อโจ๊กหม้อดินให้ผม ซื้อคุกกี้ให้ผมทำไม ยิ่งคิดยิ่งแปลก ไหนจะเรื่องการติดกาแฟแล้วติดกาแฟอีกที่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ให้จ่ายคืนสักที คิดแล้วก็รู้สึกแปลกๆแหะ เออ มันแปลกจริงด้วยอะ ไม่รู้ว่าแปลกอะไร แค่เพื่อนที่ทำงานไม่น่าเป็นแบบนี้นีนา
“ซุกซน เขาจีบเราจริงๆเหรอ?”
“คิดว่าไงล่ะ?”
“...”
ไม่ตอบละกัน ไม่รู้แล้วๆ ไม่รู้ คิดไม่ออก สมอง Error404 ไปแล้ว ตายแล้ว ไม่ต้องช่วยนะ ขอพักหายใจแป๊ปหนึ่ง ไม่ไหว ใครมียาดมบ้าง ขออันนึง ไม่ได้จะใช้นะ จะเอามาหมุนเล่น เอามาตั้งเฉยๆแล้วผมหมุนตัวเองก็ได้ ไม่รู้อะ ฮือ ไม่รู้อะไรแล้ว
“ไม่ต้องตอบกูก็ได้ แต่มึงควรเอามือออกจากแก้มย้วยๆของมึงก่อน มันดูเหมือนหมูมากกว่ากระต่ายเข้าไปทุกวัน”
ผมผละมือออกจากหน้าอย่างทันที อ้าว เฮ้ย นี่เอามือจับหน้าตอนไหนเนี่ย ไม่รู้แล้ว สมองไม่ทำงานแล้ว เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มันบอกว่าผมเป็นตัวอะไรนะ?
แต่ช่างมัน เรื่องนี้ไม่สำคัญเท่าคุณเมฆ
“ซุกซน…”
“ไม่ต้องตอบกู รู้ว่าสำหรับมึง อะไรที่ไม่ใช่ 2+2=4 นะ มึงเปิดโหมดอ๊องทันที”
อันนี้คือไม่ได้ช่วย แต่กำลังด่าผมแล้ว ถูกมั้ย?
“แล้วถ้าเฮียเมฆเขาจีบมึงล่ะ…”
“...”
“มึงจะรังเกียจมั้ย?” นั่นสิ …
ผมลองนั่งไตร่ตรองสิ่งที่เกิดขึ้นมาเดือนกว่าระหว่างผมกับคุณโปรเจคฯ (ผมยังไม่ลืมนะว่าเรากำลังประชุมกันอยู่ แต่ท่าทางจะใกล้จบแล้วแหละ ไม่ใช่ประชุมนะ ชีวิตผมเนี่ยแหละ) ถามว่าคิดกับเขาแบบไหน แน่นอนว่าตอบไม่ได้ ผมไม่รู้จริงๆว่ามันจะใช้นิยามว่าอะไร ผมไม่เคยรู้ ไม่รู้จริงๆ ผมไม่เคยมีคนที่ชอบ แฟน คนคุย หรืออะไรเลย
ชีวิตผมมีแค่ครอบครัว แล้วก็เพื่อนเท่านั้น ไม่เคยมีความสัมพันธ์รูปแบบอื่นที่นอกเหนือจากกรอบพวกนี้เลยสักนิด ผมควรจะทำยังไง? ผมควรจะคิดอะไร? ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ความรู้สึกมันคืออะไร แต่ถ้าถามว่ารังเกียจมั้ย…
“แทนใจ…”
เอ๊ะ?
ผมกระพริบตา เมื่อกี้ตกในภวังค์ของตัวเองนานเกิน เพิ่งรู้ว่าคนอื่นเขาเริ่มลุกเดินออกไปทางประตูกันหมด เมื่อหันไปข้างๆที่ควรจะมีซุกซนก็กลายเป็นความว่างเปล่า คิดเรื่องเมื่อกี้ยังไม่ออกเลย เพื่อนก็ทิ้งอีก การเป็นแทนใจมันยากครับ เพื่อน… ไม่ได้หากันง่ายๆป่าววะ? อย่างตอนนี้ ไม่รู้ว่าเพื่อนหายไปไหนแล้ว จะหายังไงเนี่ย ท่าทางจะหายากแน่นอน เพื่อนยิ่งเตี้ยๆอยู่
“แทนใจๆ ได้ยินผมมั้ยเนี่ย?”
เมื่อหันหลังไปผมสะดุ้งสุดตัว เมื่อคนที่อยู่ในห้วงความคิดมาปรากฏตัวเป็นๆนั่งส่งยิ้มประหลาดแบบที่เขาชอบทำมาให้จากข้างหลัง แย่แล้ว แย่จริงๆแล้ว ผมยังคิดคำตอบของคำถามนั้นไม่ออกเลย ทำไมโลกส่งตัวกระตุ้นมาตอนนี้เนี่ย! ช่วยด้วย
“อ่า…”
ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี!
“ว่าแต่... คุกกี้อร่อยมั้ยครับ?” มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่ตอบคำถามคุณเมฆ ผมก้มหน้าที่เริ่มร้อนถึงใบหูจนต้องเอามือมาจับแล้วถูๆให้มันหายร้อน โอ๊ย ขอพรีออร์เดอร์ เอลซ่า สักคนจากดิสนีย์ได้มั้ย หน้ามันร้อนหูมันร้อนไปหมดเลย! ขออะไรมาดับร้อนที!
“แล้วถ้าเฮียเมฆเขาจีบมึงล่ะ…มึงจะรังเกียจมั้ย?” คำถามของซุกซนดังขึ้นในหัวอีกครั้ง ผมค่อยๆเหลือบตาขึ้นมองหน้าคุณเมฆ ที่กำลังมองหน้าผมอยู่อย่างตั้งใจเหมือนผมเป็นละครที่สนุกมากๆ ไม่รู้หรอกนะว่าเขาจะจีบ จะแกล้ง จะอยากเลี้ยงกาแฟหรือขุนผมด้วยของกิน หรืออะไร แต่ถ้าถามว่ารังเกียจไหม …
คำตอบคือ
‘ไม่’ เลยสักนิด
------- 100% -------
มาแล้ว มาช้าแต่มาแล้วนะคะ ฮือออออ
อ๊องเริ่มจะถูกกระเทาะเปลือกแล้วนะคะ
ต่อไปจะเป็นยังไง (และมาตอนไหน) ให้ซุกซนทำนายนะคะ อิ___อิ
สามารถคอมเมนต์ที่นี่ หรือสกรีมได้ที่ #เรื่องของคนที่เกลียดวันจันทร์ ในทวิตเตอร์ เหมือนเดิมนะคะ หรือยังไงทักเรามาได้ที่ @banybapho นะคะ ขอบคุณมากค่า XD
[/b]