Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 23
ใส่ร้าย
ช่วงนี้ฝนตกบ่อยมาก บรรยากาศทำเอาไม่อยากลุกจากที่นอน แต่ว่าจักรก็ต้องดีดตัวลุกขึ้นมาจากที่นอนที่ปูให้นอนข้างล่าง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านไปอาทิตย์กว่าแล้วที่เขาต้องมานอนเป็นเพื่อนเจ้าจอม
คนตัวเล็กขยันมีข้ออ้างมาให้เขานอนที่นี่เสมอๆ และจักรเองก็ค่อนข้างจะเต็มใจมาอยู่แม้ว่าจะต้องถูกยั่วให้ขันติพร้อมแตกซ่านได้ทุกเมื่อ
“เจ็ดโมง ฝนยังตกหนักอยู่เลย ฟ้าก็มืดๆ” เขาลุกขึ้นผับผ้าปูแล้วนำไปใส่ในตู้เหมือนเดิม แอบมองไปยังร่างเล็กที่นอนหลับพริ้มอยู่บนเตียง
ภาพตรงหน้านี้เหมือนเทวดารูปงามองค์น้อยกำลังนอนหลับอยู่ ช่างเป็นภาพที่สวยงาม ทำเอาเป็นเช้าที่มีความสุขมาเป็นอาทิตย์เลย
วาดฝันไว้ว่าอยากจะมีเจ้าจอมอยู่ข้างกาย ตื่นขึ้นมาก็เห็นกันและกันเป็นอันดับแรก แค่คิดก็มีความสุขแล้ว แต่ว่ามันจะมีวันนั้นไหม
วันที่หมาวัดจนๆ จะมีดอกฟ้า ยืนอยู่เคียงข้าง
“ผมไปทำงานก่อนนะครับ”
จักรพูดเบาๆ ด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข ก่อนจะเดินออกจากบ้านของเจ้าจอมเพื่อไปทำงานของตน ส่วนทางด้านร่างบางเองก็ตื่นตามเวลาที่นาฬิกาปลุก ไม่เห็นจักรอยู่ก็ไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจอะไร หากแต่ก็อารมณ์ดี ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน...
ร่างเล็กเดินดูรอบๆ ของรีสอร์ทเรื่อยๆ หลังจากไม่มีงานบัญชีสำคัญที่ต้องทำ เพราะส่วนพวกนั้นก็ให้พนักงานคนอื่นทำเอาก็ได้ เจ้าจอมเดินด้วยสีหน้านิ่งๆ สังเกตคนงานไปด้วย ก็พบว่าเหล่าคนงานส่วนใหญ่มักจะมองเขาแบบแปลกๆ พอเจอเขาก็หันหนี บางคนก็เดินหนี ไม่ทักทายเหมือนแต่ก่อน บ้างพอเขาเดินผ่านก็พากันซุบซิบอะไรก็ไม่รู้ เจ้าจอมไม่แน่ใจ แต่ที่เขามั่นใจเลยก็คือ...
มันเกี่ยวกับเขา...
และมันก็น่าจะเกี่ยวกับเรื่องเมื่อวานด้วย
“เฮ้อ...เบื่อจัง แค่คำพูดคนไม่กี่คำก็ทำเอาให้เป็นเรื่องขนาดนี้เลยเหรอ ทำไมต้องทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่”
มันทำให้เจ้าจอมรู้ว่าความดีที่ผ่านมาที่ตัวเองทำ มันไม่ได้ทำให้เขาดูเป็นผู้บริสุทธิ์ได้เลยสินะ...คิดว่าเขาเป็นมารร้ายไปกันหมดแล้วสิ
“ก็อุตส่าห์เตือนแล้วนะ ว่าอย่าลองดีกับฉัน!”
เจ้าจอมพูดกับตัวเองเบาๆ แต่ดวงตาฉายแววแข้งกร้าวและแน่วแน่
คนตัวเล็กว่าแล้วก็ออกเดินต่อ แต่ผ่านแท้งค์น้ำใหญ่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงคนงานพูดถึงเขาอย่างเมามันส์เลยทีเดียว...
ที่จริงแล้วงานของเจ้าจอมคืองานบัญชี จะมีส่วนน้อยที่เขาไปทำส่วนอื่นๆ ของรีสอร์ท เพราะทุกคนก็มีหน้าที่เป็นของตัวเองอยู่แล้ว หากแต่ในฐานะที่เจ้าจอมเป็นน้องชายของเจ้าของรีสอร์ท นั่นก็หมายความว่าเจ้าจอมคือเจ้านายอีกคนของคนงานที่นี่ รวมถึงที่อื่นๆ ด้วย
การที่ได้ยินคนงานพูดถึงเขาในทางไม่ดี...ก็คงไม่มีใครชอบใจเท่าไหร่หรอกมั้ง
“ฉันเห็นกับตาว่าเมื่อวานคุณจอมเขาต่อว่านังแก้ว”
“เห็นแต่ไม่ได้ยินนี่ จะไปกล่าวหาคุณจอมเขาได้ยังไง”
“แต่นังแก้วมันร้องไห้บอกว่าอย่าไล่มันออก แกคิดว่าคุณจอมจะพูดอะไรล่ะ”
“แล้วคุณจอมเขาจะทำไปทำไมล่ะ”
“เรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับพี่จักรแน่ๆ”
“ยังไง? เกี่ยวกับพี่จักรยังไง”
“ก็นังแก้วมันชอบพี่จักร แล้วช่วงนี้คุณจอมก็ดูจะติดพี่จักรมากๆ เลย ฉันคิดว่าคงจะเป็นเรื่องนี้แน่ๆ คุณจอมคงชอบพี่จักรนั่นแหละ แล้วก็น่าจะรู้เรื่องที่แก้วมันชอบพี่จักร เพราะก่อนจะมีเรื่องเมื่อวานนี้นะ คุณจอมก็เคยต่อว่านังแก้วตอนที่แอบเอาวัตถุดิบในครัวไปทำอาหารให้พี่จักรน่ะสิ”
“เออจริงด้วย มีเค้าอย่างที่แกว่าจริงๆ คุณจอมไม่น่าทำอย่างนี้เลยนะ เพราะยังไงพี่จักรก็ชอบผู้หญิงอยู่แล้ว”
เจ้าจอมยืนกำมือแน่นด้วยความโมโหที่ต้องฟังคนงานหญิงนินทาเขาอยู่ในระยะประชิดแบบนี้...เรื่องนี้มันชักจะเข้าทางของแก้วไปกันใหญ่แล้ว
“เฮ้อ...ไม่รู้นังแก้วจะโดนอะไรบ้าง เพราะคุณจอมดันเป็นเกย์นี่สิแก คงไม่ปล่อยไปง่ายๆ หรอก”
“เออๆ ฉันก็ว่านังแก้วมันซวยแล้วล่ะ”
เออ!!! มันซวยแล้วจริงๆ นั่นแหละ
คิดผิดแล้วที่คิดจะต่อกรกับคนอย่างเจ้าจอม...
“สงสารพี่จักรด้วย ปฏิเสธคุณจอมไม่ได้แน่ๆ เลย ก็เขาเป็นเจ้านายนี่นา”
“ใช่ๆ ฉันก็เห็นด้วยกับแก”
“หวังว่าคุณจอมคงไม่ทำอะไรถึงกับไล่ออกหรอกนะ”
“ไม่หรอก...” คราวนี้ไม่ใช่เสียงของเพื่อนคู่สนทนาของเธอที่เป็นคนตอบ แต่เป็นเจ้าจอมเองที่ตอบ ร่างเล็กที่สูงกว่าผู้หญิงไม่กี่เซ็นเดินออกมาด้วยสีหน้าที่แสร้งทำเป็นเสียใจ
“ค่ะ คุณจอม” สองสาวอุทานชื่อของเจ้านายเสียงสั่น ทำหน้าเลิกลักตัวสั่น เพราะกลัวจะโดนไล่ออก
“ฉันไม่ไล่ใครออกแบบไม่มีเหตุผลหรอกนะ พวกเธอสบายใจได้ แต่เวลานี้เป็นเวลางานไม่ใช่หรือ ทำไมไม่ทำงาน” เขาถามออกไปเสียงอ่อน ไม่ได้ขึ้นเสียง ไม่ได้กระชากเสียง ใบหน้าเองก็ดูเศร้าๆ
“ค่ะ คือเรามาขนน้ำเข้าครัวน่ะค่ะ”
“กำลังจะไปแล้วค่ะ”
“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ฉันไม่ตำหนิเธอสองคนก็ได้ เดี๋ยวฉันจะถูกมองไม่ดีอีก หวังว่าเธอสองคนคงไม่เอาสิ่งที่ฉันกำลังพูดไปแปลงเป็นแบบอื่นนะ” เจ้าจอมพูดเศร้าๆ
“ย่ะ ยังไงคะ”
“ช่างเถอะ...เอาเป็นว่าฉันจะไม่ดุ ไม่ตำหนิใครเวลาบกพร่องต่อหน้าที่ก็ได้นะ แต่ได้โปรด อย่าใส่ร้ายฉันเลย...แค่นี้คนงานก็มองฉันไม่ดีอยู่แล้ว”
“คุณจอมคะ พวกเราจะไปใส่ร้ายคุณจอมได้ยังไง”
“ใครจะไปรู้ล่ะ เมื่อวานฉันก็แค่ตำหนิคนงานบกพร่องต่อหน้าที่เพราะมันเป็นสิ่งที่ฉันควรจะทำ แต่แก้วก็ดันว่าฉันจะไล่ออก นี่ถ้ามีกล้องกับตัวบันทึกเสียงก็คงจะยืนยันความบริสุทธิ์ของฉันได้ แต่นี่ก็...ก็ไม่มี ทุกคนก็เข้าใจฉันผิดแบบนี้ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ออกจากห้องทำงานแล้วก็ได้ พวกเธอไปทำงานต่อเถอะ...ฉ่ะ ฉัน อึก...ขอตัว” เจ้าจอมน้ำตาไหลก่อนจะเดินหนีทั้งสองสาวไปอย่างไม่สนใจจะมองกลับมา ทิ้งให้คนงานสองสาวยืนตัวสั่นด้วยความรู้สึกผิด
“เอาไงดีแก คุณจอมร้องไห้ด้วยล่ะ”
“นั่นสิ น่าสงสารจังเลย...จริงๆ แล้วมันก็เป็นสิทธิ์ของคุณจอมนะที่ต่อว่าหรือตำหนิเรา เพราะเขาเป็นเจ้านาย”
“แล้วคุณจอมจะบอกคุณรามไหมแก ฉันกลัวจัง”
“ไม่หรอก ขนาดเมื่อกี้คุณจอมยังไม่เอาเรื่องเราเลย คุณจอมไม่ฟ้องนายท่านหรอก”
“จริงสินะ”
“เราต้องกระจายเรื่องนี้ใหม่ ทุกคนจะได้เลิกนินทาว่าร้ายคุณจอมของเราผิดๆ อีก”
“ใช่ๆ คุณจอมของเราออกจะเป็นคนน่ารัก นิสัยดี จะมีนิสัยร้ายกาจแบบที่นังแก้วมันเล่าได้ยังไง”
“อีนี่มันตอแหลจริงๆ มันบอกฉันเองว่ามันโดนคุณจอมข่มขู่จะไล่ออก”
“คิดยังไงถึงใส่ร้ายเจ้านายที่น่ารักของเราได้”
หญิงสาวคนงานทั้งสองคนเดินมุ่งมั่นกลับไป โดยมีเจ้าจอมยืนยิ้มอย่างสะใจอยู่หลังต้นไม้ใหญ่เพื่อแบฟังสองสาวที่ตอนแรกนินทาเขา พอเขาแสดงละครนิดหน่อยก็เปลี่ยนมาสงสารเขา
ก็บอกแล้วไงว่าเจ้าจอมเป็นคนน่ารักของที่นี่เสมอ...
ใครๆ ก็รู้ว่าเจ้าจอมคือเทวดาตัวน้อยของรีสอร์ท เป็นที่รักของคนงานทุกคนๆ แต่พอมีเรื่องขึ้นมา คนเราก็มักจะเชื่อแต่ข่าวโคมลอย ออกจากปากคนแบบไม่มีหลักฐาน คนไม่ผิด...กลายเป็นคนผิดได้เพราะคำพูดของคน
“จริงเหรอ!! คุณจอมเนี่ยนะร้องไห้” เหล่าคนงานที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่ในโรงครัวของคนงาน นั่งฟังข่าวใหม่ที่สองสาวขานินทาของรีสอร์ทอย่างตกใจ
พอรู้ว่าทำเจ้านายเสียใจ ทุกคนที่เอาไปพูดนินทาในทางที่ไม่ดีก็รู้สึกเสียใจที่ทำเอาเทวดาองค์น้อยของพวกเขาต้องเสียใจร้องไห้
“คุณจอมบอกว่าจะไม่ออกจากห้องทำงานแล้ว กลัวจะมีคนแกล้งอีก”
“งั้นนังแก้วก็ใส่ร้ายคุณจอมน่ะสิ” เสียงคนงานคนหนึ่งตะโกนถาม เจ้าตัวที่ถูกพูดถึงก็สะดุ้งด้วยความตกใจไม่คิดว่าเรื่องมันจะเปลี่ยนเร็วแบบไม่ทันจะข้ามวันแบบนี้
อะไรกัน...ทำไมเรื่องมันกลับมาที่เธอได้
นี่หรือคือสิ่งที่เจ้าจอมบอกว่าเธอไม่มีทางจะสู้ได้
หญิงสาวลังเลไม่กล้าออกไปทานข้าวกับเพื่อนร่วมงานเพราะกลัวจะถูกซักหรือต่อว่า หากแต่คนที่มาหยุดอยู่หลังเธอก็ดังขึ้นมาก่อน
“ทำไมไม่ไปกินข้าวล่ะแก้ว”
“คือว่า...แก้วไม่กล้าเข้าไปน่ะพี่จักร”
“อ้าว? ทำไมล่ะ” จักรที่จะมาทานข้าวถึงกับทำหน้าสงสัย ไม่เข้าใจ มองใบหน้าที่แสนจะเศร้าสร้อยของเธอด้วยความเป็นห่วง
ไม่ได้ห่วงในฐานะอื่นใด แต่ห่วงในฐานะที่เห็นหน้ากันมาหลายปี
“คือ...มีคนพูดว่าฉันใส่ร้ายคุณจอมน่ะจ่ะ แต่ฉันพูดจริงๆ นะพี่จักร เมื่อวานคุณจอมจะไล่ฉันออกจากรีสอร์ทจริงๆ นะพี่ แต่ทำไมมีคนว่าฉัน ฮึก ใส่ร้ายคุณจอมล่ะ”
“พี่ก็ไม่เชื่อว่าคุณจอมจะพูด”
“งั้นพี่จักร ฮึก ก็หมายความว่าเชื่อว่าแก้วใส่ร้ายคุณจอมหรือจ้ะ” หญิงสาวมองคนตัวโตน้ำตาคลอ
“เปล่า...ไปเถอะ ไปกินข้าว” จักรดึงข้อมือของแก้วให้เข้าไปในโรงครัวด้วยกัน ทุกสายตาจับจ้องมาที่จักรและเธอ แต่จักรก็ปล่อยมือแก้ว แล้วเดินไปหาคนงานที่เป็นเพื่อนสนิททันที
“มาแล้วเหรอนังแก้ว!!” เสียงเรียกชื่อแก้วจากปากของคนงานหญิงที่เจ้าจอมเผลอไปได้ยินว่ากำลังนินทาเมื่อไม่กี่ชั่วดมงที่ผ่านมา
“เอ่อ...อะไรหรือจ้ะ”
“แกใส่ร้ายคุณจอมทำไม คุณจอมคนดีของเราไม่มีทางพูดไล่ออกใครต่อใครง่ายๆ หรอก เราก็อุตส่าห์หลงเชื่อ พอมาคิดดีๆ คุณจอมก็ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย จะไล่แกออกได้ยังไง”
“คือว่า ฉัน...” แก้วอึกอัก
ในใจว้าวุ่นเพราะทุกอย่างมันไม่เป็นไปตามที่เธอคิดเลยสักนิด
นี่หรือคือฤทธิ์ของเจ้าจอม...
“ฉันขอโทษจ้ะ อึก เมื่อวานฉันตกใจ กลัว เลยอาจตื่นตูมไปเอง ฉันไม่ได้เจตนาที่จะใส่ร้ายคุณจอมนะจ้ะ” แก้วก้มหน้าพูดทั้งน้ำตา เรียกความสงสารจากเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี แต่บางคนก็ไม่รู้สึกด้วย
“การตื่นตูมของเองมันส่งผลเสียหายต่อคุณจอมมาก”
“พอเถอะแตง แก้วมันสำนึกแล้ว” จักรรีบช่วยห้าม
“สำนึกได้ก็ดีพี่จักร แล้วก็อย่าทำตื่นตูมอีก คุณจอมของเราเป็นคนดี ยังไงแกก็ต้องไปขอโทษคุณจอมด้วย” หญิงสาวเจ้าของชื่อแตงเอ่ย
“ได้จ้ะ ฉันจะไปขอโทษคุณจอม” แก้วรับคำสั่งด้วยสีหน้าเศร้าๆ
เพียงแค่นี้ เหล่าคนงานทุกคนก็ไม่ได้ถือโทษโกรธอะไร เพราะแก้วไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ถ้ามันจะผิดก็ผิดกันทุกคนนั่นแหละ ที่ไปพูดถึงเจ้านายแบบไม่ดีอย่างนั้น
“งั้นก็จบแค่นี้แหละนะ แก้วมันก็ไม่อยากให้เรื่องเป็นแบบนี้หรอก” จักรว่า มองหน้าแก้วด้วยความรู้สึกสงสาร แต่ก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก เนื่องจากสิ่งที่แก้วพลาดมันทำให้เขาไม่พอใจ
ใครที่ทำให้เจ้าจอมดูไม่ดี ถูกพูดถึงเสียๆ หายๆ จักรโกรธทั้งนั้น แต่แค่ไม่แสดงมันออกมา...
“จ้ะ...แต่แกคงจะหาตัวคุณจอมยากหน่อยนะนังแก้ว เพราะคุณจอมเขาบอกกับฉันทั้งน้ำตาเองว่าจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับคนงานอีก จะอยู่ทำงานแต่ในออฟฟิสแล้วก็กลับบ้านพัก เพราะเรื่องที่คุณจอมถูกนินทาทำให้คุณเขาเสียใจมาก”
“ว่ายังไงนะแตง” จักรหันมามองคนพูดอย่างเครียดและตกใจ
คุณจอมของไห้?
เทวดาน้อยของเขาร้องไห้งั้นหรือ...
“ก็ตามนั้นแหละพี่จักร ถ้าคุณจอมไล่ใครออกง่ายๆ ขนาดนั้น ฉันกับนังส้มคงจะโดนไล่ออกไปแล้วเพราะดันไปพูดถึงคุณจอมในทางที่ไม่ดีจนคุณเขามาได้ยินขนาดนั้น”
“จริงหรือเปล่า จริงหรือเปล่าที่คุณจอมร้องไห้” ถามเสียงรีบร้อน
ในใจร้อนรนไปหมด กายเขายังอยู่ที่นี่ก็จริง แต่ใจมันลอยไปหาใครอีกคนที่เป้นเจ้าของหัวใจเขาแล้ว
“จริงจ้ะ!”
“วันนี้พี่ไม่กินข้าวนะ พวกมึง กูไปก่อนนะ”
ไม่สนใจอะไรแล้ว...ร่างสูงของจักรวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันทีด้วยความเป็นห่วง จักรวิ่งหน้าตั้งไปสถานที่ที่เขารู้จักดีแต่ไม่เคยได้เข้าไป เพราะมันไม่ใช่ที่ทำงานของเขา ไม่ใช่ที่ๆ เขาจะเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้า
แต่วันนี้เขาจะไม่สนเรื่องนั้นอีกต่อไป!!
เขาตรงไปที่ออฟฟิสของเจ้าจอมพรวดพราดเข้าไปในห้องโดยที่เจ้าของไม่ได้อนุญาต พอไปถึงก็พบว่าเจ้าจอมกำลังนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ จักรทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองอย่างเจ็บปวดเหลือเกิน
“คุณจอม...” เรียกชื่อคนตรงหน้าเสียงแผ่ว
“จักร ฮึก...”
“โธ่...คนสวยของจักร ร้องไห้ทำไมครับ”
“ทุกคนว่าฉัน ฮึก ทุกคนด่าฉัน...ฮือ ฉันไม่ได้ทำ” พอเห็นเจ้าจอมร้องไห้หนักขนาดนี้ จักรก็ไม่มีอะไรต้องคิดมากอีกต่อไป เดินไปคว้าคนตัวเล็กมาโอบกอดไว้อย่างแนบแน่น
จักรไม่เคยกล้าสัมผัสตัวของเจ้าจอม แต่วันนี้เขาทำ ไม่รับรู้ ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ขอให้เขาได้เป็นคนที่ปลอบโยน ได้เป็นคนที่เจ้าจอมพึงพา
นั่นคือสิ่งที่จักรต้องการตอนนี้
“ไม่ร้องนะครับ ผมจะปกป้องคุณเอง ไม่มีใครว่าคุณแล้วครับ ไม่มีแล้ว” มือหยาบลูบกลุ่มผมบางอย่างปลอบประโลม
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะปกป้องคนตัวเล็กนี้เอาไว้เอง...
“ทุกคนเห็นฉันเป็นมารร้าย ฮือ...”
“ไม่จริงครับ ไม่จริง คุณจอมเป็นคนที่แสนดีมากๆ”
ร่างเล็กแสยะยิ้มกับอกแกร่งของจักร หัวเราะในใจอย่างผู้กุมชัยชนะ
ก็บอกแล้วว่าอย่าคิดลองดีกับเจ้าจอม...เพราะคนที่คิดลองดีกับเขา มันจะเจอจุดจบแบบนี้กันทุกราย...
นี่ยังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ...
“นายต้องเชื่อฉันนะ ไม่มีใครเชื่อฉัน นายต้องเชื่อฉันนะ” เงยหน้าสบตากับดวงตาคมของจักรอย่างขอร้อง ใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำไปด้วยน้ำตา ปากแดงๆ หน้าขาวๆ ทุกอย่างมันดูเย้ายวนใจของจักรเหลือเกิน
ทั้งๆ ที่อยู่ในสถานการณ์ที่คุณจอมกำลังเครียด กำลังเสียใจ แต่มึงก็ยังมาคิดอกุศลอยู่อีก ใช่ไม่ได้เลยจริงๆ นะมึงไอ้จักร!
“ครับ ผมเชื่อคุณจอม ไม่ว่ายังไงไอ้จักรก็เชื่อคุณจอม”
“ขอบคุณนะจักร ฮึก ขอบคุณนะ”
“ด้วยความเต็มใจครับคุณจอม หยุดร้องนะครับ ใบหน้านี้ไม่เหมาะกับน้ำตาเลยสักนิด”
เป็นประโยคที่ทำให้เจ้าจอมรู้สึกอบอุ่นและใจเต้นแรงมาก แม้ว่ามันจะเป็นน้ำตาและความรู้สึกที่โกหก แต่ความอบอุ่นนี้ หัวใจที่เต้นแรงนี้ สาบานได้เลยว่ามันคือของจริง
50%
มาแล้วค่า อย่าลืมเม้นท์ด้วยนะคะ ตรงไหนมีคำผิด ตรงไหนเรียบเรียงแปลกๆ เดี๋ยวยูกิจะแก้ไขนะคะ ขอบคุณค่า แล้วเจอกันครึ่งหลังนะคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki/