โทรศัพท์สั่นเบา ๆ เมื่อผมวางมันลงบนโต๊ะญี่ปุ่นในห้องได้สักพัก เป็นเบอร์ไม่โชว์อีกแล้ว ใจผมเต้นอยู่พอประมาณเมื่อเห็นว่าเป็นใครโทรเข้ามา ผมมองเบอร์ที่ไม่ปรากฎแล้วชักสงสัยว่าเบอร์ที่คุณคีนให้ผมไว้นั้นมันใช้งานได้จริงหรือเปล่า เพราะไม่เคยเห็นเขาใช้เบอร์นี้โทรหาผมเลยสักครั้ง
“ครับ”
“คุณเลิกงานหรือยังครับ”
“เลิกแล้วครับ ผมเพิ่งกลับมาถึงห้องเมื่อตะกี้นี่เอง” ผมบอกเขาให้ครบ ไม่งั้นคงได้เล่นยี่สิบคำถามแน่
“ขอโทษด้วย วันนี้ผมไม่ได้แวะเข้าไปหา มีเรื่องยุ่ง ๆ นิดหน่อย”
“ไม่เป็นไรครับ กาแฟดื่มที่ไหนก็ได้ แต่คุณก็อย่าดื่มเยอะเกินไปนะครับ” ผมไม่อยากเตือนเขาหรอกแต่มันอดไม่ได้เพราะเขาดื่มกาแฟหนักมากจริง ๆ นี่นา
“วันนี้ผมดื่มกาแฟไปสองแก้ว”
“ลดลงมาก็ดีแล้วครับ”
“ผมก็อยากลดนะ แต่เวลาที่ต้องใช้ความคิดมันก็เผลอลืมตัวเรียกหากาแฟอยู่เรื่อย วันนี้ที่ผมดื่มกาแฟน้อยเพราะกาแฟไม่อร่อย ผมเลยไม่อยากดื่มอีก”
“ทำไมครับ คุณเคนซื้อกาแฟมาไม่ถูกใจคุณเหรอครับ”
“ไม่ใช่ครับ เขาก็ซื้อร้านเดิมให้ผม”
“แล้ว?”
“แต่คนที่เอากาแฟมาให้ผมคือเคน กาแฟมันเลยไม่อร่อย”
“คุณเคน? เกี่ยวอะไรกับคุณเคนเหรอครับ” ผมเริ่มงง คุณคีนจะสื่ออะไร คุณเคนคือคนที่ไปซื้อมาให้ กาแฟร้านเดิม
ผมได้ยินเสียงเขาหัวเราะเบา ๆ เขาไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มนอกจากพูดประโยคใหม่ขึ้นมา
“ผมจะคิดเสียว่าคุณไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองก็แล้วกันนะครับ”
“เปล่าสักหน่อย” ผมบอกเขา หัวใจเต้นรัวโครมครามไม่หยุด เร็วอีกนิดน่ากลัวว่าจะหลุดออกมาจากอกแล้ว ผมเปลี่ยนเรื่องคุยกับเขาดีกว่าจะได้ไม่เข้าตัวมากไปกว่านี้ “เอ่อ..แล้วคุณเลิกงานแล้วเหรอครับ”
“ยังเลยครับ ผมได้พักสิบห้านาทีเดี๋ยวจะกลับเข้าไปประชุมพรรคอีก”
“เหนื่อยแย่เลยนะครับ”
“ชินแล้ว แต่อีกไม่นานผมคงจะว่างแล้ว”
“คุณจะไม่เป็นนักการเมืองแล้วใช่ไหมครับ เอ่อ..ผมเคยได้ยินข่าวว่าคุณจะลาออกจากพรรค” ผมเดาเอาว่าเขาน่าจะว่างเพราะเลิกเล่นการเมือง
“ที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยเรียกตัวเองว่านักการเมืองครับ ผมเป็นแค่คนงานคนหนึ่งที่คอยช่วยงานในพรรคเท่านั้น”
“ครับ ถ้าเลิกงานแล้วคุณจะกลับเลยหรือเปล่าครับ” ผมชวนเขาคุยเรื่องอื่นเมื่อคิดได้ว่าเขาน่าจะตอบผมง่ายขึ้นถ้าไม่เกี่ยวกับเรื่องทางการเมือง
“อยากให้ผมไปรับที่ห้องไหม แต่คงจะดึกหน่อย”
“วันหลังได้ไหมครับ ผมอยากทำโปรเจ็กต่อให้จบบทก่อนน่ะครับ กลัวไม่ทันเดดไลน์ ศุกร์นี้ต้องอัปเดตอาจารย์แล้วครับ”
“อืม จริงสิ ผมก็ลืมไปว่ากำลังคุยกับนักศึกษาปีสี่อยู่”
“ไม่แซวสิครับ อีกไม่กี่เดือนผมก็เรียนจบแล้ว”
“ก่อนจบก็เริ่มไปสมัครงานบ้างนะครับ”
“ครับ ผมก็กำลังดู ๆ อยู่ บริษัทที่เคยไปฝึกงานก็ติดต่อกลับมาเหมือนกันครับ”
“ลองเลือกดูนะครับ มีอะไรให้ผมช่วยก็บอก ยกเว้นฝากงานให้ อันนี้ผมไม่ช่วย ผมอยากให้เด็กของผมโตขึ้นมาอย่างมีประสิทธิภาพ” เขาหัวเราะก่อนจะพูดประโยคสุดท้าย
“รู้ครับ ผมเองก็ไม่ชอบระบบเส้นสายเหมือนกัน”
“เอาละ ผมต้องกลับเข้าไปข้างในแล้ว”
“เดี๋ยวครับคุณคีน” ผมท้วงเขาไว้ก่อนที่ปลายสายจะวาง
“ครับ?”
“ถ้าไม่รบกวนคุณเกินไปนัก ถึงบ้านแล้วส่งข้อความมาบอกผมหน่อยได้ไหม”
“ทำไมครับ” ผมไม่ควรจะบอกเขาจริง ๆ อยากตบปากตัวเองด้วย เขารู้อยู่แล้วว่าทำไมแต่ก็ยังย้อนถามผม
“คือ..”
“เรื่องในใจถ้าไม่บอก ผมก็จะไม่รู้นะครับ”
“เอ่อ..ผม”
“บอกผมให้ชื่นใจมีแรงก่อนไปทำงานหน่อยได้ไหม”
ในเมื่อเขาพูดถึงขนาดนี้ ถ้าผมไม่พูดคงจะใจร้ายเต็มที ผมตั้งสติรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไป
“ถ้าถึงบ้านแล้วช่วยส่งข้อความมาบอกผมหน่อยนะครับ” ผมทวนคำพูดเดิมอีกครั้งก่อนจะพูดประโยคถัดมา “ผมเป็นห่วงครับ”
“เก่งมากครับเด็กดีของผม” เขาปิดท้ายด้วยประโยคที่ทำให้ผมใจเต้นอีกแล้ว
หน้ายังไม่หายเห่อร้อน ใจผมยังเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ โทรศัพท์กลับสั่นขึ้นมาอีก ผมนึกว่าคุณคีนอาจจะลืมบอกอะไรผมหรือเปล่า จึงยื่นมือออกไปเตรียมจะกดรับเพราะกลัวเขารอนาน แต่พอเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามา มือผมถึงกับชะงัก หน้าที่เคยร้อนกลับเย็น ใจที่เต้นเร็วกลับช้าลง ช้าลงเรื่อย ๆ พร้อมกับผมที่กดรับสายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ครับแม่”
“พี่เปล ปิงเองนะ” พอเป็นเสียงน้องชายทำให้ผมหายใจโล่งขึ้นกว่าเดิม
“ปิงเหรอ อ้าว โทรมาได้ไง นี่เบอร์แม่ไม่ใช่เหรอ โทรมาก็ดีแล้ว พี่เองคิดจะโทรหาปิงอยู่พอดี”
“อื้อ โทรศัพท์ปิงไม่มีตังอะ ปิงเลยเอาโทรศัพท์แม่มาโทร พี่เปล..ปิงรู้เรื่องหมดแล้วนะ”
“รู้ว่า?” ผมลองหยั่งเชิงถามน้อง ไม่รู้ว่าไอ้ที่บอกว่ารู้ของปิงเนี่ย เขารู้มากน้อยแค่ไหน
“ก็รู้ว่าพี่คอยส่งเงินมาให้พ่อแม่แล้วก็ปิงน่ะสิ ปิงไม่เคยรู้เลย แม่บอกว่าพี่เปลไม่ค่อยมีตัง โทรมาขอเงินบ่อย ๆ แม่เลยไม่อยากให้ปิงโทรไปกวนพี่”
“อ่อ..เหรอ แล้วรู้อะไรอีกไหม” การที่ผมไม่เคยบอกน้อง หวังดีกับน้อง กลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง
“เรื่องที่แม่จะเอาปิงไปทำงานที่อื่นด้วย”
“อืม”
“ปิงจะโทรหาพี่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่ปิงไม่มีตัง เลยรอแม่เผลอก่อนถึงเอาโทรศัพท์มาโทรได้”
“เมื่อวานทำไมล่ะ”
“มีผู้ชายตัวสูง ๆ ใหญ่ ๆ สองคนมาที่บ้านเรานะพี่ แล้วพาตำรวจมาด้วย พ่อกับแม่กลัวมาก ปิงก็กลัวมากนึกว่าพ่อแม่ไปทำอะไรไม่ดีเข้า ตกใจกันทั้งบ้านเลย” ปิงเล่ามาอย่างรวดเร็ว ผมนึกภาพว่าลำพังแค่คุณคีนกับคุณเคนไปที่บ้านผมหลังเล็กนั่น ก็แทบจะไม่พอให้เขายืนแล้ว ยังพาตำรวจไปอีก คงเบียดเสียดจนไม่เหลือพื้นที่ว่างให้เดินเลยล่ะ
“พ่อแม่ทำอะไร แล้วคนที่มากับตำรวจนั่นเป็นใคร พูดอะไรกับพ่อแม่บ้าง”
“ปิงไม่รู้ คือปิงไม่รู้ว่าพวกเขามาที่บ้านเราตั้งแต่เมื่อไหร่เพราะปิงไปช่วยงานที่บ้านข้าง ๆ เลยไม่รู้เขาพูดอะไรกันบ้างแล้ว ปิงมาทันแค่เขาเอาสัญญามาให้พ่อกับแม่เซ็น แล้วบอกว่าห้ามขายปิงกับพี่เปลอีก ถ้าไม่หยุด เรื่องจะไม่จบลงแค่นี้”
“อือ แล้วไงอีก” ผมถามต่อ
“พอพวกเขากลับไป แม่กับพ่อไล่ปิงให้ออกไปรอข้างนอกบ้านก่อน ปิงได้ยินเสียงทะเลาะกันรุนแรง ปิงกลัวอะพี่เปล”
“ไม่ต้องกลัวนะ ไม่มีอะไรหรอก”
“พี่เปล..ปิงอยากรู้” ปิงทำเสียงไม่สบายใจ
“อยากรู้อะไร”
“ที่พวกเขาบอกว่าห้ามขายปิงกับพี่เปลอีก มันคือการขายอย่างที่คนในหมู่บ้านชอบเอาลูกไปขายใช่ไหมพี่”
“ปิง..” ผมไม่รู้จะบอกน้องยังไงดี ความฝันของเขาคงพังทลายที่พ่อแม่ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาเคยวาดไว้
“ปิงไม่เคยรู้เลย พ่อแม่ก็เคยเอาพี่เปลไปขายมาก่อนใช่ไหม”
“ไม่เป็นไรนะปิง ไม่ต้องร้องไห้ ตอนนั้นพี่ไม่เป็นไร”
“พี่เปล ปิงขอโทษนะที่ไม่เคยช่วยอะไรพี่ได้เลย”
“ขอโทษพี่ทำไมเล่า ตั้งใจเรียนให้จบก็พอ แล้วเลือกมหา’ลัยได้ยัง” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากให้ปิงต้องรู้สึกไม่ดี
“ปิงเรียนไม่ค่อยเก่ง แต่ปิงไปอยู่กับพี่ที่กรุงเทพฯ ได้ไหม ปิงไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว”
“ได้สิ แต่พี่อยากให้ปิงอดทนเรียนให้จบม.หกก่อนเพราะถ้ามาตอนนี้ปิงต้องเรียนซ้ำอีกรอบ”
“อือ ปิงจะอดทนเรียนให้จบ ถ้าหากไปตอนนี้ก็จะเพิ่มภาระให้พี่อีก”
“ถ้าไม่ไหวหรือพ่อแม่ทำอะไรอีกให้รีบโทรบอกพี่รู้ไหม”
“ได้”
“แล้วมีเงินใช้ไหม”
“มี ๆ ตอนที่คนตัวสูง ๆ จะกลับอะ เขาให้เงินปิงไว้ โชคดีตอนนั้นพ่อแม่ไม่เห็น เขาบอกว่าให้ปิงเก็บไว้ใช้เผื่อฉุกเฉิน”
“เก็บดี ๆ นะ อย่าไปทำหายที่ไหนล่ะ”
“อืม ขอบคุณนะพี่เปลที่ช่วยปิงมาตลอด”
“ไม่ช่วยน้องแล้วจะให้พี่ช่วยใคร จริงไหม”
ก่อนวางสายผมถามปิงเรื่องที่คุณคีนกับคุณเคนไปที่บ้านอีกแต่ไม่ได้ความเพิ่มนอกจากที่ปิงเล่ามาในทีแรก ปิง บอกว่าผู้ชายตัวสูงใหญ่พาตำรวจมาที่บ้าน ซึ่งตรงกับที่คุณคีนเล่าให้ผมฟัง แต่เขาไม่เห็นพูดถึงเรื่องสัญญาที่ให้พ่อแม่ผมเซ็นเลย
สัญญาอะไร?
=============================================
เจอคำผิดโปรดแจ้ง เจอประโยคแปลกโปรดแจ้งค่า บอกมาได้เลยน้าาาา ยินดีมากค่า
ขอบคุณทุกคอมเมนต์และทุกการกำลังใจจากทุกท่านมากๆ เลยนะคะ ขอบคุณค่า รักกกกกกก
ปล โค้งสุดท้ายแล้วค่า
ใครเล่นทวิตไปทวง บ่น หรือชมก็ได้น้า ที่แทกนี้เลย #พนักงานดูแลเตียง