กุญแจดอกที่ 5
เมื่อเรือมาจอดเทียบท่าที่เกาะแล้วนับตังค์กับมีคุณก็เข้ามาขอบใจพญาสำหรับสิ่งที่พญามอบให้ก่อนจะขอตัวกลับ ทริปฮันนิมูนนี้สร้างความอิ่มเอมใจให้กับคนทั้งคู่รวมถึงหนูด้วงด้วย พญาซึ่งเป็นโต้โผใหญ่ในการจัดทริปนี้ก็พลอยดีใจที่เห็นคนที่ตนหลงรักมีความสุขในสิ่งที่ตั้งใจมอบให้ พญาคิดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าตัวเองจะต้องทำหน้าชื่นทั้งที่อกตรมหากต้องเห็นนับตังค์กับมีคุณแสดงความรักต่อกันบนเรือเพราะพื้นที่แค่นั้นจะหลบไปตรงไหนก็ต้องเห็นอยู่ดี แต่พอเอาเข้าจริงพญากลับรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เจ็บปวดเสียใจอย่างที่คิดแถมยังรู้สึกดีที่เห็นนับตังค์มีความสุข มันเป็นความรู้สึกที่พญาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีต่อคนอื่นได้นั่นคือความรู้สึกเป็นผู้ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เมื่อนับตังค์กับมีคุณพาหนูด้วงกลับบ้านแล้วพญาก็ออกมายืนสูบบุหรี่อยู่ที่หลังสำนักงานของตัวเองและนึกถึงคำพูดของนับตังค์ที่ทิ้งเอาไว้ก่อนไปว่าให้พญาทบทวนความรู้สึกของตัวเองให้ดีว่าสองคืนที่ผ่านมาพญานอนกอดเทียมฟ้าเพราะรู้สึกอย่างไรกันแน่
“นาย ไอ้ก้านไม่เคยเห็นนายยืนยิ้มคนเดียวแบบนี้มาก่อนเลย แสดงว่าเมื่อคืนนี้นาย....” ไอ้ก้านพูดค้างเอาไว้พร้อมกับรอยยิ้มที่มีเลศนัยจนพญาต้องรีบขัดมันก่อนที่มันจะคิดไปไกลกว่านี้
“พอเลยมึง กูไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”
“อมพระมาพูดไอ้ก้านก็ไม่เชื่อ ลองนายได้อยู่สองต่อสองกับคุณชายน้องแบบนั้นแล้วมาบอกว่าไม่ได้ทำอะไร ไอ้ก้านยอมเอาหัวปักพื้นเลย”
“มึงเอาหัวไปปักพื้นได้เลย”
“ไม่ได้ทำอะไรคุณชายน้องจริงเหรอนาย” ไอ้ก้านทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ
“ก็ทำเหมือนกัน”
“นั่นแน่”
“หึ ที่บอกว่าทำไม่ใช่เรื่องอย่างว่าหรอกโว้ย กูแค่ลองทดสอบอะไรบางอย่างอยู่ดีๆ คุณชายของมึงเกิดคึกลุกมาสอนกูเรื่องที่กูต้องพูดกับชาวตลาด บังคับให้กูพูดตามเป็นฉากๆ สอนยันเช้าจนตากูดำเป็นหมีแพนด้าแล้วมึงไม่เห็นเหรอ” พญาส่ายหน้าเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน หลังจากที่ตัวเองจูบคุณชายผู้สูงศักดิ์อย่างดูดดื่มแล้วนอนกอดกันแบบเนื้อแนบเนื้อเพื่อแบ่งปันไออุ่นกันอยู่ดีๆ ฝ่ายนั้นก็ลุกพรวดขึ้นมาสอนเรื่องที่เขาจะต้องพูดกับชาวตลาด เขาต้องลุกตามมาแบบงงๆ อารมณ์เคลิบเคลิ้มที่กำลังไต่ระดับก็หายวับไปกับตาทันที
“ฮ่าๆๆๆๆ คุณชายน้องนี่แน่นอนจริงๆ นี่แหละนางสิงห์ของเกาะใบไม้คราม” ไอ้ก้านหัวเราะชอบใจ จะไม่ให้มันชอบใจได้อย่างไรในเมื่อมันไม่เคยเห็นใครสักคนสามารถหยุดอารมณ์เรื่องอย่างว่าของนายพญาได้เลยสักครั้ง
“ขำอะไรกันเหรอครับ” คนที่ไอ้ก้านนึกถึงเดินเข้ามาพร้อมกับคำถามพอดี
“ไม่มีอะไร” พญารีบเตะก้นไอ้ก้านเบาๆ ให้มันหยุดขำก่อนจะรีบทิ้งบุหรี่ลงพื้นแล้วขยี้ให้ดับ
“เราต้องไปที่ตลาดแล้ว พี่พร้อมไหม” เทียมฟ้าถามพญาหลังจากที่เตรียมเอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“สอนกูทั้งคืนขนาดนั้นกูก็คงต้องพร้อมแล้วล่ะ” พญาเริ่มขยาด หากตอบว่าไม่พร้อมสงสัยจะโดนบังคับให้ท่องกฏอะไรต่ออะไรอีกแน่ๆ
“พี่ไม่ต้องพูดตามที่น้องบอกทุกคำหรอกครับ น้องแค่อยากให้พี่จำได้เลยให้ท่องไว้ก่อน มันเป็นกฎระเบียบที่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดต้องปฏิบัติตาม พี่พูดในแบบของพี่ได้เลย”
“มึงพูดไปเลยไม่ได้เหรอวะ กูไม่ชอบพูดอะไรต่อหน้าคนเยอะๆ”
“ถ้าน้องทำให้คนเชื่อฟังน้องได้เท่าพี่..น้องก็พูดแทนแล้ว คนในตลาดไม่มีใครฟังน้องหรอกครับ ต้องเป็นพี่เท่านั้นถึงจะเปลี่ยนความไม่เป็นระเบียบในตลาดได้ พี่เป็นคนมีอิทธิพลที่สุดแล้วครับ”
“เฮ้อ...ก็ได้ มึงมันเป็นแค่กระต่ายตัวเล็กๆ ใครจะไปฟังมึง” พญายกยิ้มมุมปากก่อนจะเอามือไปวางบนศีรษะของเทียมฟ้าแล้วยีผมเบาๆ ไอ้ก้านถึงกับต้องกลั้นขำเมื่อเจ้านายของมันโดนกระต่ายอย่างคุณชายน้องใช้คำยกยอมาทำให้เจ้าป่าใจอ่อนได้
“ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลยนะ” เทียมฟ้าคว้ามือของพญาที่วางบนศีรษะของตัวเองลงมาจับและบีบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ พญาหันมายักคิ้วให้เทียมฟ้าก่อนจะเดินนำออกไป
เช้านี้ชาวตลาดมารวมตัวกันมากกว่าที่เทียมฟ้าคิดเอาไว้คงเพราะทุกคนกลัวว่าพญาจะไล่ออกจากตลาดจริงๆ ถึงได้มากันครบขนาดนี้ เจ๊จิน จุ๋มและโจ้นั่งอยู่แถวหน้าสุดพร้อมกับส่งสายตาไม่เป็นมิตรให้กับเทียมฟ้าอย่างเปิดเผย ก้านเอาเอกสารที่เทียมฟ้าเตรียมมาแจกจ่ายให้กับผู้ที่มาร่วมประชุมทุกคน เมื่อทุกคนได้อ่านก็เริ่มส่งเสียงอื้ออึงกันยกใหญ่
“นายพญาคะ พวกเราก็อยู่กันมาเป็นปกติดีไม่เคยมีปัญหาอะไร ทำไมต้องมาทำอะไรให้มันยุ่งยากด้วยคะ” แม่ค้าคนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหลังเจ๊จินเอ่ยถามด้วยความไม่พอใจเมื่อได้อ่านเอกสารในมือเสร็จแล้ว
“ของที่เราขายมันก็มีคุณภาพอยู่แล้ว เรารับจากชาวประมงที่สะพานปลาต้องมาตรวจสอบทำไมกันอีก เราค้าขายหามรุ่งหามค่ำถ้ามัวมาโดนตรวจก็คงไม่ได้ขายของกันพอดี” แม่ค้าอีกคนก็ที่อยู่ในกลุ่มของเจ๊จินรีบพูดต่อ
“ส่วนเรื่องที่มีคนกล่าวหาว่าเจ๊เรียกเก็บค่าส่วย ไหนคะหลักฐาน” เจ๊จินเอ่ยขึ้นมาบ้าง
“นั่นสิครับนาย ตลาดสดมันก็ต้องมีการวางของหน้าร้านกันบ้าง จะให้เป็นระเบียบเหมือนตามห้างไม่ได้หรอก” โจ้รีบออกความเห็นเมื่อเห็นว่าพญาทำท่าลังเล
“นายลองถามพ่อค้าแม่ค้าพวกนี้เลยดีกว่าว่าใครเห็นด้วยกับกฎพวกนี้บ้าง นายกำลังให้คนนอกมาป่วนตลาดที่พวกเราเคยอยู่กันมาแบบสงบนะคะ” จุ๋มมองไปทางเทียมฟ้าก่อนจะกวาดสายตาไปยังพ่อค้าแม่ค้าคนอื่นๆ ที่มาร่วมประชุม พ่อค้าแม่ค้าที่มาประชุมต่างก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาเพราะยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกอยู่ฝ่ายไหนดีที่จะทำให้ตัวเองไม่เดือดร้อน
“ตลาดนี้เป็นตลาดใหญ่ เป็นหน้าเป็นตาของเกาะ ตอนนี้เกาะใบไม้ครามกำลังเป็นที่จับตามองของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ คุณภาพสินค้าที่พวกคุณบอกว่าดีถ้าทางราชการเข้ามาตรวจสอบแล้วพบว่ามันไม่ได้มาตรฐาน มันไม่ใช่แค่ตลาดที่จะถูกปิดแต่เกาะจะเสียชื่อไปด้วย มันจะเสียหายกับธุรกิจอื่นๆ บนเกาะทั้งหมด” เทียมฟ้าเห็นว่าพญายังไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลยเป็นฝ่ายอธิบายเอง
“ใครจะกล้ามาตรวจตลาดของนายพญา คุณไม่รู้รึไงว่านายพญาเป็นใคร” โจ้ลุกขึ้นยืนจ้องหน้าเทียมฟ้า
“ผมเห็นด้วยว่าควรทำตามกฎ ยิ่งนายพญาเป็นคนดังยิ่งต้องทำให้ถูกต้องไม่อย่างนั้นคงขายขี้หน้าคนแย่ถ้ารู้ว่าตลาดของนายพญาไม่ได้มาตรฐาน” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจนทุกคนหันไปมอง เจ้าของเสียงคือหนุ่มใหญ่ผู้เป็นหุ้นส่วนร้านอาหาร ‘มีคุณอนันต์’ ที่อยู่อีกฝากหนึ่งของเกาะ ร้านมีคุณอนันต์ถือว่าเป็นร้านที่สร้างชื่อลำดับต้นๆ ให้แก่เกาะใบไม้ครามแห่งนี้ และเจ้าของเดิมที่เสียไปแล้วก็ยังเป็นที่นับถือของผู้คนบนเกาะอีกด้วย
“พี่ช้วน” เทียมฟ้ายิ้มออกเมื่อเห็นว่า ‘ช้วน’ หรือ ‘ฌอน’ พ่อเลี้ยงของมีคุณเข้ามาช่วยสนับสนุนความคิดของตน
พี่ช้วนหรือปู่ช้วนของหนูด้วงเป็นหนุ่มใหญ่ลูกครึ่งไทยเยอรมันวัยเกือบหกสิบปีแต่ยังดูดีมากจนคนเดาอายุจริงไม่ถูกเลยสักคน อดีตเคยเป็นเชฟและนักวิจารณ์อาหารชื่อดังมาก่อนจะหนีจากสังคมแล้วมาทำตัวเป็นคนจรจัดอยู่บนเกาะแห่งนี้ จนกระทั่งเกิดเรื่องราวมากมายที่ทำให้ช้วนต้องเผยตัวตนและแสดงความสามารถออกมาให้ทุกคนได้เห็น สุดท้ายแล้วช้วนก็ได้กลับมาเป็นเชฟอีกครั้งและได้แต่งงานกับมารดาของมีคุณ ช้วนเป็นอีกคนหนึ่งที่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดให้ความรักและนับถือเพราะเจ้าตัวเป็นคนอัธยาศัยดีและมีน้ำใจ
“ฉันเห็นด้วยกับคุณช้วน” แม่ค้าคนหนึ่งเห็นว่าช้วนสนับสนุนเทียมฟ้าก็เลยตัดสินใจเลือกบ้าง
“คุณไม่ใช่คนในตลาด ไม่มีสิทธิออกความเห็น” จุ๋มรีบแย้งเมื่อเห็นว่าช้วนเข้ามายุ่ง
“แต่ผมคือลูกค้าของพวกคุณ เสียงของลูกค้าย่อมดังเสมอ” ช้วนย้อนจุ๋มกลับไป
“อย่าเสือกได้ไหม แกมันก็แค่ขอทานที่ตกถังข้าวสาร” จุ๋มด่ากลับเพราะใครๆ ต่างก็นินทากันว่ามารดาของมีคุณเอาขอทานอย่างช้วนมาเป็นสามีจนช้วนได้ดิบได้ดีได้เป็นถึงหุ้นส่วนร้านมีคุณอนันต์ที่โด่งดัง
“รู้สึกว่าครอบครัวนี้เก่งเรื่องดูถูกคนจังนะครับ คุณรู้ไหมว่าคนที่คุณชี้หน้าว่าเขาเป็นขอทานเขาหาเงินด้วยความสุจริตต่างจากคนบางคน” เทียมฟ้ารู้สึกทนไม่ได้ที่เห็นจุ๋มดูถูกช้วน คราวที่แล้วโจ้ก็ดูถูกก้านจนเทียมฟ้าห้ามความโกรธไม่อยู่ไปครั้งหนึ่งแล้ว
“นี่แก! แกหมายถึงใคร” เจ๊จินหันไปตวาดเทียมฟ้า โจ้รีบคว้ามือแม่ของตัวเองเอาไว้เพราะรู้ว่าเทียมฟ้าไม่ธรรมดา คราวก่อนโจ้โดนซัดก้านคอจนลงไปกองกับพื้น นึกแล้วยังสยองไม่หายเลยกลัวว่าแม่จะโดนเทียมฟ้าทำร้ายเหมือนตัวเอง
“เราก็เห็นด้วยกับการตรวจสอบทั้งคุณภาพสินค้าและเรื่องเก็บค่าหัวคนที่จะมาเช่าร้านเช่าแผงในตลาดครับนายพญา คนบางคนมันรีดเลือดกับปูมานานแล้ว” เฮียอ้วนเจ้าของเขียงหมูและแปะกิมเจ้าของร้านผลไม้ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเจ๊จินพูดแทรกขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเจ๊จินกำลังกินปูนร้อนท้อง
“แกเห็นลูกฉันได้ดีกว่าลูกของแกใช่ไหมไอ้อ้วน ไอ้กิม อิจฉาฉันถึงได้ใส่ความกันแบบนี้” เจ๊จินหันไปตวาดเฮียอ้วนกับแปะกิมเพราะเกลียดที่ลูกชายของเฮียอ้วนและแปะกิมเป็นคู่แข่งกับโจ้ลูกชายของเธอ
“อั๊วไปใส่ฟามอะไรลื้ออาจิน อั๊วยังไม่ได้เอ่ยชื่อลื้อเลยน้า ร้อนตัวซะเลี้ยว เลี้ยวอั๊วจะไปอิจฉาลื้อทำไมเพราะลูกของลื้อก็ตกกระป๋องไปเลี้ยวเหมือนกัน ฮ่าๆ” แปะกิมส่งเสียงหัวเราะชอบใจ
“ไอ้แปะ” โจ้ชี้หน้าแปะกิมด้วยความโมโห
“หยุดได้แล้ว นายไม่มีสิทธิมาหาเรื่องใครในที่ประชุม” เทียมฟ้าตะโกนห้ามเมื่อเห็นโจ้ทำท่าจะเข้าไปหาเรื่องแปะกิม
“มึงอย่ายุ่ง” โจ้หันกลับมาหาเทียมฟ้าแทน
“เอายังไงดีครับนาย” ไอ้หนามหันไปถามนายหัวพยนต์ที่มายืนแอบดูอยู่สักพักโดยที่พญาไม่รู้ เมื่อเห็นเจ้านายของมันยังยืนนิ่งไอ้หนามเลยได้แต่มองไปที่หม่อมราชวงศ์เทียมฟ้าด้วยความเป็นห่วง ไอ้หนามรู้ดีว่าหม่อมราชวงศ์ผู้นี้มีความสำคัญกับครอบครัวภูมิเทพมาก หากหม่อมราชวงศ์เทียมฟ้าถูกทำร้ายร่างกายต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ แต่มันไม่เข้าใจว่าทำไมนายหัวพยนต์ถึงยังใจเย็นอยู่ได้
“ไอ้โจ้! ถ้ามึงแตะตัวผู้ชายคนนี้มึงได้ลงไปนอนเล่นในทะเลแน่” เสียงที่ทำให้ไอ้หนามต้องหันกลับไปมองยังกลุ่มผู้ที่มาประชุมอีกครั้งก็คือเสียงของนายพญานั่นเอง
“นาย...” โจ้รู้สึกเสียหน้าที่โดนพญาตวาดใส่
“พวกมึงฟังกันไว้ให้ดี เอกสารในมือของพวกมึงคือสิ่งที่พวกมึงต้องปฏิบัติ กูทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นมานานเกินไปแล้ว อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่ามีบางคนทำเลวระยำอะไรเอาไว้บ้าง พวกมึงจะเลวที่ไหนก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ที่ตลาดภูมิเทพแห่งนี้ ที่แล้วมากูจะถือว่ากูไม่รอบคอบเอง แต่จากวันนี้ไปทุกอย่างจะต้องโปร่งใส จะไม่มีการเรียกเก็บค่าอะไรเพิ่มทั้งนั้น ถ้ามีอะไรที่อยากร้องเรียนก็มาร้องเรียนที่สำนักงานของกูได้เลย แล้วถ้ามีลูกค้ามาร้องเรียนกูว่าสินค้าของใครไม่มีคุณภาพกูก็จะจัดการพวกมึงเหมือนกัน คราวนี้กูเอาจริงบอกเอาไว้ก่อนเลย”
“นาย...นายครับ” โจ้พยายามทำเสียงออดอ้อน
“อีกอย่างหนึ่งนะ ผู้ชายคนนี้คือหม่อมราชวงศ์เทียมฟ้า เขาจะมาช่วยงานกู จะมาช่วยทำให้ตลาดภูมิเทพของเราดียิ่งขึ้นไป เขามีอำนาจและมีสิทธิ์ทุกอย่างเท่าที่กูมี ถ้าเขาบอกว่าเป็นนกพวกมึงก็ต้องบอกว่านก ใครบอกว่าเป็นไม้กูเผาไม้ทิ้งแม่งให้หมด เข้าใจนะ ปวดหัวจริงๆ เอ้า คุณชาย ขึ้นมาอธิบายต่อ” พญาอุตส่าห์ตั้งใจจะมาพูดเรื่องกฎระเบียบที่เทียมฟ้าให้ท่องทั้งคืนแต่ในเมื่อเทียมฟ้าบอกว่าให้พูดในแบบที่เป็นตัวเองได้ พญาก็คิดว่าการออกคำสั่งโดยไม่ต้องฟังความคิดเห็นใครแบบนี้แหละที่เป็นตัวเองมากที่สุดแล้ว
“ขอบคุณครับพี่พญา” เทียมฟ้ารู้สึกตื้นตันที่พญาให้เกียรติตัวเองขนาดนี้
“ไม่ต้องยิ้มมาก ยิ้มจนกูเห็นฟันของมึงครบสามสิบสองซี่แล้ว” พญาเห็นรอยยิ้มของเทียมฟ้าเลยอดไม่ได้ที่จะค่อนขอด แต่เทียมฟ้าไม่ได้โกรธกลับยิ่งยิ้มมากกว่าเดิม
“ว่ามาเลยคุณชายน้อง” ช้วนรีบปรบมือต้อนรับ พ่อค้าแม่ค้าคนอื่นรีบปรบมือตามช้วนเพราะรู้แล้วว่าคนที่ควรจะเข้าหามากที่สุดในตอนนี้ก็คือหม่อมราชวงศ์ผู้นี้เป็นที่แน่นอนแล้ว ส่วนกลุ่มของเจ๊จินก็มองหน้ากันเลิ่กลั่กเมื่อได้ยินคำประกาศของเจ้าของตลาด สุดท้ายแล้วก็ต้องยอมสงบปากสงบคำแล้วปรบมือตามคนอื่นไปยกเว้นโจ้ที่กำมือแน่นด้วยความไม่พอใจอย่างที่สุด
เทียมฟ้าเริ่มอธิบายสิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าต้องร่วมใจกันทำเพื่อช่วยกันพัฒนาตลาดภูมิเทพให้เป็นที่รู้จักในนามของตลาดที่มีคุณภาพที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย รวมไปถึงระเบียบการจ่ายค่าเช่าในแต่ละเดือน แต่ละร้านจะต้องได้รับใบเสร็จจากสำนักงานที่มีลายเซ็นของพญาเท่านั้น เทียมฟ้ายังจัดให้มีกองทุนฉุกเฉินให้กับพ่อค้าแม่ค้าและมีสวัสดิการต่างๆ ให้กับลูกหลานชาวตลาด รายละเอียดต่างๆ ที่เทียมฟ้านำเสนอสร้างความพอใจให้กับพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ยกเว้นคนที่ขาดผลประโยชน์อย่างครอบครัวของเจ๊จิน โจ้ได้แต่เก็บความแค้นเอาไว้ในใจและได้แต่บอกกับตัวเองว่าตอนนี้คงจะทำอะไรไม่ได้เพราะเทียมฟ้าเป็นของเล่นใหม่ของนายพญา แต่โจ้รู้ดีว่าไม่มีใครได้อยู่กับนายพญานานยกเว้นตัวเอง วันนี้แค่ยังไม่ใช่วันของโจ้แค่นั้นเอง
“แกไปสืบความสัมพันธ์ของพญากับคุณชายน้องแล้วมารายงานฉัน อย่าให้พญามันรู้ตัว ถ้าแกปากมากไปเล่าให้ไอ้ก้านฟังอีกคราวนี้แกโดนไล่ออกของจริงแน่ เข้าใจไหมไอ้หนาม” นายหัวพยนต์สั่งลูกน้องคนสนิทหลังจากที่เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของตลาดภูมิเทพ ใจหนึ่งก็ดีใจที่พญาลุกขึ้นมาตั้งใจทำงานแต่อีกใจก็กังวลเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างลูกชายของตัวเองกับหม่อมราชวงศ์เทียมฟ้าผู้สูงศักดิ์
“ครับนาย” ไอ้หนามรับคำก่อนจะยิ้มแห้งๆ เมื่อเจ้านายดักทางมันเอาไว้ก่อน
เมื่อเทียมฟ้าอธิบายรายละเอียดจนจบแล้วพญาก็สั่งให้ทุกคนแยกย้ายกันไปขายของตามเดิม ตอนนี้ทั้งพญา เทียมฟ้าและก้านกลับมาถึงสำนักงานแล้ว ทั้งสามคนเจอกับก้อนน้องชายของก้านมารออยู่ที่หน้าสำนักงานพอดี ก้อนยกมือไหว้พญากับเทียมฟ้าก่อนจะดึงมือก้านออกมาคุยด้วยความร้อนใจ
“พี่ก้าน ฉันขอยืมเงินพี่หน่อยสิ”
“มึงจะเอาไปทำอะไรไอ้ก้อน”
“พี่อย่าด่าฉันเลยนะ ฉันดันไปทำรถมอเตอร์ไซด์ของเพื่อนพัง”
“ไอ้ก้อน นี่มึงไปเมาแล้วขี่รถอีกแล้วใช่ไหม”
“ฉันจะไม่ทำอีกแล้วพี่ก้าน ฉันเข็ดแล้ว”
“เฮ้อ แล้วมึงต้องจ่ายค่าเสียหายเขาเท่าไหร่”
“หมื่นหนึ่งครับพี่ ถ้าไม่ชดใช้ตามนี้พ่อมันจะแจ้งความจับฉัน”
“หมื่นหนึ่ง! มึงไปทำรถเขาพังขนาดไหนวะไอ้ก้อน กูไม่มีหรอก เพิ่งจะให้แม่ไปลงทุนขายของแล้วก็ซ่อมหลังคาบ้าน”
“พี่ยืมนายของพี่ไม่ได้เหรอ นายของพี่รวยจะตาย หมื่นหนึ่งคงไม่เยอะสำหรับเขาหรอก”
“มันไม่เยอะแต่กูไม่ยืม นายช่วยบ้านเรามามากแล้ว เท่าที่นายเคยให้มากูทำงานให้เขาทั้งชีวิตยังไม่พอเลย”
“มากอะไร ฉันเห็นพี่ยังจนเหมือนเดิม ถ้าพี่ไปทำงานให้กับนายหัวสุริยาป่านนี้เราคงไม่ลำบากแบบนี้หรอก”
“ไอ้ก้อน!”
“ฉันขอโทษ” ก้อนรีบยกมือไหว้ที่เผลอไปพูดเรื่องเจ้านายของพี่ชาย ก้อนรู้ว่าพี่ชายของตัวเองรักและเทิดทูนเจ้านายของตัวเองมากเท่าชีวิตแต่ก้อนอดไม่ได้เมื่อรู้สึกว่าพี่ชายของตัวเองถูกเอาเปรียบ
“มึงกลับไปก่อน กูจะหาทางช่วยมึงอีกครั้งแต่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะไอ้ก้อน ต่อไปถ้ามึงหาเรื่องมาอีกกูจะให้มึงไปนอนในคุกดูบ้าง” ไอ้ก้านหัวเสียเดินหนีน้องชายกลับเข้าไปในสำนักงานก่อนจะโมโหมากไปกว่านี้ ส่วนก้อนได้แต่ถอนหายใจเพราะรู้สึกผิดที่ทำให้พี่ชายต้องลำบากอีกหน
“เอ้านี่ มึงเอาไป” พญายื่นเงินให้ก้านทันทีที่ก้านเดินเข้ามาในสำนักงาน
“นาย...” ก้านพูดไม่ออกเมื่อเห็นแบงค์พันจำนวนหนึ่งในมือของเจ้านาย
“ไม่ต้องพูดมาก กูตั้งใจให้มึงที่มึงดูแลทริปฮันนิมูนของน้องตังเป็นอย่างดี”
“รับไปสิพี่ก้าน” เทียมฟ้ารีบบอก ก้านยกมือไหว้ก่อนจะรับเงินในมือของพญามาเก็บเอาไว้
“ไอ้ก้านไม่รู้จะทดแทนบุญคุณของนายยังไงหมด” ไอ้ก้านน้ำตาคลอ นายพญาช่วยปลดหนี้ให้ครอบครัวของก้านตั้งแต่สมัยมันเข้ามาทำงานกับนายใหม่ๆ จำนวนเงินมากมายยังไม่เท่ากับที่นายพญาดึงมันขึ้นจากขุมนรก มันเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง เพราะช่วยมันนายพญาถึงได้โดนคนอื่นเข้าใจผิดว่านายค้ายาเสพติด นายคอยหยิบยื่นน้ำใจให้ทุกครั้งที่มันตกที่นั่งลำบาก มันยังไม่ทันได้ปริปากร้องขออะไรนายพญาก็จะเป็นฝ่ายให้มันก่อนทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เหมือนกัน นายช่วยมันจนมันรู้สึกแย่ที่ต้องเป็นภาระให้นายพญาเสมอ
“กูไม่ใช่คนอื่นสำหรับมึงนะไอ้ก้าน ไม่ต้องมาร้องไห้เป็นเด็กต่อหน้ากู ไปๆ จะไปทำอะไรก็ไป วันนี้กูไม่มีอะไรจะใช้มึงแล้ว” พญาทำมือไล่ ไอ้ก้านยกมือไหว้เจ้านายอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปจัดการแก้ไขปัญหาให้น้องชายของตัวเอง
“น้องยิ้มได้ไหม” เทียมฟ้าคิดเอาไว้แล้วว่าพญาไม่ใช่คนไม่ดี ที่ทำเป็นหยาบกระด้างก็แค่กำแพงที่สร้างขึ้นมาปกป้องตัวเอง พญารับรู้ว่าก้านมีเรื่องเดือดร้อนทั้งที่ก้านยังไม่ได้ขอความช่วยเหลือเลยด้วยซ้ำไป
“หึ มึงยิ้มขนาดนั้นแล้วยังจะมาขออนุญาตกูอีก แล้วจะยืนค้ำหัวอีกนานไหม” พญารู้สึกทำตัวไม่ถูกเพราะสายตาของเทียมฟ้าดูจะชื่นชมพญาอย่างเปิดเผย ตั้งแต่ที่เขาพูดในที่ประชุมเรื่องการให้สิทธิ์และอำนาจทุกอย่างแก่เทียมฟ้าเจ้าตัวก็ยิ่งยิ้มไม่หุบ สายตาที่ดูชื่นชมและเลื่อมใสแบบนั้นพญารู้สึกไม่ชินเพราะที่ผ่านมาสายตาคนอื่นที่มองมามันมักจะเป็นสายตาที่ดูแคลนว่าเขาดีแต่มีเงินแต่ไม่มีสมองหรือไม่ก็เป็นสายตาที่ดูไม่จริงใจ เป็นสายตาจากคนที่หวังเอาแต่ผลประโยชน์จากตัวเขาแทบทั้งนั้น
“เมื่อเช้านี้น้องได้ใส่บาตรหลวงตากับหลวงพี่เหรียญเงิน หลวงตาบอกว่าเย็นพรุ่งนี้จะมีงานวัด พี่พาน้องไปเที่ยวงานวัดได้ไหม น้องไม่เคยไป น้องอยากรู้ว่าเป็นยังไง” เทียมฟ้าเดินมานั่งข้างๆ ก่อนจะเอ่ยถาม
“กูไม่ชอบคนเยอะ”
“ในผับคนก็เยอะ”
“ยอกย้อนเก่งจริงนะมึง”
“พาน้องไปนะ”
“ไม่รู้ ดูก่อน อย่าเซ้าซี้”
“ครับ” เทียมฟ้าตอบเสียงอ่อยก่อนจะลุกไปนั่งที่โต๊ะทำงาน พญาเหลือบมองแต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ ไม่อยากง้อจนเทียมฟ้าเคยตัว
“พออนุญาตให้ลองขอดูได้มึงก็เรียกร้องใหญ่เลยนะ” พญาแกล้งต่อว่า อยากรู้ว่าเทียมฟ้าจะเถียงอะไรมาอีก
“น้องก็ลองขอตามที่พี่บอก ถ้าพี่คิดว่ามันเป็นการเซ้าซี้น้องจะไม่ขอแล้วก็ได้”
“หึ งอนไปเถอะ คราวนี้กูไม่ง้อมึงหรอก” พญาลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนโดยไม่สนใจว่าเทียมฟ้ากำลังแสดงสีหน้าอย่างไร
พญาเผลอหลับไปเพราะเมื่อคืนอดนอนจนเกือบเช้า มาตื่นอีกทีก็เกือบบ่ายสี่โมงเย็นแล้ว เมื่อลุกไปล้างหน้าล้างตาแล้วเดินออกมาข้างนอกพญาก็ไม่เห็นใครอยู่ในสำนักงานเลย ไอ้ก้านมันคงไม่ได้กลับมาที่นี่เพราะเขาเป็นคนบอกให้มันกลับไปเอง แต่คนที่มีรอยยิ้มกวนใจเขานี่สิไม่รู้หายไปไหน พญาเดินมาดูที่โต๊ะทำงานแล้วเปิดดูแฟ้มต่างๆ ที่เทียมฟ้าทำค้างเอาไว้ ลายมือของเทียมฟ้าเป็นระเบียบเรียบร้อย บัญชีที่เทียมฟ้าทำก็เข้าใจง่ายไม่ยุ่งยากเหมือนของจุ๋ม เมื่อเทียบดูแล้วพญาก็เข้าใจว่าที่ผ่านมาตัวเองตัดความรำคาญด้วยการเซ็นเอกสารต่างๆ ไปโดยไม่ดูรายละเอียดน่าปวดหัวเหล่านั้นเลย เมื่อเทียมฟ้าทำบัญชีมาให้ใหม่ถึงได้รู้ว่าจุ๋มทำตัวเลขหายไปหลายหมื่นบาทต่อเดือน แถมยังเบิกโน้นนี้เป็นแสนโดยที่พญาไม่รู้เลยว่าค่าใช้จ่ายเหล่านั้นเอาไปทำอะไร
“นาย...”
“มีอะไร” พญาเห็นโจ้เดินเข้ามาก็ถอนหายใจ โจ้คงจะมาตัดพ้อเรื่องที่พญาตวาดไปเมื่อตอนเช้าแต่พญาคิดผิดเพราะโจ้ไม่ได้ตัดพ้ออะไรนอกจากเข้ามาสวมกอดพญาเอาไว้
“ผมมาขอโทษนาย ผมไม่รู้เลยว่าน้าจุ๋มโกงเงินนาย น้าจุ๋มเพิ่งมาสารภาพกับผมและแม่ น้าจุ๋มอ้างชื่อแม่กับผมทำอะไรไม่ดีหลายอย่าง ผมมากราบขอโทษนาย” โจ้คลายอ้อมกอดออกก่อนจะลงไปกราบที่เท้าของพญา
“ลุกขึ้นมา”
“นายอย่าเกลียดผมเลยนะ ผมอยู่กับนายมานานนายน่าจะรู้จักผมดี ผมอาจจะทำอะไรเพราะหึงหวงนายไปบ้างแต่ผมไม่เคยคิดโกงนายเลย เรื่องเงินผมขอนายเอาก็ได้ นายไม่เคยปฏิเสธผม เพราะฉะนั้นมันไม่มีเหตุผลที่ผมจะโกงนาย” โจ้เริ่มร้องไห้จนพญาต้องถอนหายใจ
“ลุกขึ้นมาก่อน”
“นายไม่เกลียดผมแล้วใช่ไหม” โจ้ลุกขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองก่อนจะสวมกอดพญาอีกครั้ง
“มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบคนที่หักหลังกู กูไม่พูดไม่ได้แปลว่ากูไม่รู้ มึงไปเตือนน้าของมึงว่าอย่าให้มีเรื่องแบบนี้อีก”
“ครับ ผมจะไม่ให้น้าจุ๋มทำอะไรแบบนี้อีก แล้ว..นายยังให้แม่ของผมทำงานให้นายอยู่ไหมครับ” โจ้ส่งสายตาเว้าวอนก่อนจะซุกหน้าคลอเคลียกับอกของพญา
“กูจะให้โอกาสแม่มึงอีกครั้ง แต่อย่าไปเรียกเก็บส่วยอะไรอีก เงินที่กูให้มึงแต่ละเดือนไม่ใช่น้อยๆ มึงไม่ควรโลภมาก”
“ขอบคุณนาย ผมรักนายจัง” โจ้เขย่งตัวไปหอมแก้มพญา
“อีกเรื่องหนึ่ง กูจะให้เบลมันกลับมาอยู่ที่เกาะ มึงอย่าสร้างปัญหา กูเคยบอกพวกมึงแล้วว่ากูไม่ใช่ของใครทั้งนั้น ที่กูดูแลพวกมึงเพราะกูถือว่ารับผิดชอบเท่าที่กูทำให้ได้ ถ้ามึงยังสร้างความปวดหัวให้กูอีกมึงคงรู้นะว่ากูจะทำยังไง”
“ครับนาย” โจ้ซุกหน้ากับอกของพญาแต่แววตามีความเครียดแค้นเมื่อรู้ว่าศัตรูหัวใจคนเก่ากำลังจะกลับมา
“มึงกลับไปได้แล้ว” พญาออกปากไล่
โจ้ไม่ได้ทำตามคำสั่งของพญาแต่กลับประทับริมฝีปากของตัวเองไปทาบทับริมฝีปากของอีกฝ่าย ลิ้นอุ่นทำหน้าที่ด้วยความชำนาญเพราะคุ้นเคยเป็นอย่างดีว่าอีกฝ่ายชอบรสจูบแบบไหน ต่อให้โจ้ทำผิดร้อยครั้งแต่ถ้าลองได้ใช้ความสามารถพิเศษส่วนตัวแบบนี้พญาก็ไม่เคยใจแข็งโกรธลงเลยสักที
“ขอโทษครับ ไม่นึกว่าจะมีคนจูบกันในสำนักงาน” เทียมฟ้าบังเอิญกลับเข้ามาที่สำนักงานจึงเห็นภาพที่ไม่อยากเห็นเข้าพอดีเลยเอ่ยแทรกขึ้นมาจนพญาตกใจแล้วผลักโจ้ออกจากตัว โจ้แอบยิ้มเยาะเย้ยที่เทียมฟ้ามาได้จังหวะแม้จะตกใจที่โดนพญาผลักออกก็ตาม
“ผมขอโทษครับ” โจ้แสร้งทำน้ำเสียงรู้สึกผิด
“ก็มันสำนักงานของกู” พญารู้สึกหงุดหงิดเมื่อเห็นสายตาที่เรียบเฉยของเทียมฟ้า ที่น่าหงุดหงิดกว่าคือไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องตกใจที่เทียมฟ้ามาเห็นด้วยก็ไม่รู้
“น้องถึงได้ขอโทษไงครับที่เข้ามาขัดจังหวะ” เทียมฟ้าเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าสตางค์ของตัวเองแล้วเดินกลับออกไป
“ผมไม่ควรทำให้คนใหม่ของนายโกรธ ให้ผมไปอธิบายให้เขาฟังไหมครับ” โจ้แสร้งทำหน้าเสีย
“มึงไม่ต้องดัดจริตทำตัวเป็นนางเอกหรอกโจ้ ความเสแสร้งมันแสดงออกที่ดวงตาของมึง จะไปไหนก็ไป” พญาพูดกับโจ้ก่อนจะผายมือไปที่ประตู
โจ้หน้าชาที่โดนต่อว่าแต่รู้ดีว่าพญากำลังอารมณ์ไม่ดีจึงตัดสินใจกลับทั้งที่อยากจะออดอ้อนพญามากกว่านี้ อย่างน้อยเขาก็ทำให้พญาไม่โกรธเรื่องของแม่และน้าจุ๋มได้แล้ว ขอเวลาอีกสักหน่อยเขาจะทำให้หม่อมราชวงศ์คนนั้นและไอ้เบลไปจากเกาะนี้ให้ได้เหมือนที่เคยทำกับคู่ขาของพญามาแล้วทุกคน
...
เมื่อคืนกว่าที่เทียมฟ้ากลับมาที่ห้องเกือบสองทุ่ม ทั้งพญาและเทียมฟ้าต่างก็ไม่ได้พูดกัน ยิ่งเทียมฟ้าทำเป็นไม่สนใจพญาเท่าไหร่พญาก็ยิ่งทำเป็นไม่สนใจเทียมฟ้าเท่านั้น เมื่อเทียมฟ้าเข้านอนแล้วพญาก็แต่งตัวออกไปข้างนอกทิ้งให้เทียมฟ้านอนอยู่ในห้องตามลำพัง พญากลับเข้ามาในห้องนอนอีกทีก็เกือบเช้า เมื่อแอบเดินเข้าไปใกล้เตียงของเทียมฟ้าก็เห็นอีกฝ่ายนอนกอดหมอนหลับปุ๋ยเหมือนเด็กๆ
“มึงมันขี้งอน ปากบอกไม่เรียกร้อง แต่ที่ทำอยู่มันเรียกร้องความสนใจจากกูชัดๆ” พญาพึมพำกับตัวเองเบาๆ ทีแรกว่าจะเดินไปอาบน้ำนอนแต่แล้วพญาก็เปลี่ยนใจมายืนมองเทียมฟ้าอีกครั้ง ยืนจ้องอยู่นานสุดท้ายพญาก็ถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
(มีต่อด้านล่างค่ะ)
V
V