แค่เธอเท่านั้น [END]
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ผมที่กำลังหุบยิ้มไม่ได้ จากวันนั้นที่เราคุยกันครั้งแรก ทำให้เรามีวันนี้ วันที่เราเลิกเรียนพร้อมกัน แล้วบอกชวนผมไปกินข้าวด้วยกัน ห้างก็เหมือนเดิม ๆ แต่ที่แปลกไปกว่าเดิมคือผู้ร่วมเดินทางมาต่างหาก ใครจะว่าผมบ้าก็ได้ การที่แอบมองคนๆนึงจนชอบ มันก็คงต้องเป็นแบบนี้ทุกคน บอกเรียนแพทย์ผมรู้ดีว่าเป็นคณะที่หนักหน่วงแค่ไหน เขาจึงไม่ค่อยมีเวลา นอกจากเวลาพักเที่ยงที่เรากินข้าวและพูดคุยด้วยกันทุกวัน แต่ที่แปลกกว่าแต่ก่อนคือ วันนี้ของฝากจากเจ้าเดิมหายไป ทั้งที่ปกติแล้ว ต้องมาทุกวัน
“กินไรดีอ่ะบอก ชอบกินแนวไหนอ่ะ”
“ขออาหารญี่ปุ่น”
“จริงป่ะเนี่ย ชอบเหมือนเราเลย นี่รู้ป่ะ เราชอบกินยำปลาแซลม่อนที่สุด แซ่บลืมอ่ะ”
“รู้”
“หืม”
“บอกว่ารู้”
“รู้ได้ไง ที่โรงอาหารกลางไม่มียำปลาแซลม่อนนะ โม้ปะเนี่ย”
“ชอบกินยำปลาแซลม่อน แล้วต้องสั่งชาเขียวแบบไม่ใส่น้ำตาล”
“เดี๋ยวๆ นี่ไปสืบมาจากไหนเนี่ย” ดีใจสิครับถามได้ นี่ผมกำลังยิ้มกว้างแค่ไหนกันนะ
“ป่าว รู้เอง”
“เหรอ จริงดิ งั้นทายมา ขนมอะไรที่เราชอบมากที่สุด”
“ฝอยทองกรอบ”
“เหย เก่ง เอาอีกๆ งั้นน้ำอะไรเราชอบที่สุด”
“น้ำเปล่า ถ้าเหนื่อยจะกินน้ำส้มคั้น”
“เดี๋ยวนะ จีบเราป่ะเนี่ย”
“จีบมานานแล้วเมื่อไหร่จะรู้ตัวสักที”
“ห้ะ ว่าไงนะ”
“รู้ว่าได้ยิน ก็ตามนั้น นี่อ่ะ” กล่องขนม ที่ถูกยื่นมาให้ผมบนโต๊ะอาหาร หน้าตากล่องคือขนมฝอยทองกรอบของเจ้าเดิมที่ผมชอบกิน แถมโพสอิทสีเขียวมะนาวที่ติดไว้กับลายมือหวัดๆที่อ่านง่ายลายมือเดิม
“วันนี้มาสาย เอาไปฝากให้ไม่ทัน”
“หืม คืออะไรอ่ะ งงไปหมดแล้ว” ใช่ครับงง งงจริงๆ อะไรคือ ขนมเหมือนเดิม ลายมือเดิมโพสอิทสีเดิม
“ก็บอกแล้วว่าจีบมานานแล้ว ไม่รู้ตัวสักที”
“งั้น.......นี่หมายถึง เอ่อ อย่าบอกว่ามาชอบมากินข้าวตึกกลางเพราะ......”
“มารอเจอ” ไอ้บ้าเอ้ย ขอHowto หุบยิ้มหน่อยได้ไหม ผมไม่ไหวแล้ว ยิ้มกว้างกว่านี้คงปากฉีกถึงหูแน่ๆ
“พูดอะไรไม่ออกเลยอ่ะ”
“ไม่ต้องพูดหรอก รับมันไว้ก็พอ”
“รับดิ จำได้ไหมที่เคยบอกไปว่าเราเคยอยากเรียนหมอ”
“อืม จำได้”
“รู้ป่ะ โครตเสียใจเลยตอนนั้น เหมือนตกจากภูเขาสูงแล้วกลิ้งตัวลงมาเจ็บมากเลยอ่ะ เลยไม่กล้าที่จะหวังอีก...................แต่พอ...... พอเจอบอก เราคิดว่า สามเดือนกว่าที่นั่งมองมาไม่น่าเสียดายเลยอ่ะ เพราะมันทำให้เรารู้ว่า บอกจะเป็นคนที่คอยช่วยพยุงเรา และเรา...... เรา..คิดไม่ผิด”
“ขอโทษนะ”
“หืม ขอโทษทำไม?”
“ขอโทษที่ไม่กล้าพอที่จะเข้าไปช่วยพยุงนะขึ้นมาตั้งแต่แรกไง”
“เอ๋ หมายความว่าไง?”
“เรามองนะมานานมากแล้ว ตั้งแต่ม.6 แต่นะสนใจแค่หนังสือกับการสอบเข้าหมอ แล้วพอมารู้ว่านะสอบไม่ติด เห็นข้อความต่าง ๆในทวีตที่นะตัดพ้อ เราไม่รู้จะช่วยยังไง เลยตั้งใจอ่านหนังสือให้หนักกว่าเดิม ผลคะแนนแอดมิชชั่นออกมากซึ่งเราติดหมอ เราอยากมอบโอกาสนี้ของเราให้นะมากแต่ก็ทำได้แค่คิด เราเลยไม่กล้า ไม่กล้าเลยที่จะเข้าหานะ” ใบหน้าหล่อเหลาทุกครั้งที่มองครั้งนี้มองเข้าไปในดวงตาแล้วดูเศร้า ทำไมถึงเป็นคนดีแบบนี้นะ เราเลือกไม่ผิดจริง ๆ
“บอกไม่ผิดหรอก นะทำตัวเองแหละ เพราะถ้านะตั้งใจอีกนิด ลองสอบแอดมิชชั่นอีกครั้งนะอาจจะติด แต่นะเลือกที่จะเสียใจอยู่อย่างนั้นไง นะเลยไม่ติด ขอบคุณนะ ขอบคุณที่อยากช่วยกันมากขนาดนี้ ขอบคุณที่ชอบกัน” ผมยิ้ม ยิ้มกว้างมาก ๆเท่าที่คนๆนึงจะยิ้มได้ ผมไม่รู้ว่าความสุขที่มีอยู่ตอนนี้จะหายไปตอนไหนแต่ผมก็ได้รู้ว่าในตอนนี้ผมมีความสุข เราทานอาหารกันเสร็จบอกชวนผมไปดูหนัง ทำให้ผมรับรู้ว่าคนๆนี้แหละที่พร้อมจะช่วยพยุงผม
“นี่บอก ดึกแล้วจะกลับเลยมั้ย” บอกขับรถมาส่งผมที่คอนโด เราอยู่ในรถซึ่งผมกำลังจะลงจากรถแต่หันไปถามคนขับก่อน
“อืมกลับเลย ต้องไปท่องหนังสือน่ะ”
“อืม งั้นขับรถกลับดี ๆนะ ถึงแล้วไลน์มาบอกด้วย”
“ครับผม” ขณะที่ผมกำลังจะหันไปเปิดประตูรถ เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้น
“นะ ขอจีบนะ” ผมได้แต่หัวเราะกับการกระทำนิ่งๆของเขาจริง ๆ คือไม่จีบก็ติดแล้วมั้ยล่ะ
“ฮ่าๆ อืม แต่เราจีบยากนะ” พูดจบผมก็ลงจากรถทันที
สามวันถัดมา
..
..
..
..
ผมเจอบอกแค่ช่วงพักเท่านั้นเพราะเขาบอกว่า เรียนหนักมากแถมยังมีสอบ สอบ และก็สอบเข้ามาเยอะมาก จนผมอดคิดไม่ได้ว่า ผมเลือกถูกแล้วที่ไม่เรียนหมอ
“นี่คุณลูกนะ แม่ซีสจะไปร้านนมหน้ามอ ไปด้วยป่าว เอ๊ะหรือว่ารอพี่บอกคะ”
“ไปสิ วันนี้บอกสอบย่อย”
“แหม พอพี่บอกไม่อยู่ฉันดูมีบทขึ้นมาเชียว ว่าแต่ เขาจีบเป็นไงบ้างแก ท่าทางนิ่งๆแบบนั้นเวลาจีบโรแมนติกมะ”
“อืม ไม่นะ”
“อะไรวะ เล่าหน่อยๆ อยากเผือก”
“ฮ่ะๆๆ เล่าก็ได้ ก็ไลน์มาจีบอ่ะ”
“ไลน์มาจีบยังไง เล่าต่ออย่าให้ต้องค้าง”
“ฮ่า ๆๆ ใจเย็นดิ ก็ไลน์มา แบบจีบทั่วไปแหละ”
“ไหนเอามาดู ไม่ต้องเล่าละ” ผมหัวเราะพลางยื่นโทรศัพท์เครื่องหรูให้กับซีส
ทรงกระบอก : สวัสดีครับคุณนะ ผมชื่อบอก ผมขอจีบคุณนะครับ
จีบติดยากนะครับ : นะนะ
ทรงกระบอก : ถึงจะจีบติดยากแต่ถ้าหากผมอ่อยมาก ๆคุณว่าจะติดไหมครับ
เรื่องนี้ต้องดูที่การอ่อยครับ 5555 : นะนะ
*สติ๊กเกอร์รูปหมีบราวน์*
ทรงกระบอก : งั้นอ่อยเลยนะครับ 080******* เบอร์ผม เผื่อคุณอยากได้ใจ
เสี่ยวมากครับ 555555 : นะนะ
ทรงกระบอก : ที่ผมเสี่ยวเพราะผมรักเดียวใจเดียวนะครับ *-*
เสียดายข้าวที่กินไปมากอ่ะบอก : นะนะ
*สติ๊กเกอร์รูปเจมส์อ้วก*
ทรงกระบอก : ฮ่า ๆ อย่าอ้วกนะ เราเป็นพ่อเด็กเดี๋ยวเราไปดูอาการให้นะ
พอเลยครับคุณหมอเถื่อน นอนแล้ว ผันดีนะ : นะนะ
ทรงกระบอก : ครับ ฝันดี อย่าลืมห่มผ้านะครับ J
เช่นกันครับ : นะนะ
“โอ้ยยยยยยยยยยยยยย อ้วกได้ไหม พี่ซีสขออ้วก ท่าทางนิ่งๆไม่น่าจะเสี่ยวได้ขนาดนี้นะ”
“ฮ่า ๆ บอกแล้วว่าไม่มีอะไร “
“แล้วเมื่อไหร่แกจะยอมเป็นแฟนเขาล่ะนะ”
“ก็ไม่ได้ขัดขืนมานานแล้วนะ แต่บอกไม่พูดเอง”
.
.
..
..
“งั้น เป็นแฟนกันนะ” เสียงทุ้มที่คุ้นเคย ดังออกมาจากด้านหลัง ทำให้ผมตกใจหันไปมองอย่างรวดเร็ว ไหนว่ามีสอบไง…..
“มาได้ไงเนี่ย ไหนว่ามีสอบไง”
“เป็นแฟนกัน นะครับ” ความมึนมาอีกแล้วถามอย่างตอบอย่าง แต่ทำไมผมรู้สึกร้อนที่หน้าได้ขนาดนี้นะ
“บอกนะบอก หมอเถื่อนเอ้ย..........................ครับเป็นแฟนกัน”
“โหนะ ไหนแกบอกว่าแกจีบยาก นี่เขาขอเป็นแฟนก็เป็นสะละ แย่ๆ แต่ รักกันนาน ๆนะคะ รักกันนาน ๆนะแก แม่ซีสปราบปลื้ม” ซีสยกมือทาบอก ยิ้มกว้างดีใจจนตาปิด
“ฮ่ะ ๆ ขอบคุณนะแก ขอบคุณนะ”
ช่วงเวลายามเย็นมาถึง วันนี้แปลกกว่าทุกวันเพราะผมกับบอกเราอยู่กันที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ผู้คนอื่น ๆต่างออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่นั่งอยูริมบ่อปลาขนาดใหญ่ ให้อาหารปลาและยิ้มเท่าที่คนๆนึงจะยิ้มกว้างได้
“เพราะนะไม่ได้เป็นหมอ แต่เราเป็นหมอเราจะขอดูแลนะเองทั้งร่างกายและจิตใจ” จู่ ๆเสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นทำให้ผมหันไปมองทั้งรอยยิ้ม
“ความเสี่ยวไม่ได้ลดลงเลยนะหมอบอก ฮ่า ๆๆ.......”
“ก็อย่างที่เคยบอก เราเสี่ยวเพราะเรารักเธอคนเดียว”
“อยากจะอ้วกนะ แต่เราก็มีไรจะบอก”
“หืม” เราต่างมองหน้ากันท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นที่แม้จะอากาศร้อนแต่ผมคิดว่ามันสบายทั้งกายและใจ
“เพราะนะไม่ได้เป็นหมอ แต่นะจะเป็นนักจิตวิทยา ที่จะรักษาและดูแลหัวใจของเราตลอดไป ขอบคุณที่ทำให้ความหวังของนะเป็นจริง” ผมยิ้มพร้อมสบตากับบอก จนผมโน้มตัวเข้าไปใกล้เรากอดกันท่ามกลางปลานับพันตัวที่เวียนว่ายไปมาในบ่อน้ำ กอดกันจนมีความรู้สึกถึงกันและกัน อกที่อบอุ่นของบอก นะอยากจะบอกบอกว่าขออยู่แบบนี้ตลอดไป
“ชอบว่าเราว่าเสี่ยวตัวเองไม่ต่างเลยฮ่าๆๆ” ผมได้แต่บุ้ยปาก แล้วเราก็หัวเราะไปด้วยกัน จนผมนึกขึ้นได้ ในเมื่อไม่นานมานี้ผมชอบฟังเพลงๆนึง
“ฟังเพลงกัน”ผมหยิบหูฟังสีขาวขึ้นมาเสียบกับโทรศัพท์เครื่องหรู เพลงนี้คือเพลงที่ผมอยากจะให้กับบอก เพราะเขาคือคนที่ผมขอวอนให้มีจริง
เพลง ขอวอน 2
ขอวอนดาวที่คอยส่อง
ลมที่พัดโชยมาพาให้ฉันได้ยิน
ว่าเสียงเพลงที่หมู่นกได้กล่อมเกลา
คืนที่ช่างพร่างพราวอย่าจากไปโดยพลัน
อยู่ด้วยกันให้นาน ให้เราอยู่ใกล้กัน
ส่งสัมผัสถึงกัน จวบจนข้ามคืนนี้
ได้ร่วมสุขซักที
พอถึงท่อนนี้ผมเปล่งเสียงร้องออกมาพร้อมมองหน้าบอกทั้งรอยยิ้ม
** ขอบคุณโลกนี้ ที่ส่งคนในฝันให้กับฉัน
ขอบคุณอีกครั้ง ที่ทำให้พบรักที่ยิ่งใหญ่
ฉันไม่เคยพบเจอใคร ที่เข้ามาทั้งหัวใจ
เธอคือคน ๆ นั้น จะอยู่คู่เคียงข้างกัน
แค่มีเธอที่เข้าใจ ฉันไม่เคยต้องการใคร
แค่เธอเท่านั้น**
เมื่อเพลงจบลง เราที่ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มที่มีแต่ความสุข ผมได้รู้แล้วว่าคนเราเกิดมาแล้วไม่มีอะไรเพอร์เฟคไปสะทุกอย่างหรอก บางทีสิ่งบางอย่างมักจะไม่สมหวังเสียใจมากมายเท่าไหร่มีความทุกข์แค่ไหนแต่สักวันหนึ่งเราจะกลับมายืนได้อีกครั้ง บางอย่างจะไม่ได้มาถ้าหากเราไม่แลกมันออกไป ทำตามที่ใจต้องการ เพราะสิ่งที่เราต้องการคือคำตอบของความสุขของเรา....
ทำตามที่ใจต้องการ ปล่อยไปตามหัวใจ ทุกอย่างอยู่ที่เราอยากให้เป็นไป แต่เมื่อไหร่ที่ท้อ ให้บอกกับตัวเองไว้ว่าเรายังมีเราเรายังคงหายใจ พรุ่งนี้คือวันใหม่ จงทำให้ทุกวันมีความสุข
........................................................
เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นแก้บนของเราเอง ฮ่าๆ อ่านเอาสนุกขำๆเนาะ ฝากผลงานด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่หลงเข้ามาอ่านถึงตรงนี้นะคะ
**เปิดเพลงไปด้วยฟินนะเออ อิอิ**
รบกวนติดแท็ก #บอกนะ ในทวิตเตอร์นะคะ