ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn หรือคบหาพูดคุยกันในเล้า
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[1]
“มึงดูไอ้ไผ่ดิ มันหลับอีกแล้ววะ” ผมหันไปมองตามที่เพื่อนผมบอก แล้วก็เจอกับคนร่างเล็กที่หลับได้ตลอดทั้งวัน
“เรื่องของมันสิวะ” ผมหันกลับมาแล้วพูดลอยๆแบบไม่สนใจ เพราะมันอยากจะหลับก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมสักหน่อย
ไอ้ไผ่ก็เป็นเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกันกับผม แต่มันไม่มีเพื่อนเลยสักคน วันๆมันจะนั่งเรียนเพียงคนเดียว และเป็นประจำที่จะฟลุบหลับคาโต๊ะเรียนเสมอ ซึ่งก็ไม่แปลกที่มันจะไม่มีเพื่อน เพราะมันจะรีบกลับทันทีหลังเรียนเสร็จ ไม่เคยไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมกับเพื่อนคนอื่นเลย แต่ไอ้ไผ่ก็ทำให้ผมแปลกใจกับมันไม่ใช่น้อย เพราะถึงมันจะหลับเกือบจะทุกคาบ แต่คะแนนของมันก็ไม่ได้น้อยไปด้วยเลย ถึงจะไม่ได้มากขนาดกลุ่มเด็กเรียน แต่ก็มากกว่ากลุ่มกลางๆเลยทีเดียว
“มึงจะรีบไปไหนวะ” ผมร้องทักไอ้ไผ่เพราะมันรีบเดินจนมาชนผมเข้า ทำให้ผมมองมันอย่างขวางๆ
“โทษทีนะติน” มันเงยหน้ามามองผมทำหน้าสำนึกผิด ก่อนจะเอี้ยวตัวหลบ เดินจากไปอย่างรีบร้อนเช่นเดิม ทิ้งผมให้งงกับท่าทางของมัน
“อะไรของมันวะ....” ผมได้แต่หัวเสียมองจนมันลับหลังไป
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หลังจากนั่งสงบสติที่ม้าหินหน้าคณะ ผมก็ค่อยใจเย็นลงมาหน่อย ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผมต้องหงุดหงิดเสมอเมื่อเห็นหน้าไอ้ไผ่ มันก็อยู่ของมันไม่ได้มายุ่งวุ่นวายกับผม หรืออาจจะเป็นเพราะความเงียบของมันก็เป็นได้ ทำให้ขัดตาตลอดเวลา
ผมขับรถมาที่ร้านกาแฟหน้ามหาวิทยาลัย เพราะที่ร้านนั้นเป็นร้านของพี่ชายผม ถ้าวันไหนผมไม่สบอารมณ์อะไรมา ก็จะไปที่นั่นเสมอ เพราะต้นไม้และความเย็นสบายทำให้ผมสงบลงตามไปด้วย
“ดีพี่ป่าน” ผมทักพี่ชายผมที่ทำกาแฟอยู่หลังเคาน์เตอร์ พี่ชายผมคนนี้อายุห่างจากผมก็ 8 ปีได้ เพราะแบบนี้ทั้งพ่อ แม่ และพี่ชายจึงช่วยกันดูแลผมมาตั้งแต่ผมเด็กๆ
“ไปมีเรื่องอะไรมาหละ” พี่ป่านยังก้มหน้าทำงานต่อ โดยที่ไม่ได้มองหรือสนใจผมเลย
“ทำไมพี่พูดงั้นหละ ผมมันพวกชอบหาเรื่องนักหรือไง” ผมเริ่มโวย เพราะแทนที่จะมาสนใจน้องสักหน่อยก็ไม่มี แถมยังจะมาว่าอีกต่างหาก
“เวลาปกตินายเคยโผล่มาหรือไง พูดมากเอากาแฟไปเสริฟเลยไป” พี่ผมยกกาแฟมาตั้งตรงหน้าผมก่อนจะหันหน้าไปทางโต๊ะที่มีหญิงสาวสองคนนั่งอยู่ ซึ่งก็หมายความว่าผมต้องเดินไปเสริฟที่โต๊ะนั้น แล้วผมจะทำอะไรได้หละนอกจากเดินไปตามที่พี่ผมบอก
“เมื่อไหร่จะหาคนมาช่วยสักทีเนี่ยพี่” ผมวางถาดลง ก่อนจะบ่นกับพี่ชายของผม เพราะตั้งแต่พี่สะใภ้ท้อง พี่ชายผมก็ทำงานเพียงคนเดียวมาตลอดเพราะไม่อยากให้แฟนทำงานหนัก กลัวมีผลถึงลูกในท้อง
“หาแล้ว แต่มันยังไม่ได้นี่หว่า...เออ วันนี้ก็มีมาคนนึง แต่ไม่ไหวตัวเล็กแบบนั้นจะทำอะไรได้” พี่ผมที่หันไปทำขนมปังปิ้งตอบผมกลับมา
“แล้วพี่ทำคนเดียวไหวหรือไง” ผมถามแบบจริงจัง เพราะทำงานแบบนี้คนเดียวมันก็เหนื่อยอยู่ เพราะไหนจะเก็บร้านอีก แล้วลูกค้าก็มาไม่ใช่จะพร้อมกัน จะมีเวลาไหนพักหละ นี่ก็เล่นเปิดตั้งแต่ 10 โมง ยัน 4 ทุ่ม เหนื่อยก่อนพอดี
“ไม่ไหวก็ต้องไหว เพื่อลูกเมียวะ” พี่ผมหันมายิ้มให้ผม ดูท่าทางมีความสุขเสมอเมื่อพูดถึง
“ก็ให้ปู่กับย่าเลี้ยงสิ พี่จะมาลำบากทำไม” ผมก็ไม่เข้าใจพี่ชายผม เพราะที่บ้านก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร พ่อแม่ผมก็ออกจะเห่อหลานซะขนาดนั้น ไม่เห็นต้องมาลำบากทำงานหนักแบบนี้เลย เพราะที่บ้านก็มีฐานะอยู่พอควร
“พี่เป็นหัวหน้าครอบครัวนะ รับเค้ามาแล้วก็ต้องดูแลเค้าอย่างดี” พี่ชายผมมองผมด้วยแววตาอ่อนโยนเมื่อพูดถึงพี่สะใภ้ มันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นในความรู้สึก
“ตามใจพี่แล้วกัน” ผมบอกก่อนจะผละตัวออกมา แต่ก่อนที่ผมจะเดินออกมา พี่ผมก็พูดในสิ่งที่ทำให้ผมต้องสั่นหัวอย่างแรง
“นายก็เรียนใกล้ๆ มาช่วยพี่หน่อยสิวะ เดี๋ยวพี่จ่ายค่าจ้างให้”
“ฝันไปเหอะพี่ ผมไม่มาลำบากทำงานหรอก ขอพ่อสบายกว่าเยอะ” ผมส่ายหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่าผมไม่เอาด้วยแน่กับความคิดของพี่
“ไรวะ พี่น้องไม่ช่วยกันเลย” พี่ผมบ่นเบาๆ
“จ้างคนอื่นเหอะพี่ ผมไม่เอาด้วยหรอก” หลังจากพูดจบผมก็เดินออกมาเลย เพราะขี้เกียจเห็นสีหน้าของพี่ กลัวจะใจอ่อนยอมมาทำงานให้
ผมเดินมาเลือกหนังสืออ่านเล่น ก่อนจะเดินออกมานั่งด้านนอกของร้านที่มีสวนและต้นไม้ให้สดชื่น ผมชอบร้านของพี่ชายผมก็ตรงที่นอกจากจะขายกาแฟแล้ว ยังขายหนังสืออีกด้วย ซึ่งก็จะมีหลายแนวทั้งหนังสือวรรณกรรม นิยาย หรือแนววิชาการ และนอกจากหนังสือที่วางขายแล้วยังมีหนังสือที่ให้อ่านได้ฟรี วางเรียงบนชั้นวางหนังสือ พี่บอกว่าเพราะพี่เป็นคนชอบอ่านหนังสือ เลยหาที่สำหรับอ่านหนังสือให้คนอื่นด้วย และผมก็ติดนิสัยชอบอ่านมาจากพี่
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ติน...เพื่อนนายมีชื่อไผ่หรือเปล่า” พี่ผมมานั่งฝั่งตรงข้ามกับผม ก่อนจะถามถึงคนที่ทำให้ผมอารมณ์เสีย
“ทำไมหรือพี่” ผมปิดหนังสือแล้วมองหน้าพี่ผม ท่าทางของผมคงบ่งบอกได้ว่าผมไม่สบอารมณ์กับชื่อนี้
“เปล่า แค่จะถามว่าเป็นเพื่อนนายหรือเปล่า เห็นเรียนคณะเดียวกัน” พี่ผมส่ายหน้าเบาๆ พร้อมกับเอนตัวพิงกับพนักพิงด้านหลัง
“พี่ไปรู้จักมันได้ไง”
“ก็คนที่มาสมัครงานที่ร้านวันนี้ไง จริงๆพี่ก็ชอบนิสัยเด็กคนนี้นะ แต่บอบบางแบบนั้นก็ไม่ไหวเหมือนกัน”
“ไม่รับนะดีแล้วพี่ มันเป็นพวกไม่มีใครคบ” ผมพูดเสร็จก็เปิดหนังสืออ่านต่อ ทำไมไอ้ไผ่มันต้องมาวุ่นวายกับผมอีกแล้วนี่ ตัวไม่มายังส่งชื่อมารบกวนสมองผมอีก
“ผมกลับแล้วนะ” พอเจอชื่อไอ้ไผ่ ก็ทำให้ผมเบื่อขึ้นมาทันที เลยไม่อยากจะนั่งต่อ
“กลับบ้านหรือเปล่าวันนี้” พี่ผมถามก่อนที่ผมจะเดินออกมา
“ไม่หละ ผมไปนอนคอนโดดีกว่า บอกพ่อกับแม่ด้วย เดี๋ยวเสาร์นี้ผมไปนอนบ้าน” พูดจบผมก็เดินออกมาเลย
ผมขับรถกลับมาที่คอนโด หลังจากแวะซื้อของกินกลับมาที่ห้อง ปกติแล้วผมจะนอนที่นี่ช่วงวันที่มีเรียน แต่ถ้าไม่มีเรียนก็จะกลับไปนอนที่บ้าน เพราะที่นี่ใกล้กับที่เรียนและสะดวกกว่าที่จะเดินทางไปกลับบ้าน
ผมจะแวะทักพี่ยามหน้าคอนโดเสมอเพราะเวลามีเรื่องหรือมีอะไรชำรุดผมก็มักจะวานพี่เค้าให้มาช่วยเสมอ ทำให้คุ้นเคยกัน จริงๆก็จะมียามหน้าตึกอีก แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่ายามหน้าตึกผมเค้าจ้างมาหลับหรือยังไง ไม่เคยช่วยอะไรได้เลย ทำให้ผมต้องเสียเวลาเดินออกมาที่หน้าคอนโด....อยากจะให้เจ้านายเค้ามาเห็นจริงๆ ว่าลูกน้องทำงานเป็นยังไง
ผมขับรถมาจอดหน้าตึก คิดไว้ว่าวันนี้ผมจะแกล้งยามแอบหลับสักหน่อย เผื่อจะได้อารมณ์ดีขึ้นจากเรื่องไอ้ไผ่บ้าง
แต่พอผมเดินขึ้นมาตรงโต๊ะยามที่ต้องมีคนฟุบหลับเสมอ ผมกับเจอเข้ากับคนที่ทำให้ผมอารมณ์เสียมาตลอดวัน......ไอ้ไผ่......มันนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมกับกองหนังสือที่ผมคุ้นเคย เพราะมันคือหนังสือเรียนที่พวกผมเรียนนั่นเอง สายตาของมันมุ่งมั่นในการอ่านผิดกับปกติที่ผมจะเห็นมันหลับเสมอ นี่สินะถึงทำให้มันได้คะแนนดีเสมอ ด้านข้างมีถ้วยกับซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ยังไม่ได้เปิดวางไว้คู่กัน ผมไม่สงสัยในเรื่องคะแนนของมันแล้ว แต่ว่า.......มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอกำลังใจให้ sadness คนเดิมด้วยนะครับ
เรียนหนักแต่ไม่ทิ้งกันครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หลังจากที่ปรึกษาหารือกับสมาชิก
โดยเฉพาะ ปุ๋ย (RockPrincess)
เจ้าของผลงาน
มันจะรู้สึกยังไงนะ ถ้าได้เป็นคนหน้าตาดีกับเขาบ้างและได้รับการยืนยันอย่างหนักแน่น
จึงได้รูปมาฝากทุกคน อิอิ
คนแรกก็ตินตินก่อนเลย
รูปนี้บ่งบอกถึงความหยิ่งในตัว
มีความเงียบขรึม แต่ในใจก็แอบเหงาเช่นกัน
ส่วนนายตินรูปนี้เป็นตอนที่เจอไผ่ ดูมีความสุขในแววตา
แต่ก็ไม่ทิ้งความเป็นตัวของตัวเอง
คนที่สองก็ต้องน้องทิวไผ่ ที่เลือกรูปนี้เพราะดูน่าทะนุถนอม
และมีความโดดเดี่ยวในตัว แถมท่าทางก็ไม่ค่อยสนใจใครด้วย
อีกทั้งป้าปุ๋ยยืนยันหนักแน่น เลยเอาตามนั้น อิอิ
ต่อไปก็พี่ป่าน พี่ชายผู้อบอุ่น แฟมิลี่แมน
ชอบรอยยิ้มของผู้ชายคนนี้ เห็นแล้วอบอุ่นใช่เล่น
เลยยกบทพี่ชายผู้แสนดีให้ไปเลย
นายเจ ต้องออกแนวกวนๆ ยิ้มง่าย
และตัวไม่ใหญ่มาก เพราะต้องโดนสาวมั่นอย่างกุ้งโขกสับ 555
คนสุดท้าย เพราะความชอบส่วนตัวของคนแต่ง แม้จะมีคนค้านแต่ก็ไม่ยอมเปลี่ยน อิอิ
เพราะกุ้งในแบบที่คิด ต้องทั้งห้าว เปรี้ยว แอบหวาน และดูไม่แคร์ใคร
ง่ายๆ คนแต่งชอบคนนี้เป็นพอ จบ 5555
ตรงใจกันบ้างไหมครับ จองคนไหนบอกคนแต่งบ้างนะครับ