Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 1
จากคุณชาย กลายเป็น ‘ทาส’
ที่นี่ที่ไหน?
เป็นคำถามแรกที่โผล่เข้ามาในความคิดของเขาตอนนี้ สายตาคมมองไปยังสถานที่แห่งนี้อย่างสังเกตและครุ่นคิดไปด้วยว่าทำไมตอนถึงมาอยู่ที่นี่
“ที่ไหนวะเนี่ย”
เมื่อคืนเขาไปงานรับรางวัลของสมาคมนักธุรกิจฯ แล้วก็รอจนจบงาน พองานจบเขาก็เดินไปที่รถของตน แต่ก็เหมือนมีใครสักคนเอาผ้าอะไรบางอย่างมาปิดจมูกเขาจากนั้นเขาก็ไม่มีสติอีกเลย
“ชัดเลย...ลักพาตัว” เสียงทุ้มเอกลักษณ์พูดขึ้นกับตัวเอง ใบหน้าแสดงถึงความเครียดออกมาจากทางหน้าตาได้เป็นอย่างดี
“ใครวะ ที่กล้ามาลักพาตัวฉันคนนี้”
ครืด...
เสียงแปลกๆ พร้อมกับความรู้สึกที่เจ็บหน่วงๆ ที่ข้อเท้าทำให้ร่างสูงโปร่งต้องก้มลงมอง ก็พบว่าข้อเท้าขวาของเขามีโซ่ล่ามเอาไว้อยู่ เขาจับโซ่ยาวๆ นี้ก่อนจะเตะมันออกไปให้พ้นอย่างหัวเสีย
อะไรกันวะเนี่ย!! กูเคยไปมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่าวะ!!!
แกร็ก…
“สวัสดีอินทัช ชยอัมรินทร์ ตื่นแล้วหรือ”
การปรากฏตัวพร้อมกับน้ำเสียงทุ้มฟังสบายหูแต่น้ำเสียงกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความแข็งกระด้างและใบหน้าที่หล่อเหลาสมกับชายชาตรีที่ให้คนที่ถูกทักทายถึงกับมองค้าง เพราะเจอคนที่หน้าตาหล่อสมกับผู้ชาย ไม่ใช่ผู้ชายหน้าสวยอย่างเขา
แต่ทำไมคนที่เพิ่งจะเจอหน้ากัน ไม่รู้จักกัน ถึงได้ทำหน้าจงเกลียดจงชังเขานัก
“นายเป็นใคร”
“เจ้าของชีวิตมึงในตอนนี้ยังไงล่ะ!!” คนตัวสูงกว่าไม่กี่เซ็นเอ่ยเสียงแข็งจนอินทัชถึงกับไม่เข้าใจ แต่ก็โกรธที่อีกคนพูดเหมือนกับว่าเขาไปทำอะไรให้จนแค้นเคืองซะขนาดนั้น
“หมายความว่ายังไง”
“ทำชั่วไว้เยอะสินะถึงได้จำไม่ได้ว่าทำอะไรกับใครไว้บ้าง”
“แล้วกูทำอะไร!!” อินทัชถามเสียงแข็ง
“หึหึ มึงทำร้ายหัวใจของคนที่รักมึงมากี่คนแล้วล่ะ หน้าละอ่อนแบบนี้ไม่น่าจะมีผู้หญิงมาชอบเลยเถอะ” ร่างสูงพูดด้วยสีหน้าที่เยาะเย้ยเต็มที่
“ทำไม หน้ากูมันยังไง มึงหล่อตายห่าล่ะ”
“กูก็ไม่ได้ว่าตัวเองหล่อ แต่หน้าแบบมึงไม่น่าจะเป็นคนเลว”
“แล้วกูมันเลวเรื่องอะไร”
“ถ้าเรื่องเลวที่มึงเคยทำไว้มันเยอะขนาดนั้นล่ะก็ กูจะบอกให้เอาบุญ” ร่างสูงพูดแล้วย่างก้าวเข้ามาหาอินทัชที่ถูกโซ่ล่ามไปไหนไม่ได้อย่างช้าๆ แววตาของอีกคนฉายแววหน้ากลัวจนร่างสูงโปร่งถึงกับแอบกลืนน้ำลาย
“แล้วมันอะไร”
ชีวิตนี้อินทัชไม่เคยทำร้ายจิตใจใคร...ใครที่เขาไม่ได้สนใจก็ไม่คบ ไม่คุย ไม่นอนด้วยจริงๆ ก็บอกออกไปดีๆ ไม่เคยต้องทำร้ายจิตใจใคร
ร่างสูงที่เห็นอินทัชถามด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงความรู้สึกอยากจะรู้จริงๆ ก็ได้แต่กัดฟันตัวเองแน่น เห็นหน้าอีกคนแล้วอยากจะเข้าไปจัดการให้หายแค้น
“มึงนี่มัน สุดๆ เลยว่ะ”
“โอ้ย!!! แล้วด่ากูเอ๊า ด่ากูเอาตอนนี้แล้วไม่บอกว่ากูไปทำอะไรให้มึงกูจะไปรู้ไหมวะ!!! แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกที่กูกับมึงเจอกัน หรือว่ากูไปเหยียบตีนมึง ถึงได้จับมาแบบนี้เพราะแค้น” อินทัชระเบิดอารมณ์อย่างทนไม่ไหวที่ไม่รู้เรื่องอะไรดันโดนอีกคนด่าว่าเลวอย่างนั้นอย่างนี้
คือกูผิดอะไร ยังไม่รู้เลย
“กูชื่อรามินทร์ อัครสิงหบดี!!! มึงพอจะจำคนนามสกุลนี้ได้ไหม ว่ามึงทำอะไรไว้บ้าง!!!” คนตรงหน้าตะคอกเสียงกร้าว จนอินทัชต้องขมวดคิ้วแน่นอย่างสงสัย
ทว่านามสกุลที่ได้ยินจากปากร่างใหญ่ก็ทำให้อินทัชฉุกคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสองปีกว่าขึ้นมาในงานเลี้ยงจบของมหาลัยฯ ในวันนั้น
ผู้หญิงคนนั้น รู้สึกจะนามสกุลนี้
“เงียบทำไม จำได้แล้วงั้นสิ!!”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึง!!” ร่างสูงโปร่งตะคอกถามเสียงเครียด
มันเกี่ยวอะไรกันกับการที่เขาปฏิเสธผู้หญิงคนนั้น เพราะว่าเขาไม่ชอบ แต่วันนั้น เธอก็ไม่ได้ดูผิดปกติอะไรเลยนอกจากจะกรีดร้องโวยวายแล้วออกไปจากที่จัดงาน
หลังจากวันนั้นก็ไม่รู้ เพราะต่างคนต่างก็จบแยกย้ายกันไป
“น้องสาวกูเองไง”
“เหรอ!! แล้วไงอีกล่ะ กูทำผิดเหี้ยอะไรนักหนาถึงต้องจับกุมาไว้แบบนี้ ล่ามโซ่อย่างกับกูเป็นนักโทษ”
“มันยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำสำหรับสิ่งที่มึงทำกับน้องกู”
“มันน้อยไปยังไง กูทำอะไรให้น้องมึง น้องมึงต่างหากที่ทำตัวของตัวเอง”
“เป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า ถึงได้โยนความผิดมาให้น้องกูแบบนี้ กูรู้จักน้องกูดี” อินทัชหัวเราะให้กับประโยคนี้ของร่างสูงอย่างรามินทร์แบบสมเพช
“งั้นกูว่า...มึงควรจะทำความรู้จักน้องมึงใหม่ได้แล้ว จู่ๆ ก็เดินมาขอคบกู ท่าทางแบบนั้นคือต้องการจะมาควบคุมกู งั้นมึงตอบกูหน่อยว่าการจะปฏิเสธคนที่ตัวเองไม่ชอบไม่สนใจมันผิดตรงไหน!!!” อินทัชตะคอกถามทำเอารามินทร์ฉุกคิดไปนิดๆ เพราะเห็นด้วยกับร่างสูงโปร่ง
คนมันไม่ได้รักไม่ได้ชอบ ปฏิเสธก็ถูกแล้ว
“แต่มึงทำให้คนทั้งรุ่นหัวเราะเยาะเย้ยน้องกูจนอับอาย”
“นั่นกูไม่ได้ทำ”
“กูไม่เชื่อ!!!” รามินทร์สวนกลับมาเสียงดัง
“งั้นก็เรื่องของมึง ปล่อยกูกลับบ้านซะ เดี๋ยวกูจะเอาเงินมารับผิดชอบเรื่องนี้ก็ได้ เอาเท่าไหร่ล่ะ 10 ล้าน หรือว่า 20 ล้าน”
ผลัวะ!!!
สิ้นประโยคคำถามของอินทัชหมัดหนักๆ ของรามินทร์ก็กระแทกเข้าที่ใบหน้าสวยอย่างแรงจนหน้าหันไปตามแรงต่อย รู้สึกว่าโพรงปากเต็มไปด้วยเลือด มือขาวยกขึ้นใช้หลังมือปาดเลือดที่มุมปากเล็กน้อย มันเจ็บมาก เจ็บจนพูดอะไรไม่ออกอีก แต่เขาก็หันกลับมามาคนทำอย่างโกรธแค้นไม่แพ้กัน
คนอะไรไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ความจริง เอาอารมณ์ของตัวเองเป็นที่ตั้งจริงๆ
“อย่าดูถูกพวกกู สิ่งที่กูต้องการคือการชดใช้จากมึง”
“แล้วมันเรื่องอะไรที่กูจะต้องชดใช้นักหนา”
“มึงทำให้น้องกูฆ่าตัวตาย!!” สิ้นเสียงที่แข็งกร้าวของรามินทร์ อินทัชก็นิ่งอึ้งไปอย่างคาดไม่ถึง ผู้หญิงที่เข้ามาทำลายตัวเองตอนนั้น ฆ่าตัวตายเพราะเรื่องนี้
ไม่มีทาง มันไม่มีทางเป็นไปได้
“ไม่จริงหรอก...มันไม่จริง”
“แต่มันจริงไปแล้ว!! และนี่คือสิ่งที่มึงต้องชดใช้!!!”
“กูไม่ผิด!!” เถียงกลับเสียงแข็ง แม้จะรู้สึกเสียใจนิดๆ ที่ทำให้คนอื่นต้องมาฆ่าตัวตายเพราะตน เพราะถึงขนาดนี้การที่พี่ชายของเธอคนนั้นจะมาเอาคืนเขามันก็ไม่ผิด
แต่เขาก็ไม่ได้ผิดเหมือนกัน...
“นั่นสิ กูลืมไปได้ไงว่าคนที่มันชั่ว คนที่มันผิดมันมักจะไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด...เอาเถอะ ต่อให้มึงปฏิเสธว่ามึงไม่ได้ผิด กูก็จะยัดเยียดความผิดนี้ให้มึง ชดใช้สิ่งที่ทำกับน้องกูจนกว่ากูจะพอใจ!!!” ร่างสูงประกาศมองใบหน้าสวยของอินทัชด้วยความเกลียดชังสุดชีวิต ส่วนอินทัชก็มองร่างสูงกลับอย่างเกลียดชังเช่นเดียวกัน
เรื่องอะไรที่ทำให้เขาต้องมาเจออะไรแบบนี้
พ่อแม่เขาจะเป็นห่วงแค่ไหนที่ลูกชายคนเดียวหายตัวไป
บริษัทจะเดือดร้อนแค่ไหน ที่เขาไม่ได้อยู่ดูแล
ที่สำคัญ เพื่อนรักของเราจะเป็นทุกข์มากไหม ที่เพื่อนอย่างเขาหายตัวมาแบบนี้
อะไรกันนะ...เวรกรรมอะไรที่ทำให้เขาต้องมารับใช้สิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อแบบนี้
“งั้นก็ได้!! มึงอยากให้กูทำอะไรก็ว่ามา แต่ถ้าสะใจแล้ว พอใจแล้ว มึงต้องปล่อยกูกลับไปซะ!!!”
“แน่นอน ให้กูทรมานมึงก่อนเถอะ ถึงตอนนั้น กูก็ไม่อยากจะเก็บมึงไว้เหมือนกัน”
“ก็ดี จะเอายังไงว่ามา”
อินทัชกลัว กลัวว่าจะทำและทนเรื่องแบบนี้ไม่ได้
เขาใช้ชีวิตแบบคุณชายมาโดยตลอด นอกจากบริหารงาน งานในบริษัทแล้ว เรื่องอื่นๆ เขาก็ทำอะไรไม่เป็นเลย
“คนใช้ ขี้ข้า อะไรที่กูคนนี้ต้องการ!!”
อินทัชนิ่งอึ้งไป เพราะการเป็นคนใช้ให้คนอื่นคืออะไรที่อินทัชไม่เคยทำและไม่คิดที่จะทำ!!
“ไม่มีทาง”
“แต่มึงต้องทำ เพราะถ้ามึงไม่ชดใช้ให้พวกกู มึงไม่มีทางที่จะออกไปจากที่นี่ได้”
ร่างสูงแสยะยิ้มมองร่างโปร่งอย่างเหนือกว่า ให้อินทัชรู้ไว้ว่า ชีวิตของตนตอนนี้มีร่างสูงเป็นเจ้าของอยู่
“ที่นี่ที่ไหน”
“กูไม่บอก แต่บอกให้ก็แล้วกันว่ามึงอยู่บนเขา ลงจากที่นี่ไม่ได้ถ้าหากว่ากูไม่อนุญาต!!”
เป็นคำตอบที่ฉุดสติของเขาให้ดำดิ่งลงไปอีกครั้ง ทำไมถึงเป็นแบบนี้...
เพราะอะไรกัน แล้วแบบนี้เขาจะหาทางหนีได้ไหม
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มึงจะต้องทำงานอยู่ที่นี่ในฐานะที่เป็นคนงานของที่นี่ ใครสั่งอะไรก็ต้องทำ กูให้ทำอะไรมึงก็ต้องทำ ส่วนเงินเดือน หึหึ แค่ข้าวปลากับที่อยู่ก็เพียงพอแล้วล่ะมั้ง” ร่างสูงกอดอกพูด ใบหน้าหล่อเหลาที่มีแววความสุภาพอ่อนโยนมองร่างโปร่งด้วยสีหน้าที่โหดร้ายที่สุด
“แล้วเสื้อผ้ากูล่ะ” อินทัชถามเครียดๆ
มันจะบ้าหรือไง ให้ข้าวกับที่อยู่ก็พอทน แต่เสื้อผ้าเขาจะมีเงินที่ไหนซื้อใส่ล่ะ
ให้ตายสิ ตอนนี้เขายังอยู่ในชุดสูทอยู่เลย...
“นั่นน่ะสิ เอาเป็นว่ากูจะใจดีซื้อมาให้สักสองสามชุดก็แล้วกัน จะใช้จะใส่อะไรก็จัดการบริหารเอาเอง”
“ชิ!!” ร่างโปร่งสะบัดหน้าหนี ร่างสูงสาวเท้าเข้ามาหาร่างโปร่งก่อนจะนั่งลงปลดโซ่ที่ข้อเท้าให้กับอินทัช รามินทร์กระชากแขนที่เล็กกว่าให้เดินตามตนมาข้างนอกทันที
ภาพบรรยากาศที่เขาเห็นตอนนี้ รอบๆ ของเขาเต็มไปด้วยธรรมชาติที่แสนจะงดงาม แต่มันจะงดงามมากว่านี้ถ้าเขาไม่ได้มาในฐานะที่เป็นเชลยของอีกคนแบบนี้
“รีสอร์ท?”
“ใช่! แต่ไม่ใช่รีสอร์ทที่มีคนเยอะเท่าไหร่หรอก สำหรับพวกที่ชอบขึ้นมาที่สูงๆ เท่านั้นแหละ”
นั่นก็หมายความว่า บนนี้มันอยู่ไกลจากตัวเมืองมากสินะ แล้วนี่มันบนเขาของจังหวัดไหนกันล่ะ มันอยู่ที่ไหนของประเทศไทยกันนะ
“ที่นี่มีแต่คนของกู การที่มึงจะหนีออกไปทำได้ยาก ต่อให้เอาเงินฟาดหัวคนของกูก็ไม่มีทางสำเร็จ เพราะคนเหล่านี้ คือคนที่รู้คุณของครอบครัวกู!”
“มึงนี่พูดมากฉิบหาย ย้ำอยู่นั่นแหละ กูเข้าใจแล้วไงวะ น่ารำคาญจริงๆ ไอ้เหี้ยนี่” อินทัชบ่นขึ้นมาอย่างรำคาญ
เขาก็เป็นคนแบบนี้แหละ เข้าใจอะไรง่ายๆ ถ้าอยากให้ชดใช้นักเขาก็จะชดใช้ให้
เพราะเขาเองก็รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้น้องสาวของรามมินทร์ต้องฆ่าตัวตาย...
“ก็ดี เข้าใจอะไรง่ายๆ ก็ดี ถ้างั้นกูจะพามึงไปที่บ้านพัก” ร่างแกร่งกระชากแขนเล็กกว่าให้เดินตามมาอย่างโมโหที่โดนอินทัชด่า
“บ้านพัก? ไม่ใช่ที่นี่หรือวะ” เขาขมวดคิ้วสงสัย มองไปยังทางที่รามินทร์พาไปอย่างไม่ไว้ใจนัก
รามินทร์หยุดเดินแล้วหันมาเผชิญหน้ากับอินทัชอย่างสะใจจนร่างโปร่งรู้สึกว่ามันแปลกๆ
“ที่นี่? คงไม่เหมาะกับขี้ข้ากูอย่างมึงหรอกนะ”
ถามว่าเจ็บไหม คำตอบคือเจ็บ
แต่อินทัชไม่ใช่คนชอบโต้ตอบ เลยทำให้นึกถึงเพื่อนรักที่ถ้าโดนแบบนี้คงจะด่ายันครอบครัวพร้อมสู้ตายเต็มที่อย่างธีรไนยแล้ว
ตอนนี้กูอยากจะเป็นให้ได้อย่างมึงจริงๆ ว่ะธีร์
“เออ...ที่ไหนก็พาไปสักที”
“ตามมาดีๆ ก็แล้วกัน”
ร่างโปร่งในชุดสูทกลายเป็นเป้าสายตาของคนงานในรีสอร์ทแห่งนี้ แต่ก็ไม่กล้ามองเท่าไหร่เพราะรามินทร์มองกวาดสายตาเป็นนัยๆ ว่าอย่ามายุ่งเรื่องนี้
ทางไปบ้านพักเป็นทางชัน และให้เดินลงไปตามทางของภูเขา เดินไปสักพักก็พบว่ามีน้ำตกสายเล็กๆ กับแอ่งน้ำที่รอรับน้ำจากน้ำตกอยู่ ข้างกันมีบ้านพักไม้ที่ดูน่าอยู่มากๆ ตั้งอยู่ หากแต่ร่างสูงกลับไม่หยุดอยู่ที่บ้านหลังนี้ กลับพาเดินเลยไปอีกไกลจากตัวบ้านพักหลังนั้นพอสมควร อินทัชหยุดยืนนิ่งตามที่รามมินทร์หยุด แต่เขาก็มัวแต่สนใจสายธารของน้ำตกที่ให้ความสดชื่นอย่างพอใจ รอบๆ มีแต่ป่าไม้และหญ้าขึ้นรกมาก จนระแวงว่าจะมีสัตว์อันตรายออกมาหรือเปล่า
“นี่แหละบ้านพักของมึง” สิ้นเสียงบอก เขาก็มองหาตัวบ้านพักทันที
ดวงตาสวยเบิกกว้าอย่างตกใจในสภาพของบ้านพักที่รามมินทร์บอก
“นี่มึง...” พูดไม่ออก
บ้านหรือ...สภาพเหมือนบ้านไม้ที่ร้างมานานหลายสิบปี จะพังแหล่ไม่พังแหล่ หน้าต่างก็เหมือนจะหลุดออกมา ประตูก็เหมือนไม่ช่วยปิดอะไรเลย บ้านไม้ชั้นเดียวที่ยกสูงให้มีใต้ถุนบ้าน มีแคร่ไม้ตัวหนึ่งตั้งอยู่ แต่ก็ต้องทำการถางหญ้าครั้งยิ่งใหญ่
“ทำไม? เป็นคุณชายมาตลอดคงจะไม่เคยพานพบกับความยากลำบากเลยสินะ นี่แหละ มึงจะได้ลิ้มรสก็คราวนี้แหละ หึหึ” ร่างสูงพูดกลั้วหัวเราะอย่างสะใจ
แค่เห็นหน้าตาของอินทัชที่อึ้งและตกใจไปแบบนี้ก็ เขาก็สะใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่แค่นี้มันไม่เพียงพอกับสิ่งที่อินทัชทำกับน้องสาวของเขาหรอก
มันไม่มีทางพอ!!
“แถวนี้ ไม่มีบ้านคนอื่นๆ หรือไงวะ”
“ไม่มี คนอื่นๆ พักที่เรือนคนงาน”
“แล้วทำไมกู…”
“เพราะมึงไง กูถึงให้มาอยู่แบบนี้”
เขาโกรธ โมโห หงุดหงิด และแค้นรามินทร์ไม่ต่างกัน แต่เข้าใจหรือเปล่าว่าทำอะไรไม่ได้ โวยวายออกไปก็เปล่าประโยชน์ เลยได้แต่ถอนหายใจยอมรับชะตากรรมของตัวเอง
เอาวะ!!
แค่นี้มันไม่ตายหรอก...
“ซ่อมเองก็แล้วกัน ส่วนผ้าปูเดี๋ยวกูจะสงเคราะห์ให้คนเอามาให้ อุปกรณ์ก็มีให้ครบทั้งจอบ ทั้งเสียม เมล็ดผักก็เตรียมไว้ให้ ช่วยหาพื้นที่แล้วทำปลูกมันด้วย เพราะเงินของมึงจะได้จากการขายผักมาที่ครัวรีสอร์ทกู ทำให้ได้ก็แล้วกัน เพราะกูไม่รับประกันว่ามึงจะมีเงินใช้จ่ายอะไรหรือเปล่า”
“มึงไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อยหรือวะ”
“ทำไม หน้าตุ๊ดๆ อย่างมึงนี่ทำแบบนี้ไม่ได้ ก็อย่างว่าแหละ พวกเกย์อย่างมึงมันน่ารังเกียจ ทำอะไรก็ไม่เป็น มีดีแค่ทำเอกสารกับสั่งเขาไปวันๆ”
รามินทร์แค่ต้องการพูดให้ร่างโปร่งเจ็บใจและโมโหเท่านั้น ที่ว่าเกย์น่ารังเกียจน่ะ ก็แค่ต้องการยั่วโมโห เพราะถ้าเขาคิดเช่นนั้นจริงๆ เท่ากับว่า
เขาดูถูกตัวเอง และเกลียดตัวเองด้วย
“กูไม่ใช่เกย์” ร่างโปร่งกัดฟันกรอด
“แล้วที่เอากับผู้ชายมันเรียกว่าอะไรล่ะ”
“กูแค่ได้ทั้งหญิงและชาย!! เออ! กูจะทำทั้งหมดที่มึงพูดมานั่นแหละ เสร็จแล้วจะไสหัวไปไหนก็ไปซะ เห็นแล้วรำคาญลูกกะตา”
“มึงกล้าไล่กูหรือไง” ถามเสียงเข้ม
“แล้วคิดว่าทำไมคนอย่างกูถึงไม่กล้าไล่มึง!!”
“ปากดีให้มันตลอดก็แล้วกัน เพราะต่อให้มึงร้องไห้ อ้อนวอนกอดขากูให้พาไปส่งที่บ้าน กูก็จะไม่ทำ”
“ไม่มีทาง!!!”
“ก็ดี...อยากจะรู้เหมือนกันว่าคุณอินทัชจะทำได้สักกี่น้ำ หน้าตาอย่างกับผู้หญิง ร่างกายก็เหยาะแหยะ หึหึ แค่คิดก็รู้แล้วว่าจะเป็นลมภายใน 10 นาทีที่จับจอบจับเสียมแน่!!”
“ถ้างั้นมึงก็นั่งดูเลย ว่ากูทำได้หรือเปล่า ไอ้สัตว์!!”
…
…
…
50%
สวัสดีค่ะ เจอกันกับเรื่องใหม่ คู่นี้รามอินนะคะ ขอโทษที่เปิดเรื่องทิ้งไว้ แล้วหายไปเลยเดือนหนึ่ง ฮ่าๆ งานเยอะจริงๆ ค่ะ ตอนนี้จะพยายามมาลงให้อ่านนะคะ แต่งสดไม่มีแต่งไว้น่อ มาช้าก็อย่าถือโทษโกรธกันนะคะ มีอะไรสอบถาม พูดคุย ได้ที่แฟนเพจเลยนะคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวโยงกันกับเรื่องก่อนๆ เพียงแต่ตัวละครเกี่ยวข้องกันค่ะ รู้จักกันบ้าง ปูเรื่องจากเรื่องอื่นๆ บ้าง ^_^
Double Husband มีสามีทั้งที...ได้ฟรีถึงสอง [3P]
เสพติดอันตราย...รักผู้ชายพันธุ์โหด