ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป
http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
Doctor' lover เด็กหมอตอนที่1
“เอ้าเฮ้ย! ตื่นกันได้แล้ว จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน”เสียงก้าวร้าวดุดันดังกังวานอย่างหัวเสีย เขายังคงหงุดหงิดแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาแค่ ตี3ก็ตาม
ชายฉกรรจ์วัย30ยกแขนสองค้างเท้าเอว มองดูกองผ้าห่มสีหมองเก่าจนขาดรุ่ยหลาย10กอง เริ่มขยับอย่างยืดยาด สร้างความไม่พอใจอย่างมาให้กับตน
“เร็วๆ!!! หรือพวกมึงไม่อยากแดกข้าวกัน ใครมาขึ้นรถคนสุดท้ายไม่ต้องกินข้าว!”เสียงเข้มอย่างคนมีอำนาจเหนือกว่าเอ่ยสั่งอีกครั้ง ทำให้เหล่าเด็กน้อยที่อยู่ภายใต้กองผ้าหลาย10ชีวิต ต่างพากันแตกหือ รีบร้อนลุกจากที่นอนอย่างว่องไว ความโกลาหลเกิดขึ้นในพริบตา เหล่าเด็กน้อยที่เฉลี่ยอายุแล้วคงไม่มีใครเกินกว่า10ขวบ กำลังวิ่งหน้าตั้งไปที่หน้าบ้านไม้หลังโทรมในแถมชานเมืองห่างไกลผู้คน
“ไอ้เกรว มึงยืดยาดอีกแล้ว วันนี้ไม่ต้องกินข้าวเช้าเลยมึง เอ้ารีบขึ้นไป”เด็กชายตัวเล็กที่มีผิวผุดผ่องแม้จะเต็มไปดูคราบสกปรก ก็ยังคนดูมีราศีต่างจากเด็กคนอื่นๆ วิ่งหอบออกมาจากตัวบ้านไม้หลังโทรม แม้จะพยายามสุดกำลังแต่ตนก็ยังมาช้าถึงเป็นคนสุดท้ายอยู่ดี
“เอ้าแจกกันคนล่ะอัน ส่วนมึงไอ้เกรวไม่ต้องกิน”ถุงพลาสติกหูหิ้วใบใหญ่ภายในบรรจุเต็มไปด้วยข้าวเหนียวหน้าหมูหวานห่อเล็กๆถูกโยนไปที่ท้ายรถบรรทุกหกล้อ แต่ก่อนจะโยนขึ้นไป ชายฉกรรจ์ใบหน้าโฉดก็กลับหยิบห่อข้าวเล็กๆหนึ่งห่อออกไป ก่อนจะแกะห่อหยิบกินหมดในคราเดียวต่อหน้าต่อตาเด็กชายผู้โชคร้ายที่สุดของวันนี้
เกรวคือชื่อของเด็กชายผู้อับโชค ได้แต่มองตามห่อพลาสติกที่ว่างเปล่าที่ถูกโยนทิ้งบนพื้นถนนลาดยางเก่าๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโหยหา ห่อข้าวเล็กๆที่ผู้ใหญ่สามารถกินหมดได้ในครั้งเดียว กับเป็นยิ่งกว่าอาหารอันโอชะของเด็กตัวเล็กคนหนึ่ง
อีกแล้ว เป็นแบบนี้อีกแล้ว เด็กชายได้แต่นึกโทษตัวเองในใจ เพราะร่างกายที่อ่อนแอเกินกว่าเด็กคนอื่น เรี่ยวแรงที่มีก็น้อยกว่าคนอื่น ทุกครั้งที่มีบทลงโทษ เขามักจะเป็นหนึ่งในคนที่โดนเสมอ เมื่อวานก็ขายพวงมาลัยไม่หมดจึงไม่ได้กินข้าวเย็น แม้ท้องจะหิวแค่ไหน แต่ก็ปลอบใจตัวเองด้วยการรีบเข้านอน และภาวนาให้พรุ่งนี้มาถึงไวๆ พรุ่งนี้ที่จะได้กินข้าว
แต่เพราะความเหนื่อยอ่อนจากร่างกายที่บอกชำจากการทุบตีและไม่ได้รับอาหารเพื่อที่จะเพิ่มพูนกำลัง ทำให้เช้านี้เขาไม่มีเหรี่ยวแรงยิ่งกว่าที่เคย ทำให้วิ่งไม่ทันคนอื่นและกรายเป็นคนที่ต้องรับโทษในเช้าวันนี้
เวลาตีห้า รถบรรทุกหกล้อที่มีเด็กหลายสิบชีวิตก็มาถึงที่หมายเช่นทุกวัน สี่แยกไฟแดงที่ต่างๆตามถนนเส้นหลังของเมืองหลวง คือจุดหมายของธุรกิจสุดผิดบาป เหล่าเด็กตัวเล็กที่อยู่ในวัย6-10ปี ต่างพากันลงจากรถพร้อมรับ อุปกรณ์ขายพวงมาลัย และเริ่มปฏิบัติหน้าที่เช่นทุกวัน
กลายเป็นภาพที่ชินชา เด็กตัวเล็กในสภาพมอมแมมในมือมีพวกมาลัยเดินขายตามสี่แยกไฟแดง ทามกลางถนนที่ร้อนระอุและเต็มไปด้วยมลพิษ หลายคนมองด้วยความเวทนาและช่วยอุดหนุนพวกมาลัยพวกน้อยด้วยความสงสาร แต่หลายคนกลับมองด้วยความชินชาและเบือนหน้าหนี
เกรว จับจ้องไปที่ไฟจราจรสีเขียวอย่างจดจ้อง แม้ท้องจะร้องด้วยความหิว แม้จะปวดจนแทบไม่มีแรงยืน แต่สองขาเล็กไร้เหรี่ยวแรงก็ยังต้องฝืน เดินลงไปบนพื้นถนนร้อง ระอุ ก่อนจะพยายามยกพวกมาลัยขึ้นเพื่อให้คนที่นั่งอยู่ในรถที่มีเครื่องปรับอากาศเย็นช่ำได้เห็น เพื่อหวังที่จะให้พวกเขาซื้อมันสักพวง เพราะหากวันนี้เข้าขายมันไม่หมด เขาก็คงจะไม่ได้กินข้าวอีกเช่นเคย และที่น่าหวาดกลัวที่สุด คงไม่พ้นการลงโทษด้วยการตบตีตามใบหน้าและร่างกาย ที่เป็นโทษที่คนที่ขายพวงมาลัยไม่หมดจะต้องเจอ
“หนูๆ”เสียงร้องเรียกจากรถยนต์ใหม่เอี่ยมที่เพิ่งเดินผ่านมาสักครู่ดังขึ้น ทำให้เด็กชายหยุดเดินและหันกลับไปมอง
ชายวัยกลางคนแต่งตัวดี ยื่นใบหน้าออกมานอกกระจกรถยนต์ ก่อนจะกวักมือเรียกด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เด็กชายหมุนตัวกลับอย่างรวดเร็วเมื่อรู้ว่ากำลังจะขายพวกมาลัยสีหมองได้อีกหนึ่งพวง
แต่เพราะอากาศที่ร้อนระอุ บวกกับร่างกายที่ไม่ได้รับสารอาหาร และด้วยความรีบร้อนที่จะขายพวงมาลัย ทำให้เด็กชายล้มลงไปกับพื้นถนนร้อนระอุ พวงมาลัยในมือล่นกระจาย เสียงร้องตกใจดังขึ้นจากรถประจำทางที่มีผู้คนแน่นขนัด เด็กชายที่มีสติเพียงน้อยนิดตัวสั่นเทา เมื่อเห็นพวงมาลัยดอกมาลิตกกระจายจนหลายพวงมีดอกมะลิหลุดล่วงออกมา แม้จะรีบร้อนเก็บขึ้นมายังไง แต่ดอกไม้ที่ล่วงล่นแล้วนั้นก็ไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก
ความหวาดกลัวเมื่อรู้ถึงผลของการทำของเสียหายเร่นขึ้นมาในหัวจนทำให้กลัวจนตัวสั่น สายตาเล็กมองส่ายหาคนคุมที่มักจะเฝ้าจับตาดูเขาด้วยความกลัว
“หนูเป็นอะไรไหม”ชายจากรถหรูลงจากรถ ก่อนจะช่วยเก็บพวงมาลัยที่หลุดเปื้อนพื้นถนนอย่างไม่รังเกียจ
“..............”ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงแค่อาการตื่นตกใจจนเกินปกติ เท่านั้นที่หมอวัยกลางคนรับรู้ สายตาจับจ้องไปที่ชายฉกรรจ์ที่กำลังเดินตรงมาที่เด็กชายตัวเล็กด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เขารู้ได้ทันที ถึงสาเหตุที่เด็กชายตัวเล็กหวาดกลัวจนตัวสั่น ไม่มีเวลาให้ไตร่ตรองหาทางแก้ไข เขารู้ไม่ว่าเขาจะยอมจ่ายค่าของที่เสียหายนี่เท่าไหร่ เด็กคนนี้ก็ไม่มีทางพ้นโทษอยู่ดี
สองแขนสะอาดสะอานอุ้มเด็กตัวเล็กตรงหน้าก่อนที่จะจับใส่รถตัวเองด้วยความว่องไว ไม่สนใจแม้เสียงร้องตะโกนของชายหน้าโฉดที่กำลังวิ่งตรงมา ผู้คนต่างมองเหตุการณ์ด้วยความตื่นตระหนก นับว่าเป็นโชคดีที่รถของหมอวัยกลางคนเป็นคันแรกของที่จอดติดไฟแดงอยู่ เขารีบร้อนออกรถทันทีเมื่อเข้ามานั่งประจำที่คนขับ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับไฟจารจรเลี่ยนจากสีแดงเป็นเขียว
“เกือบไปๆ”เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะเบนสายตามองเด็กตัวเล็กที่นั่งอยู่เบาะหลัง ที่ตอนนี้ยังคงไม่พ้นจากอาการตกใจ
“ไม่ต้องกลัว ลุงไม่ทำร้ายหนูแน่นอน”เขาว่าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมมองกระจกด้านข้าง เพื่อดูว่าชายฉกรรจ์คนนั้นตามมาหรือไม่
“หิวไหม กินนี่ก่อนซิภรรยาลุงเขาทำมาให้”เมื่อเบาใจเรื่องคนที่จะตามมาได้ เขาก็หันไปสนใจเด็กตัวเล็กที่กำลังมองเขาอย่างหวาดระแวง
ใบหน้าเล็กมอมแมมซีดเซียว ด้วยประสบการการเป็นกุมารแพทย์มานับ20ปี มองแววเดียวก็รู้ว่าเด็กชายตรงหน้า ขาดสารอาหารอย่างรุนแรง มิหนำซ้ำยังถูกใช้แรงงานอย่างหนักและยังถูกทำร้ายร่างกายอีก ชวนในสลดใจจนขอบตาร้อนพราว
เด็กหลายคนที่เขาเคยรักษาทุกคนต่างกินอาหารทิ้งขว้าง เอาแต่ใจ และถูกเลี้ยงดูอย่างฟุ่มเฟือย แต่ในเวลาเดียวกัน กลับมีเด็กจำนวนมากที่โดนทำร้ายและหิวโหย ขนาดอาหารก็ไม่สามารถกินได้แม้ในเวลาที่หิว จะมีอะไรน่าเศร้าไปกว่าการที่เห็นเด็กวัยเพียงไม่เกิน10ขวบต้องอดอาหารจนร่างกายผอมแห้งขนาดนี้
กล่องทัพเพอร์แวร์ขาวใสถูกส่งไปให้เด็กชายที่นั่งอยู่เบาะหลัง
“ผมกินได้หรอครับ”เสียงแรกที่ได้ยิน กลับเอ่ยคำพูดที่ทำเอาคนที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายแบบเขาต้องปวดใจ น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวังกับสายตาที่อ้อนวอน มองมาที่เขาอย่างคาดหวัง
“กินได้ซิ กินทั้งหมดเลยก็ได้ หรือถ้ายังไม่พอก็จะพาไปกินอีก จะพาไปกินทุกอย่างเลย”หมอวัยกลางคนตอบด้วยความเจ็บปวด อกเหมือนถูกบีบขยำจากมือที่มองไม่เห็น หลังจากส่งกล่องแซนวิซให้ถือมือเด็กชายที่เบาะหลังเขาก็ได้แต่มองตรงไปที่ถนนตรงหน้า จิตนาการถึงความเจ็บปวดที่เด็กคนนี้ต้องเจอมาก่อนหน้านี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งหวั่นใจ จนไม่สามารถสงบใจได้ แม้จะไม่ใช่ลูกหลาน แต่เขาก็ไม่อาจทนเมินเฉยกับเรื่องตรงหน้านี้ได้
“หนูชื่ออะไร”หมอวัยกลางคนเอ่ยถาม
“เกรว”เด็กชายตอบพร้อมกับจับแซนวิซหน้าตาหน้ากินที่สุดที่เขาเคยเห็นขึ้นมา ก่อนจะบรรจงค่อยกัดกินอย่างละเมียดละไม ราวกลับว่า ไม่อยากจะให้ของตรงหน้านั้นหมดไป
“พ่อกับแม่ล่ะ”แม้จะพอเดาออก แต่เขาก็จำเป็นต้องถาม ถึงแม้จะรู้ว่าพ่อแม่เด็กเป็นใคร เขาก็ไม่คิดที่จะส่งเด็กคืนให้กับคนจิตใจโหดเหี้ยมที่ปล่อยให้ลูกตัวเองต้องเผชิญกับชะตากรรมเลวร้ายแบบนี้ได้ลง
“ผมไม่รู้”น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยออกมาด้วยความว่างเปล่า ดวงตาใสที่มีชีวิตเมื่อได้กินแซนวิซหมองลงแทบจะทันที
“..............”แม้จะเป็นหมอเด็กมานานแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าได้ หมอวัยกลางคนเลือกที่จะเงียบและหยุดทุกคำถามลง เขารู้ตอนนี้เด็กคนนี้คงไม่พร้อมที่จะพูดอะไร
“ลุงชื่อธนต์นะ เรียงลุงธนต์ก็ได้”เขาแนะนำตัวเอง ก่อนจะส่งขวดน้ำเปล่าไปให้เด็กชาย
“......”ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงแค่มือเล็กๆที่ยื่นมารับขวดน้ำไป
......................................................
อาคารสูงใหญ่ตั้งตระง่านอยู่กลางใจเมือง รถยนต์หรูหลายสิบคันจอดกันเกือบเต็มบริเวณ เสียงไซเรนของรถพยาบาลดังระงม จนปวดหู
เด็กชายในชุดซ่อมซอร่างกายมอมแมม ถูกจูงมือให้เดินเข้ามายังโรงพยาบาลหรูใหญ่โต แค่เข้ามาด้านในแค่ก้าวเดียวความเย็นสบายของเครื่องปรับอากาศก็ทำเอาเด็กชายยกยิ้มน้อยๆขึ้นมา แต่ก็เพียงเสี่ยววินาทีเมื่อเห็นผู้ใหญ่ทั้งชายหญิงหลายคนตรงเข้ามาทางคุณลุงธนต์ที่จับมือเขาไม่ยอมปล่อย
“ผอ.สวัสดีค่ะ อ่ะนั้นเด็กที่ไหนค่ะ”ผู้หญิงในชุดสีขาวสะอาดเดินเข้ามาทักอย่างแปลกใจ
“ลูกชายครับ ผมขอตัวเดี๋ยวต้องเข้าเวร สายแล้วซะด้วย”ตอบกลับพร้อมตัดบทสนทนาเดินจูงมือเด็กชายตรงไปที่ห้องตรวจห้องหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล
ประตูบานเลื่อนสีฟ้าอ่อนเลื่อนเปิดออกก่อนที่เด็กชายจะถูกจูงมือเดินเข้าไปข้างใน
“อ่ะ น้องเกรวสวัสดีพี่หมอซิครับ”หมอวัยกลางคนเอ่ยขึ้น เมื่อหยุดยื่นอยู่ตรงหน้าว่าที่หมอหนุ่มหน้าตาดี ผู้เป็นลูกชาย
“นี่อะไรครับพ่อ”ว่าที่หมอหนุ่มถามอย่างตกใจ จ้องมองเด็กชายตัวเล็กที่ยืนแอบอยู่ด้านหลังพ่อของเขา
เด็กชายตัวเล็กที่สวมเสื้อผ้าเก่า ผิวขาวถูกบดปังด้วยรอยเขียวช้ำ บ้างจุดนานจนเป็นสีม่วงเข้ม ดวงตากลมกำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาหวาดกลัว
“เสียงดังไปแล้วไอ้นนต์”คนเป็นพ่อเอ็ดแบบไม่จริงจังนักก่อนจะหันไปจับแขนเล็กให้ออกมาเผชิญหน้ากับเขา แต่เด็กคนนั้นก็ทำแค่ยื้อไว้ไม่ยอมปล่อยชายเสื้อพ่อของเขาเลยสักนิด
“ขอบโทษนะครับที่พี่ทำให้ตกใจ มานี่มาพี่แค่อยากจะทายาให้”หมอหนุ่มเดินไปย่อตัวนั่งลงตรงหน้าเด็กชาย ก่อนจะยื่นมืออกไปหมายให้เด็กชายยื่นมาจับ เด็กชายมองมือผมอย่างกล้าๆกลัวๆ
และในที่สุดก็ยื่นออกมาตอบรับ
หมอหนุ่มพาเด็กชายขึ้นนั่งบนเตียวตรวจคนไข้ ก่อนจะเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามเนื้อตัวผอมบาง ตลอดเวลาที่เขาทายาให้เด็กชายก็เอาแต่จ้องหน้าผมแทบจะไม่กระพริบตา
“เด็กคนนี่เป็นใครครับพ่อ ทำไมตามตัวมีแต่แผล”ผมยิ่งเปิดดูใต้เสื้อเก่าๆ ยิ่งเห็นว่ามันมีมากขนาดไหน
“เด็กคนนี้คงถูกจับตัวมาแล้วพวกนั้นก็บังคับให้ไปขายพวกมาลัยกลางสี่แยก พ่อเห็นหน้าตาผิวพรรณดี ไม่หน้าจะเป็นเด็กที่ต้องมาทำอะไรแบบนั้น ก็เลยจับขึ้นรถมา”คนเป็นพ่อพูดยิ้มๆ มันเป็นแค่ข้ออ้างทีแรกเขาไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลย แต่พอนั่งรถมาด้วยกันก็ทำให้เขาเริ่มคิดแบบนั้นขึ้นมา ก็ได้แต่หวังว่าสิ่งที่เขาสงสัยอาจจะเป็นเรื่องจริง เพราะอย่างน้อยก็ไม่อยากให้เด็กชายต้องถูกพ่อแม่ปล่อยให้มาเผชิญชะกรรมแบบนี้ แต่ไม่ว่าจะแบบไหนมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี
“จับมาเลยหรอครับ”หมอหนุ่มชะงักทันที ที่ได้ยินที่มา
“เอาน่าๆ ต่อไปน้องเกรวจะมาอยู่ที่บ้านเรา “
“แล้วพ่อแม่น้องล่ะครับ”หมอหนุ่มเริ่มลนลาน
“ไม่มี”คนเป็นพ่อว่าเรียบๆ
“แล้วเรื่องเอกสารล่ะครับ”เขาถามอย่างกังวล
“เรื่องนั้นแกไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพ่อจัดการเอง ว่าแต่แกจะออกเวรแล้วใช่ไหม งั้นก็พาเกรวไปซื้อข้าวของจำเป็น เดี๋ยวเรื่องอื่นพ่อจัดการเอง ฝากด้วยนะ”เดินมาตบไหล่ลูกชายสองสามทีแล้วเดินออกไป
เขาได้แต่หันมามองยังคนกลางที่จ้องตนจนตาเริ่มแดงมือเล็กๆยื่นมาจับที่เสื้อกาวของเขาแน่น
“ไม่ต้องกลัวนะครับต่อไปพี่จะปกป้องเราเอง พี่สัญญา”
TBC.
เขียนใหม่นะครัช เขียนใหม่ เริ่มจากต้นเลยเเล้วกัน ตอนเเรกคิดไว้ว่าจะเอาไปในส่วนย้อนอดีต เเต่คิดอีกที เอาไว้ตั้งเเต่เริ่มเลยเเล้วกันจะได้เห็นถึงความสัมพันธ์ของตัวละคร
สำหรับคนที่เคยอ่านก่อนหน้านี้คอนเซ็ปยังคงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเพื่อเนื้อหา คำพูดเเละตรวจสอบภาษา เเนะนำให้อ่านใหม่แต่ต้นนะครัช
ปล.เรื่องหนังสือร้าย...จนรัก กำลังตามให้นะ ได้ความว่าไงเดี๋ยวมาเเจ้งอีกที ขออภัยในความล่าช้าด้วย