ชายหนุ่มถอนหายใจยาว เขาขับรถกลับมาที่โรงพยาบาล ถืออาหารเย็นที่ซื้อมาขึ้นไปหาเพื่อนที่วอร์ดศัลยกรรม ที่นั่นเขาเห็นรูมเมทของคนนั่งกินข้าวอยู่กับใครอีกคนก่อนแล้ว
“อ้าว...เพลิง มาทำอะไรบนนี้” เต้ยทักเขา วางช้อนลงกับกล่องข้าวผัดตรงหน้า เช่นเดียวกับเมืองแมนที่เงยหน้าขึ้นมองเขาเงียบๆ
“มาหาแมน” เพลิงกัลป์ตอบ ทอดสายตามองกล่องข้าวสองกล่องตรงหน้าของทั้งคู่ พวกเขากำลังทานข้าวเย็นกันอยู่ “กินอะไรกัน”
“ข้าวผัด กูแวะซื้อมาฝากแมนเห็นยังไม่ได้กินอะไร เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งเข้า” ชายหนุ่มอีกคนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ็นดู “มึงกินอะไรหรือยัง นั่นหิ้วอะไรมาน่ะ”
“อ๋อ...ไม่มีอะไร หิ้วมาทิ้งน่ะ มันไม่อร่อย” คนพูดไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องพูดออกไปแบบนั้นด้วย “กูไปก่อนนะ ไว้เจอกัน”
เมืองแมนมองตามหลังร่างสูงใหญ่ที่เดินหิ้วถุงใส่กล่องโฟมที่เขารู้ดีว่าในนั้นมีอะไรอยู่ เดินดุ่มๆออกไปจากวอร์ด เขาหยิบช้อนขึ้นมาฝืนตักข้าวผัดเข้าปากได้อีกไม่กี่คำก็ต้องวาง
“อิ่มแล้วหรอ ทำไมทานน้อยอีกแล้วล่ะ หรือว่าเหนื่อย” คนตรงหน้าถามขึ้นอย่างห่วงใย เมืองแมนลอบระบายลมหายใจออกอย่างอึดอัด
“เหนื่อยๆน่ะ เลยไม่ค่อยหิว ...ขอบคุณเต้ยมากนะที่แวะมา”
“ไม่เป็นไรหรอกเรื่องเล็ก เรากะแล้วเชียวว่าแมนต้องยังไม่ได้กินข้าวแน่ๆ” ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ “มีแรงกลับไปทำงานต่อแล้วหรือยัง มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า”
เมืองแมนส่ายหน้า
เต้ยลากลับไปแล้ว ทิ้งให้เขาจัดการงานที่วอร์ดต่อ เมืองแมนทำงานไปเรื่อยๆจนเกือบห้าทุ่ม ร่างกายของเขาก็เริ่มประท้วงว่าชักไม่ไหว
ร่างกายที่เคยแข็งแรงของเขายามนี้ช่างดูอ่อนแอลง แค่ยืนนานนิดหน่อยก็เริ่มปวดเมื่อย เดินมากๆก็เวียนหัว ก้มลงหยิบของก็หน้ามืด ต้องคอยนั่งพักเป็นระยะให้คุณพยาบาลเป็นห่วงอยู่เรื่อย
“พี่ว่าหมอไปพักก่อนดีกว่าค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรหรอกค่ะ” พยาบาลไล่ให้เขาไปนอนพัก
“รับเคสนี้เสร็จจะไปแล้วครับ” เมืองแมนตอบ เขาก็ฝืนตัวเองต่อไม่ไหวเหมือนกัน
ชายหนุ่มเดินลงมาถึงห้องพักแพทย์ที่อยู่ชั้นบนสุดของอาคารผู้ป่วยอย่างหมดแรง เขาเปิดประตูเข้าไปในห้อง ไม่มีแรงแม้แต่จะลุกไปอาบน้ำก่อนเหมือนทุกที เมืองแมนเดินถึงเตียงปุ๊บก็ล้มตัวลงนอนแผ่แล้วก็หลับไปอย่างรวดเร็ว
ไม่รู้เลยว่ามีคนอื่นเปิดประตูเข้ามาในห้องพักตอนเกือบเที่ยงคืน
เพลิงกัลป์เข้ามาในห้องพักแพทย์เวรศัลยกรรมที่เปิดไฟสว่าง เสียงโทรศัพท์มือถือที่ไว้ตามตัวแพทย์ดังเป็นจังหวะไม่เลิก ชายหนุ่มมองเห็นร่างที่นอนอยู่บนเตียงนิ่งไม่ขยับแม้เสียงโทรศัพท์จะดังอยู่ก็ตาม
เขาก้าวเข้าไปจนชิด เอื้อมมือไปอังใต้จมูกของอีกฝ่าย รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของคนหลับ ...สลบไปแล้วสินะ บอกแล้วไม่เชื่อว่าให้พักๆ เป็นไงล่ะ ดื้อดีนัก
เพลิงกัลป์คิดในใจ หยิบโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่ายขึ้นมากดรับแทน
“ครับ ผมเพลิงกัลป์ครับ หลังจากนี้ให้โทรหาผมแทน ไม่ต้องโทรหาเมืองแมนแล้วครับ” เขาบอกพี่พยาบาลที่โทรมา จากนั้นก็หมุนตัวออกไปจากห้องพักเพื่อไปดูเคสคนไข้รีบด่วนที่วอร์ด ปล่อยให้อีกคนนอนหลับพักไปก่อนโดยไม่รบกวน
นายแพทย์หนุ่มกลับเข้ามาในห้องพักแพทย์อีกครั้งตอนเกือบตีสี่ วันนี้เวรของเขายุ่งวุ่นวายกว่าปกติเหมือนคนทั้งเมืองพร้อมใจกันเกิดอุบัติเหตุ ไม่ก็กระเพาะทะลุ ลำไส้อุดตัน ฯลฯ สารพัดที่จะมา เขาเข้าห้องน้ำล้างหน้า ดูรอยคล้ำใต้ตาของตัวเองอย่างเซ็งๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ยังเหลือเวลาที่ต้องอยู่เวรอีกสี่ชั่วโมงกว่า เขายังพอเหลือเวลาให้นอนพัก
ชายหนุ่มกลับออกมาจากห้องน้ำ รู้สึกสดชื่นขึ้นเล็กน้อย สายตาคมไวมองเห็นกล่องโฟมที่เพิ่งแช่ตู้เย็นเมื่อหัวค่ำลงไปนอนสถิตย์อยู่ในถังขยะหน้าห้องน้ำเสียแล้ว
เหลือบมองคนที่นอนเงียบบนเตียงนิดหนึ่ง ชายหนุ่มก้มลงเปิดกล่องออก ข้างในมีเศษผักเหลืออยู่นิดหน่อยกับคราบน้ำสลัด...คงมีคนหิวยามดึก ลุกขึ้นมาซัดสลัดของเขาจนหมดกล่องไปแล้วสินะ
รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก เพลิงกัลป์ปล่อยให้กล่องโฟมอยู่ที่เดิมแล้วเดินกลับมาที่เตียงนอน เห็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งนอนห่มผ้าเงียบอยู่ไม่ขยับ
รอยยิ้มเพิ่มมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงข้างๆคนที่นอนอยู่ จริงๆแล้วเขาก็ไม่อยากจะนอนร่วมเตียงกับอีกคนหรอกนะแต่ว่าภายในห้องพักแพทย์แห่งนี้มีแค่เตียงเดียวเท่านั้น จะให้เขานอนพื้นก็กระไรอยู่
แมนๆอย่างนี้คงไม่คิดมากหรอกใช่มั้ย...
เขาปัดปอยผมที่ตกลงมาระใบหน้าของอีกฝ่ายออก คนหลับไม่มีท่าทางว่าจะตื่นขึ้น แผงขนตายาวทาบอยู่บนผิวแก้มที่เพลิงกัลป์จำได้ว่ามีกระอยู่ด้วย ไม่ได้ขาวใสเสียทีเดียว ในใจนึกอยากบีบจมูกรั้นๆดูซักที แต่ก็ต้องลดมือลง เพลิงกัลป์มองดูมือของตัวเองราวกับเป็นของแปลก
“ชักจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว”
เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ แล้วล้มตัวลงนอนข้างๆอีกคน พยายามไม่ให้โดนเนื้อตัวของฝ่ายนั้น ติดตรงที่เตียงนอนไม่ใช่เตียงใหญ่แบบคู่ หากเป็นเตียงเดี่ยวที่ไว้นอนคนเดียว
พอมาเจอผู้ชายสองคนเข้ามันก็เลยเหลือพื้นที่น้อยเป็นธรรมดา
เพลิงกัลป์ขยับตัวอย่างอึดอัด เริ่มรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่ไม่เลือกนอนพื้นเสียตั้งแต่แรกก็ตอนที่ร่างผอมๆของคนที่นอนหลับสนิทนั้นขยับเบียดเข้ามาจนเขาไม่เหลือที่ให้ถอยหลบ แขนเรียวยกขึ้นโอบรอบตัวเขาพลางเบียดซุกใบหน้าลงมาที่ซอกไหล่
ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้สึกตัวเอาเสียเลยว่ากำลัง ‘กอด’ หมอนข้างมีชีวิตเข้าเต็มๆ
ชายหนุ่มนอนนิ่งเหมือนโดนผีอำไม่กล้าขยับตัว กลิ่นหอมๆที่เคยซาไปพักหนึ่งเริ่มกลับมารบกวนเซลล์ประสาทกันอีกครั้ง กลิ่นนุ่มๆหวานๆลึกซึ้งน่าลุ่มหลงแทบจะระเหยออกมาจากทุกรูขุมขนของคนที่ซบเขาอยู่
ปอยผมนิ่มๆเคลียอยู่ที่ปลายคาง เพลิงกัลป์ลอบสูดลมหายใจเข้าปอดลึกยาวแล้วก็ต้องห้ามตัวเองให้หยุดเพียงเท่านั้น
ห้ามไม่ให้ยกมือขึ้นโอบกอดคนข้างๆเข้ามาแนบชิด ห้ามไม่ให้ฝังจมูกลงไปที่ซอกคอขาวผ่องที่ห่างเพียงแค่เอื้อม ไหนจะแก้มนวลเนียนยิ่งกว่าผู้หญิงกับริมฝีปากจิ้มลิ้มนั้นอีก...ให้ตายเหอะ
ห้ามได้เสียที่ไหนกันเล่า
ชายหนุ่มปล่อยมือจากเอวบางๆนั้นอย่างเสียดาย กลั้นใจปลดมือของเจ้าตัวที่โอบรอบเอวของเขาออก ค่อยๆยกศีรษะทุยๆนั้นออกจากอกของตัวเองให้กลับไปซบที่หมอนเหมือนเดิม จากนั้นเขาก็ดึงตัวลุกขึ้นมานั่ง
หันไปมองชายเสื้อกาวน์สั้นของอีกฝ่ายที่เลิกขึ้นจนเห็นหน้าท้องขาวๆแบนราบอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ เพลิงกัลป์เอื้อมมือไปสัมผัสที่หน้าท้องนั้นแผ่วเบา
รู้สึกได้ถึงส่วนนูนเล็กน้อยตรงท้องน้อย นิดเดียวแทบไม่รู้สึก...คงเป็นเพราะครรภ์ยังอ่อนมาก
..ลูกของเขา อยู่ในนี้
เป็นความรู้สึกที่เหลือเชื่อจริงๆ
เพลิงกัลป์เหลือบมองคนที่ยังหลบตานิ่งอยู่นั้นแวบหนึ่งแล้วก้มลงแตะริมฝีปากเข้าที่หน้าท้องแบนราบนั้น วูบเดียวแล้วก็รีบผละออกพร้อมกับสาปแช่งตัวเองในใจที่ทำอะไรแปลกพิสดารเข้าไปทุกที
เขาไม่นั่งรอหาเหตุผลมาอธิบายตัวเองอีก ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นก้าวยาวๆออกมาจากห้องพักแพทย์นั้น ตั้งใจไว้ว่าคืนนี้จะไม่ย่างเท้าเข้าไปอีก ไม่นอนอีกสักคืนคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
คนที่หลับตาอยู่นั้นค่อยๆลืมตาขึ้น รู้สึกร้อนผ่าวไปหมดทั้งตัวโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง...
ไอ้บ้านั่น...เป็นบ้าอะไรจู่ๆถึงได้เอามือลูบท้องเขา เมืองแมนคิดอย่างโกรธเคือง เลยทำให้เขาตกใจตื่นขึ้นมา กำลังจะอ้าปากด่า อีกฝ่ายก็ก้มลงมาจูบท้องกันดื้อๆ ทำเอาเขารู้สึกเสียววาบที่ท้องน้อย ตามด้วยความรู้สึกหวิวๆในใจอธิบายไม่ถูก ได้แต่นอนหลับตาปี๋ ไม่อยากเห็นหน้าอีกฝ่ายแบบนี้
แล้วนี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว...ไอ้หมอนั่นเอาโทรศัพท์มือถือของเขามาคืนหรือยัง เล่นยึดมือถือกันไปแบบนี้จะให้เขาทำไงได้
บอกว่าจะอยู่เวรเองก็ไม่ยอม แค่เพื่อนซื้อข้าวมาฝากก็ทำหน้าบูดเหมือนหมาโดนยาเบื่อ ทีตัวเองออกไปกินข้าวกับแฟนเขายังไม่ว่าอะไรสักคำ เมืองแมนรู้สึกเพลียใจกับคนๆนี้จริงๆ
แล้วทำไมเขาจะต้องว่าด้วยล่ะ...จู่ๆเจ้าตัวก็ฉุกใจคิด เขาสองคนก็เป็นแฟนกันอยู่แล้วนี่ จะไปไหนด้วยกัน ต่อให้มากว่ากินข้าวยังได้เลย
โทษอารมณ์แปรปรวนของคนท้องแล้วกันนะ...ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ลุกขึ้นมานั่ง เริ่มรู้สึกตัวเองอารมณ์สวิงเหลือเกิน ท้องก็ร้องอีกแล้วทั้งๆที่เพิ่งจัดการสลัดในตู้เย็นไป
ท้องนี่มันน่าเบื่อจริงๆ
ทำไมเขาต้องมาทรมานตัวเองแบบนี้ด้วยวะ
ชายหนุ่มลุกมาเปิดตู้เย็น ข้างในว่างเปล่าไม่มีแม้แต่นมหรือน้ำสักขวด เขาเลยเดินออกจากห้องพักแพทย์แล้วลงไปที่วอร์ดข้างล่างแทน
พอเข้าไปในวอร์ดก็เผชิญหน้ากับคนที่ยังไม่อยากเจอเข้าพอดี เพลิงกัลป์นั่งดูอะไรสักอย่างในโทรศัพท์มือถืออยู่ก่อนแล้ว
ดวงตาคมตวัดขึ้นมองเขา คิ้วเข้มเลิกขึ้นแทนคำถาม
“หิว...มีไรกินมั้ย” หลุดปากออกไปแล้ว เมืองแมนก็นึกอยากตะครุบคำพูดกลับมาแทบไม่ทัน
............................................................................
มาอัพแล้วจร้า มีใครรอเรื่องนี้อยู่บ้างคะ มันจะเรื่อยๆหน่อยนะเรื่องนี้ สำหรับใครที่รอผีอยู่ เจอกันตอนหน้า///ล้อเล่น อ่านแล้วรู้สึกยังไงก็อย่าลืมเม้นท์โหวตกันบ้างนะเออ เป็นกำลังใจคนเขียน
นี่กำลังจ๋อยอยู่ เปิดเรื่องใหม่
แอบพักตร์ไม่ค่อยมีคนอ่าน//ปาดน้ามทาร์
ถึงเรื่องนี้ไม่ได้สนุกมากเหมือน Mpregเรื่องอื่น ไม่หวือหวา ออกแนวประหลาดๆหน่อย แต่เราก็ตั้งใจเขียนเต็มที่เลยนะ ฮืออออ //วันนี้มันดราม่าอัลไลล อ้อออ วาเลนไทน์เดย์ไง
ไว้เจอกันตอนหน้า
ใครเล่นทวิต #แฟนหมอแมน