=== ตอนที่ 29 ===
“เฮ้อ......ฝนตกอีกแล้ว” พื้นยิมเปียกหมดเลยครับ ต้องไปพึ่งพายิมอาจารย์นกอีกแล้ว น้องๆหลายคนมาดูแล้วก็ทราบเลยว่าต้องย้ายที่ซ้อมแน่ๆบางส่วนเลยเดินไปรอที่ยิมอาจารย์นกก่อนเลย มีแค่บางส่วนเท่านั้นที่รอไปกับผมหนึ่งในนั้นไม่ต้องลุ้นเลยว่าต้องมีน้องบีด้วย แต่ตอนนี้น้องบียังไม่มาแฮะ
“ไปไหนของเค้านะ” ผมคิดในใจ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาผมเลยพาน้องๆที่ยืนรอบางส่วนไปส่งที่ยิมอาจารย์นกก่อน ผมวนไปส่งสองรอบพอกลับมาอีกครั้งก็พบน้องอ้นกำลังนั่งเล่นอยู่หน้ายิมผมเลยเดินไปหาอ้น พออ้นหันมาเห็นผม อ้นก็ทักผมว่า
“พี่เอ~อ~อ~อ~อ” อ้นเรียกชื่อผมเสียงยาวๆ แล้วก็ลุกขึ้นเดินมาหาผม
“ครับ”“มีโทรศัพท์ไหม”“มี ทำไมเหรอ”“ให้บีมันยืมโทรหาแม่หน่อยซิ” อ้นทำเสียงรำคาญหน่อยๆ
“ทำไมอ่ะ บีก็มีโทรศัพท์ไม่ใช่เหรอ”“แบตมันหมด”“อ้าว แล้วมีเรื่องอะไรด่วนหรือเปล่า”“ก็พี่มิ้นโทรไปหาครูป้อมว่ายิมเรียนไม่ได้ฝนสาดเข้ามา แล้วแม่มันก็โทรมาบอกว่าจะมารับ พอแม่มันพูดจบแบตก็หมด เห็นมันบอกว่าอยากไปกับพี่มากกว่า มันเลยไปขอยืมโทรศัพท์เพื่อนมัน เนี่ย มันไปอ้อนเค้า ยอมเค้าทุกอย่างเลย เห็นแล้วสงสารมันอ่ะ” น้องพูดจบผมก็ยืนอึ้งอยู่วูบหนึ่ง
“แล้วอ้นไม่มีโทรศัพท์เหรอ”“มี”“แล้วทำไมอ้นไม่ให้บียืมอ่ะ....ถ้าสงสาร”“ก็มันไม่ยอมมายืมผมอ่ะ ผมจะให้มันยืมได้ไง”“.....” แล้วหลังจากที่ผมคุยกับอ้นไม่นานเท่าไหร่ บีก็เดินมาพอดี
“ไปไหนมา” ผมถามบีไป บีหันมายิ้มแล้วตอบว่า
“ไป....ส่งเพื่อนมา”“โทรบอกแม่หรือยัง”“.......พี่รู้ได้ไง”“......” ผมไม่ได้ตอบ แต่บีหันมามองอ้นที่กำลังนั่งเล่นอยู่
“โทรหาแล้ว....”“ทำไมไม่ยืมโทรศัพท์อ้นล่ะ”“......” บีก้มหน้าคอตกแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
“ปะ”“แล้วคนอื่นล่ะครับ” บีเงยหน้าขึ้นมาถามผม
“ไปกันหมดแล้ว เหลือเราสองคนนี่แหละ” ผมตอบกลับไปพร้อมกับลูบหัวบีเบาๆ
“ผมนั่งหน้านะ” บีพูดจบก็ยิ้มให้ผม
แล้วผมก็พาน้องทั้งสองไปยิมอาจารย์นก เมื่อพร้อมกันแล้วการซ้อมก็เริ่มขึ้น แล้วก็มีเซอร์ไพรส์น้องๆเพราะวันนี้โค้ชมาร่วมสอนด้วย แล้วการฝึกซ้อมก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีการต่อแถวเตะแป้น บีเลือกที่จะอยู่แถวที่ผมอยู่ อ้น มิว ต้นกล้า แล้วก็น้องๆอีกหลายคนก็ด้วย จนถึงตอนพัก น้องๆหลายคนแยกย้ายกันไปดื่มน้ำแล้วก็นั่งพักตามอัธยาศัย แล้วเหมือนอ้นจะเพิ่งนึกได้ว่าตอนไปแข่งที่จังหวัด def น้องได้ถ่าย VDO Clip เอาไว้บ้าง เลยเอามาเปิดให้เพื่อนๆดู น้องๆหลายคนที่อยู่ยิมอาจารย์นกก็พากันวิ่งไปมุงดูกันใหญ่ บีเองก็ทำท่าเหมือนจะอยากดู แต่ก็อิดออดเหมือนไม่อยากไปทั้งๆที่อยากไป ผมนั่งมองอยู่พักหนึ่งผมก็เห็นน้องบีเหมือนจะทนไม่ไหวแล้วอยากดูด้วย เลยเดินไปหากลุ่มน้องอ้นช้าๆ
“บี” ผมเรียกน้องบี น้องหันมามอง ผมก็ยื่นมือขึ้นมาแล้วแบมือ น้องบียิ้มแล้วก็เดินมาหาผม ตอนนั้นมิวเห็นพอดี มิวคงจะสงสัยว่าทำไมจู่ๆบีถึงเปลี่ยนเส้นทางซะงั้นทั้งๆที่เมื่อกี้เหมือนจะเดินมาดูด้วยกันแท้ๆ
“บี ไม่ดูด้วยกันเหรอ” มิวตะโกนถาม บีหันไปตามเสียงเรียกแล้วตอบกลับไปว่า
“ไม่อะ...เข้าไม่ดูแล้ว” พูดจบบีก็เดินมาหาผม แล้วก็นั่งลงพิงผมเหมือนเดิม ตอนนั้นอ้นแอบหันชำเลืองมามองหน่อยๆ
ผ่านไปห้านาทีหมดเวลาพักอาจารย์นกเรียกเด็กๆเข้าแถวทุกคนวิ่งมาเข้าแถวตามตำแหน่งของตนเองอย่างรวดเร็วแล้วมันก็บังเอิญว่าบีมายืนตรงจุดที่ผมกำลังยืนอยู่พอดี น้องคงอยากแสดงให้เห็นว่าเค้าดีใจ เลยตัดสินใจกระโดดกอดผมทันที ตอนนั้นคุณโค้ชมองเห็นพอดี คุณโค้ชเลยดุน้องบีไปว่า
“บี!! ทำไมต้องไปกอดพี่เอเค้าแบบนั้น!!” เสียงโหดๆของโค้ชทำเอาบีสะดุ้งโหยงรีบกลับมายืนตรงที่ตัวเองอย่างรวดเร็ว
แล้วการฝึกซ้อมก็ผ่านไปจนถึงช่วงสุดท้ายเหลือประมาณสิบห้านาทีคุณโค้ชของผมเค้ามีความอัดอั้นตันใจที่จะเล่าเรื่องตอนที่ไปแข่งขันที่จังหวัด def มากๆ เค้าเลยขอผม พี่ป้อม แล้วก็ อาจารย์นก ในช่วงสิบห้านาทีสุดท้ายนี้สาธยายเรื่องราวของการแข่งขันที่จังหวัด def หลังจากพล่ามจนสะใจเสร็จแล้ว โค้ชเราก็ปล่อยน้องๆกลับบ้าน หลังโค้ชสั่งเลิกน้องบีรีบเดินตรงมาหาผม
“พี่เอๆ” น้องเรียกผมเบาๆ มือข้างหนึ่งก็จับชายเสื้อผมไว้หลวมๆ
“ว่าไง”“พี่ไปส่งผมหน่อยสิ”“บอกม๊ายัง”“บอกแล้ว”“อื่อได้” วันนี้อาจารย์เยอะ ผมไม่ต้องเฝ้ายิมแล้ว ผมเลยขอตัวพี่ๆเค้ากลับก่อน แล้วก่อนที่ผมจะออกรถก็มีเสียงหนึ่งดังตามมา
“พี่เอ” ผมหันไปตามต้นเสียง เห็นอ้นกำลังกุลีกุจอวิ่งมาหา
“ครับ”“ไปส่งผมด้วย”“บอกที่บ้านยัง”“บอกแล้ว”“งั้นขึ้นมาเลย” ตลอดทางอ้นนั่งเงียบๆส่วนบีก็เล่าเรื่องที่บ้านให้ฟังตลอดทาง ก่อนจะมาถกกันเรื่องเรียนเอาตอนก่อนจะถึงบ้านน้องอ้นประมาณ 5 นาที พอถึงหน้าบ้านน้องอ้นก็เจอคุณพ่อน้องอ้นกำลังยืนกอดอกอยู่พอดี
“ป๊าาาาาาาาาา” อ้นเรียก คุณพ่อเสียงแบบอ้อนๆ
“อ้าว มาแล้วเหรอ” คุณพ่อน้องอ้นเดินมารับ
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้คุณพ่อน้องอ้น บีก็ยกมือไหว้ตาม
“รบกวนพี่เออีกแล้ว” คุณพ่อน้องอ้นพูดแบบยิ้มๆ
“ไม่เป็นไรครับ ไปส่งน้องบีพอดี”“ขอบใจนะ” หลังจากส่งน้องอ้นเสร็จต่อไปก็น้องบี ระหว่างทางบีเล่าค้างเรื่องอาหารอยู่ผมเลย เปิดประเด็นถามน้องบีเรื่องนี้ต่อ
“บี”“ครับ”“ชอบกินอะไรมากสุด”“อะไรก็ได้ที่ทำเองชอบหมดเลย”“ห๊า!! บีทำอาหารเองเป็นด้วย”“อื่อ ใช่ซิ” บีหันมามองผมแล้วยิ้ม
“ทำอะไรเป็นบ้างอ่ะ อย่าบอก มาม่า กับ ไข่ดาวนะ”“ฮูยยย อันนั้นเด็กๆพี่”“แล้วอะไรไม่เด็กอ่ะ”“เอางี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมทำมาให้พี่ชิมเลยแล้วกัน”“เฮ้ย ทำไง พรุ่งนี้ไปเรียนเอาเวลาตอนไหนไปทำ”“เอาน่า”“เฮ้ยยยย ค้างคืนไม่เอานะ”“ฮะๆๆๆ” บีหัวเราะชอบใจ
แล้วผมก็ขับรถมาเกือบถึงหน้าบ้านน้องบีครับ......ยังไม่ทันจะถึงหน้าบ้านพอดีผมก็สังเกตเห็นว่าบ้านน้องบีปิด ประตูปิด ไฟปิด รถ Mu7 ไม่อยู่ด้วย
“บี....มีคนอยู่ป่าวเนี่ยะ”“แป๊บนะ” พูดจบบีก็กระโดดลงจากรถไปกดกริ่ง
“กริ๊งๆ กริ๊งๆ” เสียงกริ่งดังขึ้น
“......” ไม่มีเสียงตอบรับใดๆกลับมา
“กริ๊งๆ กริ๊งๆ กริ๊งๆ กริ๊งๆ”“......” ไม่มีเสียงตอบรับใดๆกลับมา
“กริ๊งๆ กริ๊งๆ กริ๊งๆ กริ๊งๆ กริ๊งๆ กริ๊งๆ”“......” ไม่มีเสียงตอบรับใดๆกลับมา บีหันกลับมามองผมแล้วพูดว่า
“แน่เลยพี่”“อะไรแน่ ไม่มีคนอยู่แน่ใช่ไหม”“อื่อ แฮะๆ” บีตอบกลับมาแล้วก็หัวเราะเบาๆ
“เอาไง” “พี่ไปส่งผมที่บ้านโกดังก็ได้” ตรงนี้ผมชักสงสัยตะหงิดๆว่าน้องบอกที่บ้านแน่เหรอว่าจะให้ผมมาส่ง ปรกติถ้าบอกจะมีคนมารอรับหน้าบ้านนะ ไม่ก็ถ้าออกไปไหนก็ต้องมีลูกจ้างประจำมารอรับ หรือ เปิดประตูให้ ไม่เงียบเป็นเป่าสากแบบนี้ ผมขับรถไปช้าๆ บีก็ชวนคุยเรื่องการทำอาหารต่อ จนกระทั่งขณะที่กำลังขับรถผ่านสวนสาธารณะแห่งหนึ่งโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น
“Ichiban Yari Ore Ga itadaki Kiri Komi Taichou Kagamine Len Da” ผมใส่สมอล์ทอล์คอยู่ไม่ทันจะได้หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาดูว่าใครโทรมาผมก็กดรับสายกับปุ่มที่สมอล์ทอล์คเลย
“สวัสดีครับ”“สวัสดีคะ พี่เอ คุณแม่น้องบีนะคะ”“ครับ” พูดจบผมก็ค่อยๆชะลอรถเข้าข้างทางทันที
“พี่เออยู่ไหนคะ”“เอ่อ.....ตอนนี้อยู่แถวสวนสาธารณะ ghi ครับ” ตอนนั้นบีคงเดาออกแล้วว่าผมคุยกับใคร เลยหันมามองผม
“คือ ตอนนี้คุณแม่อยู่ที่ยิมนะคะ พอดีมารับแล้วครูป้อมบอกว่าน้องบีไปกับพี่เอแล้ว”“อ่ะ...ครับ”“เอ่อ.....รบกวนพี่เอรอตรงนั้นก่อนได้ไหมคะเดี๋ยวคุณแม่มาหา”“ได้ครับ ยืนอยู่ริมทางนะครับ”“ค่ะๆ ขอบคุณค่ะ” ผมลงจากรถมายืนอยู่ริมฟุตบาท บีเองก็ลงมายืนอยู่ข้างๆห่างจากผมไม่มากแล้วไม่พูดอะไรเลย คงจะเดาออกว่าผมไม่พอใจเท่าไหร่น้องเลยยืนเงียบๆ
“บี....” ผมเรียกน้องเบาๆ
“ครับ” น้องหันมามองผมแล้วทำหน้าตาดีใจหน่อยๆเห็นผมพูดด้วยคงคิดว่าผมไม่ว่าอะไรแล้ว
“ทีหลังไม่เอานะครับแบบนี้” ผมพูดเสียงจริงจังกลับไป
“คะ....ครับ” น้องถึงกับคอตกเลยทีเดียวก่อนจะตอบกลับมาเสียงอ่อยๆ
ไม่ถึงสามนาทีหลังจากที่ยืนรอ โทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“คุณแม่น้องบี Calling” ผมยื่นโทรศัพท์ให้น้องบีรับสาย
“ครับม๊า”“.......”“ครับๆได้ครับ”“.......”“ครับๆ แค่นี้นะครับ” แล้วน้องก็กดวางสาย
“ม๊าว่าไง” ผมถามบี
“ม๊าบอกว่าให้พี่ไปส่งที่ร้าน jkl”“นี่”“ครับ”“พี่ไม่ได้โกรธนะ”“.....” บีไม่ตอบอะไรแต่ว่ารอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นมาบนหน้าน้องทันที
“แล้วอย่าให้มีอีกรู้เปล่า” ผมลูบหัวน้องบีเบาๆ
“ครับ” น้องตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูดีใจแล้วก็มีความสุข
วันนั้นผมไปส่งน้องที่ร้าน jkl ได้เจอคุณแม่น้องที่กำลังยืนรออยู่หน้าร้าน คุณแม่น้องพูดขอบคุณผมหลายครั้งจนผมรู้สึกเหมือนคุณแม่ประชดผมยังไงก็ไม่รู้ อืมมม....ไม่รู้ซิ.......ผมอาจคิดมากไปก็ได้
To Be Con
-----------------------------------------------------------วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม 19.07 น.
ซ้อมเสร็จแล้วผมเดินไปแตะไหล่น้องว่านที่กำลังยืนดื่มน้ำอยู่
“ว่าน ไปดูหนังกัน”“เรื่องอะไรพี่”“ลำบาก”“วันไหนครับ”“วันนี้”“ห๊า!!”“รอบกี่โมงพี่”“21.40 น. ไปมะ”“ได้ๆเดี๋ยวผมโทรบอกแม่ก่อน” พูดจบน้องว่านเด็กชายวัยสิบสี่ขวบหมาดๆก็เดินไปหยิบโทรศัพท์โทรหามารดาทันที แล้วผมก็กวักมือเรียกน้องบีที่กำลังวิ่งเล่นอยู่กับเพื่อนๆให้รู้ว่า จะกลับแล้วนะ พอบีเห็นผมกวักมือเรียกน้องก็รีบวิ่งมาหยิบกระเป๋า เดินตามผมไปตรงที่วางรองเท้า
“เมื่อกี้พี่คุยอะไรกับพี่ว่านอะ” บีหันมาถามผมขณะที่ผมกำลังใส่รองเท้าอยู่
“ก็ว่าจะไปดูหนัง เลยชวนพี่เค้าไปด้วย”“ไปวันไหน”“วันนี้ บีไปด้วยเปล่า?” ผมถามไปงั้นๆแหละ เอาเข้าจริงๆถ้าน้องไปด้วยผมก็มีเหตุผลเรื่องกลับดึกรั้งไม่ให้น้องไปด้วยได้อยู่แล้ว
“ไป” อ่าวผิดคาดแฮะ
“ดึกนะ ม๊าให้ไปเหรอ”“น่าๆเดี๋ยวผมจัดการเอง”“ทุกทีอ่ะ ไม่เอาๆ ถ้าจะไปดูเดี๋ยวไปกับพี่วันเสาร์แล้วกัน”“อืมมมมม” บีทำหน้าคิดๆๆๆ
“..........”“ก็ได้” ตอบเสร็จบีก็ยิ้ม ตอนนั้นว่านคุยกับคุณแม่เสร็จพอดีน้องเดินมาเทียบข้างๆผมแล้วบอกผมว่า
“Ok พี่” ผมบอกว่านว่า จะวนไปส่งว่านที่บ้านก่อน ไปส่งบี แล้วพี่จะไปจองตั๋ว แล้วจะวนกลับมารับว่านที่บ้านอีกทีตอน 20.50 น. ตามนั้นผมก็ขับรถวนไปที่บ้านน้องว่านตอนแรกว่าจะให้น้องว่านไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดให้เสร็จก่อน เพราะตอนนี้น้องว่านใส่ชุดเทควันโดอยู่ไม่เหมาะจะไปเดินแถวโรงหนังแน่ๆ ถึงจะแค่ไปจองตั๋วก็ตามที ระหว่างทางจู่ๆว่านก็เปลี่ยนใจ งอแงจะไปจองตั๋วด้วย บีเองก็ออกเสียงสนับสนุนให้พี่ว่านไปด้วย ผมแค่เสียงเดียวแพ้เห็นๆเลย
“อ่ะ ไปก็ไป” เชื่อเปล่าครับ อีกไม่ถึงร้อยเมตรก็จะถึงบ้านว่านอยู่แล้วอ่ะ จริงๆถ้าจะไปด้วยน่าจะงอแงแต่แรกน้าาาาาาา ระหว่างทางครับ แน่นอนว่านนั่งข้างหลังบีนั่งข้างหน้าว่านไม่เห็นหรอก หึหึหึ....บีเองก็ใส่เสื้อวอร์มสีดำทับสีเดียวกับเสื้อวอร์มผมเลย เส้นทางปลอดผู้คนอีกต่างหาก หึหึหึ ผมสอดมือซ้ายเข้าไปในเสื้อน้องบีจากทางด้านข้างครับ แล้วก็ลูบๆท้องน้องบีเล่นบ้าง อกบ้าง นมบ้างไปเรื่อยๆ น้องเองก็นั่งคุยเป็นปรกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แล้วเส้นทางจากที่บ้านน้องว่านไปบ้านน้องบีเนี่ย มันไปได้สองเส้นทางครับ เส้นหนึ่งผ่านตัวเมือง อีกเส้นไม่ผ่านตัวเมืองแต่ขนาบกับเส้นผ่านตัวเมือง แน่นอนผมต้องเลือกทางที่ไม่ผ่านตัวเมืองสิระหว่างทางผมก็เปรยๆว่า
“เส้นนี้บรรยากาศดีเนอะ” น้องๆทั้งสองตอบรับเห็นด้วยเห็นเสียงเดียวกัน ระหว่างที่น้องๆคุยกันอย่างออกรสผมก็ลูบๆตัวน้องบีเล่นไปเรื่อยๆจู่ๆน้องบีก็พูดว่า
“พี่!!”“ครับ”“เดี๋ยวๆๆๆ ผมปวดฉี่”“เฮ่ย!! มากเปล่า”“มากพี่!!” งานเข้าแล้ว แต่ว่าไม่ถึงสองนาทีก็จะถึงบ้านน้องบีแล้วผมเลยบอกน้องไปว่า
“จะถึงบ้านแล้ว หรือ จะเอาข้างทาง”“......บ้านๆ ก็ได้พี่” บีตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงให้รู้เลยว่าปวดมากๆ
“ข้างทางก็ดีนะผมว่า หึหึหึหึ” ว่านพูดจบก็หัวเราะ
แล้วไม่นานก็ถึงหน้าบ้านน้องบีครับ
“เอาถึงแล้ว รีบไปๆๆ” ผมบอกบี บีลงจากรถแล้วยืนนิ่งๆอยู่พักหนึ่ง....ก่อนจะหันมามองผมแล้วพูดว่า
“แปลกแฮะ.....หายปวดแล้วอ่ะ” พูดจบน้องก็ทำหน้าตา งงๆ
“อ้าว”“.....” ว่านนั่งมองเงียบๆไม่มีความเห็นใดๆ
“เฮ้อ ช่างมันเถอะ” บี เปรยๆไปแล้วก็หันมาไหว้ผมก่อจะวิ่งเข้าบ้านไป
ส่วนผมกับว่านก็ไปโรงหนังครับปรากฏว่าที่นั่งเต็มหมดครับ วันเสาร์ว่านไม่ว่างด้วย ผมเลยพูดเล่นๆกับว่านไปว่า
“ไม่อยากมากับบีสองคนอ่ะ ชวนอ้นกับอาร์ทมาดูด้วยดีกว่า”“เอาดิพี่” เหมือนน้องจะยุยังไงก็ไม่รู้แฮะ ผมเลยลองโทรหาอ้นดู
“ตรู๊ดดดดดด.......ตรู๊ดดดดดดดด.........ตึก!......ครับพี่เอ” เสียงอ้นทักผมเหมือนกันกำลังยุ่งๆยังไงก็ไม่รู้
“พรุ่งนี้ดูหนังกันเปล่า”“หา....เรื่องอะไรพี่”“ลำบาก”“กี่โมง”“15.40 น.”“อืมมม....ก็ได้ แล้วใครไปบ้างอะ”“ก็มีบี ว่าจะชวนพี่ว่าน แต่พี่ว่านไม่ว่างอะ”“เหรอ ได้ๆ เดี๋ยวอ้นบอกป๊าก่อน”“อ้นๆ”“ครับ”“ชวนเฮียอาร์ทมาด้วยนะ”“เฮียแกดูแล้ว”“อ้าวเหรอ อื่อๆ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ 15.00 พี่จะมาหาที่บ้านนะ”“คร้าบๆ” คุยเสร็จผมก็ปลอบๆน้องว่านที่ไม่ได้ดูหนังด้วยกัน น้องว่านก็ยิ้มๆเหมือนจะเข้าใจหลังจากซื้อตั๋วของวันพรุ่งนี้เอาไว้เสร็จผมก็พาว่านไปเดินเล่นพักหนึ่งก่อนจะพาน้องกลับบ้าน แต่...น้องว่านน่ารักดีนะครับ ถึงโตแล้วหลายครั้งกลับเผลอมาจับมือผมเดินไปเดินมาเหมือนเด็กๆเลย ตอนกลับบ้านมีหน้าคางมาเกยไหล่ผมด้วยอ่ะ ฮะๆ พอถึงบ้านผมหลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จผมก็โทรหาน้องบี
“เธอคงเคยได้ยินเพลงรักมานับร้อยพัน มันอาจจะโดนใจ แต่ก็มีความหมายเหมือนๆกัน
แต่ถ้าเธอฟังเพลงนี้ เพลงที่เขียนเพื่อเธอเท่านั้น เพื่อเธอเข้าใจความหมายแล้วใจจะได้มีกันและกัน” เสียงเพลงรอสายเพราะนะครับ
“ฮัลลล โหลวววววว”“ไงฉี่ออกเปล่า ฮะๆๆ” ผมพูดแซวน้องเล่น
“ม่ายอ่ะพี่ ตอนกลับมาถึงเข้าห้องน้ำก็ไม่เห็นฉี่ออกเลยอ่ะ”“เหรอ สงสัยคิดไปเองมั้ง”“คงงั้น ฮะๆๆ”“พรุ่งนี้บอกม๊าด้วยนะ รอบ 15.40 น.”“คร้าบๆ แล้วพี่ให้ผมไปรอที่ไหน”“รอที่โรงหนังไหมอ่ะ ไปสัก 15.20 น. ก็ได้ หรือ จะรอที่บ้านอ้น”“อืมมมม.....บ้านอ้นดีกว่า เดี๋ยวไปเล่นเกมส์บ้านอ้นด้วย”“ได้ๆ งั้นเดี๋ยวประมาณ 15.10 น. พี่มาหาที่บ้านอ้นนะ”“คร้าบบบบ”“บี”“ครับ”“ร้อง ‘แอ๊ะๆ’*1 ให้ฟังหน่อย” “ไม่เอา” บีทำเสียงเขินๆ
*1 เวลาน้องบีเล่นอะไรแล้วเค้าสนุกมากๆบางทีเค้าจะส่งเสียง
“แอ๊ะๆ” ออกมาอะครับ แอบไปได้ยินมา น่ารักดี
ขอบคุณน้องกระต่ายชมจันทร์สำหรับการตรวจทานให้นะครับ
ปล.น้องต่ายใจดีมาตรวจให้ตั้งแต่เที่ยงเลย