[เรื่องสั้น]Tutorlove รักครั้งนี้ช่วยสอนผมหน่อย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น]Tutorlove รักครั้งนี้ช่วยสอนผมหน่อย  (อ่าน 1543 ครั้ง)

ออฟไลน์ lookpeach

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ lookpeach

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตอนที่1




    สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อทอยกำลังจบการศึกษาจากชั้นม.6จากโรงเรียนแถวบ้าน บ้านผมอยู่สมุทรปราการ ซึ่งตอนนี้ก็วุ่นวายกับการเข้ามหาวิทยาลัย แม่ผมก็ซื้อหนังสือให้ผมกองเท่าบ้านได้แล้วครับ ผมจะสอบเข้าคณะบัญชีของมหาวิทยาลัยในกรุงเทพซึ่งติดอันดับต้นๆของประเทศไทย

ตอนนี้ผมกำลังเก็บของไปอยู่ที่กรุงเทพ1เดือน ก่อนจะกลับมาสอบและยื่นคะแนนต่างๆ อ้อ!ผมไปอยู่กับพี่ที่เป็นลูกของเพื่อนแม่ เรารู้จักกันตอนม.ต้น พี่เขาชื่อว่าพี่เมฆ ซึ่งตอนแรกแม่ผมจะให้พี่เมฆเป็นติวเตอร์ให้ผมในวิชาคณิตศาสตร์ แต่พี่เมฆดันไม่เก่งเพราะตอนม.ปลายพี่เมฆได้ไปสอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดในสายอังกฤษ-คอม ส่วนผมน่ะสายศิลป์-คำนวณ
พี่เมฆเขาเลยช่วยหาติวเตอร์ให้ผม นั่นคือเพื่อนของพี่เมฆนั่นแหละ เห็นบอกว่าเรียนอยู่วิศวะ นั่นแสดงว่าอะไร นั่นก็แสดงว่าเพื่อนพี่เมฆคนนี้เก่งทั้งคณิตทั้งฟิสิกส์ยังไงล่ะ!! เทพ...

“ทอยเก็บของเสร็จรึยังลูก” เสียงแม่ผมเล็ดลอดเข้ามาในห้อง

“เสร็จแล้วครับ เดี๋ยวผมออกไปนะ” ผมส่งเสียงคืน

 ผมรวบรวมกระเป๋าและเดินออกมาจากห้อง หลังจากนั้นแม่ก็เดินมากอดหอมผมอย่างสาแก่ใจ แม่คิดว่าลูกชายจะไปออกรบรึไงกัน ผมบอกลาแม่จนถึงเวลาที่พี่เมฆขี่รถมารับหน้าบ้าน ไปกรุงเทพคราวนี้ผมจะต้องสอบติดมหาวิทยาลัยนี้ให้ได้
   
“เป็นไงเรา ไม่เจอนานเลย” พี่เมฆเอ่ยขึ้นเมื่อรถออกมาได้สักพักนึงแล้ว

“สบายดีครับ ช่วงนี้ก็อ่านหนังสือตลอด” ผมหันไปตอบยิ้มๆให้พี่เมฆ “พี่ล่ะ เป็นไงบ้างครับ”

“เหนื่อยๆอะ พี่อ่านหนังสือเหมือนกันไหนจะทำโปรเจคจบปี1อีก” พี่เมฆถอนหายใจ

“เข้ามหาลัยคงเหนื่อยแย่เลยเนอะ พี่เมฆก็สู้ๆนะครับ”

“หืออ อะไรนะ..” พี่เมฆขมวดคิ้วและหันมายิ้มๆ

“ผมบอกว่าสู้ๆ” ผมหันไปทำหน้างงใส่

“ครับ ไม่ค่อยมีคนพูดให้กำลังใจอะ ยังไงก็ขอบคุณนะ” พี่เมฆหันไปสนใจการขับรถต่อ

  เรามาถึงกรุงเทพกันแล้วครับ กำลังเก็บของอยู่บนคอนโดของพี่เมฆ ซึ่งจะต้องฝากชีวิตไว้กับที่นี่เป็นเวลา1เดือนเต็มๆ คอนโดของพี่เมฆเป็นคอนโดตึกเดียวแต่ใหญ่พอสมควรและห้องก็สามารถอยู่ด้วยกันได้2คนพอดีเป๊ะ

“เดี๋ยววันนี้พี่พาทอย ไปทำความรู้จักกับเพื่อนพี่ก่อนดีกว่า” พี่เมฆเดินมาตบไหล่ผม

“ก็ได้ครับพี่” ผมยิ้มแห้งๆให้พี่เมฆ ซึ่งก็ดีแล้วที่วันนี้จะได้ไปทำความรู้จักกับติวเตอร์ก่อน เพราะผมพึ่งมาถึง ขี้เกียจน่ะครับ ฮ่ะๆ

“งั้นไปกินข้าวกันก่อนปะ ห้างแถวๆนี้” พี่เมฆหันมาถามผมและเดินไปหยิบกุญแจรถ

“ครับๆ”

  ผมมาถึงห้างกับพี่เมฆก็สั่งอาหารกันเลย จากการที่เหนื่อยนั่งรถมาไกลๆแต่พี่เมฆก็เอาแต่โทรตามเพื่อนพี่เขา ที่จะมาเป็นติวเตอร์ให้ผม

“มาเร็วๆดิ กูถึงแล้วนะ อย่าให้ต้องรอนาน” เสียงเรียบๆของพี่เมฆ

“มึงจะได้ทำความรู้จักน้องกูก่อน มึงจะได้สอนราบรื่น”

“เออๆรีบมาละกัน” พี่เมฆกดวางสาย

“เพื่อนพี่แม่งชอบลีลาแบบนี้แหละ” คราวนี้พี่เมฆหันมาพูดกับผม

“ไม่เป็นไรพี่ ผมรอได้” ผมตักข้าวเขาปากหนึ่งคำ

หลังจากนั้นประมาณ15นาที เพื่อนของพี่เมฆก็เดินเข้ามาในร้าน ทำเอาคนในร้านนี้มุ่งความสนใจไปที่เพื่อนของพี่เมฆ เพราะว่าเพื่อนพี่เมฆคนนี้เขาหล่อจริงๆครับ ถ้าพี่เมฆไม่ชูแขนเรียกพี่เขามา ผมก็นึกว่าเป็นดารา ลักษณะ ขาว หน้าใส จมูกโด่ง คิ้วเข้ม ที่สำคัญสูงมากกก น่าจะ180อัพ ผมนี่ยังอายเลยเป็นผู้ชายอะไรสูงแค่169เซนติเมตร

“โทษทีมึง รถมันติด” เขานั่งลงข้างๆพี่เมฆ ซึ่งมันอยู่ตรงข้ามกับผม

“เออๆ” พี่เมฆทำสีหน้าเรียบ “นี่ น้องกูชื่อทอยอยากเข้าบัญชีมอเรา ที่กูฝากให้ติวคณิตให้อะ”

“หวัดดีครับ” ผมยิ้มๆและยกมือไหว้เพื่อนพี่เมฆ

“ไม่ต้องไหว้ เดี๋ยวกูดูแก่ ฮ่าๆๆ” เพื่อนพี่เมฆพูดและใช้มือห้ามปาม

“เออและไอ้นี่เพื่อนพี่ ชื่อวายุอยู่วิศวะ”

“ครับ พี่วายุ” หลังจากผมพูดจบพี่วายุก็ยื่นมือมา ให้ผมจับเพื่อเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน

หลังจากที่พวกเรากินข้าวกันเสร็จ ก็ตกลงว่าจะเดินเล่นกันต่อเพราะจะใช้วันนี้เป็นวันผ่อนคลายสำหรับผมเพราะหลังจากนี้ก็จะต้องติวกับพี่วายุทุกวัน พี่วายุดูเป็นคนกวนๆปากร้ายแต่ใจดีชอบกวนพี่เมฆตลอดและบางทีก็หันมากวนผมบ้าง หมายถึงกวนบาทาอะครับ ฮ่าๆ แต่พี่เค้าก็น่ารักดี

“นี่ทอย มึงมีแฟนยังวะ” พี่วายุเอ่ยขึ้นขณะกำลังเดินเล่นอยู่

“เห้ย ยังไงจะจีบน้องกูไง้” คราวนี้พี่เมฆแกล้งแซวถาม “เมียก็มีอยู่แล้ว ร้ายนะมึงอะ”

 เมียนี่หมายถึงแฟนใช่ไหมครับ พูดซะนึกว่ากินอยู่ด้วยกันซะอีก แต่อย่างพี่วายุไม่มีแฟนนี่สิแปลก ทั้งหล่อทั้งคารมดีขนาดนี้ ผู้หญิงคนไหนๆก็ต้องอยากอยู่กินนอนด้วยอยู่แล้ว ขนาดผมไม่ใช่ผู้หญิงยังอยากอยู่ใกล้ๆเลย

แค่เปรียบเทียบน่ะครับ...

“กูก็แค่กลัวน้องมึงจะโดนผู้ชายเถื่อนๆมอเราจีบอะดิ มึงก็รู้มอเราเป็นยังไง แถมอีกอย่างน้องมึงก็หน้าหวานซะ” พี่วายุร่ายยาว

“เออ กูก็ว่างั้นแหละ ทอยมันก็หน้าหวานจริงๆ” พี่เมฆหันมาจับแก้มผมทั้งสองข้างและยิ้ม “ระวังตัวไว้นะเราอะ ถ้าใครมาจีบแล้วไม่ชอบบอกว่าเป็นน้องพี่เมฆ” พูดจบพี่เมฆก็เอามือออก

“แหม พูดอย่างกับว่าใหญ่มากอะ” พี่วายุพูดขึ้นหลังจากนั้น ทั้งสองหันไปหัวเราะด้วยกันเสียงดังลั่น

“ต้องกูนี่ ยกพวกวิศวะไปตีให้น้องเค้าได้” พี่วายุพูดขณะที่เดินเอามือทั้งสองมาจับแก้มของผมเหมือนที่พี่เมฆทำเมื่อกี้ และจ้องตาผมไม่กระพริบ “ระวังตัวไว้นะเราอะ ถ้าใครมาจีบแล้วไม่ชอบบอกว่าเป็นน้องพี่วายุ”

พูดจบทั้งสองก็หันไปหัวเราะด้วยกันอีก เห้อ ผมคิดถูกคิดผิดเนี่ยมาอยู่กับแก๊งพี่เมฆพี่วายุ

ตื้ดๆๆๆ
เสียงโทรศัพท์มือถือพี่เมฆดังขึ้น

“ฮัลโหล ว่าไง”

“อ้อ ใกล้จะเสร็จแล้วใช่ปะ เออๆเดี๋ยวกูไปช่วยดูเดี๋ยวนี้แหละ” หลังจากพูดจบพี่เมฆก็กดวางสาย

“ทอยพี่คงเดินเล่นต่อไม่ได้แล้วอะ โปรเจคจะเสร็จแล้วต้องรีบไปช่วยเพื่อนดู” พี่เมฆหันมาทำหน้าสำนึกผิด

“ไม่เป็นไรพี่ เรากลับกันเลยก็ได้”

“พี่กลัวทอยจะไปรอพี่ที่มหาลัยนานอะดิ งั้นทอยเดินเล่นกับไอ้วายุก่อนก็ได้และให้มันไปส่งคอนโดพี่” พี่เมฆหันไปมองพี่วายุที่พยักหน้าให้งึกๆ

“กูฝากด้วยนะวายุ ว่างใช่ปะ” พี่เมฆเดินไปตบไหล่พี่วายุเบาๆ

“ว่างๆ เดี๋ยวไปส่งให้แถมดูแลอย่างดีเลยค้าบบบ” พี่วายุลากเสียงยาวราวกับประชด..

หลังจากนั้นพี่เมฆก็หายวับไปเลย แต่ผมยังต้องเดินดูนั่นดูนี่กับพี่วายุไปเรื่อย

“ทำไมถึงอยากเข้าบัญชีอะ” พี่วายุหันมาถามเพื่อทำลายความเงียบ

“อ้อ บ้านผมทำเกี่ยวกับส่งของอะครับ เลยคลุกคลีกับตัวเลขเลย..ชอบมั้งครับ”

“แล้วถ้าคลุกคลีกับกูจะชอบบ้างปะ” พี่วายุยื่นหน้าต่ำลงมา ผมทำได้เพียงแค่อึ้ง

“โถ่ กูล้อเล่น” พี่วายุหัวเราะในลำคอและเดินนำไป

อะไรของเค้าเนี่ย...

หลังจากพี่ผมกับพี่วายุเดินเล่นจนเบื่อแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องกลับพี่วายุก็ขับรถมาส่ง ตอนแรกผมก็พูดติดตลกว่าเกรงใจแต่พี่เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร จะได้ชินกัน จะได้ไม่เกร็งเวลาสอนด้วย

“ว่าไงครับ” เสียงพี่วายุจากการรับโทรศัพท์ ซึ่งพี่วายุเปิดสปีกเกอร์โฟน พี่เค้าจะได้ขับรถถนัด

“อยู่ไหนคะวายุ” เสียงผู้หญิงครับ เสียงหวานด้วย

“กำลังมาส่งน้องไอ้เมฆที่คอนโดน่ะ”

“ผู้หญิงผู้ชายคะ”

“ผู้หญิง” พี่วายุหันมายิ้มให้ผม ผมถึงกับทำหน้าขมวดคิ้ว

“วายุ!!ว่าไงนะ จะไปคอนโดกัน2ต่อ2หรอ” เสียงผู้หญิงคนนี้ดังขึ้น

“ใจเย็นสิฝ้าย วายุล้อเล่น ฮ่ะๆ” พี่วายุหัวเราะในลำคอ

“แล้วไป อย่าให้ฝ้ายรู้นะ” หลังจากนั้นพี่ฝ้ายก็ตัดสายไป

“แฟนหรอพี่” ผมทำหน้ายิ้มตาหยีถาม

“ขี้เสือกหรอมึงอะ” พี่วายุพูดโดยไม่ได้หันมายังคงมองไปที่ถนน

“โห่ อะไรพี่ผมแค่ถามดู จะได้รู้จักกันมากขึ้นไง” แต่หารู้ไม่ ผมขี้เผือกชัดๆ

“อืม คบกันมาได้จะ6เดือนแล้ว” พี่วายุตอบหน้านิ่ง

หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ โดยที่ผมปล่อยให้เงียบไปและพี่วายุก็เงียบเหมือนกันจนถึงคอนโด

“ให้กูขึ้นไปส่งปะ” พี่วายุถามขึ้นตอนผมกำลังจะลงจากรถ

“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้เอง”

“เผื่อโดนฉุดขึ้นมาทำไง ไอ้เมฆฆ่ากูตายพอดี”

“โดนฉุดอะไรพี่ คอนโดปลอดภัยจะตาย”

“ดูหน้ามึงดิ หน้าอ่อนหน้าหวานขนาดนี้ใครๆก็อยากฉุด รวมถึง...กูด้วย” ผมหน้าหวานที่ไหนกัน

“เห้ย พี่นี่แหละที่ผมต้องระวัง” ผมทำท่าทางกลัวพี่วายุแบบแกล้งๆ

“ตลกละ” พี่วายุทำหน้านิ่งใส่

จากนั้นพี่วายุก็เดินตามมาส่งผมถึงหน้าห้องจริงๆครับ แต่ดันเจอพี่เมฆกำลังไขเปิดประตูห้องพอดี

“แหมๆ ไปเที่ยวกันเพลินเลยนะ” พี่เมฆแซวทันทีที่เดินมาถึง “มีมาส่งถึงหน้าห้องด้วย”

“พี่วายุนั่นแหละบอกไม่ฟังครับ ผมบอกขึ้นมาได้ๆ” พี่วายุทำหูทวนลม

“อ้าว กูอุส่าดูแลน้องมึงอย่างดีพรีเมี่ยมเลยนะเฟ้ย”

“เออ แต่กูก็อดหึงไม่ได้อะ” พี่เมฆทำเสียงออดอ้อนและหันไปส่งยิ้มกับพี่วายุ นี่มันอะไรกัน? รวมหัวกันแกล้งผมรึเปล่าเนี่ย

“พอเลยพวกพี่สองคนอะ” ผมหันไปชี้หน้าทั้งสองและรีบเดินเข้าห้องไป แต่พี่เมฆก็ยังยืนคุยกับพี่วายุอยู่แป๊บนึง ถึงเดินตามเข้ามา

“เหนื่อยรึเปล่า วันนี้อะ” พี่เมฆเดินมานั่งที่เตียง

“นิดหน่อยครับ”

“วันนี้ไม่ต้องอ่านหนังสือแล้วนะ อาบน้ำแล้วนอนเลย” ผมหันควับไปมองพี่เมฆ

“เป็น...ห่วง” พี่เมฆเน้นเสียงหนักที่คำว่าห่วง

“ก็ได้ค้าบบบบ” ผมลากเสียงยาวก่อนที่จะเดินไปหยิบผ้าขนหนูและเข้าห้องน้ำไป

หลังจากอาบน้ำเสร็จ เดินออกมาก็ได้ยินเสียงทีวีเปิดทิ้งไว้แต่เจ้าตัวกลับนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ผมเดินไปสำรวจรอบๆ พี่เมฆก็น่ารักดีแฮะ ผมเอานิ้วชี้ไปจิ้มแก้มพี่เมฆ พี่เมฆลืมตาทันที เกือบชักนิ้วออกไม่ทัน

“แหนะ กวนหรอเรา” พี่เมฆพูดหลังจากหลับตาลงอีกรอบ

“ปะ เปล่าซะหน่อย แค่เช็คว่ายังมีชีวิตอยู่ไหม” คราวนี้กวนจริงๆ หมายถึงกวนตีน

“เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จให้กวนทั้งคืนเลย” พูดจบพี่เมฆก็ดีดตัวขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำทันที

ผมนั่งดูทีวีไปพลางๆก็มีแอพพลิเคชั่นเขียวๆดังขึ้น ผมกดเข้าไปดูก็มีหนุ่มโปรไฟล์ดีแอดมา wayu พี่วายุ ผมกดรับทันที แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ไปเอาไอดีผมมาจากไหนกัน

‘ทำไรอยู่’ พี่วายุทักมา

‘ดูทีวีครับ’

‘ดูด้วยได้ปะ’

‘ทำไมไม่เปิดดูที่บ้านตัวเองละครับ’

‘พึ่งรู้จักกันแล้วกวนตีนหรอ’

‘ขอโทษครับ’ และผมก็ส่งสติ๊กเกอร์หมีเหงื่อแตกไป

‘ล้อเล่น อยากกวนก็กวนกูชอบ’ มามุขนี้อีกแล้วครับ

“คุยกับใครอะ” พี่เมฆเอ่ยขึ้นหลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำ สภาพพี่เมฆคือใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวและไม่ได้ใส่เสื้อ มีแค่ผ้าขนหนูผาดอยู่ที่ไหล่ ทำให้ผมเห็นหน้าท้องลีนๆแข็งๆสีขาวของพี่เค้าเข้าอย่างจัง แต่เอ๊ะ ผมไปสนใจอะไรจุดนั้นกันละ เพราะผมก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน

“พี่วายุอะครับ” ผมตอบ

“พึ่งอยู่ด้วยกันวันนี้ยังทักมาคุยอีก ร้ายนะไอ้คนนี้”

“ร้ายอะไรหรอครับ” ผมทำหน้างุนงง

“เปล่า พี่แค่หึงอะ”

“พี่เมฆ แบบนี้อีกแล้วนะครับ”

“ฮ่าๆๆ แกล้งทอยนี่สนุกจริงๆเลย” พี่เมฆหัวเราะลั่น

‘หายเลย แค่กูบอกว่ากูชอบให้มึงกวน’ แอพสีเขียวๆเด้งมาอีกครั้ง

‘คุยกับพี่เมฆอยู่น่ะครับ’

‘คุยอะไรกับมันนักอะ อยู่ก็อยู่ด้วยกัน’

‘อ้าว แค่คุยก็ไม่ได้หรอครับ’

‘โอ้ย นี่มึงซื่อหรือโง่เนี่ย’

‘...’

‘นอนละ เจอกันพรุ่งนี้บ่ายโมง’

‘ฝันดีครับ’

“มา มากวนได้แล้ว” เสียงพี่เมฆดังขึ้น
 
“หะ?”

“เอ้า ก็เห็นทอยชอบกวนอยากกวนไรก็มาดิ”

“ผมไม่กล้าหรอกครับ”

“งั้นพี่กวนทอยนะ”

หลังจากนั้นพี่เมฆก็ทุ่มผมลงเตียงและเอานิ้วมาจี้เอว ผมได้แต่ดิ้นและหัวเราะด้วยลมหายใจหอบถี่ รู้ได้ไงเนี่ย ว่าผมบ้าจี้ อ้อผมนึกออกแล้วพี่เมฆเคยแกล้งจี้ผมตอนอยู่ม.1
  :mew1: :3123:เรื่องแรกของเราฝากติชมและติดตามด้วยนะคะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
อะไรยังไง..ใครชอบใครกันแน่ หรือจะ 3p  :sad4:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
กลัวใจความ3p......ไม่นะะะะะ :katai1:
แต่ก็ไม่รู้จะเชียร์ใคร...ชื่อเรื่องเหมือนวายุจะเป็นพระเอกป่ะ

ออฟไลน์ lookpeach

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตอนที่2


     ผมค่อยๆลืมตามาในยามที่แสงแดดส่องเข้ามาผ่านม่านอันโปร่งใส แล้วผมก็รู้สึกทันทีว่ามีอะไรหนักๆมาทับผมอยู่ ไม่ต้องสงสัยเลยครับ นั่นก็คือร่างใหญ่ๆของพี่เมฆนั่นแหละ ทั้งกอดทั้งก่ายเห็นผมเป็นตัวอะไรกัน ผมจึงค่อยๆใช่นิ้วบรรจงหยิบแขนออกจากตัวผม พอลุกขึ้นได้ครึ่งตัวก็ต้องหยิบขาอันหนักๆของพี่เมฆออกไปอีก


หลังจากนั้นผมก็ลุกไปอาบน้ำแล้วก็ออกมาปลุกพี่เมฆ กว่าจะทำอะไรเสร็จก็ร่วมชั่วโมง พี่เมฆพาผมไปกินข้าวก่อนที่จะขับรถไปส่งผมที่มหาลัยเพื่อไปติวกับพี่วายุในวันแรก


“มึงอยู่ตรงไหน” เสียงพี่เมฆที่กำลังคุยโทรศัพท์กับพี่วายุ “เออๆโต๊ะหินอ่อนข้างคณะมึงนะ”


พี่เมฆก็ขับรถเข้ามาจนกระทั่งถึงตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์และเดินลงมาส่งผมจนถึงไอ้โต๊ะหินอ่อนข้างคณะ


“สวัดดีครับ” ผมกล่าวทักทายเมื่อเห็นหน้าพี่วายุ


“เออๆหวัดดี” พี่วายุยักคิ้วให้ผม2จึก


“เออวายุ กูฝากดูแลด้วย กูไปติวสอบไฟนอลกับเพื่อนก่อน”


“ได้ กูก็พึ่งติวเสร็จเนี่ย”


“ไปละๆ พี่ไปก่อนนะทอย” พี่เมฆหันมายิ้มให้ผมและหันไปโบกมือลาให้พี่วายุ ก่อนที่จะเดินไป


“วันนี้วัดพื้นฐานก่อนละกัน” พี่วายุหันมาพูดกับผม


“ครับ” ผมทำหน้าตั้งใจ


“หึ ดูทำหน้าเข้า” พี่วายุขำในลำคอ


“หน้ามันยังไงหรอครับ”


“ตลก” พี่วายุพูดด้วยสีหน้านิ่ง


“...”


“มาๆเริ่มกันเลย”


หลังจากนั้นพี่วายุก็ช่วยติวผมตั้งแต่บทแรกๆของม.4เลยและพวกบทสำคัญๆที่น่าจะออกสอบของข้อสอบกลางซะส่วนใหญ่ พี่วายุอธิบายไปช้าๆเหมือนกลัวผมจะไม่เข้าใจ แต่ผมเข้าใจดีเลยล่ะเพราะพี่เขาอธิบายละเอียดมากแต่ผมก็อ่านมาบ้างแล้วเหมือนกัน หลายครั้งที่ต้องฟังพี่วายุอธิบายแล้วก้มมองชีทไปด้วยทำให้ผมรู้สึกว่าใบหน้าของเราใกล้กันมากๆ มันทำให้ใจของผมมันหวิวๆ และเป็นอีกหลายครั้งเหมือนกันที่เงยออกมาจากกองชีทเราทั้งสองก็ต้องสบตากัน..


“ตรงนี้เข้าใจใช่ปะ เรื่องlogอะ” พี่วายุหันหน้ามาถาม


“เข้าใจแล้วครับ” ผมยิ้มบางๆตอบ


“โอเค! งั้นวันนี้พอแค่นี้” พี่วายุพูดพร้อมๆเก็บแผ่นชีท


 ผมกับพี่วายุติวกันตั้ง2ชั่วโมงนิดๆแหนะ


“พื้นฐานมึงก็เก่งนะ สอบเข้าที่นี่ได้สบายๆ” พี่วายุพูดขึ้นหลังเก็บกองชีทนั้นเสร็จ


“ไม่ขนาดนั้นหรอกพี่ ผมยังต้องไปแข่งกับคนอีกหลายหมื่น”


“ก็มึงเก่งจริงๆอะ”


“ขอบคุณครับ”


“ไม่แปลกที่เก่ง ตอนอยู่โรงเรียนเป็นเด็กเนิร์ดแน่ๆที่ติ๋มๆใส่แว่นอยู่หน้าห้องใช่ปะ”


“เกินไปครับแบบนั้นอะ” ผมมันคนซื่อเฉยๆหรอก


“งั้นเลี้ยงน้ำกูเลย กูคอแห้งอะ” พี่วายุทำท่าลูบคอป๋อยๆ


“ครับ ว่าแต่ร้านน้ำอยู่ตรงไหนอะ”


“เดินตรงไปเรื่อยๆ พอมีทางเลี้ยวก็เลี้ยวซ้าย” เขาทำท่าชี้ๆ “ไปสั่งรอเลย กูเข้าห้องน้ำแป๊บ”


“โอเคครับ พี่วายุดื่มน้ำอะไรอะ” ผมถามที่ขณะพี่วายุกำลังลุกเดินไปห้องน้ำ


“แตงโมปั่น” พี่วายุตะโกนมาแต่ตัวเดินไปนู่นแล้ว
แตงโมปั่น ไม่สมกับเป็นพี่วายุเลย ^^


ผมเดินไปตามทางที่พี่วายุบอกก็เจอร้านน้ำเล็กๆตั้งอยู่ แต่ก็มีพวกนักศึกษาชุดช็อปยืนเฝ้ารออยู่หน้าร้านเป็นโขยง ผมเดินเข้าไปค่อยๆขอทางและไปสั่งน้ำกับน้าคนขาย


“เอาน้ำแตงโมปั่นกับน้ำชายเขียวครับ”


“จ้ะ รอแป๊บนึงนะจ๊ะ” น้าคนขายน้ำหันมายิ้มๆ ก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาทำให้พวกพี่วิศวะ


“ซื้อสองแก้วนี่ซื้อไปฝากใครจ้ะน้อง” มีเสียงจากกลุ่มพี่ๆวิศวะดังขึ้น ผมเลยหันควับไปมอง

“...” ผมได้แต่มองหน้าพวกพี่เขาเงียบๆ


“หน้าหวานจัง อยากจะรับพี่ๆวิศวะหน้าเถื่อนๆไปเลี้ยงซักคนไหมครับ” ไอ่หนุ่มกล้ามโตของกลุ่มเอ่ยขึ้น แล้วคนอื่นๆก็พากันแซว


“ไม่มีปัญญาเลี้ยงตัวเองไง้” เห้ยยย!ไม่ใช่เสียงผม รู้เลยว่าเป็นเสียงของใครร่างสูงๆปรากฏตัวขึ้น..พี่วายุ


“มึงเป็นใครว..” แก๊งวิศวะหันไปกำลังเอ่ยปากแต่ก็ต้องหุบปากทันที “เชี่ย วายุ!” อ้าว รู้จักกันเฉย


“เด็กมึงหรอวะ” คนๆนึงในกลุ่มเอ่ยขึ้น
พี่วายุเงยหน้ามามองหน้าผมครั้งนึง


“เออ อย่าได้ยุ่งเชียว” พี่วายุพูดไปด้วยมองหน้าผมไปด้วย ทำไมผมต้องรู้สึกดีกันนะ


“อ้าว แต่เหมือนมึงคุยกับคนชื่อฝ้ายคณะศิลปกรรมไม่ใช่หรอวะหรืออยากเปลี่ยนแนว” ไอ่กล้ามโตๆพูดขึ้นอีก


“ไม่ต้องเสือกอะ” พี่วายุทำสีหน้านิ่ง “นี่กิ๊กไง” เขาหันไปกระซิบกับเพื่อน แต่ผมก็ได้ยินเต็มๆ กิ๊กอะไรกันล่ะ


“ร้ายนะมึงอะ” เพื่อนของพี่วายุพูดขึ้นและหันมายิ้มๆให้ผม


“ได้แล้วจ้า” น้าแม่ค้าส่งน้ำให้แก๊งวิศวะทีละคน พวกนั้นจ่ายเงินเสร็จก็เดินไป


“เป็นอะไรรึเปล่า” พี่วายุถามขึ้น


“ไม่เป็นอะไรเลยครับ”


“กลัวหรอ”


“ไม่ได้กลัวอะไรขนาดนั้น แค่ตกใจน่ะพี่”


“ตกใจตอนมันแซวอะหรอ”


“ครับ” ผมทำสีหน้าจ๋อย


“งั้นถ้ากูแซว มึงจะตกใจปะ” พูดไม่ทันขาดคำพี่วายุก็แซวขึ้น “อยากรับกูไปเลี้ยงไหมค้าบบบ กินเก่งแต่ดูแลมึงได้นะ” หลังจากนั้นพี่วายุก็ก้มหน้าลงมาใกล้ๆหน้าผมทำสายตาออดอ้อน


ตึกๆ ตึกๆ~
ทำไมร่างกายผมอ่อนไหวแบบนี้ครับเนี่ย


“ขนลุกอะพี่” ผมรีบพูดขึ้นกลบเกลื่อน


“โถ่ คิดว่ามึงจะตกใจซะอีก”


“แกล้งผมอีกแล้วนะ”


“ได้แล้วจ้า2แก้ว” น้าคนขายน้ำยื่นให้ ผมกับพี่วายุก็เข้าไปรับ


“เท่าไหร่ครับ” ผมถามขึ้น


“60บาทจ้า”


“นี่ครับ” พี่วายุพูดขึ้นพร้อมยื่นเงินให้น้า ก่อนจะดูดน้ำและเดินนำผมไป


“พี่วายุ อะเงินค่าน้ำ” ผมรีบเดินตามมาและยื่นเงินให้


“เก็บๆไปเหอะ” พี่วายุทำท่าดูดน้ำไม่สนใจ


“ไหนบอกให้ผมเลี้ยงไง”


“ก็มึงลีลา กูเลยจ่ายก่อนกลัวน้าเค้ารอนาน”


“ก็นี่ไงผมคืน”


“ค่อยคืนกูวันหลัง”


“ก็ได้ครับ” ผมเก็บตังลงใส่กระเป๋ากางเกง


“ให้กูไปส่งปะ” พี่วายุหันมาถาม


“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่เมฆก็มารับแล้ว”


“ก็มันชอบลีลา กูไม่ชอบคนลีลา” แหม เหมือนแต่ก่อนคุณไม่ลีลาอะครับ


“งั้นผมโทรบอกพี่เมฆก่อนก็ได้ครับ” ผมรีบเอาโทรศัพท์มากดโทรหาพี่เมฆทันที

ตื้ดดด ดดด
“ฮัลโหลพี่เมฆ อยู่ไหนอะครับ”


“อ้อ ขอ5นาทีนะใกล้จะเสร็จแล้ว”


“พี่วายุจะไปส่งทอยที่คอนโดแทนอะครับ”


“งั้นหรอ ทอยกลับกับไอ้วายุก็ได้”


“ครับผม”
ติ๊ด

“โอเคครับ พี่วายุไปส่งได้”


“เหมือนมึงเป็นเด็กพ่อแม่หวงอะ ต้องขออนุญาติ”


“โทรบอกต่างหาก ไม่ได้โทรขออนุญาติ”


“เออปะๆ” พี่วายุเลยเดินนำผมไปที่จอดรถของคณะ

หลังจากนั้นเราก็ขับออกมาจากมหาลัย ขับออกมาได้ซักพักพี่วายุก็พาเลี้ยวเข้ามาในร้านอาหารร้านหนึ่ง

“พี่วายุหิวหรอครับ”


“เออสิ หรือจะไม่ให้กูกิน?” พี่วายุหันมาขมวดคิ้ว


“ผมขัดได้ด้วยหรอครับ”


“งั้นก็ลง”


เราทั้งสองลงมาและเดินเข้าร้านอาหารมา ก็ดูเหมือนว่าพนักงานผู้หญิงจะแย่งกันเข้ามารับลูกค้าซึ่งก็คือพี่วายุนั่นแหละ ที่สูงโดดเด่นและหน้าหล่อๆนั่น ทำเอาพวกเธอแทบวิ่งแข่งกันเหมือนจะได้รับเหรียญโอลิมปิก


“เอาหมึกผัดไข่เค็มครับ ต้มยำกุ้ง หมูสามชั้นทอดน้ำปลา” พี่วายุเงยหน้ามาจากเมนู “จะกินอะไรก็สั่งดิ กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงกินอะไรได้บ้าง”


“ผมไม่ค่อยหิวน่ะพี่”


“บอกให้สั่งก็สั่งมาเถอะ”


“งั้นเอาข้าวผัดปูครับ” ผมหันไปบอกพนักงานสาวที่ท่าทางกำลังน้ำลายย้อยถึงโต๊ะผมแล้ว


“แค่นี้?” พี่วายุทำหน้ามีคำถาม ผมพยักหน้าจึกๆให้ “งั้นเอาข้าว1จานด้วยครับ แค่นี้แหละครับ”


“ค่ะๆ” พนักงานสาวดูจะจดช้าเป็นพิเศษ ก่อนจะเดินจากไป


“ชอบหรือไม่รู้จะสั่งอะไร” พี่วายุปิดเมนูลงและถามขึ้นอีกครั้ง


“ชอบครับ”


“ชอบข้าวผัดปู?”


“ก็ข้าวผัดปูน่ะสิครับ”


“โว้ะ ไม่ต่อมุขกูเลย” พี่วายุจิ๊จ๊ะ


“อ้าว วายุ” มีผู้หญิงสาวสวย ขาว สูง หน้าอกใหญ่ใส่ชุดนักศึกษามอเดียวกับพี่วายุ ทักทายพี่วายุ


“ฝ้าย มาได้ไงเนี่ย!” อ้อพี่ฝ้าย แฟนพี่วายุที่เคยคุยโทรศัพท์กันเมื่อวานนี่นา


“ฝ้ายก็พึ่งติวกับเพื่อนเสร็จ ว่าจะมาหาอะไรกินเนี่ย” พี่ฝ้ายยิ้มๆ เขาสวยจริงๆครับ ผมยังหลงแต่ก็กลัวพี่วายุอัดหน้าเข้าให้
“นี่ใครอะคะ รุ่นน้องหรอ” พี่ฝ้ายถามถึงผม


“น้องไอ้เมฆไง ชื่อทอย”


“สวัสดีครับ” ผมก้มหัวให้พี่ฝ้าย


“พี่ชื่อฝ้ายนะ งั้นพี่ขอนั่งด้วยคน” ผมยิ้มบางๆให้ “เกรซ ป่าน ฉันขอแยกโต๊ะนะ” พี่ฝ้ายหันไปบอกเพื่อนทั้งสองคนที่มาด้วย


“รู้แล้วยะ เจอแฟนทั้งทีนี่” หนึ่งในสองคนพูดก่อนจะเดินไปเลือกโต๊ะ


“ขอเมนูด้วยค่ะ” พี่ฝ้ายขอเมนูจากพี่พนักงาน และสั่งสลัดปลาแซลมอน


“เออนี่ ถ้าฝ้ายสอบได้B+ขึ้นนี่จะให้อะไรเป็นของขวัญ” พี่ฝ้ายหันไปยิ้มๆและเขี่ยจมูกพี่วายุ

“แค่B+เองหรอ”

“วายุก็รู้นี่ว่าฝ้ายไม่เก่ง”


“อยากได้อะไรล่ะคะ” พี่วายุเอ่ยถาม มีใช้คะ/ค่ะด้วย


“ฝ้ายอยากได้สร้อยคู่ แบรนนั้นอะที่เราเคยไปดู”


“อืม...ก็ได้”


“เย้ วายุอะน่ารักที่สุด” ผมกลายเป็นส่วนเกินในบทสนทนานี้ รู้สึกอึดอัดยังไงไม่รู้แฮะ แต่คู่พี่เค้าก็น่ารักมากๆ มากกว่าคู่อื่นที่ผมเคยเห็นมาซะอีก


“วายุน่ารักเนอะ” พี่ฝ้ายหันมายิ้มและพยักหน้าให้ผม พี่วายุก็มองหน้าผมเหมือนกันแต่ด้วยใบหน้าราบนิ่ง


“น่ารักครับ” ผมยิ้มตอบอีกตามเคย “งั้นผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะครับ”


ผมลุกออกมาเลยโดยไม่รอฟังคำตอบ ผมเดินไปที่ห้องน้ำและส่องกระจก แต่ก็เกิดคำถามขึ้นมาอีกว่าผมมาเข้าห้องน้ำทำไมกัน งงในตัวเอง ผมคิดได้อย่างเดียวคืออยากกลับคอนโด เพราะอยากให้พี่วายุกับพี่ฝ้ายเค้าสวีทกันเพราะเหมือน2คนนั้นไม่ค่อยจะได้เจอกันเท่าไหร่
ตื้ดดดดๆ~


“ว่าไงทอย” เสียงจากมือถือผม


“พี่เมฆมารับทอยหน่อยได้ไหมครับ”


“อ้าว ไหนบอกวายุมาส่ง”


“พี่วายุคงไม่สะดวกแล้วอะครับ”


“ทำไมอย่างงั้นอะ ว่าแต่อยู่ไหน”


“เดี๋ยวทอยส่งโลเคชั่นไปให้”


“โอเค”
ติ๊ด (เสียงตัดสาย)


พอผมส่งโลเคชั่นให้พี่เมฆเสร็จก็กลับไปที่โต๊ะ บนโต๊ะนั้นอาหารก็มาวางครบหมดแล้ว พี่ฝ้ายก็กำลังป้อนผักให้พี่วายุหนึ่งคำ


“ไปนานเนอะ” พี่วายุหันมาพูดกับผม


“ครับ” ผมตอบรับและนั่งลงรีบตักข้าวเข้าปากซักคำสองคำ


พอผมกินข้าวผัดไปเกือบครึ่งจานพี่เมฆก็มาถึงพอดี เดินเข้ามาหาถึงที่โต๊ะเลย


“อ้าว บังเอิญจังเจอเมฆด้วย” พี่ฝ้ายหันไปแจกยิ้มให้พี่เมฆ


“ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกมั้ง” พี่เมฆพูดทำนองหัวเราะ


“มึงมาได้ไง” พี่วายุถามพี่เมฆ


“ก็ทอยโทรให้กูมารับ”


“กูบอกจะไปส่งไง” ทีนี้พี่วายุหันมาทำหน้าขรึมใส่ผม


“ไม่อยากให้พี่ลำบากอะครับ พี่เมฆก็อยู่ห้องเดียวกับผมอยู่แล้ว” แล้วพี่เมฆก็ดีดนิ้ว


“เอองั้นก็แล้วแต่” พี่วายุพูดก่อนจะกลับไปสนใจอาหารต่อ


“ไม่อยู่ทานด้วยกันก่อนหรอเมฆ” พี่ฝ้ายหันไปถามเมฆ


“พอดีเราทานมาแล้วอะ”


“โอเคจ้ะ” พี่ฝ้ายหันกลับไปสนใจสลัดของพี่เค้าต่อ


“ไปยัง” พี่เมฆหันมาถามผม


“ไปสิครับ” ผมตอบ “ผมกลับก่อนนะครับพี่ฝ้าย พี่วายุ สวัสดีครับ” พี่ฝ้ายเงยหน้ามายิ้มตอบ แต่ส่วนพี่วายุทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินคำของผม


ผมเดินออกมาจากร้านพร้อมพี่เมฆและก็ขึ้นรถจนรถมาจอดเทียบหน้าคอนโด


“เป็นอะไรรึเปล่า” พี่เมฆถามขึ้นก่อนจะดับรถ


“เปล่านิพี่” ผมหันไปยิ้มแห้งๆ


“งั้นขึ้นห้องดิ รอไรล่ะ”


“รอคนมาอุ้มขึ้นไปเนี่ย” ผมแหย่


“มาพี่อุ้มเอง” พี่เมฆทำท่าจะช้อนตัวผม


“ทอยล้อเล่น” ก่อนผมจะหลุดหัวเราะออกมา


“พี่ก็หยอกทอยเล่น” เค้ายิ้มตอบ


เราสองคนขึ้นมาบนห้อง ต่างตนก็ต่างทำภารกิจส่วนตัว รวมไปถึงการอาบน้ำอาบท่าจนจะถึงเวลาเข้านอน


“พี่เมฆมีแฟนยังอะครับ” ผมหันไปถามระหว่างนอนดูทีวีกับพี่เมฆ


“ถามทำไม จะจีบพี่หรอ” พี่เมฆขมวดคิ้ว


“ครับ”


“เห้ยยย!!”


“ถุย ผมแค่ถามเฉยๆ” ผมหันไปยิ้มแกล้งๆ


“โห่ นึกว่าจะพูดจริง พึ่งเลิกได้..เดือนนี้ครบรอบ10เดือนพอดี”


“เลิกมาเกือบปีแล้วนิครับ”


“เออดิ”


“ลืมได้ยังอะพี่”


“ก็ลืมได้แล้ว ถ้าไม่พูดถึงเนี่ย”


“อ้าวทอยขอโทษ”


“คิดมาก”


“งั้นให้กอดไถ่โทษเลย” ผมแหย่เล่นเหมือนตอนเด็กๆ


“จริงนะ!!”


“ไม่คิดว่าผมจะประชดบ้างหรอพี่”


“ไม่นะ” พูดจบพี่เมฆก็ลุกไปปิดทีวีปิดไฟและเข้ามากระชับกอดผม เหลือเพียงแต่โคมไฟหัวเตียง
“อบอุ่น” พี่เมฆพูดทั้งๆที่หลับตาอยู่


หลังจากพี่เมฆหลับก็มีเสียงไลน์ทักมา
ติ้ง~

‘กูขอโทษ ที่ไม่ได้ไปส่ง’ พี่วายุส่งมา


‘ไม่เป็นไรพี่ ไม่ต้องลำบาก’ ผมหยิบมาตอบทั้งๆที่พี่เมฆหลับและกอดผมอยู่


‘กูไม่เคยลำบาก’


‘ครับ’


‘พรุ่งนี้กูไปรับนะ’


‘ไม่เป็นไรพี่’


‘ไม่ต้อง กูจะไป’


‘ครับ’


‘ฝันดี รีบๆนอน’

 :katai4: :mew3: :3123:มาลุ้นกันหนุ่มคนไหนจะได้ใจน้องทอยคนซื่อไปครอง

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เชียร์พี่เมฆดีกว่า วายุแลดูเจ้าชู้  :pig4:

ออฟไลน์ lookpeach

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตอนที่3



  ผมค่อยๆลืมตามาในห้องอีกครั้งด้วยบรรยากาศที่แปลกไปนั่นก็คือมีคนมานั่งอยู่ที่เก้าอี้มุมห้อง เป็นใครไปไม่ได้เลยนั่นก็คือพี่วายุที่นั่งมองหน้าผมด้วยสีหน้าเดิมๆ และนั่นแปลว่าพี่วายุกำลังเห็นผมในสภาพที่พี่เมฆนอนกอดผมอย่างแนบแน่นอยู่ ผมจึงค่อยๆแกะแขนพี่เมฆออกจากตัวผม แต่พอแกะออกได้พี่เมฆก็หันมากอดผมอีกรอบ

อยู่ๆพี่วายุก็ลุกขึ้นเดินมาช่วยแกะแขนพี่เมฆออก ผมจึงลุกได้เป็นอิสระ


“พี่วายุเข้ามาได้ยังไงอะครับ” ผมถามด้วยความสงสัย


“...” พี่วายุไม่ตอบแต่ชูกุญแจห้องขึ้นโชว์ผม


“ทำไมพี่รีบมาจังละครับ”


“ก็กูบอกจะมารับมึงไง เลยรีบมา”


“งั้นผมเข้าไปอาบน้ำก่อนนะครับ” ผมรีบเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและเข้าห้องน้ำอย่างทันที


พอผมออกมาจากห้องน้ำก็เห็นพี่วายุกับพี่เมฆนั่งคุยกันแล้ว หัวเราะคิกคักๆ พอพี่เมฆเห็นผมออกมาก็เดินเข้าไปใช้ห้องน้ำต่อผม


“เออ วันนี้ไปติวห้องกูนะ กูพึ่งย้ายห้องมาใหม่” พี่วายุบอกผมที่กำลังยืนเช็ดหัวอยู่งกๆๆ


“แล้วห้องพี่อยู่ไหนอะครับ”


“ชั้น6เนี่ย”


“อ้าว พี่วายุก็อยู่คอนโดนี้หรอ”


“พึ่งย้ายของทั้งหมดเสร็จเมื่อเช้าอะ”


“พี่เมฆจะไปด้วยไหมครับ”


“ไม่รู้มัน”


“งั้นไปห้องพี่วายุก็ได้ครับ ผมจะได้ไม่ลำบากพี่เมฆไปรับไปส่ง” ผมยิ้มแป้น



“ดูเหมือนจะเป็นห่วงไอ้เมฆจังเลยนะ” พี่วายุเริ่มขมวดคิ้ว


“ก็แน่สิครับ” ผมยิ้มตอบอีกรอบ


“ต้องสนิทกับมึงมากกว่านี้ใช่ปะ มึงถึงจะเป็นห่วง” พี่วายุพูดเสียงเบาจนผมเกือบจะไม่ได้ยิน


“อะไรนะครับ”


“เปล่าๆ...กูเช็ดให้ปะ” พี่วายุชี้มาที่หัวผมที่มันยังชื้นๆอยู่


“ไม่เป็นไรครับพี่” ผมเกรงใจน่ะ


พอพี่เมฆเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เดินมาอยู่ข้างหลังผมและแย่งผ้าเช็ดหัวไปแล้วกลับมาเช็ดหัวเปียกๆของผมนั้นไว้


“สบายปะ” พี่เมฆถามขึ้น


“สบายเฉยเลยพี่ ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะให้


“งั้นเดี๋ยวกูลงไปซื้อข้าวและไปรอบนห้องนะ” อยู่ๆพี่วายุก็พูดขึ้น


“เออกูเหมือนเดิมนะ” พี่เมฆเอ่ย


“ครับเพื่อน”


“ผมเอาข้าวผัด..”


“ปู” พี่วายุแทบจะพูดออกมาในทันที่ ที่ผมกำลังสั่ง


“ครับ ขอบคุณนะค้าบบบ” ผมลากเสียงยาว


พี่วายุก็เดินออกจากห้องไปในขณะที่พี่เมฆยังคงเช็ดผมให้ผมอยู่


“พอแล้วพี่เมฆ” ผมรีบหันไปบอกพี่เมฆ


“ไหนบอกสบาย”


“ก็สบายครับ แต่มันใกล้จะแห้งหมดแล้ว”



พี่เมฆเอาผ้าเช็ดหัวมาคุมหน้าผมและเดินไปที่กระจก ทาครีมนู่นนี่นั่นของพี่เขา ไหนจะเซ็ตผม ฉีดน้ำหอม

แล้วหลังจากนั้นพี่เมฆและผมก็พากันมาที่ชั้น6 (ห้องพี่เมฆอยู่ชั้น5น่ะครับ) และมายืนอยู่หน้าห้องของพี่วายุ พี่เมฆก็เปิดประตูเข้าไปเลยเปรียบดั่งห้องของตัวเอง เห็นพี่วายุนั่งรอที่โต๊ะที่มีกล่องข้าว3กล่อง


“มาทอย มากินกันก่อน” พี่เมฆเดินไปถึงโต๊ะและกวักมือเรียกผม


“ครับ” ผมเดินตามไป


ระหว่างทานข้าวพวกพี่ๆเขาก็คุยกันทั้งเรื่องเรียน เรื่องที่จะถึงเวลาสอบไฟนอลแล้ว แลดูยากและหนักหนามาก พี่เมฆก็เรียนคณะดิจิตอลมิเดียที่ต้องรู้คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ การทำโปรแกรมต่างๆ


“งั้นกูนอนอ่านหนังสือบนเตียงมึงนะ” พี่เมฆกระโดดขึ้นเตียงทันทีไม่รอคำตอบจากพี่วายุเลย


“งั้นเรามาเริ่มติวกันเลย”
ผมพยักหน้าให้อย่างรัวๆ


วันนี้พี่วายุเอาเรื่องสถิติมาติวให้ผม ผมก็ต้องดูตามเขาไปอย่างช้าๆ เพราะพี่วายุอธิบายช้าและยกตัวอย่างได้อย่างดีเยี่ยมและผมก็เข้าใจมันด้วย พอสอนผมเสร็จ พี่วายุก็เอาข้อสอบของปีที่แล้วมาให้ผมทำ มีทั้งหมด25ข้อ ส่วนผมทำคะแนนได้21คะแนน


“เก่งมาก” ผมวายุหันมาชม


“น้องใครวะ เก่งสุดๆ” ทีนี้คนที่นอนอยู่บนเตียงก็หันมาถาม “มาๆ พี่ให้รางวัล”


“รางวัลอะไรหรอพี่เมฆ” ผมรีบลุกจากเก้าอี้และเดินเข้าไปหาพี่เมฆ


“มาให้พี่จุ๊บเร็ว” พี่เมฆทำปากจู๋ๆก่อนจะหัวเราะออกมา


“โว้ะ แกล้งกันอีกแล้วอะ”


“งั้นวันนี้พอแค่นี้เนาะ” พี่วายุเก็บของเสร็จและเอ่ยขึ้น


“ได้ครับ” ผมหันไปตอบ และก็นอนดูกองหนังสือของพี่เมฆต่อ มีทั้งเป็นรูปและภาษาอะไรที่ผมไม่เข้าใจ


ผ่านไปเกือบจะ3สัปดาห์แล้ว ผมก็ไปติวกับพี่วายุทุกวัน มีทั้งวันที่พี่เมฆไปเป็นเพื่อนบ้าง ไม่ไปบ้าง แต่ช่วงนี้ข่าวดีที่สุดในตอนนี้คือพวกพี่เมฆและพี่วายุได้สอบไฟนอลเสร็จลุล่วงไปแล้ว แต่พี่เมฆก็บ่นๆอยู่ว่าทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่


“ฉลอง!!” พี่เมฆวิ่งเข้ามาในห้องและตะโกน ทั้งๆที่ผมนอนเล่นมือถืออยู่ “ไปฉลองกับพี่นะทอย” พี่เมฆเดินมานั่งข้างๆผม


“ได้สิครับ”


“เตรียมตัวเลย ไป3ทุ่มครึ่ง”


“ทำไมไปดึกจังอะพี่เมฆ” ผมรีบหันไปถาม


“ก็เราจะไปดื่มฉลองกันไง”


“ผมไม่เคยดื่มเลยนิครับ”


“งั้นเดี๋ยวพี่คอยดูทอยเอง”


ณ ร้านเหล้าที่ลักษณะเหมือนผับเปิดแห่งหนึ่งซึ่งคนพลุ่งพล่านมาก


“เอาชน!!”
คนทั้งโต๊ะพูดพร้อมกัน วันนี้ผมได้รู้จักรุ่นพี่คนใหม่ซึ่งมีทั้งเพื่อนพี่เมฆและพี่วายุ
พี่เมฆเอาเพื่อนมา2คนชื่อพี่แบ้งกับพี่เอก พี่วายุมีเพื่อนอีกหนึ่งคนชื่อพี่โอ๊ต ซึ่งผมก็ต้องชนกับพวกพี่เขาด้วย

พอผมชนเสร็จลองจิบดูก็รู้เลยว่าแสบคอและขมมาก ซึ่งมันไม่โอเคและพวกพี่ๆเขาดื่มกันไปได้ไงเนี่ย


“เห้ยไรวะ แค่จิบอะหรอทอย” พี่เอกพูดขึ้น


“น้องกูยังไม่เคยแดก” ทีนี้พี่เมฆออกโรงช่วยผม


“ไม่ได้มาทั้งที วันนี้แหละได้ลองสีสันชีวิต พอมาอยู่มหาลัยจะได้ชินไม่โดนมอมไง” พี่แบ้งพูดจบก็ดันแก้วเหล้าเข้าปากผมอย่างจังและยังกระดกแก้วให้น้ำในแก้วนั้นหมดลง

อ้า~ แสบคอชะมัด

หลังจากนั้นผมก็ดื่มต่ออีก3แก้ว ซึ่งรวมจากตอนแรกก็เป็น4แก้ว เพราะว่าพี่แบ้งชงให้เข้มมาก ผมรู้สึกว่าตึงๆแล้ว หูอื้อๆ ตาผมล้าลง


“ผม...ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะค้าบบ” ผมไม่ได้ตั้งใจจะลากเสียงแต่มันไปเอง


ผมเดินไปด้วยร่างกายเซๆและเริ่มควบคุมไม่อยู่ โอ้ย..ทำไมโลกหมุนเร็วจังเลยฮะ พอผมใกล้จะถึงโถ่ฉี่ ผมก็รูดซิบกางเกงออกเลย ซึ่งในห้องน้ำมีคนแค่2คน พอผมรูดสำเร็จก็กำลังจะถอดกางเกงในลงทั้งๆที่ผมยังไม่ถึงโถ่ฉี่ แต่ก็มีคนมาจับไหล่ผมจากด้านหลังและดันผมไปที่โถ่ฉี่ ที่ใกล้ที่สุด ผมไม่สนใจว่าคนที่จับผมอยู่เป็นใครเพราะผมปวดฉี่เกินจะหันไปมองหน้า แต่ระหว่างฉี่นั้นคนๆนั้นก็ไม่ยอมปล่อยตัวจากผม จนผมใส่กางเกงเรียบร้อยก็ได้เวลาหันกลับไปมอง
พี่วายุ...


“ไหวปะเนี่ย..มึงอะ” พี่วายุถามด้วยสีหน้าปกติ แต่เป็นไปไม่ได้พี่วายุดื่มไปมากกว่าผมซะอีก


“โห่ ไหวดิพี่..ระดับนี้ล้า” ผมพยายามควบคุมตัวเองให้ปกติที่สุด


“แน่ใจและไอ้หน้าแดงๆนี่ เรียกว่าไหวใช่ปะ” พี่วายุก้มหน้ามามองหน้าผมใกล้ๆซึ่งตอนนี้ จมูกพวกผมเกือบติดกัน


“เออดิพี่” ผมจ้องหน้าพี่วายุอย่างเอาเป็นเอาตาย เกือบจะ2นาทีได้ก่อนที่พี่วายุจะกลับไปยืนตรงและเอาใบหน้าออกไป


หลังจากนั้นพี่วายุก็ประคองผมกลับมาที่โต๊ะอีกครั้ง


“หายไปนานจังวะ” พี่เมฆถามขึ้น แต่ตอนนี้พี่เมฆเริ่มหน้าแดงแล้ว


“เออมาต่อเลย” ไม่ทันขาดคำพี่แบ้งก็ส่งแก้วเหล้าเข้มๆมาให้ผมต่อ

ผมซัดต่ออย่างต่อเนื่องจนตอนนี้ตาเริ่มสู้แสงไม่ได้แล้ว แทบจะอ้วกได้ มีอะไรมาวนๆมวนๆที่ท้องผม ส่วนสภาพพี่เมฆก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ นอกนั้นดูจะปกติทุกคนและนั่งขำๆพวกผมอีกต่างหาก


“ขำอารายย..กันอะครับ” ผมชี้หน้าพวกพี่ที่เหลือด้วยตาที่หรี่ไฟสุดๆ


“กลับกันได้แล้วพวกมึง ปะๆๆ” พี่วายุตบมือไล่พวกพี่ที่เหลือ พอพวกเขาเช็คบิลเสร็จก็แยกย้ายกันที่หน้าร้าน


พี่วายุต้องมาประคองทั้งผมและทั้งพี่เมฆให้ขึ้นรถ ดีที่วันนี้มารถคันเดียวกัน ซึ่งตอนนี้ผมนอนอยู่ข้างๆคนขับ ส่วนพี่เมฆนอนพิงกระจกอยู่ข้างหลัง


“ไอ้วาาา..ยุ กูไปส่งน้องกูด้ายย!!” พี่เมฆขึ้นเสียงทั้งๆที่หลับตาอยู่


“ส่งเชี่ยไร มึงขับรถยังไม่ไหวเลย” พี่วายุมองพี่เมฆด้วยกระจกหน้ารถ


“หวายย..ดิ แม่น้องเขาฝากกู..ให้ดูแลอย่างเด” พูดจบพี่เมฆก็หลับไปเลย ส่วนพี่วายุก็ไม่พูดอะไรต่อและออกรถ


“กินแม่งไม่รู้ลิมิตตัวเองกันเลย..มึงด้วย” ไอ้คำว่ามึงด้วย พี่วายุหันมาทางผม


“อารายยอีก..ละครับ ผมม่ายยได้เมา!!” ผมที่เอาหัวพิงกระจก ก็พูดเสียงดังขึ้นแต่ผมไม่ได้ตั้งใจแคควบคุมตัวเองไม่อยู่หรือนี่เรียกว่าเมา


“ถุยยย นี่เรียกว่าไม่ได้เมา”


“ก็ช่ายยยน่ะสิค้าบบบ” ผมลากเสียงและพยายามเอาหัวตัวเองขึ้นมาจากกระจกประตูรถและยื่นหน้าไปหาพี่วายุ ซึ่งปลายจมูกผมเฉียดๆแก้มพี่วายุ


อยู่ๆพี่วายุก็เบรครถและหันหน้ามาหาผม ซึ่งตอนี้มันใกล้มาก


“ดูไว้นะค้าบบบพี่วายุ..โฉมหน้าคนม่ายยได้เมา!” ผมชี้หน้าตัวเอง


ผมพูดจบลงพี่วายุก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่ค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ผมแทน ทำให้จมูกเราชนกัน และผมก็รู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆรดที่หน้า ในส่วนของปากเราสองคนผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรเข้าใกล้และมันก็จะเฉียดๆแล้ว


ผมหันหน้ากลับทันทีและนั่งมองไปข้างหน้า พี่วายุชะงัก ก่อนที่จะส่ายหัวและขับรถต่อ


“กูขอโทษ” พี่วายุพูดขึ้น


“เรื่องอารายยอีกล่ะเนี่ยย~” ผมเริ่มปวดหัวตึบๆ


สักพักรถก็มาจอดเทียบท่าคอนโดก่อนที่พี่วายุ จะพยายามลากร่างของผมและพี่เมฆขึ้นห้องด้วยความยากลำบาก พอถึงห้องพี่วายุก็ทิ้งตัวผมสองคนลงที่เตียงอันนุ่มๆ อ่า~สบายจัง อยู่ๆพี่เมฆก็หันมากอดและก่ายผม แต่พี่วายุก็เดินมาพลิกตัวพี่เมฆออก ผมหรี่ตามอง


“เดี๋ยวมึงร้อน” พี่วายุพูดจบผมก็น็อคเลย


11:30น.
“โอ้ยยย” ผมโอดครวญด้วยความปวดหัวและค่อยๆขยี้ตา ภาพที่เห็นคือพี่เมฆนอนถอดเสื้ออยู่ข้างๆผม และมีพี่วายุนั่งหลับอยู่ที่พื้นข้างๆผมและเอาหัวมาพิงนอนที่เตียง


“เอิ่ม...พี่วายุครับ” ผมค่อยๆสะกิด พี่วายุค่อยๆลืมตามามอง “มานอนตรงนี้ได้ไง?”


“ก็มึงแหละ ทำให้กูไม่ได้กลับห้อง”


“จริงหรอครับ เกิดอะไรขึ้น!!” ผมขมวดคิ้ว


“ก็มึงเล่นอ้วกเกือบทั้งคืน กูก็ต้องประคองมึงเข้าห้องน้ำตลอด”


“...” ผมทำสีหน้าสำนึกผิด


“ไม่ต้องมาทำสีหน้าแบบนั้นเลย เด็กแบบมึงปล่อยไปแดกเหล้าคนเดียวไม่ได้”


“ครั้งแรกของผมนี่นา”


“วันนี้งดติวนะ กูง่วง”
 :bye2: :man1:ติชมได้ค่ะ อัพให้เรื่อยๆเลยน้า

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ lookpeach

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตอนที่4



   วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้ติวกับพี่วายุก่อนจะกลับไปสอบและยื่นคะแนนต่างๆเข้ามหาวิทยาลัย หลังๆมานี้ผมอยู่กับพี่วายุบ่อยกว่าพี่เมฆซะอีก ตอนนี้พี่วายุแบ่งติวเป็นช่วงเช้าและช่วงบ่าย นั่นแสดงว่าผมอยู่แต่ในห้องกับพี่วายุเกือบทั้งวัน!! ซึ่งกับพี่เมฆผมแค่ทานข้าวเช้ากับเข้านอนด้วยเฉยๆ


“และนี่มันจะตกคอนแดนท์ของtan คำตอบก็จะติดลบเพราะเราหาsin30 เข้าใจปะ” พี่วายุหันหน้ามาถาม


“เข้าใจแล้วค้าบบบ” ผมลากเสียงด้วยความเหนื่อยล้าเพราะวันนี้ติวมาจนถึงบ่าย2แล้ว


“โอเค การติวของเราจะจบลงเท่านี้” พี่วายุปิดชีทเล่มที่พึ่งสอนผมไปหมาดๆ “ต้องตั้งใจสอบนะมึง เข้าที่นี่ให้ได้ อย่าทำลายชื่อเสียงกู”


“คร้าบบบ พี่วายุคร้าบบ”


“กวนตีน” พี่วายุเอาปากกามาเคาะหัวผม


“พรุ่งนี้เช้าก็กลับสมุทรปราการแล้วใช่ปะ”


“ครับผม”


“คิดถึงแย่เลย นั่งติวอยู่ด้วยกันทุกวัน แต่อยู่ๆก็จะไม่มีละ” พี่วายุทำหน้าหงอย


“ก็คุยไลน์สิครับ” ผมก็คิดถึงเหมือนกันนั่นแหละ


“มันไม่เหมือนกันอะ”


“เรื่องเยอะสุดๆ”


“ด่าใครเรื่องเยอะ”


“เปล่าครับ ฮ่ะๆ” ผมหัวเราะในลำคอ


หลังจากนั้นผมก็กลับห้องไปเก็บของ พี่เมฆก็ไปซื้อข้าวมาไว้ให้


“อย่าไปนานนะพี่เหงา” พี่เมฆที่นอนดูทีวีอยู่หันมาคุยกับผมที่นั่งเก็บของอยู่


“จะรีบกลับมาให้ได้ครับ” ผมยิ้มบางๆให้


“ดีมาก เคยมีกันตั้งหนึ่งเดือนและอยู่ๆจะทิ้งกันไปได้ไง” พี่เมฆแกล้งทำสีหน้าออดอ้อน


“เดี๋ยวมาอยู่ด้วยอีก4ปีเลย ตกลงปะ” ผมแกล้งถามแบบยิ้มๆ


“ให้มันจริง ถ้าติดมอนี้ก็มาอยู่ห้องพี่ได้เลย”


“เอาจริงดิพี่เมฆ”


“เออ จะได้ไม่เปลืองค่าเช่าห้องแพงๆมาหารกับพี่ดีกว่า”


“ก็ได้ครับพี่ ไม่มีปัญหา”


“ดีมาก” พี่เมฆขยับมาขยี้หัวผม


หลังจากเก็บของเสร็จผมก็ไปอาบน้ำและเข้านอนเตรียมตัวจะกลับบ้าน คิดถึงแม่ที่สุดเลย!


“มานี่เลย” พี่เมฆตบเตียงข้างๆเขา


“อะไรครับ” ผมขึ้นไปนอนข้างๆพี่เมฆตามคำสั่ง


“มาให้พี่กอดเป็นคืนสุดท้ายเลยนะ”


“โห่ พี่ก็กอดทุกคืนอยู่แล้วปะ” ผมหลุดหัวเราะ


“คืนนี้คือคืนสุดท้ายไง” พูดจบพี่เมฆก็กอดผมเลย..


 ผมก็หลับไปทั้งที่มีพี่เมฆกิดไว้พอถึงช่วงสายๆพี่เมฆก็บอกให้ผมขึ้นมาลาพี่วายุเพราะดูเดี๋ยวนี้พี่วายุไม่ค่อยร่าเริงเหมือนทุกที ได้ข่าวมาว่าทะเลาะกับพี่ฝ้ายบ่อยน่ะ ผมก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน

ก๊อกๆๆ
พี่วายุแทบจะเปิดในทันที


“ผมมาลาครับ” ผมเดินตามหลังพี่วายุเข้าไปในห้อง


“ตั้งใจสอบนะ ใกล้วันสอบไม่ต้องหักโหมมากและก็พักบ้าง” พี่วายุดูพูดอย่างอ่อนโยนและจริงใจมากขึ้นจนผมสัมผัสได้


“ได้เลยครับคุณติวเตอร์” ผมโค้งตัวลง


อยู่ๆพี่วายุก็อ้าแขนทั้งสองมาทางผม แต่ผมไม่ได้ซื่อขนาดนั้น ผมเดินเข้าไปสวมกอด กอดนี้มันอบอุ่นกว่าทุกกอดและหัวใจผมก็เต้นแรงมากๆ แรงจนผมกลัวว่าพี่วายุจะรู้สึก


“เดี๋ยวกลับมาหาแน่นอน” ผมพูดหลังจากผละอ้อมกอดออก


หลังจากนั้นแม่ผมก็เป็นคนขับรถมารับผมด้วยตัวเอง ซึ่งอาจจะคิดถึงลูกชายคนนี้มากๆ ผมกับพี่เมฆและพี่วายุลงมารอแม่หน้าคอนโด ไม่ถึง5นาทีแม่ก็มาถึง พอแม่ได้ลงมาจากรถก็เดินมากอดลูกชายปั๊บ


“แม่ขอบใจเมฆมากนะลูกที่ดูแลน้องและก็ขอบใจสุดหล่อด้วยที่ช่วยติวให้ลูกชายแม่” แม่หันไปยิ้มและพูดคุยกับพี่ๆเขา


“ไม่เป็นไรครับ” พี่เมฆกับพี่วายุพูดออกเสียงพร้อมกัน


“เดี๋ยวถ้าเจ้าทอยติดที่นี่ แม่ฝากดูแลอีกทีนะ”


หลังจากนั้นผมกับแม่ก็กลับบ้าน วันถัดไปผมต้องไปสอบแบบวันเว้นวัน ซึ่งผมก็ทำข้อสอบพวกนั้นได้เกินครึ่ง..ผมมั่นใจ เพราะมีติวเตอร์ดี หลังจากนั้นไม่ถึง2อาทิตย์ ผมก็ต้องยื่นคะแนนไปให้ทางมหาลัยและรอประกาศผล ช่วงนี้ผมไม่ได้คุยกับพี่เมฆกับพี่วายุสักเท่าไหร่ เพราะวุ่นๆกับเรื่องเรียน


“เย้!! แม่ผมมีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์” ผมตะโกนบอกแม่เสียงดังลั่นบ้านด้วยความดีใจซึ่งวันนี้เป็นวันเช็คผลยังไงล่ะ


ผมเดินทางไปสอบสัมภาษณ์โดยที่แม่ไปส่งผม แต่ผมยังไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้กับพวกพี่เมฆและพี่วายุรู้ เพราะกะจะเซอร์ไพส์พวกพี่เขา

ตอนผมเข้าไปสอบสัมภาษณ์เป็นอารมณ์ที่ชิลล์ที่สุด ผมพูดคุยกับคณะกรรมการด้วยความเป็นกันเอง ยิ้มแย้มแจ่มใส พวกเขาถามอะไรมาผมก็ตอบตามความจริง และมีคำถามวิชาการ2ข้อ ถึงผมจะตะกุกตะกักไปบ้างแต่ก็ตอบได้


“ยังไงลูกแม่ก็ติด เก่งขนาดนี้” แม่นั่งจับมือผมไว้ ก่อนที่ผมจะกดEnterเพื่อดูผลการสอบสัมภาษณ์


“ขอให้ติดเถอะ” ผมพูดจบก็กดEnterลง


หลังจากนั้นก็รอโหลด ในที่สุดหน้ารายชื่อก็ปรากฏแก่สายตาผม ผมเลื่อนเพื่อมองหาชื่อตัวเอง แต่ผ่านมา2หน้าแล้วก็ยังไม่มีชื่อผม จนมาชื่อเกือบสุดท้าย
‘นาย ธรรมภรณ์ มัทธาโชติเวช’ ชื่อผม!!
เย้ๆๆ!!ผมติดครับผมติด


ตอนนี้ก็เกือบจะ2เดือนแล้ว ผมไปทำเรื่องของมหาลัยเรียบร้อย ตอนนี้ก็แค่รอกิจกรรมรับน้องมาถึง แต่ผมก็ยังไม่ได้บอกพี่เมฆเลย พอคิดได้ก็โทรไปหาสักหน่อยดีกว่า

ตื้ดดดดด~
“ฮัลโหลว่าไงทอย”


“ผมจะมาบอกข่าว เอาข่าวร้ายหรือข่าวดีก่อนครับ” ผมหัวเราะ


“ข่าวร้ายก่อนละกัน”


“ข่าวร้ายก็คือพี่จะต้องแชร์ห้องกับทอย”


“เห้ย! อย่าบอกนะว่า” พี่เมฆดูเสียงดังขึ้น


“ใช่ครับ ข่าวดีคือทอยติดแล้ว”


“ฉลองๆ แล้ววันไหนจะมากรุงเทพอะ”


“อาทิตย์หน้าอะพี่”


“พี่ว่างๆ เดี๋ยวไปรับ”


“เกรงใจอะครับ”


“ไม่ตัองเกรงใจ พี่จะไปรับตกลงตามนี้” และหลังจากนั้นพี่เมฆก็ตัดสายไปเลย


“คิดถึงจังเลย” พี่เมฆเดินเข้ามากอดผมหลังจากลงรถมา นี่ผมก็จะไปอยู่กรุงเทพอย่างเต็มตัวแล้วสินะ


“คิดถึงเหมือนกันค้าบบบ”


“ปะ ไปกัน”


ผมคุ้นเคยกับเส้นทางเดิม ถนนเส้นเดิม ที่ทอดยาวมาถึงคอนโดพี่เมฆ ตอนนี้ผมก็เก็บของในห้องพี่เมฆเรียบร้อยแล้ว


“แล้วพี่วายุล่ะครับ” ผมกระโดดขึ้นเตียงไปถามพี่เมฆ


“พี่ไม่ค่อยได้เจอมันเลย เห็นมีคนบอกว่ามันเลิกกับฝ้ายแล้วกินเหล้าทุกวัน จะร่วมเดือนแล้วเนี่ย”


“อ้าว เป็นยังไงบ้างครับน่ะ”


“วันนี้เราก็ไปฉลองกันดิ เผื่อเจอมันด้วย”


“โอเคครับ” ผมเริ่มรู้สึกเป็นห่วงพี่วายุ เพราะคนอกหักคือช่วงที่อ่อนแอที่สุด


23:30น.
ณ ร้านเดิมที่คุ้นเคย
วันนี้พวกผมมาดึกนิดหน่อยเพราะผมเผลอหลับไป แต่พี่เมฆไม่กล้าปลุก
พอเดินเข้ามาก็เจอกับเสียงเพลงกระหึ่ม ที่ดังมาจากเวทีดีเจ

ก่อนที่ผมจะเลือกที่นั่ง ก็เจอโต๊ะโต๊ะหนึ่งมีผู้ชายลักษณะที่ผมคุ้นเคย


“พี่เมฆ นั่นใช่พี่วายุปะครับ” ผมกระซิบพี่เมฆและชี้ไปหาพี่วายุ


“เออๆไปนั่งโต๊ะมันก็ได้”


พวกผมเดินมานั่งโต๊ะพี่วายุ พี่วายุกล่าวทักทายทุกคนด้วยอาการไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ ผมมองไปที่โต๊ะก็เห็นขวดเหล้าวางเกลื่อนกลาด เขาคงดื่มมาเยอะแล้วแน่ๆ


“วายุมึงเป็นอะไรวะ เล่าให้พวกกูฟังได้นะ” พี่เมฆพูดขึ้น


“ฝ้ายอะดิ” พี่วายุเงยหน้ามองพี่เมฆและหันมาทางผม “มีคนส่งคลิปที่ฝ้ายไปได้กับคนอื่นมาให้กูดู พอกูไปเคลีย ฝ้ายก็บอกเลิกกู” สีหน้าพี่วายุแดงก่ำและดูเศร้ามาก


“แต่นี่มึงแดกมาจะเดือนแล้วนะ” พี่แบ้งพูดขึ้น


“กูจะลืมได้แล้วเนี่ย แต่พวกมึงถามกูกูเลยบอกเฉยๆ” พูดจบพี่วายุก็กระดกเหล้าเข้าปากทันที


เราดื่มมาจนจะตี2แล้ว ทุกคนเริ่มเมาแล้ว พวกผมเลยตกลงกันว่าจะกลับ แต่รถที่เอามากลับมี3คัน ตอนนี้คนที่เมาคือพี่เมฆ(ทุกรอบ)กับพี่วายุ พี่เอกเลยให้ผมขับคันพี่วายุและให้พี่วายุไปด้วย ส่วนพี่เอกจะขับคันพี่เมฆและเอาพี่เมฆไปด้วย ส่วนพี่แบ้งจะขับตามมา


ผมลากพี่วายุขึ้นไปนั่งข้ามคนขับและขี่รถออกตามคันพี่เอกไป


“แม่ง กูมานไม่ดีตรงหนายฟร้ะ” พี่วายุพูดฟร้ะจริงๆครับ -..-


“ลีลาาากูดีกว่าไอ้นั่นต้างงงเยอะ” ผมส่ายหัว


“เห้ย นี่มึงสอบติดแล้วววช่ายยปะ” พี่วายุชี้หน้าผมด้วยใบหน้าเมาๆ


“ครับ” ผมสนใจทางอยู่ เพราะผมขับรถยังไม่แข็ง


“...” ถามแล้วเงียบ ผมหันไปมองก็เห็นพี่วายุหลับไปแล้ว


ตอนนี้เราถึงคอนโดกันแล้วครับ พี่แบ้งกับพี่เอกให้ผมขึ้นไปดูแลพี่วายุก่อนและพวกพี่เขาจะช่วยดูแลพี่เมฆ ซึ่งพอเมาแล้วรู้สึกเลยครับว่าจะมีคนลำบาก

ผมจับร่างใหญ่ๆของพี่วายุลงกับเตียง และยืนมองด้วยความสงสาร การที่เราอกหักจะทำให่เราเป็นขนาดนี้เลยหรอ

ผมเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อให้พี่วายุ เพื่อที่จะได้เช็ดตัวให้ ผมเห็นในหนังทำกันน่ะครับ พอปลดหมดก็พลิกตัวถอดเสื้อออก หลังจากนั้นก็ถอดกางเกงยีนส์ที่อสนยากลำบากออก ผมเห็นกับกางเกงบ็อกเซอร์สีส้มผมจึงรีบวิ่งไปเอาน้ำใส่กาละมังและชุบผ้ามาดๆ มาเช็ดตัวให้

ผมค่อยๆเช็ดจากหน้าออกลงมาที่ท้อง อยู่ๆพี่วายุก็ค่อยๆลืมตาขึ้น


“ทะ..ทำอะไรอะ” พี่วายุเสียงแหบ “หนาว”


“แป๊บนึงนะครับพี่วายุ เดี๋ยวจะเสร็จแล้ว”

ผมเช็ดตัวอีกรอบเพื่อให้ทั่วตัวและล้างน้ำใหม่ไปชุบที่หน้า ในจังหวะนี้ผมก้มหน้าไปเช็ดหน้าให้พี่วายุ หน้าเขาเนียนใสมาก ปากสีชมพูนั่นอีก คิ้มเข้มๆและสันจมูกโด่งๆ พี่วายุลืมตามาอีกรอบ ผมถึงกับตกใจและอึ้งไป

ผมกับพี่วายุจ้องกันนานมากขึ้น หลังจากนั้นมือของพี่วายุก็กดคอผมลงมา ทำให้ปากของเราสองคนประกบกัน ผมหลับตาปี๋ แต่ปากของพี่วายุเริ่มไม่อยู่นิ่ง มันบดขยี้ และดูดเอาความหวานจากตัวผมไป พี่วายุเริ่มบดขยี้แรงขึ้นและเร้าร้อนมากขึ้น ผมได้แต่อยู่เฉยๆหัวใจของผมสั่นไม่เป็นระบบ เพราะนี่คือจูบแรกของผมด้วยซ้ำ หลังจากนั้นปากของพี่วายุก็เริ่มเลื่อนมาที่ซอกคอผม เขาดูดแรงมากจนผมรู้สึกเจ็บ


“พี่..วายุ” ผมเรียกเพื่อให้พี่วายุได้สติ มันได้ผลครับพี่วายุกลับมามองหน้าผมและจับตัวผมนอนลงและกอดผมไว้...


“พี่ขอโทษ” เสียงเขาเหมือนคนเริ่มสร่างมากขึ้น “คืนนี้นอนกับพี่นะ สัญญาว่าแค่กอด” พอจบประโยคเท่านั้นแหละ หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะอีกต่อไป และไหนจะคำที่วายุแทนตัวเองว่าพี่ เพราะแต่ก่อนพูดกูมึงกับผม


และคืนนั้นผมให้พี่วายุกอดทั้งคืนเพราะผมเข้าใจว่าเวลาเราอกหักและอ่อนแอเราก็ต้องการกอดดีๆจากใครซักคน



 :haun4: :mew1:พี่วายุของเราโสดแล้ว จะทำยังไงกับน้องทอยของเราทีนี้

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ชักจะเข้าเค้า...กลิ่น 3p โชยมาแล้ว..วววววววววว   :ling1: :ling1: :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ถ้า3pก็ดีนะ อิ้อิ้

ออฟไลน์ lookpeach

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตอนที่5





“แหม เมื่อคืนหายไปไหนมา ไม่มาดูแลพี่เลยนะ” พี่เมฆพูดทันทีหลังผมกลับเข้าห้อง


“เอ่อ..คือพี่วายุเขาก็เมาน่ะครับ และพี่เอกเขาให้ผมไปดู”


“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่” พี่เมฆหันมายิ้ม


หลังจากนั้นผมก็เข้าไปอาบน้ำแต่พบว่าแม่งมีรอยแดงๆที่คอใกล้ๆไหปลาร้า ทำให้นึกถึงเมื่อคืนเลยที่พี่วายุดูดคอผม.. พอผมออกมาแต่งตัว พี่วายุก็ทักมาว่าจะพาไปกินข้าว ตอบแทนที่ผมดูแลเขาทั้งคืน


“เดี๋ยวผมมานะครับพี่เมฆ”


“ไปไหนอะ”


“ไปกินข้าวน่ะครับ เดี๋ยวผมซื้อมาฝากนะ” ผมยิ้มบางๆ


“รีบมาน้าาา”


“ค้าบบบผม”


ผมเดินออกมาพ้นหน้าห้องนิดเดียว พี่วายุก็เดินมาหาพอดี


“ปะ”


“พี่วายุหายแฮงค์แล้วใช่ไหมครับ” ผมเงยหน้าขึ้นไปถาม


“แฮงค์อะไร ไม่ได้แฮงค์เลยเหอะ”


“แต่เมื่อคืนเพ้ออะไรมา ผมได้ยินหมดเลยนะ” ผมยิ้มๆแกล้งพี่วายุ


“อะไร..ก็เพื่อนมันถามถึงฝ้ายเลยนึกถึงเฉยๆ แต่ตอนนี้พี่ลืมแล้วจริงๆนะ” พี่วายุเงียบไป “แต่เรื่องเมื่อคืนพี่ไม่ลืมนะ”


“ครับ?” พี่วายุพูดเบาทำให้ผมแทบไม่ได้ยิน ไหนพี่วายุจะใช้คำแทนตัวเองว่าพี่อีกแล้ว ผมยังไม่ชินหนิครับ


วันนี้อยู่ๆพี่วายุก็พาผมมากินร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งในร้านตกแต่งได้น่ารักมากๆ ส่วนมากก็เห็นมากันเป็นคู่หรือไม่ก็แก๊งเพื่อนมาถ่ายรูปน่ารักๆ ไว้ไปอวดอัพลงไอจี


ผมกับพี่วายุเลือกที่นั่งและสั่งอาหารเรียบร้อย


“ทอย”


“ว่าไงครับ”


“รอยแดงๆที่คอนั่น พี่ทำใช่ไหม” เอิ่ม ผมลืมเรื่องรอยไปเลย อุส่าห์ดึงๆเสื้อคอยปิดไว้ตลอกแล้วนะ


“เอ่อ...”


“พี่ขอโทษนะ” คำพูดของพี่วายุดูอ่อนโยนขึ้นมากๆ


“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถือสาคนเมาหรอก” เพราะตอนผมเมาพี่วายุก็ดูแลผมหนิ


“พี่ขอจีบทอยได้ไหมอะ”


“เห้ย” ผมอุทานด้วยความตกใจ ไอ้หน้าหล่อตรงหน้าผมขอจีบผม


“ว่าไง”


“เอ่อ คือ”


“หือ” พี่วายุทำหน้าตาลุ้นกับคำตอบ


“ทำไมพี่ถึงอยากจีบผมอะครับ”


“ตรงๆเลยนะ ทอยดูซื่อๆไม่มีพิษมีภัยกับใคร หน้าหวาน สุภาพ ชอบดูแลคนอื่นใครอยู่ใกล้ก็ต้องชอบอะ”


“...” อึ้งสิครับทีนี้ ไม่เคยคิดว่าจะมีคนมาพูดแบบนี้กับผม


“ตกลงให้พี่จีบได้รึยังครับ”


“ผมยังไม่รู้เลยเขาจีบกันยังไง”


“เดี๋ยวพี่ก็แสดงให้ดูเนี่ย แค่ทอยยอมอะ”


“งั้น...ก็ได้ครับ”


“เย้!” พี่วายุเสียงดัง ทำให้โต๊ะข้างๆหันมามอง
“อย่างแรกทอยต้องแทนตัวเองด้วยชื่อ เหมือนที่ทำกับไอ่เมฆอะ ดูน่ารักและสนิทดี”


“โอเคครับ ทอยจะแทนตัวเองว่าทอย”


หลังจากนั้นผมกับพี่วายุก็คุยไลน์กันทุกวัน มันดูพิเศษขึ้น คำพูดดูน่ารักขึ้น บางทีพี่วายุก็หยอดผมตลอด แต่บ้างครั้งผมก็ไม่เข้าใจมุขที่เขาส่งมา ผมนี่มันซื่อบื้อจริงๆ


นี่ก็จะสองอาทิตย์แล้วที่ผมต้องมาทำกิจกรรมรับน้องก่อนเปิดเทอม ผมมีเพื่อนแค่2-3คน ซึ่งคณะผมแทบไม่เห็นผู้ชาย(แท้) ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้หญิงทั้งนั้น


“เหนื่อยปะ” พี่วายุมารับผมหลังจากผมทำกิจกรรมเสร็จ


“ไม่เท่าไหร่ครับ” ผมส่งยิ้มให้พี่วายุ


“เห็นหน้าพี่แล้วหายเหนื่อยยัง” พี่วายุเอ่ยคำชวนหลงตัวเอง


“หายเหนื่อยแล้วก็ได้ค้าบบบ” ผมทำลากเสียงยาว ก่อนจะหัวเราะ แต่ผมก็หายเหนื่อยจริงนั่นแหละดูหน้าตาคนที่มาดูแลผมสิ


ตั้งแต่พี่วายุลั่นวาจาว่าจะจีบผม พี่วายุก็ดูแลผมอย่างดีเลยล่ะครับ พาไปกินข้าว หยอดคำหวาน พาไปเที่ยว ไปรับไปส่ง ช่วงนี้ทำให้ผมหน้าบาน รู้สึกมีความสุขจนพี่เมฆทำหน้าเอือม


เอ้อ แต่ก่อนที่พี่วายุจะจีบผมเขาได้ทักไปขออนุญาติพี่เมฆตั้งแต่วันที่เขาชวนผมไปทานอาหารญี่ปุ่น พี่เมฆก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เพราะเขาบอกว่าดูออกนานแล้ว และผมกับพี่เมฆก็เป็นพี่น้องที่รักกันม๊ากมากเท่านั้นเอง


สัปดาห์แห่งการเปิดเทอมก็มาถึงสักที ตอนผมเรียบคาบแรกแทบแลคเชอร์ไม่ทัน ไม่คิดว่าการเรียนมหาลัยจะเป็นแบบนี้ ฆ่ากันชัดๆ


“อาจารย์กดสไลด์ไวยิ่งกว่าความเร็วแสงอีกอะมึง” วาวสาวห้าวเพื่อนร่วมคณะผมบ่น


“กูแทบตาลาย” กรกันต์(ชายแท้เพียงไม่กี่คนในคณะ)เอ่ยทำหน้าเหมือนจะลาโลก


หลังจากผมเรียนเสร็จพี่วายุก็มารับไปทานข้าวก่อนจะกลับเข้าคอนโด
ณ ร้านอาหาร


“เรียนเป็นไงบ้าง” พี่วายุเอ่ยถาม


“ยากมากครับ ทอยแทบจดไม่ทันแหนะ” ผมทำหน้ามุ่ย


“ยังงี้แหละ เดี๋ยวพี่ให้กำลังใจ” พี่วายุยิ้มๆ


“กำลังใจอะไรครับ” ผมขมวดคิ้ว


“...” พี่วายุไม่ตอบแต่เอานิ้วชี้ไปแตะที่ริมฝีปาก ก่อนที่จะยิ้ม ชัดเลยครับ


“โห่ ไม่รับได้ไหมครับ”


“เดี๋ยวกลับคอนโดไปก็รู้” พี่วายุทำสีหน้าเจ้าเล่ห์


“แต่เรา...ยังไม่เป็นอะไรกันนะครับ” ผมปากไวเกินไป ทำให้คนตรงหน้าผมถึงกลับเงียบไป


พี่วายุเงียบตั้งแต่ร้านอาหารจนขึ้นรถจนตอนนี้ถึงคอนโดแล้ว พี่วายุก็ไม่พูดกับผมสักคำ เริ่มรู้สึกผิดแล้วสิ


“ผมกลับห้องก่อนนะครับ” ผมพูดขึ้นเมื่อลิฟต์เปิดออก


“...” พี่วายุแค่พยักหน้า


ผมเดินกลับเข้าห้องด้วยความรู้สึกผิด ผมพูดแรงไปใช่ไหมครับ


“เป็นยังไง” พี่เมฆถามผมทันทีที่ถึงห้อง


“ก็ดีครับ” ผมตอบโดยที่เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและเข้าห้องน้ำไป


“ก็ดีอะไรวะ” เสียงพี่เมฆสงสัย


ผมอาบน้ำเสร็จ ก็ออกมาทาครีมเสริมหล่อ


“เห้ยทอย เป็นอะไรอะ” พี่เมฆเริ่มสังเกตผม


“คือผม...โดนพี่วายุโกรธน่ะครับ”


“ไปทำอีท่าไหนให้มันโกรธล่ะ”


“คือ...”


“ไปง้อมันดิ รออะไรล่ะ” สิ้นเสียงพี่เมฆผมถึงกลับวิ่งขึ้นไปชั้น6 ไปยืนเคาะประตูหน้าห้องพี่วายุ


พี่วายุเปิดประตูด้วยสภาพที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อกล้ามกับบ็อกเซอร์แล้ว และเขาก็ทำหน้านิ่งเหมือนผมไม่มีตัวตน โคตรไม่ชอบความรู้สึกนี้เลย


“ทอยมีเรื่องจะคุยด้วย” ผมพูดและเดินเข้ามาในห้องเลย


“พี่วายุเป็นอะไรรึเปล่าครับ”


“เปล่าหนิ” พี่วายุยอมเปิดปาก


“จะเปล่าได้ไง เงียบใส่ผมตั้งนานสองนาน”


“พี่แค่ไม่แน่ใจ”


“หือ”


“คือพี่คงเห็นแก่ตัวไป พี่ขอโท..” ไม่ทันที่พี่วายุจะพูดจบ ผมรวบรวมความกล้าและโน้มตัวเข้าไปจูบพี่เขา ซึ่งตอนแรกพี่วายุก็นิ่งไป แต่พอปรับตัวได้ก็ตอบสนองด้วยการบดขยี้ และลิ้มรสสัมผัสจากริมฝีปากผมอย่างหนักหน่วง เราจูบกันนานมาก นานจนผมเริ่มหายใจไม่ออก ผมจึงผละตัวออก


“เอ่อ” ผมเขินจนพูดไม่ออก


“น่ารักจัง” พี่วายุฉีกยิ้มกว้างให้ผม แสดงถึงความดีใจสุดๆ


“งั้น..ทอยกลับห้องก่อนนะครับ” ผมรีบหันหน้าหนี แต่พี่วายุก็ดึงแขนผม แรงของพี่วายุทำให้เอานั่งลงตักเขาอย่างสบาย


“เดี๋ยวสิ อยู่กับพี่นานๆกว่านี้ไม่ได้หรอหรือไม่ก็นอนกับพี่เลย”


“คือพี่เมฆจะรอทอยน่ะ”


“เดี๋ยวพี่ไลน์บอกมันแป๊บเดียว มันก็ล็อคห้องนอนละ”


“ขี้โกง”


“ใคร ไหนใครขี้โกง”


“พี่วายุนั่นแหละ ให้ทอยเริ่มจูบก่อนได้ไง” ผมเบะปาก


“ทอยอยากทำอะไรในตัวพี่ พี่ไม่ขัดหรอก” พี่วายุเอาคางมาเกยไหล่ผม “เมื่อกี้พี่โกงใช่ไหม อะ อันนี้ไม่โกงละ” พี่วายุจับคางผมให้หันไปหาเขาและจูบผมอีกครั้ง


“ทอยไม่นอนห้องพี่แล้ว”


“เห้ยไม่ได้ดิ”


“ทอยจะกลับห้อง”


“พี่ไม่ให้กลับ”


“ทอยจะให้พี่เมฆมารับ”


“เข้ามาได้ก็เข้ามาเลย”


“ขี้โกงอีกแล้ว!!”


“ฮ่าๆๆ”
















 :hao7:


   :katai4:ตอนนี้สั้นหน่อยนะคะ พอดีติดงานค่ะ รักคนอ่านทู๊กคน

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
มันก้ออกจะหวานๆหน่อย  :hao3:

ออฟไลน์ lookpeach

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตอนที่6




“ไปกินข้าวโรงอาหารกลางกัน กูมีร้านประจำอยู่” กรกันต์เอ่ยขึ้นหลังเรียนเสร็จ


“ไปดิ” วาวช่วยเสริม


ผมจึงต้องจำใจตามเพื่อนสองคนมากินข้าวไกลถึงโรงอาหารกลาง ซึ่งก็มีหลายคณะมาทานข้าวที่นี่รวมกัน


‘อยู่ไหนอะ’ พี่วายุทักมา

‘ทอยมากินข้าวโรงอาหารกลางอะ’

‘พี่ไปกินด้วยดิ’

‘มาสิครับ’

‘โอเค เดี๋ยวเจอกัน’


“นี่มึงร้านข้าวหมูแดงเจ้าเด็ด” กรกันต์ชี้ๆไปทางร้านที่มีคนมุงมากที่สุด “กูไปต่อแถวก่อนนะ พวกมึงอยากแดกอะไรก็ไปซื้อเลย”


“มึงจะกินอะไรอะทอย” วาวหันมาถามผมทันที


“ไม่รู้ว่ะ ไม่เคยมา” ผมทำหน้าเจื่อนๆ


“งั้นกูไปซื้อก๋วยเตี๋ยวร้านนู้นกินดีกว่า” พูดจบวาวมันก็เดินจากผมไปเลย ปล่อยผมยืนคิดว่าจะกินอะไรดี


ผมจึงตัดสินใจเดินดูให้รอบก่อน ถ้าร้านไหนน่ากินค่อยเข้าไปต่อแถวแล้วกัน แต่ในที่สุดผมก็มาจบที่ร้านข้าวขาหมู ซึ่งไม่รู้ว่ากี่แคลจะอ้วนไหมน้าา


“นายๆชื่อไรอะ” ผู้ชายแต่งตัวเนี้ยบด้านหลังผมสะกิดและถามผมและมีเพื่อนยืนยิ้มอยู่ข้างๆ


“อ้อ เราชื่อทอย” ผมยิ้มแห้งๆส่งให้เพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร


“เราท็อปนะ เรียนอยู่ทันตะปีหนึ่ง” มันตัวสูงกว่าผมนิดหน่อยและยืนยิ้มจนตาหยี๋


“โอเค ฮ่ะๆ” ผมทำหัวเราะกลบเกลื่อน


“เราขอไลน์ทอยไว้ได้ไหมอะ” ท็อปยื่นโทรศัพท์ส่งมาให้ผม


“เอ่อ คือ..” จะตอบยังไงดีว่ะ หล่อก็หล่อแต่ผมไม่ได้ชอบเขานี่


“ทอย!” เสียงดุๆกึ่งตะคอกดังขึ้น ไม่ต้องสงสัยเลยครับ...พี่วายุ


พี่วายุในชุดช็อปสีน้ำเงินเข้มและกางเกงยีนส์สีดำปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับสีหน้าดุๆ ทำเอาไอ้ท็อปทำหน้าเหวอ


“นี่..เป็นแฟนกันหรอ” ท็อปหันมาถามผม


“ใช่ รู้แล้วก็อย่ายุ่ง” พี่วายุพูดแทนและเดินมายืนข้างๆผม


“อ๋อ ครับๆ” ท็อปทำท่าเกาหัว


“ส่วนเรา ไปกับพี่” พูดจบพี่วายุก็จับมือผมลากออกจากโรงอาหารทันที


พี่วายุลากมาจนถึงลานจอดรถและยัดผมเข้าไปในรถทันที อะไรจะดุปานนั้น ผมได้แต่เงียบและทำตามคำสั่ง


“พี่วายุ เป็นอะไรรึเปล่าครับ” ผมถามด้วยความซื่อ(บื้อ)


“ก็ทอยอะจะให้ไลน์ผู้ชายคนอื่น มันหล่อกว่าพี่ตรงไหน!”


“ยังไม่ได้จะให้เลย”


“แต่ทอยเป็นคนปฏิเสธคนไม่ค่อยเก่งอะ”


“พี่วายุ...หึงหรอครับ?” ผมทำหน้างง


“นี่! พึ่งรู้หรอว่าพี่หึงเราน่ะ” พี่วายุทึงหัว


“ครับ” ผมก้มหน้าลงต่ำ


“พอเลย ไม่ต้องมาเลยนะโรงอาหารกลางเนี่ยคนพลุกพล่านอันตราย”


“ขนาดนั้นเลยหรอครับ”


“ก็ดูหน้าทอยดิ หวานขนาดนี้ใครๆเห็นก็..ชอบ”


“...” ผมรู้สึกร้อนๆและหน้าแดงแหะ


“เดี๋ยวพี่พาไปกินร้านอื่น แต่ก่อนอื่นตกลงยอมเป็นแฟนกับพี่ก่อน” อ้าว ผมโดนบังคับซะงั้น


“ผมหิวข้าวแล้ว” ผมต้องรีบเปลี่ยนเรื่อง


“ทอย พี่บังคับขนาดนี้แล้วนะ” พี่วายุทำหน้าเข้ม “ตกลงยังไง พี่จะได้มีสิทธ์หึงเต็มที่”


“ให้เวลาน้อยจัง”


“พี่จีบทอยนานแล้วนะ” พี่วายุเริ่มทำหน้าตาออดอ้อน


“พี่วายุต้องสัญญากับทอยก่อนว่าจะไม่นอกใจ เพราะหน้าตาแบบพี่วายุแค่ส่งสายตาสาวก็วิ่งเข้าหาแล้ว” ผมเบะปาก


“พี่สัญญา!” พี่วายุตอบแทบจะทันที “พี่ไม่ได้มองผู้หญิงคนอื่นมานานแล้วนะ ถึงทอยจะชื่อทอยแต่พี่ก็ไม่เคยคิดว่าทอยเป็นของเล่นสำหรับพี่นะ”


“...” ผมนี่เงียบเลยครับ หน้าคงแดงมากๆ


“ตกลงแล้วใช่ปะ” พี่วายุยื่นหน้ามายิ้ม


“อื้อ”


“ว่าไงนะ” พี่วายุเริ่มเลื่อนหน้ามาใกล้ผมอีก


“อื้มมม”


“ตอบดีๆ” ตอนนี้จมูกเราชนกันแล้ว ผมหลับตาปี๋


“ครับ เป็นแฟนพี่วายุครับ” ผมพูดจบปุ๊บริมฝีปากพี่วายุก็เข้ามาชนกับริมฝีปากผมปั๊บ


“นี่คือค่าหึงสำหรับเมื่อกี้” พี่วายุหันไปสตาร์ทรถและขับออกไปทันที


ตั้งแต่วันที่ผมตกลงเป็นแฟนกับพี่วายุ พี่วายุก็ดูแลผมดีมาตลอด ไปรับทานข้าว บางวันผมก็ขึ้นไปนอนกับพี่วายุ พี่วายุเริ่มหวงผมขึ้นมากๆๆๆถึงมากที่สุด ไม่รู้จะขี้หึงไปไหน ขนาดผมแค่โทรคุยกับกรกันต์เรื่องรายงานรายรับรายจ่ายบัญชีนานเกินครึ่งชั่วโมง ยังเกือบจะโวยวาย


“ทอยรออยู่หน้าร้านก็ได้” พี่วายุเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินเข้าร้านวัสดุอุปกรณ์หน้าปากซอยคอนโดพวกผมเพื่อไปทำโมเดลเหมืองแร่อะไรของเขาก็ไม่รู้


“ทอยปะ” มีผู้ชายลักษณะสูงและตี๋เหมือนคนจีนทักผม


“ใช่ครับ”


“เรากิตนะ อยู่นิติปี1อะ ถ้าจะถามเรารู้จักทอยได้ไง เราเคยเห็นทอยได้ลงทวิตของมหาลัยอะ ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปเยอะเลย”


“อ๋อ เราได้ลงรูปตอนไหนยังไม่รู้ตัวเลยอะ” ผมยิ้มตอบ


“ดังอยู่นะทอยอะ”


“ดังอะไรล่ะ มั่วแล้ว”


ฟึ่บ
อยู่ๆวงแขนของพี่วายุก็มาโอบไหล่ผมไว้

“คุยไรกันครับ” พี่วายุหันหน้ามาถามผม


“เปล่าครับ แค่ทำความรู้จักเฉยๆ”


“แค่ทำความรู้จักกันก็พอเนาะ ไม่ต้องมาสานต่ออะไรต่อ” ทีนี้พี่วายุหันไปมองกิต


“งั้นเราไปก่อนนะทอย” กิตโบกมือบ๊ายบายก่อนเดินไป


“กลับห้อง” พี่วายุทำเสียงดุอีกครั้ง


“เป็นอะไรอีกเล่า”


“หึง” เชรดดดดด ตรงไปป่าว


“เค้าแค่มาทักเอง แบบรู้จักทอยจากทวิตเตอร์มอเรา”


“ก็พี่หึงอะ พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าใครเห็นทอยก็ต้องชอบทอยอะ”


พอถึงห้องพี่วายุก็วางของและเดินมานั่งข้างๆผมและจับมือผมไว้


“พี่ไม่เคยหึงใครเท่าทอยเลยรู้ไหม พี่แค่กลัวทอยซื่อๆแล้วหลงเชื่อคนง่ายอะ”


“แต่ทอยไม่ได้ไปตามเค้าง่ายขนาดนั้นนะครับ ทอยก็..เอ่อ..รักพี่วายุคนเดียวอะ” พี่วายุทำหน้าหลุด


“เห้ย ทอยบอกรักพี่!!” พี่วายุทำท่าตื่นตกใจ


“ไม่บอกรักทอยบ้างหรอ” ผมทำอ้อน


“ทอยอย่าทำหน้าแบบนั้นดิ พี่มีอารมณ์นะ” เย้ยยยยย อารมณ์อะไรฟ้ะ


“เอ่อ..” ผมแทบจะหน้าแดง


“พี่รักและหวงทอยมากนะครับ ไม่อยากให้ใครมายุ่งด้วย ไหนลองทำหน้าอ้อนใหม่สิ”


“ไม่แล้ว”


“ทำ!”


ผมก็ต้องยอมทำหน้าอ้อนอีกครั้ง พอทำพี่วายุก็เข้ามาจูบผมแบบดูดดื่มทันทีแทบไม่ได้ตั้งตัว ตอนแรกกะจะไม่เล่นด้วยแต่ลีลาการจูบของพี่วายุทำเอาผมเคลิ้ม ตัวผมแทบซีด

เราจูบกันอยู่นานมาก มือของพี่วายุเริ่มไม่อยู่สุข เริ่มถกเสื้อผมขึ้น ในที่สุดก็ถอดเสื้อผมได้สำเร็จ พี่วายุผละออกเพื่อถอดเสื้อของตัวเองแป๊บนึงก่อนจะก้มลงมาจูบผมใหม่


“พี่รักทอยนะ พี่ขอจองไว้เลยแล้วกัน” พี่วายุมองหน้าผมแล้วพูด


หลังจากนั้นก็เริ่มไหลมาไซร้คอผม ดูดจนเป็นรอยแดงที่พี่วายุฝากรักไว้ ผมหันมามองอีกทีตัวเองก็โป๊แล้ว เสื้อผ้าหลุดออกไปหมดตอนหนายยย!!


พี่วายุเอื้อมไปเปิดลิ้นชักและหยิบ..ถุงยางออกมา!! หลังจากนั้นพี่วายุก็ทำอย่างว่ากับผมสำเร็จจนได้




จบบริบูรณ์





 :mew1: :mew4:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
จบฟ้่าผ่า...  :dont2: :a5: o22

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด