กับดักพิศวาส
ตอนที่15
“พี่แดนหิวหรือยังครับ” ขนมถามพลางไล่ตามอกแกร่งของอีกฝ่ายเล่น
“หิวอะไรละ” แดนไทก้มหน้าลงมองขนมอย่างเจ้าเล่ห์ ขนมหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมช้อนหน้าขึ้นด้วยรอยยิ้มหวาน
“หิวข้าวสิ กินขนมไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“หึหึ” แดนไทจับขนมมาฟัดให้สมใจ จนขนมต้องร้องห้าม
“พอแล้วพี่แดน เดี๋ยวก็ไม่ได้กินข้าวกันพอดี” ขนมผลักอกอีกฝ่ายออกเบาๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะเริ่มเกมส์กามอีกครั้ง
“ก็ไม่ต้องกินสิ” แดนไทกระซิบเสียงกระเซ่า ขนมได้แต่ยิ้มหวานให้อีกฝ่าย เขาไม่รู้สึกหวาบหวามไม่น้อย แต่ก็ต้องหยุด
“พอเถอะครับ ขนมหิวแล้ว” ขนมขัดขึ้นพร้อมพยายามลุกขึ้นหนี
แดนไทเห็นท่าทีของอีกฝ่ายก็ไม่ได้ห้าม
“พี่แดนอยากกินอะไรครับ” ขนมถามพร้อมแต่งตัวไปด้วย
“อะไรก็ได้ง่ายๆ” แดนไทตอยแต่สายตายังจ้องอีกฝ่ายไม่หยุด ทำไมนะ เขารู้สึกว่าขนมเซ็กซี่ขึ้นทุกวัน ทั้งๆที่ตอนแรกเขามองอีกฝ่ายเป็นแค่เด็กแว่นดูแก่เรียนคนนึง
“ได้ครับ” ขนมหันมายิ้มหวานให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ความสัมพันธ์ของเขาและแดนไทเป็นแบบนี้มาได้เกือบ4เดือนแล้ว ทั้งคู่ไม่เคยต้องการอะไรไปมากกว่าหลังเรียนมาเจอกัน มีอะไรกัน ทำกับข้าวกินด้วยกัน เพิ่งจะมาเพิ่มในช่วงหลังคือเขามาค้างห้องแดนไทมากขึ้น
หลังจากทานอาหารเสร็จแดนไทถามขึ้นเมื่อเห็นว่าขนมกำลังเตรียมตัวเก็บของกลับ
“คืนนี้ไม่ค้างที่นี้เหรอ พรุ่งนี้ปิดเทอมแล้วนิ”
“ไม่ดีกว่าครับ พรุ่งนี้ขนมต้องพายายไปหาหมอ”
“ยายนายเป็นอะไร” แดนไทถามอีกขึ้น เขาไม่ได้วางใจเรื่องบ้านขนมไป แต่เพียงช่วงนี้เขากำลังลุ่มหลงอีกฝ่าย แต่เมื่อมีประเด็นมาให้ฉุกคิด เขาก็อยากรู้ในเรื่องที่เคยคาใจ
“ยายเป็นโรคเบาหวานตามประสาคนแก่นะครับ” ขนมตอบพร้อมเดินมานั่งใกล้อีกฝ่าย
“มีอะไรให้ฉันช่วยไหม” แดนไทถามคิด ส่วนหนึ่งก็เป็นห่วง ส่วนหนึ่งก็อยากรู้เรื่องอีกฝ่ายมากกว่านี้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” ขนมตอบด้วยรอยยิ้มแม้ว่าภายในใจอยากจะบอกว่าได้รับความหวังดีมาจากแม่ของแดนไทเยอะแล้ว
“พรุ่งนี้ฉันรับไปส่งที่โรงพยาบาลมั้ย”
ขนมชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะพยายามยิ้มหวนเหมือนเดิม เขารู้สึกแปลกๆเหมือนแดนไทพยายามเข้าใจเขามาขึ้น ทำไม เพื่ออะไร
“ไม่เป็นไรครับ ขนมไปกับยายเองได้”
“โอเค” แดนไทพยักหน้าเข้าใจ เขายังไม่อยากตื้ออีกฝ่ายไปมากกว่านี้ เดี๋ยวอีกฝ่ายจะตื่น
“ขนมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ขนมพูดจบลุกขึ้นยืนทันที
“เดี๋ยวฉันไปส่ง” แดนไทพูดจบลกขึ้นหยิบกุญแจไม่รอให้ขนมตอบ
ขนมมองอีกฝ่ายแล้วยิ้มมุมปาก เป็นห่วงหรือไง
แดนไทเดินตามอีกฝ่ายออกจากคอนโด เขามองแผ่นหลังขนมแล้วคิด ส่วนหนึ่งทีเขาชอบอีกฝ่ายและยุ่งกับอีกฝ่ายได้นานขนาดนี้เพราะขนมไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเขา ไม่เคยงี่เง่าให้ไปรับไปส่ง บางทีการอยู่กับผู้ชายด้วยกันมันก็เข้าใจกันมากกว่าผู้หญิงแบบนี้นี่เอง
“ยายนายทำงานอะไรเหรอ” แดนไทชวนคุยขึ้นเมื่อรถออกตัว
ขนมมองแดนไทเล็กน้อยก่อนยกยิ้มในใจ แดนไทมาแปลกกว่าทุกวัน ทำไมวันนี้ถึงมาซักไซ้เรื่องส่วนตัวของเขา ต้องการอะไร
“ยายเกษียณอยู่บ้านเฉยๆครับ”
“แบบนี้นายใช้จ่ายพอเหรอ”
“พอครับ มีเงินเก็บของยายอยู่บ้าง เงินเก็บของขนมอยูบ้างก็ไม่ได้ขัดสนอะไร”
“ถ้าเธอมีปัญหาเรื่องเงิน ปรึกษาฉันได้นะ” แดนไทเหลือบมองขนมเล็กน้อย มีทั้งความเป็นห่วงอยากรู้ อยากช่วยเหลือ
“แหม๋ จะเป็นเสี่ยเลี้ยงขนมรึไง” ขนมพูดพลางกอดแขนอีกฝ่ายไว้อย่างออดอ้อน
“หึหึ อยากเป็นอิหนูมั้ยละ”
“อื้ม ป๋าจะให้หนูเท่าไหร่ละ” ขนมพูดพร้อมหยอกเย้าอีกฝ่าย
“เงินละหมื่นสองหมื่น ขนหน้าแข้งฉันไม่ร่วงหรอก”
“ฮ่าๆ ใช่สิ ลูกชายคนเล็กของตระกูลดังอย่างสิทธิวัฒน์ ขนหน้าแข้งไม่ร่วงอยู่แล้ว” ขนมพูดพร้อมมองไปตามทางด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากเดิม
“รู้งี้แล้วยังอยากเป็นมั้ยละ”
“แล้วแต่ป๋าจะกรุณาเลยครับ” ขนมตอบพร้อมกระซิบอีกฝ่ายเบาๆ
“มีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกได้นะ” แดนไทยังย้ำคำเดิมเมื่อถึงหน้าบ้านอีกฝ่าย
“ครับป๋า” ขนมตอบเสียงยั่วเย้าก่อนเข้าไปคล้องคออีกฝ่ายไว้ “มีป๋าทั้งหล่อ ใจดี สปอร์ตแบบนี้ ขนมนี่โชคดีจริงๆ”
“หึ ถ้าอยากโชคดีนานๆก็เป็นเด็กดีละ” แดนไทตอบพร้อมลูบหลังอีกฝ่ายเบาๆ
“เป็นเด็กดีอยู่แล้วครับ” ขนมตอบพร้อมจูบอีกฝ่ายเบาๆ
แต่แดนไทกลับจับอีกฝ่ายให้บดจูบรุนแรงมากขึ้น
“อื้อออ” ขนมขืนตัวออกจากอีกฝ่าย “พี่แดนหยุดเลย หื่นจริงๆ”
“เพราะใครกันละ” แดนไทตอบด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาทำเอาขนมอดที่จะเขินไม่ได้
“โทษขนมได้ไงกันเล่า” ขนมตอบพร้อมก้มหน้าเอียงอาย
“ขนมไปแล้วนะครับ” ขนมพูดต่อพร้อมเดินออกจากรถไป
แดนไทมองขนมที่เข้าไปบ้านไปจนลับสายตา ขนมอย่างนายนี่เป็นขนมอะไร ยิ่งกินยิ่งติดใจ ไม่อยากอยู่ห่างเลย
ขนมเข้าห้องนอนมาแล้วล้มตัวลงนอนทันที เขารู้สึกเหนื่อยและหนักใจ แดนไทเริ่มสนใจในตัวเขามากเกินไป เขาไม่ต้องการอย่างนั้น ไม่อยากให้อีกฝ่ายมายุ่งย่ามกับเรื่องส่วนตัวของเขามากเกินไป หรือแดนไทจะเริ่มรู้สึกชอบเขา
ชนมคิดอย่างนั้นแล้วกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจ เขาต้องรีบเดินหน้า จะมาชักหน้ามัวเมาหลงในรสกามของอีกฝ่ายไม่ได้แล้ว ก่อนที่จะไม่ทันการณ์ก่อนที่แดนไทจะสืบเรื่องของเขา เพราะเขามั่นใจว่าแดนไทไม่หยุดแค่นี้แน่ๆ
“เฮ้ยยย ไม่อยากจะเชื่อว่าวันนี้จะเจอคุณชายแดน” เสียงแซวเขาดังขึ้นทันทีที่เขาเข้าบ้าน แดนไทส่ายหน้าเบาๆกับท่าทีของพี่ชายคนรองของตน
“อย่าเวอร์พี่ดอน”
“อย่าไปแซวน้องสิตาดอน” คุณหญิงเด่นดวงเดินเข้าไปกอดลูกชายคนเล็กอย่างคิดถึง
“แม่คิดถึงแดนมากเลยลูก ช่วงนี้ไม่ค่อยกลับบ้านเลย ถ้าไม่ปิดเทอมคงไม่กลับใช่มั้ย”
“แดนยุ่งๆเรื่องโปรเจ็คนะครับ จะจบแล้ว ไม่ค่อยว่างเลยครับ” โปรเจ็คก็ส่วนนึง ส่วนนึงก็เพราะขนม
“จริงรึเปล่า ไม่ใช่ไปติดสาวที่ไหน” ดอนยังแซวน้องชายไม่เลิก
“พอเลยตาดอน น้องจะไปติดสาวที่ไหนละ” คุณหญิงเด่นดวงพูดขึ้น ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าแดนไทเลิกกับนังเด็กคนนั้นแล้ว ช่วงนี้แดนไทก็ไม่ออกไปเที่ยวไหน เรียนเสร็จกลับห้อง เขาก็สบายใจ เลิกให้คนตามลูกชายคนเล็ก
แดนไทได้แต่ยิ้มน้อยๆไม่พูดอะไร ใช่เขาไม่ติดสาว แต่ติดหนุ่มตังหาก
“ตั้งแต่แกเลิกกับน้องฟ้าแกก็ดูเงียบๆไปนะ” ดอนถามน้องชายขึ้นเมื่ออีกฝ่ายนั่งลง
“ผมยุ่งๆนะพี่ ไม่มีเวลาคิดเรื่องนั้นหรอก” แดนไทพูดปัดไป
“ดีแล้วลูก เรียนให้จบก่อน ส่วนเรื่องความรัก ไม่ต้องรีบ” คุณหญิงเด่นดวงพูดขึ้นอย่างพอใจพร้อมนั่งใกล้ลูกชาย
“แม่ก็นั่งไม่ห่างไอ้แดนเลยนะ คิดถึงลูกชายสุดที่รักขนาดนั้นเลย” ดิน พี่ชายคนโตของแดนไทพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้เมื่อเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น
“พอเลยตาดิน เราก็เหมือนกัน ไม่ค่อยกลับมาบ้านเลย”
“ผมงานที่บริษัทเยอะนะครับ” ดินตอบตามแบบฉบับของตนเอง ใครๆก็บอกว่าดินเหมือนพ่อทุกอย่าง ทั้งรูปร่าง หน้าตา และนิสัย
“เราละตาดอน เรียนจบก็นานแล้ว เมื่อไหร่จะไปช่วยงานที่บริษัทสักที เลิกลอยไปลยมาแล้ว” คุณหญิงหันไปเอ็นลูกชายคนกลางที่ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป ขายภาพมากกว่ามาช่วยงานที่บริษัท
“ผมยังไม่พร้อม” ใบหน้าล่อคมของดอนหน้าบู้อย่างขัดใจ
“เมื่อไหร่แกจะพร้อมสักที น้องก็จะเรียนจบมาอีกคนแล้วนะ”
ดอนทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจ แต่ในใจเขากลับคิด ใครจะรู้ว่าคนสบาย ลอยไปลอยมาอย่างเขาจะคิดมากกว่าที่ใครคิด ลูกคนกลางอย่างเขาถูกเปรียบเทียบกับพี่ชายที่แสนเพอร์เฟ็คมาตลอด แล้วตอนนี้ยังต้องมาถูกเปรียบเทียบกับน้องชาย
พอเถอะครับแม่ ไปกินข้าวกันดีกว่า” แดนไทห้ามทัพเมื่อเห็นว่แม่เขาจะใส่ต่อ
ดินมองภาพตรงหน้าก่อนจะส่ายหน้าไปมา ก่อนจะลุกขึ้นไปในห้องอาหารทันที
บนโต๊ะอาหารมีประมุขของบ้านนั่งตรงกลาง คือคุณพล สิทธิวัฒน์ ที่เพิ่งลงมาจากห้องทำงานของตน
“เป็นไงบ้างตาแดน เรียนใกล้จบแล้ว”
“ก็ดีครับพ่อ” แดนไทยิ้มน้อยๆให้พ่อตัวเอง
“จบแล้วมาช่วยงานพี่แกด้วยละ”
แดนไทได้แต่ยิ้มไม่ตอบอะไร ส่วนดอนที่นั่งไม่ไกลนักรู้สึกว่ารสชาติอาหารจืดลงอย่างบอกไม่ถูก
“แกละตาดอน เมื่อไหร่จะเลิกเที่ยว”
“อีกไม่นานนี่แหล่ะมั้งครับ” ดอนพูดยียวนตามแบบตัวเอง ทำเองคนเป็นพ่อหัวเราะออกมาเบาๆอย่างไม่ถือสา
“ตอบดีดีสิตาดอน” คุณหญิงเด่นดวงอดที่จะเอ็ดไม่ได้
“พี่กรครับ แดนมีอะไรให้ช่วยหน่อย” แดนไทถามเลขาของพ่อเขาขึ้นหลังจากกินข้าวเสร็จ
“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณแดน”
“พี่กรช่วยสืบประวัติเด็กคนนึงให้หน่อย”
“ใครครับ”
“ภคณัท เอรางกูร ชื่อเล่นขนม” แดนไทพูดพร้อมส่งรูปขนมให้แล้วกระตุกยิ้มร้าย
“ได้ครับ” กรรับคำ แม้เขาจะแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอีกฝ่ายไป
“ผมขอเร็วที่สุดนะครับ”
แดนไทพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไป
ดอนที่ยืนอยู่ไม่ไกลรู้สึกแปลกใจ เขาได้ยินทุกอย่าง น้องชายเขากำลังจะสืบเรื่องใคร แล้วเด็กคนนั้นเป็นใคร ชื่อขนมเหรอ
“อาการยายเป็นไงบ้างครับ” ขนมถามยายขึ้นเมื่ออกจากห้องตรวจ
“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงลูก น้ำตาลก็ลดลง” ยายตอบด้วยรอยยิ้ม
“ยายของขนมแข็งแรงอยู่แล้ว” ขนมตอบพร้อมกอดยายเต็มแรง
“เด็กคนนี้นี่ ไม่อายรึไง” ยายตอบด้วยรอยยิ้ม เธอลูบหัวหลานชายเบาๆ
“จะอายอะไรครับ ขนมมียายอยู่คนเดียวนี้” ขนมตอบด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ไร้การปรุงแต่ง
“ขนมลูก ยายถามอะไรหน่อยได้มั้ย” ยายแก้วถามพลางลูบหน้าหลานชาย
“ได้ครับ”
“ขนมเป็นแฟนกับคนที่มาส่งขนมที่บ้านบ่อยๆหรือเปล่าลูก” ยายแก้วถามด้วยความห่วงใย ช่วงนี้เธอไม่ค่อยมีเวลาคุยกับหลานชาย เมื่อมีโอกาสก็อยากจะถาม
“ไม่ใช่หรอกครับ” ขนมชะงักเล็กน้อยแต่ก็พยายามนิ่งไว้
“ยายไม่อยากให้ขนมยุ่งกับคนรวย” ยายแก้วพูดออกมาตรงๆ ถึงเธอจะแก่ แต่เธอก็รู้ได้ว่ารถที่มาส่งบ่อยๆนั้นมีราคาแพงแค่ไหน
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ” ขนมพยายามยิ้มให้ยายสบายใจ
“ยายพูดตรงๆนะ ยายไม่อยากให้เราเจอเหมือนแม่”
“ยายไม่ต้องห่วงนะครับ ขนมไม่มีวันจะมีอ่อนแอเหมือนแม่เด็ดขาด” ขนมพูดจบเขาสวมกอดยายแน่น แววตาเขาเหมือนไฟที่กำลังลุกโชนพร้อมแผดเผาทุกอย่าง
___________________________________________________
มาต่อแล้วครับ เปิดตัวครอบครัวแดนไท และแดนไทกำลังสืบเรื่องของขนม
งานนี้ใครจะเดินเกมส์ไวกว่ากัน สนุกแน่
ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ