นักดนตรีหนุ่มใส่หมวกพร้อมขาตั้งไมค์ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น แม๊กซ์จับจูงมือผมไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา
เพลงที่ดังอยู่คุ้นหูมาก...
แม๊กซ์โค้งตัวลง ถามเสียงทุ้ม "Shall we dance ?"
ผมอยากแทรกแผ่นดินหนี สงสัยอยู่พอดีว่านักดนตรีมาทำไม
มิน่าล่ะเขาถึงส่งดอก Viscaria มา แถมยังมีการ์ดที่ทำจากใบปิดหนังอีก ผมนึกว่าเขาจำได้ว่าผมชอบริชาร์ด เกียร์เสียอีก
แม๊กซ์โค้งตัวรอ ผมสับสน ไม่ใช่เรื่องจะตอบรับหรือเปล่าแบบสาวน้อยในหนังหรอก แต่ไม่รู้ว่าจะโค้งตอบหรือถอนสายบัวดี ผมเป็นเกย์ก็จริงแต่เป็นผู้ชาย
"เจ้าหญิง..." เสียงเรียกนุ่มๆ ทำให้ผมตัดสินใจได้...
...ถอนสายบัว!
เอาเถอะนะ ถวายบัวก็ทำมาแล้ว ถอนสายบัวน่าอายน้อยกว่าเยอะ แถมที่นี่ก็ไม่มีใครอื่น บ้านก็บ้านผม ผัวก็ผัวผม จะสาวนิดสาวแตกก็ช่างมันเถอะ
แม๊กซ์ยืดตัวขึ้น ยิ้มถูกใจ จับมือผมไว้แล้วโอบแน่น
ผมเต้นจังหวะวอลซ์เป็น ก็เพราะต้องออกงานกับเขานั่นแหละ แต่จะเอามากกว่านี้ไม่ได้ ผมไม่ใช่เจนนิเฟอร์ โลเปซจะได้แทงโก้เกาะเกี่ยวร่างกายบึกบึน
"ทำตัวสบายๆ แบบเต้นในงานพรอมไง" เขาโอบแผ่นหลัง กระชับแน่น ท่าทางจะไม่พาผมไปจังหวะรุมบ้า ว่าแต่จังหวะรุมบ้ามันมีใช่ไหม
จะเรียกว่าเต้นก็ยาก ผมไม่เคยไปพรอม เขาคงรู้ตัว เสริมเบาๆ "เหมือนที่คุณดูในหนังแวมไพร์หน้าซีดๆ ก็ได้"
ผมขำ หนังรักโรแมนติกของผมเขาดูไม่จบสักเรื่อง แวมไพร์หน้าซีดที่ว่าก็เรื่องทไวไลท์ แม๊กซ์มาตื่นเอาตอนฉากสุดท้ายที่เบลลาเต้นรำกับเอ็ดเวิร์ด
เพลงที่เล่นสดเป็นเพลงจังหวะกลางๆ ผมคิดว่านักดนตรีคงเร่งจังหวะให้เข้ากับการเต้นรำ
เราสองคนแค่โอบกอดกัน ขยับตัวไปตามเพลงตามใจชอบเท่านั้นเอง
มันรู้สึกดีมากๆ เลยนะ
'Well, you done done me and you bet I felt it
I tried to be chill but your so hot that I melted'เพลงนี้ที่ผมชอบ...
ไม่ว่าจะอะไรในชีวิตผม แม๊กซ์จำได้หมด
'I fell right through the cracks, now I’m tryin to get back
before the cool done run out I’ll be givin it my best test'อบอุ่นจัง... ลูกในท้องผมคงมีความสุขไปด้วย เรากอดกัน ยิ้มให้กัน แล้วก็จูบกัน...
...จนดนตรีจบลง ผมไม่ใช่ซินเดอเรลลา แม๊กซ์ไม่ใช่เจ้าชาย เราไม่ต้องเร่งรีบไปไหน จนนักดนตรีเก็บข้าวของออกไปแล้ว พนักงานทั้งหมดก็กลับออกไป ทั้งบ้านเหลือเราเพียงสองคน ผมยังจำโน้ตตัวสุดท้ายที่ก้องกังวาลได้ มันลอยอ้อยอิ่งอยู่ในห้อง
ผมยิ้ม เขายิ้ม
ร่างสูงใหญ่ก้มลงเพื่ออุ้มผมขึ้น รวบบั้นท้ายอยู่บนท่อนแขน ท่านี้ผมจึงอยู่สูงกว่าเขา เห็นโลกในมุมมองคนตัวสูงบ้าง แม๊กซ์โน้มตัวมาจูบพุงกลมๆ
"น่ารักจัง"
ผมหัวเราะ ใช้สองมือประคองใบหน้าคมคาย
เบลล่ามีเอ็ดเวิร์ด
บียอนเซ่มีเจย์ซี
อลิซาเบธมีมิสเตอร์ดาร์ชี
จูเลียตมีโรมิโอ
แคร์รีมีมิสเตอร์บิ๊กแต่ผมโชคดีกว่าพวกเขา โชคดีกว่าใครบนโลก
โน้มตัวลง ผมเคี้ยวใบมิ้นต์ที่ประดับบนไอศกรีมมาแล้ว ไม่ต้องกลัวกลิ่นกระเทียม จึงทาบริมฝีปากลงบนริมฝีปากเขาได้อย่างมั่นใจ
"รักนะ... ที่รักของข้าว"
ที่รักของผมจูบตอบกลับมา "ผมอยากหยุดเวลาไว้จัง..."
"อย่าเลย... แค่เราอยู่ด้วยกันทุกๆ วันก็โรแมนติกแล้ว" ผมยิ้มกับริมฝีปากเขา แม๊กซ์หัวเราะ
"ผมบอกคุณหรือยัง ว่าผมรักคุณมาก..."
ผมยิ้ม ยิ้มจนแก้มจะแตก "ยังเลย... ฉันขี้ลืมนะ บอกฉันบ่อยๆ"
เขาบดจูบ ผมกอดคอเขาแน่น "รักคุณครับ... รักคุณ ข้าวของผม เจ้าหญิงของผม... มามิ๊ของผม"
"ฉันเป็นของเธอ... ของแม๊กซ์คนเดียว รักนะครับ... แด๊ดดี้" ผมตอบด้วยเสียงนุ่มพอกัน
...ข้าวก็มีแม๊กซิมัส"ว่าแต่... คุกกี้อร่อยไหมเจ้าหญิง ?" ลูกตาวาวๆ ระยิบระยับอย่างล้อเลียน ผมหัวเราะ ก้มลงดูเขา
"อร่อยสิ ชิมไหม ?"
"ไม่เชื่อ" เขาจูบผมอีก "ไม่ค่อยได้รสชาติ... ขออีกที"
เราจูบกันอีกครั้ง แม๊กซ์เริ่มเต้นรำทั้งๆ ที่ยังอุ้มผมอยู่ ทั้งๆ ที่ปราศจากเสียงเพลงหรือท่วงทำนองใดๆ ทั้งๆ ที่สองเท้าเราเปลือยเปล่า
...ข้าวคนนี้มีแม๊กซิมัสล่ะต่อให้อิจฉาให้ตายยังไง ผมก็ไม่ยกเขาให้ใครหน้าไหนบนโลกหรอก จงดิ้นพราดๆ ด้วยความอิจฉาไปเถอะ
"รักนะ"
"รักคุณครับมามิ๊"
..........................................
โอ๊ยย หมั่นไส้ อะไรจะรักผัวขนาดนี้ นังแม๊กซ์อะไรจะโรแมนติกขนาดเน้
ตอนนี้มี hidden issue เรื่อง DV เบาๆ ค่ะ ในมุมมองข้าวกับมุมมองแม๊กซ์จะมองต่างกัน เช่นเรื่องเซ็กส์กับร่วมรัก ข้าวจะอ่อนไหวกว่า เพราะเป็นเกย์สาว ส่วนแม๊กซ์คิดว่ามันแค่คือ synonym ส่วนมุมมองความรักของทั้งคู่ก็ค่อนข้างต่างกัน เพราะแม๊กซ์เป็นชายแท้และยังเด็ก ส่วนข้าวแก่กว่าและเป็นเกย์ เพราะมีความรักดีๆ เลยพยายามยื้อไว้สุดชีวิตน่ะค่ะ
เรื่องนี้พอมีสาระไหมเนี่ย 555 ขอบคุณมากนะคะ