ตอนที่ 19 : พูดดีๆ ไม่ฟังก็ต้องฉุด
[บีทส์]
“สวัสดีครับคุณนาย” ผมเดินเข้ามาสวมกอดแม่จากทางด้านหลัง แล้วเอ่ยทักทายผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด แม่สะดุ้งเอี้ยวตัวมาหาผม
“แม่ตกใจหมดเลย อ้าว…ตาไม้ มาด้วยเหรอเรา” แม่หันมาตีแขนผมเบาๆ ก่อนจะหันไปเอ่ยทักทายพี่ไม้ที่ยืนยิ้มอยู่ข้างหลัง
“สวัสดีครับคุณน้า สบายดีไหมครับ” พี่ไม้ยกมือไหว้แม่ผม ก่อนจะเอ่ยทักยิ้มๆ พร้อมกับเดินเอาของฝากไปวางไว้ที่โต๊ะอาหาร
“สบายดีจ้า หิ้วอะไรมาเยอะแยะน่ะ” แม่ตอบรับ ก่อนจะเอ่ยแซ็วพี่ไม้ ผมก็เห็นด้วยกับคุณนายเขานะครับ ก็พี่ไม้น่ะสิ พาผมแวะซื้อของที่ห้าง ผมบอกว่าไม่ต้องๆ พี่มันก็ไม่ฟัง บอกว่าจะไปเยี่ยมแม่ผมมือเปล่าได้ยังไง น่าเกลียดแย่ ผมเลยได้แต่ยอมๆ
“ของคนข้างๆ คุณน้านั่นแหละครับ ไม่รู้ไปอดยากมาจากที่ไหน” พี่ไม้ตอบแม่แล้วหันมายิ้มล้อผม แหะๆ ทีแรกก็อิดออดว่าไม่เอานั่นแหละครับ แต่พอเห็นของกินปุ๊บ ไอ้นั่นก็น่ากิน ไอ้นี่ก็น่ากิน เผลอแป๊บเดียวพี่ไม้ได้ของเต็มมือเลย ไม่ได้ตั้งใจเลยจริงจริ๊ง!!
“ไปรบกวนพี่เขาอีกแล้ว” แม่เอ็ดเบาๆ ผมทำปากยื่น
“บีทส์เปล่าซะหน่อย”
“แล้วนี่สอบเมื่อไหร่เรา” แม่หันมาถามผมต่อ ขณะที่พี่ไม้ขยับไปช่วยแม่หยิบนู่นหยิบนี่เรียบร้อยแล้วครับ แม่ะ ช่างเป็นบุคคลที่เพอร์เฟ็คจริงๆ ครับผู้ชายคนนี้
“อาทิตย์หน้าอ่ะคุณนาย นี่บีทส์ก็เริ่มอ่านหนังสือแล้ว อาจจะไม่ค่อยได้กลับบ้านนะช่วงนี้” ผมหันไปตอบ ก่อนจะรีบออกตัวก่อนว่าเริ่มอ่านหนังสือไปก่อนแล้ว เราต้องชิงตอบก่อนที่จะโดนถามนะครับจะได้ไม่รู้สึกผิดมาก
“อืม...แล้วอยากได้อะไรไปตุนไว้ที่หอไหม แม่จะได้เตรียมไว้ให้” แม่พยักหน้ารับ ก่อนจะถามกลับ ผมส่ายหัว
“ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวบีทส์ไปซื้อเองดีกว่า”
“จ้าๆ พ่อลูกชาย อยากได้อะไรก็บอกแม่แล้วกันนะ” แม่ตอบกลับยิ้มๆ ผมพยักหน้ารับก่อนจะยื่นหน้าไปหอมแก้มแม่เบาๆ
“แล้วนี่น้องไปไหนครับ” ผมถามหาน้อง
“มาเช้าแบบนี้ คิดว่าจะตื่นหรือยังล่ะหื้ม” แม่ตอบกลับขำๆ เล่นเอาผมกับพี่ไม้ขำพรืดเลยครับ เจ้าน้องตัวดียังขี้เซาเหมือนเดิม เป็นปกติของไบร์ทน่ะครับถ้าเป็นวันหยุดรายนั้นจะไม่ตื่นจนกว่าจะหิว
“งั้นบีทส์ขึ้นไปหาน้องดีกว่า ฝากด้วยนะครับพี่ไม้” ผมหันไปบอกแม่ ก่อนจะหันไปโยนงานให้พี่ไม้แล้วรีบเผ่นขึ้นชั้นบน พี่ไม้ส่ายหัวขำแต่ก็พยักหน้ารับ น่ารักจริงๆ พี่ชายผม
ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องน้อง ก่อนจะเห็นร่างของน้องที่นอนจมผ้าห่มอยู่ ผมค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ ไบร์ทนอนกอดตุ๊กตาอยู่ครับ แต่เอ...ตัวนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน สงสัยจะได้มาใหม่ ผมส่ายหัว ก่อนจะยื่นมือไปยีหัวเจ้าตัวเบาๆ แล้วเดินเข้าไปเก็บกองเสื้อผ้าและกองสมุดให้เงียบๆ
“อื้อ...” ไบร์ทขยับตัว งัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วหันมามองทางผม
“อ้าวพี่บีทส์มาตั้งแต่เมื่อไหร่” ไบร์ททัก ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวพิงกับผนักเตียงเอาตุ๊กตามากอดแนบอก แม่ะ อยากให้พี่หมอมาเห็นสภาพตอนนี้จริงๆ น่าฟัดโคตร
“มาสักพักแล้ว พี่ไม้ก็มาด้วย ช่วยคุณนายทำกับข้าวอยู่ข้างล่าง ตื่นไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้ลงไปกินข้าวพร้อมกัน” ผมหันไปตอบก่อนจะเก็บตะกร้าเสื้อผ้าให้เข้าที่ ปกติมันอยู่หน้าห้องน้ำนะครับ แต่ตอนที่ผมเดินเข้ามามันดันย้ายตัวเองมาอยู่ตรงโต๊ะหนังสือน้องเฉยเลย แม่งมีล้อปะวะเนี่ย
“โอเคๆ เอ๊ะ...คอไปโดนอะไรกัดมาอ่ะดูดิเป็นรอยแดงเลย ไหนมาให้ไบร์ทดูใกล้ๆ ดิ๊” น้องร้องทักในจังหวะที่ผมก้มหยิบหนังสือรถที่หล่นอยู่ข้างเตียง
“อ๋อ...น่าจะรอยยุงกัดอ่ะ พอดีว่าเมื่อวานมีงานกีฬาสีที่มหาลัย กว่าจะเสร็จงานก็ดึกแล้ว ยุงมันเยอะ” ผมแถข้างๆ คูๆ ใช้มือเกาไปด้วย
ยุงยักษ์ซะด้วยสิ...
“แล้วทายายัง เดี๋ยวก็เป็นรอยหรอก” ไบร์ทบ่น ก่อนจะค่อยๆ ก้าวลงจากเตียงไปหยิบผ้าขนหนูมาพาดบ่า
“นี่ใส่กางเกงกีฬานอนอีกแล้วเหรอ” ผมถาม เมื่อเห็นกางเกงที่น้องใส่ อื้ม เป็นกางเกงกีฬาที่คาดว่าน่าจะใส่มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ได้ถอด พูดง่ายๆ คือยังไม่อาบน้ำอ่ะครับพี่น้อง
“เมื่อคืนเล่นเกมเพลินอ่ะ กว่าจะเสร็จก็เกือบตีสาม ไอ้หมอ...เอ่อ ไบร์ทหมายถึงพวกไอ้แจ็คไล่ไปนอนซะก่อน แต่ไบร์ทขี้เกียจเลยนอนทั้งแบบนี้” ไบร์ทตอบก่อนจะสะดุดที่เผลอเรียกชื่อใครสักคนออกมา หึๆ พี่หมออีกแล้ว
“ซกหมกแบบนี้เมื่อไหร่จะมีแฟนกับเขาซะที” ผมเอ่ยแซ็วน้องขำๆ ก่อนจะเดินมานั่งที่ปลายเตียง ไบร์ทเดินสวนไปจะเข้าห้องน้ำ น้องหันมาเลิกคิ้ว
“ไม่ต้องห่วงไบร์ทหรอกน่า พี่บีทส์เถอะไปเรียนมหาลัยมีใครมาแจกขนมจีบบ้างรึเปล่า” ไบร์ทมองอย่างจับผิด เล่นเอาผมเกาหัวแกรกๆ เหมือนเดินมาอยู่ดีๆ แล้วโดนเบรกหัวทิ่มอ่ะครับ
“บ้าน่า ใครจะมาชอบพี่กันล่ะ” ผมยกมือขึ้นมาเกาแก้ม ไบร์ทหัวเราะ
“เอาเถ๊อะ ไว้มั่นใจค่อยพามาแนะนำกับไบร์ทก็ได้ แต่เตือนไว้ก่อนเลยนะพี่บีทส์ ถ้าคนไหนที่ไบร์ทบอกว่าไม่โอเค พี่บีทส์ต้องเลิกนะบอกไว้ก่อน” ไบร์ทพูดเสียงจริงจัง ก่อนจะยักคิ้วให้ผมทันทีแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ผมยิ้มแหยๆ อย่างพี่ซันเนี่ยคงจะผ่านหรอกนะ
ผมหลบลงมาข้างล่างก่อนจะช่วยคุณนายกับพี่ไม้จัดโต๊ะ วันนี้มีแต่เมนูโปรดของผมทั้งนั้นเลยครับ ได้ยินเสียงใครแว่วๆ ว่ามีอะไรบ้างที่แกกินแล้วไม่อร่อย ป๊าด ใส่ร้ายป้ายสีกันอย่างร้ายกาจ
“ทานเยอะๆ นะบีทส์ แม่ว่าเราผอมลงนะช่วงนี้ เรียนหนักเหรอลูก” แม่ตักยำลูกชิ้นมาให้ผม แล้วถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง ผมยิ้มแหยๆ ก่อนจะตักกินไปบางส่วน คือจริงๆ ยังอิ่มข้าวต้มอยู่เลยครับ
“นิดหน่อยครับคุณนาย แต่ไม่ต้องห่วงหรอก สอบเสร็จเดี๋ยวบีทส์จะกินให้เป็นหมูเลยดีมั้ยครับ” ผมตอบขำๆ ก้มลงกินข้าวต่อ
“เอาไว้น้องๆ สอบเสร็จแล้วเราปิดบ้านไปเที่ยวกันดีมั้ยครับคุณน้า” พี่ไม้เป็นฝ่ายพูดขึ้น ผม คุณนาย ไบร์ทหันไปมองพี่ไม้ตาเดียว
“หื้ม ไม่ดีเหรอ” พี่ไม้หันมามองผมที ไบร์ทที ผมหันไปสบตากับน้อง ก่อนจะคุยกันผ่านสายตา
“ดี!!/ดี!!” ผมกับไบร์ทตอบออกมาพร้อมกัน พี่ไม้ทำหน้าโล่งอก
“แกล้งพี่นี่หว่า” พี่ไม้โอด ผมกับไบร์ทระเบิดหัวเราะออกมาทันที ก็พี่ไม้โคตรน่าแกล้งเลย
“เอ้า รีบๆ ทานข้าวกันเด็กๆ อย่ามัวแต่คุย” แม่เอ็ดขึ้นเบาๆ พวกเราเลยรีบก้มหน้าทานข้าวแต่ก็ยังมิวายส่งสายตาหากันยิ้มๆ
พอทานข้าวเสร็จพี่ไม้ก็ขอตัวกลับไปทำธุระต่อ แม่เองก็เหมือนกันครับ เห็นบอกว่าวันนี้ต้องไปติดต่อลูกค้า ทั้งๆ ที่เป็นวันหยุด ทั้งบ้านเลยเหลือแค่ผมกับน้องสองคน ไบร์ทนั่งดูทีวีอยู่ชั้นล่างส่วนผมก็ขึ้นมานอนเล่นอยู่ที่ห้องของตัวเอง
ครืด...ครืด…
ผมหันไปมองที่โทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นรายชื่อของคนที่โทรเข้ามา โทรมาทำไมกันนะ
“ครับ” ผมกดรับ
“ทำอะไรอยู่” พี่ซันถามขึ้น ผมขยับไปนอนราบกับเตียง
“นอนครับ” ผมตอบเสียงเรียบ ก่อนจะหยิบโน๊ตบุ๊คมาเปิดเครื่อง
“ทำไมถึงบ้านแล้วไม่โทรบอกกู ไปส่งกันถึงไหน” พี่ซันถามขึ้นอีก ผมเบ๋ปาก ทำไมต้องโทรบอกด้วย
“…” ผมเงียบไม่ตอบ หันไปเล่นเกมแทน
“บีทส์” พี่ซันเรียกย้ำ
“ไม่ใช่ธุระอะไรของพี่นี่ครับ” ผมตอบ
“ยังโกรธอยู่อีกเหรอ”
พี่ซันถามขึ้นเสียงอ่อนลงกว่าเดิม ผมเม้มปาก ถามมาได้เนอะ
“พี่ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ยครับ ผมอยากพักผ่อน” ผมตัดบท
“เฮ้ย มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน เรื่องเมื่อคืนกูขอโทษก็ได้ เมื่อไหร่จะหายโกรธวะ” พี่ซันถามขึ้นอย่างมีอารมณ์ ผมกรอกตาขึ้นฟ้าก่อนจะเค้นยิ้มกับตัวเอง
“พี่ไม่ต้องห่วงหรอกครับว่าผมจะรู้สึกยังไง แค่นี้นะครับ” พูดจบผมก็กดตัดสายไปทันที พี่ซันโทรเข้ามาอีกรอบ ผมกดปิดเครื่องหนีแม่งเลย
ไอ้พี่บ้า!!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ผมงัวเงียลุกขึ้นมาเปิดประตูห้อง หลังจากที่ได้ยินเสียงเคาะอยู่หน้าห้อง เหลือบไปมองนาฬิกา หลับไปนานเหมือนกัน
“อื้อ ว่าไง” ผมเปิดประตูก่อนจะเห็นไบร์ทยืนยิ้มอยู่ตรงหน้า
“อ้าว หลับอยู่เหรอ ไบร์ทนึกว่านั่งทำอะไรอยู่ซะอีก พอดีจะมาชวนไปกินข้าวข้างนอกอ่ะ วันนี้อยากกินอาหารญี่ปุ่น ไปห้างกัน” ไบร์ทเอ่ยชวน ผมเลิกคิ้ว
“คุณนายกลับมาแล้วเหรอ”
“ยัง...ไปกันสองคนนี่แหละ อีกยี่สิบนาทีเจอกันข้างล่างนะ” ไบร์ทตอบก่อนจะนัดเวลา แล้วเจ้าตัวก็วิ่งหายเข้าไปในห้องของตัวเอง ผมส่ายหัวยิ้มๆ แล้วเข้าไปล้างหน้าล้างตาพร้อมกับเปลี่ยนชุดใหม่ลงไปรอน้องข้างล่าง
“ปะ...พี่บีทส์” ผมหันไปหาไบร์ทที่เดินลงบันไดมา น้องใส่เสื้อยืดกับกางเกงผ้าสามส่วนสีเข้ม ส่วนผมก็ใส่คล้ายๆ น้องครับ ช่วงนี้บ้านเราอากาศร้อนไม่สงสารคนเดินดินกินข้าวแกงกันบ้างเลย
“ไปไง” ผมหันไปคว้ากระเป๋าเป้มาสะพายแล้วหันไปถามน้อง
“รถแท็กซี่แล้วกัน วันนี้ร้อนไบร์ทขี้เกียจขึ้นรถเมล์” น้องตอบหน้างอ ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย อีกทั้งวันนี้ก็วันหยุดน่าจะมีคนใช้บริการรถสาธารณะเยอะ
“งั้นปะ”
ผมกับน้องเลยรวมใจกันขึ้นพี่วินแล้วไปโบกพี่แท็กซี่ต่อที่หน้าปากซอย อากาศก็ร้อนมากครับ เล่นเอาเหงื่อไหลไคลย้อยไปตามๆ กัน กว่าจะได้ขึ้นพี่แท็กก็ปาไปครึ่งชั่วโมง ผมก็ไม่เข้าใจนะครับโบกพี่แท็กตั้งหลายคันกว่าจะมีคนใจดีรับเราขึ้นไปด้วย ส่วนใหญ่เห็นว่าระยะทางใกล้ๆ ก็พาลปฏิเสธผู้โดยสารกันหมด
นี่ขนาดไม่มีพี่ม๊อบแล้วนะครับ ยังปฏิเสธกันหน้าตาเฉย บอกจะรีบเอารถไปคืนบ้างล่ะ พี่จะกลับบ้านแต่มันคนละทางกับที่น้องจะไปบ้างล่ะ ฮ่วย! อย่าให้ถอยป้ายแดงมาขับนะบ่องตง!
“โอ๊ะ แป๊บนึงพี่บีทส์” ผมชะงักก่อนจะหันไปเลิกคิ้วให้น้อง ไบร์ทหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดรับ หลังจากที่เรากำลังมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่น
“เออว่าไง” ไบร์ทกดรับ ส่วนโทรศัพท์ของผมเหรอครับ ทุกคนไม่ต้องห่วงครับไม่ได้โดนล้วงหรือหล่นหายไปไหนแต่อย่างใด ตอนนี้กำลังนอนชาร์ตแบตอยู่ในห้องนอนผมนั่นแหละ
“อยู่ห้าง” ไบร์ทตอบปลายสาย ผมเลิกคิ้ว มีโทรเช็คกันด้วย
“ไม่ต้อง! เข้าเวรไม่ใช่ไง๊ อย่าลืมนะว่าเราตกลงอะไรกันไว้ โอเค้?” ไบร์ทตอบกลับเสียงฉุน
“เอ๊ะ ก็บอกว่าไม่ต้อง...ฮะ...ยังไม่ได้กินข้าว แล้วไม่หาแดกล่ะ พยาบาลก็มีเยอะแยะ ใช้ไปสักคนสิ เออ...มีเลขาแล้วนี่ ปากมีก็บอกเขาสิ พอๆ ไม่อยากฟัง แค่นี้นะ” ไบร์ทกดวางสายด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้าที่แล้วหันมาพยักหน้าให้ผมเดินต่อ
“ใครโทรมาเหรอ” ผมหันไปถาม
ไบร์ททำหน้าปะหลับปะเหลือกเหมือนไม่อยากบอก
“ความลับ?”
“ก็ไม่ได้ลับหรอก พี่บีทส์ก็รู้ว่าไบร์ทชอบใคร แต่ไม่รู้ดิ...ไบร์ทว่าช่วงนี้ไบร์ทไม่ค่อยรู้สึกอะไรเวลาเห็นแจนไปคุยกับคนอื่นแล้ว แต่ไบร์ทก็ยังไม่กล้าฟันธงความรู้สึกของไบร์ทหรอก...เร็วเกินไป”
ไบร์ทหันมาพูดกับผม ผมพยักหน้ารับ ผมเข้าใจที่น้องจะสื่อนะครับ ก็กิตติศัพท์ไอ้พี่หมอน้อยซะที่ไหน อีกอย่างผมมั่นใจว่าน้องผมจะไม่มีวันลุกขึ้นมาใส่กระโปรงอย่างแน่นอน ที่ผมห่วงคือไอ้พี่หมอซะอีก คิดยังไงถึงมาจีบทอมวะ กูละงง
“พี่เข้าใจ ไม่ต้องรีบตัดสินใจหรอก” ผมพูดปลอบแล้วตบบ่าน้อง ไบร์ทหันมายิ้มให้ผมก่อนจะจูงมือผมเดินเข้าไปยืนต่อคิวอยู่หน้าร้านอาหาร
“อ้าวบีทส์ ใช่จริงๆ ด้วย” ผมหันไปตามเสียงเรียกเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูเอ่ยเรียกชื่อตัวเอง ก่อนจะปั้นหน้าไม่ถูกเมื่อหันไปเจอเข้าของเสียงที่ยืนยิ้มหวานอยู่ตรงหน้า
“สวัสดีครับพี่ฟ้า” ผมรีบยกมือไหว้ ไบร์ทเลยยกมือไหว้ตาม น้องเคยเจอพี่ฟ้าแล้วครับ ตอนที่ผมเข้าโรงพยาบาลตอนนั้น อืม...พี่ซันก็ด้วย
“บังเอิญจังเลย เห็นมั้ยคะพี่ซัน ฟ้าบอกแล้วว่าเป็นบีทส์จริงๆ” พี่ฟ้าพูดกับผม ก่อนจะหันไปต่อว่าพี่ซันขำๆ พี่มันหันมามองหน้าผมก่อนจะเบือนหน้าไปอีกทาง
นั่นสิครับอะไรจะโคตรบังเอิญขนาดนี้
“มีอะไรกันเหรอครับ” ผมถามพี่ฟ้ากลับยิ้มๆ
“ก็พี่ซันน่ะสิ พี่บอกว่านั่นน่ะบีทส์ แต่พี่ซันบอกว่าไม่ใช่แถมยังจะลากพี่ไปอีกทาง พี่เลยวิ่งมาดูให้แน่ใจไง” พี่ฟ้าตอบยิ้มๆ
“งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วพวกเราขอตัวนะฮะ” ไบร์ทเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งคล้องแขนผมออกแรงกึ่งลากกึ่งจูง ผมยิ้มแหยๆ ให้พี่ฟ้า แล้วโค้งให้อย่างขอโทษ
“เดี๋ยวสิคะพี่ว่าไหนๆ เราก็เจอกันแล้ว ไปด้วยกันเลยดีมั้ย มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง” พี่ฟ้าร้องเรียก แล้ววิ่งมาคว้าแขนที่ว่างของผมไว้พร้อมกับยิ้มให้อย่างอ้อนๆ
ผมทำหน้าลำบากใจ “เราไม่กวนดีกว่า พวกพี่ไปกินกันเถอะครับ”
“นั่นสิน้องฟ้า พี่ว่าอย่าไปกวนพวกน้องๆ เขาเลยดีกว่า” พี่ซันออกความเห็น ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ข้างกายพี่ฟ้า
“ให้พี่เลี้ยงข้าวมื้อนี้นะ ไหนๆ ก็เจอกันแล้ว” พี่ฟ้าพูดเสียงอ้อนพร้อมกับเขย่าแขนผมไปด้วย
“เป็นอันตกลงนะคะ...ไปบีทส์ วันนี้มีเมนูใหม่เข้ามาด้วย พี่รู้ว่าบีทส์ต้องชอบ!” ผมยิ้มเหวอ เมื่อพี่ฟ้าลากแขนผม เดินนำเข้าร้านไปด้วยรอยยิ้ม ผมแอบถอนหายใจเบาๆ
กูเกลียดโรคปฏิเสธคนไม่เป็นจริงๆ เลย
“ทานนี่สิ” พี่ซันตักเนื้อมาให้ผม ผมเหลือบมองเนื้อปลาที่พี่ซันตักมาไว้ในจาน แล้วตักกินข้าวปั้นในจานก่อน เหลือของพี่ซันไว้กินตอนท้าย
พี่ซันคอยดูแลพี่ฟ้าอยู่ไม่ห่าง ไบร์ทนั่งกินอาหารไปเงียบๆ ใบหน้าสวยค่อนไปทางหล่อบูดบึ้ง แต่ก็อดทนนั่งกินโดยไม่พูดอะไร พลางหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมากดเล่นเป็นพักๆ ผมสังเกตเห็นว่าน้องกำลังคุยกับเดอะแก๊งอยู่ แต่ถ้าให้เดาอีกคนที่ไม่พลาดก็น่าจะเป็นพี่หมอ
“ช่วงนี้ใกล้สอบแล้ว อ่านหนังสือไปถึงไหนแล้วเรา” พี่ฟ้าเป็นฝ่ายเปิดประเด็น พร้อมกับคอยตักอาหารส่งให้พี่ซัน ผมหันไปยิ้มแหยๆ
“ยังไม่เริ่มเลยครับ แต่เห็นพวกไอ้นัทบอกว่าจะนัดติวก่อนสอบ ผมมันพวกความจำไม่ค่อยดีอ่ะครับพี่ฟ้า ติวก่อนอาจจะลืมก่อน” ผมตอบขำๆ ได้ยินเสียงพี่ซันแอบขำในลำคอ ผมตวัดสายตาดุๆ ไป พี่ซันเลยเบือนหน้าอมยิ้มไปอีกทาง
“มีอะไรไม่เข้าใจโทรหาพี่ได้ตลอดเลยนะ ความรู้ตอนปีหนึ่งพี่ยังพอจำได้” พี่ฟ้าพูด พลางตักอาหารเข้าปาก ผมซ่อนรอยยิ้มไว้เมื่อเห็นท่าทางของพี่ฟ้า ไม่แปลกใจที่ใครๆ ก็ต่างตกหลุมรักเธอ
ยิก ยิก
ผมหันไปตามแรงสะกิดข้างๆ
“พี่บีทส์อิ่มยัง” ไบร์ทกระซิบถาม ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะสบตากับพี่ซันที่มองมาพอดี
“งั้นไปเหอะ” ไบร์ทกระซิบชวน
ผมหันไปหาพี่ฟ้า “เอ่อ...พี่ฟ้าครับ พอดีพวกผมต้องไปธุระต่อ คงต้องขอตัวไปก่อนนะครับ”
พี่ฟ้าพยักหน้ารับ “เจอกันที่คณะนะ”
“ครับ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะครับ อร่อยมาก” ผมยกมือไหว้แล้วขอตัวออกมา
“ไปกินไอติมกันมั้ยพี่บีทส์” ไบร์ทเอ่ยชวนในขณะที่เราเดินออกมาจากร้านอาหารญี่ปุ่น ผมพยักหน้ารับ ก่อนไบร์ทจะเป็นฝ่ายเดินนำผมเข้าไปในร้านสเวนเซ่น
“สองคนฮะ” ไบร์ทหันไปคุยกับพนักงานในร้าน ก่อนจะพยักหน้าให้ผมเดินตามเข้าไปนั่ง สั่งไอติมของโปรดทั้งของตัวเองและของผมให้เสร็จสรรพ
“ไบร์ทถามจริงๆ นะพี่บีทส์ กับคนเมื่อกี้...มันยังไงกัน” ไบร์ทเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้น ผมขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจคำถามของน้อง
“คนไหน”
“ผู้ชายคนเมื่อกี้ไง ที่เคยบุกมาหาพี่บีทส์ที่โรงพยาบาล ที่หน้าตากวนตีนๆ ขี้เก๊กๆ เมื่อกี้อ่ะ” ไบร์ทอธิบาย ทำให้ผมถึงบางอ้อ ผมเหลือบมองหน้าน้องพร้อมกับเคาะนิ้วกับโต๊ะ ไบร์ทมองหน้าผมด้วยความจริงจัง
“ก็ไม่มีอะไรนี่ เขาก็เป็นแฟนของพี่รหัสพี่ไง” ผมตอบ ก่อนจะยื่นมือไปรับเมนูโปรดจากพนักงานมาตักกินเหมือนไม่ได้สนใจอะไรมากมายกับคำถามน้อง แต่ในใจนี่เต้นตุบๆ เลยครับ
“แต่ไบร์ทว่าเขามองพี่บีทส์แปลกๆ”
“ยังไง”
“อืม...ไม่รู้สิ มันไม่เหมือนกับตอนนั้น มันดูแบบ...อยากคุยด้วย อื้ม เหมือนเป็นห่วง อยากเคลียร์อะไรแบบเนี้ย”
“แค่ก...” โอย ไอติมติดคอ ผมสำลัก ไบร์ทลนลานรีบยื่นทิชชู่กับน้ำเปล่ามาให้ ผมรับมาก่อนจะเช็ดไอติมที่เลอะขอบปากแล้วดื่มน้ำตาม
“คิดไปถึงไหน”
“จริงๆ นะพี่บีทส์ ไม่งั้นไบร์ทจะถามพี่บีทส์เหรอ มันไม่เหมือนสายตาที่เขาใช้มองแฟนเขาอ่ะ” ไบร์ทพูดต่อด้วยความสงสัย
ผมส่ายหัว “มันไม่มีอะไรหรอกน่า คิดมาก” ผมพยายามตัดบทให้น้องเลิกถาม ถ้าไบร์ทรู้ว่าผมกับพี่ซันมีซัมติงกัน ต้องแย่แน่
“ขอให้มันเป็นแค่สิ่งที่ไบร์ทคิดเหอะพี่บีทส์ เพราะถ้าพี่บีทส์ชอบเขาจริงๆ มันต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ” ไบร์ทพูดขำๆ แล้วก้มลงกินไอติมของตัวเอง ผมเงียบไม่พูดอะไร ก้มทานไอติมของตัวเองต่อเหมือนกัน หลังจากนั้นบทสนทนาของเราก็เงียบไป
ต่างคนต่างก็จมอยู่กับความคิดของตัวเอง...
“พี่บีทส์กลับเองได้แน่นะ” ไบร์ทถามย้ำ เพราะเราแยกกันกลับ
ไบร์ทบอกว่าต้องไปจัดการธุระกับเดอะแก๊งที่กำลังเดินทางมาที่นี่ ผมเลยขอแยกกับน้องที่หน้าห้าง เพราะอยากกลับไปนอนที่บ้านมากกว่า
“ไอ้นี่ พี่โตแล้วนะ” ผมว่าขำๆ ก่อนกระชับเป้ตัวเอง
“เผื่อใครมาฉุดไปจะทำไง เดี๋ยวนี้สังคมมันอยู่ยากนะพี่” ไบร์ททำเสียงทะเล้น ผมหัวเราะ
“บ้าน่า ดูหนังเยอะเกินไปแล้ว ส่งพี่แค่นี้แหละเดี๋ยวพี่เดินไปขึ้นรถเอง” ผมตอบแล้วดันหลังน้องให้กลับเข้าไปในห้างพร้อมกับยืนโบกมือส่ง