live in hong kong 4
"ไอพาา ตื่นได้แล้วววว" ผมลากเสียงยาวพร้อมเขย่าตัวไอแมาขี้เซาให้ตื่น
"อืมมม รู้แล้วๆๆ รีบไปไหนเนี่ยเพิ่งตีห้าครึ่งเอง?" ไอพาพูดเสียงงัวเงีย
"เค้านัดเจ็ดโมงไม่ใช่หรอมึง" ผมพูด
"เออ นัดไปกินข้าว ไม่ได้นัดออกโรงแรม" ไอพาพูดแล้วม่อยไปหลับต่อ
จริงที่ผมตื่นซะไก่โห่เนี่ย เพราะว่ากะจะออกไปเดินเล่น แล้วว่าจะชวนไอพาไปด้วย แต่ดูท่าคงได้ไปเดินคนเดียวละ
เมื่อเห็นทีท่าเหงาหลับของมันผมเลยเดินไปหยิบกล้องแล้วก็ย่องออกจากห้องไปเบาๆ
พอออกมาจากโรงแรม ผมก็เดินออกไปที่สวนสาธารณะเล็กๆที่ผมเล็งที่ถ่ายไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ที่มาเก๊า เท่าที่ผมเดินดูกะไอพาเมื่อวาน
เหมือนจะมีสวนเล็กๆที่มีเครื่องเล่นเด็กอยู่เป็นจุดๆ ตามตลอดทางเดิน คงเพราะที่นี่ค่อนข้างจะเป็นรอบนอกละมั้งเลยมีอะไรแบบนี้เยอะ
ผมเล็งหามุมสวยๆแล้วก้อถ่ายรูปเก็บไว้ ตีห้าตอนนี้ก็เริ่มจะใกล้รุ่ง แสงก็สวยไม่เบาเลยทีเดียว
ที่นี่อากาศแตกต่างจากบ้านเราโดยสิ้นเชิง ตอนเช้าก็ยังคงมีลมโกรกเป็นระยะ อากาศเย็นจนผมต้องใส่เสื้อกันลมตัวบางๆเลยทีเดียว
"ฮัดชิ้ว" นั่นไง
ผมสูดหายใจ นี่ยังไม่ทันไรหวัดจะแดกละกู แต่ผมก็ยังคงถ่ายรูปต่อ เดินไปเรื่อยจนถึงสนามม้าตรงข้ามโรงแรม
ผมแอบเดินเข้าไป ทางเข้ามันปิดไม่ให้เข้าอยู่ แต่ผมก็ลอบกระโดดข้ามเข้าไป สเตเดียมกว้างมากๆ สวยดี
เลยทำให้ผมได้ไปอีกหลายรูป พอถ่ายเส็ดก็เมื่อยขาเลยนั่งลงที่สเตเดี้ยม....
แล้วความซวยก็มาเยือน เพราะผมเผลอหลับไปตอนไหนก่ไม่รู้...
รู้ตัวอีกทีสะดุ้งตื่น แล้วรีบดูนาฬิกา
9.45
ชิหายแล้วววววว
ผมรีบตรงดิ่งกลับไปที่โรงแรม ซึ่งพอก้าวเข้าไปที่ล๊อบบี้ ก็เจอไอพากัยคุณเจ้าหน้าที่สาวสวยคนนั้นยืนรออยู่แล้ว
"หายไปไหนมา!" ไอพาพูดใส่หน้าผม ผมสะดุ้งเล็กน้อย
"กูขอโทด กูไปถ่ายรูปรอบๆนี้มาอ่ะ..."ผมตอบเสียงอ่อย จะบอกให้มันรู้ดีมั้ยเนี่ยว่ากูไปแอบหลับที่สนามม้ามา = ="
"ทำตัวยุ่งจริงเชียว"ไอพาบ่น ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ จะเถียงก้อไม่ได้เพราะผิดจริง
"เดี๋ยวผมพาเพื่อนไปเก็บของข้างบนสักครู่นะครับ" ไอพาบอกกับเจ้าหน้าที่สาวสวยซึ่งพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ ก่อนจะลากกึ่งกระชากผม
ขึ้นไปบนห้องพัก
"ไอพา ปล่อย กูเจ็บนะเว้ย"ผมว่า
"มึงออกไปข้างนอกทำไมไม่บอกกูก่อนวะ"
"ก้อมึงหลับอยู่ กูปลุกก้อไม่ยอมตื่น ให้กูทำไง"
"คราวหลังทิ้งโน้ตไว้สิ นี่หายไปไหนก็ไม่รู้เกิดเป็นอะไรไปทำไง"
"กูไม่ใช่เด็กนะ"
ไอพาหันขวับมาทำหน้าดุใส่ผม ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีผลอะไรกับผมหรอกนะ แต่คราวนี้มันทำให้ผมรู้สึกจ๋อยหนักกว่าเดิมอีก
"กูขอโทด จริงๆนะ มันมีเหตุสุดวิสัยอ่ะ" ผมบอกมัน
"อะไร?" ไอพาพูดเสียงห้วน
"ก้อ...."
"กูเผลอหลับที่สนามม้ามาอ่ะ.."ผมตอบเสียงอ่อย
เชื่อสิมันต้องหัวเราะเยาะผมแน่นอน แม่งเหตุผลโคตรจะไร้สาระ...
แต่ผมกลับไม่ได้ยินเสียงอะไรจากมัน
ตรงกันข้าม มันดึงผมเข้ามากอด
"อืม บอกแล้วว่าให้พัก เดินทางมันเหนื่อย รู้มั้ย?"
ผมมองหน้ามันงงๆ
ก่อนจะรู้สึกตัวว่ามันจะกอดกูนานไปแล้ว
"เอ้ยๆ กู ต้องเก็บของก่อน ปล่อยๆ" ผมเลิ่กลั่ก ยันมันน้อยๆให้ปล่อย ซึ่งมันก็ยอมแต่โดยดี ผมจีงรีบตรงดิ่งไปเก็บสัมภาระทันที
โดยมีไอพายืนดูอยู่ตลอดเวลา
เมื่อจัดการกับธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว พวกผมก็ลงไปเจอกับเจ้าหน้าที่สาวคนนั้นอีกครั้ง
"เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยคะ งั้นดิฉันจะพาพวกท่านไปยังท่าเรือเฟอร์รี่เลยนะคะ" เธอพูด ไอพาพยักหน้า ผมงง
"เราขึ้นเรือไปที่ฮ่องกงหรอ?"
"อือ เรือเฟอร์รี่"
มันตอบผมแค่นั้น ก่อนที่รถจะมาแล้วมันก็ยกกระเป๋าผมขึ้นไปบนรถ
ผมไปนั่งข้างมัน ก่อนจะถามว่า
"เป็นอะไรหรอ?"
มันหันมามองหน้าผมอย่างตกใจเล็กน้อย
"ทำไมต้องทำหน้างั้นด้วยวะ?" ผมถามมัน
"ป่าว ตกใจนิดหน่อย"
"???"
"ไม่นึกว่าจะพูดสุภาพเป็น"
"คนพูดดีด้วยยังจะกวนส้นอีก"
"อะ อย่าๆ มึงยังมีคดีป่วงอยู่ เกือบทำกูพลาดเรือ"
ผมเมินหน้าหนีมามองดูแผนที่ในมือแทน
"ก้อแค่สงสัยว่าทำไมทำหน้าบูด" ผมบ่นงึมงำกับตัวเอง โดยไม่รู้ว่าไอพาได้ยิน
"แหน่ะ ยังจะบ่นอีกๆ"
"โอ้ยๆๆๆ" ผมร้องเมื่อไอพาหยิกแก้ม
"ไอ้สัดแม่ง"
มันยิ้มกวนส้นให้ ก่อนจะหันไปดูวิวข้างนอกแทน ผมแยกเขี้ยวให้หลังมัน ก่อนจะมองออกไปข้างนอกบ้าง
วิวของสถานที่ต่างๆในมาเก๊านั้นเหมือนจะมีแต่คาสิโนเต็มไปหมด ซึ่งความอลังการก็แตกต่างกันไป แล้วแต่ความดังและความหรูของ
สถานที่ อย่างlisboa Wynn อะไรก็ไม่รุหลายชื่อ แต่เท่าที่ดูยังไม่มีที่ไหนเทียบไอที่ไปมาเมื่อวานได้เลย
แต่อย่างว่า จะตัดสินจากแค่ข้างนอกก็ไม่ได้นินะ ถ้ามีโอกาสลองเข้าไปดูดีกว่า
แล้วเราก็มาถึงที่ท่าเรือเฟอร์รี่ ซึ่งมีรถบัสของหลายโรงแรมเต็มไปหมด
"ถึงแล้วค่ะ นี่เป็นตั๋วเรือที่ทางเราจัดให้ จะออกเวลา 11.00น. ค่ะ ไปถึงทางโน้นจะมีเจ้าหน้าที่รอรับอยู่ซึ่งจะสวมเครื่องแบบเดียวกับดิฉัน
ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ" เธอพูดหลังจากมาส่งถึงที่แล้ว แล้วก้อปล่อยเกาะเราไปอีกครั้ง
ตอนขึ้นเรือเป็นอะไรที่ผมรู้สึกหวาดเสียวชอบกล ก็ไอทางเดินเนี่ย มันโคลงเคลงอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลยอ่ะ
มีครั้งนึงเกือบล้มหน้าทิ่มถ้าไอพาไม่มีคว้าไว้
"ระวังหน่อยสิวะ"
"ก้อรู้น่ะ กูยังไม่เคยขึ้นเรือเลย" ผมพูด
"ดูก็พอรู้อยู่"
ผมค้อนมันนิดนึง มันยิ้มให้ แล้วก็ช่วยผมลากกระเป๋าเข้า
ไปถึงก้อต้องเอากระเป๋าใส่ที่ช่องด้านหน้าเรือ แล้วก็ไปนั่งที่ๆเขาจัดไว้ให้
"ระวังอ้วกนะ ไม่เคยนั่งเรือเนี่ย" ไอพาพูด
"ไม่หรอกมั้ง"
....
...
..
ขอถอนคำพูดครับ ไอเรือบ้านี่ทำผมรู้สึกเหมือนไส้จะหลุดออกมาทางปากเลยทีเดียว
ไอพาเหมือนจะเห็นสีหน้าผมไม่ค่อยดี เลยเอาไอถุงข้างหน้ามาให้
"เอานี่รองไว้เผื่ออ้วก กูไม่อยากอยู่ใกล้คนตัวเหม็น"
ผมหันไปมองหน้ามันอย่างเซงจิต แต่ก็เถียงอะไรไม่ได้อีกแล้ว เพราะวินาทีต่อมาผมก็ขย้อนสิ่งที่อยู่ในกระเพาะออกมาแทบจะทันที
ไอพามองผมแล้วส่ายหน้าอย่างปลงตก
"ขนาดเมื่อเช้ามึงไม่ได้แดกอะไรนะเนี่ย..."
"....เออน่ะ....อุ้บ"
ผมพูดได้แค่นั้นจริงๆ
แล้วเหมือนไอพาจะแฮปปี้ด้วย
ที่ไม่ต้องมาเถียงอะไรกะผมมากนัก...
หลังจากที่เท้าแตะพื้นอีกครั้ง ผมก็มีความรู้สึกเกลียดเรือขึ้นมาทันควัน
และก็ไม่ได้พูดอะไรกะไอพาอีกเลยตลอดทางที่นั่งรถบัสไปยังที่พักใหม่ในฮ่องกง
"เพื่อนคุณเป็นอะไรมากมั้ยครับ"
เจ้าหน้าที่คนใหม่ที่รอที่ฮ่องกงเป็นชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกับพวกผม ดูท่าทางจะเป็นคนใจดีและใจเย็นพอสมควร เห็นท่าทางแล้วนึกถึงไอเก
อแลงมาตะหงิดๆ
และแน่นอนไอพาคงคิดเหมือนกันกับผม เพราะมันเหล่มองอย่างไม่ค่อยจะชอบหน้าเท่าไหร่
"ไม่หรอก เดี๋ยวมันก็ดี"
ไม่พูดเปล่าแอบดึงเอาตัวผมให้ซบมันอีก
เออ ปกติกูไม่ชอบ คราวนี้ยกให้เพราะมึนหัวไม่หายน่ะ
"ให้ผมหายาให้มั้ยครับ"
"ไม่เป็นไรครับ ผมดูแลได้"
อืม ไม่ต้องโอบกูแน่นขนาดนั้นก็ได้...= ="
เจ้าหน้าที่คนนั้นตอบแทนความก้าวร้าวของไอพาด้วยการยิ้มอย่างสุภาพ ก่อนจะไปเรียกเบลบอยให้มายกกระเป๋าขึ้นไปที่พัก
ผมนั่งเน่าให้ไอพามันเชคอินให้ พอเรียบร้อยก็ต้องลากสังขารตัวเองขึ้นไปนอนพักบนห้อง
"นอนไปก่อนก็ได้นะ เราต้องไปดูงานบ่ายสามโน่น"
"อืออออ"
"เห้อ ให้มันได้งี้สิน้า" ไอพาว่าแล้วเอามือมาลูบๆหัวผม
"งือออออ" ผมตอบมัน จริงๆอยากจะเถียงมันกลับอะไรซักอย่าง แต่ก็ช่างมัน อาการไม่อำนวย
แล้วผมก็หลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความเคลิ้มจากการลูบหัว 555
to be continue
มาสั้นหน่อยนะครับ งานจะมีเสาอาทิดนี้แล้ว ขอโทดที่หายไปนานนะคับผม
แล้วจะรีบมาต่อจ่ะ ขอบคุณทุกคนน้า