{ :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*  (อ่าน 197052 ครั้ง)

ออฟไลน์ March. Marcia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +166/-5
ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นหลังจากที่ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบได้ไม่ถึงสามนาที สองพี่น้องเงยหน้าขึ้นจากงานไปมองประตูก่อนที่พระพายจะเบ้ปากเมื่อเห็นคนที่เปิดประตูเข้ามาใหม่ในขณะที่พันเอกทำเพียงแค่เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ

“ไงไอ้เอก กูมากวนรึเปล่าวะ”

“ไม่เท่าไหร่ มีอะไรรึเปล่า” ร่างสูงเอ่ยออกไปพลางมองร่างสูงของผู้มาใหม่

“กูจะมาบอกว่าคืนพรุ่งนี้พวกไอ้ปราชญ์นัดกินเหล้า มันให้กูมาบังคับมึงไปให้ได้”

“กินเหล้า?”

“ใช่ ที่เดิมนั่นแหละ มันบอกจะเปิดตัวแฟน งานนี้เบี้ยวไม่ได้นะเว้ย...อ้าว น้องพายก็อยู่เหรอครับ ไม่เจอกันนานเลยเนาะ” ‘พีระ อติวัฒน์’ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจจนปิดไม่มิดเมื่อเห็นว่าพระพายเองก็อยู่ภายในห้องทำงานแห่งนี้ด้วย ร่างสูงกวาดสายตามองร่างโปร่งของพระพายด้วยแววตาจาบจ้วงอย่างเสียมารยาทยามที่พันเอกเผลอก่อนจะรีบกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนเมื่อเห็นว่าพันเอกหันมามอง

“สวัสดีครับพี่พีท” พระพายจำต้องยกมือไหว้เพื่อนสนิทของพี่ชายอย่างเสียไม่ได้แม้จะนึกไม่ชอบใจกับนิสัยและสายตาของคนตรงหน้า พีระอมยิ้มมุมปากมองใบหน้าขาวของคนตัวเล็กก่อนจะเอ่ยปากชวนพระพายถึงการนัดแนะสังสรรค์กันวันนี้

“จะว่าไปมึงก็เอาน้องพายไปด้วยดิวะ ไปกันหลายๆคนจะได้สนุก...ไปด้วยกันนะครับ” ท้ายประโยคพีระหันไปกะลิ่มกะเลี่ยใส่น้องชายของเพื่อน

“ไม่ดีกว่าครับ วันนี้ผมมีงานต้องทำเยอะ ถ้ายังไงผมขอตัวก่อนดีกว่า พี่พีทกับพี่เอกจะได้คุยกันตามลำพัง สวัสดีครับ” ร่างขาวพูดเร็วๆพลางรีบดึงตัวเองออกห่างจากพีระให้มากที่สุด สองมือยกมือไหว้คนอายุมากกว่าทั้งสองพลางคว้าเอากระเป๋ามาสะพายและก้าวฉับๆออกมาจากห้อง ทิ้งให้พีระมองตามแผ่นหลังบางด้วยสายตาวาวโรจน์ดุดันก่อนจะหันมาหาพันเอกที่ยังคงง่วนอยู่กับงานบนโต๊ะ

“ตกลงมึงจะไปใช่ไหมเอก”

“อืม”

“เออๆ เจอกันที่เดิม กูไปละ”

“เออ” กฤตภาสคนพี่ออกปากไล่พลางกลั้นขำ พีระยกยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงานของอีกคน ดวงตาคมสอดส่ายสายตาไปทั่วก่อนจะปะทะเข้ากับร่างของพระพายที่กำลังยืนคุยกับเลขาของพันเอกด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ไม่รอให้อีกฝ่ายได้ไหวตัวทันร่างสูงของพีระก็ก้าวเดินเข้าไปประชิดตัวพระพายเอาไว้ก่อนจะถือวิสาสะโอบเอวบางเอาไว้พลางดึงร่างเล็กให้ขยับเข้าไปชิดอก

“มาอยู่นี่นี่เอง หาตั้งนาน” ชายหนุ่มแสร้งเอ่ยเสียงแปลกใจในขณะที่พระพายขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด พระพายขืนตัวออกจากพันธนาการของพีระก่อนจะเอ่ยลาเลขาสาวแล้วรีบจ้ำอ้าวหนีไป ทิ้งให้พีระต้องยิ้มแหยๆก่อนจะแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“งอนผมนะครับคุณนาง ขอตัวไปง้อน้องก่อนนะ”

“คะ...เอ่อ ค่ะๆ” เลขาสาวรับคำอย่างงงๆก่อนจะเดินจากไป พีระเห็นดังนั้นจึงรีบตามร่างเล็กของพระพายไปก่อนจะฉุดแขนขาวเอาไว้แล้วลากน้องชายของเพื่อนเข้าสู่มุมอับสายตา

“พี่พีท! จะทำอะไรผม ปล่อยเลยนะ!” ร่างเล็กแหวขึ้น เขาไม่เคยนึกชอบเพื่อนของพี่ชายคนนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว พีระเป็นผู้ชายคนเดียวที่พระพายเข็ดขยาดเพราะอีกฝ่ายแสดงออกว่าสนใจเขาและคุกคามอย่างไม่เกรงกลัวเลยสักครั้ง อีกทั้งยังพูดจาลามเลียหยาบโลนเสียจนพระพายขยะแขยง

“พี่ไม่อยู่ตั้งหลายเดือน ไม่คิดถึงพี่บ้างเหรอครับ หืม?”

“ทำไมผมต้องคิดถึงพี่ด้วย ปล่อยได้แล้ว อย่ามาทำรุ่มร่ามกับผมแบบนี้นะ พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบ” พระพายเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน หากแต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุเมื่อร่างเล็กถูกพีระดันจนแผ่นหลังชิดกับผนังข้างๆ มือหนาถือวิสาสะล้วงเข้าไปใต้เสื้อนักศึกษาของคนตัวขาวก่อนจะลูบไล้หน้าท้องแบนราบของพระพายแผ่วเบาจนคนถูกคุกคามถึงกับร้องเสียงหลง

“พี่พีท!”

“ชู่ว อย่าเสียงดังสิครับคนดี” พีระกระซิบเสียงแหบพร่าก่อนจะคลอเคลียจมูกลงข้างแก้มนุ่ม พระพายเม้มปากแน่นขนลุกซู่ไปทั่วกาย สัมผัสร้อนผ่าวแผ่กระจายไปทั่ว ทั้งจากจมูกโด่งรั้นและฝ่ามืออุ่นร้อนที่ลูบไล้ไปทั่วผิวกาย

“ถ้าพี่พีทยังวุ่นวายกับผมแบบนี้อีกผมจะฟ้องพี่เอก!” พระพายเอ่ยขึ้นเสียงสั่น พอกันที เขาจะไม่ทนให้เพื่อนของพี่ชายคนนี้ทำอนาจารกับร่างกายของเขาไปมากกว่านี้อีกแล้ว ที่ผ่านมาเพราะเห็นว่าผู้ชายคนนี้เป็นเพื่อนที่คอยช่วยเหลือพี่ชายเขาอยู่บ่อยๆจึงต้องทน แต่นับวันพีระยิ่งหนักข้อ จากที่แค่จับในตอนนี้กลับทั้งกอดทั้งหอมแถมยังรุกไล่จนพระพายหาทางหนีไม่ได้

“หึ ก็เอาสิครับ ถ้าน้องพายอยากให้ไอ้เอกมันรู้ว่าน้องชายที่มันรักนักหนาเสียตัวให้ไอ้ชั่วที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเองตั้งแต่ยังไม่ทำบัตรประชาชน”

!!!!!

“อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะว่าไอ้เจ้าของแหวนที่อยู่บนคอของเรามันลากเราไปทำอะไรที่ห้องเก็บของในวันจบการศึกษา” พีระเอ่ยขึ้นพลางแสยะยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าของพระพายซีดเผือด

“พ...พี่รู้ได้ยังไง”

“พี่ไม่ได้รู้อย่างเดียวหรอกนะน้องพาย แต่พี่ทั้งเห็น ทั้งได้ยินเลยแหละครับ”

!!!!

“รู้สึกยังไงครับ รสชาติของการถูกเอาตั้งแต่อยู่ปอสี่ ไอ้รามมันกระแทกเราถึงใจดีไหม”

“พี่พีท!!!!”

“อ้อ ก็คงถึงใจอยู่แหละเนาะ ทั้งร้องทั้งอ้าขาให้มันเอาซะขนาดนั้น ไอ้รามมันแตกไปหลายน้ำเลยนี่”

พลั่ก!

เสียงฝ่ามือดังขึ้นทันทีที่พีระพูดจบ ใบหน้าหล่อเหลาหันไปตามแรงชกของคนตัวเล็กกว่า กลิ่นคาวคละคลุ้งกระจายไปทั่วโพรงปากจนรู้สึกได้ พระพายหอบหนักหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธปนอับอายในขณะที่พีระทำเพียงแค่ใช้ลิ้นดันกระพุงแก้มอย่างกวนอารมณ์

“พี่จะไม่บอกไอ้เอกเรื่องของพายกับไอ้ราม ตราบใดที่น้องพายยอมพี่ดีๆ ตกลงไหมครับ” ร่างสูงหันกลับมาแสยะยิ้มพลางเลื่อนใบหน้าเข้าไปกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูขาว พระพายเม้มปากแน่นก่อนจะชั่งน้ำหนักระหว่างทางเลือกที่มี

ถ้าบอกพันเอก รายนั้นจะโกรธเกลียดรามขึ้นอีกเป็นสิบๆเท่า เขาไม่อยากให้ความแค้นที่กำลังส่อเค้าว่าเจือจางต้องปะทุขึ้นอีกเพราะอดีตที่ผ่านไปแล้ว แต่ถ้าไม่บอก พระพายแน่ใจว่าตนไม่มีทางรอดพ้นเงื้อมือของพีระไปได้เป็นแน่

เขาควรจะเลือกหนทางไหน?

ร่างเล็กเม้มปากแน่น เงยหน้าจ้องมองโครงหน้าได้รูปที่กำลังมองเขาด้วยดวงตาพราวระยับ ฝ่ามือของอีกฝ่ายยังลูบวนอยู่แถวหน้าท้องและส่งผ่านความสะอิดสะเอียนมาไม่ขาดสาย

ไม่ พระพายไม่ชอบการอยู่กับผู้ชายคนนี้ เขาเกลียดการตกเป็นเบี้ยล่างของผู้ชายคนนี้ และเขาจะไม่มีวันยอมผู้ชายคนนี้

“ผมไม่มีทางยอมพี่หรอก ต่อให้ผมตายผมก็ไม่มีวันยอม”

“พาย!!!”

“อยากจะฟ้องอะไรพี่เอกก็เชิญ เรื่องมันเป็นอดีตไปแล้ว ผมเชื่อว่าพี่เอกแยกแยะได้” ร่างเล็กเชิดหน้าพลางพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคงแม้ในใจจะหวาดหวั่น พีระกัดฟันกรอดจ้องมองคนที่เขาหมายจะเด็ดดอมลงมาเชยชมแต่เจ้าตัวกลับไม่ใยดีต่อความรู้สึกที่เขามีให้

“อยากจะลองดีกับพี่ใช่ไหมพระพาย นายอยากลองดีมากนักใช่ไหม”

“หึ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนขี้ขลาดอย่างพี่จะทำอะไรได้บ้างนอกจากฟ้องคนนั้นคนนี้ไปทั่ว จะบอกอะไรให้นะครับพี่พีท นายรามที่ว่าเลวนักหนายังมีความเป็นลูกผู้ชายมากกว่าพี่ร้อยเท่าพันเท่าอีก จำเอาไว้!” ร่างเล็กทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยน้ำเสียงดุดันก่อนจะสะบัดตัวออกจากอีกฝ่ายและเดินหนีออกมา เมื่อแน่ใจว่าหนีอีกคนพ้นพระพายก็ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นพลางเม้มปากแน่น สองมือยกขึ้นกำแหวนเงินเกลี้ยงเกลาที่ห้อยคอเอาไว้พลางหลับตาแน่นและชันเข่าขึ้นมาก่อนจะซบใบหน้าลงอย่างอ่อนแรง ความทรงจำในวันนั้นฉายชัดขึ้นมาภายในโสตประสาท ตอกย้ำถึงความโง่และการกระทำที่น่าอับอาย ความรู้สึกร้อนวูบวาบยังคงติดอยู่ตามร่างกายแม้จะผ่านมานานสิบเอ็ดปีแล้วก็ตาม สัมผัสร้อนผ่าวแผ่วเบาจากปลายนิ้ว ความร้อนชื้นจากริมฝีปากและตัวตนความเครียดขึงขนาดพอดีตัวของชายหนุ่มที่ย่างเข่าสู่วัยรุ่นตอนกลาง ร่างกายที่เริ่มมีมัดกล้ามและเสียงแตกห้าวที่ครางอึงอลอยู่ข้างหู

เขายังจำได้ดี พระพายยังจดจำทุกสัมผัสเสียงสรรพเสียงในวันนั้นได้ดี

วันนั้น...วันที่เขาถูกป้ายมลทินทางร้ายกายด้วยความไม่ประสีประสา วันที่เขาถูกฉุดลงสู่ความโสมมของกามารมณ์ก่อนวัยอันควร วันที่เขาถูกผู้ชายอย่าง ‘ราม กลทีบ์’ ล่อหลอกให้มีสัมพันธ์ทางกายด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

และเป็นวันเดียวกันกับที่อีกฝ่ายสังหารบิดามารดาของเขาอย่างเลือดเย็น





ตกเย็นรถยนต์คันหรูของพันเอกก็เคลื่อนตัวเข้ามาจอดภายในโรงรถอย่างช้าๆ สองพี่น้องตระกูลกฤตภาสก้าวลงมาจากรถก่อนจะเดินเข้าไปภายในบ้าน ทันทีที่เข้าไปก็เห็นนาวากำลังจัดสำรับอาหารเย็นรออย่างเงียบๆโดยมีณะโมเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่าง พันเอกจ้องร่างขาวที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองเขาเลยแม้แต่น้อยก่อนจะลอบถอนหายใจในขณะที่พระพายได้แต่มองพี่ชายด้วยความเห็นใจ

“อ้าว ทำไมวันนี้ได้กลับมาพร้อมกันละคะคุณเอกคุณพาย ป้ากำลังจะให้เจ้ายุออกไปรับคุณหนูพายอยู่พอดีเชียว” เสียงเอื้องคำดังขึ้นขัดบรรยากาศมาคุภายในห้องอาหาร พระพายปรับสีหน้าให้เป็นปกติพลางหันไปยิ้มให้แม่บ้านก่อนจะเดินเข้าไปกอดเอื้องคำแน่นและส่งเสียงออดอ้อนอย่างที่ทำเป็นประจำ

“พอดีเรียนเสร็จไวเลยไปหาพี่เอกที่บริษัทน่ะครับ”

“ไปกวนพี่เขาอีกแล้วใช่ไหมคะเนี่ย” เอื้องคำเย้าทำเอาพระพายยกยิ้มแหย

“แหะ เปล่าสักหน่อย ผมเป็นเด็กดีจะตายป้าเอื้องก็รู้”

“ค่าๆ ป้าทราบค่ะ ไปล้างไม้ล้างมือเสียเถอะค่ะคุณทั้งคู่ คุณวากับณะตั้งสำรับเสร็จพอดี” เอื้องคำบอกก่อนจะพยักเพยิดไปยังโต๊ะอาหารที่มีกับข้าวมากมายส่งกลิ่นหอมอ่อนๆมาให้ท้องร้องเล่น พระพายกับพันเอกเดินตามกันไปล้างมืออย่างเงียบๆก่อนจะกลับเข้ามานั่งประจำที่โดยมีมินตราทำหน้าที่ตักข้าวสวยให้เหล่าผู้เป็นนาย

“แล้วพี่วากับณะละครับ” พระพายเอ่ยถามเมื่อวันนี้บนโต๊ะอาหารมีเพียงเขากับพี่ชายเพียงแค่สองคน อันที่จริงเขากับพันเอกนั่งกินข้าวกันแค่สองพี่น้องมาตั้งแต่เกิดเรื่อง นาวากับณะโมทำเพียงแค่จัดเตรียมสำรับขึ้นโต๊ะก่อนจะพากันหายลับไม่เห็นตัว

“ทานข้าวอยู่ในครัวกับน้ำอุ่นแล้วก็พี่สันต์ค่ะ” มินตราอ้อมแอ้มตอบ พันเอกชะงักคำสิ่งที่ได้ยินก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสั่งสาวใช้หน้าหวานด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ไปตามสองคนนั้นมานั่งกินข้าวด้วยกัน”

“ค่ะๆ เดี๋ยวมีนไปตามมาให้นะคะ” มินตราละล่ำละลักก่อนจะวิ่งฉิวออกจากห้องอาหารไป ไม่นานหญิงสาวก็กลับเข้ามาใหม่พร้อมกับสองพี่น้องตระกูลชนกันต์และน้ำอุ่นที่ทำหน้าแหยๆ

“นั่งสิ ทั้งคู่นั่นแหละ” ประมุขของบ้านสั่งเสียงเฉียบ นาวาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยสายตาราบเรียบก่อนจะจูงมือณะโมให้ไปนั่งข้างๆพระพาย

“นาวามานั่งข้างฉัน” ร่างสูงเอ่ยขัดขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตัวขาวกำลังจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆผู้เป็นน้องชาย นาวาขมวดคิ้วทันทีด้วยความไม่พอใจก่อนจะจำใจยอมเดินอ้อมไปนั่งกับพันเอกด้วยใบหน้าบึ้งตึง ณะโมมองตามพี่ชายก่อนจะเบนสายตาไปมองร่างสูงใหญ่ของพันเอกที่ยังจ้องนาวาไม่วางตา เด็กหนุ่มเม้มปากแน่นดวงตาวาวโรจน์ก่อนจะเอ่ยขึ้นลอยๆพลางปรายหางตาไปมองคนที่นั่งหัวโต๊ะด้วยแววตาชิงชังกรุ่นโกรธ

“ผมรู้เรื่องทุกอย่างแล้วนะครับคุณพันเอก”

สิ้นประโยคทั้งโต๊ะก็หันไปมองณะโมเป็นตาเดียว พันเอกแค่นยิ้มพลางจ้องใบหน้าของเด็กหนุ่มด้วยแววตาเรืองอำนาจ ร่างสูงนั่งเงียบอย่างรอคอยว่าณะโมกำลังคิดจะทำอะไรในขณะที่นาวาส่ายหน้าปรามน้องชายด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

“แล้วไง รู้แล้วทำอะไรได้งั้นเหรอ” พันเอกท้าทายกลับไปด้วยน้ำเสียงติดจะเย้ยหยัน ณะโมยกยิ้มบางเบาแต่ดูน่ากลัวยิ่งนักในความรู้สึกของคนมองก่อนที่เด็กหนุ่มจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงรื่นเริง

“ก็ไม่ทำไมหรอกครับ แค่อยากบอกให้รู้ว่าผมรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว”

“...”

“รู้ว่าคุณทำอะไรพี่ชายของผมไปบ้าง แล้วก็รสนิยมทางเพศของคนส่วนใหญ่ในบ้านหลังนี้” เด็กหนุ่มพูดพลางมองพันเอกและพระพายด้วยสายตาว่างเปล่า ร่างสูงกัดฟันกรอดจ้องหน้าคนอายุน้อยกว่าเขม็งก่อนจะกดเสียงต่ำอย่างเย็นยะเยือก

“อย่ามาลามปามฉันกับพระพายนะณะโม”

“ผมไม่กล้าขนาดนั้นหรอกครับ”

“...”

“แค่อยากขอร้องว่าต่อไปนี้อย่าทำอะไรพี่ชายของผมอีกก็พอ แล้วพวกเราจะอยู่เงียบๆไม่วุ่นวาย” เด็กหนุ่มพูดพลางสบตากับพันเอกไม่หลบ นาวาเม้มปากแน่นจ้องหน้าน้องชายทีพันเอกทีด้วยความกังวล ยิ่งเห็นว่าประมุขของบ้านนิ่งผิดปกติก็กลัวใจของอีกฝ่ายเหลือเกิน

“ณะ กินข้าวได้แล้ว” คนเป็นพี่ออกปากปราม ณะโมเบนสายตากลับมาที่นาวาก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ ปากเล็กกำลังจะขยับเพื่ออ้าปากโต้เถียงหากแต่คนเป็นพี่กลับส่ายหน้าไปมาและส่งสายตาดุๆกลับไป

“หึ” เสียงแค่นหัวเราะดังขึ้นมาจากหัวโต๊ะ พันเอกจ้องเด็กหนุ่มไม่วางตาก่อนจะเบนสายตากลับมายังคนข้างกายนี่ไม่ยอมสบตากับเขาเลยแม้แต่น้อย

“ฉันไม่ทำอะไรพี่นายหรอกณะโม”

“...”

“ถ้าเขาไม่เต็มใจ”

“ผมมั่นใจว่าพี่วาไม่มีวันเต็มใจให้คุณทำเรื่องแบบนั้น ใช่ไหมครับพี่วา” ณะโมตอกกลับพันเอกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนจะหันไปถามนาวาที่ก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองใคร

“พี่วา ตอบณะมาสิ” คนเป็นน้องเร่งเร้าจนนาวาต้องเงยหน้าขึ้น แก้มขาวแดงระเรื่อน่ามอง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโกรธหรืออายกับบทสนทนาบนโต๊ะอาหาร สุดท้ายเมื่อเห็นสายตาดุๆของน้องนาวาจึงต้องพยักหน้าพลางตอบรับในลำคอเสียงแผ่วเบา

“อืม”

“หึหึหึ” ประมุขของบ้านลอบมองกริยาของนาวาพลางยิ้มขำ ยิ่งเห็นว่าคนตัวเขาหน้าแดงก่ำก็ยิ่งนึกเอ็นดูจนอยากแกล้งเสียให้เข็ด ชายหนุ่มหันกลับไปสบตากับณะโมที่นั่งมองนาวาด้วยใบหน้างอง้ำพลางแสยะยิ้มเมื่อเห็นอาการของเด็กหวงพี่ชายที่ฉายชัดอยู่บนใบหน้าอ่อนเยาว์นั่น

เหมือนพระพายเมื่อก่อนไม่มีผิด...

พอคิดถึงตรงนี้พันเอกก็หันไปมองน้องชายของตนบ้างก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นว่าพระพายดูซึมลงถนัดตา คิ้วเข้มขมวดมุ่นมองน้องชายนั่งเขี่ยข้าวเหม่อลอยไม่สนใจใคร พันเอกพอจะสังเกตได้ว่าน้องของเขาเปลี่ยนไปตั้งแต่อยู่ที่บริษัท พอพีระกลับไปได้สักพักพระพายก็กลับเข้ามาหาเขาใหม่ก่อนจะนั่งเงียบตลอดจนถึงเวลาเลิกงาน

เป็นอะไรไป...

โปรดติดตามตอนต่อไป

เฮียเอกแกโดนแย่งซีนมากี่ตอนละเนี่ย 5555555

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ก็นั่นน่ะสินะ. พี่เอกค่าตัวแพงมั้ง

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
น้องพระพายน่าสารอ่ะมีแต่คนจ้องจะขย้ำ :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
มีคนเลวโผล่มาเพิ่มอีกแล้วนะ  :m16:

ออฟไลน์ NY_JK

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 639
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
เรื่องนี้น่าสงสารทุกคน อ่านไปอึดอัดไป แต่ก็ตามอ่านอยู่ดี  :เฮ้อ:  :mew1:

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
รามกำลังซ้ำรอยพันเอก พันเอกหงอยเชียวตอนนี้

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
รามก็ทำกับพระพายเกินไป ถึงน้องจะรักจะชอบก็เถอะ
น้องเพิ่งอายุเท่าไหร่เชียว
วนเป็นลูปไปอีกรอบ
ณะโมก็แค้นตามการเสี้ยมสอนของพี่ชาย
เป็นลูปเพิ่มมาอีกชั้น
เห็นแต่พระพายนี้แหละที่พยายามออกจากวังวนอันนี้

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
หมั่นไส้รามมากขึ้นทุกวัน..ทุกวัน...ไอ้เอี้ย

ออฟไลน์ Isunn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ยาวสะใจดี  แต่เค้าขอแบบอัพบ่อยๆไม่ได้เหรอ  :hao4:

ชอบเรื่องนี้มาก สงสารวากับณะโม  แถมตอนนี้พระพายก็น่าสงสารอีกคน  :katai1:

อัพอาทิตย์ละครั้งทีเถ๊อะ  :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ punnicha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ล้างแค้นกันไปมาอย่างนี้ เมื่อไรความแค้นจะสิ้นสุดซักที

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ เจ้าชายหมูตอน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พระเอก+นายเอก
เอก+วา
ราม+พระพาย
นาย+เทียน
เหลือคู่รักม้ามืดใครจะได้น้องณะไปเป็นนายเอกในใจ
ตัวพระที่เข้าชิง พายุ บริการ์ดมาดกระล่อน
สิบ นายตำรวจใหญ่ ก้อง เจ้าของโชว์รูมรถ
คู่รักม้ามืดจะลงตัวที่พระเอกคนใด
ปล.ใคร่ขอความเห็นใจให้นายเอกของเราท้องได้ด้วยนะครับ จะได้รักกันได้จริงๆสักที

ออฟไลน์ Viewonohm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 843
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-5
รามนี่เลวเลยนะ  :z3:

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เลวๆ ทั้งนั้นเลย ไม่รู้จะเม้นด่าใคร อยากเอไบกอนฉีดให้ตายยกรังกันเลยทีเดียว ณะโมจะถูกใครกระทำอีกคนหรือเปล่าเนี่ย ไม่นะะะะ ตกใจมากพระพายป.สี่เลยเหรอลูก

ออฟไลน์ March. Marcia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +166/-5
:: CHAPTER 17 ::
สองฟากของกำแพง - ๒ -



สถานเริงรมย์ในยามค่ำคืนคลาค่ำไปด้วยนักท่องราตรีทั้งหญิงและชายมากหน้าหลายตา เสียงเพลงจังหวะไม่คุ้นหูดังกึกก้อง แสงไฟระยิบระยับหลากสีที่เคลื่อนตัวไปมาทำเอานาวาถึงกับเวียนหัว ยิ่งกลิ่นน้ำหอมฉุนๆของผู้คนมากมายที่ปะปนไปมาในอากาศยิ่งทำให้ร่างโปร่งอยากจะอาเจียนให้รู้แล้วรู้รอด

“ไอ้เอก ทำไมคุณวาดูหน้าซีดๆวะ” เสียงของ ‘นักปราชญ์’ หนึ่งในเพื่อนสมัยเรียนของพันเอกพูดขึ้นเมื่อสังเกตเห็นนาวาที่นั่งหน้าซีดเผือด พันเอกที่กำลังคุยกับเพื่อนคนอื่นอยู่หันกลับมามองคนข้างกายตามเสียงท้วงของเพื่อน คิ้วเข้มขมวดมุ่นจนดูยุ่งเหยิงในขณะที่มือหนาก็รวบเอาร่างของนาวาให้ขยับเข้ามาใกล้กันมากขึ้น

“เป็นอะไรไป ไม่ชอบที่แบบนี้หรือไง” เอ่ยถามคนตัวเล็กกว่าข้างกายพลางก้มหน้าลงไปใกล้เพื่อฟังคำตอบ นาวาถอนหายใจ สองมือยกขึ้นดันไหล่แกร่งให้ห่างแต่พันเอกก็ดื้อรั้นเกินกว่าจะยอมปล่อยตัวให้เคลื่อนไปตามแรงมือของเขา อีกฝ่ายยังคงขยับเข้ามาแนบชิดกับร่างของนาวาพลางจ้องมองมาด้วยสายตาเป็นห่วง

“ไม่ชอบครับ ผมกลับบ้านได้รึยัง” ร่างโปร่งจำใจตอบ “นั่งห่างๆผมหน่อยได้ไหม มันอึดอัด” นาวาฮึดฮัด ความกรุ่นโกรธยังคงไม่จางหาย และมันก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นไปอีกเมื่อวันนี้เขาถูกพันเอกลากให้มาผับด้วยอย่างถือวิสาสะ ไม่ได้ถามความสมัครใจของเขาสักคำแถมยังแนะนำนาวาให้เพื่อนๆของตัวเองรู้จักในฐานะ ‘เมีย’ อีกต่างหาก

“อยู่ใกล้ฉันสักนาทีมันจะตายหรือไง” พันเอกแขวะเสียงเบาด้วยความไม่ชอบใจ นาวาไม่ตอบ ร่างโปร่งเลือกที่จะเบือนหน้าหนีทำเอาพันเอกถึงกับต้องผ่อนลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงเมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรไม่ดีใส่อีกคนไปอีกจนได้

“ทำไมถึงอยากกลับเร็วนักละ” พันเอกถาม คราวนี้เสียงอ่อนลงพลางยกมือขึ้นปัดปอยผมที่ตกลงมาปิดหน้าให้นาวาอย่างเบามือด้วยความลืมตัว ร่างโปร่งชะงักกับการกระทำของร่างสูงก่อนจะตอบเสียงแผ่ว

“ผมเหม็นกลิ่นน้ำหอมของคนที่นี่ กลิ่นมันฉุนตีกันไปหมด ถ้ายังไม่ให้กลับก็ขอออกไปอยู่กับคุณยุที่รถได้ไหม”

“...”

“ผมกับคุณยุเราเป็นแค่เพื่อนกันครับคุณเอก” นาวาเอ่ยย้ำเมื่อเห็นแววตาไม่พอใจเล็กน้อยของอีกคน พันเอกถอนหายใจพลางมองใบหน้าซูบซีดของคนตัวขาว จมูกโด่งแตะลงข้างขมับของนาวาแผ่วเบาจนร่างโปร่งใจสั่น

“ระหว่างทางเดินไปหาเจ้ายุก็ระวังตัวด้วย อย่าไปเถลไถลที่ไหนละ มันอันตรายมากนายรู้ใช่ไหม”

“ครับ”

“อืม ไปเถอะ ฉันอยู่คุยกับเพื่อนอีกสักพักแล้วจะรีบตามไป” พันเอกพูดขึ้น นาวาเอ่ยขอบคุณเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยินก่อนจะลุกขึ้น แต่เขาก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อพันเอกคว้าข้อมือขาวเอาไว้เสียก่อน

“ครับ?”

“โกรธมากไหม เรื่องเมื่อครั้งก่อนน่ะ”

“...”

“ไม่ได้ตั้งใจให้โมรู้ แต่ตอนนั้นโมโหมากจริงๆ” พันเอกพูดขึ้น แม้สองสามวันมานี้นาวาจะพูดคุยกับเขาแต่น้ำเสียงและแววตาของนาวาที่มองมามันเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด และเขาก็ไม่ชอบท่าทีห่างเหินแบบนี้ของนาวาเลยสักนิด

การที่นาวาทำเหมือนพันเอกเป็นคนอื่นทั้งที่เคยนอนร่วมเตียงกันมันทำให้พันเอกรู้สึกเหมือนมีมือมาบีบหัวใจของเขาเอาไว้อยู่ตลอดเวลา

“ช่างมันเถอะครับ ผมไม่มีสิทธิ์โกรธคุณหรอก ขอตัวนะครับ” นาวาตัดบทอย่างรวดเร็วและรีบเดินออกไป พันเอกมองตามแผ่นหลังของร่างโปร่งแล้วก็ถอนหายใจก่อนจะหันมาสนใจเพื่อนทั้งโต๊ะที่นั่งเงียบมองมาที่เขาเป็นตาเดียว

“นี่พวกกูตาฝาดกันไปเองหรือมึงหลงเมียมากจริงๆวะไอ้เอก อาลัยอาวรณ์ชิบหาย” เพื่อนคนหนึ่งทักขึ้น ก่อนที่วงสนทนาจะเปลี่ยนหัวเรื่องมาเป็นการซักไซ้ไล่เรียงเรื่องราวของพันเอกแทน

“คนนี้ไปเจอมาจากไหน ลูกเต้าเหล่าใคร ทำงานอะไรวะ”

“นั่นดิ ผิวงี้ขาวจั๊วะเลย หน้าตาก็ดูเซื่องๆซื่อๆ ไม่เหมาะกับคนเจ้าเล่ห์มากความเลวแบบมึงเลยว่ะ”
“เรื่องมันยาว กูขี้เกียจเล่า” ร่างสูงบอกปัดพลางยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มจนหมด คนที่เหลือโห่ร้องด้วยความเสียดายก่อนที่พีระจะเป็นฝ่ายสวนขึ้นอย่างรู้ทัน

“ขี้เกียจเล่าหรือหวงกันแน่ อีหรอบนี้กูว่ามันไปปล้ำเขาชัวร์”

“พีท ใครสั่งใครสอนให้มึงพูดความจริงวะ กูอุตส่าห์อุบอิบไว้ตั้งนานนะเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆๆ” วงเหล้าออกปากแซวพันเอกยกใหญ่ ฝ่ายคนที่ตกเป็นประเด็นสนทนาทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจก่อนจะนั่งฟังเพื่อนพูดโต้ตอบกันอย่างเงียบๆ

“คนนี้จริงจังเหรอวะเอก” นักปราชญ์ถามขึ้นเสียงเบาให้ได้ยินกันเพียงสองคน พันเอกเงยหน้ามองเพื่อนก่อนจะถอนหายใจ

“ไม่รู้ เราเริ่มต้นกันไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่”

“นอกจากพระพาย กูก็ไม่เคยเห็นมึงจะเทคแคร์ใครขนาดคุณวามาก่อนเลยนะ”

“เพราะกูทำผิดกับเขาเอาไว้มากเกินไปน่ะสิ” พันเอกพึมพำ เหม่อมองแก้วน้ำสีอำพันตรงหน้าพลางถอนหายใจอีกครั้งด้วยความหงุดหงิด เขาไม่ชอบที่ตัวเองเหมือนจนอยู่ในกับดักที่ตัวเองเป็นคนสร้างขึ้น เหมือนถูกกรงที่ตัวเองเป็นเจ้าของกักขังเอาไว้ ทั้งๆที่เหยื่อควรจะเป็นนาวาและผู้ล่าคือตัวเขาหากแต่แท้ที่จริงแล้วคนที่ถูกต้อนให้อับจนหนทางน่ะคือพันเอกต่างหาก

“กูก็พอรู้มาบ้างเรื่องของมึงกับฝั่งนั้น ใช่คุณวารึเปล่าที่ไอ้รามมันตามเฝ้าอยู่เป็นปีๆ” นักปราชญ์ตัดสินใจถามขึ้น เขาเองเป็นเพื่อนสนิทสมัยมัธยมปลายของพันเอก รู้จักรามกับคนอื่นๆก็เพียงผิวเผิน แต่ก็รับรู้เรื่องราวของพันเอกและฝ่ายนั้นอยู่ห่างๆมาโดยตลอด

“อืม นาวาเป็นคนที่มันรัก และกูก็ทำร้ายเขา แล้ว...”

“แล้วมึงก็แพ้ภัยตัวเอง กูไม่แปลกใจเลย” ร่างสูงมองพันเอกยิ้มๆพลางต่อประโยคของเพื่อน

“กูไม่รู้หรอกนะเอกว่าเปลือกนอกที่มึงแสดงออกน่ะเป็นยังไง แต่สำหรับพวกกู มึงก็แค่คนหลงทางที่ต้องการที่ยึดเหนี่ยวทางใจ มึงใจอ่อนง่าย และมึงอ่อนแอกว่าที่ตัวมึงคิดอีก อย่างมึงจะเลวได้สักกี่น้ำกันเชียววะ”

นักปราชญ์พูดพลางยกยิ้ม พันเอกเป็นเด็กที่ขาดความรักมาตั้งแต่เล็กๆ เป็นคนที่ไร้หลักพักพิงและเติบโตขึ้นมาด้วยการอยู่เพียงลำพัง ไม่เคยได้รับความรักของพ่อแม่ ความรักที่มีอยู่กับตัวเองพันเอกก็ทุ่มเทใช้มันในการให้ความอบอุ่นผู้เป็นน้องชายจนแทบหมด เขารู้ดีว่าพันเอกไม่อยากให้น้องอ่อนแอและรู้สึกขาดเหมือนกับเจ้าตัวเอง พันเอกเติมเต็มความรักความอบอุ่นให้คนอื่นจนล้นและใช้มันหมดจนไม่เหลือเอาไว้รักตัวเอง

เหตุผลที่เพื่อนร่างสูงของเขาคนนี้รักคุณนาวาก็คงไม่พ้นอยากได้รับความรักตอบแทนบ้างในแบบที่ต่างออกไป จากภายนอกที่เห็นนาวาคงเป็นคนที่ดูแลคนเก่ง อ่อนโยน พูดจาสุภาพและกริยามารยาทเรียบร้อย เป็นคนอบอุ่นออกมาจากภายในซึ่งพันเอกอยู่ใกล้ก็คงรู้สึกอยากถูกดูแล ความรู้สึกต้องการให้อีกฝ่ายปกป้องดูแลถูกกาลเวลาหล่อหลอมให้กลายเป็นความต้องการ ต้องการให้อีกคนอยู่เคียงข้าง เป็นคู่คิด คู่ชีวิตและคอยเติมเต็มสิ่งที่พันเอกไม่เคยได้รับจากคนอื่น

“เรื่องของกูกับเขามันไม่ง่ายไอ้ปราชญ์ วาเขาเกลียดกู เราเหมือนอยู่กันคนละฟากของกำแพง และกูก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะจากกูไป ไม่รู้ต้องทำตัวยังไง กูแค้นไอ้ราม กูอยากให้มันเจ็บ แต่สิ่งที่กูทำกับวามันกลับทำให้กูทรมานซะเอง และตอนนี้กูก็ยังเลือกทางเดินชีวิตไม่ได้ว่าจะหยุดแล้วรับผิดชอบในสิ่งที่ทำหรือเดินหน้าต่อแล้วทำให้นาวาเกลียดกูไปตลอดชีวิต” พันเอกเอ่ยในสิ่งที่ตนคิดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ไม่ใช่รามคนเดียวหรอกที่เจ็บเมื่อเห็นนาวาถูกย่ำยี พันเอกเองก็รู้สึกแย่ไม่ต่างกันที่เป็นคนลงมือทำลายผ้าขาวที่แสนบริสุทธิ์ให้แปดเปื้อนด้วยน้ำมือของตัวเอง

“คิดง่ายๆเลยนะเอก ทางไหนที่มึงมีความสุขที่สุดและมีคนที่เจ็บปวดน้อยที่สุด ความแค้นไม่เคยทำให้คนดีขึ้น มันเป็นสิ่งจรรโลงใจชั่วคราว มึงแก้แค้นไอ้รามมันได้ครอบครัวมึงก็ไม่มีวันกลับมา คิดถึงสิ่งที่ตัวเองอยากจะมีไปตลอดชีวิตสิวะ ความสุขของมึง ความสุขของน้องชายมึง ความสุขของคนที่มึงรัก ปล่อยวางได้แล้วไอ้เอก ลุงพัฒกับอาเดือนท่านไปสบายแล้วนะ"

“...”

“คนเราถูกสอนให้มองโลกต่างกัน และกูเชื่อว่าคุณวาถูกเลี้ยงดูมาดีมากพอที่จะรู้จักคำว่าให้อภัยแล้วก็ให้โอกาส ขึ้นอยู่กับมึงแล้วว่าจะเลือกเดินหน้าสั่งสมความผิดของตัวเองจนเขาเกลียด หรือหยุดแล้วเดินกลับไปแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำ รับผิดชอบกับความผิดของตัวเองและเริ่มต้นทำให้คุณวารัก”

“กู...”

“คิดให้ดีไอ้เอก คิดให้ดีว่าจะจมอยู่ในวังวนของความแค้นที่มันจะไม่มีวันจบสิ้นหรือหยุดและเดินออกมาสร้างเส้นทางชีวิตของตัวเองเสียใหม่ ไม่มีใครกำหนดชีวิตของมึงได้เท่ากับตัวมึงเองหรอกนะเว้ย”

………………..………………..………………..

กว่าพันเอกจะขอตัวกลับบ้านได้ก็เกือบตีสาม พอเดินออกมายังลานจอดรถก็เห็นนาวาทอดตัวนอนอยู่เบาะหลังในขณะที่พายุเองก็เอนเบาะฝั่งคนขับรถหลับคอพับไม่ต่างกัน พันเอกส่ายหัวอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับบอดี้การ์ดร่างเล็กกว่าก่อนจะเดินเข้าไปปลุกพายุเสียงเบาเพราะกลัวคนที่นอนด้านหลังตื่น พอปลุกลูกน้องคนสนิทได้ก็เลือกที่จะเดินไปเปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับและก้าวขึ้นไปนั่งและบอกให้พายุออกรถเพื่อตรงกลับบ้าน ใช้เวลาเพียงไม่นานรถยนต์คันหรูก็แล่นเข้ามาจอดสนิทที่หน้าตัวบ้าน พายุเอี้ยวตัวเพื่อที่จะหันกลับไปปลุกนาวาหากแต่พันเอกแตะไหล่เป็นเชิงห้ามก่อนจะเอ่ยเสียงเบา

“ไม่ต้องปลุกหรอก เดี๋ยวฉันอุ้มขึ้นไปเอง”

“หา เอาจริงดิคุณเอก” คนตัวเล็กกว่าเผลอร้องอย่างลืมตัวจนถูกเจ้านายเคาะหน้าผากเบาๆ พายุยกมือขึ้นคลำหัวตัวเองป้อยๆก่อนจะย่นจมูกส่งค้อนใส่อีกคน

“นายก็ คุณวาไม่ใช่คุณหนูพายนะครับ สูงกว่าตั้งเท่าไหร่ ตัวสูงกว่าผมตั้งห้าเซ็นแน่ะ” แถมหน้าตาหล่อกว่าพายุอีกแน่ะ

“แต่ก็ผอมกะหร่อง ตัวเบาอย่างกับนุ่นพอๆกับนายแหละยุ” พันเอกเถียงคนเป็นลูกน้อง พายุทำหน้าแหยๆมองผู้เป็นเจ้านายแล้วก็นึกค่อนขอดอีกฝ่ายในใจ บางทีเขาก็อยากจะถามพันเอกเหลือเกินว่าทำไมถึงมอบหมายหน้าที่บอดี้การ์ดคนสนิทให้ทั้งๆที่เขาไม่มีคุณสมบัติอะไรที่จะสามารถยืนเคียงข้างเป็นลูกน้องคู่คิดคู่บุญบารมีของอีกฝ่ายได้เลย ฝีมือการต่อสู้หรือก็ด้อยกว่า ทักษะการป้องกันตัวและการสังเกตก็แทบจะเทียบผู้เป็นนายไม่ติด ยิ่งรูปร่าง...อย่าให้พูดเลยเถอะ พันเอกน่ะตัวใหญ่อย่างกับกำแพงเนื้อเดินได้ ในขณะที่พายุตัวสูงเลยบ่าของเจ้านายมาไม่ถึงคืบ บางทีเดินๆไปยังถูกคนอื่นทักเลยว่าเขาน่ะเป็นเมียพันเอกหรือเปล่า ด้วยเพราะพายุนอกจากจะตัวเล็กกว่าแล้วท่าทางเขายังองอาจได้ไม่เท่าพันเอกหรือจักรเลยสักนิด ออกจะเหมือนเด็กมหาลัยแสบๆที่คอยร้องตะแง้วอยู่ข้างคนท่าทางดุดันแบบพันเอกเสียด้วยซ้ำ ยังถูกเลขาของพันเอกแซวอยู่เป็นประจำว่าเขาน่ะเหมือนลูกแมวที่พันเอกพาติดตัวไปด้วยมากกว่าจะเป็นลูกน้อง

“คุณเอกทำไมชอบล้อปมด้อยผมอีกแล้วอ่ะ ก็คนมันไม่โตเองนี่นา ให้ผมไปเป็นคนสวนแทนลุงปองยังคุ้มเงินค่าขนมมากกว่ามาเป็นบอดี้การ์ดอีกนะครับเนี่ย” พายุบ่นอุบ นึกน้อยเนื้อต่ำใจในพัฒนาการทางร่างกายของตัวเองเหลือเกิน พันเอกหลุดยิ้มเมื่อเห็นใบหน้ายุ่งเหยิงของลูกน้องคนสนิท มือแกร่งยกขึ้นโยกหัวพายุอย่างเอ็นดูก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนโยน

“ก็ไม่ได้คิดว่าจะใช้ให้นายมาคุ้มครองอะไรขนาดนั้น ฉันเอานายมาเป็นไม้กันหมาต่างหาก นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบเวลามีคนมาเกาะแกะนอกเหนือจากเรื่องงาน”

“แหม ผมจะขึ้นคานก็เพราะคุณเอกใช้ผมเป็นไม้กันหมาเนี่ยแหละครับ รับผิดชอบผมเลย ทุกวันนี้ก็ถูกคนมองว่าเป็นเมียนายจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว นี่คุณแก้วเธอถามผมประจำเลยนะว่าท้องกับนายไปหรือยัง ดูเลขาคุณเอกเอาเถอะ เหอะ” พายุบ่นกระปอดกระแปด คนในบ้านอาจจะไม่ได้คิดอะไร หากแต่พอออกสังคมหรือไปทำงานที่บริษัทพันเอกก็มักจะตัวติดกับพายุเสมอ แม้แต่ยามออกงานสังคมก็เลือกที่จะไปกับพายุแทนที่จะเป็นแก้วกิรตาเลขาสาวสวยหน้าห้อง ไม่แปลกที่คนจะมองว่าพวกเขาทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน ด้วยเพราะรู้รสนิยมทางเพศของพันเอกดี ฝ่ายพันเอกเองก็ไม่คิดจะทำอะไรให้กระจ่าง ปล่อยให้คนรอบกายเข้าใจผิดเพราะมันส่งผลดีต่อเขาหากแต่ทำให้พายุต้องลำบากแทน

“ยัยแก้วก็แซวไปงั้นแหละ เอาน่า อย่างน้อยก็โล่งใจเถอะว่าฉันมองนายเป็นแค่น้องชายเจ้าปัญหามากกว่าอยากจะจับทำเมีย ดื้อๆแสบๆแบบนายนี่เอาไม่ลงจริงๆว่ะยุ ใครได้นายไปนี่ชีวิตมืดมนไปทั้งชาติ” พันเอกเอ่ยติดตลกก่อนจะลงจากรถและเดินไปเปิดประตูหลัง พายุส่งค้อนมาให้พร้อมกับบ่นอุบอิบแต่เขาไม่สนใจ ร่างสูงขยับเข้าไปภายในตัวรถและค่อยๆช้อนร่างของนาวาขึ้นมาแนบอกก่อนจะหมุนตัวเดินขึ้นบ้านไป ปล่อยให้พายุจัดการปิดประตูและขับรถไปเก็บในโรงรถตามหน้าที่ของตน

“เอาตัวพี่ชายผมไปไหนมาเหรอครับ” เสียงราบเรียบบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ดังขึ้นทันทีที่พันเอกวางนาวาลงบนเตียงนอนอย่างแผ่วเบา ร่างสูงหันไปมองณะโมที่ยืนอยู่หน้าห้องด้วยใบหน้าราบเรียบก่อนจะเดินออกจากห้องไปประจันหน้ากับอีกคน ไม่ลืมปิดประตูห้องเอาไว้เพราะเห็นเค้าลางว่าตัวเองจะต้องทะเลาะกับน้องชายของนาวาเป็นแน่

“ลงไปคุยกันที่ห้องทำงาน” ร่างสูงตีหน้าขรึมจ้องมองเด็กหนุ่มที่ยืนนิ่งตรงหน้า ตั้งแต่ณะโมรู้ความจริงอีกฝ่ายก็ทำตัวเยือกเย็นมากขึ้นทุกที จากที่แต่ก่อนเคยมีท่าทีเคารพกริ่งเกรงและเรียกเขาอย่างออดอ้อนว่าพี่เอกอย่างนั้นพี่เอกอย่างนี้ บัดนี้กลับแทนคำนำหน้าว่า ‘คุณ’ แสดงถึงความห่างเหินและการไม่ยอมรับในตัวของเขาอย่างกลายๆ

“ผมขอถามตรงๆเลยก็แล้วกัน คุณคิดจะทำอะไรกับพี่วาอีกกันแน่” ณะโมถามขึ้นทันทีที่เดินตามประมุขของบ้านเข้ามาภายในห้องทำงาน พันเอกปรายตามองร่างเล็กของณะโมนิ่งๆก่อนจะถามย้อนกลับไป

“แล้วคิดว่าไงละ”

.

.

.

ออฟไลน์ March. Marcia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +166/-5
“คุณกำลังหลอกให้พี่วารักแล้วก็จะสลัดพี่วาทิ้ง” ณะโมเอ่ยขึ้นโดยไม่คิดจะอ้อมค้อม พันเอกแค่นยิ้มหยันกับคำกล่าวของอีกคน

“ฉลาดนี่ แล้วไงต่อละ”

“คุณตั้งใจจะทำให้พี่วารักคุณ ใช้พี่ชายผมทำให้คนที่คุณแค้นเจ็บปวดที่คุณได้ทั้งตัวและหัวใจพี่วาไป แล้วคุณก็จะเหยียบย่ำพี่ผมจนจมดิน หึ วิธีการของคนขี้ขลาดที่ทำร้ายคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร”

“อืม ก็จริง” พันเอกยอมรับพลางแสยะยิ้ม

“ฉันตั้งใจหลอกให้พี่นายรักฉัน หลอกฟันแล้วก็ทิ้ง แทะจนไม่เหลือชิ้นดีก่อนจะส่งของเหลือไปให้ไอ้รามมันได้ยอกใจเล่น รู้แบบนี้แล้วยังไง จะไปฟ้องนาวางั้นเหรอ” พันเอกพูดพลางจ้องใบหน้าอ่อนเยาว์ไม่วางตา อย่างณะโมน่ะจะไปเข้าใจอะไร แผนทุกอย่างที่ว่ามามันพังไม่เป็นท่าไปตั้งแต่วันที่พันเอกรู้ตัวว่าหึงหวงนาวาจนเกินเหตุนั่นแล้ว

หลอกให้นาวารักงั้นหรือ หึ เป็นพันเอกต่างหากที่รักอีกฝ่ายอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

“พี่วาไม่มีทางหลงรักคุณง่ายๆหรอกคุณพันเอก ไม่ว่าจะยังไงผมจะไม่มีวันยอมให้คุณได้รักกับพี่ชายผมอย่างมีความสุขแน่นอน คนเลวๆแบบคุณสมควรทุกข์ทรมานกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำเอาไว้” ณะโมเอ่ยเสียงแข็งพลางจ้องหน้าพันเอกด้วยแววตาชิงชัง

“ถ้าแตะพี่ชายผมอีก ผมจะฆ่าคุณ” เด็กหนุ่มเอ่ยพลางมองพันเอกด้วยดวงตาวาวโรจน์ ภายนอกณะโมอาจจะดูใสซื่ออ่อนแอ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าแท้จริงแล้วเด็กหนุ่มผู้นี้เด็ดเดี่ยวและเลือดเย็นกว่าที่ใครคาดคิด

ณะโมมีนิสัยหลายอย่างที่คล้ายคลึงกับพันเอกมาก มากพอที่ต่างฝ่ายต่างมองกันออก พันเอกมองดูเด็กหนุ่มก็รู้สึกเหมือนกำลังส่องกระจกมองเห็นตัวเองในวัยเยาว์ กล้าคิด กล้าทำ เข้มแข็งเหมือนๆกัน แม้ภายนอกณะโมจะแสดงออกว่าเป็นแค่คนอ่อนต่อโลกที่น่าปกป้องหากแต่ภายในเด็กคนนี้น่าหวาดหวั่นเสียเหลือเกิน ณะโมกำลังหวาดกลัว กลัวนาวาพลาดท่าให้กับพันเอก และความกลัวนี่เองที่ผลักดันให้มนุษย์ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด

“ถ้าคิดว่าเด็กกะโปโลอย่างนายมีปัญญาฆ่าฉันได้ ก็ลองดู” พันเอกเอ่ยท้า ไม่ใช่ประโยคประชดประชันแต่เป็นคำท้าทายอย่างแท้จริง

ณะโมกำหมัดแน่นข่มอารมณ์ความไม่พอใจ ดวงตาคู่สวยจ้องใบหน้าหล่อเหลาของพันเอกเขม็ง และยิ่งจ้องมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยบางอย่างออกมา

“นายอยากรู้ไหมว่าฉันกับพี่นายมีอะไรกันไปกี่ครั้งแล้ว”

“...”

“จริงอยู่ที่ฉันข่มเหงเขา แต่อย่างี่เง่าไปเลยน่าณะโม นายคิดจริงๆเหรอว่าฉันจะปล้ำนาวาทุกครั้งที่มีเซ็กซ์กัน”

“คุณนี่มัน!...”

“เด็กอย่างนายน่ะทำอะไรไม่ได้หรอก อย่าเอาตัวเข้ามายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่นักเลยณะโม ถ้ายังมาขวางทางของฉันกับนาวาอีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

“แล้วปล่อยให้คุณทำร้ายพี่วาอีกน่ะเหรอ ไม่มีทาง!!!!”

“...”

“ที่ผมทนเงียบอยู่ทุกวันนี้เพราะพี่ชายผมขอไว้ แต่ถ้าวันไหนที่คุณทำพี่วาเจ็บ เมื่อไหร่ที่คุณทำพี่วาร้องไห้ วันนั้นจะเป็นวันตายของคุณ จำเอาไว้”

เด็กหนุ่มเอ่ยทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบก่อนจะหุนหันออกจากห้องทำงานของพันเอกด้วยความไม่พอใจ เขาทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลยแม้แต่น้อย พันเอกทำราวกับว่าณะโมเป็นเพียงเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเสียอย่างนั้น

เหอะ แล้วเขาจะทำให้อีกฝ่ายได้รู้ ว่าประเมินค่าของณะโมต่ำเกินไป

ร่างเล็กเดินตุบตับกลับขึ้นห้องนอน ไม่วายมองบานประตูของห้องนอนห้องใหญ่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย เขาไม่เคยรู้เลยว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาภายในนั้นมีอะไรเกิดขึ้นกับพี่ชายบ้าง นอกจากต้องทอดร่างให้พันเอกระบายอารมณ์แล้ว นาวายังต้องเจอกับนรกแบบไหนอีกกัน

และเมื่อเข้ามาภายในห้องนอนของตนเองได้แล้วร่างเล็กก็รีบหยิบโทรศัพท์ที่พระพายเคยซื้อเอาไว้ให้ไว้ใช้ติดต่อกันขึ้นมาและกดโทรออกไปยังเบอร์ที่คุ้นเคย รอเพียงไม่นานปลายสายก็ส่งเสียงงัวเงียกลับมาพร้อมกับคำด่าอีกเป็นกระบุง

[นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้วห๊ะ คนจะหลับจะนอน!]

“เจมส์ นี่ฉันเอง...ณะโม” ณะโมกรอกเสียงเป็นภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่นกลับไปพลางเม้มปาก “ขอโทษที่กวนเวลานอน แต่มีเรื่องอยากให้ช่วย”

[หืม โมเองเหรอ ว่าไงละ] อีกฝ่ายที่พอเห็นว่าเป็นเพื่อนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอย่างณะโมก็เอ่ยถามกลับมาเป็นภาษาไทยชัดแจ๋ว

“นายบอกว่าพ่อนายขายอาวุธ ใช่ไหม” เด็กหนุ่มถามเพื่อนต่างชาติของตัวเอง ได้ยินอีกฝ่ายเงียบไปอึดใจก่อนจะถามกลับมาเสียงราบเรียบ

[ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน]

“นั่นมันไม่สำคัญหรอก ที่ฉันถามเพราะอยากจะขอความช่วยเหลือ” ณะโมพูดต่อ เจมส์เป็นเพื่อนร่วมชั้นที่โรงเรียนนานาชาติที่เขาเพิ่งจะเข้าไปเรียนเมื่อหลายเดือนก่อน อีกฝ่ายเป็นหนุ่มลูกครึ่งหน้าตาดีแต่มีนิสัยกร่างและเกเร ณะโมไปแอบได้ยินเจ้าตัวคุยกับบรรดาเพื่อนสนิทหลังโรงเรียนเกี่ยวกับกิจการขายอาวุธของทางครอบครัวเมื่อไม่นานมาแล้ว และตอนนี้เขาคิดว่าเจมส์สามารถช่วยเขาได้

“ฉันอยากจะขอซื้อปืนสักกระบอก มันแพงมากหรือเปล่า” เด็กหนุ่มพูดขึ้นพลางหยิบสมุดบัญชีที่พระพายเคยเปิดว้ให้และโอนเงินมาให้ใช้ทุกๆเดือนขึ้นมาดู ยอดเงินในบัญชีมีมากพอขนาดซื้อบ้านใหม่ได้หลายหลังแต่ณะโมก็ไม่เคยแตะมันเลยเพราะความเกรงใจ

แต่วันนี้เขาจะใช้เงินของคนพวกนี้ และหลังจากนี้เป็นต้นไปณะโมจะผลาญทรัพย์สินของบ้านกฤตภาสให้ได้มากที่สุด ให้มันสาสมกับสิ่งที่นาวาเสียไป

[นายจะเอาไปทำอะไร มันไม่ใช่ของเด็กเล่นนะ] ปลายสายถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ณะโมสบถฮึดฮัดด้วยความขัดใจก่อนจะตอบกลับเสียงห้วน

“นั่นมันธุระของฉันน่า นี่ฉันมาในฐานะลูกค้านะเจมส์”

[...]

“เอาเป็นว่าฉันอยากได้ปืนที่น้ำหนักเบาและมีขนาดกะทัดรัด ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่เกินอาทิตย์นี้ ราคาฉันไม่เกี่ยง หวังว่านายคงมีความสามารถมากพอที่จะหามันมาได้นะ” ท้ายประโยคณะโมใช้วิธีท้าทายอีกฝ่ายกลับไป ได้ยินเสียงแค่นหัวเราะดังมาจากปลายสายก่อนที่อีกฝ่ายจะเอ่ยตอบรับเรียกรอยยิ้มให้แต้มไปทั่วใบหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กหนุ่ม

[พรุ่งนี้นายได้ของที่ต้องการแน่ที่รัก]

“ขอบคุณนะ ขอบคุณ”

[แต่เรื่องเงินน่ะ เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทนได้ไหม ฉันไม่อยากได้] ปลายสายพูดต่อทำเอาเด็กหนุ่มขมวดคิ้ว

“แล้วนายต้องการอะไร”

[หึ...เซ็กซ์น่ะ ให้ได้รึเปล่าล่ะ]

“!!!!!”

[ว่าไงโม ปืนดีๆแลกกับเซ็กซ์ ยอมจ่ายเป็นร่างกายตัวเองไหม] อีกฝ่ายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ณะโมเม้มปากแน่น แน่นอนว่าเขาไม่ได้ชอบผู้ชายและไม่คิดที่จะชอบด้วย

“ฉันบอกแล้วจะฉันจ่ายไม่อั้น” เด็กหนุ่มต่อรองก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะกลับมา

[ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ฉันแค่อยากได้ร่างกายนายมากกว่า เลือกเอานะ จะเอาก็ยอมนอนกับฉัน แต่ถ้าไม่...ฉันก็คงช่วยอะไรนายไม่...]

“ก็ได้ ฉันตกลง” ณะโมพูดสวนขึ้นทั้งที่อีกฝ่ายยังพูดไม่จบ จะไปยากอะไรกับอีแค่การนอนกับใครสักคน

“ฉันให้ทั้งตัวทั้งเงินเลยก็ได้” ร่างเล็กว่าต่อ อยากจะถลุงเงินออกจากบัญชีใจจะขาด ได้ยินปลายสายหัวเราะแว่วเข้ามาก่อนที่อีกฝ่ายจะตอบตกลง

[งั้นเที่ยงวันพรุ่งนี้เจอกันหลังโรงเรียนนะ อย่ากลัวไปก่อนซะละ] เจมส์เอ่ยย้ำก่อนจะตัดสายไป ณะโมมองโทรศัพท์ด้วยแววตาราบเรียบก่อนจะถอนหายใจ

เขาคิดถูกแล้วใช่ไหมที่ต้องมีอาวุธเอาไว้ป้องกันตัว อย่างน้อยๆถ้าพันเอกคิดจะทำร้ายนาวาอีกคราวนี้ณะโมก็จะไม่อยู่เฉยทำตัวอ่อนแอไร้ประโยชน์

ถ้าพันเอกทำนาวาน้ำตาตกเมื่อไหร่ ณะโมสาบานด้วยชีวิตเลยว่าเขาจะฆ่าพันเอกทิ้งด้วยมือของเขาเอง...

………………..………………..………………..

“คุณเอกครับ เรื่องงานของคุณหญิงลาวัลย์ที่ใช้สถานที่ของเราจัด คุณเอกจะไปร่วมงานไหมครับ” พายุเอ่ยขึ้นเมื่อผู้เป็นนายเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านในวันรุ่งขึ้น คนตัวเล็กกว่ายื่นการ์ดเชิญให้พันเอกพลางยกยิ้มให้นาวาที่เดิมตามหลังลงมา

“ฉันเป็นเจ้าของสถานที่ ไม่ไปก็ถูกเขาเฉ่งเอาพอดีน่ะสิ”

“ถ้าคุณเอกไม่สะดวก ให้คุณแก้วเธอไปแทนก็ได้นะครับ” พายุเอ่ยขึ้นเพราะรู้ดีว่าพันเอกไม่ชอบออกงานสังคมเท่าใดนัก ปีหนึ่งเจ้านายของเขาเลือกที่จะปรากฏตัวเพียงสองถึงสามงานเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ก็จะใช้วิธีส่งตัวแทนไปเสียมากกว่า

“ไม่เป็นไร งานนี้งานใหญ่ ไม่ไปคงเสียมารยาท” พันเอกเอ่ยเสียงราบเรียบพลางมองตามแผ่นหลังของนาวาที่จูงมือณะโมเข้าห้องครัวไปอย่างเงียบๆ พายุมองตามสายตาของพันเอกพลางยกยิ้ม ดูก็รู้ว่ายังมึนตึงกับคุณวาอยู่

“พาคุณวาไปด้วยก็ได้นะครับคุณเอก เผื่อคุณเขาจะหายงอน” พายุเอ่ยแซวเรียกให้ผู้เป็นประมุขของบ้านหันกลับมาเขกหัวเข้าให้

“จุ้นไม่เข้าเรื่อง ไปถอยรถมาได้แล้วไปจะได้ไปทำงาน”

“อ้าว ไม่อยู่กินข้าวเช้าก่อนเหรอครับ”

“ไม่ละ วันนี้มีประชุมเช้า ไปเอารถออกได้แล้วไป” พูดเพียงเท่านั้นพายุก็วิ่งฉิวออกไปตามคำสั่ง พันเอกมองตามหลังลูกน้องจนลับสายตาก่อนจะหันไปมองยังทิศทางที่นาวาจูงมือณะโมหายลับไป

สองขาไม่รักดีก้าวเดินพาร่างสูงกำยำไปยังห้องครัว ดวงตาคมปะทะเข้ากับแผ่นหลังของนาวาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่หน้าเตาในขณะที่ณะโมที่อยู่ในชุดนักเรียนคอยยืนลุ้นอยู่ไม่ห่าง คำพูดของนักปราชญ์ที่เคยบอกเขาเอาไว้เมื่อคืนลอยกลับเข้ามาในโสตประสาทให้พันเอกได้หยุดคิด

“คนเราถูกสอนให้มองโลกต่างกัน และกูเชื่อว่าคุณวาถูกเลี้ยงดูมาดีมากพอที่จะรู้จักคำว่าให้อภัยแล้วก็ให้โอกาส ขึ้นอยู่กับมึงแล้วว่าจะเลือกเดินหน้าสั่งสมความผิดของตัวเองจนเขาเกลียด หรือหยุดแล้วเดินกลับไปแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำ รับผิดชอบกับความผิดของตัวเองและเริ่มต้นทำให้คุณวารัก”

ถ้าหากพันเอกหยุดทุกอย่างในตอนนี้ ความสัมพันธ์ของเขากับนาวาจะเป็นยังไง
หากหยุดทุกอย่างเอาไว้กลางคัน นาวาจะยอมให้อภัยเขาไหม
แล้วกับรามละ หากพันเอกหยุด อีกฝ่ายจะหยุดด้วยไหม

พันเอกได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจซ้ำๆ โดยลืมคิดไปว่า แรกเริ่มเดิมทีนี้รามไม่เคยเริ่มต้นมัน อดีตเพื่อนสนิทของเขาไม่ใช่คนเริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่างนี้ รามจบทุกอย่างในวันที่พ่อแม่ของพันเอกสิ้นใจ หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็ทำเพียงแค่ใช้ชีวิต ลืมอดีต และต่างคนต่างอยู่

หากแต่เป็นพันเอกเองนั่นแหละที่เป็นคนเริ่มหมากกระดานแห่งความแค้นโดยการใช้นาวาเป็นผู้เคราะห์ร้าย และในเมื่อตนเองเป็นผู้เริ่ม แล้วอยู่ๆจะหยุดเกมกลางคันทั้งๆที่ทำอีกฝ่ายเอาไว้อย่างเจ็บแสบขนาดนั้น มันก็คงเป็นไปไม่ได้

แม้พันเอกจะยอมหยุดทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้เพราะความรัก หากแต่รามกลับกำลังเริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเอาคืน

พันเอกหยุดแล้ว หยุดทุกอย่างในวันที่รู้ตัวว่าพลาดท่าให้เชลยในกรงขังของตนจนหมดหัวใจ

หากแต่รามกลับกำลังเริ่มต้น เริ่มต้นทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ตระกูลกฤตภาสพินาศลงไปอีกครั้งเหมือนในอดีต

กงล้อแห่งโชคชะตาของพวกเขากำลังสวนทางกันโดยสิ้นเชิง

โปรดติดตามตอนต่อไป

เอาล่ะค่ะ มาพลิกกระดานกันบ้างดีกว่า หุหุ
เฮียเอกตอนแรกโดนด่าหนักมาก แต่ตอนนี้นายหัวโดนด่าหนักกว่าหลายเท่า ;D
แต่ตราบใดที่นิยายเรื่องนี้ยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพคนเลวนะคะ #สุภาษิตบ้านไหนสอนยะ ฟฟฟฟฟ
ตามสไตล์เรานั่นแหละ ไม่เคยเขียนนิยายที่มีคนดีจ๋าหรือเลวจัดอะไรแบบนั้น
ทุกคนเป็นเหรียญที่มีสองด้าน ทุกคนนิสัยแย่ นิสัยดี มีหลายมุมมองและมีการเลือกที่จะแสดงออกให้คนอื่นเห็นแตกต่างกันไป อ่านนิยายของเราไม่ต้องหาตัวร้ายโดยกำเนิดเพราะไม่มีค่ะ ตัวละครทุกตัวมีสิทธิ์มีเรื่องราวความรักเป็นของตัวเอง(คนอ่านบอก งั้นแสดงว่าตัวละครทุกตัวมีสิทธิ์เป็นพระเอกสินะ ถถถถถถถถ) และเช่นเดียวกัน ตัวละครทุกตัวมีสิทธิ์สูญหายไปตามความเป็นจริง บางคนอาจจะเด่นในเรื่องนี้ เป็นพระเอกในเรื่องนี้ แต่ไปตายในเรื่องหน้าก็ได้ใครจะไปรู้เนาะ #พูดเป็นลางทำไม 5555555555

สุดท้ายนี้ ใครใจดี สามารถติชมหรือแสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นกำลังใจให้เราได้นะคะ ขอบคุณค่ะ
เจอกันตอนหน้านะจ๊ะ -3-

ออฟไลน์ PhInNoI

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
 :serius2:
ณะโม ม่ายยยยยย อย่านะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :กอด1:   กอดคนเขียน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
คือตอนนี้มันวนเป็นงูกินหางที่ดึงเอาคนอื่นใกล้ๆเข้ามาร่วมด้วย
ตอนแรกเราสงสารนายหัว-นาวานะ
แต่มาตอนนี้ดูเหมือนกับว่าทุกคนโดนขยำเละตุ้มเป๊ะเป็นเนื้อเดียวกันหมดแล้ว
คือมันกลายเป็นสีเทากันไปหมด ท่าทางจะเป็นไปอีกต่อๆกันเป็นทอดๆไป

พันเอกทำเพราะว่าถูกกระทำ คนถูกกระทำก็สืบสานการกระทำต่อคนอื่นต่อเป็นทอดๆไปอีก
ณะโมก็กลายเป็นอะไรไปแล้ว สมกับที่นาวาเสี้ยมสอน
นายหัวที่ทำกับพระพายตอน ป.4 นี่มันอะไรกัน? ท่าทางจะมาลากพระพายไปยำต่อ
มาคุณหมอทั้งสองคนอีก
เราว่าเหลือพระพายแหละที่ยังไม่กลายพันธ์ุ

ไม่ได้บ่นนะ งึมงำเฉยๆค่ะ

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
งืม เรื่องง่ายๆ ทำตามหัวใจตัวเอง จะทำร้ายคนที่เรารักเพื่ออะไร หรือจะรอจนไม่เหลือใครให้รัก  เครียด โกรธ เกลียด ตัวละคร แต่รักคนแต่งน้า ด้วบๆ

ออฟไลน์ Viewonohm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 843
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-5
เข้าใจเฮียเอกนะอยากจะจบเรื่อง แต่มันมาไกลเกินจะหยุดง่ายๆแล้วอะ

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
ณะโม นี่“ โง่”มากอ่ะ นึกว่าจะเป็นเด็กที่ฉลาดกว่านี้ เข้าใจว่าแค้นพันเอกจนต้องหาปืน แต่โง่นะแทนที่จะหาทางอื่นเพื่อซื้อปืนแทนที่จะเอาตัวเข้าแลก เงินก็มี ถ้าตอนนั้นไม่มีเงินจนต้องยอมเอาตัวเข้าแลกยังพอเข้าใจได้ แถมมิหนำซ้ำ ยังบอกว่าจะให้ทั้งเงินทั้งตัวนี่ก็ “ควาย”แล้วล่ะ สมงสมองไปหมด จะถลุงเงินน่ะ ใช่ว่าพระพายจะใส่เงินให้ทุกวันให้ถลุงไม่มีวันหมด ใช่เงินบ้านนั้นได้สบายประหนึ่งเป็นน้องพันเอกซะเองหรือจะเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัตินั้นพระพายคงเฉพาะในส่วนที่จะใช้จ่ายไม่ลำบากแต่ละเดือนแทนที่จะคิดถึงอนาคต ควรเก็บเงินให้มากสุด แล้วพานาวาหนีไปให้ไกล มีเงินพอที่จะเริ่มต้นชีวิตได้ไม่ต้องให้เหมือนกันอดีตที่ผ่านมา เหมือนหมาจนตรอก ขอด่าหน่อยเหอะ โง่เกิน อยากถลุงเงินเขา ทำหยั่งกะพันเอกเปิดให้ถลุงเสรีงั้นแหละ แถมเงินนั้นพระพายก็ให้ไว้ ซึ่งจะเอาไว้ใช้ยามจำเป็นกลับคิดว่า จะถลุงเงินนี้ให้หมด ซะบ้านนั้นจะได้เดือดร้อนหารู้ไม่ ตัวนั่นแหละจะเดือดร้อนยามที่จำเป็นต้องใช้เงินที่พระพายฝากให้ไว้ พันเอกพระพายเดือดร้อนไปด้วยไหมก็ ไม่ โง่จะเสียทั้งตัวแถมจะเสียทั้งเงินโดยที่ฝ่ายนั้นไม่ได้เสนออีก ///ดีนะพันเอกยังมีเพื่อนที่ดีคอยเตือนสติอย่างปราชญ์ เอาใจช่วยพันเอก ช่วงนี้ขมเหลือเกิน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2015 00:21:49 โดย Ak@tsuKII »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เฮ้อออ. คนนึงหยุดอีกคนนึงเริ่ม. เมื่อไหร่จะจบสิ้น

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
โมแม่ง
ทำไรไม่คิดว่ะ :/ *อินมากก*

ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ Isunn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ถ้าณะโม ยอมเอาตัวเข้าแลกปืนนี่น่าเสียดายมากเลย   อย่างน้อย อยากให้ ณะโม ไม่มีมลทินเหมือนพี่ชาย
หรือไม่ก็ให้ณะโม เป็นฝ่ายรุกนายเจมส์ แบบนี้พอยอมรับได้ :hao3:

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
ณะโม...คิดอะไรอยู่ การทำแบบนี้จะยิ่งทำให้เรื่องทุกอย่างแย่ลง
ตอนนี้พันเอกจะวางมือ แต่คนจะเริ่มคือราม
ถ้าจะถามว่าความผิดใคร พูดยากอะ แต่ละคนมีเหตุผลของตัวเอง
ทำไปเพราะมีความแค้นกันทั้งนั้น
แต่หลังๆมานี้ เริ่มมีหลายคู่โผล่มากันแล้ว
มีอะไรให้ลุ้นเยอะ ติดแต่...นายเอกน่ารันทดทุกคน ฮ่าๆ
รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
มันก็วนเข้ามาในลูปแก้แค้นเหมือนเดิม
เรื่องมันคงไม่จบไม่สิ้นสำหรับความแค้น

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด