คือจะไปซื้อไก่
วันนี้....เป็นวันสงกรานต์ หนุ่มสาวชาวบ้านเบิกบานจิตใจจริงเอย
ตอนเช้าทำบุญ ทำบุญตักบาตร.....ทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันกันเอย "เบาเสียงลำโพงหน่อยได้ไหมวะพี่เจ๊น จะเปิดให้ใครฟังหนักหนาอะ"
เห่อวันสงกรานต์อะไรขนาดนี้วะ
"นี่วันสงกรานต์นะไอ้จี๊ด หัดอินเทศกาลบ้างสิวะ"
"จี๊ดว่าพี่อินเกินไป" ผมมองพี่ชายสุดที่รักที่สวมเสื้อลายดอกสีแดงแปร๊ดพร้อมกับสะพายปืนฉีดน้ำสองกระบอก กระบอกเดียวไม่หนำใจไง ทำไมพี่ไม่แบกโอ่งขึ้นหลังเลยวะ
เห้อะ....แต่น้ำหน้าอย่างพี่เจ๊น คงสะดุดรองเท้าแตะตัวเองโอ่งทับตายอยู่หน้าบ้าน
"สงกรานต์ปีนึงมี 3 วันเองจี๊ด หัดเพิ่มสีสันให้ชีวิตบ้างสิวะ มึงอะมัวแต่ทำตัวจืดชืด" เสียงบ่นลอยมาพร้อมกับเสื้อลายดอกสีชมพู "เอาไปใส่ แม่ซื้อมาให้ เขาไลน์มาสั่งให้มึงใส่"
"ไม่ใส่"
"มึงต้องใส่"
"ใส่ทำไม อยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้จะออกไปเล่นน้ำ"
"มึงดูกู ขนาดกูยังไม่เล่นน้ำตอนนี้กูยังใส่เลย"
"อืม แล้วก็แบกปืนฉีดน้ำตั้งสองกระบอก คือจี๊ดถามจริงนะ.... เพื่อ"
"ฉีดหน้ามึงนี่ไง" ว่าแล้วพี่เจ๊นก็ฉีดน้ำใส่ผมทันที อื้ออออ....เข้าตาโว้ย เข้าตาไม่พอ หน้าจอโทรศัพท์เปียกอีก
“โทรศัพท์เปียก” ผมคว้าหมอนอิงขว้างใส่พี่ชายตัวแสบก่อนจะเหลือบมองนาฬิกา “พี่จะไปเล่นน้ำกี่โมงอะ”
“เย็นๆ โน่นแหละ แต่พวกไอ้แป๊ะมันตั้งถังเล่นหน้าร้านพี่อาร์มตั้งแต่ช่วงสายละ ทำไม มึงจะไปเล่นด้วยอ๋อ”
ผมส่ายหน้ารัวๆ “ไม่เอาอะ เพื่อนพี่แต่ละคนมีแต่เถื่อนๆ เกิดไปกวนส้นตีนใครเขาเข้าแล้วมีเรื่องกันขึ้นมา จี๊ดจะได้ไม่โดนลูกหลง เพิ่งอายุ 17 เองอะ กลัวตาย”
“มึงจะตายเพราะปากดีเนี่ยแหละ” เจ้าตัวทำหน้าเหี้ยมใส่ ผมก็ยิ้มหวานให้ไปทีนึงก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตอบไลน์เพื่อนๆ ว่าจะไปเล่นน้ำที่ไหนรึเปล่าซึ่งแน่นอนว่าคำตอบที่ผมส่งกลับไปคือ....ไม่
ผมไม่ค่อยชอบเล่นน้ำสงกรานต์เท่าไหร่ซึ่งต่างจากพี่เจ๊นมาก เป็นพี่น้องกันแท้ๆ แต่ความชอบคือต่างกันสุดขั้ว ผมว่าเขาเป็นคนบ้าๆ บอๆ อะ การแบกปืนฉีดน้ำเดินไปมาในบ้านก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนอยู่ เหลือเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงแท้ๆ วางเอาไว้ก็ไม่หายหรอกเอาจริงๆ สงกรานต์ปีนี้ค่อนข้างเงียบเหงาเพราะว่าพ่อกับแม่ไปเยี่ยมป้าที่ต่างจังหวัด ตอนแรกผมก็อยากไปด้วยเพราะว่าอยู่ที่นี่ก็ไม่รู้จะทำอะไรไง
แต่พี่เจ๊นมันจะอยู่เล่นน้ำ
พอพี่เจ๊นบอกว่าจะอยู่เล่นน้ำ พ่อก็เลยบอกให้ผมอยู่กับพี่เจ๊นละกัน ฝากฝังอย่างดีให้ดูแลคนเป็นพี่ด้วย คือเดี๋ยวก่อนนะ จี๊ดเป็นน้อง พี่เจ๊นเป็นพี่ พี่อะควรดูแลน้องไหมวะ ทำไมทุกอย่างมันดูสวนทางกันไปหมดเลย แล้วแม่ก็เห็นดีเห็นงามกับการให้ผมอยู่บ้านเฝ้าพี่เจ๊น ทิ้งเงินไว้แล้วก็บอกว่าจะซื้อของฝากมาให้เยอะๆ เพราะงั้นอย่าเศร้าไปเลย
อืม....สุดท้ายจี๊ดก็ไม่มีทางเลือกนอกจากอยู่บ้านในช่วงสงกรานต์กับพี่ชายที่สติไม่ดี
“ถ้าจ้างวางปืนฉีดน้ำนี่กี่บาทอะ” ยิ่งมองยิ่งขัดหูขัดตา แถมมันยังเป็นอาวุธที่สามารถโจมตีผมได้ตลอดเวลาด้วยไง
“กูจะวางต่อเมื่อมึงเปลี่ยนไปใส่เสื้อลายดอก”
“มีปัญหาอะไรในการใส่เสื้อของน้องวะ”
“ก็แม่สั่ง เนี่ยะ เขาบอกให้กูถ่ายรูปมึงส่งไลน์ไปให้เขาดูด้วย ทำไม ทำเพื่อแม่แค่นี้เอง มึงคิดดูว่าแม่เลี้ยงมึงมาตั้งกี่ปี มึงดื้อใส่แม่เท่าไหร่ แม่ก็ยอมตลอด แค่มึงใส่เสื้อลายดอกให้แม่ดูแค่นี้ มึงทำไม่ได้อ๋อ ห้ะ”
จะดราม่าทำไมวะน่ะ
“เออ ใส่ก็ได้” ผมทำหน้ายับใส่ก่อนจะถอดเสื้อตัวเองออกแล้วหยิบเสื้อลายดอกสีชมพูมาใส่แทน “พอใจยัง”
“เออ ยิ้มหวานๆ ด้วย กูจะถ่ายรูปให้แม่ดู” ว่าแล้วพี่เจ๊นก็กดถ่ายรูปผมรัวๆ ก่อนจะเดินเอาปืนฉีดน้ำไปวางไว้บนโต๊ะ เออ สักทีกับอีปืนสองกระบอกนั้น ผมอาศัยจังหวะเขาเผลอแล้วเอาไปซ่อนดีไหมวะ
ให้พี่เจ๊นเอาขันไปเล่นแทน
หลังจากที่วางแผนร้ายไว้ในใจเสร็จผมก็หยิบโทรศัพท์กดเข้าไปในเฟซบุ๊ก แจ้งเตือนที่เยอะผิดปกติทำให้ผมกดเข้าไปดู มันเป็นสเตตัสที่ผมโพสเมื่อวานว่า....
อยากกินไก่ร้านป้านางแต่ไม่อยากเปียกน้ำ ซึ่งโพสนั้นมียอดกดไลก์ประมาณสี่ร้อยกว่า ยอดคอมเม้นต์ตอนนี้ประมาณเกือบร้อยละ อื้ม อะไรกันครับพวกคุณ แค่ผมบ่นอยากกินไก่แค่นี้จะต้องเป็นที่สนใจด้วยเหรอ
รู้สึกไม่ปลอดภัยเลยว่ะ
สถานะของผมในโรงเรียนสิริโชตวิทยานั้นคือประธานสภานักเรียนผู้เข้มงวด เป็นที่รักและที่เคียดแค้นของนักเรียนหลายๆ คน คนไม่น้อยที่รู้จักประธานจี๊ดและรอคอยโอกาสที่จะเล่นงานผมในช่วงเทศกาลสงครามน้ำแบบนี้ การที่ผมโพสว่าอยากกินไก่แต่ไม่อยากเปียก มันจะต้องมีคนมาขัดขวางการไปซื้อไก่ของผมแน่ๆ
แค่คิดจะก้าวขาออกจากบ้านก็รู้สึกเสี่ยงตายละ
เมื่อวานผมมีความรู้สึกว้อนทฺไก่ย่างมาก อยากกิน จะไปซื้อตั้งแต่เมื่อวานแต่พี่เจ๊นลากไปกินหมูกระทะ ความตั้งใจในการอยากกินไก่ยังมีอยู่และผมคิดว่าจะไปซื้อวันนี้ ร้านไก่ป้านางอยู่ไกลจากบ้านไป 10 กว่าซอย เป็นทางที่ผ่านโรงเรียนผมและซอยยิบย่อยเต็มไปหมด เป็นถนนสองเลนส์เส้นที่เขาจะเล่นน้ำกัน ซึ่งตอนนี้บ่าย 2 กว่าๆ แน่นอนว่าต้องมีคนเล่นน้ำแล้ว
ผมจะไปซื้อไก่ยังไงดีให้ไม่เปียก
“พี่เจ๊น”
“หืม....”
“ก่อนพี่จะไปเล่นน้ำ พี่ไปซื้อไก่ป้านางให้จี๊ดหน่อยดิ”
“ไม่เอาอะ กูอยากเห็นมึงโดนรุมสกรัมตอนไปซื้อไก่” เจ้าตัวชะเง้อคอมองคอมเม้นต์ใต้โพสในโทรศัพท์ผม “มึงดูเป็นที่รักของชาวบ้านดีเนอะ มีแต่คนอยากสาดน้ำใส่”
“อืม บางคนก็อยากทุ่มโอ่งใส่อะ แล้วพี่คือทำไมใจร้ายกับน้องวะ แค่ไปซื้อไก่ให้เอง ไหนๆ ตัวเองก็จะเปียกอยู่แล้วไหม”
“ก็กูอยากให้มึงเปียกด้วยไง”
“พี่เจ๊นนนน”
“ไอ้เจบอกมาว่าร้านป้านางมีโปรวันสงกรานต์ด้วยนะ ซื้อไก่ตัวนึงแถมไก่ครึ่งตัว ไม่รู้ว่าป่านนี้หมดรึยัง”
“ห้ะ!!!!!” ผมคว้าคอเสื้อพี่เจ๊นมาเขย่า “แล้วทำไมไม่รีบบอกให้ไวกว่านี้ห้ะพี่เจ๊น”
“แอ่ก....หยุดเขย่าคอกูสักที” เจ้าตัวจับแขนผมออก “เอาเวลาเขย่าคอกูไปซื้อไก่ดีกว่าไหม เดี๋ยวก็ไม่ได้แดกหรอก”
“เออ งั้นเดี๋ยวมา อย่าลืมเอารถเครื่องกลับมาด้วยนะ เนี่ยะ น้องต้องลำบากเดินไปซื้อไก่เลยเห็นไหม เพราะใคร เพราะพี่เจ๊นเอารถไปจอดไว้ร้านพี่อาร์มไง”
“บ่นเก่งชิบหาย มึงคิดเอานะ ถ้ามึงขับรถเครื่องไปอะมึงไม่รอดหรอก รึอยากเปียก”
“ไม่อยากเว้ย เดี๋ยวคอยดู จี๊ดจะกลับบ้านมาพร้อมไก่แบบตัวแห้งสนิท” ผมยักคิ้วให้พี่ชายสุดที่รักทีนึงก่อนจะหยิบของใส่ซองกันน้ำใบใหญ่ โอเค พร้อมละ ตอนนี้บ่าย 2 ครึ่ง ไก่อาจจะยังมีอยู่แต่คงต้องรีบหน่อย
“ไปดีมาดีนะ ขอให้เปียกยันไข่”
“พี่นี่แม่ง” ผมปาหมอนใส่เขาอีกครั้งก่อนจะเดินลงมา เอาล่ะ ขอเวลาเตรียมใจและวางแผนการเดินทาง 3 นาทีนะครับ
ผมออกมายืนอยู่หน้าบ้านตัวเองพลางมองซ้ายมองขวา คือแถวบ้านผมมันเป็นซอยใหญ่ติดๆ กัน และแต่ละซอยจะมีทางเชื่อมย่อยๆ ให้ทะลุไปถึงได้เกือบทั้งหมด ยันโรงเรียนผมอะ เดี๋ยวต้องวัดใจตอนเดินผ่านแถวโรงเรียนว่าจะโดนใครสาดน้ำใส่ไหม ไม่งั้นต้องทะลุสวนสาธารณะใกล้ๆ ไป แต่ไม่มั่นใจว่าจะรอดจากด่านลุงวินไหม ถ้าผมบอกเขาว่าไม่อยากเปียก ก็น่าจะปรานีผมหน่อยป้ะ เข้าใจว่าสงกรานต์อะ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนอยากเล่นน้ำสักหน่อย
พอ....เลิกดราม่าแล้วไปสักทีจี๊ด
หลังจากบอกตัวเองแบบนั้นผมก็ออกเดินทางเพื่อจะไปร้านป้านางทันที ความจริงผมจะไม่หวั่นใจว่าตัวเองต้องเปียกขนาดนี้เลยถ้าไม่เห็นพวกคอมเม้นต์ใต้โพส คือผมเป็นคนที่มีคนรู้จักเยอะในระดับนึง เพราะเป็นประธานนักเรียนด้วยส่วนนึงและก็เป็นเด็กกิจกรรมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผมมีเพื่อนอยู่ทุกห้องอะในสายชั้นม.5 พวกรุ่นพี่ก็รู้จักผมในฐานะน้องชายของพี่เจ๊นซึ่งเป็นประธานนักเรียนรุ่นก่อน
ไม่น่าเชื่อเลยเนอะคนบ้าๆ แบบนั้นอะ
เพราะแบบนั้นแหละมันก็เลยทำให้จี๊ดคนนี้เป็นที่รู้จักของคนไปทั่ว นี่ยังไม่นับรวมเด็กม.ต้นด้วยนะ บ่อยครั้งที่เดินสวนกันในโรงเรียนแล้วเขายกมือไหว้ ในใจก็ได้แต่ถามว่าใครวะเนี่ย คือบ่อยมากจริงๆ ผมรับไหว้ทุกคนที่ไหว้ผมแบบงงๆ เก็ทฟีลนี้ตอนตัวเองเป็นเด็กแล้วไหว้รุ่นพี่ที่รู้จักเหมือนกันนะ เข้าใจละว่าทำไมตอนนั้นเขาทำหน้างงๆ กัน อ๋อ เพราะจำไม่ได้นี่เองว่าเราเป็นใคร
ครืดดดด....ดดด ผมกดรับโทรศัพท์ก่อนจะเอาแนบหู “ฮัลโหล”
(ไม่เล่นน้ำจริงอ๋อวะ)
“ไม่เล่น มึงก็ไปเล่นสิ”
(ก็อยากให้มึงไปด้วย สงกรานต์อะ ปีนึงมันมีครั้งเดียวนะ)
“ทำไมมึงพูดเหมือนพี่เจ๊นเลยวะ”
(เออ กูอะพี่เจ๊นสอง แล้วตอนนี้มึงทำอะไรอยู่)
“กำลังเดินไปซื้อไก่ร้านป้านาง”
(มึงเปียกแน่ แค่บ้านไอ้โน่ตรงหัวมุมซอย 3 มึงก็ไม่รอดละ)
“ปากดีจริงๆ กูก็เข้าซอยย่อยก่อนถึงหัวมุมดิ”
(ได้ดิ เดี๋ยวกูบอกไอ้โน่)
“มึงไม่ต้องเลยนะไอ้เปิร์ก ให้กูไปซื้อไก่แบบสงบๆ เถอะ” คนตั้งใจจะไม่เปียกแล้วแท้ๆ อย่ามาทำลายความตั้งใจได้ไหมวะ
(เอาจริงๆ นะจี๊ด คือต่อให้มึงจะรอดไปจากด่านไอ้โน่อะ ไหนจะด่านน้องพลอยตรงซอย 8 อีก ด่านนั้นเด็ดมาก ขาวไปหมด แก๊งค์น้องพลอยคือแจ่มมาก ใส่ผ้าถุงกับเสื้อคอกระเช้าด้วย โคตรน่ารัก)
“กูไม่ได้ชอบผู้หญิง”
(เออกูรู้แล้ว แต่ก็แค่อยากเพ้อให้ฟัง แหม คือต่อให้มึงจะไม่ได้ชอบผู้หญิงก็เถอะ แต่หน้าแบบมึงอะผู้หญิงชอบ แล้วอีกอย่างมึงมันเหมือนโจรมีค่าหัว ใครๆ ก็อยากตามล่าทั้งนั้นในช่วงสงกรานต์)
“มึงพูดจาเป็นเว่อร์ว่ะ กูก็คนทั่วไปป้ะวะ เออว่าแต่มึงรู้ได้ไงว่าน้องพลอยเขาตั้งด่านอยู่ซอย 8 ”
(เมื่อเที่ยง กูไปซื้อข้าวกับไอ้ปันมา ก็เลยขับรถวนไปดูว่ามีใครตั้งเล่นแถวไหนบ้าง ก็นั่นแหละ ไอ้โน่ซอย 3 น้องพลอยซอย 8 ด่านลุงวินตรงสวน มีของพี่เทียนหน้าร้านช่าง แล้วก็ถนนตรงหน้าโรงเรียนเรา ด่านใหญ่สุดตรงร้านพี่อาร์ม คือเยอะชิบหาย ถ้ามึงรอดจากทุกที่ไปได้ มึงน่าจะตายตรงนั้นแหละ)
“อืม กูก็ว่างั้นแหละ ทำไมแถวนี้คนเล่นเยอะจังวะ”
(รู้แบบนี้แล้ว มึงจะถอดใจไม่ไปซื้อไก่ป้ะล่ะ)
“ไม่มีทาง วันนี้ไก่ป้านางแถมครึ่งตัวด้วย กูจะกิน กูอยากกินตั้งแต่เมื่อวานละแต่พี่เจ๊นแม่งพาไปแดกหมูกระทะ”
(เออ แล้วเนี่ยะ มึงเห็นโพสพี่เจ๊นยัง)
“โพสไรวะ”
(มึงเข้าไปดูเองละกัน เออ ถ้าเปลี่ยนใจอยากเล่นน้ำก็มาบอกพวกกู)
“เออ แต่คงไม่เปลี่ยนใจหรอก แค่นี้แหละ” ผมวางสายก่อนจะกดเข้าไปในเฟซบุ๊ก สเตตัสของพี่ชายตัวแสบแจ้งอยู่หน้าฟีด ทันทีที่ผมเห็นก็คืออยากจะกรีดร้องออกมาให้ดังที่สุดเท่าที่ชีวิตจะทำได้
ไอ้จี๊ดกำลังไปซื้อไก่ ใครทำให้น้องกูเปียกได้ เอาไปเลย 2 พัน....เจอกันร้านพี่อาร์ม
แม่ง....ไอ้ห่าพี่เจ๊น
ทำงี้กับน้องได้ไงวะ
กลายเป็นคนมีค่าหัว 2 พันตามที่ไอ้เปิร์กพูด ขอบใจพี่ชายสุดที่รักมากที่ทำให้การไปซื้อไก่ของผมลำบากขึ้นไปอีก 3 เท่า ช่างแม่งเถอะ เดี๋ยวถ้าเจอด่านดักจริงๆ ค่อยหาวิธีการเอาตัวรอด ผมเดินมาเรื่อยๆ ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยย่อยของซอย 2 เพื่อที่จะไม่ผ่านหัวมุมที่มีด่านไอ้โน่อยู่ หันไปมองหน้าซอย 3 ก็คือมีกลุ่มเด็กยืนสาดน้ำใส่กันอย่างบ้าคลั่ง รอดไป 1 ด่านแบบเนื้อตัวแห้งสะอาด
มันอาจจะไม่ยากอย่างที่คิดก็ได้
ผมเดินลัดเลาะตามซอยมาเรื่อยๆ จนถึงซอย 7 ในจังหวะที่กำลังจะเดินผ่านก็ได้ยินเสียงแว่วดังเข้าไปมา หันไปมองก็พบเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ ที่ถือขันอันจิ๋วอยู่ในมือ คุณแม่ของเขานั่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับถังใสน้ำใบเล็กๆ
“พี่คะ”
“ว่าไงคะ” ผมเดินเข้ามาน้องตัวเล็ก “เรียกพี่ทำไมหืม....”
“ขอรกน้ามหน่อยได้ไหมคะ”
ผมหลุดยิ้มให้กับความน่ารักนั้น “ได้ค่ะ แต่แค่มือนะคะ” ว่าแล้วผมก็ยื่นมือไปทางเขา มือเล็กเทน้ำลงบนมือผมพร้อมกับยิ้มหวาน
“ขอบคุณค่า”
“สวัสดีปีใหม่ไทยนะคะ” ผมยิ้มหวานให้น้องตัวน้อยกับแม่ของเขาก่อนจะเดินมาจากตรงนั้น โว้ยยยย น่ารักจัง ถ้ามีลูกก็อยากมีลูกสาวหน้าตาน่ารักแบบนี้นี่แหละ
แต่มันคงเป็นเรื่องยากเพราะผมไม่น่ามีลูกได้
ผมเดินต่อพลางคิดอะไรไปเรื่อยยเปื่อย กำลังจะเข้าซอย 8 ซึ่งมีด่านน้องพลอย ด่านที่มีแต่ผู้หญิงและไอ้เปิร์กเพื่อนผมดูชอบอกชอบใจมาก น้องพลอยคือรุ่นน้องที่เป็นหลีดฯ คณะราชาวดี เป็นคนน่ารัก เพื่อนๆ แก๊งค์น้องก็เอาเรื่องอยู่ มีน้องคนนึงในกลุ่มน้องพลอย ชอบพี่เจ๊นมาก แต่คือพี่ชายผมไม่สนใจใครนอกจากเพื่อนและตัวมันเองไง ก็เลยเป็นโสด เททุกคนที่เข้ามาในชีวิต
เหมือนหล่อมากเลยนะคนนี้
ด่านของน้องพลอยกำลังทำสงครามกับรถกระบะที่มาจอดเทียบ ผมเห็นแบบนั้นจึงอาศัยจังหวะชุลมุนรีบเดินเลี้ยวเข้าซอยย่อยทันทีแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอกับใครบางคนที่เดินสวนมา
ชิบหายละ
“อ้าววววววววววว พี่จี๊ดดดด”
ผมยิ้มแห้งๆ ทันที “น้องกิ๊ฟ”
“เห้ย ร้อยวันพันดีไม่เคยเรียกน้องกิ๊ฟ” มือบางล้วงแป้งที่อยู่ในถัง “วันนี้วันสงกรานต์พี่จี๊ด”
“เออพี่รู้ แต่น้องมึงใจเย็นๆ ก่อน” ผมมองรุ่นน้องคนสวยที่ทำงานในสภานักเรียนด้วยกันอย่างหวาดหวั่น คือในมือมันอะถังแป้ง ไม่เปียกแน่ๆ แต่กลัวจะเลอะนี่ดิ
“หนูไม่ขอไรมากพี่จี๊ด ขอปะแป้งนิดเดียว”
“ปะที่ไหน”
“หน้าดิ”
“ปะหน้าไม่ได้ หน้ามีไว้ให้คนพิเศษปะ”
ใบหน้าหวานหัวเราะอย่างชอบใจ “ใครรร คนพิเศษอะใคร”
“มึงก็รู้ไหม” ผมยื่นมือไปตรงหน้าน้อง “หลังมืออะปะได้ ที่อื่นห้าม เร็วๆ เดี๋ยวคนอื่นเห็นกู”
“พี่แม่ง” กิ๊ฟใช้แป้งเขียนรูปหัวใจบนหลังมือผม “นี่ถือว่าหนูปรานีพี่นะ เปิดเทอมเลี้ยงหนมน้องด้วย อะหนิพี่ ถุงดินสอพอง หนูให้ เผื่อพี่อยากปะแก้มคนพิเศษ” มันส่งถุงแป้งมาให้
“เออขอบใจ กูไปก่อน เดี๋ยวไก่หมด” ผมผลักหัวคนสวยไปทีนึงก่อนจะเดินเข้าไปที่ซอย 9 แล้วลัดเลาะไปฝั่งท้ายสวนสาธารณะเพื่อหลบหลีกด่านลุงวิน
ดีนะที่ตรงนั้นเจอไอ้กิ๊ฟน่ะ ถ้าเจอคนอื่นนี่ผมคงเปียกไม่ก็เลอะแป้งมากกว่านี้แล้ว ตอนนี้ด่านที่น่าหวั่นใจต่อไปคือด่านพี่เทียนหน้าร้านช่างก่อนถึงโรงเรียน ผมซื้อของร้านพี่เทียนโคตรบ่อยเลยตอนกีฬาสี เขาเป็นศิษย์เก่า เรียนจบไปแล้วหลายปี เวลาผมไปซื้อของเขาชอบลดโน่นนี่ให้ บางครั้งก็แถมของ หวั่นใจมากเลยว่าจะไม่รอดจากด่านนี้
เอาน่ะจี๊ด....ผ่านมาได้ตั้งเท่าไหร่ นี่ก็ครึ่งทางแล้ว อีกนิดเดียวเอง
ผมชะเง้อคอมองอยู่หลังตู้ไปรษณีย์ใหญ่ที่ตั้งอยู่ พี่เทียนและผองเพื่อนเปิดตี้เล่นน้ำกันเป็นวงกว้าง แบบนี้จะผ่านไปได้ยังไงวะ ถ้าไม่เข้าซอยย่อยนั้นก็ต้องออกไปทางถนนใหญ่ และแน่นอนว่าต้องเจอคนที่เล่นน้ำเยอะมาก พอเป็นแบบนั้นผมก็จะเปียกแบบย่อยยับ หรือจะใช้การเจรจาเพื่อขอผ่านไปแบบประนีประนอม
ทำไงดี
“แอบใครอะ”
เสียงนี้มัน....
“พะ....พี่ธูป” ผมหันตามเสียงก็พบร่างสูงที่สวมแค่กางเกงยีนส์ตัวเดียวถือขันเปล่าอยู่ในมือ “ทำไมไม่ใส่เสื้ออะ อนาจารนะเนี่ย”
“มึงไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง” เจ้าตัวคล้องคอผมเอาไว้ คือตัวพี่น่ะมันเปียกไง ทำแบบนี้น้องก็เปียกไปด้วยไหมล่ะ
“พี่อย่าล็อกคอจี๊ดสิ ปล่อยก่อน....นะ”
“ค่าหัวมึง 2 พันเลยนะวันนี้”
“พี่อย่าไปเล่นตามพี่เจ๊นมัน ให้น้องไปซื้อไก่แบบสงบๆ เถอะ”
“เห้ย สงกรานต์ก็ต้องเล่นน้ำดิ” ร่างสูงลากให้ผมออกจากหลังตู้ไปรษณีย์ก่อนจะหันไปทางเพื่อนๆ ในด่านพี่เทียน “พวกมึง!!!! กูเจอไอ้จี๊ด”
เหี้ยละ
ผมใช้แรงที่มีดิ้นจากการถูกล็อกก่อนจะวิ่งหน้าตั้งผ่านด่านร้านพี่เทียนไป เสียงโหวกเหวกโวยวายดังลั่นตามมาข้างหลัง พวกเพื่อนๆ พี่เทียน รวมถึงพี่ธูปวิ่งตามเอาน้ำสาดผมอย่างเอาเป็นเอาตาย เอาเซ่ เจอสเต็ปหลบน้ำของน้องจี๊ดสักหน่อย ขันแรกผ่านไป ขันสองขันสามค่อยๆ ผ่านไป พวกพี่มึงหลงผิดแล้วที่มาไล่สาดน้ำน้อง โถ่เอ๊ย เปลืองน้ำเปล่าๆ อะขอบอก
“ไอ้จี๊ด!!!!!”
“แฮ่ก.....” ผมเลี้ยวเข้ามาในซอยเล็กก่อนจะวิ่งเข้ามาแอบหลบในบ้านหลังนึงซึ่งประตูหลังถูกเปิดเอาไว้ ขอแค่แป๊บเดียวเท่านั้น ให้พี่เทียนมันวิ่งไปทางอื่นก่อน
“มันหายไปไหนแล้ววะ โคตรไวเลย” ผมมองผ่านซอกประตูก็เห็นพวกพี่ๆ วิ่งไปอีกทาง เฮ้อ....ค่อยยังชั่ว รีบออกไปก่อนที่เจ้าของบ้านจะด่าเถอะจี๊ด
“ทำอะไรอะ”
เสียงเข้มเอ่ยขึ้นด้านหลัง มันเป็นเสียงที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี ตอนวิ่งมาก็ไม่ได้ดูหรอกว่าเข้ามาหลบที่บ้านใคร แต่ตอนนี้รู้แล้วครับ ขนาดไม่ต้องหันกลับไปมองยังรู้เลย
“.....พี่เปรี้ยว”
“ทำไมมาอยู่นี่”
“คือจะไปซื้อไก่”
“แล้ว....”
“ก็โดนพวกพี่เทียนวิ่งไล่จะเอาน้ำสาดอะ เห็นประตูบ้านเปิดอยู่เลยเข้ามาหลบแป๊บเดียว เนี่ยะ เดี๋ยวไปละ” ผมหันหลังจะออกทางประตูหลังแต่แขนโดนคว้าไว้ก่อน
“ไปทางนี้เดี๋ยวก็เจอพวกพี่เขาอีกหรอก จะไปซื้อไก่ใช่ป้ะ เดี๋ยวกูพาไป” มือเรียวปิดประตูหลังก่อนจะลากผมมาเข้ามาในบ้าน
พี่เปรี้ยวเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนผมเอง เป็นคนที่มีเรื่องให้เข้าห้องปกครองบ่อยมาก วีรกรรมเยอะ ติดลิสต์ตัวแสบเลยล่ะครับ ผมมองร่างสูงที่สวมเสื้อฮาวายสีขาวลายใบไม้ชมพูเดินหยิบโน่นจับนี่ใส่ซองกันน้ำ แล้วกดอะไรยุกยิกในโทรศัพท์ก็ไม่รู้ เขาเป็นคนหน้าตาดีมากเลยในสายตาของใครหลายคนรวมถึงผมด้วย คิ้วเข้ม จมูกโด่ง แถมยังสูงโปร่งอีก คงเพราะเล่นกีฬานั่นแหละ
ผมอยากสูงให้มากกว่านี้จัง
อยากลองมองเขาในระดับสายตาเดียวกันดู
“เออจี๊ด ไปหยิบถุงที่อยู่บนโต๊ะหลังบ้านให้หน่อยดิ กูรอที่รถ” เขาสั่งก่อนจะเดินออกไปหน้าบ้าน ส่วนผมก็ไปหยิบถุงแล้วออกมาหาเขา
“พี่จะเอารถเครื่องไปอ๋อ”
“ใช่ดิ”
“ก็เปียกอะดิ แค่เข้าหน้าโรงเรียนก็เปียกแล้ว”
“นี่ไง” มือเรียวคว้าถุงก่อนจะหยิบเสื้อกันฝนในนั้นออกมาแล้วสวมให้ผม “มึงใส่เสื้อกันฝน มึงก็ไม่เปียกแล้ว”
“แต่มันร้อนอะ”
“เรื่องเยอะจัง”
“เรื่องเยอะไม่ได้เหรอ”
“มึงก็รู้ว่าได้หรือไม่ได้” เจ้าตัวเขี่ยผมที่ปรกหน้าผมออกให้ “ไม่ต้องกลัวเปียกหรอก ใครสาดน้ำใส่มึง กูจะกระทืบให้เอง”
“ไม่ได้ ห้ามมีเรื่องสิ” ผมทำหน้ามุ่ยใส่ “แล้วทำไมอยู่ดีดีพี่ก็จะพาจี๊ดไปซื้อไก่อะ”
“กลัวมึงโดนรุมสกรัมตาย” ร่างสูงขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์
“ถ้ามึงตายไป....กูจะจีบใครล่ะ” ตึกตัก
คำพูดคำจา
---------- มีต่อ ----------