12 สิงหาคม 2551
วันแม่
เช้า นำพวงมาลัยไปไหว้แม่
แล้วเซ่น ด้วยกระเป๋า ราคาไม่แพงมาก หนึ่งใบ
แม่บ่นใหญ่ ว่าไม่เห็นจำเป็นเลย
แต่ก็เห็นแม่ สะพายทั้งวัน
เฮ้อ..
สายๆ ก็ไปหาแม่(เขา)ที่บ้าน
นำพวงมาลัยไปไหว้แม่(เขา) แล้วเซ่นด้วยของขวัญเล็กน้อย
เขาไม่มองหน้าผมเลย
เพื่อนก็แอบจับมือให้กำลังใจ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเรียก แต๊ะอั๋ง
มันรู้สึกแปลกๆ เหมือนยังไม่ชิน
ที่จู่ๆ ได้รู้ว่า เพื่อนคิดกับเรามากกว่าเพื่อน
แต่ก็อยากอยู่ด้วย
เพราะมีความรู้สึกที่ดี
เที่ยงตรง
ฝนก็ยังตก
สองบ้าน นัดทานข้าวกันอีก
เขาก็ไม่มองหน้าผมเหมือนเดิม
แต่ผมก็ไม่ได้จะทำอะไรไปมากกว่านี้หรอก
แค่นี้ก็ดีแล้วมั้ง
บางครั้ง ก็คิดสับสนตัวเอง
ใจมันแล่น ไวกว่าความคิดเสียอีก
ตามที่ตั้งใจไว้ วันแม่นี้ เสียน้ำตาให้แม่ ในวันแม่
ไม่เสียน้ำตาให้ใคร ในวันนี้
มองหน้าเพื่อน แล้วคิดในใจ
ว่าจะดีเหรอ ถ้าผมกับเพื่อนจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้
แต่ตั้งใจว่า ก็จะยังทำตัวเหมือนเดิม
แต่เรื่องบางเรื่อง อาจจะไม่เหมือนเดิม
ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามเรื่องของมัน
นะ ความรัก
พี่ชายควักแบงค์เทาใส่มือหลายใบอยู่
ตอนแรกก็นึกดีใจ ว่าพี่ชายใจดี ให้เงินใช้
แต่ที่ไหนได้ ฝากซื้อแผ่นหนังที่ตลาดมืด คลองถม
แว่วๆ มา เพื่อนตัวดีไปโม้ให้ฟังเสียเยอะ
คิดในใจว่า แค่นี้ของพี่ชายยังไม่เยอะอีกหรือ
ดีใจที่เพื่อนเข้ากับพี่ชายได้
แต่กับเขา คงไม่
เย็นๆ โพล้เพล้
แม่..
แม่:ดูแลตัวเองนะลูก คิดถึงโทรมานะ
พ่อ:กินข้าวเยอะๆ ล่ะ ดูสิ ผอมไปหมดแล้ว
แม่(เขา): ดูแลลูกแม่ด้วยนะเดฟ อย่าให้เเค้าเถลไถลล่ะ
พี่ชาย: อย่าลืมของ
กอดขี้นเครื่อง กอดพี่ชาย กอดพ่อ กอดแม่ทั้งสอง
รักทุกคนมากนะครับ
ลำใหญ่ พา สู่ กรุงเทพฯ
มีเพียงการสนทนาระหว่างผมกับเพื่อน
แต่ไม่มีเสียงจากเขา
เหมือนไร้ตัวตน
เอาเหอะ เป็นอย่างนี้ก็อาจจะดี
อย่างน้อยก็มีคนอยู่เคียงข้าง
แล้วเพื่อนคนนี้ล่ะ จะเรียกว่าอะไรดี เพราะมันกำลังจะมากกว่าเพื่อนแล้ว
เรียกว่า เพื่อนรักดีไหม
วันนี้
กรุงเทพ ฝนตกไหม