ทุกอย่างมันก็เป็นไปตามกฎแห่งกรรม ไม่มีอะไรยั่งยืน ความสุขอยู่กับเราได้ไม่นาน ช่วงนั้นพวกผมชอบโทรศัพท์ติวหนังสือกัน ความจริงแล้วมันเป็นข้ออ้างของผมที่จะได้คุยโทรศัพท์กับบาสนานๆโดยที่ที่บ้านไม่บ่น เวลาติวกันปกติก็จะมีแค่ผมกับบาสและบางครั้งก็จะมีเพื่อนบาสอีกคนชื่อเป้ เป้เป็นเพื่อนสนิทบาส อยู่ห้องเดียวกับบาส ผมไม่ค่อยรู้จักเป้แต่ก็คุยกันได้
เรื่องมันเริ่มมาจากผมช่วยติวน้องสาวของเป้ชื่อแป้ง ไม่บ่อยหรอกครับ แค่ 2-3 ครั้งก่อนแป้งสอบ ผมไม่เคยเห็นแป้งแต่ใครๆก็บอกว่าแป้งน่ารัก แป้งเป็นเด็กเรียบร้อยครับไม่เหมือนพี่ชาย พูดกับผมลงท้ายคะ-ขาตลอด ผมก็เอ็นดูแป้งเหมือนน้องคนหนึ่ง แต่มันก็มีบางครั้งที่แป้งเข้ามาอยู่ในสายช่วงที่ผม บาส เป้ติวหนังสือกัน
แรกๆผมก็ไม่รู้สึกอะไรจนมาช่วงหลังผมเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างในนำ้เสียงเเละบทสนทนาของแป้งกับบาส จนวันหนึ่งแป้งก็มาถามผมว่าบาสมีแฟนหรือยัง ผมเข้าใจคำถามของแป้งดีครับ แต่จะให้ผมพูดอะไรในเมื่อความสัมพันธ์ของเราสองคนมันเป็นความลับ ผมทำได้แค่ตอบแป้งไปว่ามีแล้วมั้ง เห็นชอบหลบไปคุยโทรศัพท์บ่อยๆ
แป้งไม่ได้มาพูดให้ผมเป็นพ่อสื่อให้ แต่แป้งไปพูดกับเป้ เป้มันก็ไม่รู้เรื่องอะไรมันก็เลยไปกระซิบบอกบาส แป้งเริ่มเข้ามาในชีวิตผมมากขึ้น จนในที่สุดแป้งก็ขอมาเรียนพิเศษวันเสาร์กับพวกผมที่โรงเรียน ผมเองก็อยู่ในสถานะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะอีกคนหนึ่งก็น้องเพื่อน แต่ที่ทำให้ผมเสียใจมากที่สุดคือท่าทีของบาสที่เปลี่ยนไป บาสให้ความหวังแป้ง ทำเหมือนว่าตัวเองก็ชอบแป้งอยู่เหมือนกัน เพื่อนในกลุ่มบาสก็ยุ แล้วบาสก็ทำเหมือนจะเอาจริง ผมหึงมากครับ หึงถึงขั้นลุกออกไปจากโต๊ะก็เคยมี ผมไม่รู้จะทำยังไง จะไปพูดกับแป้งก็เหมือนเอาเรื่องตัวเองไปประจาน พอผมพูดกับบาส เราสองคนก็ทะเลาะกัน
ผมไม่รู้ว่าบาสคิดอะไรอยู่ ผมไม่อยากทะเลาะกับบาส ผมรักบาสมากครับ เวลาทะเลาะกันผมก็เสียใจ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ บางคืนผมคิดมากตี 3 แล้วผมยังไม่หลับ ไม่รู้จะทำยังไง ผมเลยแอบเอาเหล้าที่บ้านมากินจะได้มึนๆแล้วนอนหลับ ถ้าถามว่าทั้งที่ผมก็มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับบาส แต่ทำไมผมถึงไม่แสดงความเป็นเจ้าของบาส อย่างแรกคือบาสไม่ชอบให้ผมแสดงออกว่าหวงหรือหึง แล้วยิ่งผมแสดงออกถึงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ เป็นเรื่องทุกทีครับ
ผมรักบาสครับ อะไรที่ทำให้เราสองคนไม่ต้องทะเลาะกันผมยอมทำหมด แม้ว่าตัวเองจะเจ็บก็ตาม เหตุผลต่อมาที่ทำร้ายจิตใจผมเหลือเกินคือแล้วผมเป็นอะไรกับบาสล่ะครับ แฟนกันเหรอ??? บาสไม่เคยขอผมเป็นแฟนและผมก็ไม่เคยเรียกร้องสถานะอะไรจากบาส เราสองคนไม่เคยคุยกันว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันเรียกว่าอะไร
ช่วงหลังผมแทบไม่ได้คุยโทรศัพท์กับบาสเลย บาสไม่ค่อยโทรหาผม พอผมโทรไปบาสก็คุยกับแป้งอยู่ ผมเลยจำใจต้องวางสาย บางครั้งคุยกัน บาสก็ link แป้งเข้ามาด้วย ถ้าคุยกันสองคนผมจะแทนตัวเองว่านิว บาสก็แทนตัวเองว่าบาส แต่พอมีแป้งเข้ามาผมก็ต้องพูดกรูมรึง
หนักๆเข้าบาสทำอะไรไม่เกรงใจผมเลยครับ บางเสาร์พวกเรามากินข้าวกลางวันด้วยกันที่โรงอาหาร บาสก็ไปรอแป้งหน้าห้องแล้วไล่ให้ผมไปจองโต๊ะ แค่เห็นภาพบาสกับแป้งเดินมาด้วยกันผมก็น้ำ้ตาซึมแล้ว จากที่เคยนั่งข้างผม สบตาผม ยิ้มให้ผม ตอนนี้บาสไม่ทำแล้วครับ บาสไปนั่งข้างแป้ง ไม่รู้ว่าผมคิดมากไปเองหรือเปล่าแต่ผมรู้สึกว่าบาสพยายามไม่อยู่ใกล้ผมต่อหน้าแป้ง พยายามทำกับผมเหมือนเพื่อนธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ บางครั้งผมนั่งอยู่ตรงนั้นแท้ๆ บาสกลับพูดหยอดน้องแป้งต่อหน้าผมเหมือนผมไม่มีตัวตนตรงนั้น บาสซื้อน้ำซื้อขนมให้น้องแป้ง เดินถือกระเป๋าให้ แต่กับผมบาสแทบไม่ชายตามองด้วยซ้ำ เวลาไปไหนกันเป็นกลุ่มผมก็มักจะเดินรั้งท้าย
แต่แม้ทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ ผมก็ยังยอมที่จะมีอะไรกับบาสเหมือนเดิม มันเจ็บนะครับที่จะต้องมีอะไรกับคนที่เขาไม่ได้รักเรา เวลามีอะไรกันบาสไม่อ่อนโยนกับผมเหมือนเดิม หลายครั้งบาสกัดคอผมจนขึ้นห้อเลือด บางครั้งบาสก็ให้ผมช่วยแต่พอเสร็จบาสก็ทิ้งผมให้อารมณ์ค้างอยู่อย่างนั้น ผมไม่รู้ว่าบาสมองเห็นผมเป็นตัวอะไร อย่างน้อยผมก็เป็นเพื่อน ผมก็คนนะครับ มีศักดิ์ศรีเหมือนกันแต่ก็เพราะความรักล่ะครับที่ทำให้ผมยอมบาสทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งทำร้ายตัวเอง
ยอมรับครับว่าจากที่เคยเอ็นดูน้องแป้ง ตอนนี้ผมเกลียดน้องแป้งแทบขาดใจ ผมเลิกรับโทรศัพท์น้องแป้งแล้วแต่พอเจอหน้าผมก็ต้องทำดีด้วยเพราะบาสเข้าข้างน้องแป้ง สุดท้ายผมก็ทนไม่ไหวไปคุยกับเป้ เป้มันก็ยอมรับว่าแรกๆมันก็สงสัยว่าผมกับบาสคบกันอยู่ แต่พอมันถามบาส บาสก็บอกว่าเปล่า ตอนนี้ไม่ได้คบกับใคร เป้มันก็เข้าใจนะครับ มันขอโทษผมที่ดึงเอาน้องแป้งเข้ามาเป็นมือที่สาม ผมบอกเป้ว่าเห็นใจผมเถอะ ผมรักบาสมาก ไหนๆเป้ก็รู้ความจริงแล้วว่าผมมาก่อนช่วยดึงน้องแป้งออกไปที เป้ก็สัญญาว่าจะช่วยแต่สุดท้ายมันก็จนใจ เพราะไม่รู้จะพูดกับน้องตัวเองว่ายังไง ประกอบกับบาสเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายไปจีบน้องแป้งก่อน
ผมทำอะไรไม่ได้เลย มันเหมือนต้องยืนอยู่เฉยๆให้คนอื่นตบหน้า ผมเหมือนสุนัขจนตรอก จนกระทั่งสุดท้ายผมก็เลิกทำตัวเป็นคนดี ผมยื่นคำขาดให้แป้งเลิกยุ่งกับบาสและไม่บอกเหตุผลอะไรกับแป้งสักอย่าง
“แป้ง ถ้ายังเห็นว่าพี่เป็นพี่แป้งอยู่ เลิกคบกับพี่บาสซะ” ผมจำประโยคที่ตัวเองพูดได้ดี ตอนนั้นผมพูดไปเพราะอารมณ์จริง ๆพูดจบผมก็ตัดสายแป้งไปเลย ไม่นานบาสก็รู้เรื่อง
จำได้ว่ามันเป็นตอนเย็นหลังเลิกเรียน บาสโทรนัดผมให้รอที่ห้องเรียน บาสนัดผมเย็นมาก ตอนนั้นเพื่อนๆในห้องกลับกันหมดแล้วครับ พอเห็นหน้าผมบาสก็ตรงเข้ามากระชากคอเสื้อแล้วผลักผมไปชนกับกำแพง จุกครับจุกจนหายใจแทบไม่ออก
“มรึงจะเอายังไงกับกรู” บาสหน้าตาน่ากลัวมาก ผมเคยเห็นหน้าแบบนี้เฉพาะตอนที่บาสมีเรื่องกับคนอื่นแต่ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งบาสจะมาทำหน้าแบบนี้ใส่ผม
“บาสนั่นแหละจะเอายังไงกับนิว” ผมร้องไห้ครับ เจ็บและเสียใจ ทุกอย่างที่บาสทำกับผมมันใช่สิ่งที่คนรักกันทำให้กันเหรอ บาสคนที่ผมรู้จักสุภาพและอ่อนโยนกับผมมากกว่านี้ เราทะเลาะกันอย่างรุนแรง มันมีอยู่ประโยคหนึ่งที่ผมจำได้จนมาถึงวันนี้
“มรึงมีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับชีวิตกรู” ผมอึ้งไปเลยครับพอได้ยินประโยคนี้ บาสโมโหมากผลักผมอัดกำแพงอีกรอบแล้วชกมาที่ผม ผมว่าเขาเล็งที่หน้าผมนะแต่ผมหลบทันหมัดมันเลยโดนต้นแขนผมเต็มๆ เจ็บเหมือนกระดูกหักเลยครับ ผมทรุดลงนั่งกับพื้นแต่บาสก็ไม่สนใจ เดินออกจากห้องไปต่อหน้าต่อตาผม
เช้าวันต่อมาผมยืนมองตัวเองในกระจกหน้าตา มันเหมือนวันที่ผมได้ยินความจริงจากปากเอไม่มีผิด ตาผมบวม จมูกแดง ที่แก้มมีคราบน้ำ้ตา ผมหลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าเมื่อคืนผมร้องไห้หนักมาก หนักจนชนิดที่ไม่น่าเชื่อว่าร่างกายของคนเรามันจะสร้างน้ำ้ตาได้มากขนาดนี้ แขนผมปวดไปหมด ตรงที่บาสต่อยมันขึ้นเป็นรอยช้ำ้ดวงใหญ่มากมันใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่ารอยช้ำนั้นจะหายไป
หลังจากวันนั้นบาสก็ไม่พูดกับผมอีก ผมมานั่งคิดว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดมาจากอะไร ความรักมันทำให้ผมตาบอด ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมว่าบาสเป็นเพื่อนที่ดีมากสำหรับผม และผมก็คิดว่าถ้าเราเลื่อนสถานะขึ้นมา บาสก็คงดูแลผมดีเหมือนตอนที่เราเป็นเพื่อนกันแต่ผมลืมไปครับ ลืมไปว่าเพื่อนสนิทของผม “เจ้าชู้”