แวะมาแปะเป็นสารบัญนะคะ เรื่องนี้เขียนไป 3 ตอนแล้วค่ะ แบบจบในตอน
ตอนที่ 1 เป่ายิ้งฉุบตอนที่ 2 เป่ายิ้งฉุบ ภาคเอาคืนตอนที่ 3 จูบนั้นสำคัญไฉน?นิยายที่ลงไปแล้วในบอร์ดนี้ เผื่อสนใจอยากอ่านเพิ่ม:
Special Triple (จบ),
Absolution cafe (จบ),
สืบเสน่หา (จบ),
หรรษาฆาตกรรม (TBC)เรื่องสั้น (จบแล้วทุกเรื่อง):
ทายาทมรณะ,
Full moon night,
Give me your hand,
เรื่องอย่างว่าของเซี่ยเอ๋อร์===========================
เป่ายิ้งฉุบวันนี้อากาศร้อนจริง ๆ ผมนัดกับเจ้านัทมาทำการบ้านด้วยกันที่บ้านของมัน เพราะบ้านมันติดแอร์ทั้งหลังเผื่อสมองจะได้แล่นมากขึ้นบ้าง จะว่าไปก็มีแต่เจ้านัทนี่แหละ ที่พ่อกับแม่ยอมให้ผมมาค้างแรมนอกบ้านได้ สงกรานต์พึ่งจะผ่านพ้นไปแต่การบ้านกองมหึมากลับไม่ยอมเสร็จไปด้วย และนั่นล่ะปัญหาของเราสองคนล่ะครับ
ผมก็ไม่ได้อยากจะมาค้างบ้านเจ้านัทนักหรอก เพราะมันชอบแกล้งผมอยู่เรื่อย แต่ว่าเพราะไม่มีใครยอมจับคู่ทำงานกับมัน ผมที่เวทนามันอยู่เลยจำใจต้องยอมคู่ให้ นี่ถ้าไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ตั้งแต่อนุบาล 1 ของพวกเรา ผมไม่มีวันยอมหรอกนะ คิดดูสิครับ ปกติแล้ว เจ้านัทมันจะชอบนั่ง ๆ นอน ๆ แล้วปล่อยให้คนอื่น ทำงานแทนมัน แล้วแบบนี้ ใครจะอยากคู่ด้วย
“นายน่ะไม่รู้อะไรสิเนย ฉันจะบอกให้ คนเราอ่ะนะ ถ้าจะเรียนเพื่อเป็นเจ้าคนนายคน ต้องหัดนั่ง ๆ นอน ๆ ชี้นิ้วสั่งอย่างเดียวเอาไว้ ขืนทำมากกว่านั้น ก็ไม่ใช่เจ้านายแล้วสิ พ่อฉันบอกมางั้น”
คำพูดมันกวนมั้ยครับ บางทีฟังดูเหมือนมีเหตุผล แต่คิดไปคิดมา เหตุผลของมันก็คือ ‘มันขี้เกียจ’ นั่นแหละ ถึงแม้ว่าพ่อมันจะเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีก็เถอะ แล้วครอบครัวมันก็รวยมากเสียด้วย
เจ้านัทตัวใหญ่กว่าผม แข็งแรงกว่า แถมยังมีรอยยิ้มยียวนมากเสียด้วย เพื่อนผู้หญิงในห้องผมกรี๊ดมันนัก ทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากส่งยิ้มหวานไปให้ ไม่สิ ในสายตาผม ยิ้มนั่นกวนประสาทมากกว่าหวานเสียอีก และตอนนี้ มันก็กำลังยิ้มแบบนั้น ตอนมองผมทำการบ้านของเรา
ย้ำนะครับว่า ‘ของเรา’ แต่ผมน่ะ ทำคนเดียวเต็ม ๆ
ที่ผมยอม ก็เพราะผมน่ะ แพ้เป่ายิ้งฉุบ กับมันน่ะสิ!
ผมเหลือบมองคนนอนเอกขเนกบนเตียงอย่างสบายอารมณ์นั้น ก่อนจะกลับมามีสมาธิกับการบ้านอีกครั้ง ผมไม่น่าใจอ่อนสงสารมันเล้ย ดูซิ แล้วผมก็ต้องมานั่งทำงานแทนมันงก ๆ ปล่อยให้มันนอนกระดิกเท้ายั่ว แล้วนอนกินขนมบนเตียงสบายใจเฉิบเสียอย่างนั้น สาธุ ขอให้มดหามทีเถอะ! ผมแอบสาปแช่งมันในใจ
ผมเล่นเป่ายิ้งฉุบห่วยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และเจ้านัทมันก็รู้ดี ว่านิสัยไม่ยอมแพ้ใครของผม จะทำให้ผมต้องยอมเล่น ทุกครั้งที่มีใครท้า ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเปอร์เซ็นต์แพ้มันเกินครึ่งก็เถอะ ในเมื่อยังไม่ถึงศูนย์ เรื่องอะไรผมจะต้องยอมแพ้ล่ะ ผมเป็นลูกผู้ชายเต็มตัวนะ พ่อผมสอนมา ว่าไม่ควรเลิกล้มอะไรกลางครัน ทำให้ถึงที่สุด จึงจะเป็นลูกผู้ชายที่แท้จริง!
ทุกทีจะเป็นเจ้านัทที่ท้าผม แต่คราวนี้ล่ะ ผมจะท้ากลับบ้าง ผมแน่ใจว่าตัวเองศึกษามาดี ขอให้ปั่นการบ้านนี่ให้เสร็จเสียก่อนเถอะ ราตรีนี้ยังอีกยาวไกลนัก!
ผมคิดในใจอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง เมื่อกลางวันผมเข้าห้องสมุด แล้วเจอหนังสือว่าด้วยทริกการเป่ายิ้งฉุบมา เขียนโดย ด็อกเตอร์อะไรสักอย่างเสียด้วย ท่าทางน่าเชื่อถือมาก แล้วในตอนนี้ผมน่ะ ศึกษาจนช่ำชองแล้ว รับรองว่างวดนี้ ไม่มีแพ้เด็ดขาด
ทีนี้ล่ะ ผมจะจับคุณหนูแสนสำอาง ที่วัน ๆ ไม่ยอมหยิบจับทำอะไรเลย มาเป็นทาสเสียให้เข็ด!
คิดแล้วผมก็เผลอยิ้มให้กับตัวเองอย่างมีความสุข ก่อนจะต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาจากคนตัวโตบนเตียง เจ้านัทมันมองผมอยู่ มันจะรู้มั้ยเนี่ย ว่าผมแอบคิดอะไร
จะยังไง คืนนี้แหละ ผมจะจัดการเผด็จศึกมันให้ได้ ชัยชนะต้องเป็นของผม ที่ศึกษากลยุทธ์การศึกมาดี ไม่ใช่เจ้าบ้าที่นั่ง ๆ นอน ๆ แล้วก็แถมยังกระดิกนิ้วเท้าวอนถูกถีบอย่างเจ้าบ้านี่
“เสร็จแล้วเหรอ เนย” เสียงเรียบ ๆ ถามขึ้น เจ้าคนจอมกวน ก็ยังนอนกลิ้งอยู่บนเตียง ผมปิดสมุด เก็บปากกาเข้ากระเป๋า เคลียร์พื้นที่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันมาสบตามัน
“เออ เสร็จแล้ว มันน่าจะเสร็จไวกว่านี้ ถ้านายช่วยฉัน”
“ยังไงมันก็เสร็จเหมือนกันแหละ หรือว่าถ้าอยากให้ ‘ช่วย’ ให้ ‘เสร็จ’ จริง ๆ ก็บอกมาสิ คราวหน้าฉันจะช่วย” มันว่ายิ้ม ๆ ด้วยนัยน์ตาเป็นประกายแปลก ๆ ผมมองมันแล้วอดขนลุกไม่ได้ ไม่รู้มันหมายความว่าไง แต่สัญชาตญาณบางอย่าง บอกผมว่ามันอันตราย
ช่างเหอะน่า ผมคงคิดไปเอง จะยังไงวันนี้ มันก็ต้องเป็นทาสผมอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ
“คราวนี้ฉันไม่แพ้เป่ายิ้งฉุบกับนายแน่ ลองใหม่มั้ยล่ะ” ผมท้าออกไป หากคนฟังกลับยังคงนอนนิ่งไม่ได้สนใจ
“เฮ้อ เอาอีกเหรอ ฉันขี้เกียจหางานให้นายทำแล้วนะ การบ้านก็เสร็จแล้วนี่” มันพูดต่ออย่างน่าหมั่นไส้นัก ถูกครับ มันสรรหางานให้ผมทำตลอด เวลาผมแพ้เป่ายิ้งฉุบกับมัน ตั้งแต่ทำการบ้าน ยันขัดส้วม มันบอกว่า คุณหนูอย่างมัน มีหน้าที่สั่งอย่างเดียว ตามแบบที่พ่อมันสอนมา แถมลูกที่ดีอย่างมัน ก็เชื่อฟังพ่อมากเสียด้วย
แต่เรื่องแบบนั้น มันจะไม่มีอีกแล้ว เอ..ผมจะใช้มันทำอะไรดีนะ จะได้เอาคืนให้คุ้ม ๆ หน่อย ยังไงผมก็มั่นใจ ว่างวดนี้ ผมไม่มีทางแพ้มันเด็ดขาด
“เอาน่า มาลองอีกที ถ้าใครแพ้ ต้องเป็นทาสคนชนะ ตลอดคืนนี้เลย ดีมั้ย”
คนกำลังนอนผุดลุกพรวดเลยครับ เล่นเอาผมแอบสะดุ้งตามไปด้วย เพราะไม่เคยเห็นเจ้านัทมันกระตือรือร้นขนาดนี้
“เป็นทาสก็คือ ต้องทำตามคำสั่งคนชนะ ‘ทุกอย่าง’ ใช่มั้ย” เจ้านัทมันถามย้ำกับผมอีก ผมพยักหน้ารับ แล้วก็เห็นมันยิ้มจนแทบเห็นฟันครบ 32 ซี่ ท่าทางของมันดูเจ้าเล่ห์มากขึ้นอีกแล้ว ผมก็ไม่ได้โง่นะ ถึงจะแพ้มันประจำก็เถอะ แต่ก็ใช่ว่าผมจะยอมมันดี ๆ เสียหน่อย ของแบบนั้นมันเสียฟอร์ม
“ถ้างั้นก็มาเลย” มันว่าอีกพร้อมกับเหวี่ยงมือไปมาไว ๆ อย่างคล่องแคล่ว ที่ผมแพ้มันน่ะ เพราะมันเจตนาแกล้งออกช้าต่างหาก แต่แขนที่แข็งแรงนั้น ขนาดเริ่มขยับช้ากว่านิดหน่อย แต่พอออกจริง ๆ กลับลงพร้อมกันเสียนี่ ผมเลยไม่เคยแย้งมันได้เลย
แต่งวดนี้ ถึงมันจะออกช้ากว่า ผมก็ยังมีทางที่จะชนะอยู่ดี ผมมีทฤษฎีดีอยู่กับตัว จะกลัวอะไร
ว่าแล้วเราก็เริ่มเล่นกัน กติกาของเราก็คือ ชนะ 2 ใน 3 เหมือนทุกครั้ง
ตาแรกผมแพ้ แต่ผมไม่กลัวหรอก เพราะในคู่มือนั่นบอกไว้ ว่าให้ยอม ๆ ตาแรกไปก่อน
และตาที่สอง ผมก็ชนะ นี่สิ ของจริง!
แล้วก็มาถึงตาที่สาม ไม้เด็ดของผมแหละครับ ผมศึกษามาดีอยู่แล้ว ตามสถิติ กรรไกรจะออกน้อยสุด ส่วนค้อน จะออกมากสุด โดยเฉพาะกับพวกบ้าอำนาจ
นั่นแหละครับ แล้วมันก็ออกค้อนจริง ๆ เสียด้วย ผมที่ออกกระดาษ ก็เลยชนะไปหวุดหวิด แหม ต้องขอบคุณเจ้าคู่มือนั่นเสียจริง!
“เฮ้ย แพ้ได้ไงเนี่ย” เจ้านัทอุทานอย่างตกใจ ผมที่ตอนนี้เหมือนเป็นราชาแล้ว อดที่จะยืดไม่ได้
“นายแพ้แล้วนะ คราวนี้ล่ะ เป็นทาสฉันซะดี ๆ”
คนบนเตียงเกาหัวแกรก ๆ ก่อนจะผงกศีรษะรับอย่างเสียไม่ได้ “โอเค ๆ เป็นทาสก็ได้” ว่าแล้วมันก็ยิ้มเสียอย่างนั้น ผมที่กำลังกระหยิ่มยิ้มย่องในชัยชนะ กลับเป็นฝ่ายมองมันอย่างงง ๆ แทนที่ ทำไมมันถึงยิ้มได้ล่ะ มันเป็นทาสผมนะ ทาสน่ะ เข้าใจสถานภาพตัวเองบ้างมั้ย!
ผมผุดลุกขึ้นจากพื้นข้างเตียง เมื่อครู่มันนอนเล่นบนเตียงครับ ผมเลยต้องถ่อมานั่งข้างเตียงตอนเป้ายิ้งฉุบด้วย คนอะไร ขี้เกียจตัวเป็นขน กระทั่งจะเล่น ก็ยังนอนอีก สมน้ำหน้าที่แพ้
ผมที่นั่งอยู่ข้างเตียง เลยยืนขึ้นเท้าสะเอว แล้วชี้หน้าสั่งมันเอาคืนบ้าง “ให้ฉันนอนเตียงนายเลยคืนนี้” ผมสั่งมันแล้ววางท่าดุจราชา
เจ้านัทลงจากเตียงอย่างเสียไม่ได้ ผมแอบขำมันอย่างเป็นต่อ นาน ๆ ทีนี่ครับ ที่ผมจะเอาคืนได้สักที
ผมเอนตัวนอนบนเตียงอย่างสบายอารมณ์ เตียงของเจ้านัทมันนุ่มดีแฮะ ทุกทีผมได้แต่นอนข้างเตียง มันนอนเป็นเจ้าไม่เคยสนใจว่าผมจะนอนลำบากรึเปล่า แถมยังบอกว่า พรมห้องมันนุ่มพอแล้ว สำหรับชนชั้นกลางอย่างผม ยังดีนะ มันไม่บอกว่าผมเป็นชนชั้นล่าง
แต่วันนี้ ผมจะถีบส่งพ่อชนชั้นสูง ลงไปนอนพื้นบ้างล่ะ สะใจดีพิลึก
ขณะกำลังนอนอย่างสบายจนเกือบเคลิ้ม เพราะแอร์บ้านมันเย็นดี แถมเตียงยังนุ่มอีกต่างหาก ผมก็ชะงัก เมื่อรู้สึกว่าถูกจับขา
ผมชันตัวขึ้นอย่างรวดเร็วแต่ขายังถูกดึงเอาไว้ พอหันไปมอง ก็เห็นทาสจำเป็นในคืนนี้ จับขาผมไว้ พลางยิ้มหวานเอาใจ อย่างที่มันไม่เคยทำมาก่อน
“ผมจะนวดเท้าให้นายท่านนะขอรับ” เจ้านัทพูดอย่างนอบน้อม ครั้งแรกเลยนะเนี่ย
ผมแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ กับท่าที่เห็นนั้น ดี สมน้ำหน้ามัน ต้องเอาให้รู้ซึ้งเสียบ้าง ผมเลยวางท่าเจ้านาย แล้วตอบกลับไปว่า “เออ นวดดี ๆ ล่ะ แล้วจะมีรางวัลให้”
มือแข็งแรงนั้นนวดช้า ๆ อย่างช่ำชองจนผมแทบเคลิ้ม คิดไม่ถึงเลย ว่ามันจะนวดเก่งได้ขนาดนี้ หากยังไม่ทันได้ชมเชยอะไร ผมก็ต้องสะดุ้ง เมื่อมันยกปลายเท้าผมขึ้น แล้วดูดนิ้วเท้าผมเบา ๆ
“เฮ้ย จักจี้นะเฟ้ย” ผมกระตุกเฮือกเมื่อรู้สึกถึงการเลียไล้ ลิ้นของมันตวัดยาวหยั่งกับลิ้นกบแน่ะ ไหนจะแทรกซอนเข้าส่วนง่ามนิ้วอันแสนอ่อนไหว ผมก็พึ่งรู้วันนี้เองนี่แหละ ว่ามันอ่อนไหวง่ายขนาดนี้ เล่นเอาหลุดเสียงแปลก ๆ ออกมาเลย
แต่มันก็ไม่ยอมหยุดเลีย ลิ้นนั้นตวัดลากไล้ขึ้นสูง ทำเอาผมสะดุ้งเฮือกอีกรอบด้วยความเสียว
“พอเลย พอได้แล้ว” ผมยันหน้ามันออกไป หากสู้แรงมันไม่ได้อีกตามเคย มือที่ยึดจับ แข็งแรงแล้วก็ไม่ยอมปล่อยเสียด้วยสิ ไหนว่าเป็นทาสไง
“บอกให้ปล่อยได้ยินมั้ย นายเป็นทาสฉันนะ!”
คนฟังยิ้มน้อย ๆ แล้วพูดว่า “ผมกำลังทำให้เจ้านายสบายตัว มันเป็นงานของทาสที่ดีไม่ใช่เหรอขอรับ” แหม พูดสุภาพเสียจนผมแทบเคลิ้มอีกรอบ หากพอเผลอแป๊บเดียว เจ้าลิ้นนั้นก็เลียไปถึงขาอ่อนแล้ว โดยเฉพาะขาอ่อนด้านในเนี่ย ยิ่งเสียวจนแทบจะนอนไม่ติดพื้น
ชุดนอนวันนี้ เป็นกางเกงขาสั้น ที่หลวมอยู่สักหน่อย ผมชอบนอนแบบสบาย ๆ เลยชอบใส่กางเกงขากว้าง ๆ ที่ไม่รัดจนอึดอัด แล้วก็แน่นอนว่า คนจะนอน ใครจะไปใส่กางเกงในล่ะครับ
และเจ้านัทก็รู้ดี เพราะมือของมัน ล้วงเข้าไปในกางเกงของผมแล้ว
“มากไปแล้วนะ ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!” ผมกัดฟันดุเสียงเข้ม หากไม่ทันมือว่องไวของมัน ที่กุมเจ้าโลกผมไว้หรอก มือนั้นขยุ้มน้อย ๆ อย่างเป็นต่อ ผมได้แต่เกร็งแน่นอย่างอึดอัด
“เมื่อกี้นายท่านว่าไงนะครับ ผมได้ยินไม่ถนัด” เสียงเข้มพูดเน้นอย่างจงใจ เล่นเอาผมแทบฝ่อ…จะไม่ฝ่อไงไหว ก็มันไม่ยอมปล่อยมือนิ ขืนผมโวยอีกแล้วมันบิดหลุดติดมือขึ้นมา ตระกูลผมก็จบสิ้นกันสิครับ อย่าลืมสิ ว่าผมน่ะ ลูกผู้ชายคนเดียวในบ้าน ถึงจะมีน้องก็เป็นแค่น้องสาว ดังนั้นก็ต้องเป็นผมนั่นแหละ ที่ต้องสืบสกุล
เห็นแก่วงศ์ตระกูลหรอกนะ ผมเลยกัดฟันไม่สั่งมันอีก แต่ปล่อยให้มันจัดการต่อไป โดยหวังว่าพอมันเมื่อยหรือเบื่อ ก็คงจะปล่อยไปเอง
แต่สงสัยผมจะเข้าใจผิด
มือนั่นมันซนกว่าที่คิด นอกจากจะหยอกเจ้าลูกแฝดสุดรักสุดหวงของผมจนผมครางแล้ว มันยังแอบดึงกางเกงผมออกไปตอนไหนก็ไม่รู้
พอรู้ตัวอีกที ข้างล่างมันก็โล่งโจ้งแล้ว ให้ตายเถอะ!
-- อ่านต่อตอนจบที่หน้า 2 นะคะ --