@@โดยLuk {เทพพิทักษ์ขุนทัพ} ขุนทัพบ้าอำนาจ VS ขุนดอนองครักษ์ปากหนัก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@โดยLuk {เทพพิทักษ์ขุนทัพ} ขุนทัพบ้าอำนาจ VS ขุนดอนองครักษ์ปากหนัก  (อ่าน 297043 ครั้ง)

ออฟไลน์ ladyzakura

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0

ขุนดอนเจอขุนทัพเข้าไป หึหึ ไปไม่เป็นเลยทีเดียว

starvivid

  • บุคคลทั่วไป
พาร์ทนี้ต้องนิยามนี้เลย   'น่าร๊ากอ่ะ'   :laugh:
ละลายกันท่วนทั่ว    :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2

nightsza

  • บุคคลทั่วไป

Pairwha

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ away3g

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-1
 :o8: :o8:น่ารักอ่ะ  เจ้าชายหิมะละลายแล้ว อิอิ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
โอ้!!! สามารถทำให้คนทั้งโรงอาหารอึ้งได้!!! :z1:

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
น่ารักจริงๆ ตอนนี้ ยิ่งนึกภาพตามตอนกินข้าว
ยิ่งน่ารัก

ออฟไลน์ Ciin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
สั้นเหลือเกินนนน
ท่าทางจะ happy ending แล้วละเนี่ยย
ต่างคนต่างรักกันแล้ว =)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kazhiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-2
น่าร๊ากกกกกกกมากกก

ขอบคุณมากค๊า  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
อ๊ากกก  ขุนดอนน่ารักมากอ่ะ ชอบ ขุนทัพด้วย

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :-[ พี่ดอนน่าร๊ากกกอ่ะ อิอิ หลุดจนได้

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
ระวังเหอะ เดี๋ยวได้มีคู่แข่งผุดเป็นดอกเห็ด  o18

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ GUNPLAPLASTIC

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
น่าร้ากอ่ะ เหมือนกาน นนนนนนน

mimirin

  • บุคคลทั่วไป
คัมมิ่งเอ้าท์สะท้านมหา'ลัย 

สุดท้ายหนุ่มหล่อเทพพิทักษ์ก็หันไปกินกันเอง  ถูกใจเจ้ยิ่งนัก

ออฟไลน์ ต่ายน้อย

  • กระต่ายน้อยลอยคอ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-3
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27719.0
อว๊าาาาาาก เขิลเฟ้ย เขิล ๆๆ

ออฟไลน์ pasallatel

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
 :-[ :-[ เขินแทน ช่างน่ารักจริงๆ เลยอ่า

ออฟไลน์ kazhiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
เห็นพี่ดอนเขินเข้าหน่อยก็เอาใหญ่เลยนะคุณทัพ
ชิชะ พี่ดอนสำลักน้ำเลย
แบบนี้ต้องลงโทษ ><

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
สนุกมากมาย เอาใจช่วยเสมอ :L1:

ออฟไลน์ Allure-Q

  • Just the way you are
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
วี้ดว้าย...เป็ฯการสำลักที่ อึ้ง ทึ่ง เสียว กันทั้งคณะเลย อุฮิ :-[

Pr_promise

  • บุคคลทั่วไป
  น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก 

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[


รอตอนต่อไปอยู่น้าค้าาาาาา


ออฟไลน์ maxiez2p

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อวสาน !!!!!!

 :sad4: :sad4:

มารอๆๆๆ  :sad4:

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
@@ ข่าวดี!!@@

เปิดจองนิยายเรื่อง  'มนต์มาร'

ตั้งแต่วันที่  8 -  25  กุมภาพันธ์  2555

สำหรับ 200  ท่านแรกที่จอง และโอนในวันเปิดโอน

จะได้รับผลงานการเขียนฉบับพ็อกเก็ตบุ็ค ของพี่วีจำนวน 10  ตอน ฟรี!

พี่วีใช้ชื่อหนังสือพิเศษนี้ว่า  'แม่พระของวี' 

ไม่ควรพลาดเรื่องนี้ไม่มีขาย  ความหนาประมาณ 100  หน้าหาซื้อไม่ได้

การันตี  ใครอ่านเรื่องนี้คุณต้องรักแม่และครอบครัวมากขึ้นเป็นเท่าตัวแน่นอน  เป็นความอนุเคราะห์และอภินันทนาการพิเศษ

เพื่อไว้อาลัยให้กับคุณยาย  คุณแม่ของพี่วีที่เพิ่งเสียไปเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา  หนังสือเล่มนี้บรรยายความรักความผูกพัน

ของพี่วีกับคุณแม่  ที่พี่เค้าเคารพบูชายิ่ง 'แม่พระของวี'    

ปล.สำหรับมนต์มาร  แถมตอนพิเศษ  5  ตอนในเล่มเท่านั้น 

สนใจส่งเมลล์มาลงชื่อจองพร้อมขอเลขลำดับการจองได้ที่  luxilove_19690อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com 

ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปค่ะ (รูปเล่ม  และรายละเอียดจะเปิดตัวราววันที่  15  กุมภาพันธ์นี้)


เทพพิทักษ์ขุนทัพ
Part  12
พลังแห่งรักมักเปลี่ยนโลก




      หลังวันพลิกวิกฤตครั้งใหญ่จากเหตุการณ์เขย่ามหาลัยของสองหนุ่มในฉากทานกลางวัน ณ โรงอาหารวันนั้น

ทุกคนฮือฮาจนกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปเลย เมื่อหนุ่มใหญ่ฉายาคุณชายขุนทัพกลายเป็นฝ่ายเทคแคร์

องครักษ์พิทักษ์ขุนไปซะแล้ว ไหงมันกลับตาลปัตรกลับข้างเป็นอย่างนี้ไปได้ 

                  จากภาพที่แสนชินตาของนักศึกษาสำหรับพี่น้องดูโอคู่นี้  ยังคงเป็นแบบแพ็กคู่ไม่เปลี่ยนแปลง  แต่ที่ทำให้

แปลกใจถึงกับพากันหยิบเอามาพูดจนเป็นข่าวสะพัดไปทั่ว ก็เพราะไอ้หน้าที่องครักษ์ซึ่งเคยเห็นหนุ่มรุ่นพี่คอยตามรับใช้ดูแล

คุณชายรูปหล่อร่างใหญ่เป็นประจำนั้น

                   บัดนี้กลับเป็นคุณชายขุนทัพดูแลพิทักษ์เจ้าชายหิมะไปซะงั้น ไม่แปลกก็พึลึกแล้วล่ะ ในเมื่อคนที่คอยแต่จะ

ออกคำสั่งกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังคงออกคำสั่งไม่เปลี่ยน เปลี่ยนแต่คำสั่งซึ่งมันกลายเป็นห้ามปฏิเสธทุกการกระทำที่ตน

บริการรุ่นพี่สุดหล่อไปเสียนี่ 

                   อีกนัยหนึ่งคือห้ามดื้อห้ามขัด ในขณะที่เจ้าชายหิมะผู้แสนเยือกเย็นหน้านิ่ง  กลายเป็นเจ้าชายหิมะผู้ขยัน

หน้าแดงหลุดมาดนิ่งเป็นประจำ  ซ้ำร้ายยังขัดไม่ได้อีกต่างหาก พอเอ่ยปากห้ามหรือปฏิเสธขึ้นมาคุณชายขุนทัพจะต้องอัพเลเวล

เพิ่มการกระทำพาเอาอายจนได้ ใครลองเจอรูปแบบรุกไล่สไตล์คุณชายขุนทัพแล้วทนไม่เขินได้ละก็ คงผีดิบดีดีนี่เอง


                    “ดอนเช็ดหน้าเสียหน่อย อากาศมันร้อนเหงื่อย้อยแล้วเห็นไหม?” เหมือนเป็นความหวังดี ที่ยื่นผ้าเย็นซึ่งแกะ

จากมือหมาดๆ ให้คนตรงหน้าต่อหน้าต่อตาพวกพ้องน้องพี่นักกีฬารักบี้ทั้งทีม ซึ่งยืนเหงื่อโซกซดน้ำกันเป็นแถว โดยคนพูดหา

ได้สนใจพวกมันต่างยืนถือขวดน้ำค้างกันไปแล้ว

                    ปกติคนยื่นผ้าเย็นต้องเป็นรุ่นพี่ซึ่งเตรียมมาพร้อม ไม่นับน้ำแร่ไว้ดื่มช่วงพักซ้อมต่างหาก  แต่ดูตอนนี้สิไอ้คน

ที่คอยแต่ออกคำสั่งยังคงออกคำสั่งเหมือนเคย เพียงแต่คำสั่งที่เคยแต่จิกหัวใช้ กลายเป็นสั่งให้เจ้าตัวบริการตนเองไปซะงั้น


                   “คุณทัพใช้เถอะครับ ผมไม่ร้อนเท่าไหร่? คุณเพิ่งซ้อมมาเหนื่อยๆ เช็ดหน้าเสียสิครับ” รุ่นพี่หน้านิ่งยังคงปฏิเสธ

อย่างมีเหตุผลอันสมควร แต่..


                 “จิ๊กูบอกให้มึงเช็ดก็เช็ดสิจะดื้อย้อนกูทำไม มัวโอ้เอ้อยู่นั่นแหละ  มานี่มะกูเช็ดให้”  จบประโยค มือหนาที่จับผ้าไว้

ก็ไปอยู่บนหน้าคนที่กำลังอ้าปากจะค้าน ซึ่งทำได้แค่อึ้งค้างยังไม่ทันพูดสักคำ เพราะเสียงกระซิบข้างหูพอให้ได้ยินกันสองคน


                 “อย่าเสือกบิดหน้าหนีล่ะ ไม่งั้นกูจูบมึงโชว์พวกแม่งเลยนะ ให้มันรู้ไปว่าใครจะอาย แค่เช็ดหน้าต้องเรื่องมากด้วย

ทำให้กูเสียหน้าพวกมันอีก ดันขัดคำสั่งกูอยู่นั่นแหละ” นี่ไง? คำว่าขัดคำสั่งทำให้คนที่กำลังจะประท้วงต้องหยุดความคิดลง

ฉับพลัน เพราะสิ่งที่ขุนทัพต้องการให้ตนทำมันคือคำสั่งไม่ใช่การขอร้อง  แล้วอย่างนี้หน้าหล่อใสที่กำลังถูกซับเหงื่อโชว์

จะไม่ขึ้นสีจนแดงแปร๊ดให้คนที่มองมากันอึ้งตาค้างเผลอรำพันกับตัวเองว่า น่าร๊ากอ่ะ!  ได้ยังไงกันเล่า ก็เพราะท่าทางวางตัว

ไม่ถูกของคนที่แสนจะหน้านิ่งนอกจากหน้าแดงแล้วยังเอ๋อไปแล้วนี่สิ ทั้งที่หูแดงแปร๊ดจนกล้าใช้คำว่า ‘น่าร๊ากอ่ะ!’ 

ได้เหมาะที่สุดแล้ว 

                         กลายเป็นกิจกรรมยามว่างของขุนทัพ  ที่มักหาโอกาสลวนลามร่างกายขุนดอนด้วยวาจาและการกระทำเสีย

แทบทุกครั้งถ้ามีช่อง เจ้าตัวไม่เคยรีรอที่จะลงมือทำเลยแม้แต่วินาทีเดียว เพราะใบหน้าของขุนดอนตอนที่ออกอาการอย่าง

ที่กล่าวมามันช่าง  น่าร๊ากอ่ะ!

                        ชีวิตประจำวันของสองหนุ่มในช่วงสามสัปดาห์สุดท้ายก่อนหนุ่มหล่อหน้าใสองครักษ์พิทักษ์กายคุณชายทัพ

จะเดินทางไปฝึกภาคสนามกลางอ่าวไทย  ขุนทัพไม่เคยปล่อยโอกาสที่จะแสดงออกทั้งคำพูดและการกระทำ ลงทุนทำตัวติด

ขุนดอนเป็นตังเม ทั้งที่แต่เดิมก็ติดกันแทบจะไม่เคยเห็นสองคนแยกกันอยู่แล้ว แต่ยังพอมีบ้างตอนที่คุณชายเค้ามีสาวๆ

ดึงไปทำกิจกรรมยามว่างอยู่บ่อยๆ

                        พฤติกรรมเหล่านี้ดันหายเข้ากลีบเมฆไปเฉยเลย จนใครๆพากันงงเป็นไก่ตาแตกไปแล้ว เมื่อเห็นคุณชายทัพ

ปฏิเสธสาวแสนสวยอย่างไม่ให้ความหวัง  ไม่ว่าคุณเธอทั้งหลายจะพยายามผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาตามตื้อคุณชายไปหา

ความสนุกเหมือนเช่นเคย  แต่ขุนทัพกลับปฏิเสธแทบไม่ต้องเสียเวลาคิด ถ้าอย่างนี้ไม่ผิดปกติแล้วละก็คงต้องเป็นสมองของ

คุณชายทัพได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก ถึงได้เปลี่ยนแปลงในระยะเวลาอันสั้นได้เช่นนี้

                         หลังเลิกเรียนทั้งคู่กลับมาถึงคฤหาสน์ของเทพพิทักษ์ ต่างคนต่างแยกย้ายเข้าห้องใครห้องมัน  เพื่อทำธุระ

ส่วนตัวก่อนจะลงมาทานมื้อค่ำในเวลาทุ่มตรง  ขุนทัพมองตามหลังรุ่นพี่ที่ถือซองเอกสารส่งตัวของมหาลัยติดมือเข้าไปในห้อง

ด้วยความรู้สึกยากเกินบรรยาย มะรืนนี้แล้วสินะที่ขุนดอนจะไปอยู่กับแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเลนานถึงสามเดือน แค่คิดหัวใจ

ของขุนทัพก็วูบโหวงขึ้นมาทันที สิบกว่าปีมานี้ไม่เคยเลยที่ทั้งคู่จะห่างกันเกินสองวัน นี่นับเป็นครั้งแรกที่ต้องห่างกันนาน

ขนาดนั้น ขุนทัพมองตามหลังของขุนดอนจนร่างสุดสมาร์ทหายลับเข้าประตูไป

                        ส่วนขุนดอนพอเข้าห้องมาแล้ว กลับยืนเอาหลังพิงประตูแหงนมองเพดานสูดหายใจยาวๆไปหลายที  แล้วจึง

หลับตาลงสงบนิ่งไม่ไหวติง  ทำไมเจ้าตัวจะไม่รู้ว่าขุนทัพมองตามจนลับตา ทำไมจะไม่เข้าใจถึงเจตนาการกระทำที่ขุนทัพ

แสดงออกในช่วงสามอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำไมจะไม่รู้เล่าว่าขุนทัพทำไปเพื่ออะไร? 

                        ขุนดอนรู้ดี  ดีเสียจนมันซึมเข้าไปในหัวใจที่เคยสงบนิ่ง กระทั่งตอนนี้หัวใจที่ตกผลึกกำลังถูกตีให้ตะกอนขุ่น

ขึ้นมาจนแม้แต่เจ้าของมันเอง ก็ยากที่จะควบคุมให้มันกลับลงไปนอนนิ่งอยู่ก้นบึ้งอีกต่อไปได้ ใช่ว่าขุนดอนจะไม่เห็นขุนทัพอยู่

ในสายตา ตลอดมาความรู้สึกที่มีให้ทั้งรักทั้งห่วง ล้วนเกิดจากความรู้สึกดีดีที่ได้รับไมตรีตอบเมื่อครั้งวัยเยาว์

                       ณ ลานวัดเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นตนเป็นเพียงเด็กกำพร้าไร้เพื่อนสนิท สาเหตุเพราะไม่ยอมเป็นเบ๊ให้พวก

เด็กเกเรซึ่งมีหัวโจกคือไอ้โจ้ ตนเลยไม่มีใครให้เข้ากลุ่มเหลือตัวคนเดียวที่ไม่มีใครยอมคบเป็นเพื่อนเหมือนเด็ก

ในวัยนี้พึงมีกัน  แต่แล้ววันหนึ่งมิตรภาพเพียงไม่กี่ชั่วโมง ที่ได้รับจากหนุ่มน้อยลูกคุณหนูที่ไม่คิดรังเกียจฐานะซึ่งแตกต่างราว

ฟ้ากับดินของตนเลย ได้หยิบยื่นไมตรีรอยยิ้มและความสุข มาพร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างเต็มเปี่ยมของขุนดอนเลยก็ว่าได้

ยามที่ทั้งสองได้เล่นรถยนต์วิทยุบังคับด้วยกัน ขุนดอนยังนึกถึงภาพคุณหนูผู้เชี่ยวชาญสอนตนใช้อุปกรณ์บังคับรถยนต์คันจิ๋ว

วิ่งฉิวปานรถแข่ง ภาพความทรงจำเหล่านี้ไม่เคยเลือนหายไปจากหัวใจตนไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแล้วก็ตาม 

                           ก่อนที่ร่างสูงสมส่วนจะเดินมาเปิดลิ้นชักหัวเตียง  หยิบเอารถยนต์แห่งตำนานออกมา พร้อมกับนั่งห้อยขา

ข้างเตียงจ้องสำรวจรถคันจิ๋วอย่างละเอียด หากจะตั้งคำถามว่าขุนดอนหยิบรถสปอร์ตเสมือนจริงคันนี้ขึ้นมากี่ครั้งแล้ว

คงต้องบอกว่าสุดความสามารถที่จะหาคำตอบได้ เพราะมันมากเกินจนนับไม่ถ้วน

                             สภาพของรถยังคงสมบูรณ์ดังเดิม แม้ก่อนหน้านี้จะเคยชำรุดมาบ้างเล็กน้อย  เกิดจากการแย่งชิง

ซึ่งแลกมาด้วยหยาดเหงื่อหยดเลือดกันเลยก็ว่าได้  สุดท้ายก็ยังสามารถซ่อมแซมพร้อมใช้งานเหมือนเก่าโดยไม่บุบสลายเลย

สักนิด เจ้าตัวเล่นเช็ดลงแว็กซ์ขัดเงาอยู่เป็นประจำ ประหนึ่งว่าของสิ่งนี้เป็นลูกรักเลยก็คงได้ 

                              ขุนดอนวางรถคันเก่งลงบนพื้น  ก่อนจะหยิบเอาอุปกรณ์บังคับขึ้นมาเปิดสวิทซ์ แล้วมือเรียวยาวก็เริ่ม

โยกคันบังคับสั่งให้รถสปอร์ตคันจิ๋ววิ่งฉิวไปทั่วห้อง


                             “บรื๊นนน!! เอี๊ยดด!! บรื๊นนๆ!”  เสียงครางกระหึ่มของเครื่องยนต์ ได้ยินอย่างชัดเจน ดังสะท้อนไป

ทั้งห้องเมื่อเจ้าตัวกดเบิ้ลเครื่องติดต่อกัน  ก่อนจะบังคับรถให้วิ่งมาหยุดอยู่ตรงปลายเท้า แล้วค่อยก้มลงไปหยิบมันขึ้นมา

เก็บลงที่เดิมอย่างทะนุถนอม

                             สิ่งแรกที่ขุนดอนตั้งใจจะนำติดตัวไปด้วย คือเจ้ารถสปอร์ตคันจิ๋วนำโชคคันนี้ที่ทำให้ชีวิตขุนดอนพลิกผัน

จนมายืนจุดนี้ได้ คงต้องขอบคุณไอ้ตัวจิ๋วเป็นอันดับแรก มิตรภาพและความทรงจำในอดีตกำลังจะกลายเป็นความรักที่มิอาจ

ปฏิเสธได้เลยว่าขุนดอนเอง  ‘รักขุนทัพ’ เข้าแล้ว

                             ขุนดอนเป็นคนซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง  เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นอาการเขินจนหน้าแทบไหม้

หัวใจที่เต้นรัวกระหน่ำอยู่ในอกยามเมื่อขุนทัพสัมผัสลวนลามตอดนิดตอดหน่อย  ความรู้สึกดังที่ได้บอกมานั้นคงไม่เกิดขึ้นแน่

หากตนไม่ได้นึกรักคนทำ ทั้งที่เป็นชายเหมือนกันอีกด้วยยิ่งเป็นไปได้ยากมาก เพราะฉะนั้นความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในหัวใจ

ดวงนี้ คงตีความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้แล้ว นอกจากว่ามันคือความรักนั่นเอง


                        “ก็อกๆ! ดอนกูเข้าไปได้ไหม?” เป็นมารยาทพื้นฐานที่ขุนทัพไม่เคยนึกใช้กับขุนดอนมาก่อนตลอดสิบปี

ที่ผ่านมา  ยกเว้นช่วงสามอาทิตย์นี้ขุนทัพมักจะใส่ใจสิ่งเหล่านี้เป็นพิเศษ  ขุนดอนหลุดออกจากภวังค์ส่วนตัวก่อนจะลุกไป

เปิดประตูให้คนเคาะ ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในความคิดของตนตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาในห้องกระทั่งถึงขณะนี้


                         “ครับ คุณทัพมีธุระอะไรใช้ผมหรือครับ?” ขุนดอนก็ยังคงเส้นคงวาในการรักษาระดับปฏิบัติที่เคยมี

ขุนทัพมองสบตาคมสวยคนตรงหน้านิ่ง  ในแววตาคมเข้มของเจ้าตัวฉายชัดถึงความรู้สึกเว้าวอนอย่างไม่ปิดบัง ทำเอาขุนดอน

เริ่มจะวางหน้าไปไม่ถูกอีกแล้ว พักนี้ยอมรับว่าขุนทัพขยันรุกไล่ตนอย่างหนัก แทบจะไม่ปล่อยโอกาสให้หายใจหายคอ

กันเลยด้วยซ้ำ


                                “ถ้าไม่มีธุระกูมาหามึงไม่ได้สินะ?”  น้ำเสียงแกมตัดพ้อที่ขุนดอนไม่อยากเชื่อสักนิดว่า คนอย่าง

ขุนทัพจะนำมาใช้กับตนได้อย่างหน้าตาย


                                 “เปล่าครับคุณทัพสามารถไปได้ทุกทีในบ้านหลังนี้ ที่ผมถามเพราะปกติคุณทัพไม่เคยมาเคาะประตู

เรียกผมด้วยตัวเองสักครั้ง” คำตอบของขุนดอนเหมือนไม้หน้าสามตีแสกหน้าขุนทัพแทบหงายตึง


                                “กูคงทำตัวแย่มากเลยสิ นี่คงเป็นสาเหตุที่มึงไม่ยอมเปิดใจให้กู สักที สมควรแล้วล่ะที่กูจะได้รับผล

ของการกระทำในอดีต” ขุนทัพพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อแววตาเศร้าสร้อย ทำเอาขุนดอนหายใจลำบากขึ้นมาทันที  ให้รับมือกับ

ขุนทัพจอมปากร้ายขี้โมโหเอาแต่ใจ  ยังง่ายเสียยิ่งกว่าต้องมารับมือขุนทัพในโหมดสำนึกผิดเช่นนี้


                                “อดีตคือสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ไม่มีอะไรให้ต้องเก็บมาใส่ใจหรอกครับ ขึ้นอยู่กับปัจจุบันมากกว่า

ว่าคุณทัพต้องการให้มันเป็นแบบไหน?” คำพูดแฝงปรัชญาของขุนดอน กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ขุนทัพเดินหน้าอย่างไว


                               “ถ้าหากมึงไม่ติดใจการกระทำของกูในอดีต แล้วทำไมถึงปล่อยกูยืนจนขาแข็ง ไม่ชวนกูเข้าห้อง

ซักทีเล่าหืม?” ขุนทัพก็ยังคงเป็นขุนทัพ ไม่คิดจะปล่อยโอกาสให้หลุดมือ อย่างที่บอกตอนนี้เวลาเหลือน้อยแล้ว ถ้าไม่รีบ

ฉวยเอาไว้ ความห่างเหินที่ไม่มีข้อผูกมัดคงยากที่จะเริ่มต้นใหม่ให้หนุ่มหล่อหน้านิ่งยอมรับข้อเสนอของตนเป็นแน่ ดังนั้น

อย่างไรเสียวันนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  ขุนทัพต้องเค้นเอาคำตอบจากขุนดอนให้ได้


                                 “ผมขอโทษ เชิญคุณทัพครับ” ขุนดอนจำต้องถอยหลบ ปล่อยให้ขุนทัพเดินเข้ามาในห้องก่อนจะปิด

ประตูตามหลัง พอหันกลับมาขุนทัพนั่งห้อยขาบนเตียงไปแล้ว แถมมือยังซนเปิดลิ้นชักหัวเตียงหยิบเอาไอ้จิ๋วลูกชายสุดที่รัก

ออกมาพลิกดูหน้าตาเฉย


                                “มึงยังเก็บรถคันนี้ไว้อีกหรือ กูนึกว่ามึงทิ้งมันไปแล้วซะอีก?”


                                “ทำไมผมถึงต้องทิ้งมันด้วยครับ คุณทัพยกให้ผมแล้วในวันที่ผมเอาไปคืนคุณ”  ขุนดอนรีบบอก

ทำอย่างกับว่าขุนทัพจะมาทวงคืน


                                “กูไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แค่แปลกใจที่มึงยังเก็บมันเอาไว้” ขุนทัพ จ้องหน้าเจ้าของห้องนิ่ง

ไม่มีเบือนสายตาหนี  ขุนดอนจึงพูดขึ้นว่า


                                “มันคือของเล่นชิ้นแรกในชีวิตของผม เป็นของที่ทำให้ผมมีความ สุขทุกครั้งเมื่อหยิบขึ้นมาดูตอนที่

ผมต้องการที่พึ่งทางใจ” น้ำเสียงซึ่งบ่งบอกถึงความสำคัญของเจ้าจิ๋วนี้ ฉายชัดว่ามันสำคัญกับคนพูดแค่ไหน


                                 “มันคงสำคัญกับมึงจริงๆ แต่กูอยากรู้แล้วคนที่เค้าให้มึงล่ะสำคัญกับมึงบ้างหรือเปล่า?” คำถามที่จู่ๆ

ก็โพล่งขึ้นมาโดยไม่ให้ตั้งหลัก ทำเอาขุนดอนถึงกับชะงักไปทันที  ใบหน้าเรียบนิ่งเริ่มแดงเรื่อให้เห็น เพียงแค่นั้นหัวใจของ

ขุนทัพก็ชุ่มชื้นขึ้นมาโดยไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ


                                  “เจ้าของมันคงเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับความรู้สึกมึงมากสินะ มึงถึงได้ลำบากใจที่จะพูดถึง”  ขุนทัพ

ยังหาช่องเจาะทะลวงเข้าไปจนได้


                                  “ผมว่าพักนี้คุณทัพคิดเยอะไปหรือเปล่า พักผ่อนแต่หัวค่ำจิตใจจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน ตื่นมารับรองสดชื่น

แน่นอนครับ” กลับเป็นขุนดอน ทำเนียนเปลี่ยนเรื่องให้ห่างจากตัวขึ้นมาเฉยเลย  มีหรือขุนทัพจะยอมถอย


                                “กูคิดจริงกูยอมรับ แต่มันคงไม่หายไปจากใจกูหรอกตราบใดคนที่ทำให้กูรู้สึกอย่างนี้ ยังคงปากแข็ง

ทำเนียนไม่เข้าใจอยู่นั้นแหละ” ขุนทัพพูดโดยสายตาจ้องสบตาคนฟังไม่กะพริบ ขุนดอนรู้สึกหายใจไม่คล่องเสียแล้วครั้นจะ

เบือนหน้าหลบ ก็ยิ่งฟ้องอาการตัวเองเข้าไปใหญ่จำต้องจ้องตาตอบ ทั้งที่หูเริ่มแดงจนเห็นชัด


                                “ดอนขอร้องล่ะ เปิดใจยอมรับกูได้ไหมอย่าสร้างกำแพงเลย มึงรู้ไหมว่ากูทรมาน”  มือหนารวบจับมือ

เรียวยาวของคนที่ยืนฟังนิ่ง ฉวยเอามากุมไว้ซะแน่น เพื่อไม่ให้คนตรงหน้าดึงมือหนี สายตาที่จ้องลึกเข้าไปในตาคมสวยของ

อีกฝ่ายบ่งบอกถึงความรู้สึกอย่างชัดเจน จนแทบไม่ต้องอธิบายออกมาเป็นคำพูดเลยด้วยซ้ำ


                              “คุณทัพกำลังสั่งผมหรือครับ?”  ขุนดอนยังพยายามเลี่ยง


                             “มึงจะคิดอย่างนั้นก็ได้ มึงยอมทำตามคำสั่งกูไหมในเมื่อกูเคยขอร้องแล้วมึงก็ไม่ยอม  ถือว่าครั้งนี้กูสั่ง

มึงก็แล้วกัน” ขุนทัพบีบมือที่กุมไว้นวดคลึงด้วยเบาๆ  โดยไม่ยอมละสายตาจากใบหน้าขุนดอนแม้แต่น้อย


                            “ผมมีทางเลือกหรือครับ ในเมื่อคุณสั่งมาขนาดนี้?” ขุนดอนยังคงหน้านิ่ง  กวนกลับด้วยน้ำเสียงเรียบทุ้ม

ทำเอาขุนทัพฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี เมื่อได้ฟังคำตอบจากปากคนตรงหน้า


                             “ดอนมึงพูดจริงใช่ไหม นี่มึงไม่ได้ล้อกูเล่นใช่ไหม?” ขุนทัพตื่นเต้นเผลอออกอาการเป็นเด็กๆ จับมือ

ขุนดอนที่กุมไว้เขย่าไปมาดูตลกพิลึก


                            “คำพูดผมดูไม่น่าเชื่อถือเลยหรือครับ?” ขุนดอนกลับย้อนถามขุนทัพได้หน้าตายเสียนั่น


                            “หึกูรักมึงวะดอน ขอบคุณที่ให้โอกาสกู” พูดจบลุกขึ้นรวบกอดร่างสูงสมส่วนตรงหน้า พร้อมกับกดจมูก

สัมผัสแก้มหล่อใสอย่างไม่เกรงใจ จนขุนดอนต้องยกมือยันหน้าคนชอบเนียนไว้อย่างด่วน


                             “เดี๋ยวครับ! นั่นคือโอกาสผมยังไม่รับปาก คุณแค่ขอโอกาสผมก็ให้ตามคำสั่งแล้วนี่ครับ  รอผมกลับจาก

ฝึกฯเสียก่อนเราค่อยมาคุยเรื่องนี้กันอีกที ถ้าคุณทัพยังยืนยันคำเดิมไม่เปลี่ยน ผมจะพิจารณาเรื่องของเรา  ระหว่างที่เราห่าง

กันไป ถือเป็นการพิสูจน์ความรู้สึกของคุณทัพด้วยนะครับ  ว่าคุณคิดกับผมอย่างที่พูดจริงหรือเปล่า ถ้าแค่หลงผิดไปชั่ววูบ

คุณยังมีโอกาสหันหลังกลับไปทางเดิม” ขุนดอนพูดจบ ขุนทัพจ้องเข้าไปในตาคมคู่สวยที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบ พร้อมกับยืนยัน

รับคำเสียหนักแน่นว่า


                               “ตกลง!สามเดือนนี้กูจะพิสูจน์ให้มึงเห็นว่ากูจริงจังมากแค่ไหน เพราะฉะนั้นมึงไม่มีข้ออ้างที่จะบิดพลิ้ว

กูอีก กลับจากฝึกฯมึงต้องเป็นแฟนกับกูโอเคไหม?”  ขุนดอนจ้องตอบตาคมเข้ม ไม่เห็นแววหลุกหลิกเลยแม้แต่น้อย 

มีแต่ความแน่วแน่ที่ฉายชัดจนไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ขุนทัพจริงจังในคำพูดมากมาย


                               “ตกลงครับผมว่าเราแยกย้ายไปอาบน้ำเถอะ ใกล้ทานมื้อเย็นแล้ว ผมหิว” ขุนดอนขืนตัวออกจาก

อ้อมแขนแกร่งของขุนทัพอย่างเนียนๆ ถึงแม้ขุนทัพจะรู้ทันขุนดอน ที่พยายามหาข้ออ้างออกจากสถานการณ์เพลี่ยงพล้ำ

ต่างหาก แต่ก็ยอมโอนอ่อนให้โดยดีเพราะเท่าที่ได้รับกลับมานั้นถือว่ามากเกินกว่าที่คิดไว้เสียอีก จึงไม่อยากให้ขุนดอนรู้สึกว่า

ตนคอยแต่จะเอาเปรียบ จากนี้ไปคงต้องแสดงออกทั้งคำพูดและการกระทำ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าชายหิมะว่า

เทพพิทักษ์ขุนทัพคนนี้ รักจริงหวังแต่งไม่ได้ต้องการสิ่งใดจากคนในอ้อมแขนนอกเสียจากหัวใจของเจ้าตัวแค่นั้น เพราะฉะนั้น

อยากได้หัวใจขององครักษ์พิทักษ์ขุนมาครอง  ก็ต้องใช้ใจแลกได้เพียงอย่างเดียว


                         “ก็ได้ครับ งั้นทัพไปอาบน้ำก่อนนะเดี๋ยวเราค่อยเจอกันที่โต๊ะอาหาร ดอนอย่าช้านะครับทัพคิดถึง”

สรรพนามเรียกขานระหว่างกันเปลี่ยนไปทันที  นั่นคือบทเริ่มต้นก้าวแรกแห่งการพิสูจน์  ซึ่งขุนดอนอดยิ้มสว่างขึ้นไม่ได้ 

ยามเมื่อขุนทัพกลับมาแทนชื่อตัวเองเหมือนสมัยเด็กๆ ซึ่งตอนนั้นขุนทัพเรียกตนว่าพี่ดอน และเรียกแทนตัวเองว่าทัพ 


มันคงไม่ผิดใช่ไหม? ถ้าพลังแห่งรักจะเปลี่ยนคน ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วขุนดอนก็ยินดีที่จะใช้พลังนี้ ดึงเอามิตรภาพและความทรงจำ

ที่สวยงามกลับคืนมาอีกครั้ง รออีกสามเดือนก็คงถึงเวลาที่จะเริ่มต้นมิตรภาพรูปแบบใหม่เสียที  มิตรภาพนี้จะเกิดขึ้นด้วยพลัง

แห่งรักของเราทั้งคู่ ที่จะนำพาเราสองคนไปด้วยกันตราบสิ้นลมหายใจของกันและกันในวันข้างหน้า ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นก็คงไม่

เสียดายเวลาที่ผ่านมาแล้วเพราะได้ทำหน้าที่สมบูรณ์ครบถ้วนแล้วสำหรับชีวิตที่ได้เกิดมาครั้งนี้ของสองหนุ่ม

‘เทพพิทักษ์’ 


                   อวสาน.






จบไปแล้วนะค่ะ  สำหรับเรื่องขนาดกลางที่ลองเขียนเป็นเรื่องแรก

สนใจจองหนังสือมนต์มารรีบกันหน่อยนะคะ  จะได้ไม่ว่ากันทีหลัง

หากอยากร่วมไว้อาลัยให้กับคุณยาย  คุณแม่ของพี่วีที่เพิ่งเสียไปเมื่อกลางเดือนมกราคมต้นปีนี้

ที่ไม่ได้แจ้งเพราะพี่วีไม่อนุญาต  ไม่อยากให้แฟนคลับคนอ่านซึ่งกำลังมีความสุขต้อนรับปีใหม่และตรุษจีน

มารับฟังเรื่องเศร้า  ดังนั้นจึงไม่ได้เข้ามาบอกกันค่ะ  สำหรับรายได้จากหนังสือเรื่องมนต์มาร  หลังหักค่าใช้จ่าย

จะเอาไปสมทุนทุนทำบุญครบรอบ  100  วันของคุณยาย  ซึ่งพี่วีจะจัดเดือนเมษายน  พร้อมกับลอยอังคารอัฐิของคุณยาย

หนังสือของพี่วีเขียนรำลึกถึงพระคุณของคุณแม่  เป็นเรื่องราวของคุณยายที่พี่วีจำได้ด้วยดีตลอดมา  ไม่ขายนะคะ

ไม่ต้องถามซื้อ  ไม่มีแจกด้วย  แถมสำหรับ  200  ท่านแรกที่จองมนต์มารและโอนเงินยืนยันในวันเปิดโอนเท่านั้นค่ะ

ลักษ์ :กอด1: :pig4:

ปล.สามารถไปร่วมแสดงความไว้อาลัยกับคุณยายได้ที่กระทู้  'เพราะรัก  จึงเปลี่ยนได้'  ในห้องนิยายที่โพสจบแล้วนะคะ

เผื่อพี่วีเข้ามาอ่านค่ะ  ที่ถามมาคุณยายท่านอายุ  80  ค่ะ  บอกสำหรับคนที่ถามอายุมาทางเมลล์ไปเลย :call:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2012 15:19:36 โดย luxilove »

starvivid

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ :-[ :-[
ทัพกับพี่ดอนก็แฮปปี้กันสักที
ชอบมากๆเลยคะเวลาที่ทัพทำตัวน่ารัก และเวลาที่ดอนเขิน
 :L2: 

Ai_Rong_Kun

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด