ตอนที่ 10หลังอาหารมื้อเช้าที่มีคนร่วมโต๊ะสี่คนซึ่งมีผม มิค กัส และพลนั้น เป็นมื้อที่ผมอยากฆ่าคนมากที่สุดก็ไอ้คนที่นั่งส่งยิ้มให้แฟนผมตลอดเวลานั่นแหละ และที่สำคัญมิคก็ไม่ได้ปฏิเสธรอยยิ้มที่ส่งมาให้ด้วยดันยิ้มรับซะงั้น ผมถลึงตามองไอ้คนที่มันขยันยิ้มนั่นแต่ไอ้หมอนี่มันไม่สนใจผมเลยกลับยิ้มกลับมาให้เหมือนแกล้งกัน ผมรู้สึกได้เลยว่าไอ้อาการควันออกหูเป็นยัง
ไงกว่าจะผ่านมื้อนั้นมาได้เล่นเอาผมแทบบ้าไปเลย กินเสร็จผมลากมิคออกมาจากโต๊ะและเข้าไปหาไอ้วินที่นอนพักในห้องทันที ตลอดเวลาจนถึงตอนนี้ที่ผมยืนตรงหน้าไอ้วินที่นั่งพิงหลังกับหมอนอยู่ ผมลืมไปแล้วว่ากัสแฟนมันจะคิดยังไงกับการที่ผมปฏิบัติตัวกับมิคแบบนี้
“มึงเป็นอะไรไอ้ฟิน หน้านี่เหมือนกับโกรธใครมาเป็นชาติ” เมื่อได้ยินเพื่อนทักแบบนี้ผมก็ลูบหน้าตัวเองแรงๆและถอนใจออกมาให้อารมณ์กลับเป็นปกติอีกครั้ง
“เฮ้อออ กูจะฆ่าคนได้ต่างหาก” ตอบวินเสร็จก็หันไปค้อนมิคที่ยืนข้างกันและทำเป็นไม่รู้เรื่องว่าผมหมายถึงใคร
“ใครวะ” วินที่เริ่มเข้าใจถึงท่าทางที่ผมเป็น มันยิ้มนิดๆตาเหล่มองไปทางมิคที่แกล้งมองไปทางอื่นที่ไม่มีผมและมันอยู่
“ก็ไอ้คนที่มันคิดจะจีบแฟนกูน่ะซิ” ผมหันไปมองปฏิกิริยาของมิคดูซิว่าจะมีปฏิกิริยาแบบไหนเมื่อผมประกาศออกมาแบบนี้
“ฟิน! / แฟนฟินคือใคร อย่าบอกนะว่า...” สองเสียงประสานกันเจ้าของเสียงแรกคือมิคที่ร้องเรียกชื่อผมอย่างตกใจ ส่วนอีกเสียงนั้นเป็นกัสที่ถามออกมาอย่างสงสัย ทำให้มิคหันไปมองเพื่อนตัวเองทันทีที่ไม่รู้ว่ากัสตามเข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่
“เอ่อ คือ ฟะ แฟนฟิน คือ...” ผมเอ่ยตะกุกตะกักเพราะไม่แน่ใจว่าถ้าบอกไปมิคกับกัสจะรู้สึกยังไง
“มิคเป็นแฟนฟินแล้วล่ะกัส”
ผมหันกลับไปหาเจ้าของเสียงใสไม่รู้ตัวว่ายิ้มกว้างแค่ไหนแต่รู้ว่ายิ้มแน่ๆ เพราะดีใจที่มิคเป็นคนบอกกัสเองถึงความ
สัมพันธ์ของเรา เพราะลึกๆแล้วผมกังวลอยู่ว่ากัสจะรู้สึกยังไงเมื่อรู้ว่าเราคบกัน เพราะดูท่าตั้งแต่แรกที่ผมมีท่าทีกับมิคนั้นกัสดูเหมือนไม่ชอบใจนัก
หน้ากัสนิ่งแต่ดูไม่ได้แปลกใจมากนักและเมื่อเพื่อนสนิทสองคนเค้ามองกันไม่มีคำพูดอยู่แบบนี้ มันทำให้ผมกับวินต้องเงียบตาม รอยยิ้มผมที่เคยมีเริ่มหุบลงและหวั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเกิดกัสไม่อยากให้มิคคบกับผมแล้วมิคจะเลิกกับผมตามที่เพื่อนรักต้องการมั้ยนะ
“มิคแน่ใจแล้วนะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ
ผมมองกัสและหันไปมองมิคว่าจะตอบว่าอะไรเกร็งมือกำแน่นไม่รู้ตัว มิคเมื่อได้ฟังคำถามแล้วก็หันมามองทางผมเราสบตากันนิ่ง ผมพยายามส่งสายตามั่นคงและถ่ายทอดความรักไปให้มิคเพื่อสื่อว่าผมจริงใจกับมิคแค่ไหน และรอลุ้นคำตอบของมิคเมื่อเจ้าตัวหันกลับไปมองกัสและเผยยิ้มน้อยๆออกมา
“อืม มิคแน่ใจ” มิคพูดพร้อมพยักหน้าน้อยๆยืนยัน กัสถอนใจเฮือกใหญ่แล้วจึงยิ้มตอบเพื่อนสนิท
ภาพที่ผมเห็นตรงหน้าเป็นเพื่อนรักสองคนโอบกอดกันแน่นและมีเสียงหัวเราะเบาๆของสองหนุ่มน้อยน่ารัก มันเหมือนกับว่ามีดอกไม้บานเต็มเป็นฉากหลังของสองเพื่อนรัก และคงเป็นใจผมที่เบ่งบานไม่แพ้ดอกไม้ที่ผมจินตนาการขึ้นมา หันไปมองไอ้วินที่นั่งอยู่มันส่งยิ้มอย่างยินดีมาให้ผม
“ฟิน ถ้าฟินทำให้มิคเสียใจกัสเอาตายแน่เข้าใจมั้ย” กัสเรียกผมเสียงดังและขู่อีกประโยค มันไม่ได้ทำให้ผมกลัวเพราะผมไม่คิดจะทำให้มิคเสียใจอยู่แล้ว
“ครับ ฟินสัญญาจะดูแลมิคให้ดีที่สุดเท่าที่ฟินจะทำได้เลย” ผมตอบกัสด้วยน้ำเสียงจริงจังเพราะต้องการให้กัสมั่นใจว่าผมจริงจังกับมิคมาก แต่ในอนาคตอะไรมันก็เกิดขึ้นได้นั่นเป็นสิ่งที่ผมไม่อาจรู้ได้ แต่ผมจะทำทุกนาทีที่ได้อยู่กับมิคให้ดีที่สุดเป็นสัญญาที่ผมให้ไว้กับกัสและตัวเอง
กัสยิ้มรับกับคำตอบที่เจ้าตัวคงไว้ใจให้ผมได้ดูแลมิค เมื่อผ่านด่านเพื่อนสนิทที่หวงมิคแบบกัสได้แล้วผมถึงกับโล่งใจ เดินเข้าไปหามิคที่ยืนยิ้มตาหยีส่งมาให้โอบกอดร่างบางแน่นโยกตัวไปมาอย่างหมั่นเขี้ยวคนน่ารัก
“อะแฮ่มๆ ไอ้ฟินมึงเกรงใจกูบ้าง ดูซิกัสฟินมันแอบแต๊ะอั๋งมิค กัสจัดการมันเลย” ไอ้เพื่อนทรยศแบบไอ้วินมันน่าเอาไปหมกส้วมชะมัด ผมหันไปมองมันตาขวางแต่ยังไม่ปล่อยตัวคนในอ้อมกอด
“ไอ้วิน มึงหยุดเลยนะ อ๋อ กูรู้ล่ะมึงอิจฉาล่ะซิ ทำแบบกูไม่ได้เพราะมึงยังมีความผิดติดตัวอยู่ใช่มั้ย ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้า”
ทีแรกล่ะโมโหเพื่อนที่จะให้แฟนมันมาจัดการผม พอนึกได้ว่ามันคงไม่กล้าทำแบบผมเพราะอะไรก็สมน้ำหน้ามันทั้งด้วยคำพูดและเย้ยมันด้วยการกอดมิคแน่นและหอมแก้มฟอดใหญ่โชว์ซะเลย สะใจผมมากที่วินทำอะไรผมไม่ได้พูดไม่ออกเพราะคำพูดผมที่แทงใจมัน ทำได้แต่ชี้หน้าขบเขี้ยวเคี้ยวฟันส่งมาให้ผมเท่านั้น แถมหันไปส่งสายตาอ้อนกัสเหมือนเด็กที่โดนแกล้งแล้วฟ้องพ่อแม่เมื่อทำอะไรเพื่อนไม่ได้ แต่ความสุนทรีย์กับภาพเพื่อนที่โดนคนรักไม่สนใจต้องชะงักลง
“โอ้ยยย มิคๆ พอแล้ว ฟินเจ็บบบ” แรงหยิกที่เอวทำเอาผมสะดุ้งร้องโหยหวนเพราะนอกจากเล็บคมจิกเนื้อแล้วยังมีแรงบิด
หมุนอีก
“พ่อคนฉวยโอกาส เป็นยังไงยังสมน้ำหน้าเพื่อนอีกมั้ย ฮิๆๆ” มิคทำร้ายผมแล้วยังหัวเราะได้อีก ถ้าไม่เกรงใจคู่รักอีกคู่นี่ผมจับฟัดไปแล้วโทษฐานทำผมเจ็บตัว ผมไม่ได้กลัวมิคหรอกนะที่ยอมอยู่นิ่งแบบนี้น่ะ ก็เห็นๆอยู่ร่างกายใครได้เปรียบกว่ากัน
“ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้ามึง ไอ้ฟิน” วินมันหัวเราะเยาะเย้ยผมเมื่อเห็นผมเจ็บตัวและโดนคนรักดุอีกต่อด้วย
เราสี่คนอยู่คุยกันเรื่อง ‘จี’ ผู้หญิงคนนั้นที่เป็นต้นเหตุให้เรามาถึงที่นี่ และช่วยกันคิดหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ และเป็นกัสที่จะขอคุยเพื่อเคลียร์กับผู้หญิงคนนั้นอีกครั้งเพราะไหนๆเธอก็สนิทกับพล พอพูดถึงไอ้พลคนนี้ผมก็ฉุนขึ้นมาและลืมมันไปเลยหลังหุนหันพามิคเข้าห้อง กัสบอกว่าพลกลับไปตั้งแต่เราเข้ามาในห้องแล้วแต่ที่ทำให้ผมโมโหขึ้นมาเพราะกัสบอกว่าดูเหมือนไอ้พลนั่นมันสนใจมิค
นั่นไงผมว่าแล้วมันต้องคิดไม่ซื่อกับคนของผมแน่ ผู้ชายด้วยกันทำไมจะมองไม่ออกว่ามันคิดอะไรอยู่ ผมหันไปมองหน้ามิคที่ทำหน้าตกใจปฏิเสธกัสใหญ่ว่าไอ้นั่นไม่ได้คิดอะไรด้วยหรอก กัสได้ฟังก็ยิ้มๆไม่ตอบอะไรเพื่อนกลับ จนมิคหันมามองหน้าผมยังทำหน้างงไม่หาย เฮ้อ ผมล่ะหนักใจกับแฟนผมคนนี้ มีคนมาสนใจตัวเองยังไม่รู้ตัวแล้วผมจะปล่อยให้คาดสายตาได้ยังไงเนี่ย ยกมือลูบระหว่างคิ้วของมิคให้คลายออกและยิ้มให้เพื่อให้เจ้าตัวลดความกังวลลง เราจ้องตากันนานจนวินมันขัดขึ้นและถามว่าผมจะกลับกันยังไงเพราะพรุ่งนี้ทั้งผมและมิคต้องทำงานทั้งคู่ ส่วนกัสตัดสินใจลางานและฝากงานให้มิคดูแลแทน
“เดี๋ยวมิคขับรถกลับเอง” แฟนผมโพล่งขึ้นมาทำเอาเราที่เหลือหันไปมอง ผมส่ายหน้าทันทีที่ได้ยินมิคบอก
“ไม่เอา ฟินไม่ให้มิคขับกลับคนเดียว ฟินจะขับไปส่งเอง”
“ ไม่ต้องหรอกฟิน ไม่งั้นฟินขับรถเหนื่อยแน่ขับไปส่งมิคแล้วก็ต้องย้อนกลับไปกรุงเทพฯอีก และรถของกัสอีกใครจะขับกลับล่ะเพราะเดี๋ยววินต้องไปส่งกัสที่นู่นเองอยู่แล้ว มิคขับได้จริงๆ” ผมส่ายหัวให้เพราะยังไงก็ไม่ยอมให้มิคขับเองแน่ไกลออกขนาดนี้ เกิดว่ามีอุบัติเหตุขึ้นกับมิคผมจะทำยังไงล่ะ
“เอางี้แล้วกัน มิคกลับกับฟิน ส่วนรถของกัสเดี๋ยววินให้คนขับรถที่บ้านมาขับไปส่งให้ไปพร้อมวันที่วินไปส่งกัสนั่นแหละ ดีมั้ยครับมิค มึงว่าไงฟิน” ผมล่ะสนับสนุนความคิดไอ้วินเต็มที่ตอบตกลงมันไปทันที ส่วนมิคหยุดคิดนิดหน่อยและตอบตกลงในที่สุด
หลังจากนั้นเราก็ล่ำลากันเพราะเริ่มสายแล้วกัสก็เร่งให้ออกเดินทาง เพราะกว่าจะไปถึงที่ทำงานของมิคที่อยู่อีกจังหวัดนั้นไกลกว่าจะถึงกลัวว่าจะค่ำซะก่อน ส่วนไอ้วินที่เริ่มมีอาการดีขึ้นแล้วนั้น ยังถูกกัสบังคับให้กินยาที่มันแสนเกลียด กัสทั้งขู่ทั้งปลอบจนมันกินลงไปได้ซะที ผมกับมิคยังแอบขำผู้ชายตัวโตกินยายากแต่กินเข้าไปได้เพราะถูกคนน่ารักตัวเล็กบังคับจนสำเร็จ เห็นแบบนี้ก็ดีใจแทนไอ้วินมันที่ความรักของมันนั้นสมหวังแม้ครั้งนี้จะมีอุปสรรคมาทดสอบบ้างแต่ทั้งคู่ก็ผ่านมันไปได้ เมื่อวินหลับผมกับมิคก็กลับมาเก็บของที่ห้องและกลับไปบอกลากัส และกัสจะลงมาส่งที่รถด้วยแต่ผมกับมิคไม่ให้ลงมาส่งแต่ให้กัสเฝ้าวินที่ห้องแทน
เมื่อเราลงมาด้านล่างก่อนขึ้นรถกลับมีเสียงหนึ่งเรียกมิคไว้ และเสียงนี้มันคุ้นหูผมเหลือเกิน เราหันไปมองต้นเสียงก็เจอไอ้คนที่ทำให้ผมโมโหแต่เช้านั่นแหละ
“อ้าว คุณพล มีอะไรครับ” เสียงหวานทักไอ้พลพร้อมรอยยิ้ม ผมล่ะอยากอุ้มมิคเข้ารถแล้วขับออกไปจากที่นี่ทันทีเลย
“คุณมิคจะกลับแล้วเหรอครับ เสียดายจังถ้าอยู่นานกว่านี้ผมจะพาไปเที่ยวให้ทั่วเลย” มันยิ้มให้แฟนผมแบบไม่สนว่ามีผมยืนหน้ายักษ์อยู่ตรงนี้เลย
“มิคไปเถอะครับ กว่าจะถึงเดี๋ยวค่ำกันพอดี” ผมจับมิคเข้ารถปิดประตูกดล็อครถกันคนด้านในเปิดออกมา ไม่สนใจว่ามิคจะโวยวายขนาดไหนขอจัดการตัวปัญหาตรงหน้าก่อนแล้วกัน
“นี่คุณพลผมว่าคุณเลิกยุ่งกับแฟนผมดีกว่ามั้ย” พูดกันตรงๆแบบนี้นี่แหละดูซิไอ้นี่มันจะทำยังไง
พลเมื่อได้ฟังก็หุบยิ้มหน้านิ่งจ้องตากับผม ถึงตอนนี้ถ้าจะมีเรื่องผมเชื่อว่าผมมีภาษีดีกว่าไม่น่าจะแพ้ได้ แต่คนตรงหน้ากลับมองผมนิ่งไม่ขยับและยกยิ้มมุมปาก ผมที่เห็นแบบนี้มันรู้สึกว่าไอ้นี่มันตั้งใจกวนอารมณ์ผมให้ขุ่นชัดๆขยับจะเข้าหา แต่พลยกมือข้างหนึ่งขึ้นห้ามซะก่อน
“เดี๋ยวครับคุณฟิน ผมไม่ต้องการมีเรื่อง ผมยอมรับว่าถูกใจคุณมิค อ๊ะๆอย่าเพิ่ง ฮึๆ คุณนี่อารมณ์ร้อนใช้ได้เลยนะฟังก่อนครับ การที่ผมถูกใจคุณมิคไม่ได้หมายความว่าผมชอบคุณมิคแบบคู่รัก คุณมิคให้ความรู้สึกเหมือนน้องชายผมก็เท่านั้น”
ถึงมันจะอ้างว่าคิดกับมิคแค่น้องชายก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะยอมให้เข้าใกล้มิคนะ และมีน้องชายอยู่แล้วจะมาคิดกับมิคแบบนี้ทำไม
“น้องชายผมประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปแล้วครับ” น้ำเสียงปกติแต่มีแววตาเศร้าออกมาให้เห็น ใจผมเย็นลงแต่ก็ยังไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้มิคอยู่ดีนั่นแหละจะว่าผมใจดำก็ยอม เพราะถึงยังไงก็เป็นคนอื่นอยู่ดี
“ผมเสียใจด้วยเรื่องน้องชายคุณ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นใบเบิกทางให้คุณเข้าใกล้แฟนผมเกินจำเป็นได้หรอกนะ” พลนิ่งอึ้งและหลุดหัวเราะเสียงดังออกมา เห็นแบบนี้ผมล่ะอยากหาอะไรยัดปากมันจริงๆเลย
“ฮ่าๆๆ คุณนี่มันขี้หึงมาก ฮึๆ ผมพอเข้าใจล่ะนะแฟนออกน่ารักขนาดนั้น” อ้าวสายตาแวววาวของมันที่พยายามส่องไปหาคนในรถนี่คืออะไร ไหนว่าคิดแค่น้องไง ความสงสารที่เกิดขึ้นผมล่ะอยากเรียกคืนจริงๆ
“ผมไม่แกล้งคุณแล้ว โชคดีนะคุณฟิน ดูแลคุณมิคด้วยนะครับ” พลส่งยิ้มให้ผมแต่ผมที่ไม่มีอารมณ์ส่งยิ้มคืนจึงตีหน้านิ่งกลับไปให้แทน
พลยักไหล่ไม่สนใจท่าทางของผมและหันไปโบกมือให้มิคที่นั่งในรถแทน ผมรีบเดินอ้อมไปเปิดประตูด้านคนขับ และออกตัวรถทันทีไม่สนใจไอ้คนที่ยืนอยู่ข้างนอก
“ฟิน ขังมิคไว้ในรถนานมาก มิคร้อนไปหมดแล้ว” เสียงบ่นเบาๆจากคนข้างๆผมดังขึ้นหลังจากเราออกมาพักนึงแล้ว
ผมเอื้อมมืดเปิดเร่งความเย็นของแอร์ให้มิค แต่ยังเงียบอยู่เพราะอารมณ์ร้อนยังค้างจากตัวต้นเหตุที่เราจากมา
“ฟินๆ ไม่เอานะอย่าเงียบ ฟินรู้ใช่มั้ยว่ามิคไม่ได้คิดอะไรกับคุณพลน่ะ” เสียงอ่อนหวานดังขึ้นเมื่อผมยังเงียบอยู่ แถมมือนุ่มบีบต้นคออย่างต้องการให้ผมผ่อนคลาย อารมณ์ร้อนเริ่มเย็นลงเพราะคนข้างๆ ผมถอนใจเฮือกใหญ่เพื่อปรับอารมณ์
“เฮ้อออ ฟินขอโทษมิคนะครับที่เป็นแบบนี้ ฟินรู้ว่ามิคไม่ได้คิดอะไรแต่ฟินหึงมิคนี่ และความหึงมันก็เกิดขึ้นกับฟินครั้งแรก ฟินเลยยังรับมือกับอารมณ์หึงไม่ได้น่ะ” จับมือนุ่มที่ต้นคอมาจูบแรงๆ
“ฮิๆ หึงมากเลยเหรอพ่อหนุ่มน้อย หลงมิคเข้าให้แล้วซิ ใช่ม้า ฮิๆ” มิคยิ้มจนตาปิด
ผมรู้ว่ามิคพยายามทำให้ผมกลับมาอารมณ์ดีเหมือนเคยและมันก็ได้ผล แค่เห็นหน้ายิ้มๆแบบนี้มันก็ทำให้ผมยิ้มตามได้ไม่ยากนัก
“หลงมาก หลงแบบไม่เคยเป็นกับใครมาก่อนเลย ฮึๆ มิคต้องรับผิดชอบนะที่ทำให้ฟินเป็นแบบนี้”
“ดีแล้วล่ะ โอมมม ให้ฟินจงรักจงหลงมิคจนโงหัวไม่ขึ้นเลย เพี้ยง” มิคคนทะเล้นแกล้งเปาลมกลางกระหม่อมผมเหมือนลงคาถาอาคมให้ซะงั้น
การกระทำของมิคมันทำเอาผมหัวเราะก้องรถเลยทีเดียว ผมหันไปมองคนเล่นของข้างๆที่ยิ้มกว้างตาปิดไปแล้ว ผมล่ะอยาก
จะฟัดแก้มให้หลุดออกมาเลย แต่ด้วยความที่ต้องขับรถจึงทำได้เพียงจูบมือนุ่มในมือตัวเองหลายฟอดแทนไปก่อน เราขับรถมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลที่เป็นที่ทำงานของมิคกันด้วยความชื่นมื่นและสุขจนล้นในอกผม แต่มีบางแวบที่ผมกังวลเมื่อนึกถึงญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของผมและครอบครัวคนรักแต่ผมก็ปัดมันทิ้งไป ก็ตอนนี้ผมมีความสุขที่มีมิคเคียงข้างผมจะต้องกลัวอะไรกับสิ่งที่ยังไม่เกิดกันล่ะ รอให้ถึงเวลานั้นก่อนและผมมั่นใจว่าผมจะฝ่าฟันมันผ่านไปได้ด้วยดีแน่
..............................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^3^
ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงอย่างที่คิดเพราะกัสเค้าเชื่อใจมิคว่าสามารถดูแลตัวเองได้
แต่คนน่ารักก็แอบขู่ฟินซะ จะกลัวดีมั้ยน้อ 555 และนายฟินก็เพิ่งรู้ว่าควันออกหู
เป็นยังไง ดีนะที่รวบรัดมิคมาเป็นแฟนได้ไม่งั้นโดนนายพลสอยไปแน่
ตอนหน้าหมอมิคมาให้ปากคำแล้วค่ะตามมาให้กำลังใจมิคด้วยนะคะปล.+1ให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ และติดตามต่อตอนหน้าวันพุธค่ะ
#################
ทุกการติดตามค่ะ