https://www.youtube.com/v/WXCJwPAERKo “หายไปไหนมาวะ โทรคุยกับสาวอยู่รึไง” พอแคปกลับมาถึงโต๊ะเต้เงยหน้าถามทันที แคปส่ายหัวทิ้งตัวนั่งลงแรง ๆ เหลือบมองไอ้ตัวเจ้าปัญหาตรงหน้า เขาชะงักนิดๆเพราะเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าเมี่ยงที่ตอนนี้คงเริ่มจะเมาเพราะแก้มแดงไปหมดนั่งเอนหัวซบไหล่เอสชนิดที่ว่าแนบชิดซุกลงที่อกเลยก็ว่าได้
“ไม่ต้องแปลกใจคาปู มันสองตัวผัวเมียทำแบบนี้เรื่องธรรมดาพวกกูเห็นบ่อย” เต้เห็นแคปขมวดคิ้วจ้องเอสกับเมี่ยงด้วยท่าทางแปลกๆด้วยความหวังดีเลยหันมาบอกน้องชาย เสียงชิพหัวเราะเบา ๆ ดังมาจากอีกทางเต้หันไปเลิกคิ้วถาม ชิพโดนบุ้งตบหัวไปหนึ่งที
“เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง” บุ้งต่อว่าเบา ๆ ชิพเบะปากบอกก็แค่หัวเราะ
“มึงสองคนผัวเมียจริง ๆ ว่ะไอ้เอสไอ้เมี่ยง คบกันเมื่อไหร่บอกเพื่อนฝูงมั่งดิ ซบกันแบบนี้ตลอดพวกกูก็เขินแทนนะเว้ย” น้ำเสียงทีเล่นทีจริงของชิพขณะที่พูดยังยักคิ้วส่งไปให้เอส บุ้งนี่ส่ายหัวเลย รู้แน่ ๆ ว่าชิพตั้งใจพูดกระทบใส่แคป ขณะที่แคปยังนั่งจ้องเมี่ยงที่ซบเอสอยู่ตลอด มือบางยกบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบอีกตัว เสียงชึกๆจากไฟแข้คที่จุดยากจุดเย็นทำเอาแคปแทบอยากจะฟาดทิ้ง เต้เห็นน้องท่าทางหงุดหงิดน่าดูจึงยื่นไฟแช็คอีกอันส่งให้ แคปจุดไปมองสองคนตรงหน้าไป คนตัวเล็กที่เมาไปแล้ว นั่งซบไหล่เพื่อนสนิทพร้อมกับยกแก้วขึ้นดื่มต่อไปจนเอสต้องคว้าออกแล้วบอกให้พอ
“อะไรเล่ากูอยากกินนี่” เมี่ยงหันไปเชิดปากใส่
“เมามากแล้วมึงอ่ะ”
“ก็กูง่วงอ่ะ”
“อือ นอนซะ” เอสลูบหัวเมี่ยงเบา ๆ บอกให้นอนที่ไหล่เขาได้เลย ดนตรีบรรเลงเพลงฟังสบายๆไปเรื่อย ๆ ขณะที่แคปนั่งสูบบุหรี่มองสองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก พี่ชายเขากับเพื่อนอีกคนของเอสเรียกสองคนนั้นด้วยคำว่าผัวเมีย มันเหมือนคำพูดแซวกันเล่นก็จริงแต่ไอ้เหี้ยเอสมันก็แค่นั่งเฉย ๆ ไม่ได้พูดปฏิเสธอะไรออกมา วันนี้มันนัดกับเขาว่าจะมารับ สุดท้ายก็มีเมี่ยงนั่งคู่มาด้วย ยิ่งตอนเขาไล่คนตัวเล็กๆนั่นไปนั่งด้านหลังดูท่าช็อคไปน่าดูเหมือนกัน ทำไมตอนนั้นเขาไม่ทันสังเกตอะไรเลยวะ แคปคีบบุหรี่ออกจากปากพลางยกแก้วตัวเองขึ้นดื่มเบนสายตาออกจากดวงตาคมกริบของอีกคนที่นั่งมองเขาอยู่เช่นกัน ฝั่งด้านหน้าร้านมีรถมอไซด์วิ่งผ่านไปมา ในที่สุดสะดุดตาลงที่ผู้หญิงสวยน่ารักคนหนึ่ง เธอเพิ่งก้าวลงจากด้านหลังมอไซด์คันสวยเดินมายืนซื้อกาแฟอยู่ที่ร้านฝั่งตรงข้ามพอแคปเห็นชัดๆว่าเป็นใคร เขาทิ้งบุหรี่ลงที่จานเขี่ยแล้วลุกขึ้นทันที
“ไปไหน” เต้เงยหน้าถาม
“เดี๋ยวผมมา” แคปบอกขณะที่ก้าวออกจากโต๊ะแล้วเดินตรงดิ่งมาที่ด้านหน้าร้านเลย
“แฮ่ม!..” เสียงกระแอมไอทุ้มๆของแคปดังขึ้นด้านหลัง แป้งที่อยู่ในชุดสบาย ๆ หันกลับมามองพอรู้ว่าเป็นใครที่ยืนรออยู่เธอฉีกยิ้มกว้าง
“พี่แคป!”
“มาซื้ออะไรครับคนสวย”แคปพยักหน้าเบา ๆ แล้วส่งยิ้มให้
“แป้งมาซื้อนมปั่นค่ะ ดีใจจังไม่เคยเจอพี่แคปแถวนี้เลย มาทานข้าวเหรอคะ” เธอพูดด้วยรอยยิ้มหวาน มองเข้าไปด้านในร้านที่แคปก้าวออกมา ย่านหลังมอฝั่งนี้ทั้งแถบมักมีแต่พวกเด็กวิศวะมานั่งชิลลั๊นลา ถ้าไม่จำเป็นไม่ค่อยอยากมาเยือนสักเท่าไหร่ชื่อเสียงเกษตรกับวิศวะมันก็นะ ไม่ค่อยถูกกัน
“ใช่ครับ แป้งอยู่แถวนี้เหรอ”
“ใช่ค่ะ หอแป้งอยู่ตรงนั้นน่ะ พี่แคปเข้าไปเล่นไหม คิคิ” เธอชี้ให้ดูแล้วหันมาชวนทีเล่นทีจริง แคปหัวเราะ
“แป้งกินอะไรรึยังครับ เข้าไปกินด้วยกันไหม”
“พี่แคปอ่ะ ใจดีกับแป้งจริง ๆ เมื่อวานตอนไลน์คุยกันพี่แคปยังไม่ตอบแป้งเลยนะคะ” เธอยิ้มแป้นแก้มแดงแจ๊ดเมื่อทวงถามถึงข้อความสำคัญในไลน์ที่คุยกับแคปอยู่แทบทุกวัน
“ตอบเรื่องอะไรอ่ะ” แคปทำหน้าซื่อได้อีก
“พี่แคปอ่ะ ใครจะกล้าพูดต่อหน้าล่ะ แป้งก็อายเหอะ”
“อายเป็นด้วยเหรอเราน่ะ”
“พี่แคปบ้าๆ” เธอทั้งยิ้มทั้งตีแคปด้วยท่าทีเขินอายสุดๆ แคปแกล้งเอียงหลบหลบแล้วบอกเธอว่าเจ็บ ๆๆ แป้งยู่ปากทำหน้างอน ๆ พอดีว่าพนักงานในร้านเรียกเธอให้เอานมปั่น แป้งเลยเดินเข้าไปรับแล้วจ่ายตังค์ เธอส่งให้แคปหนึ่งแก้ว แคปบอกไม่เป็นไร
“ทำไมไม่ดูดคาปูชิโน่ล่ะ ชอบดูดนมปั่นเหรอ”
“พี่แคปคนบ้าพูดอะไรน่ะคะ!” เธอร้องออกมาอย่างดัง
“อ้าว ก็แค่ถามว่าทำไมไม่กินกาแฟโตแล้วยังกินนมปั่นอยู่เนี่ย” แคปแอบขำขณะที่แป้งแก้มแดงแป๊ดยิ่งกว่าเก่า ก็คำว่าดูดของแคปมันทำให้หัวใจเธอเต้นตุบตับโตยิ่งกว่าบอลลูน เธอยื่นแก้วนมปั่นที่ถืออยู่จ่อปากแคปแก้เขิน
“งั้นกินด้วยกันนะ พี่แคปกินกับแป้ง”
“.......” แคปมองหน้าเธอยิ้ม ๆ เขาชั่งใจนิดๆก่อนก้มลงไปดูดแล้วช้อนสายตามอง จากนั้นพอแคปดูดเสร็จเธอเอาไปดูดต่อแล้วทำหน้าฟิน
“ว๊า เสียจูบทางอ้อมแล้วเนี่ย” แคปแซวยิ้ม ๆ เธอยิ่งอายม้วนต้วนแดงไปทั้งตัวเลย แคปหัวเราะ
“ดึกแล้วเพื่อนรอแหนะ” แคปมองดูเวลาไม่อยากให้เธออยู่แถวนี้ดึกมากจนเกินไปลมแรงตากน้ำค้างกลัวว่าจะไม่สบาย อีกอย่างเห็นเพื่อนเธอคร่อมมอไซด์รออยู่ด้วยเขาจึงบอกให้เธอรีบกลับ มันดึกมากแล้วจริง ๆ
“แป้งไม่อยากรีบกลับเลยอ่ะ ได้เจอพี่แคปนอกมอทั้งที เราน่าจะได้เอ่อ..นั่งคุย ไม่งั้นก็ เอ่อ...”
“ฟุ้งซ่านอะไรน่ะเราหื้ม? กลับได้แล้วนะ” แคปผลักหัวเธอเบา ๆ อย่างหยอกล้อก่อนดึงเธอเข้ามาแล้วก้มลงไปดูดนมปั่นในมือเธออีกคำ เขาพยักหน้าอมยิ้มให้บาง ๆ บอกเดี๋ยวค่อยไลน์คุยกัน แป้งยิ้มแป้นกระโดดคร่อมรถแล้วบอกบ๊ายบาย
“น่ารักว่ะ......เฮ้ย!” กำลังพึมพำว่าเธอน่ารักอยู่ดี ๆ กลับมีวงแขนหนักๆพาดลงมาที่บ่าเขาแรงมากจนเสียหลักเซไป แคปคว้าราวระเบียงไว้ขณะที่ไอ้คนทำมันล๊อคทั้งแขนกอดและกดคอแคปให้นั่งยองๆลงไปกับมัน
“ไอ้สัส” แคปหันไปด่า
“ตกใจเหี้ยไร ตกใจที่กูมาเห็นมึงม่อหญิงอยู่รึไงวะ”
เอสดึงฮู้ดขึ้นมาปิดหัวเล็กให้ก่อนคีบบุหรี่ออกจากปากแล้วยัดเข้าไปที่ปากแคปแทน ใช้สายตาบังคับบอกให้สูบด้วยกัน แคปผลักออกเอสยิ่งมองขู่ เขารำคาญจับมาดูดแล้วยัดปากมันคืนก่อนมุดออกมาจากวงแขนแกร่งนั้นได้
“นี่ก็จูบทางอ้อมเหมือนกันนะครับเมีย หึหึ” เอสเหยียดรอยยิ้มเยาะ แคปรู้ทันทีมันมาเห็นตั้งแต่ตอนที่เขาแกล้งหยอกแป้งเรื่องจูบทางอ้อมนั่น แต่ใครจะสนล่ะที่โมโหอยู่ตอนนี้ก็ไอ้คำห้อยท้ายของมันนี่แหละ
“กูไม่ใช่เมียมึง” แคปกัดฟันกรอดขณะที่เอสหัวเราะเหอะๆ
“ถอยไป”
“คิดว่าจะให้ไปไหมล่ะ” เอสก้าวขายาว ๆ ดักทางไม่ให้แคปเดินกลับเข้าร้านได้
“เจ้าชู้ตัวพ่อ พยศก็ไม่มีใครเกิน”
“เรื่องของกู!”แคปถลึงตาใส่
“เรื่องของมึงนั่นมันก็ใช่ แต่มึงเป็นเมียกูใช่ไหมล่ะห๊ะ!” เอสกระชากไหล่เล็กไว้ เขาดึงครั้งเดียวแคปที่จะแทรกตัวเดินผ่านเข้าไปกระเด็นออกไปอยู่อีกทาง เขาจ้องแคปด้วยสายตาน่ากลัวมาก
“ไอ้สัส มึงจะพูดดังหาพ่อมึงเหรอ”
“อย่าเล่นถึงพ่อกูไม่ชอบ”
“อย่ามายุ่งกับกู”
“บอกเลิกไปซะ”
“พูดเหี้ยไร อ่ะ..เอาของกูคืนมา” โทรศัพท์มือถือที่แคปถือไว้อยู่ถูกเอสดึงออกไปยัดไว้ในกระเป๋าตัวเองเร็วมาก อีกฝ่ายร้องไว้แต่ไม่ทันแคปยืนตาเขียวคิ้วกระตุก
“เข้าไปด้านใน บอกพี่มึงว่าเราจะกลับกันแล้ว”
“ไม่ไปมึงอยากกลับๆไปเลย กูจะกลับกับพี่กู เอามือถือกูคืนมา”
“มึงรู้อยู่แล้วว่ากูจะให้หรือไม่ให้”
“ไอ้สัสเอ๊ย”
“วันนี้กี่สัสแล้วนะ จัดโชว์พี่มึงสักดอกคงพอใจใช่ไหมห๊ะ”
“ไอ้....”
แคปเจอเอสชี้หน้าไว้เขาขยับปากได้แค่นั้น ได้แต่กัดฟันอดทนเอสดึงแขนกลับคืนไปที่โต๊ะ ปล่อยออกตอนที่เกือบจะถึงโต๊ะอยู่แล้วแคปหันไปจะเอาเรื่อง เอสไม่สนใครหน้าไหนแล้วคว้าแขนแล้วดึงมาจนถึงโต๊ะ เต้นี่เงยหน้ามองทั้งสองคนแคปรีบหันไปส่งสายตาบอกว่าให้เอสปล่อยเอสจึงยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋าคืนให้แล้วผลักแคปให้นั่งลง
“ไปไหนกันมาวะ ทำไมกลับมากันสภาพนี้” เต้มองน้องชายแล้วจ้องหน้าเอสต้องการคำตอบ คนถูกถามทิ้งตัวนั่งลง ก่อนยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ
“ออกไปม่อสาวน่ะสิ เดี๋ยวเกิดไปเจอผู้หญิงของคนแถวนี้ผมไม่อยากมีปัญหา” เขาโกหกไปครึ่งนึงแคปตาเขียวปั๊ดจ้องคนตรงข้ามที่กำลังถูกเพื่อนสนิทอย่างเมี่ยงซบไหล่เข้าให้อีก แคปยิ่งมองยิ่งหงุดหงิดกว่าเก่า ตอนที่ลุกออกไปครั้งแรกสบายใจแล้วแท้ ๆ กลับมานั่งมองพวกมันสองตัวอีกเขารู้สึกไม่ค่อยดี
“ไอ้เอส เมียมึงเมาขนาดนี้พามันกลับก่อนดีป่ะวะ” เพื่อนเต้คนนึงพูดขึ้น รัฐที่นั่งอยู่หัวเราะเบา ๆ เขามองแคปนิดหน่อยแต่รายนั้นไม่ได้สนใจใคร อยากได้โทรศัพท์คืนอยากให้พี่ชายไปส่งอยากกลับไปนอน แค่นั้นเองคืนนี้แคปไม่ต้องการอะไรอีก
“ก็ดีครับ งั้นผมกลับก่อนเลยละกันชิพบุ้งกูจะกลับแล้ว ไอ้แคปมึงลุกดิวะ ไอ้เมี่ยงแม่งตัวหนักเป็นบ้าเลยมึงเมาเหี้ยไรเนี่ย” เอสลุกขึ้นพลางดึงแขนเมี่ยงที่เมามากใส่ไหล่รายนั้นไม่รู้เรื่องเมามากๆชิพต้องเข้ามาช่วยพยุง เมี่ยงคล้ายคนจะหลับซบลงที่อกเอสจึงรับเอาไว้แบบเต็ม ๆ
“ใครให้มันกินเยอะขนาดนี้เนี่ย” เอสพึมพำเบา ๆ มองชิพที่เป็นตัวชงคู่กับรัฐ ชิพยิ้มแห้ง ๆ ก็เขาเองจริง ๆ ส่งให้เมี่ยงมันตลอดรู้ว่าคอมันอ่อนแต่ก็คิดว่ามากับพวกเขาคงไม่เป็นอะไรอีกอย่างพรุ่งนี้วันหยุดไม่ได้ไปไหน ปกติคืนวันศุกร์วันเสาร์เมี่ยงชอบไปค้างกับเอส ชิพลืมไปจริง ๆ เรื่องแคป
“อึกก ไอ้เอสกูง่วงว่ะ” เมี่ยงพูดยานคางเอสส่ายหัวส่งสายตามองแคปบอกให้รู้ว่าลุกขึ้นได้แล้ว
“เออๆรู้แล้วเดี๋ยวพากลับเดี๋ยวนี้แหละ ลุกแคป” เขาบอกเมี่ยงพาเดินออกไปเสร็จหันไปเรียกแคปอีกครั้ง แต่รายนั้นยังนั่งเฉยจนพี่ชายอย่างเต้หันมอง
“ไปดิ เพื่อนมึงเรียกแล้ว” แคปส่ายหัวบอกพี่ชายว่าไม่ เขาเหลือบมองเอสที่พยุงเมี่ยงไว้
“มึงพาเพื่อนมึงกลับเหอะ เดี๋ยวกูให้พี่เต้ไปส่ง” แคปยกแก้วที่รัฐเพิ่งเติมให้เป็นรอบที่สามตั้งแต่เดินเข้ามาซดรวดเดียวหมด อารมณ์เห้อะไรไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันรู้แค่ว่าไม่ไปกับไอ้เอสแน่นอน
“แคป” เอสกดเสียงให้ต่ำลงอีก เสียงเมี่ยงงัวเงียบอกจะกลับท่าเดียวเอสที่พยุงไว้แทบจะหมดความอดทนทั้งยังต้องจ้องแคปใช้สายตาบอกให้ลุกขึ้น
“กูจะกลับกับพี่” แคปว่า
“แต่มึงมากับกู” เอสตอบกลับไป
“ก็กูไม่ไปอ่ะ มึงเอาเมียมึงกลับไปเลยเหอะ พูดมากน่ารำคาญว่ะแม่ง”
“ไอ้แคป!” เอสตะคอกขึ้นเลย เจ้ดจี๊ดเมื่อแคปพูดกับเขาว่าเมี่ยงคือเมีย ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องแซวกันเล่นๆ เขาโยนเมี่ยงลงไว้ที่เดิมแบบไม่ต้องคิดเลย ชิพถลาเข้ามารับเอาเพื่อนแทบไม่ทัน เอสยืนจ้องหน้าแคปตาเขียวมือสั่นไปหมด เต้ที่นั่งอยู่กระแทกก้นแก้วลงกับโต๊ะแรงมากเขาลุกขึ้นมองทั้งน้องชายและน้องรหัสก่อนดึงแคปขึ้นมา
“คาปูมึงลุกกลับไปกับมันไป ช่วยมันเอาไอ้เมี่ยงกลับด้วยก็ดี เดี๋ยวเกิดเป็นไรขึ้นมาขากลับมึงจะได้ช่วยมันดู” เต้หันมาบอกน้องชายตัวเอง
“ผมไม่ไป” แคปบอกแน่วแน่จะนั่งลงอีกแต่เต้จ้องหน้าเขานิ่ง
“แคป” ไม่รู้เพราะเต้คิดน้อยเกินไปหรือแคปงอแงมากไปกันแน่
“เพื่อนกันมาด้วยกันต้องกลับด้วยกันดิวะ”
“ผมไม่ใช่เพื่อนมัน”แคปสวนขึ้นทันที เอสก้าวเข้าหาเลยโน้มตัวเข้าไปพูดเสียงเบาข้างหู
“จะให้บอกพี่มึงไปเลยใช่ไหม”
“ไอ้สัส” ตากลมกร้าวขึ้น เอสเหยียดรอยยิ้ม
“ไปๆเดี๋ยวทางนี้กูเคลียร์เอง ชิพบุ้งพวกมึงกลับกันเลยก็ได้ แบกเพื่อนมึงช่วยไอ้เหี้ยเอสออกไป หน้าตามันไร้อารมณ์สุดแล้ววันนี้ไม่รู้ไปกินรังแตนที่ไหนมา แคปมึงกับไอ้เอสเคลียร์กันให้เรียบร้อย แมนๆกันหน่อยห้ามอย่างอแงและอย่ามีเรื่องจนได้เลือดนะ ส่วนไอ้เอสมึงแวะส่งน้องกูเสร็จค่อยพาเมี่ยงมันกลับห้องมึงก็ได้” เต้สั่งความทุกอย่างรวบรัดครั้งเดียวจบ ขณะที่ทั้งชิพทั้งบุ้งค้อมหัวบอกลาพวกรุ่นพี่ เอสดึงเมี่ยงขึ้นมาใหม่เขาประคองแขนพาดใส่บ่าไว้เหมือนเดิม บุ้งก็เข้ามาช่วย ทั้งหมดจะพากันเดินออกไป ขณะที่คนเมาก็หลับคอพับคออ่อน เอสหันกลับมาใช้สายตาเรียกให้คนรั้นเดินตาม แคปที่หงุดหงิดสุดคว้าเอาโทรศัพท์ตัวเองบนโต๊ะกำลังเดินย่ำเท้าตามเอสไปเต้ดึงแขนไว้แล้วบอกพรุ่งนี้บ่ายจะเข้าไปรับกลับบ้านด้วยกันแคปพยักหน้าเซ็งๆ ดีใจอยู่นะที่จะได้กลับบ้านกับพี่ แต่ไม่โอเคทำไมพี่ชายเขาไปส่งเขาวันนี้ไม่ได้
“อย่างอแงสิวะ มึงมากับมันก็ต้องกลับกับมันแบบนี้เขาถึงเรียกว่าเพื่อนแท้” เต้เดินตามออกมาส่ง
“ผมบอกแล้วผมไม่ใช่เพื่อนมัน”
“อย่างอแงน่าคาปูมึงจะไม่ใช่เพื่อนมันได้ยังไงวะ มันยอมบอกความลับกับมึงเรื่องสาว ๆ ทั้ง ๆ ที่กับเพื่อนสนิทมันหรือกับกูมันยังไม่เคยปริปากแสดงว่ามันให้ความสำคัญกับมึงใช่ไหมล่ะแบบนั้น”
“พี่เต้ไม่เข้าใจผมหรอก”
“กูรู้ว่ามึงไม่ค่อยชอบมัน ดีกันไว้อีกหน่อยพึ่งพากันได้เข้าใจนะ” เต้ตบเบา ๆ ลงที่บ่าน้องชายก่อนปล่อยแคปเดินออกไป เอสที่จัดการโยนเมี่ยงเข้าไปด้านในเบาะหลังเรียบร้อยยืนรอแคปอยู่ก่อนแล้ว เขาเดินเข้าไปหา
“เดี๋ยวไปส่งไอ้เมี่ยงก่อน แล้วเรากลับด้วยกัน”
“ไม่ มึงไปส่งกูที่ห้องก่อนแล้วจะพาเพื่อนมึงกลับไปไหนก็ไปเหอะ”
“........”
“เพื่อนมึงเมามากขนาดนี้ปล่อยมันนอนคนเดียวได้ยังไง”
“แคป”
“ไปได้สักทีรึยัง” แคปเปิดรถขึ้นไปนั่งรอแล้วปิดประตูดังโครม เอสส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจก่อนเดินอ้อมไปที่ฝั่งคนขับ แคปเงียบมาตลอดทางขณะที่คนเมาด้านหลังทำท่าจะอ้วกอยู่ตลอดทางเช่นกัน จนกระทั่งเมี่ยงทำท่าจะพ่นของเก่าออกมาแล้วจริง ๆ ทั้งแคปทั้งเอสต่างหันดู
“บ้าเอ๊ย!” เสียงแคปว่าขึ้นอย่างหงุดหงิดก่อนจะมุดข้ามไปด้านหลังกดกระจกลงแล้วจับหัวเมี่ยงจิกดึงออกไปนอกรถ แคปตบแผ่นหลังเล็กดังผั๊วะๆๆ
“อ้วกออกมาให้หมดเลยนะมึง ทำท่าจะอ้วกตั้งนานสองนานรู้ไหมกูรำคาญมาก”
“แคปพอๆๆ” เอสรีบชะลอรถจอดลงข้างทาง เขาเปิดแล้ววิ่งออกมาดูสองคนที่ด้านหลัง แคปแทรกตัวลงจากรถผ่านเอสออกมายืนหัวเสียอยู่ด้านนอกจุดบุหรี่ขึ้นสูบอย่างหงุดหงิดปวดหัวหนึบๆ หันไปอีกทีเอสกำลังลูบหลังให้คนที่อ้วกอยู่ข้างรถแทบจะคลาน
“กินเหี้ยไรเยอะแยะวะไอ้เมี่ยง มึงแม่ง”
“กูพอใจอ่ะ อ้วกพรวดดดดดดดด..” ยังอ้วกต่อไม่หยุด แคปนึกในใจก็รู้ว่ากินไม่ได้ยังจะกินอะไรเยอะแยะวะ
“แล้วมันลำบากใครล่ะ” เอสเอื้อมมือไปหยิบเอาขวดน้ำเล็กๆที่ช่องเกียร์มาเปิดออกให้ เมี่ยงยกซดรีบร้อนจนน้ำเลอะเทอะไปหมด
“ค่อยๆกินบ้าเอ๊ย””” เอสเอาดึงกระดาษทิชชู่มาเช็ดปากให้อีกส่ายหัวไปบ่นไป
“ไอ้เอสมึงห้ามบ่นกูนะหน้าที่มึงอยู่แล้วเหอะ”
“หน้าที่เหี้ยไร เมาทีไรลำบากกูทุกที”
“คึคึ กูชอบเมาอ่าา กลับห้องมึงนะวันนี้กูค้างกับมึงได้ใช่ไหม..” เสียงคนเมาพูดยานคางขณะที่เอสก้มลงไปประคองตัวเพื่อนให้ขึ้นไปนอนดี ๆ แคปที่ยืนมองภาพสองคนดูแลกันและกันแล้วบอกความรู้สึกตัวเองไม่ออกจริง ๆ นึกถึงคำพูดเพื่อนพี่ชายที่พูดถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองคน
“ไม่ต้องแปลกใจไอ้น้อง มันสองตัวผัวเมีย ทำแบบนี้เรื่องธรรมดาพวกกูเห็นบ่อย”
“หึ..” แคปรู้สึกสมเพชตัวเองจริง ๆถ้าหากเป็นเรื่องจริงอย่างที่เขาพูดกัน มันคือที่สุดของความซวยๆๆๆ บ้าเอ๊ย!!!
“เป็นไรวะ ขึ้นรถเร็ว” แคปสะดุ้งโหยงถอยห่างออกมาทันที เขารีบทิ้งก้นบุหรี่ลงแล้วขึ้นรถ เอสก็มองงงๆ แต่ด้วยความที่รีบเลยยังไม่ได้ถามอะไรไม่นานนักรถเลี้ยวเข้ามามาจอดลงที่คอนโดแคป
“เดี๋ยวกูไปส่งมันก่อนแล้วจะวนกลับมา รอเปิดห้องให้ด้วยอย่าเพิ่งนอนนะ” เอสรีบกดล๊อคตอนที่เห็นแคปทำท่าจะลง รายนั้นไม่ได้สนใจหันมามอง พอเปิดลงไม่ได้ก็แค่หันมาจ้องหน้า
“รอนะ บอกก่อน” เอสย้ำอีกแต่แคปส่ายหัวบอกไม่รอและไม่สนใจเอสยิ่งจ้องหนักเลย
“แคป”
“กูไม่รอ ไม่ต้องกลับมา!” แคปจะเอื้อมมือไปกดปลดล๊อคเจอเอสคว้าเอาต้นคอล๊อคเข้ามาหา เขากดจูบลงสัมผัสเบาๆที่มุมปากเล็ก ผงะนิดๆเพราะรู้สึกว่าลมหายใจแคปร้อนผ่าวมาก คิดว่าคงเพราะดื่มหนักเกินไปแต่คอค่อนข้างแข็งเลยออกมาทางลมหายใจทั้งหมด แคปฟาดผั๊วะลงกลางหลังเอสรวบเอาตัวทั้งหมดล๊อคหัวล๊อคคอจับดูดปากแม่งหนักๆอยากดีดดิ้นดีนักแคปยิ่งร้องอื้อๆๆ
“ไอ้สัส เพื่อนมึงก็อยู่บ้าไปแล้ว!”แคปร้องใส่
“จะรอไหมล่ะ”
“ไม่รอ!” แคปตะคอกสวนใส่หน้าเอสแบบจัดเต็มมาก
“บ้าเอ๊ย ลงไปเลยไป” เอสหมดความอดทนทุบปุ่มปลดล๊อคแรงมากๆเขาผลักแคปบอกให้รีบลงไปได้เลย ไม่อยากรอไม่ต้องรอแล้ว หลังประตูรถปิดโครมลงเอสนั่งควบคุมลมหายใจเอาจนอารมณ์เย็นลงจึงค่อยถอยรถออกจากช่องจอดก่อนจะเลี้ยวออกจากคอนโดสูงไป
.
.
“ไอ้เมี่ยง มึงเดินดีๆสิวะตรงๆ” รถจอดลงที่อพาร์ทเม้นท์ของเมี่ยง เอสดึงคนตัวเล็กลงมาแล้วยกแขนจับพาดใส่บ่าพาเดินขึ้นบันได ห้องเมี่ยงอยู่แค่ชั้นสามทุลักทุเลนิดหน่อยแต่ก็ต้องลากกันขึ้น
“อึกก ก็ทำไมไม่พากูไปค้างห้องมึงล่ะว๊าา นอนคนเดียวอีกแระ กูเมานะเนี่ย เฮ้ยกูสะดุดมึงจับกูดีๆสิวะไอ้เอส เพื่อนบ้า”
“โวยวายไรนักหนา รู้ว่าคออ่อนยังไม่เจียมตัว มึงคิดว่ากูควรจัดการมึงยังไงดีล่ะ”
“บ่นไรเล่า อึกก กูเมาทีไรมึงก็พากลับทุกทีอ่ะไม่เห็นเคยบ่น หน้าที่มึงทั้งนั้นเหอะ”
“หน้าที่เหี้ยไร เดินดีๆทางนั้นไม่ได้ไอ้เมี่ยงจะชนแล้วมึงอ่ะ ทางนี้ขยับมาหากูนี่”
“ก็มึงต้องดูแลกูอ่ะ เอ้ย! กูจะตกแล้วเหี้ยบันไดแม่งแคบใครสร้างวะออกแบบไม่ได้เรื่อง ไอ้เอสมึงอุ้มกูไม่ได้ไงวะมึงตัวใหญ่กว่ากูตั้งเยอะ”
“ใครจะไปอุ้มตัวมึงไม่ใช่เล็กๆ เดินดีๆ”
“เมื่อก่อนยังเคยอุ้ม”
“เคยที่ไหนวะ”
“ก็ตอนนั้นอ่ะ มึงให้กูขี่คอปีนเก็บมะม่วงอ่ะ”
“ไร้สาระนั่นมันตั้งแต่สมัยไหนแล้ว ดูตัวมึงตอนนี้ซะก่อน เดินดีๆไม่เอาไม่อุ้ม” เมี่ยงเวลาเมาเป็นแบบนี้ตลอดขี้อ้อนทำตัวเหมือนเด็ก เขาเบียดตัวเข้ามาจะให้เอสอุ้มท่าเดียวแต่อีกคนก็แค่กอดเอวพาเดิน
“อึกก หน้าที่มึงนั่นแหละต้องดูแลกู” เสียงเล็กยังจะพูดต่อ ทำท่าจะอ้วกขึ้นมาอีก
“เออดูแลดีแบบเหี้ยๆเลยไหม เดี๋ยวเข้าห้องจะจับถอดผ้าแล้วเอาน้ำราดจะได้สร่างเมา”
“ถ้ากูสร่างเมาแล้วมึงก็จะกลับใช่ป่ะล่ะ อึกก กูรู้หรอก”
“ก็เออสิ กูจะอยู่ทำไมล่ะกุญแจอยู่ไหนเนี่ย” พอถึงหน้าห้องเอสถามหากุญแจเมี่ยงบอกอยู่กระเป๋าหลังพอเอสล้วงเอาไขเข้าห้องเขาเหวี่ยงคนตัวเล็กลงที่เตียงเลย
“จะกลับจริงดิ..” เมี่ยงปรือตาถาม เพดานห้องหมุนจนเวียนหัวไปหมด
“อือ” เอสเดินไปจัดการเปิดไฟเปิดแอร์ผลักประตูระเบียงเช็คให้ หันกลับมาอีกทีเมี่ยงนั่งโก่งคอบอกอยากจะอ้วกขึ้นมาอีก
“อะไรของมึงวะอย่าอ้วกใส่เตียงนะเว้ย” เอสหันซ้ายหันขวาหาอะไรมารองกลัวไม่ทันเขาดึงเมี่ยงเข้าห้องน้ำเลยบอกอ้วกออกมาให้หมด เมี่ยงดูอ่อนระโหยมากหน้าซีดเอสที่ลูบแผ่นหลังให้เดินออกไปเทน้ำเปล่ามายื่นให้พอเมี่ยงกินเข้าไปอีกก็อ้วกอีก คนตัวเล็กอ้วกจนสั่นหน้าซีดไปหมด
“กูไม่อยากอยู่คนเดียว ถ้ามึงจะกลับพากูไปนอนค้างที่ห้องมึงด้วยได้ไหม” เมี่ยงยกแขนขึ้นเช็ดปากเขาเงยหน้ามองเพื่อนตัวเอง ความน้อยใจตีตื้นขึ้นมา ทุกครั้งที่เขาเมาเอสไม่เคยปล่อยเขาให้นอนคนเดียวเลยสักครั้ง เอสจะคอยดูแลเช็ดตัวพานอน แล้วก็หลับไปด้วยกันตื่นมาตอนเช้าถึงจะโดนบ่นโดนโกรธแต่เขาสองคนก็จะออกไปนั่งกินโจ๊กไม่ก็ข้าวต้มร้อน ๆ ด้วยกันเสมอ
แต่ทำไมครั้งนี้...
“ทุกครั้งเวลากูเมามึงจะอยู่ข้างกูตลอด” เสียงเขาเริ่มสั่นตาดวงตาแดงก่ำสั่นระริก ว่ากันว่าคนเมามักอ่อนไหวร้องไห้ง่ายแบบนั้นคงจะจริง เอสมองเพื่อนตัวเองที่ซบหัวใส่อกเขาอยู่อย่างปลง ๆ เขาดึงไหล่เล็กออกมาแล้วจ้องหน้า เมี่ยงเบะปากทำท่าจะร้องไห้จริงอย่างที่คิด
“อ้วกเสร็จรึยัง” เสียงทุ้มเรียกถาม เมี่ยงพยักหน้าตอบเบา ๆ
“งั้นก็ไปที่เตียง”
“มึงจะกลับแล้วเหรอ” เอสไม่ได้ตอบ เขาแค่ดึงแขนเมี่ยงพาไปนั่งลงที่เตียง
“มึงจะกลับแล้วใช่ไหม” เมี่ยงถามต่ออีกเอสบอกให้ถอดเสื้อออกจะเช็ดตัวให้ หลังจากที่กะละมังกับผ้าชุบน้ำมาพร้อม เอสดึงเสื้อคนเมาออกจัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัว เขาทำให้เมี่ยงบ่อยนะเวลาที่เมา แม้กระทั่งกับชิพเขาก็เคยทำให้ เขาจับเมี่ยงลุกขึ้นนั่งให้ตรงจากนั้นยื่นเสื้อผ้าส่งให้
“เปลี่ยนเอง” เมี่ยงพยักหน้าเบา ๆ รับชุดนอนมาเปลี่ยนใส่เอง มองหน้าคนที่คงกำลังจะไปด้วยแววตาเศร้า ๆ เอสจับคนตัวเล็กนอนลงกำลังจะห่มผ้าให้เมี่ยงคว้าเอามือหนาไว้ก่อน
“มันเที่ยงคืนแล้ว มึงนอนที่นี่แหละจะกลับไปทำไมวะมันดึกแล้วเหอะ”
“กลัวผีรึไง วันนี้เป็นไรเนี่ยพูดเหมือนอยากให้กูอยู่ค้างด้วยจริง ๆ”
“ก็ค้างสิ กูอยากให้มึงค้างจริงนะ กูกลัวผีนั่นแหละยอมรับก็ได้”
“ตลกแล้วมึง” เอสหัวเราะเบา ๆ ผลักเมี่ยงให้นอนลงไปเขาห่มผ้าให้แล้วตัวเองก็เอนตัวพิงหัวเตียงอยู่ข้าง ๆ
“มึงหลับไปเลย ดึกๆกูค่อยกลับก็ได้”
“ดึกแค่ไหน ตีห้าได้ป่ะล่ะ”
“เว่อร์” มือใหญ่ผลักหัวเมี่ยงที่ผงกขึ้นมาให้นอนลงไปอีกรอบ เมี่ยงหันมากอดแขนเอสหมับ
“กูจะจับเอาไว้แบบนี้แหละ ถ้ามึงลุกขึ้นกูจะรู้ของกูทันที”
“นอนไปเถอะน่าพูดอย่าพูดมาก” เมี่ยงหลับตาลง รู้สึกพะอืดพะอมคลื่นไส้ขึ้นมาอีกวิ่งลงจากเตียงจะเข้าห้องน้ำ เขาสะดุดล้มจนเอสต้องรีบเข้าไปอุ้มขึ้นมากอดไว้ จู่ ๆ เมี่ยงร้องไห้ออกมาเอสนี่งงแดกเลย
“เป็นเหี้ยไรวะ”
“ฮึกก กูเจ็บอ่ะ ปวดท้องอยากอ้วกตลอดเลย ฮึกก อึกก”
“มันแฮ้งค์ไงเป็นแบบนี้แหละเมื่อก่อนมึงก็เคยแป็น กลัวไรเล่า”
“แต่เมื่อก่อนมึงนอนเฝ้ากูนี่ วันนี้มึงบอกจะไป ฮึกก ฮืออ ฮึกก”
“เออๆไม่ร้องๆ พอแล้วเมี่ยงอย่าร้องสิวะกูไม่ไปแล้วนอนแม่งที่นี่แหละ โอเคจบไหมนอนได้รึยัง”
“จริงนะ”
“เออๆ” เมี่ยงคลานเข้าไปอ้วกต่ออีกหน่อย เอสลูบหัวลูบหลังปล่อยให้อ้วกทิ้งออกไปให้หมด เขาล้างหน้าล้างตาให้แล้วพามานอนลงที่เตียง
“มึงไม่ไปจริงนะ”
“นอนซะ”
“งั้นก็ไปอาบน้ำดิ ผ้าเช็ดตัวมึงอยู่ในตู้อ่ะ วางอยู่ที่เก่าน่ะแหละ”
เอสยกมือปิดปากหาวก่อนพยักหน้าให้เมี่ยงรีบนอนเดี๋ยวอ้วกขึ้นมาอีกหลับไปจะได้หายแฮ้งค์ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ๆก่อนเอนตัวหลับตาพิงพนักที่หัวเตียงมึนนิดๆอยู่เหมือนกัน