,,เพราะนายคือของฉัน[II],, ตอนที่พิเศษ :เรื่องหลอนๆ ... [P.13][UP!!] [11/11/62]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ,,เพราะนายคือของฉัน[II],, ตอนที่พิเศษ :เรื่องหลอนๆ ... [P.13][UP!!] [11/11/62]  (อ่าน 76368 ครั้ง)

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
จะกลับไปจุดที่เคยเจอกันมั๊ย

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5

เพราะนายคือของฉัน [ll] : 20




       “ทำไมมึงไม่รับ”


   เสียงทุ้มถามจบ ผมก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมอง ทันทีที่เผลอสบตากับดวงตาคู่สวย ผมถึงกับกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก

   “เอาไงดีมึง” คำถามที่ไม่น่าจะถามผม เพราะสายตาคนถาม หันไปมองคนข้างตัว “ทิ้งมันไว้ข้างกองขยะเปียกตามเดิม หรือว่าไง”

   “กูว่า...” แทบกลั้นหายใจกับประโยคที่ขาดหาย “เดี๋ยวกูหิ้วมันเข้าไปดีกว่า สงสาร ไม่รู้โดนใครทิ้ง”

   “โดนหมาทิ้งแน่ๆ เชี่ย” ออกความเห็นไม่ทันจบดี คนพูดก็ถูกฝ่ามือใหญ่ฟาดเข้าเต็มหัว

   คงไม่ผิดใช่ไหม ถ้าผมจะสมน้ำหน้า...

   “มึงจะนั่งเป็นขยะเปียกอีกนานไหม ลุก!”

   “ก็มองอยู่นี่ไง” ผมตอบทำหน้าจริงจัง แต่อีกฝ่ายกลับตีหน้านิ่ว กดคิ้วขมวด

   “มองอะไรของมึงวะ” เป็นอีกคนที่ยืนข้างๆ ถามแทน

   “ก็พี่บอกให้ผมลุค ก็มองอยู่นี่ไง” พูดอีกรอบ แต่อีกสองคนก็ยังไม่เข้าใจ ผมเลยต้องอธิบายเพิ่มเติม “แอล ดับเบิ้ลโอ เค อ่านว่าลุค แปลว่ามอง เชี่ย” กลิ้งตัวหลบฝ่าตีนแทบไม่ทัน โหดเหี้ยๆ

   “กวนตีนนะมึง”

   “นี่คือการทักทายของพี่เหรอวะ” ตวัดดวงตามองคนที่ยื่นขามาจะถีบ “น่าน้อยใจฉิบ...เฮ้ย” พูดไม่จบ ร่างอวบๆ ก็ถูกยกขึ้นพาดบ่า ท้องที่เต็มไปด้วยน้ำเมาแทบพุ่งตามจังหวะคนแบกที่ก้าวเดินฉับๆ “ค่อยๆ เดิน ปวดท้อง”

   “พูดมากจริง”

   “พี่โช!”

   แหกปากโวยวายแข่งกับเสียงเพลง พี่แกเล่นตบก้นผมหลายทีโดยไม่สนสายตาคนอื่นที่มองเลย จนมาถึงโต๊ะในตำนาน นั่นคือโต๊ะที่ผมเคยถูกหิ้วมานั่งครั้งแรกสมัยเมื่อก่อนนู้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพื่อนร่วมแก็งของคนที่หิ้วผมมา แต่ที่เพิ่มเติมคือแก็งเพื่อนของผมนั่นเอง ไอ้เชี่ยสักชนแก้วไม่ยั้งกับพี่ติน ไอ้ต๋องกับไอ้เคก็ขำมุกแป้กๆ ของพี่แทม ไอ้ทูกำลังออเซาะพี่เบ ส่วนพี่จอมกับพี่ซันกำลังนั่งมองผมอยู่ โดยที่ผมไม่ได้สนใจ นอกจากสายตาดุคู่ที่ไม่ได้จ้องมานาน

   “มองทำไม” ถามเสียงขุ่น

   “กลอยมองพี่ก่อน” มีเถียงด้วยว่ะ

   “ถ้าพี่ไม่มองก่อน จะรู้ได้ไงว่ากลอยมอง” นี่ผมกลายเป็นคนขี้ประชดไปตั้งแต่ตอนไหนวะ “คนเรานี่นะ....” ตอนนี้ทั้งคำพูด ทั้งความรู้สึกเหมือนถูกดึงปลั๊กจนสติหลุด ขนาดเสียงเพลงกระหึ่มยังหายไปจากการได้ยิน มีเพียงการรับรู้อย่างเดียวที่รู้สึกคือ


        ...รสจูบของพี่โช ยังหวานและอ่อนโยนเหมือนเดิม


   “เบาๆ หน่อยไอ้เหี้ย เดี๋ยวมดจะมากัดตีนกู” เสียงแบบนี้ พี่แทมแน่นอน

   “จูบไปได้ไงวะ เพิ่งหิ้วมาจากกองขยะแท้ๆ” นี่ก็พี่จอมแน่นอน ผู้ที่บอกว่าผมโดนหมาทิ้ง

   “ไอ้เหี้ย เดจาวูสัด ไดอาล็อกเดิมเป๊ะ ครั้งแรกก็ข้างขยะ ตอนนี้ก็ข้างขยะ ไอ้กลอย มึงมันไอ้เด็กขยะจริงๆ” เกือบจะดีอยู่แล้วเชียว กับประโยคของพี่ติน ทำเอาพี่โชถึงกับรีบผละออกไปตบหัวเลยทีเดียว “ตบหัวกูทำพ่อง”

   “ด่าเมียกูทำไม”

   “แหม ไอ้เหี้ย ด่านิด ด่าหน่อยไม่ได้”

   “ไม่ได้”

   “ไอ้สัด กูจะอ้วก” พี่จอมหันไปโก่งคอทำท่าจะอ้วกจริง แต่ข้างๆ ดันเป็นพี่ซัน เลยถูกผลักจนหน้าหงาย

   “พี่ท้องแล้วเหรอ ดีใจด้วย” พูดเสร็จก็รีบดึงพี่โชเป็นโล่กำบังของฝ่ามือที่ง้างมา

   “ผัวอยู่ละปากดีเลยนะมึง วันก่อนยังนอนเมาละเมอร้องไห้เป็นหมาเหงาอยู่เลย” พี่จอมแขวะผมทั้งคำพูดและสายตา ก่อนสะดุ้งเมื่อถูกพี่โชจ้องหน้า “มองกูทำไม”

   “กูให้มึงพากลอยไปกินข้าว ไม่ได้ให้กินเหล้า โอนเงินกูคืนมาด้วย”

   “ไอ้สัดโช กูอุตส่าห์ดูแลให้ รู้งี้ปล่อยให้มันไปแดกเหล้ากับชู้ดีกว่า”

   นั่นไง เปิดประเด็นแบบนี้มา สายตาดุเลยพุ่งมาทางผมแทน รีบยกมือโบกรัวๆ ส่ายหัว ส่ายหน้าจนจะหลุดจากบ่าอยู่แล้ว

   “พี่จอมพูดมั่ว อย่าไปเชื่อ” พี่โชยังนิ่ง มือยกขึ้นกอดอก อาการแบบนี้ต้องรีบเคลียร์ด่วนๆ “กลอยไปกินหมูกระทะกับเพื่อนแล้วก็พี่ที่ทำงานที่กลอยไปฝึกไง พี่จอมชอบพูดใส่ร้ายกลอย” แน่นอนว่าไม่พูดโดยไร้หลักฐาน ผมล้วงโทรศัพท์มากดให้ดูรูปมะนาวกับพี่ที่ทำงาน รวมทั้งรูปที่มะนาวถ่ายที่ร้านหมูกระทะ ที่สำคัญไปกว่านั้น ผมรีบเปิดรูปแฟนมะนาวให้ดูด้วย เพื่อให้พี่โชมั่นใจมากขึ้น

   “มึงใส่ร้ายกลอยทำไม” พอเจอความจริงเข้า พี่โชก็หันไปไล่บี้เพื่อนตัวเองแทน พี่จอมยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ นี่ว่าคงไปเล่าเรื่องผิดๆ ให้ฟังมาก่อนแน่ ไม่ใช่แค่เพิ่งพูดหรอกเชื่อสิ “มีอะไร...ครับ” ผมแอบสะดุ้งตอนพี่โชหันมามองตาแข็ง แต่พอเห็นหน้าผม น้ำเสียงและท่าทางก็อ่อนลง แถมรอยยิ้มหวานส่งมาให้ด้วย

   “กลับมาเมื่อไหร่ ทำไมกลอยถึงไม่รู้” จ้องหน้าคนที่อยู่ๆ ก็โผล่มา พี่โชยื่นมือมาหยิกแก้มผมแล้วดึงจนยืด สนุกมือเขาล่ะ

   “น่ารักขึ้นป่ะเนี่ย” อยากจะยิ้มแต่แก้มถูกดึงอยู่ “คิดถึงว่ะ”

   “โคตรๆ”

   ผมยื่นมือไปดึงแก้มพี่โชคืน เราดึงกันไปมาอย่างนั้นพลางจ้องตากัน ก่อนพี่โชจะลุกขึ้นยืน เรียกสายตาจากทุกคนให้มอง

   “อะไร ปวดขี้เหรอ” พี่ซันถาม เห็นเมื่อกี้แอบสะดุ้งด้วย คงเพราะกำลังยื่นแก้วเหล้ามาเพื่อจะขอชน

   “กูกลับดีกว่า” ไม่ว่าเปล่า มือพี่โชยังดึงแขนผมให้ลุกด้วย หรือเห็นผมแอบยกแก้วเข้าปากวะ

   “อะไร เพิ่งมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จะกลับได้ไงวะ” พี่แทมโวยวายก่อนใครเพื่อน

   “นั่นดิ่ พวกกูอุตส่าห์เคลียร์ทางให้มึงเลยนะ” พี่ตินรีบเสริม

   “ใช่ กูอุตส่าห์ให้ทูเอาบัตรวีไอพีกูไปให้ไอ้สักมัน มึงจะมาแค่นี้ไม่ได้ พวกกูลงทุน เสียเวลาไปเยอะ” พี่เบบ่นยาวกว่าใครเพื่อน แต่ดูจะมีประเด็นที่ผมจับใจความได้สุด

   “บัตรวีไอพีของพี่เบ? งั้นก็....”

   “พูดมาก เดี๋ยวกูจ่ายให้ ไอ้สัด” พี่โชรีบตัดบทและพยายามจะเมินสายตาคาดคั้นของผม

   “ดีมาก อย่างนี้ค่อยกินอย่างสบายใจหน่อย” พี่จอมยิ้มร่า เตรียมยกมือเรียกพนักงาน โดยไม่สนคนข้างตัวจะแอบแขวะเบาๆ
 
   “สบายกระเป๋ามากกว่ามั้ง”

   “แดกเงียบๆ ของมึงไปเลยซัน”

   “เอ้า”

   “คู่นี้ก็กลับไปทะเลาะกันที่บ้านไป เหล้าพวกกูเสียรสชาติหมด” พี่แทมขัดขึ้น พลางยืดแขนไปชนแก้วเหล้ารอบวง กว่าจะถึงผมก็หมดรอบเสียก่อน

   อดเมาเลยวันนี้

   ผมถูกจูงมือออกมานอกไนต์คลับ เมื่อกี้ตอนเบียดกับกลุ่มนักเที่ยว พี่โชใช้ตัวเองบังผมทุกวิถีทาง เรื่องนี้แอบเคืองเบาๆ เห็นสาวๆ พยายามลวนลามพี่โชด้วย (ไม่ได้เคืองที่เขาลวนลามพี่โชนะครับ แต่เคืองที่ไม่ลวนลามผม อย่าให้พี่โชได้รู้ความคิดนี้เชียว จมให้มิดนะครับ)

   “กลับบ้านกัน”

   “พี่เอารถมาเหรอ”

   รถคันงามของพี่โชถูกเอาไปเก็บที่บ้าน เพราะกลัวทิ้งไว้ที่คอนโดมันอาจจะเสีย หรือมีคนมือบอลมาขูด คนรักรถยิ่งชีพเลยเอาไปไว้ที่บ้าน

   “ก็รู้ว่ากลอยจะไม่เอามาไง”

   “วางแผนกันมาอย่างดีเลยนะ ทั้งพี่ ทั้งเพื่อนผมน่ะ” ค่อนแคะไปเบาๆ เรียกน้ำจิ้ม เพราะคืนนี้ยังอีกยาวไกล “รวมหัวกันหลอกผมได้”

   “พี่ไม่ได้หลอกสักหน่อย” แล้วตัวผมก็ถูกยัดเข้ามานั่งในรถ เจ้าของรถรีบวิ่งอ้อมไปประจำที่ตัวเอง นานแล้วที่ไม่ได้นั่งรถคันนี้ ตั้งแต่เจ้าของไปอยู่ที่อื่น “กลับบ้านเรากัน”

   “บ้านที่ไหน คอนโดต่างหาก”

   “กวนตีนมากขึ้นนะเนี่ย”

   “เวลาเปลี่ยน คนก็ต้องเปลี่ยน”

   “อย่างอ้วนมากกว่าเดิมงี้เหรอ”

   “ตอกย้ำ”

   ว่าแล้วก็ก้มดูพุงตัวเอง แม้จะมีเสื้อปกปิด แต่ก็รู้ ว่ามันย่นทับกันเป็นชั้นอยู่ ก็เพราะกับข้าวบนโลกมันน่ากินไปหมดทุกอย่าง ผมเลยจัดเต็มตลอด มันผิดด้วยเหรอครับที่เป็นคนชอบกิน


   ฝ่ารถติดจนกลับมาถึงคอนโด รถคันงามก็ถอยเข้าจอดที่ประจำซึ่งเป็นที่ๆ ถูกกั้นไว้เฉพาะลูกบ้านวีไอพีป้ายทะเบียนนี้เท่านั้น แต่ผมว่า เพราะจ่ายเพิ่มเลยมีที่จอดของตัวเองมากกว่า พี่โชเดินนำผมเข้าตัวตึก ระหว่างขึ้นลิฟต์ เราทั้งคู่ต่างคนต่างเงียบ ผมมองคนที่มาด้วยผ่านกระจกด้านข้าง ดูเหมือนพี่โชจะง่วง อ้าปากหาวมาตลอดทางรวมถึงขณะนี้ด้วย

   “พี่โชมาถึงเมื่อไหร่” ถามหลังจากออกจากลิฟต์มาแล้ว ผมแตะการ์ดห้องก่อนผลักบานประตูเข้าไป “กระเป๋า?” ไฟห้องติดปุ๊บ กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ก็อยู่กลางห้อง จำได้ว่า ก่อนออกจากห้องเมื่อเย็น มันไม่มีอะไร

   “เพิ่งลงเครื่องไม่กี่ชั่วโมงนี้” เสียงทุ้มชิดใบหู ตัวผมถูกโอบกอดจากด้านหลัง แขนยาวรัดเอว คางแหลมวางบนบ่า “โคตรเหนื่อยเลย”

   “ลงเครื่องแล้วก็ไปผับเลย?” เอี้ยวคอจะมองหน้าคนด้านหลัง แต่ดันถูกฉกหอมแก้มไปฟอดใหญ่ แต่ถ้าจะหอมแบบดูดขนาดนี้ กินแก้มผมไปเลยดีกว่างั้น

   “ก็คิดถึง”

   “แล้วรู้ได้ไงว่ากลอยไปที่นั่น...อ่อ ลืมไป ว่าวางแผนกันไว้แล้ว” หน้าบูดเป็นตูดเลยผม หัวเสียสุดที่ถูกเพื่อนหลอก ก็ว่าอยู่ ทำไมไอ้สักถึงมีบัตรวีไอพี แล้วพวกมิกเซอร์ เหล้า เบียร์ ทุกอย่างในนั้นคือแพงมาก เงินที่จ่ายเอาไปร้านยาดองได้หลายรอบ

   “พี่ไม่ได้เป็นคนวางแผน” เบ้ปากให้กับคำปฏิเสธนั่น ก่อนจะย่นคอหนีเมื่อถูกจมูกคลอเคลีย ไรหนวดอ่อนๆ ของพี่โชทำเอาขนแขนผมลุก “โคตรคิดถึงเลย”

   “สุดๆ” ผมขยับตัวหันไปกอดพี่โชแน่น แม้จะไม่นานเท่าไหร่ที่จากกัน แต่สำหรับผม มันเหมือนเป็นปีๆ ที่ไม่ได้ไออุ่นของอ้อมกอดนี้ “กลิ่นหอมเหมือนเดิมเลย” พูดจบก็จุ๊บหน้าอกพี่โชไปเบาๆ

   “อ่อยพี่ใช่ไหม หืม” น้ำเสียงกรุ้มกริ่ม กับมือที่ลูบก้นผมวนไปมา

   “อ่อยคืออะไรไม่รู้จัก” ว่าแล้วผมก็รวบเอวพี่โช ออกแรงยกคนตัวใหญ่กว่าด้วยพลังที่มี พี่โชขำออกมาแต่ก็ยอมให้ผมยก ใช้แรงเฮือกสุดท้ายเดินลิ่วๆ เข้าห้อง ทุ่มคนตัวหนักลงบนเตียง ก่อนจะล้มตัวนอนตาม “ปวดหลังเลย”
 
   “ใครบอกให้ยกล่ะ” เหล่หางตามองคนที่หัวเราะเยาะใส่ ก่อนจะเงียบลงแล้วมองหน้าผมนิ่งๆ มือขาวยื่นออกมาแตะที่คิ้วของผม ไล่ลงมาที่ตา จมูกแล้วก็ปาก “ไม่ได้จับแบบนี้มานานแล้ว”

   “พี่โชจะอยู่นานไหม” รู้สึกใจสั่นที่ต้องถาม

   “ก็ประมาณสองอาทิตย์” ยิ่งเจอคำตอบ หัวใจสั่นยิ่งกว่าเดิมร้อยเท่า

   “ที่นู้นหยุดเหรอ พี่ถึงกลับมา”

   “พี่ขอลาเอง ไอ้จอมบอกกลอยเรียนจบแล้ว พี่ก็อยากกลับมา อยากมาพูดแสดงความยินดีต่อหน้ากลอย” ผมถูแก้มตัวเองกับฝ่ามือที่ยื่นมาจับ ความรู้สึกตอนนี้กำลังตีกันมั่วไปหมด แน่ๆ คือน้ำตารื้น ขี้มูกก็จะไหลจนต้องสูดกลับเข้ารูเหมือนเดิม พี่โชขำออกมาเสียงดัง “เป็นคนขี้แยตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”

   “ก็ตั้งแต่พี่โชไม่อยู่” ตอบไป มือก็ยกปาดขี้มูกตัวเองไป “ขอบคุณนะ ที่กลับมา”

   “พี่ต้องมาอยู่แล้ว”

   “โคตรรักเลย” ผมวาดทั้งแขนและขาไปวางบนตัวพี่โช “โคตรคิดถึงด้วย”

   “เรียนจบแล้ว อยากทำอะไร อยากไปไหนไหม”

   “อยากทำเยอะแยะ อยากไปหลายที่ด้วย” ยิ่งพี่โชกลับมาแบบนี้ ไอ้กลอยคนนี้ยิ่งมีที่จะไปเยอะ คิดแล้วน้ำตาจะไหล

   “สองอาทิตย์นี้ พี่จะตามใจทุกอย่าง โอเคไหม” รีบพยักหน้า ทำตาพราววิบวับ แต่กลับถูกดับฝันไปหนึ่งอย่าง “ยกเว้นเรื่องเมา พี่ยังต้องไปเคลียร์กับไอ้จอมก่อน ให้กลอยเมาแบบนั้นได้ยังไง”

   “กลอยอยากเมาเอง พี่จอมไม่ได้บังคับ” ออกตัวช่วยสุดๆ

   “อ๋อ นี่กลอยทำเองเหรอ ดี พี่จะได้ลงโทษถูกคน”

   งานเข้าไอ้กลอยจนได้

   “แค่ครั้งเดียวเอง” รีบแก้ตัวเป็นพัลวันจนลิ้นแทบพันกัน “จริงๆ” พยายามแก้ตัว แต่พี่โชกลับไม่ยอมเชื่อ แถมยังพลิกตัวมาคร่อมผม โดยใช้แขนสองข้างยันเตียงนุ่มไว้ “สองก็ได้...สาม สี่ ห้า โอเคๆ ยอมรับผิด”

   “โดนลงโทษแน่ ไอ้เกรียน” รีบหลับตาปี๋เมื่อเห็นมือพุ่งมาตรงหน้า แต่ความอุ่นวาบที่ริมฝีปากทำให้ผ่อนคลายลง

   “ไหนบอกเหนื่อยไง” พูดทั้งที่ยังมีริมฝีปากพี่โชคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ
 
   “เหนื่อยเมื่อกี้ ตอนนี้หายแล้ว” เสียงแผ่วเบาตอบกลับมา

   “ขี้โม้ป่ะเนี่ย”

   “ชู่ว” อยู่ๆ พี่โชก็ยกนิ้วชี้มาแตะที่ปากของผม “ไม่อยากได้ยินเสียงพูดแล้ว” ด้วยความที่ปากขยับยาก เลยย่นคิ้วเป็นสัญลักษณ์ของคำถามแทนว่าทำไม “อยากได้ยินเสียงครางมากกว่า” พอได้ยินประโยคถัดมาปุ๊บ ผมถึงกับขึ้นเลย หมายถึงอารมณ์นะที่ขึ้น นั่นแน่ คิดทะลึ่งกันอยู่ละสิ

   “คนเรานี่นะ...”

   “พี่ขอโทษนะ” อยู่ๆ ก็ถูกขัดทั้งที่ยังพูดไม่จบ

   “ขอโทษทำไม” เอาซะใจแป้วเลย

   “พี่ขอโทษ ที่พรุ่งนี้จะทำให้กลอยเดินลำบาก มันต้องเคล็ดมากแน่ๆ”

   “ไม่เจอกันนาน พี่ก็ยังหื่นเหมือนเดิมเลยนะ”

   “มันมากกว่าเดิมต่างหาก กลอยจะได้รู้ไง ว่าพี่คิดถึงมากขนาดไหน เตรียมใจแล้วใช่ไหม” ตอนนี้ไม่ได้ห่วงการเตรียมใจอะไรทั้งสิ้น สิ่งที่ต้องห่วงคือร่างกายของผมนั่นแหละ

   “พี่จะจัดเต็มแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบเหรอ” ถามทั้งๆ ที่มือยุบยับบนตัวไปหมด
 
   “เดี๋ยวกลอยก็รู้”

   อยากจะถาม อยากจะกวนต่อ แต่ปากผมดันไม่ว่างซะแล้ว แถมสติก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีก งั้นตอนนี้ ผมขอตัวตอบรับความคิดถึงของพี่โชก่อน ไม่เจอกันนานแบบนี้ ไอ้กลอยก็ต้องจัดเต็มเหมือนกัน ไม่มีทางน้อยหน้าแน่นอน




   “พี่โช ถ้าจะคิดถึงกันขนาดนี้ เอามีดมาแทงเลยดีกว่า”

   “ของๆ พี่ดีกว่ามีดเยอะ”

   “ไม่มีอะไรจะพูด!”

        เพราะหลักฐานยังคา เอ้ย ยังทนโท่อยู่

   “งั้นก็ไม่ต้องพูด”

   ครับ ไม่ต้องพูด เลยต้องมาครางแทน ไอ้เชี่ยเอ้ย ชุดใหญ่ไฟกระพริบมันน่ากลัวจริงๆ แต่ถามว่าชอบไหม กดหัวใจรัวๆ ไปเลยครับผม




   “ไหนพี่บอกจะพักก่อนไง” รีบถามตาเหลือก หลังจากผ่านศึกรบมาอย่างหนัก แม้ระหว่างทางจะได้พักบ้าง แต่พอหายเหนื่อย ศัตรูดันบุกเข้ามาทำลายกำแพงเมืองต่อ หน้าด่านพังไม่พอ ยังบุกรุกเข้ามาในเขตที่ลึกล้ำอีก “พี่โช” เรียกชื่อเสียงอ่อน แต่ดูไม่เป็นผลสักเท่าไหร่

   “ก็พี่นอนไม่หลับ สงสัยจะเจ็ทแลค”

   “พี่เจ็ทแลคแล้วมันเกี่ยวกับเรื่องนี้ตรงไหน”

   “ก็นอนไม่หลับ แล้วเมียก็นอนโป๊ยั่วอยู่ข้างๆ ใครจะไปทนได้”

   “งั้นเดี๋ยวกลอยไปใส่ชุดนอน”

   “กลอยใส่ เดี๋ยวพี่ก็ถอดให้อีก”

   “คนจะหื่นนี่เนอะ ลืมไปเลย”

   “งั้น มาบอกคิดถึงกันต่อ”

   “พี่ควรสงสารร่างกายกลอยบ้าง อย่างเช่น เบาๆ แรงลงหน่อย ปวดหลังหมดแล้วเนี่ย”

   “งั้นรอบนี้เบาๆ”

   “พูดงี้มากี่รอบแล้ว”

   “ไม่ได้นับ งั้นรอบต่อไปเดี๋ยวพี่นับ”

   “พี่โช!”

   แหกปากไปก็เท่านั้น คุณพี่ตีหน้าด่านเข้ามาได้ก็บุกไม่ยั้งตามเดิม ไปกินยาโด๊ปจากไหนมาวะ เรี่ยวแรงดีเหลือเกิน สงสัยพรุ่งนี้ผมคงต้องยกเลิกนัดรุ่นพี่ที่จะเลี้ยงยาดองซะแล้ว ขืนไปคงเดินเป๋ไป เป๋มาเป็นปูแน่

   “พรุ่งนี้พี่จะพากลอยไปที่ๆ หนึ่ง”

   “ที่ไหนเหรอ”

   “ไม่บอก”

   “ขัดใจคนขี้เสือกอย่างกลอยอีกแล้ว”

   “แต่กลอยจะต้องชอบมากแน่ๆ”

   “ให้จริงเถอะ”

   “จริงสิ”

   “แน่นะ”

   “แน่สิ”

   “ไม่มั่วนะ”

   “ไม่มั่วสิ...มันใช่เวลามาต่อเพลงกันไหมเนี่ย”

   “ก็พี่โชมาพูดต่อทำไมเล่า”

   “ไม่พูดก็ได้ งั้นทำต่อ รอบที่สองใช่ไหม”

   สองบ้า สองบออะไรวะ พี่โชแม่งต้องสอบตกวิชาคณิตศาสตร์แน่ๆ

   “ไม่ได้นับโว้ย”

   “งั้นพี่นับเอง”

   “ไม่ต้องนับแล้ว พอ จบ เลิก หายคิดถึงแล้ว แยกย้าย”

   “อะไรวะ”

   “ไม่มีวะ มีเวอะอะไรทั้งนั้น นอน!”

   จะนอนหันหน้า หันหลัง นอนหงาย นอนคะแตง นอนคว่ำ นอนท่าไหนก็อันตรายต่อร่างกายหมด ผมเลยเลือกที่จะกลิ้งลงมานอนที่พื้นแทน ส่วนพี่โชโผล่หน้ามามองแล้วหัวเราะ

   “นอนก็นอน แต่ขึ้นมานอนบนเตียงดีๆ ก่อน” ได้ยินเสียงตบฟูกปุๆ “กลอย”

        ถูกเรียกชื่อซ้ำๆ เลยจำใจต้องลุกขึ้น แข้งขาตอนนี้อ่อนแรงสุด คล้ายกับไปวิ่งรอบสนามฟุตบอลสักร้อยรอบ หลังก็เหมือนกัน ปวดเหมือนเล่นม้วนหน้า ม้วนหลังสมัยอนุบาล ผมดึงผ้าห่มผืนหนาลงที่พื้น พี่โชมองอย่างสงสัย แต่พอเห็นผมเดินไปหยิบผ้าปูเตียงผืนใหม่มาถึงกับยิ้ม
 
   “ลุก”

   “ก็ลุคอยู่นี่ไง” ตอนแรกก็ทำหน้าเอ๋อ แต่พอคิดออกก็เก็ทเลย ผมโดนมุกแป้กของตัวเองย้อนกลับมาเล่นซะแล้ว จำมุกที่เจอพี่โชตอนเย็นได้ใช่ไหม นั่นล่ะ มันกำลังย้อนมาหาผมนี่ล่ะ “โอเคครับ ไม่แกล้งแล้ว เมียใครวะ ขี้งอน”

   “เมียปีศาจ”

   ไม่ใช่ปีศาจธรรมดานะ ปีศาจหื่น

   “ก้นช้ำว่ะ”

   “เพราะใครกัดล่ะ” เหล่ตามองคนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองตัวเปล่าเปลือยของผม พอปูผ้าผืนใหม่เสร็จ ตัวผมก็ถูกดันเข้าห้องน้ำ “ทำอะไรพี่โช?” เริ่มระแวงกลัวจะมีศึกในน้ำอีก แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คงเพราะเริ่มเหนื่อยมากแล้ว และทันทีที่ขึ้นเตียงได้ หนังตาผมก็ปรือลงทันที

   “ฝันดีครับ” จบประโยคก็มีความอุ่นวาบมาที่หน้าผาก 

   และค่ำคืนที่สงครามดุเดือดจบลง เหตุการณ์ทุกอย่างก็ค่อยๆ สงบ ผมกอดพี่โชที่ขยับมาซุกตัวที่อกตัวเอง กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยยิ่งทำให้ผมนอนหลับได้อย่างง่ายดาย


   ....แค่มีพี่โชอยู่ข้างๆ ผมก็นอนหลับฝันดีแล้ว


...TBC

ทุกคนเดาถูกค่า ปรบมือ (แปะๆๆๆ)

ออกตัวเลยว่า ไม่ถนัดแต่ง nc เอามากๆ เลยมาแบบเกรียนๆ กลัวจัดเต็มแล้วตัวเองจะหัวใจวายตาย ต้องขอโทษด้วยค่า (>/l\<)

แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่า ความฮาต้องมา ความบ้าต้องมี และความหวานก็ไม่ขาดค่า

ขอบคุณสำหรับความรักที่มอบให้กลอยประเกรียนค่ะ (ไหว้ย่องามๆ) >w<

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
พ่อปิศาจสุดหื่นกลับมาแล้ว..วววววว      :mc3: :mc2: :mc3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
กลับมาก็จัดซะคุ้มเลยนะพี่โช  :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เบาๆเพ่ วันอื่นยังมีให้จัดอีกเยอะ เดี๋ยวคนเกรียนเดี้ยงซะก่อนหรอก :hao6:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
พากลอยกลับไปด้วยดีมั้ยพี่โช ฮืออออออออออออออออ
 :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AutoAngels

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่โชน่ารักมากกกกกรือดีอะชอบๆๆ :mew1:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
กลับมาแล้ว พี่โชคนหื่นนะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
น่ารักกก.. คิดถึงพี่โช กะ น้องกลอยยย.
ไรท์อย่าหายไปนาน คิดถึงเหมือนกานนนน..
รีบมาๆๆ :hao5:

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
ปีศาจชอบหื่น

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เพื่อนกลุมพี่โช กลุ่มกลอย รักใคร่สามัคคีกันดี ชอบบบบบ  :katai2-1:
พี่โช ปีศาจหื่น ปะทะ กลอยประเกรียน  :-[
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
กรีดร้องเลยค่ะ โชกลับมาแล้ว พาน้องไปด้วยเลยนะ
ไม่ต้องทิ้งไว้ให้ร้องไห้แล้ว

เอ็นดูกลอยใจ คิดถึงมาก ก็ยอมมาก เป็นปกติของคนรักกันเนาะ
โชเนียนมาก และทำดีมากค่ะ มาตอนเวลาที่น้องพีค ให้สมกับที่รอ

ทีมพี่ทีมเพื่อน รวมตัวกันทำดีเนาะ อยากให้ระลึกความหลังหรอ


ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
 o13 o13 o13 ไม่เจอะกันนานคิดถึงจังเลยยยย จัดชุดใหญ่ไฟกระพริบให้เลยจ้า

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
เพราะนายคือของฉัน [ll] : 21




        แค่คิดว่าจะได้ไปเที่ยว ผมก็รู้สึกดี...ดีตรงไหนวะ ถูกปลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง แถมคนปลุกก็ดูกระตือรือร้น ผมเลยพูดไม่ออก ได้แต่นั่งมองพี่โชจัดนั่นจัดนี่ตาปริบๆ ไม่ใช่ไม่อยากช่วย แต่แขนกับขายังมีอาการล้าอยู่มาก อาการคล้ายกับไปเต้นแอโรบิกที่หน้าห้างวันแรกแบบนั้น

   “พี่โชจะพากลอยไปไหน” ถามเกินห้ารอบแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ

   “เดี๋ยวก็รู้” นี่ก็ตอบแบบเดิมอีก

   นั่งรอสักพัก เสียงออดหน้าห้องก็ดังขึ้น ผมมองหน้าพี่โชอย่างสงสัย ก็เวลาตีสาม ตีสี่ ใครจะมาหา หรือจะเป็นสิ่งเร้นลับวะ แต่ถ้าเป็นผีจริง ก็น่าจะเดินผ่านกำแพงเข้ามาได้เลย

   “ใครมาไม่รู้” รีบเดินไปอยู่ข้างพี่โชทันที แต่อีกฝ่ายกลับเดินหนีไปเปิดประตูซะงั้น ผมเลยต้องรีบกระโดดขึ้นเตียง เอาผ้าห่มคลุม “พี่โช” ลองเรียกดู แต่กลับเงียบ ใจเสียแล้วเนี่ย แต่จู่ๆ ก็มีอะไรบางอย่างพุ่งมารัดตัวผมไว้ ด้วยความที่สมองจินตนาการไปไกล เลยดิ้นสุดพลัง ทั้งมือทั้งขาถูกยืดไปหมด จนได้ยินเสียงโอดโอยถึงได้สงบลง

   “ถีบกูทำเหี้ยอะไรเนี่ย โดนน้องกูเต็มๆ สัด” ทันทีที่เปิดผ้าห่มออก ผมก็เห็นร่างอันคุ้นตานอนกุมน้องตัวเองอยู่ที่พื้น “จะเป็นหมันไหมเนี่ยกู”

   “ผมขอโทษนะพี่แทม” ตอบพลางหัวเราะแห้งๆ แต่ถ้ารู้ว่าเป็นใครในตอนแรก ผมจะออกแรงให้มากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก “พี่มาทำไมตั้งแต่เช้า”

   “นั่นสิ กูก็อยากรู้ ว่านัดทำไมตอนนี้” พี่แทมเริ่มปีนขึ้นมานั่งบนเตียง แม้หน้าจะขึ้นสีอยู่บ้าง แต่อาการปวดคงจะเริ่มทุเลาแล้ว “พวกไอ้จอมยังไม่มาเหรอ”

   “ยัง” กำลังจะอ้าปากตอบ พี่โชดันพูดขึ้นมาก่อน พลางเดินมาใกล้แล้วใช้ขาเขี่ยเพื่อนตัวเองให้ออกห่างผม “ไหนไอ้ตินจะมากับมึงไง”

   “มา แต่มันนอนในรถ กูเรียกก็ไม่ตื่น สงสัยจะซ้อมตายก่อนวัย” หลุดขำเมื่อได้ยิน พี่แทมเดินไปที่กระเป๋าที่พี่โชจัดไว้ มือเริ่มรื้อดูของ “ไปแค่วันสองวัน พวกมึงขนเสื้อผ้าอย่างกับไปอยู่เป็นเดือน”

   “เขาเรียกเตรียมพร้อม”

   “ก็ดี เผื่อกูไม่มีอะไรใส่”

   “ตลอดอะมึง”

   แล้วผมก็ปล่อยให้พี่โชกับพี่แทมคุยกันไป ส่วนตัวเองก็เดินออกมานั่งโซฟาด้านนอก ตอนแรกคิดว่าจะได้ไปเที่ยวกับพี่โชแค่สองคน ที่ไหนได้ ไปยกแก็งซะงั้น เผลอๆ พวกไอ้อัธก็คงไปเหมือนกัน ทีนี้ละ สถานที่ๆ นั้นคงได้บันเทิงเริงใจกันสุดๆ

   และสิ่งที่ผมคิดไว้ก็เป็นจริง เมื่อพี่จอมโทรมาบอกว่ารออยู่ข้างล่างให้รีบลงไป ใจจริงผมก็อยากรีบ แต่กล้ามเนื้อขามันล้าไง เลยเดินไปทีละนิด แน่นอนว่าพี่โชต้องเข้าใจ แต่คนที่ไม่เข้าใจคือพี่แทมที่คอยจะยื่นมือมาฉุดให้ผมเดินไว แต่ก็โดนกระเป๋าสะพายตีที่มืออยู่ทุกครั้ง ไม่ใช่ผมหรอกที่ทำ คนที่คุณก็รู้ว่าใครต่างหากที่เป็นคนตี

   พอลงมาถึงด้านล่าง ก็เจอบรรดาชายวันฉกรรจ์นับสิบ นั่งแย่งไส้กรอกจากร้านสะดวกซื้อกัน โดยพี่แทมก็เดินเข้าไปแย่งกินกับเขาด้วย ถ้าจะดีกว่านี้ เอามาแบ่งให้ผมกินบ้าง

   “ทำไมช้าวะ” พี่จอมบ่น ทั้งที่ปากยังมีไส้กรอกอยู่เกือบล้น

   “พวกมึงนั่นแหละช้า” พี่โชตีหน้ายุ่ง “แล้วนี่ จะไปกันยังไง”

   “รถตู้ไง” พี่ตินตอบ ท่าทางไม่เหมือนคนง่วงอย่างที่พี่แทมบอกเลยสักนิด

   “จะยัดไปกันหมดไหมวะ” พูดลอยๆ แต่คงดังไป เลยถูกมอง “ผมก็แค่สงสัยไง ไม่ได้เหรอ” กลุ่มพี่โชก็ปาไปหก กลุ่มผมมีสี่ แล้วยังมีปลิงเกาะไอ้ม่านมาอีกหนึ่ง “มึงจะเกาะเพื่อนกูอีกนานไหมวะ” เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะว่า ไอ้เม่นหยักไหล่ แถมกระชับมือมันที่ไหล่เพื่อนผมอีก “กวนสัด”

   “ปากดีนะมึงไอ้กลอย” อยู่ดีๆ ก็ถูกพี่จอมตบหัว ก่อนคนตบจะถูกกระเป๋าสะพายฟาดหลังคืน “ไอ้เหี้ยโช”

   “มึงตีกลอยก่อน” อยากปรบมือให้เลย

   “ไอ้โชแม่ง ทีเมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย” พี่แทมว่า สงสัยจะเคืองเรื่องถูกตีมือไปหลายที

   “ก็มันหวงของมัน มึงก็อย่าไปแตะสิ” พี่ซันยักคิ้วส่งมาให้เพื่อนตัวเอง คงตอบได้ถูกใจละมั้งนะ ก่อนจะโกยทุกคนไปขึ้นรถตู้สีขาว “กูขับคนแรกละกัน”

   “ดีๆ กูจะได้นอนต่อ” พูดจบ พี่ตินก็หลับตาแล้วกรนออกมาเลย นี่คือหลับจริงๆ หรือแกล้งวะ



   จากนั้นล้อก็เริ่มหมุน พี่จอมไปนั่งข้างหน้าคู่พี่ซัน ส่วนผมนั่งเบาะหน้าด้านในติดกับกระจก มีพี่โชนั่งข้างๆ ถัดไปเป็นไอ้อัธที่กำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคน ทำเสียงเล็กเสียงน้อยด้วย ทำเอาต่อมเผือกสั่นรัวๆ แต่ดันมีพี่โชนั่งคั่นกลาง เลยทำอะไรมากไม่ได้ นอกจากเงี่ยหูรอฟังอย่างเงียบๆ ฟังไปฟังมาดันหลับไปซะอย่างนั้น รู้ตัวอีกทีก็ถูกปลุก

   “ถึงแล้วเหรอ” ยกมือขยี้ตาตัวเอง ปากก็อ้าหาววอดๆ

   “ยัง แต่แวะปั๊ม กลอยจะเข้าห้องน้ำหรือซื้ออะไรไหม” เสียงทุ้มของพี่โชดังอยู่ชิดหู นั่นเพราะผมนอนพิงพี่โชมาตลอดทางนั่นเอง

   “อยากเข้าห้องน้ำ” บอกอย่างงัวเงียจนพี่โชต้องเป็นคนพาไป ได้ยินเสียงด่าว่าสำออยตามหลังมาด้วย แต่คิดว่าผมจะสนใจพี่จอมเหรอครับ ไม่มีทางเสียหรอก เข้าห้องน้ำทำธุระเสร็จ พี่โชก็พาเข้าร้านสะดวกซื้อต่อ “อยากกินซาลาเปา”

   “เอาอันไหนก็ไปเลือก” คนจ่ายเงินบอก ก่อนจะแยกไปที่เคาน์เตอร์ร้านที่ขายกาแฟสด มันก็ดูสะดวกดีนะครับ มีร้านขายแบบนี้ ผมเดินวนหาตู้ของกิน เจอไอ้ม่าน ไอ้เม่นยืนเลือกของอยู่ ก็เลยเดินเข้าไปหา แต่ก็ทนความหวานของพวกมันไม่ได้ เลยรีบหนีออกมา

   “เป็นอะไรวะ” ไอ้อัธที่ยืนเลือกน้ำในตู้แช่ถาม คงเห็นผมทำหน้าเหม็นเบื่อละมั้ง

   “เบื่อคนสวีท” ตอบไป แต่ไอ้อัธกลับขำออกมา “หัวเราะอะไรของมึง”

   “ว่าแต่คนอื่น คู่มึงก็ใช่ย่อย” ว่าแล้วผมก็เตะข้อพับขาไอ้อัธไปทีหนึ่ง ก่อนเดินหนีออกมาอีก จนมาเจอพี่โชที่มองมาที่มือของผม

   “ไหนว่าอยากกินซาลาเปาไง ไม่เอาแล้วเหรอ”

   “เดี๋ยวปวดขี้” ตอบเสร็จก็ขอลองจิบกาแฟที่พี่โชถือ แล้วก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อมันมีแต่รสชาติขม “พี่กะไม่นอนเลยเหรอ”

   “พี่ต้องเปลี่ยนขับกับไอ้ซันมัน” ถึงบางอ้อทันที ว่าทำไมต้องซัดกาแฟเข้มซะขนาดนี้ งั้นผมก็ควรหาอะไรไปตุนไว้ เพราะต้องไปนั่งคู่พี่โช “นี่จะซื้อไปกินหรือไปแจกน่ะ”

   “กินสิ” ตอบไป มือก็หยิบถุงขนมขบเคี้ยวใส่ตะกร้าไป แน่นอนว่าพี่โชเป็นคนจ่ายทั้งหมด เพราะถ้าผมเป็นคนจ่าย ถุงเดียวก็เกินพอ


   ไม่ได้งกนะ แค่ใช้เงินเป็น


   หลังจากทุกคนพร้อม พี่โชก็สับเปลี่ยนกับพี่ซันไปนั่งประจำคนขับแทน โดยที่ผมรีบไปเสนอหน้าอยู่เบาะหน้าด้วย ตอนนี้ท้องฟ้าสดใส เหมาแก่การไปท่องเที่ยวเสียจริง แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ เมื่อคืนผมควรได้พักผ่อนให้เต็มอิ่ม ไม่ใช่หลับๆ ตื่นๆ เพราะถูกรุกรานจากผู้กลับมาเยือน

   “พี่โชกินไหม” ยื่นซาลาเปาไปให้ แต่พี่โชกลับส่ายหน้า

   “มันไม่อร่อยล่ะสิ” พูดไป พลางเหล่หางตามามองผม มุมปากติดรอยยิ้มหยัน

   “รู้ทันอีก” เป็นผมที่ต้องทำหน้าบูด นี่ถ้าพวกด้านหลังไม่นอนหลับกันหมด ผมคงส่งต่อไปให้คนอื่นได้ “แล้วนี่จะไปไหน”

   “ไปทะเล” เสียงนุ่มบอก ทำเอาผมตาโต “กลอยอยากไปไม่ใช่เหรอ”

   “รู้ได้ไงว่าอยากไป” หรือพี่โชจะเป็นอับดุล รู้ เห็น อนาคตได้วะ ขอหวยได้ป่ะเนี่ย

   “ก็ไอ้จอมบอก” ถ้าตอนนี้หน้าผมเป็นอิโมติคอนได้ คงเป็นตัวตาขีดๆ นั่นแหละ พี่โชหันมามองยิ้มๆ ก่อนจะคว้าซาลาเปาที่เหลือในมือผมไปกิน คงสงสารที่เห็นผมกล้ำกลืนฝืนยัดเข้าปาก


   ไอ้กลอยถูกใจสิ่งนี้ครับ!


   ตอนแรกซื้อขนมมาเพราะกลัวจะหลับ สุดท้ายขนมไม่ได้ช่วยอะไร เพราะหลับไปตอนไหนก็ยังไม่รู้ตัว มาสะดุ้งอีกทีก็ตอนมีเสียงโหวกเหวกโวยวายดังลั่นรถ ปรือตาขึ้นมาก็เห็นถนนที่มีต้นไม้

   “ไอ้เชี่ยเบแย่งขนมกูสัด” เสียงแรกที่จับใจความได้ คือด้านหลังมีการตบตีแย่งชิงขนมกัน

   “ขนมมึงเหี้ยไร นี่เมียกูซื้อมาเว้ย” พี่เบรีบแก้ต่างให้ตัวเอง ได้ยินเสียงไอ้ทูยืนยันเบาๆ ด้วย

   “เมียมึงซื้อ แต่ให้กูแล้ว” นั่นสิ ให้แล้วนี่หว่า

   “กูไม่สน” คนแบบนี้ก็มีว่ะ และก่อนที่จะโต้ตอบกันไปมากกว่านี้ เสียงเหี้ยมๆ ก็ดังขึ้น ทำเอาทุกอย่างกลับมาอยู่ในสภาวะปกติสุขตามเดิม

   “หนวกหู เดี๋ยวกูแม่งถีบลงรถทั้งคู่ไอ้สัด”

   ให้ทายว่าใครเป็นเจ้าของประโยค....

   ปิ๊งป่องๆๆๆๆ แน่นอนว่าทุกคนต้องคิดว่าเป็นพี่จอมแหง แต่ไม่ใช่เลย คนพูดคือพี่ซัน เทพบุตรสุดใจดีของผมนั่นเอง คงฟิวขาดแล้วจริงๆ หรือปกติก็โหดแบบนี้วะ?

   “ใกล้ถึงหรือยัง” ถามคนขับที่มุ่งมั่นในการขับรถมาก สายตามองตรงอย่างเดียว

   “ใกล้แล้ว” พี่โชละสายตาจากถนนมาที่ผมแวบหนึ่ง แล้วก็หันไปมองทางต่อ

   “ไม่รู้หลับไปตอนไหน” หัวเราะแห้งๆ ส่งไปให้ พี่โชยื่นมือมาขยี้หัวผมจนยุ่ง ก่อนขำออกมาเสียงดังเมื่อได้ยินท้องผมร้อง

   “ตื่นมาก็หิวเลยนะ”

   “ก็วัยกำลังโต”

   “นี่ยังจะโตได้อีกเหรอ”

   เถียงไม่ออกเลยจริงๆ เพราะผมคงโตไปมากกว่านี้ไม่ได้ นอกจากอ้วน

   หลังจากทำอะไรไม่ได้ก็กินอย่างเดียว ขนมที่ซื้อมาผมก็เปิดกิน พลางแบ่งปันคนที่ขับรถด้วย พี่โชแม้จะล้อผม แต่ก็อ้าปากรับขนมกรุบกรอบที่ผมยื่นไปตรงหน้า ถ้าจะอ้วน ก็อ้วนไปด้วยกันนี่แหละวะ และไม่ถึงชั่วโมง รถตู้คันงามก็วิ่งเข้าจอดหน้ารีสอร์ทแห่งหนึ่ง บรรยากาศร่มรื่นมาก แต่ก็ได้กลิ่นเค็มอ่อนๆ ของทะเล ไม่ได้จมูกดีเหมือนหมาหรอกนะครับ แต่เพราะเห็นน้ำทะเลสีฟ้าอยู่ไกลๆ

   “หน้าระรื่นเลยนะมึงไอ้กลอย” เสียงกระเซ้าเย้าแหย่จากไอ้ม่านไม่ทำให้ผมสลดได้ ในเมื่อผมเป็นอยู่จริงๆ ยิ้มจนปวดแก้มไปหมดแล้วเนี่ย

   “มึงควรกราบกูด้วยซ้ำ ถ้ากูไม่อยากมา มึงก็ไม่ได้มา”

   “รอมึงบวชก่อน กูค่อยกราบ”

   “ไอ้...”

        ด่าแบบไร้เสียงเพราะเกรงใจบรรดาลูกค้าคนอื่นๆ ตอนนี้พวกเราทุกคนเช็คอินกันหมดแล้ว ห้องก็แล้วแต่ความสะดวกใจ พวกมีคู่ก็อยู่กันไป พวกมาคี่ก็รวมๆ กัน จนมาถึงห้องพัก ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูระเบียงเพื่อรับลมทะเล อยากได้ความสดชื่นมาเติมเต็มความเหนื่อย แต่เพียงแค่โผล่หน้าออกไปปุ๊บ ก็ต้องผลุบเข้าห้องแทบไม่ทัน ลมเย็นที่เฝ้ารอกลายเป็นลมร้อนตีเข้าหน้าจนแทบไหม้

   “แดดแบบนี้ ไม่อยากออกไปเลย” บ่นครับ พี่โชที่กำลังจัดของขำออกมาเสียงดัง “หิว”

   “ครับๆ ไม่เจอกันนาน บ่นเก่งขึ้นเยอะนะเราน่ะ” พี่โชขำออกมา มือก็กวักเรียกให้ผมไปนั่งข้างๆ บนเตียงนุ่มสีขาว ก่อนจะมีกล่องสี่เหลี่ยมสีสวยยื่นมาตรงหน้า “พี่ให้เป็นของขวัญสำหรับเรียนจบ”

   “อะไรอะ” ยื่นมือออกไปรับพลางจ้องหน้าคนให้ ถามว่าลุ้นไหม ก็มากอยู่ หัวใจตอนนี้ถูกเขย่านับริกเตอร์ไม่ได้ “นาฬิกา!?” ตาโตจนแทบทะลุออกจากเบ้า เป็นนาฬิกาเรือนหรู ยี่ห้อแสนแพงที่ผมเคยเล็งไว้เมื่อนานมาแล้ว ซึ่งถ้าให้ผมซื้อคงต้องรอชาติหน้า “พี่โชให้กลอยจริงๆ เหรอ มันแพงนะ”

   “สำหรับกลอย ไม่มีอะไรแพง” แทบอยากมอบโล่แฟนดีเด่นสายเปย์แห่งปีให้

   “ต้องซึ้งใช่ป่ะ” แกล้งพูดขำๆ เพื่อให้น้ำตาที่คลอไหลย้อนกลับลงไป “แต่ให้ง่ายๆ แบบนี้น่ะเหรอ”

   “ตอนแรกคิดจะให้ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ก็...”

   “ก็อะไร?”

   “จะให้พี่พูดจริงๆ เหรอ”

   ตอนแรกไม่ได้มองหน้า เพราะเอาแต่ลูบคลำนาฬิกา แต่พอเงยหน้าขึ้นมอง ก็ต้องรีบส่ายหน้ารัวๆ หน้าพี่โชตอนนี้โคตรเจ้าเล่ห์ แถมรอยยิ้มก็ดูจะกรุ้มกริ่มจนไม่อยากได้ยินคำอธิบายอีก


   คิดต่างเชิญทางอื่น คิดหื่นต้องพี่โชคนเดียว นี่คือสโลแกนใหม่ประจำตัวพี่เขาล่ะ


   “ใส่ให้หน่อย”

   “ไม่ได้ใส่ให้กลอยเหรอ”

   “ไปเล่นมุกนอกระเบียงเลยไป”

   แล้วคนเล่นมุกแป้กก็หัวเราะจนตัวงอ ก่อนจะกลับมานั่งที่เดิมพลางสวมนาฬิกาใส่ข้อมือให้ผม โคตรปลื้มใจ ไม่เคยคิด และไม่เคยคาดหวังด้วยว่าพี่โชจะซื้อของแพงมาให้ ที่จริง แค่เลี้ยงข้าวกระเพราหมูกรอบ ผมก็ดีใจสุดๆ แล้ว

   “พอดีข้อมือเลย” สวมเสร็จก็จับข้อมือผมพลิกไปมา

   “รู้ขนาดข้อมือกลอยได้ไง”

   “จับทุกวัน ไม่รู้ก็แปลก”

   “ทุกวันที่ไหน ไม่ได้จับมาตั้งหลายเดือน แล้วก็จะอีกหลายปี...”

   “ไหนบอกไม่ชอบดราม่าไง ขี้แยนะเรา” หน้ามุ่ยทันทีที่ถูกดึงเข้าไปกอด “ไปกินข้าวกัน พวกไอ้จอมคงรออยู่ข้างล่างแล้ว”
 
   “ขอบคุณสำหรับนาฬิกา” ผละออกมาแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มพี่โชฟอดใหญ่ “แล้วก็ ขอบคุณที่พี่กลับมา” คราวนี้ขยับจากแก้มมากเป็นปากจ๊วบใหญ่

   “ถ้ามากกว่านี้ ข้าวอาจไม่ได้กินแล้วนะ”

   แล้วผมก็ต้องรีบดีดตัวออกห่างทันทีเมื่อมีมือมาลูบๆ วนๆ ที่ก้น พี่โชขำออกมาชุดใหญ่ ก่อนจะลุกไปหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าเงินใส่กระเป๋ากางเกง ส่วนผมก็เดินตัวปลิวตามหลังออกจากห้อง พอลงมาด้านล่าง ก็เจอคนกลุ่มใหญ่นั่งโวยวายอยู่ที่สวนด้านนอก

   “ช้านะพวกมึง” พี่จอมบ่นเป็นคนแรกหลังจากผมกับพี่โชก้าวขาออกจากประตู

   “นั่นดิ่ พวกกูหิวจนท้องจะทะลุละ” พี่เบเสริมออกมา มือลูบท้องเป็นเครื่องยืนยันว่าหิว

   “มัวทำอะไรกันอยู่วะ” กำลังจะอ้าปากตอบคำถามพี่แทม แต่เจ้าตัวดันพูดขัดออกมาก่อน “หรือเอากัน?”

   “แค่ไม่กี่นาที เอากันได้เหรอพี่” ไอ้อัธโพล่งออกมา เรียกสายตาจากทุกคู่ “ผมหมายถึง มันต้องบิ้วอารมณ์ด้วยไง ปุ๊บปั๊บไม่น่าได้”

   “ได้ดิ่วะ ไอ้โชซะอย่าง อยากปุ๊บ จัดปั๊บ แป๊บเดียวรู้เรื่อง” พี่ซันพูดจบก็ยกมือแท็กกันกับพี่โชที่ยิ้มร่า

   เป็นบุคคลที่น่ากลัวกว่าที่คิดเยอะ พี่เทพบุตรสุดหล่อของไอ้กลอย     

   เมื่อทุกคนพร้อม เราก็ออกเดินทางไปหาข้าวมื้อเที่ยง ร้านที่เลือกก็เป็นร้านอาหารติดทะเล แต่ถึงอย่างนั้น ที่นั่งที่พวกเราเลือกก็เป็นด้านในของตัวร้าน ขืนเวลานี้ออกไปนั่งด้านนอก คงได้ไหม้เกรียมไปทั้งตัวแน่ และของที่สั่งมาก็เน้นอาหารทะเล เอาจริงนะ ผมว่าราคาร้านอาหารติดทะเล มันแพงกว่าร้านแถวบ้านอีก

   “ปูแม่งโคตรสดว่ะ” พี่แทมนั่งแกะ นั่งแงะปูจนเปลือกกองเต็มจานไปหมด

   “ผมก็ว่าดีนะพี่ เนื้อหวานมาก” ไอ้ม่านออกความเห็น โดยที่มือยังจับเนื้อปูเข้าปาก

   “หวานไม่เท่าความรักของมึงมั้งไอ้ห่าม่าน ดูแลดีจนพวกกูคิดว่ามึงเป็นง่อย” ไอ้กลอยและทุกคนถูกใจสิ่งนี้ครับ แล้วพวกเราก็พากันหัวเราะ แม้แต่ไอ้เม่นก็ยังขำไปด้วย มีแต่คนถูกล้อที่หน้าบึ้งเป็นตูด

   “รู้จักพามาเปิดตัวกับพี่กับพวกแบบนี้ค่อยดีหน่อย หลบๆ ซ่อนๆ เกิน” พี่ตินใช้หัวกุ้งชี้หน้าไอ้ม่านระหว่างพูด

   “กูว่า ไม่กล้าพามามากกว่า ต้องมาเจอโจทย์เก่า” แล้วทุกสายตาก็พุ่งมาที่ผมกับพี่โช

   “หมายถึงข้อสอบเหรอพี่”

   “ใช่ ตอบแบบนี้พอใจมึงไหมไอ้อัธ”

   บรรยากาศสีเทาจางหายทันทีที่ไอ้อัธเล่นมุกแป้ก เอาจริงๆ ก็รู้แหละว่าไอ้เม่นต้องอึดอัด แม้จะเคยไปเที่ยว ไปกินเหล้ากันมาบ้าง แต่การมาเที่ยวไกลๆ แบบนี้ แถมมีค้างคืนอีก มันเป็นเรื่องยากจริงๆ ก็นะ ในเมื่อคบกับไอ้ม่านแล้วก็ต้องปรับตัวอยู่กับพวกเราให้ได้ อีกอย่าง พี่โชเป็นคนมีเหตุผลจะตาย แถมใจดีอีกต่างหาก

   “คืนนี้เอาไงวะ” พี่ซันเปิดประเด็นเรียกความสนใจจากทุกคน “เมาหรือว่าไง”

   “กูจองเรือไว้แล้ว” พี่โชรีบบอก “ประมาณหกโมงขึ้นเรือ”

   “ขึ้นเรือไปไหนเหรอ” ถามด้วยความสงสัย

   “ตกหมึกไง” ได้ยินปุ๊บ ผมรีบหันไปมองพี่จอมทันที วันที่ไปเมาคราวนั้น ผมพูดไว้ว่าอยากตกหมึก

   “พี่จอมบอกพี่โชเหรอ”

   “เปล่า”

   “อ่าว แล้ว?”

   “ก็คราวนั้น กลอยบอกพี่เองว่าอยากไปตกหมึกสักครั้ง”

   “กลอยบอกเหรอ”

   นั่นไง ความสมองปลาทองทำให้ผมจำคำพูดตัวเองไม่ได้ พยายามนั่งนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
 
   “ไอ้กลอย มึงนั่งคิดเฉยๆ ไม่มีใครว่า แต่ถ้าอยากอวดนาฬิกาละก็ เอาแขนวางพาดโต๊ะเลยเถอะ แสงมันสะท้อนมาเข้าหน้ากูไอ้เหี้ย” พี่จอมโวยวายออกมา หลังจากเห็นผมยกมือขึ้นลูบคาง

   “ใครอวด ผมไม่ได้อวด” เสียงสูงไปอีก มีคนรู้ทันด้วยว่ะ อุตส่าห์ทำแบบเนียนๆ

   “โหว นาฬิกาท่าจะแพง เมื่อเช้ากูยังไม่เห็นเลย” ไอ้ทูรีบยื่นหน้ามาดู ผมเลยถือโอกาสยกอวดไปตรงๆ “สวย”

   “ขี้อวดว่ะ กูก็มียังไม่เห็นอวดเลย” พี่แทมขัดทั้งที่เคี้ยวปลาหมึกทอดตุ้ยๆ

   “แล้วตกหมึกต้องเอาอะไรไปบ้างพี่” ไอ้อัธรีบเปลี่ยนเรื่อง พี่แทมเลยจิ๊จ๊ะในลำคอ “ต้องซื้อเบ็ดตกปลาป่ะ?”

   “เรือเขามีให้หมด” พี่โชตอบเรียบๆ ก่อนทุกคนจะสนใจอาหารมื้อเที่ยงต่อ กว่าจะอิ่มกันก็ปาไปค่อนบ่าย ไม่รู้กินหรือยัด ดีที่มื้อนี้แชร์กันออก ขืนมีเจ้ามือละก็ กระเป๋าแบนแน่นอน “เจอกันห้าโมงเย็นนะ”

   หลังจากอิ่มเสร็จก็กลับรีสอร์ท จากนั้นก็ถึงเวลาแยกย้าย ใครอยากไปไหนก็ตามสะดวก ส่วนผมกับพี่โชขอไปนอนก่อน พอหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน ยิ่งมีแอร์เย็นฉ่ำด้วยยิ่งแล้วใหญ่ ความเหนื่อยมันทำให้เราทั้งคู่นอนหลับได้อย่างง่ายดาย

.
.
.
.
(มีต่อด้านล่างค่ะ) >w<


   

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5

(ต่อจากด้านบน)

.
.
.


        กว่าจะตื่นก็ตอนที่มีเสียงโทรศัพท์เรียก ผมงัวเงียลุกขึ้นมานั่งขยี้ตา เห็นพี่โชควานหาโทรศัพท์ตัวเองมากดปิด คงตั้งปลุกไว้สินะ และพอมองออกไปนอกระเบียง ท้องฟ้ากำลังสาดแสงสีส้มเต็มทะเลทั้งผืน จนคนที่เพิ่งตื่นอย่างพี่โชรีบหยิบกล้องแล้วออกไปเก็บภาพความงามไว้ที่เป็นระลึก

   “สวยเนอะ” ผมเดินออกไปยืนข้างๆ พี่โชที่กำลังรัวชัตเตอร์ ก่อนตกใจที่อยู่ๆ เลนส์กล้องหันมาทางผมพร้อมกับเสียงกดดังแชะ “พี่โช ถ่ายไรเนี่ย”

   “ถ่ายกลอยไง” คนถ่ายรูปทีเผลอขำ ผมกำลังจะโวยวาย แต่พอเห็นรูปผ่านหน้าจอของกล้องถึงกับพูดไม่ออก “รูปดี”

   “ก็นายแบบหล่อ” ยืดนิดๆ มันสวยจริงครับ แม้หน้าผมจะเหวอๆ ไปหน่อยก็เถอะ แต่แสงมันสวยจริงๆ

   “กล้าพูดว่ะ”

   “แน่นอน” ยกหางตัวเองสุด ก่อนผมจะเดินกลับเข้าห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์ออกมาเก็บรูปบ้าง และไม่ลืมแอบถ่ายพี่โชขณะตั้งใจถ่ายรูปทะเล




   เมื่อเวลานัดมาถึง ผมกับพี่โชก็ลงไปด้านล่าง บรรดาพวกพี่แทมก็ทยอยมาเหมือนกัน คนช้าสุดคงเป็นพี่ซันกับพี่จอม ทั้งคู่ปั่นจักรยานกลับมาด้วยความเร่งรีบ มาถึงก็หอบกันใหญ่ และเมื่อพร้อม เราทุกคนก็มุ่งหน้าไปท่าเรือที่พี่โชไปจองไว้...ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้

   “วันนี้เราจะได้ปลาหมึกไหมลุง” พี่แทมถามด้วยความอยากรู้

   “ก็ไม่แน่นะครับ อาจจะได้” ลุงเจ้าของเรือตอบอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ กลัวออกตัวแรงแล้วไม่เจอ 

   “ได้หรือไม่ได้ก็ช่างมัน อย่างน้อยก็ได้มา” พี่ตินปิดท้ายก่อนเราจะพากันลงเรือ

   เรือออกไปตกหมึกก็เป็นเรือหาปลาของชาวประมง อุปกรณ์ทุกอย่างครบครันไปหมด มีเบ็ด มีเหยื่อ รวมทั้งมีเครื่องปรุงรสและน้ำจิ้ม ผมถามลุงเจ้าของเรือแล้ว ลุงแกบอกว่า เผื่ออยากกินแบบสดๆ ซึ่งมันก็น่าลองมาก

   “อ่ะ เอาไป” ระหว่างนั่งโต้คลื่นไปยังจุดจอดเรือ พี่แทมก็ยื่นถุงพลาสติกใบกลางมาให้

   “เอามาให้ผมทำไม?” งงสิครับ อยู่ๆ ก็ยื่นมาให้ แถมคนให้ก็กำลังใช้หูของถุงคล้องไปที่หูตัวเองทั้งสองข้าง “พี่แทมทำอะไร”

   “ถุงอ้วกไงไอ้ห่า” พูดจบก็ถูกทุกคนหัวเราะเยาะใส่ “ไม่ต้องมาหัวเราะกู รอดูเถอะ มีอ้วกแน่พวกมึงน่ะ”

   “มึงคนเดียวละมั้งที่เมาเรือ กูไม่เห็นใครจะมีอาการ” ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่พี่เบว่าจริงๆ ทุกคนยังปกติดีอยู่ทั้งนั้น...

   “ก็ตามใจมึง แต่อย่ามาขอถุงกูทีหลังนะ แล้วมึงจะเอาไหมไอ้กลอย”

   “เอาก็ได้” กันไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย

   “เชื่อกูแล้วจะดี” พูดจบก็เดินเซๆ ไปนั่ง ก่อนควักยาดมยัดจมูกตัวเอง สภาพโคตรตลก แต่พี่แทมแม่งโคตรเตรียมพร้อมจริงๆ นะครับ มีพกถุงกันอ้วกด้วย

   หลังจากนั้นไม่นาน อาการที่พี่แทมบอกก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อเรือที่เรานั่งมาจอดหยุดอยู่กับที่ แรงคลื่นในทะเลทำให้เรือโคลงไปมา เสียงลมหวีดดังแข่งกับเสียงโอ้กอ้ากของคนบนเรือ หนึ่งในนั้นก็คือผมเอง ขนาดพี่โชพาไปนั่งตรงที่มีลมตีหน้าแล้วนะ ยังไม่ไหวเลยให้ตาย

   “อ้วกแล้วดีขึ้นไหม” พี่โชถาม มือคอยลูบหลังผมอยู่ตลอด

   “ดีขึ้นมั้ง” ตอบแบบเบลอๆ หลังจากอ้วกอาหารมื้อเที่ยงจนหมดกระเพาะ ความรู้สึกตอนนี้ เหมือนมีอะไรมาบีบหัวอยู่ตลอด ตาก็ลาย ยาดมไม่ช่วยอะไรเลยจริงๆ “กลับเลยได้ป่ะ ไม่อยากอยู่แล้ว”

   “ไม่อยากอยู่ก็ต้องอยู่ เพราะกูยังไม่ได้ปลาหมึก” พี่จอมหันมาบอกผมเสียงเข้ม มือขาวๆ นั่นคอยชักเบ็ดให้เหยื่อขยับ เป็นการล่อให้ปลาหมึกมางับนั่นเอง 

   หากรู้ว่า การมาตกหมึกจะมีอาการทรมานแบบนี้ ผมจะไม่มาเลย ทำไมภาพที่ผมดู มันน่าสนุกวะ ตอนดูรายการต่างๆ ที่พามาตกหมึก พวกเขาดูมีความสุข เฮฮา ไม่เห็นมีใครมีอาการแบบนี้ หรือผมจะอ่อนแอเลยแพ้วะ

   “เชี่ยเอ้ย แผ่นดินไหวหรือเปล่าวะเนี่ย” พี่แทมพูดออกมาหลังจากอ้วกเป็นรอบที่สอง

   หายซ่าไปเยอะ สงสารพี่เขานะครับ

   “แผ่นดินไหวบ้านมึงสิ เราอยู่ในทะเล” ตอนแรกเห็นพี่ตินเตรียมจะฟาดเข้าหัวเพื่อนตัวเอง แต่คงนึกได้ว่า ฟาดไปแล้ว พี่แทมอาจน็อคได้ เลยกลับไปลูบหลังตามเดิม

   “แผ่นดินไหว แต่ผมไม่ไหวว่ะพี่ เหมือนจะตายเลย” ไอ้ม่านถึงกับน้ำตาไหลในความทรมาน

   “เมาเรือมันเป็นแบบนี้นี่เอง” ไอ้ทูก็เอาด้วย มันผุดลุก ผุดนอน ผุดนั่ง สลับไปมา เพราะเวียนศีรษะ จนพี่เบต้องคอยห้ามไม่ให้มันขยับตัว

        จังหวะที่คนเมาเรือพากันบ่นกันขรม มีอยู่คนหนึ่งกำลังใจจด ใจจ่ออยู่ที่ผืนน้ำ เมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังรอคอย ไม่นานก็...

   “เชี่ย กูได้แล้ว อ่าวเฮ้ย” อยู่ๆ พี่โชที่นิ่งเงียบไปนานก็ร้องขึ้น พลางลุกยืนเมื่อปลาหมึกติดเบ็ด แต่พี่เขาคงลืมนึกไปว่าผมพิงไหล่อยู่  ลุกปุ๊บ ผมก็ล้มคว่ำสิครับ ล้มจนหัวโขกกับที่นั่งดังโป้ก ดาวขึ้นตาเลย “พี่ขอโทษ เจ็บไหม”

   “เจ็บนิดหน่อย ค่อนไปทางมาก” ยังดีที่สนใจผมมากกว่าปลาหมึก 

   “ยังทำตลกอีก” 

   พี่โชลูบหน้า ลูบหัวผมใหญ่ คงรู้สึกผิดจริงๆ ก็นะ เสียงหัวโขกกับที่นั่งดังออกอย่างนั้น ขนาดพี่จอมที่นั่งอยู่ห่างไกลยังได้ยิน พอเห็นผมไม่เป็นอะไรมาก พี่โชก็หันไปสนใจปลาหมึกที่ฝากลุงเจ้าของเรือถือต่อ ไอ้กลอยขอน้อยใจได้ไหม ในฐานะคนที่อิจฉาปลาหมึกก็ได้ แต่ก็ไม่นานเมื่อมีปลาหมึกสดๆ หั่นเป็นท่อนๆ ใส่จานมาให้ พร้อมน้ำจิ้มสีแดงยื่นมาตรงกลางวง 

   “มานี่ๆ กูอยากลอง” พี่แทมที่นั่งพิงเสาเรือกวักเรียกคนถือ คงลุกไม่ไหวจริงๆ พี่โชขำสภาพเพื่อนตัวเองแต่ก็ยอมเดินไปหา ทันทีที่คนเมาเรือได้ลอง สีหน้า ท่าทางก็ดีขึ้นมาทันที ดวงตาเป็นประกายแข่งกับแสงสีเขียวในน้ำเลย “กรึบๆ แต่อร่อยว่ะ”

   “ตอแหลหรือเปล่าวะ” พี่ตินลุกจากที่นั่งตัวเองมา มือก็ยื่นไปหยิบปลาหมึกเข้าปากบ้าง “เจ๋งสัด อย่างกับกินอ็อคโทพุส”

   “ก็มันเป็นปลาหมึก!” แทบจะทุกคนที่พูดประโยคนี้ พี่ตินตีหน้าซื่อหยิบปลาหมึกกินต่อ แต่หูแดงนะครับนั่น คงอาย 

   “ผมรู้ ว่าพี่อยากเล่นมุก” พูดพลางยกนิ้วให้พี่ติน แม้จะกลั้นขำสุดชีวิตก็ตาม

   “กูโง่จริงไอ้ห่ากลอย” แล้วพี่ตินก็เดินหนีไป ตอนนั้นแหละ ที่ทุกคนปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างเต็มเสียง ขนาดพี่ๆ ลุงๆ เจ้าของเรือยังขำ

   “คนไม่รู้ ย่อมไม่ผิดนะพี่” ไอ้อัธพยายามจะช่วย แต่พี่ตินยกมือปิดหู

   “อย่ามาช่วยกู เพราะกูอายไอ้เหี้ย”

   “คู่ซี้กูไปซะแล้ว” พี่แทมส่ายหัวอย่างขำ คงอยากช่วยเหมือนกัน แต่สมองทำงานได้ไม่เยอะ เนื่องจากอาการเมาเรือ
   
   เสียงเฮดังอีกรอบเมื่อพี่จอมบอกว่าได้ปลาหมึก พร้อมๆ กับพี่ตินที่สาวคันเบ็ดยิกๆ ไม่นานก็มีปลาหมึกในจานเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังหมดไวราวกับมันหายตัวได้ หลังจากทุกคนได้ลองก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย แม้รสชาติมันต่างจากตอนสุก แต่ก็อร่อยดี จากที่คิดว่าน่าจะมีกลิ่นคาว กลับไม่รู้สึก และด้วยความอร่อยนั่นเอง ก็ทำให้พี่แทมต่อสู้กับอาการเมาเรือลุกไปตกหมึก


   ใจสู้ แม้ร่างกายจะไม่ไหว ไอ้กลอยนับถือ


   และถือว่าเป็นโชคดีของพวกเราก็ว่าได้ เมื่อลุงเจ้าของเรือเล่าว่า ไม่บ่อยที่นักท่องเที่ยวจะตกหมึกได้เยอะขนาดนี้ ปกติสองสามตัวก็กินเวลาหลายชั่วโมง แต่พวกเราได้เป็นสิบ ใช้เวลาชั่วโมงนิดๆ ก็กลับเข้าฝั่ง ส่วนปลาหมึกที่ได้ก็ถูกจัดการตั้งแต่บนเรือ ไม่เหลือรอดกลับเข้าฝั่งด้วยสักตัว

   “ไปไหนต่อวะ” พี่ตินถาม หลังจากขึ้นฝั่ง

   “ตลาดโต้รุ่งไหม กูหิวว่ะ” พี่จอมว่า

   “ปลาหมึกเมื่อกี้ไม่อิ่มเหรอพี่” ไอ้อัธขัดคนหิว ก็จริงอย่างไอ้อัธมันพูด พี่จอมกินปลาหมึกคนเดียวเป็นตัวๆ สายโหดของจริง

   “แค่นั้นไม่ได้เศษเสี้ยวในกระเพาะกูหรอก” นี่ก็เห็นด้วยกับพี่จอมอีก เพราะเป็นคนกินจุอยู่แล้ว นี่ขนาดลดลงมามากแล้วนะ “ว่าไง ใครไปบ้าง”

   “กูไม่ไปว่ะ ไอ้ทูน่าจะไม่ไหว” พี่เบรีบออกตัว ตอนนี้พี่เขากำลังแบกเพื่อนผมอยู่บนหลัง ซึ่งไม่ต่างจากไอ้เม่นที่ประคองไอ้ม่านไว้ไม่ให้ล้ม สงสัยอยากแบกเหมือนกัน แต่ไอ้ม่านขัดขืน ต่อหน้าก็แบบนี้แหละ ลับหลังใครจะไปรู้

   “งั้นก็ ตามนี้ ใครไปก็ไป ใครไม่ไปก็กลับที่พัก โอเค?”

   “ตามนั้นเพื่อนจอม”

   “ขึ้นฝั่งแล้วปากดีนะมึงไอ้แทม”

   “ในน้ำอาจแพ้ แต่บนบก กูของจริงครับ...อ่าวพวกมึง รอกูด้วย ปล่อยให้กูพล่ามอยู่คนเดียว สัด”

   นั่นแหละครับ คนไม่ไปมีสี่โดยจ้างรถรับจ้างไปส่งกลับ ส่วนที่เหลือคือบุกตลาดโต้รุ่ง ผมเดินไป ดมยาดมไป ถามว่าดีขึ้นไหม ก็ดี แต่ถามว่าไหวไม่ ก็ไม่ สรุป ความหิวชนะทุกสิ่งนั่นเอง (มันเกี่ยวกันตรงไหนวะ) พวกเราทั้งหมดนั่งรถของรีสอร์ทมาจนถึงตลาดโต้รุ่งที่ทั้งของและคนเยอะมาก แต่ที่ดึงดูดพวกผมมากที่สุด คือกลิ่นหอมของร้านขายของกินต่างๆ ที่เริ่มทำให้ท้องร้อง

        “ซื้อเสร็จแล้วมาเจอกันตรงนี้นะเว้ย” นัดแนะสถานที่เสร็จก็แยกย้ายกันเดิน

        ตอนแรกที่ถึงคือเดินด้วยกันหมด แต่เสียงโวยวาย หน้าตา ความสูงที่โดดเด่นของทุกคนนั้น ได้เรียกสายตาของชาวบ้านชาว เมืองเขาเยอะเกินไปหน่อย เลยตกลงว่าแยกกันเดินน่าจะดีกว่า เป้าสังเกตจะได้ลดน้อยลง ตอนแยกกัน ผมแอบได้ยินป้าขายน้ำปั่นกระซิบกันว่า พวกพี่โชอาจจะเป็นนักร้อง ดารา นักแสดงหรืออะไรสักอย่าง เพราะความหล่อเด่นเกินหน้ากันขนาดนี้ ผมว่า ไม่คิดก็คงแปลกล่ะ ขนาดผมที่มองหน้าพี่โชทุกวัน ยังคิดว่าหล่อเลย (เรื่องอวยแฟนของให้บอก ไอ้กลอยถนัดนัก) ผมเดินตีคู่กับพี่โช เข้าร้านนั้น ออกร้านนี้ ซื้อขนมติดไม้ ติดมือมาเต็ม 

   “อยากกินข้าวโพดปิ้ง” เดินผ่านแล้วกลิ่นมันยั่วยวนชวนให้เลี้ยวเข้าร้านสุด ผมชี้นิ้วเลือกข้าวโพดสีเหลืองที่ถูกปิ้งบนเตาจนมีรอยไหม้ “เอาไม้นึงครับ” บอกเสร็จ พี่โชก็ยื่นเงินให้ ป้าคนขายถึงกับมองแล้วยิ้มเขิน 

   ขอหึงได้ไหมเนี่ย เป็นแบบนี้ทุกร้านที่เข้าเลย

   “อร่อยไหม” คนจ่ายเงินถาม ขณะผมกำลังกัดข้าวโพดปิ้ง

   “หวานมาก” ตอบทั้งที่ของกินยังเต็มปาก

   “หวานเหรอ?” พอพี่โชไม่เชื่อ ผมก็ยื่นให้กัดดู “เหมือนราดน้ำเชื่อมเลยว่ะ” พี่โชถึงกับคายส่วนที่กัดไปใส่ถุงของกินที่หมด สำหรับคนติดหวานแบบผม มันก็อร่อยดี แต่พี่โชไม่ค่อยชอบหวานแบบเลี่ยน

   “ก็เมื่อกี้เห็นป้าเขาเอาจุ่มน้ำเหนียวๆ ด้วย พี่โชๆ ซื้อผัดไทย” 

   “ยังจะซื้อเพิ่มอีกเหรอ”

   พี่โชยกถุงในมือพลางพูดขัด แต่ก็เท่านั้น ในเมื่อผมเดินนำเข้าร้านขายผัดไทแล้ว พอยืนหน้าร้านปุ๊บ สาวฝรั่งตาสีฟ้าก็หันมามองแล้วยิ้มให้พี่โชปั๊บ หมดอารมณ์จะกินเลย

   “ไม่อยากกินแล้ว” ยื่นหน้าไปกระซิบพี่โชเบาๆ กลัวโดนคนขายด่าเพราะเพิ่งสั่งไป พี่โชย่นคิ้วมองอย่างงงๆ จนผมบอกเหตุผลไป ว่าทำไมถึงไม่อยากกิน “มองพี่โชทั้งร้านเลย ไม่ชอบ หึง” พูดจบพี่โชถึงกับหลุดขำออกมา ก่อนพี่แกจะยกแขนขึ้นพาดคอผม พลางยื่นหน้ามากระซิบชิดใบหู

   “แบบนี้คงไม่มีคนมองแล้วมั้ง”

   “มากกว่าเดิมน่ะสิ”

   จริงๆ ครับ คนมองมากกว่าเดิมอีก แถมยังซุบซิบนินทาด้วย แต่คนข้างตัวผมกลับไม่สนใจสักนิด จนผัดไทที่สั่งได้ เราก็เดินออกมา คราวนี้ได้ยินเต็มสองรูหูเลยว่า...เสียดาย

   ผมก็เสียดายเหมือนกันครับ เสียดายที่ทุกคนไม่ได้พี่โชไป ก็เพราะ...พี่เขารักผมครับ (ขอยืดหน่อย)

   “อยากกินหรืออยากซื้ออะไรอีกไหม เราน่ะ”

   “ขอเดินดูก่อน”
   
   ตอบไปอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเพิ่ม แค่ที่ถืออยู่ในมือ คืนนี้ก็คงกินไม่หมด เราทั้งคู่เดินดูของไปสักพักก็เริ่มเมื่อย แถมเริ่มจุกด้วย สงสัยจะกินมากเกินไป ดังนั้นผมกับพี่โชเลยตกลงว่าจะกลับไปที่จุดนัดพบ เพราะอยากนั่งพักขา แต่พอมาถึง กลับเจอไอ้อัธนั่งจิ้มปลาหมึกย่างรออยู่ก่อนแล้ว

   “ไงมึง ไม่มีคนคบเหรอ ถึงมานั่งอยู่คนเดียว” ถามพลางอ้าปากรอกินปลาหมึกที่ไอ้อัธกำลังจิ้มจะเข้าปาก ตอนแรกเหมือนจะเอาให้ผม แต่สุดท้ายก็วกเอาเข้าปากตัวเองเฉย

   กวนตีนมาก ณ.จุดนี้

   จากนั้นผมก็ปล่อยให้พี่โชกับไอ้อัธคุยกัน ส่วนตัวเองก็มองดูผู้คนที่เดินผ่านไปมา หลายสายตามองมาที่พวกเรานั่งอยู่ด้วย แต่ส่วนใหญ่จะมองไปที่สองหนุ่มที่คุยกันมากกว่า คือแบบ พี่ๆ น้องๆ ป้าๆ น้าๆ ครับ มองมาที่ไอ้กลอยสุดหล่อแม่นเว่อร์คนนี้บ้าง ถามจริง ผมหล่อน้อยกว่าไอ้อัธแล้วก็พี่โชตรงไหน นึกค่อนขอดอยู่ไม่นานพวกที่เดินซื้อของก็กลับมา ช้าสุดก็คู่เดิมเลย พี่จอมกับพี่ซัน ที่ตอนนี้ในมือมีถุงจนล้น ผมว่าผมซื้อเยอะแล้วนะ ต้องยอมกระเพาะของพี่จอมจริงๆ

   “พี่ซื้อมาเยอะขนาดนี้ จะกินหมดเหรอวะ” ถามด้วยความอยากรู้ 

   “ระดับกูไม่เหลือแน่นอน” พี่จอมยิ้มร่าตอบ ไม่สนสายตานิ่งๆ ของพี่ซันที่กำลังมองไป “กลับกันเถอะ กูปวดตีน”

   “ผมปวดตูด”

   “ถูกไอ้โชจัดมาละสิ”

   “นั่งรอพวกพี่ต่างหากเว้ย แม่ง”

   หน้าร้อนไปอีก ไอ้อัธขำจนตัวโยก ส่วนพี่โชเอาแต่ยิ้มไม่ช่วยหรือพูดอะไรสักนิด พึ่งพาได้สักคนไหมเนี่ย โว้ย

   พวกเรานั่งรถตู้มาจนถึงรีสอร์ทก็ถึงเวลาแยกย้ายกับเข้าห้องพัก ผมเดินตามพี่โชไปอย่างเอื่อยๆ เพราะแน่นท้อง แม้จะแวะซื้อมาลดกรดมาแล้ว แต่ก็ต้องรอเข้าห้องก่อนถึงจะกินได้ และพอเข้าห้องได้ สิ่งแรกที่ทำคือกินยา เกือบกรอกเข้าปากอยู่แล้ว หากพี่โชไม่ดึงแขนเอาไว้

   “อยากให้ยาฟูมปากออกมาเหรอ”

   “ลืมไป”

   หัวเราะแห้งๆ ส่งให้ ก่อนเทน้ำใส่แก้วแล้วค่อยเทยาตามลงไป คนจนยาละลายถึงยกเข้าปาก ส่วนพี่โชก็ขอเข้าไปอาบน้ำก่อน เพราะรู้สึกเหนียวตัว ช่วงที่รอคนอาบน้ำ ผมก็นั่งดูทีวีไปเรื่อยๆ จนคนในห้องน้ำเดินออกมา

   “ตัวหอมหรือยัง” ถามกวนไปงั้น แต่พี่โชก็เดินมาตรงหน้า แล้วยื่นมือมาดันหัวผมเข้าไปชิดกับหน้าท้องแข็งๆ “ทำไรเนี่ย”

   “ก็ให้ดมไง ว่าหอมไหม” น้ำเสียงโคตรกวนเลยขอบอก แต่แกล้งมาแบบนี้ มีเหรอที่ผมจะยอม “เป็นหมาเหรอ” ถูกถามก็เพราะผมงับเข้าท้องพี่โช แม้จะมีเสื้อคลุมอาบน้ำก็ตาม

   “ล็อตไวเลอด้วย”

   “ล็อตไวเลอร์? พี่ว่าพุดเดิ้ลก็พอมั้ง” อื่อหือ โคตรดูหมิ่น เหยียดหยามไอ้กลอยมาก “ไหนลองเห่าซิ”

   “โฮ่งๆ พอใจไหม” พี่โชหัวเราะออกมาเสียงดัง หลังจากผมประชดด้วยการเห่า “ไปอาบน้ำดีกว่า ไม่อยากพูดกับคนนิสัยไม่ดี”

   “หมายถึงพี่เหรอ?”

   “กลอยมั้ง”

   “อ่าว รู้ตัวเองด้วย”

   แล้วผมก็ยกขาเตะเข้าปลีน่องพี่โชไป ก่อนวิ่งเข้าห้องน้ำจนเกือบลื่น แต่ก็หลบขายาวๆ ของพี่โชที่ยื่นมาได้ทัน ถ้าไม่ทัน มีล้มอะบอกเลย กับฉายาตีนโหด ยังจำได้ ไม่มีวันลืมเลือน...คอยเตือนตัวเองไว้

   ใช้เวลาอาบไม่ถึงสิบนาทีก็คลุมผ้าออกมา เห็นพี่โชสวมเสื้อยืดกางเกงบอลนอนหลับอยู่บนเตียง ขนาดผมเรียกยังไม่ตอบรับ สงสัยจะหลับไปแล้วจริงๆ ผมจัดการเก็บของกินใส่ตู้เย็น ปิดไฟแล้วคลานขึ้นเตียง ใจจริงอยากกอดคนที่นอนหลับ แต่กลัวว่าจะเป็นการปลุกให้ตื่น เลยเลือกที่จะนอนห่างๆ แทน จังหวะที่ตาปรือ รู้สึกถึงแรงสะกิดแขนเบาๆ

   “ขยับมา” เสียงพูดเบาบาง แต่เพราะความเงียบทำให้ได้ยินชัด

   “หลับแล้วไม่ใช่เหรอ”

   “หลับแล้ว”

   พี่โชหลับ แล้วใครพูดวะ ขนลุกแล้วเนี่ย ห้องก็มืดด้วย

   “พี่โชพูดเหรอ” รีบถามเพราะสมองกำลังจินตนาการเรื่องน่ากลัว อยู่ๆ ก็มีเสียงขำขึ้นมา จนผมต้องรีบยกผ้าห่มขึ้นคลุมหัว โดนของดีเข้าแล้วไอ้กลอย ยิ่งไปกว่านั้น ผมรับรู้ได้ถึงแรงยุบของเตียง ก่อนจะมีอะไรมารัดตัวจนแน่น อำ! โดนผีอำแน่ๆ ขยับไม่ได้ หายใจไม่ออกด้วย

   “พี่เอง ไม่ใช่ผี” น้ำเสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้น ลดความวิตกและความคิดน่ากลัวๆ ไปจนเกือบหมด แต่ก็ยังคงเหลือไว้นิดๆ จนผมต้องโผเข้ากอดพี่โชแน่น “กลัวผีเหรอ” ไม่ตอบ แต่เลือกที่จะซุกหน้ากับอกแน่นแทน พี่โชขำเบาๆ พลางกระชับกอดตัวผมเอาไว้ มือใหญ่คอยลูบศีรษะเพื่อปลอบ “พี่อยู่ตรงนี้ ไม่ยอมให้ผีหรือคนมายุ่งกับกลอยหรอก นอนนะครับ”

   “กลอยโคตรรักพี่โช”

   “พี่รู้” แล้วพี่โชก็หอมหัวผมไปฟอดหนึ่ง “หัวเหม็นว่ะ”

   “เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยสระ”

   “พรุ่งนี้สระไม่มีอยู่จริง”

   “รู้ทันตลอด”

   “ดึกแล้ว นอนเถอะ หรือให้พี่ตบตูดกล่อมด้วย?”

   “นอนเฉยๆ นี่แหละ ฝันดีครับพี่โช”

   “ฝันดีครับ น้องกลอยใจ”

   ก็อย่างที่เคยบอก กลิ่นหอมจากตัวของพี่โชนั้น ยิ่งกว่ายานอนหลับ ยิ่งกว่าการอ่านหนังสือ เพราะอยู่ใกล้ทีไร รู้สึกถึงความสบายใจและความปลอดภัย มันทำให้ผมจมดิ่งอยู่ห้วงนิทราได้อย่างง่ายดาย


   “อยู่กับกลอยไปนานๆ นะ”


...TBC

มาแล้วค่าาาา พากลอยไปเที่ยวว ก่อนพี่โชจะลาไปอีก เราต้องเก็บเกี่ยวความสุขไว้ก่อน

ตอนนี้อาจยาวไปสักหน่อย ตอนแรกว่าจะแบ่งเป็น จุดหนึ่ง จุดสอง แต่ลงรวดเดียวเลยดีกว่า จะได้ไม่ติดขัด

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่า อยู่กันไปแบบนี้จนกว่าพี่โชกับกลอยจะจบนะคะ

รักกกกกก (ส่งมินิฮาร์ททึ) >w<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ตาลุกเป็นไฟ​

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ให้กลอยไปกับพี่โชด้วยได้มั้ยอ่าาาา พอพี่โชไม่อยู่ กลอยหงอยทุกทีเลย

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
ทำไมพี่โชอบอุ่นมากเลยอิจฉากลอยปะเกรียนอะ  :hao3:

ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:อิจฉากลอยวุ้ยยยยยหลัวรักหลัวหลง

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
น่ารัก o18

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อบอุ่นจริงๆ เที่ยวเป็นหมู่คณะ ตอนนี้อิจฉาน้องเกรียนสุดๆ

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
มีที่ไหนอีกไหม คนแบบพี่โชว์รักเมีย เปย์เมียหนักมาก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบบบบบบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ชอบยกแก๊งเลย   :mew1: :mew1: :mew1:
จะได้เห็นแฟนอัธมั้ยนะ :z3:

พี่โช  กลอย   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
อยากให้พี่โชเรียนจบเร็วๆ สงสารนังกลอย :katai2-1:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
พี่โชหนีบกลอยไปด้วย..ยยยยยย    :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด