เพราะนายคือของฉัน [ll] : 20
“ทำไมมึงไม่รับ”
เสียงทุ้มถามจบ ผมก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมอง ทันทีที่เผลอสบตากับดวงตาคู่สวย ผมถึงกับกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก
“เอาไงดีมึง” คำถามที่ไม่น่าจะถามผม เพราะสายตาคนถาม หันไปมองคนข้างตัว “ทิ้งมันไว้ข้างกองขยะเปียกตามเดิม หรือว่าไง”
“กูว่า...” แทบกลั้นหายใจกับประโยคที่ขาดหาย “เดี๋ยวกูหิ้วมันเข้าไปดีกว่า สงสาร ไม่รู้โดนใครทิ้ง”
“โดนหมาทิ้งแน่ๆ เชี่ย” ออกความเห็นไม่ทันจบดี คนพูดก็ถูกฝ่ามือใหญ่ฟาดเข้าเต็มหัว
คงไม่ผิดใช่ไหม ถ้าผมจะสมน้ำหน้า...
“มึงจะนั่งเป็นขยะเปียกอีกนานไหม ลุก!”
“ก็มองอยู่นี่ไง” ผมตอบทำหน้าจริงจัง แต่อีกฝ่ายกลับตีหน้านิ่ว กดคิ้วขมวด
“มองอะไรของมึงวะ” เป็นอีกคนที่ยืนข้างๆ ถามแทน
“ก็พี่บอกให้ผมลุค ก็มองอยู่นี่ไง” พูดอีกรอบ แต่อีกสองคนก็ยังไม่เข้าใจ ผมเลยต้องอธิบายเพิ่มเติม “แอล ดับเบิ้ลโอ เค อ่านว่าลุค แปลว่ามอง เชี่ย” กลิ้งตัวหลบฝ่าตีนแทบไม่ทัน โหดเหี้ยๆ
“กวนตีนนะมึง”
“นี่คือการทักทายของพี่เหรอวะ” ตวัดดวงตามองคนที่ยื่นขามาจะถีบ “น่าน้อยใจฉิบ...เฮ้ย” พูดไม่จบ ร่างอวบๆ ก็ถูกยกขึ้นพาดบ่า ท้องที่เต็มไปด้วยน้ำเมาแทบพุ่งตามจังหวะคนแบกที่ก้าวเดินฉับๆ “ค่อยๆ เดิน ปวดท้อง”
“พูดมากจริง”
“พี่โช!”
แหกปากโวยวายแข่งกับเสียงเพลง พี่แกเล่นตบก้นผมหลายทีโดยไม่สนสายตาคนอื่นที่มองเลย จนมาถึงโต๊ะในตำนาน นั่นคือโต๊ะที่ผมเคยถูกหิ้วมานั่งครั้งแรกสมัยเมื่อก่อนนู้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพื่อนร่วมแก็งของคนที่หิ้วผมมา แต่ที่เพิ่มเติมคือแก็งเพื่อนของผมนั่นเอง ไอ้เชี่ยสักชนแก้วไม่ยั้งกับพี่ติน ไอ้ต๋องกับไอ้เคก็ขำมุกแป้กๆ ของพี่แทม ไอ้ทูกำลังออเซาะพี่เบ ส่วนพี่จอมกับพี่ซันกำลังนั่งมองผมอยู่ โดยที่ผมไม่ได้สนใจ นอกจากสายตาดุคู่ที่ไม่ได้จ้องมานาน
“มองทำไม” ถามเสียงขุ่น
“กลอยมองพี่ก่อน” มีเถียงด้วยว่ะ
“ถ้าพี่ไม่มองก่อน จะรู้ได้ไงว่ากลอยมอง” นี่ผมกลายเป็นคนขี้ประชดไปตั้งแต่ตอนไหนวะ “คนเรานี่นะ....” ตอนนี้ทั้งคำพูด ทั้งความรู้สึกเหมือนถูกดึงปลั๊กจนสติหลุด ขนาดเสียงเพลงกระหึ่มยังหายไปจากการได้ยิน มีเพียงการรับรู้อย่างเดียวที่รู้สึกคือ
...รสจูบของพี่โช ยังหวานและอ่อนโยนเหมือนเดิม
“เบาๆ หน่อยไอ้เหี้ย เดี๋ยวมดจะมากัดตีนกู” เสียงแบบนี้ พี่แทมแน่นอน
“จูบไปได้ไงวะ เพิ่งหิ้วมาจากกองขยะแท้ๆ” นี่ก็พี่จอมแน่นอน ผู้ที่บอกว่าผมโดนหมาทิ้ง
“ไอ้เหี้ย เดจาวูสัด ไดอาล็อกเดิมเป๊ะ ครั้งแรกก็ข้างขยะ ตอนนี้ก็ข้างขยะ ไอ้กลอย มึงมันไอ้เด็กขยะจริงๆ” เกือบจะดีอยู่แล้วเชียว กับประโยคของพี่ติน ทำเอาพี่โชถึงกับรีบผละออกไปตบหัวเลยทีเดียว “ตบหัวกูทำพ่อง”
“ด่าเมียกูทำไม”
“แหม ไอ้เหี้ย ด่านิด ด่าหน่อยไม่ได้”
“ไม่ได้”
“ไอ้สัด กูจะอ้วก” พี่จอมหันไปโก่งคอทำท่าจะอ้วกจริง แต่ข้างๆ ดันเป็นพี่ซัน เลยถูกผลักจนหน้าหงาย
“พี่ท้องแล้วเหรอ ดีใจด้วย” พูดเสร็จก็รีบดึงพี่โชเป็นโล่กำบังของฝ่ามือที่ง้างมา
“ผัวอยู่ละปากดีเลยนะมึง วันก่อนยังนอนเมาละเมอร้องไห้เป็นหมาเหงาอยู่เลย” พี่จอมแขวะผมทั้งคำพูดและสายตา ก่อนสะดุ้งเมื่อถูกพี่โชจ้องหน้า “มองกูทำไม”
“กูให้มึงพากลอยไปกินข้าว ไม่ได้ให้กินเหล้า โอนเงินกูคืนมาด้วย”
“ไอ้สัดโช กูอุตส่าห์ดูแลให้ รู้งี้ปล่อยให้มันไปแดกเหล้ากับชู้ดีกว่า”
นั่นไง เปิดประเด็นแบบนี้มา สายตาดุเลยพุ่งมาทางผมแทน รีบยกมือโบกรัวๆ ส่ายหัว ส่ายหน้าจนจะหลุดจากบ่าอยู่แล้ว
“พี่จอมพูดมั่ว อย่าไปเชื่อ” พี่โชยังนิ่ง มือยกขึ้นกอดอก อาการแบบนี้ต้องรีบเคลียร์ด่วนๆ “กลอยไปกินหมูกระทะกับเพื่อนแล้วก็พี่ที่ทำงานที่กลอยไปฝึกไง พี่จอมชอบพูดใส่ร้ายกลอย” แน่นอนว่าไม่พูดโดยไร้หลักฐาน ผมล้วงโทรศัพท์มากดให้ดูรูปมะนาวกับพี่ที่ทำงาน รวมทั้งรูปที่มะนาวถ่ายที่ร้านหมูกระทะ ที่สำคัญไปกว่านั้น ผมรีบเปิดรูปแฟนมะนาวให้ดูด้วย เพื่อให้พี่โชมั่นใจมากขึ้น
“มึงใส่ร้ายกลอยทำไม” พอเจอความจริงเข้า พี่โชก็หันไปไล่บี้เพื่อนตัวเองแทน พี่จอมยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ นี่ว่าคงไปเล่าเรื่องผิดๆ ให้ฟังมาก่อนแน่ ไม่ใช่แค่เพิ่งพูดหรอกเชื่อสิ “มีอะไร...ครับ” ผมแอบสะดุ้งตอนพี่โชหันมามองตาแข็ง แต่พอเห็นหน้าผม น้ำเสียงและท่าทางก็อ่อนลง แถมรอยยิ้มหวานส่งมาให้ด้วย
“กลับมาเมื่อไหร่ ทำไมกลอยถึงไม่รู้” จ้องหน้าคนที่อยู่ๆ ก็โผล่มา พี่โชยื่นมือมาหยิกแก้มผมแล้วดึงจนยืด สนุกมือเขาล่ะ
“น่ารักขึ้นป่ะเนี่ย” อยากจะยิ้มแต่แก้มถูกดึงอยู่ “คิดถึงว่ะ”
“โคตรๆ”
ผมยื่นมือไปดึงแก้มพี่โชคืน เราดึงกันไปมาอย่างนั้นพลางจ้องตากัน ก่อนพี่โชจะลุกขึ้นยืน เรียกสายตาจากทุกคนให้มอง
“อะไร ปวดขี้เหรอ” พี่ซันถาม เห็นเมื่อกี้แอบสะดุ้งด้วย คงเพราะกำลังยื่นแก้วเหล้ามาเพื่อจะขอชน
“กูกลับดีกว่า” ไม่ว่าเปล่า มือพี่โชยังดึงแขนผมให้ลุกด้วย หรือเห็นผมแอบยกแก้วเข้าปากวะ
“อะไร เพิ่งมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จะกลับได้ไงวะ” พี่แทมโวยวายก่อนใครเพื่อน
“นั่นดิ่ พวกกูอุตส่าห์เคลียร์ทางให้มึงเลยนะ” พี่ตินรีบเสริม
“ใช่ กูอุตส่าห์ให้ทูเอาบัตรวีไอพีกูไปให้ไอ้สักมัน มึงจะมาแค่นี้ไม่ได้ พวกกูลงทุน เสียเวลาไปเยอะ” พี่เบบ่นยาวกว่าใครเพื่อน แต่ดูจะมีประเด็นที่ผมจับใจความได้สุด
“บัตรวีไอพีของพี่เบ? งั้นก็....”
“พูดมาก เดี๋ยวกูจ่ายให้ ไอ้สัด” พี่โชรีบตัดบทและพยายามจะเมินสายตาคาดคั้นของผม
“ดีมาก อย่างนี้ค่อยกินอย่างสบายใจหน่อย” พี่จอมยิ้มร่า เตรียมยกมือเรียกพนักงาน โดยไม่สนคนข้างตัวจะแอบแขวะเบาๆ
“สบายกระเป๋ามากกว่ามั้ง”
“แดกเงียบๆ ของมึงไปเลยซัน”
“เอ้า”
“คู่นี้ก็กลับไปทะเลาะกันที่บ้านไป เหล้าพวกกูเสียรสชาติหมด” พี่แทมขัดขึ้น พลางยืดแขนไปชนแก้วเหล้ารอบวง กว่าจะถึงผมก็หมดรอบเสียก่อน
อดเมาเลยวันนี้
ผมถูกจูงมือออกมานอกไนต์คลับ เมื่อกี้ตอนเบียดกับกลุ่มนักเที่ยว พี่โชใช้ตัวเองบังผมทุกวิถีทาง เรื่องนี้แอบเคืองเบาๆ เห็นสาวๆ พยายามลวนลามพี่โชด้วย (ไม่ได้เคืองที่เขาลวนลามพี่โชนะครับ แต่เคืองที่ไม่ลวนลามผม อย่าให้พี่โชได้รู้ความคิดนี้เชียว จมให้มิดนะครับ)
“กลับบ้านกัน”
“พี่เอารถมาเหรอ”
รถคันงามของพี่โชถูกเอาไปเก็บที่บ้าน เพราะกลัวทิ้งไว้ที่คอนโดมันอาจจะเสีย หรือมีคนมือบอลมาขูด คนรักรถยิ่งชีพเลยเอาไปไว้ที่บ้าน
“ก็รู้ว่ากลอยจะไม่เอามาไง”
“วางแผนกันมาอย่างดีเลยนะ ทั้งพี่ ทั้งเพื่อนผมน่ะ” ค่อนแคะไปเบาๆ เรียกน้ำจิ้ม เพราะคืนนี้ยังอีกยาวไกล “รวมหัวกันหลอกผมได้”
“พี่ไม่ได้หลอกสักหน่อย” แล้วตัวผมก็ถูกยัดเข้ามานั่งในรถ เจ้าของรถรีบวิ่งอ้อมไปประจำที่ตัวเอง นานแล้วที่ไม่ได้นั่งรถคันนี้ ตั้งแต่เจ้าของไปอยู่ที่อื่น “กลับบ้านเรากัน”
“บ้านที่ไหน คอนโดต่างหาก”
“กวนตีนมากขึ้นนะเนี่ย”
“เวลาเปลี่ยน คนก็ต้องเปลี่ยน”
“อย่างอ้วนมากกว่าเดิมงี้เหรอ”
“ตอกย้ำ”
ว่าแล้วก็ก้มดูพุงตัวเอง แม้จะมีเสื้อปกปิด แต่ก็รู้ ว่ามันย่นทับกันเป็นชั้นอยู่ ก็เพราะกับข้าวบนโลกมันน่ากินไปหมดทุกอย่าง ผมเลยจัดเต็มตลอด มันผิดด้วยเหรอครับที่เป็นคนชอบกิน
ฝ่ารถติดจนกลับมาถึงคอนโด รถคันงามก็ถอยเข้าจอดที่ประจำซึ่งเป็นที่ๆ ถูกกั้นไว้เฉพาะลูกบ้านวีไอพีป้ายทะเบียนนี้เท่านั้น แต่ผมว่า เพราะจ่ายเพิ่มเลยมีที่จอดของตัวเองมากกว่า พี่โชเดินนำผมเข้าตัวตึก ระหว่างขึ้นลิฟต์ เราทั้งคู่ต่างคนต่างเงียบ ผมมองคนที่มาด้วยผ่านกระจกด้านข้าง ดูเหมือนพี่โชจะง่วง อ้าปากหาวมาตลอดทางรวมถึงขณะนี้ด้วย
“พี่โชมาถึงเมื่อไหร่” ถามหลังจากออกจากลิฟต์มาแล้ว ผมแตะการ์ดห้องก่อนผลักบานประตูเข้าไป “กระเป๋า?” ไฟห้องติดปุ๊บ กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ก็อยู่กลางห้อง จำได้ว่า ก่อนออกจากห้องเมื่อเย็น มันไม่มีอะไร
“เพิ่งลงเครื่องไม่กี่ชั่วโมงนี้” เสียงทุ้มชิดใบหู ตัวผมถูกโอบกอดจากด้านหลัง แขนยาวรัดเอว คางแหลมวางบนบ่า “โคตรเหนื่อยเลย”
“ลงเครื่องแล้วก็ไปผับเลย?” เอี้ยวคอจะมองหน้าคนด้านหลัง แต่ดันถูกฉกหอมแก้มไปฟอดใหญ่ แต่ถ้าจะหอมแบบดูดขนาดนี้ กินแก้มผมไปเลยดีกว่างั้น
“ก็คิดถึง”
“แล้วรู้ได้ไงว่ากลอยไปที่นั่น...อ่อ ลืมไป ว่าวางแผนกันไว้แล้ว” หน้าบูดเป็นตูดเลยผม หัวเสียสุดที่ถูกเพื่อนหลอก ก็ว่าอยู่ ทำไมไอ้สักถึงมีบัตรวีไอพี แล้วพวกมิกเซอร์ เหล้า เบียร์ ทุกอย่างในนั้นคือแพงมาก เงินที่จ่ายเอาไปร้านยาดองได้หลายรอบ
“พี่ไม่ได้เป็นคนวางแผน” เบ้ปากให้กับคำปฏิเสธนั่น ก่อนจะย่นคอหนีเมื่อถูกจมูกคลอเคลีย ไรหนวดอ่อนๆ ของพี่โชทำเอาขนแขนผมลุก “โคตรคิดถึงเลย”
“สุดๆ” ผมขยับตัวหันไปกอดพี่โชแน่น แม้จะไม่นานเท่าไหร่ที่จากกัน แต่สำหรับผม มันเหมือนเป็นปีๆ ที่ไม่ได้ไออุ่นของอ้อมกอดนี้ “กลิ่นหอมเหมือนเดิมเลย” พูดจบก็จุ๊บหน้าอกพี่โชไปเบาๆ
“อ่อยพี่ใช่ไหม หืม” น้ำเสียงกรุ้มกริ่ม กับมือที่ลูบก้นผมวนไปมา
“อ่อยคืออะไรไม่รู้จัก” ว่าแล้วผมก็รวบเอวพี่โช ออกแรงยกคนตัวใหญ่กว่าด้วยพลังที่มี พี่โชขำออกมาแต่ก็ยอมให้ผมยก ใช้แรงเฮือกสุดท้ายเดินลิ่วๆ เข้าห้อง ทุ่มคนตัวหนักลงบนเตียง ก่อนจะล้มตัวนอนตาม “ปวดหลังเลย”
“ใครบอกให้ยกล่ะ” เหล่หางตามองคนที่หัวเราะเยาะใส่ ก่อนจะเงียบลงแล้วมองหน้าผมนิ่งๆ มือขาวยื่นออกมาแตะที่คิ้วของผม ไล่ลงมาที่ตา จมูกแล้วก็ปาก “ไม่ได้จับแบบนี้มานานแล้ว”
“พี่โชจะอยู่นานไหม” รู้สึกใจสั่นที่ต้องถาม
“ก็ประมาณสองอาทิตย์” ยิ่งเจอคำตอบ หัวใจสั่นยิ่งกว่าเดิมร้อยเท่า
“ที่นู้นหยุดเหรอ พี่ถึงกลับมา”
“พี่ขอลาเอง ไอ้จอมบอกกลอยเรียนจบแล้ว พี่ก็อยากกลับมา อยากมาพูดแสดงความยินดีต่อหน้ากลอย” ผมถูแก้มตัวเองกับฝ่ามือที่ยื่นมาจับ ความรู้สึกตอนนี้กำลังตีกันมั่วไปหมด แน่ๆ คือน้ำตารื้น ขี้มูกก็จะไหลจนต้องสูดกลับเข้ารูเหมือนเดิม พี่โชขำออกมาเสียงดัง “เป็นคนขี้แยตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“ก็ตั้งแต่พี่โชไม่อยู่” ตอบไป มือก็ยกปาดขี้มูกตัวเองไป “ขอบคุณนะ ที่กลับมา”
“พี่ต้องมาอยู่แล้ว”
“โคตรรักเลย” ผมวาดทั้งแขนและขาไปวางบนตัวพี่โช “โคตรคิดถึงด้วย”
“เรียนจบแล้ว อยากทำอะไร อยากไปไหนไหม”
“อยากทำเยอะแยะ อยากไปหลายที่ด้วย” ยิ่งพี่โชกลับมาแบบนี้ ไอ้กลอยคนนี้ยิ่งมีที่จะไปเยอะ คิดแล้วน้ำตาจะไหล
“สองอาทิตย์นี้ พี่จะตามใจทุกอย่าง โอเคไหม” รีบพยักหน้า ทำตาพราววิบวับ แต่กลับถูกดับฝันไปหนึ่งอย่าง “ยกเว้นเรื่องเมา พี่ยังต้องไปเคลียร์กับไอ้จอมก่อน ให้กลอยเมาแบบนั้นได้ยังไง”
“กลอยอยากเมาเอง พี่จอมไม่ได้บังคับ” ออกตัวช่วยสุดๆ
“อ๋อ นี่กลอยทำเองเหรอ ดี พี่จะได้ลงโทษถูกคน”
งานเข้าไอ้กลอยจนได้
“แค่ครั้งเดียวเอง” รีบแก้ตัวเป็นพัลวันจนลิ้นแทบพันกัน “จริงๆ” พยายามแก้ตัว แต่พี่โชกลับไม่ยอมเชื่อ แถมยังพลิกตัวมาคร่อมผม โดยใช้แขนสองข้างยันเตียงนุ่มไว้ “สองก็ได้...สาม สี่ ห้า โอเคๆ ยอมรับผิด”
“โดนลงโทษแน่ ไอ้เกรียน” รีบหลับตาปี๋เมื่อเห็นมือพุ่งมาตรงหน้า แต่ความอุ่นวาบที่ริมฝีปากทำให้ผ่อนคลายลง
“ไหนบอกเหนื่อยไง” พูดทั้งที่ยังมีริมฝีปากพี่โชคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ
“เหนื่อยเมื่อกี้ ตอนนี้หายแล้ว” เสียงแผ่วเบาตอบกลับมา
“ขี้โม้ป่ะเนี่ย”
“ชู่ว” อยู่ๆ พี่โชก็ยกนิ้วชี้มาแตะที่ปากของผม “ไม่อยากได้ยินเสียงพูดแล้ว” ด้วยความที่ปากขยับยาก เลยย่นคิ้วเป็นสัญลักษณ์ของคำถามแทนว่าทำไม “อยากได้ยินเสียงครางมากกว่า” พอได้ยินประโยคถัดมาปุ๊บ ผมถึงกับขึ้นเลย หมายถึงอารมณ์นะที่ขึ้น นั่นแน่ คิดทะลึ่งกันอยู่ละสิ
“คนเรานี่นะ...”
“พี่ขอโทษนะ” อยู่ๆ ก็ถูกขัดทั้งที่ยังพูดไม่จบ
“ขอโทษทำไม” เอาซะใจแป้วเลย
“พี่ขอโทษ ที่พรุ่งนี้จะทำให้กลอยเดินลำบาก มันต้องเคล็ดมากแน่ๆ”
“ไม่เจอกันนาน พี่ก็ยังหื่นเหมือนเดิมเลยนะ”
“มันมากกว่าเดิมต่างหาก กลอยจะได้รู้ไง ว่าพี่คิดถึงมากขนาดไหน เตรียมใจแล้วใช่ไหม” ตอนนี้ไม่ได้ห่วงการเตรียมใจอะไรทั้งสิ้น สิ่งที่ต้องห่วงคือร่างกายของผมนั่นแหละ
“พี่จะจัดเต็มแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบเหรอ” ถามทั้งๆ ที่มือยุบยับบนตัวไปหมด
“เดี๋ยวกลอยก็รู้”
อยากจะถาม อยากจะกวนต่อ แต่ปากผมดันไม่ว่างซะแล้ว แถมสติก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีก งั้นตอนนี้ ผมขอตัวตอบรับความคิดถึงของพี่โชก่อน ไม่เจอกันนานแบบนี้ ไอ้กลอยก็ต้องจัดเต็มเหมือนกัน ไม่มีทางน้อยหน้าแน่นอน
“พี่โช ถ้าจะคิดถึงกันขนาดนี้ เอามีดมาแทงเลยดีกว่า”
“ของๆ พี่ดีกว่ามีดเยอะ”
“ไม่มีอะไรจะพูด!”
เพราะหลักฐานยังคา เอ้ย ยังทนโท่อยู่
“งั้นก็ไม่ต้องพูด”
ครับ ไม่ต้องพูด เลยต้องมาครางแทน ไอ้เชี่ยเอ้ย ชุดใหญ่ไฟกระพริบมันน่ากลัวจริงๆ แต่ถามว่าชอบไหม กดหัวใจรัวๆ ไปเลยครับผม
“ไหนพี่บอกจะพักก่อนไง” รีบถามตาเหลือก หลังจากผ่านศึกรบมาอย่างหนัก แม้ระหว่างทางจะได้พักบ้าง แต่พอหายเหนื่อย ศัตรูดันบุกเข้ามาทำลายกำแพงเมืองต่อ หน้าด่านพังไม่พอ ยังบุกรุกเข้ามาในเขตที่ลึกล้ำอีก “พี่โช” เรียกชื่อเสียงอ่อน แต่ดูไม่เป็นผลสักเท่าไหร่
“ก็พี่นอนไม่หลับ สงสัยจะเจ็ทแลค”
“พี่เจ็ทแลคแล้วมันเกี่ยวกับเรื่องนี้ตรงไหน”
“ก็นอนไม่หลับ แล้วเมียก็นอนโป๊ยั่วอยู่ข้างๆ ใครจะไปทนได้”
“งั้นเดี๋ยวกลอยไปใส่ชุดนอน”
“กลอยใส่ เดี๋ยวพี่ก็ถอดให้อีก”
“คนจะหื่นนี่เนอะ ลืมไปเลย”
“งั้น มาบอกคิดถึงกันต่อ”
“พี่ควรสงสารร่างกายกลอยบ้าง อย่างเช่น เบาๆ แรงลงหน่อย ปวดหลังหมดแล้วเนี่ย”
“งั้นรอบนี้เบาๆ”
“พูดงี้มากี่รอบแล้ว”
“ไม่ได้นับ งั้นรอบต่อไปเดี๋ยวพี่นับ”
“พี่โช!”
แหกปากไปก็เท่านั้น คุณพี่ตีหน้าด่านเข้ามาได้ก็บุกไม่ยั้งตามเดิม ไปกินยาโด๊ปจากไหนมาวะ เรี่ยวแรงดีเหลือเกิน สงสัยพรุ่งนี้ผมคงต้องยกเลิกนัดรุ่นพี่ที่จะเลี้ยงยาดองซะแล้ว ขืนไปคงเดินเป๋ไป เป๋มาเป็นปูแน่
“พรุ่งนี้พี่จะพากลอยไปที่ๆ หนึ่ง”
“ที่ไหนเหรอ”
“ไม่บอก”
“ขัดใจคนขี้เสือกอย่างกลอยอีกแล้ว”
“แต่กลอยจะต้องชอบมากแน่ๆ”
“ให้จริงเถอะ”
“จริงสิ”
“แน่นะ”
“แน่สิ”
“ไม่มั่วนะ”
“ไม่มั่วสิ...มันใช่เวลามาต่อเพลงกันไหมเนี่ย”
“ก็พี่โชมาพูดต่อทำไมเล่า”
“ไม่พูดก็ได้ งั้นทำต่อ รอบที่สองใช่ไหม”
สองบ้า สองบออะไรวะ พี่โชแม่งต้องสอบตกวิชาคณิตศาสตร์แน่ๆ
“ไม่ได้นับโว้ย”
“งั้นพี่นับเอง”
“ไม่ต้องนับแล้ว พอ จบ เลิก หายคิดถึงแล้ว แยกย้าย”
“อะไรวะ”
“ไม่มีวะ มีเวอะอะไรทั้งนั้น นอน!”
จะนอนหันหน้า หันหลัง นอนหงาย นอนคะแตง นอนคว่ำ นอนท่าไหนก็อันตรายต่อร่างกายหมด ผมเลยเลือกที่จะกลิ้งลงมานอนที่พื้นแทน ส่วนพี่โชโผล่หน้ามามองแล้วหัวเราะ
“นอนก็นอน แต่ขึ้นมานอนบนเตียงดีๆ ก่อน” ได้ยินเสียงตบฟูกปุๆ “กลอย”
ถูกเรียกชื่อซ้ำๆ เลยจำใจต้องลุกขึ้น แข้งขาตอนนี้อ่อนแรงสุด คล้ายกับไปวิ่งรอบสนามฟุตบอลสักร้อยรอบ หลังก็เหมือนกัน ปวดเหมือนเล่นม้วนหน้า ม้วนหลังสมัยอนุบาล ผมดึงผ้าห่มผืนหนาลงที่พื้น พี่โชมองอย่างสงสัย แต่พอเห็นผมเดินไปหยิบผ้าปูเตียงผืนใหม่มาถึงกับยิ้ม
“ลุก”
“ก็ลุคอยู่นี่ไง” ตอนแรกก็ทำหน้าเอ๋อ แต่พอคิดออกก็เก็ทเลย ผมโดนมุกแป้กของตัวเองย้อนกลับมาเล่นซะแล้ว จำมุกที่เจอพี่โชตอนเย็นได้ใช่ไหม นั่นล่ะ มันกำลังย้อนมาหาผมนี่ล่ะ “โอเคครับ ไม่แกล้งแล้ว เมียใครวะ ขี้งอน”
“เมียปีศาจ”
ไม่ใช่ปีศาจธรรมดานะ ปีศาจหื่น
“ก้นช้ำว่ะ”
“เพราะใครกัดล่ะ” เหล่ตามองคนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองตัวเปล่าเปลือยของผม พอปูผ้าผืนใหม่เสร็จ ตัวผมก็ถูกดันเข้าห้องน้ำ “ทำอะไรพี่โช?” เริ่มระแวงกลัวจะมีศึกในน้ำอีก แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คงเพราะเริ่มเหนื่อยมากแล้ว และทันทีที่ขึ้นเตียงได้ หนังตาผมก็ปรือลงทันที
“ฝันดีครับ” จบประโยคก็มีความอุ่นวาบมาที่หน้าผาก
และค่ำคืนที่สงครามดุเดือดจบลง เหตุการณ์ทุกอย่างก็ค่อยๆ สงบ ผมกอดพี่โชที่ขยับมาซุกตัวที่อกตัวเอง กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยยิ่งทำให้ผมนอนหลับได้อย่างง่ายดาย
....แค่มีพี่โชอยู่ข้างๆ ผมก็นอนหลับฝันดีแล้ว
...TBC
ทุกคนเดาถูกค่า ปรบมือ (แปะๆๆๆ)
ออกตัวเลยว่า ไม่ถนัดแต่ง nc เอามากๆ เลยมาแบบเกรียนๆ กลัวจัดเต็มแล้วตัวเองจะหัวใจวายตาย ต้องขอโทษด้วยค่า (>/l\<)
แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่า ความฮาต้องมา ความบ้าต้องมี และความหวานก็ไม่ขาดค่า
ขอบคุณสำหรับความรักที่มอบให้กลอยประเกรียนค่ะ (ไหว้ย่องามๆ) >w<