- 2 - “ไฟบรรลัยกัลป์” คงคาสบตามังกร ต่างรู้ถึงอันตรายของอาวุธร้ายชนิดนี้ พวกเขาเห็นด้วยตาตัวเองมาแล้ว
“คุณต้องปล่อยบอร์ดบริหาร ผมถึงจะยอมเซ็นให้” มังกรต่อรอง อย่างน้อยถ้าไม่เหลือทางรอด เขาก็ไม่ต้องการให้บอร์ดบริหารเกือบยี่สิบ ต้องมาทุกข์ทรมานกับลูกไฟอัคนีที่ร้อนระอุ จนหายใจไม่ทันหน้าซีดเป็นลมไปบ้างแล้ว คุณสมรเป็นคนแรก
“ตกลง..” สิ้นคำสั่ง พิมผกาก็จัดการสะบัดมีดบินเปิดช่องให้พวกนั้นกรูกันออกมาอย่างกับมดหนีน้ำ ต่างตรงดันเป็นการหนีไฟนรก ในกลุ่มนั้นยังรวมคุณสมรกับเลขาของดลภัทรไว้ด้วย มังกรสั่งเฉียบขาดให้ตามพวกบอร์ดออกจากวงล้อม โดยให้ช่วยกันหิ้วปีกออกไป เหลือพวกเขาเพียงแค่สามคน
“พวกคุณออกจากห้องไป อย่าอยู่ในนี้” มังกรตะโกนบอกพวกเขา
“ไม่ได้..ฉันไม่รับปากเสียหน่อย ว่าจะปล่อยใครไปจากห้องนี้ แค่ยอมให้ออกจากวงล้อมไฟอัคนีเท่านั้น” เข็มอัปสรปฏิเสธ ทำให้พวกที่ตั้งท่าขยับมีอันต้องชะงักไปตามกัน
“พวกเขาไม่จำเป็นต้องอยู่ คุณต้องการตำแหน่งของผม ปล่อยพวกเขาไปก่อนสิ” มังกรแย้งเสียงแข็ง
“ใครบอก..พวกเขายังต้องลงนามยินยอมให้ฉันเป็นประธานที่ปรึกษาบอร์ดบริหารเสียก่อน ถึงไปจากห้องนี้ได้” ความจริงที่เฉลย ทำให้บอร์ดบริหารแต่ละคนถึงกับตาโต หมายความว่าเข็มอัปสรขอตำแหน่ง CEO ของวิริยะทรัพย์ ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดใหญ่กว่าประธานบริษัทเสียอีก ตำแหน่งนี้ยังไม่เคยมีใครได้รับแต่งตั้งมาก่อน
“มากไปแล้ว” คงคาพุ่งร่างเข้าจู่โจม ฉวยโอกาสจากรอยแยกที่เปิดช่องให้บอร์ดบริหาร ข้อมือสะบัดแส้พลิ้วไหวเสียดสีอากาศดังหวีดหวิว
“เฟี้ยวววว!!!...เช้งๆๆๆ..เคร้งๆๆ!!..ฉึก!..โอย!” แต่เขากับต้องกระเด็นกลับเข้ามาเหมือนนกปีกหัก พร้อมกับมีดสั้นปักหัวไหล่อีกเล่ม เจอการสะกัดของพิมผกาที่ตอบโต้ด้วยมีดบินอย่างเหนือชั้น
“น้ำ..คงคา” มังกรกับพยัคฆ์ พากันพุ่งเข้าไปประคองคงคาที่เกือบล้มไม่เป็นท่า..หิ้วปีกไว้คนละข้าง
“ผมไม่เป็นไร” แม้ปากจะบอกแบบนั้น แต่หน้ากลับซีดเผือด ทำให้มังกรกับพยัคฆ์ไม่สบายใจอยู่ดี
“คุณเลือดออกเยอะ ต้องรีบหยุดไว้ก่อน..ทนหน่อยนะ” พูดจบพยัคฆ์ตัดสิ้นใจดึงมีดที่ปักตรึงหัวไหล่ออกทันที
“อร๊ากก!!!” คงคากัดกรามแน่นครางลอดไรฟันอย่างห้ามไม่ได้ ปากซีดหน้าไร้สีเลือด เขาข่มความเจ็บอย่างยากลำบาก พยัคฆ์ฉีกชายเสื้อรัดปากแผลเอาไว้แน่น เพื่อห้ามเลือดไม่ให้ไหล
“ทนไหวไหม..” พยัคฆ์ถามคนรัก เขาไม่คิดว่าเข็มอัปสรกับพิมผกาจะฝีมือร้ายกาจอย่างนี้ แม้แต่คงคายังสู้ไม่ได้ เข้าขั้นงำประกายไม่ต่างกับลูกแก้ว
“เซ็นซะ..อย่ามัวแต่ถ่วงเวลา คุณเห็นแล้วนี่ผลลัพธ์เป็นยังไง” เข็มอัปสรเร่งมังกร พร้อมกับปรายตามองคงคาให้รู้เธอหมายถึงใคร
มังกรสบตาพยัคฆ์ สถานการณ์แบบนี้คงต้องยอมเซ็นยกตำแหน่งให้ดลภัทร ที่ยืนยิ้มกริ่มอย่างดีใจ เมื่อเห็นพวกเขาจนมุม มังกรมั่นใจหลังเขาเซ็นยกตำแหน่งให้ไปแล้ว อาจถูกฆ่าทิ้งเพื่อตัดปัญหาภายหลัง สังเกตสายตาเจ้าสัวไกรสิงห์ อุเทน อุทัย อุทิศ แต่ละคนบ่งบอกชัด ไว้อาลัยกล่าวอำลาเขาเป็นนัยๆ
มังกรหยิบปากกาออกมา กางกระดาษที่มีเนื้อหาผ่านตาคราวๆระบุไว้ว่า เขายินดีสละตำแหน่งโดยชอบธรรมให้ดลภัทร โดยทุกอย่างอยู่ภายใต้สติสัมปชัญญะครบถ้วนสมบูรณ์ ด้วยความยินยอมพร้อมใจ
นิ้วเรียวกำด้ามปากกาจนข้อนิ้วเกร็ง ก่อนจะจรดปลายปากกาลงบนกระดาษ เตรียมตวัดชื่อตรงช่องว่างที่ถูกเว้นไว้ ใต้ช่องพิมพ์ตัวบรรจงกำกับไว้ด้วยเป็นชื่อนามสกุลของเขาเอง
‘นายนาคภัทร วิริยะทรัพย์’ เขาหลับตาสูดหายใจลึก ก่อนลืมตาขึ้นพร้อมกับขว้างปากกาและกระดาษเข้าใส่พิมผกาไม่ให้ตั้งตัว เสียงปืนสาดตามมาติดๆ เน้นร่างศัตรูอย่างไม่เจาะจงคน โดยพยัคฆ์เป็นคนประเดิมยิงคนแรก เหมือนนัดกันไว้
“ปังงงๆๆ!!..ปังงงๆๆ!!” ห่ากระสุนถูกบดบังจากกลุ่มควันคละคลุ้งที่ทำลายทัศนียภาพของพวกเขาไปจนหมด ไม่รู้ว่าควันหนาทึบมาจากไหน กลายเป็นอุปสรรคทำให้มองไม่เห็น กลัวพลาดไปยิงพวกบอร์ดบริหารเข้า นี่คือสาเหตุที่เขาสั่งให้พวกนั้นออกจากห้องนี้ แต่ถูกเข็มอัปสรขัดขวางไว้ จำต้องหยุดยิงอย่างไม่มีทางเลี่ยง
“โยนปืนทิ้งก่อนฉันจะโมโห..ปัง!..โอย!!” สิ้นเสียงปืน พยัคฆ์ก็ร้องออกมา พร้อมกับทรุดลงไปกองทันที เขาโดนยิงที่หน้าขาหนึ่งนัด
“พยัคฆ์” คงคาทรุดดูอาการพยัคฆ์ที่หน้าเจื่อนไปแล้ว คงปวดไม่น้อย มังกรต้องรีบฉีกชายเสื้อตัวบางเอามารัดต้นขาให้คนสนิท
“นี่คือบทเรียน พวกคุณไม่ต่างกับลูกไก่ในกำมือ เอาเอกสารแผ่นใหม่ให้เขาเซ็น ถ้ายังตุกติกอีกฉันจะเด็ดหัวพยัคฆ์คนแรก” เข็มอัปสรเกรี้ยวกราด ใบหน้าสวยแสยะยิ้มชั่วร้าย จนดูน่ากลัวในทันที
อุทิศนำกระดาษยื่นให้มังกร ยิ้มเยาะให้เขาด้วย พวกคลังสมบัติรอซ้ำเขาทุกคน ใบหน้าหล่อยังคงเรียบนิ่ง อย่างน้อยมังกรทระนงยังคงสง่างาม ไม่เสื่อมไปกับสถานการณ์เป็นรองเลยสักนิด
เขาหยิบปากกาด้ามใหม่ เซ็นชื่ออย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่จะปล่อยให้ทุกคนบาดเจ็บล้มตายเพราะเขาไม่ได้ โดยเฉพาะคนที่ถูกเลือกคือพยัคฆ์ ยิ่งไม่ได้เป็นอันขาด ไม่เพียงแต่อาคมจะหัวใจสลาย คงคาซึ่งทิ้งความเย็นชาของนักฆ่าจะรู้สึกอย่างไร เมื่อคนรักต้องมาตายต่อหน้า แค่สายตาที่สองคนสื่อให้กัน เขายังหวั่นไหวไปด้วย คงต้องรักษาชีวิตพวกเขาเอาไว้เท่าที่สามารถทำได้
“ผมเซ็นแล้ว” มังกรบอกพร้อมโชว์กระดาษให้เห็น สร้างรอยยิ้มพึงพอใจปรากฏบนหน้าเข็มอัปสร รวมทั้งพิมผกาและพวกคลังสมบัติ โดยเฉพาะดลภัทรสีหน้าไม่มีปิดบังว่าดีใจมากกว่าใครทั้งหมด
“ไปเอามา” เข็มอัปสรสั่งเลขา เธอตรงมาหยิบกระดาษในมือมังกร
“เฟี้ยววว!..พรึ่บ!..ปึ๊ก!..โอ๊ะ!” เสียงอุทานของพิมผกาและมังกร ไม่เพียงแต่เธอแม้แต่มังกรยังสะดุ้ง กระดาษแผ่นนั่นบัดนี้ไปติดอยู่กับผนัง เกิดการตื่นตัวระมัดระวังในทันที เสียงทุ้มนิ่งสะกดคนทั้งห้อง
“ออกไปให้หมด” คำสั่งห้วน ดึงสายตาทุกคู่หันไปจ้องที่ประตู พร้อมกับร่างสูงใหญ่ในชุดดำรัดกุมโพกผ้าอำพราง โผล่นัยน์ตาคมดุอย่างมีอำนาจ ยืนเป็นรูปสลักแผ่รังสีพิฆาตกระจายฟุ้งขวางประตู
“รามูน!!!” เสียงครางแผ่วแทบไม่ได้ยิน ทำให้พวกที่อยู่ในห้องรับรู้ชื่อของบุรุษแปลกหน้าที่โผล่มาโดยไม่ได้รับเชิญ
“คุณสมรพาพวกเขาออกไป” คราวนี้คำสั่งเน้นไปยังเลขาสาวใหญ่ ซึ่งยังเรียกสติคืนร่างไม่สมบูรณ์ดี แต่พอบุรุษรูปร่างสูงใหญ่สั่งอีกครั้ง เจาะจงเธอโดยเฉพาะ ไม่รอช้าเธอดันหลังบอร์ดบริหารให้เดินตัวลีบออกประตูในทันที
“ห้ามใครก้าวออกจากห้องเด็ดขาด” เสียงตวาดแหลมสูงดังขึ้น หยุดการเคลื่อนไหวอีกครั้ง
“ไม่ต้องฟัง..ออกไป!!!” แต่ละคนถึงกับสะดุ้งเมื่อชายชุดดำตะคอกเสียงสะท้อนก้องจนหัวใจเต้นผิดจังหวะไปตามกัน ไม่มีใครสนใจเข็มอัปสร เมื่อสัมผัสถึงรังสีพิฆาตที่แผ่กระจาย กลบรังสีอำมหิตซึ่งครอบคลุมแต่แรกแตกกระเจิงไม่มีเหลือ
“พรึ่บๆๆๆ!!...ฟิ้วววๆๆ!!!..ตุ๊บๆๆๆ!!!” ลูกไฟอัคนีกว่ายี่สิบลูกแฝงพลังมหาศาลพุ่งโจมตีพวกเขา ซึ่งกำลังสับขาออกจากห้อง กลับหล่นพื้นจนหมด ทิ้งระยะห่างเป้าหมายกว่าช่วงตัว มีอยู่ลูกปลิวไปติดผนังตรงกระดาษเอกสารลายเซ็นของมังกรพอดิบพอดี จนลุกไหม้กลายเป็นเถ้าไม่เหลือซากของกระดาษแผ่นเดิมอีกเลย
“เข็มวายุ” เสียงสบถจากปากเข็มอัปสร ก่อนประตูจะปิดตามหลังผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมดุเป็นคนจัดการ
“เงาทมิฬ” คงคาเรียกคนมาทีหลัง เขาตรงเข้ามาคว้าแขนมังกร คงคากับพยัคฆ์ที่ได้รับบาดเจ็บให้หลบหลังชายชุดดำ ไม่ยอมพูดสักคำ
“หึหึ..ดีจริงพากันมาตาย บุญคุณความแค้นจะได้สะสางให้จบ” เข็มอัปสรใบหน้าบิดเบี้ยวพูดข่มขวัญ หัวเราะน้ำเสียงน่ารังเกียจ
“ทำได้ก็เชิญ” รามูนเอ่ยสั้นๆ สายตาไร้ความรู้สึกจ้องเข็มอัปสรนิ่ง แต่ฝ่ายถูกจ้องรู้สึกกำลังโดนดูถูก
“มันจะมากไปแล้ว อย่างน้อยศักดิ์ฉันคืออาจารย์หญิงของแก” เสียงตวาดอย่างเหลืออดของเข็มอัปสร เฉลยฐานะของตัวเองออกมา
“อาจารย์หญิง..หมายความว่าไงพี่ลม” คงคาเป็นคนถาม แต่ดันสะดุด เพราะรู้ว่ารามูนหรือพี่ลมคนที่ยืนบดบังรังสีอำมหิตแผ่รังสีพิฆาตกดดันพวกเข็มอัปสร คือลูกแก้วไม่ใช่รามูนอย่างที่พวกนั้นคิด
“เธอคือภรรยาหัวหน้า” คนตอบกลับเป็นเงาทมิฬ
“ห๊ะ!..ไหนบอกแม่พี่ไฟตายไปแล้ว” คงคาค้าน เข็มอัปสรดูยังไงก็รุ่นราวคราวเดียวกับมังกรชัดๆ จะแก่ถึงกับเป็นแม่ของอัคนีไม่น่าใช่
“เธอเป็นน้องสาวแม่คุณไฟ เป็นเมียลับของหัวหน้าที่ไม่มีชื่ออยู่ในองค์กร” คำบอกเล่าของเงาทมิฬ ทำให้มังกร คงคา พยัคฆ์ ประติดประต่อสายสัมพันธ์ของเข็มอัปสรกับองค์กรมหาหิงค์และฝ่ายคลังสมบัติได้ทันที
“มิน่าผมไม่เคยรู้จักมาก่อน ที่แท้ความเป็นมาซับซ้อนนี่เอง” คงคาสรุป หัวหน้ายังปิดบังตัวตน ไม่แม้กระทั่งจะเห็นหน้าค่าตา คงคาไม่มีทางรู้ด้วยซ้ำว่าคือรัฐมนตรี
ดังนั้นคงไม่แปลกที่จะซุกซ่อนผู้หญิงคนปัจจุบัน คือน้องสาวของภรรยาคนแรกไว้รับหน้าเสื่อกับธุรกิจเปิดเผย น่าจะมีหุ้นกับพวกคลังสมบัติ ถึงได้มีบริษัทฯเป็นนอมมินี่ขึ้นมา
“รู้แล้วสิว่าฉันเป็นใคร ไม่ต้องเสียเวลาตามไปถามอัคนีที่เมืองผี แต่ยังไงพวกเธอคงได้ไปเจอกันอยู่ดี” เข็มอัปสรโปรยยิ้มอย่างมั่นใจ ก่อนจะปรายตาส่งให้พิมผกา
“เฟี้ยววๆๆ!!..ชิ้งๆๆ..เคร้งๆๆ..เกร้งงง!!!..ฉึกๆๆๆ..โอย!” มีดบินที่ร้ายกาจออกจากท่าร่างรวดเร็วรุนแรงดังห่าฝน แต่ไม่สามารถฝ่ากำแพงไร้สภาพเข้าไปทำร้ายใครได้เลยแม้แต่ปลายผม หนำซ้ำเธอยังร้องโอดโอยก่อนจะหน้าซีดเผือดทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นอย่างสิ้นท่า
“พิมผกา” อุเทนพุ่งเข้าไปพยุงกอดเธอไว้ด้วยอาการเป็นห่วงเกินกว่าคนรู้จักปกติจะแสดงต่อกัน
“พิมคุณบาดเจ็บ” อุเทนถามร้อนรน หลังเห็นพิมผกาหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด ริมฝีปากสั่นระริก
“ฉันถูกเข็มวายุ” คำตอบของเธอทำให้หน้าของอุเทนเผือดขาวด้วยความเป็นห่วง รีบอุ้มตัวเธอไปนั่งเก้าอี้อย่างไม่รอช้า
“ผมช่วยคุณเอง” ท่าทางพวกเขา คงไม่ต้องอธิบายอะไรอีก
“แกกล้าทำร้ายน้องสาวฉัน..พวกแกต้องชดใช้” สิ้นเสียงตะคอก เธอเคลื่อนไหวรวดเร็วจนมองไม่ทัน ปล่อยลูกกลมๆเปลวไฟสีน้ำเงินออกมานับสิบลูก เป้าหมายไม่เพียงแต่รามูน เผื่อแผ่ไปยังพวกมังกรด้วย
“เงาทมิฬ พาพวกเขาหลบออกไป” น้ำเสียงห้วนดุ ได้ยินกันหมดก่อนเข็มวายุจะถูกซัดเข้าต้านลูกไฟเหล่านั้น กลับไม่สามารถทำให้พวกมันหล่นพื้นเหมือนเช่นเพลิงอัคนี เพียงแค่หยุดพวกมันให้ลอยคว้างได้ชั่วครู่
ช่วงเวลาแค่นั้น ก็เพียงพอสำหรับให้เงาทมิฬพาร่างพยัคฆ์ที่เดินไม่สะดวกต้องอาศัยการประคอง พร้อมด้วยมังกร คงคา รีบออกจากห้องเหมือนรู้ว่าควรทำอย่างไร พวกเขารับรู้ถึงความรุนแรงของไฟบรรลัยกัลป์เป็นอย่างดี และเชื่อว่าวิธีจัดการกับลูกไฟเหล่านี้ ไม่ควรอยู่เป็นดีที่สุด
“ปิดประตู” เสียงตะคอกดังกังวาน ไม่ต้องรอนานหางเสียงสิ้นสุดประตูห้องปิดบานลงพอดี ขังรามูนที่พวกมังกรรู้ดีว่าตัวตนแท้จริงคือใคร ให้อยู่กับเข็มอัปสรและพวกคลังสมบัติ รวมทั้งดลภัทรไว้ตามลำพัง
เสียงอืออึ้งดังให้ได้ยิน เหมือนมวลอากาศกำลังหลั่งไหลถูกดูดผ่านช่องว่างเล็กน้อยของขอบประตูเข้าไปภายในห้อง มังกรรับรู้ฝีมือลูกแก้วแต่ยังคงอดกังวลไม่ได้
“วายุพิโรธ” คงคาเอ่ยชื่อปรากฏการณ์ที่อากาศกรูกันลอดช่องว่าง เข้าไปในห้องแทนการบอกกลายๆ ว่าลูกแก้วในคราบรามูนกำลังใช้ท่าไม้ตายแล้วตอนนี้
“ปังๆๆๆ!!!” เสียงปืนรัวสนั่น..หูดับตับไหม้ แม้จะอยู่นอกประตู แต่พวกเขายังได้ยินชัด บอร์ดบริหารที่ยังไม่ไปไหนออกันอยู่แน่นขนัด กระทั่งพนักงานที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องยังมาเป็นไทยมุงเต็มไปหมด
“เกิดอะไรขึ้นประธานมังกร” เป็นคุณทรงยศถามมังกร
“ผมไม่แน่ใจ รอดูสักพัก” มังกรตอบอย่างขอไปที เขาเองก็ไม่รู้เหตุการณ์ในห้องเช่นกัน แม้ในใจจะห่วงลูกแก้วจนกระวนกระวาย แต่หน้าหล่อก็ยังคงนิ่ง ไม่แสดงอาการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอ่านพิรุธเลยแม้แต่น้อย
กระทั่งเสียงปืนเงียบลง พร้อมกับเสียงอืออึ้งอลหม่านที่ดังให้ได้ยินซาตามไปด้วย จนเงียบสนิทไม่ได้ยินเสียงอะไรเล็ดรอดออกมาแล้ว มังกรไม่รอช้า เขาเป็นคนแรกที่ผลักประตูเปิดเข้าไป บานประตูที่อ้ากว้างทำให้พวกที่มุ่งดูด้านนอกเห็น
สภาพภายในห้องซึ่งเละตุ่มเปะไม่มีชิ้นดี ข้าวของกระจัดกระจายเหมือนเพิ่งผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวมา แต่ไม่มีสิ่งมีชีวิตหลงเหลือแม้แต่คนเดียวนอกจาก
“ลูกแก้ว!!!” มังกรพุ่งเข้าไปยังร่างที่นอนคว่ำอยู่กับพื้น บนร่างมีเก้าอี้ล้มทับเต็มไปหมด
“ช่วยผมหน่อย” เขาตะโกนลั่น ไม่รู้บอกกับใคร ก่อนที่เงาทมิฬจะเป็นคนช่วยเขายกเก้าอี้ที่ทับบนร่างคนชุดดำออกอย่างรีบร้อน
“ลูกแก้วต้องไม่เป็นไร..ได้ยินไหม” พอสิ่งกีดขวางถูกจัดการออกไปหมดแล้ว เขาไม่รอช้าเข้าไปสำรวจอาการร่างที่นอนคว่ำหน้าไม่ไหวติงเพื่อตรวจความเสียหายต่างๆในทันที
“เรียกรถพยาบาลให้ผมด่วน..เร็วเข้า!!!” ดวงตาปิดสนิทภายใต้ผ้าโพกสีดำ มังกรถึงกับควบคุมตัวเองไม่ได้ รีบเปิดผ้าคลุมหน้าออกเพื่อช่วยคนที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองหายใจได้สะดวก อย่างน้อยจังหวะหายใจรวยรินอ่อนล้า ทำให้รู้ว่าลูกแก้วยังไม่ตาย
“ห้ามเป็นอะไรไปเด็ดขาด ได้ยินที่อาสั่งใช่ไหมลูกแก้ว” อ้อมกอดที่ประคองศีรษะอย่างอ่อนโยนไว้แนบอก หลังเงาทมิฬช่วยพลิกร่างใหญ่โตให้หงายร่างขึ้น ตกเป็นเป้าสายตาพนักงานที่มุงดูอย่างสงสัยใคร่รู้ แม้แต่บอร์ดบริหารที่ยังอยู่ครบ
หลายคนรู้จักลูกแก้ว แต่อดมีคำถามไม่ได้ ลูกแก้วทำไมแต่งกายปิดบังตัวเอง แล้วพวกคนที่เหลือหายไปไหนกันหมด เกิดอะไรขึ้นภายในห้องที่ข้าวของกระจัดกระจายเหมือนผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวสดๆร้อน
คำถามเหล่านี้ไม่มีใครได้รับคำตอบ เพราะคนที่ล่วงรู้เหตุการณ์ดีที่สุดกลับไม่ได้สติ แถมได้รับบาดเจ็บอยู่ในอ้อมกอดของประธานหนุ่มหล่อ เพื่อรอรถพยาบาล บรรยากาศตอนนี้ ทำให้ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากแม้แต่น้อย ต่างหุบปากเงียบ ลุ้นให้หน่วยพยาบาลมาพาคนเจ็บไปโดยด่วน รวมคงคาที่ถูกมีดบริเวณหัวไหล่ และพยัคฆ์ซึ่งโดนยิงตรงหน้าขากระสุนยังฝังอยู่เลย
เสียงไซเรนรถพยาบาล ไกลขึ้นเรื่อยๆก่อนจะเบาลงจนไม่ได้ยินอีก เมื่อพาหนะที่เป็นเจ้าของเสียงได้บรรทุกร่างบาดเจ็บไม่ได้สติของลูกแก้ว ไปพร้อมประธานวิริยะทรัพย์ที่ไม่ยอมห่างร่างนั้นแม้แต่น้อย ตรงดิ่งไปยังโรงพยาบาล
ส่วนภายในบริษัทเป็นหน้าที่ของพวกสิงขร ภูธร อานนท์ พงษ์เทพ ครรชิด จัดการเคลียร์ทุกอย่างให้คืนสภาพเดิม แต่คำถามคาใจสำหรับบอร์ดบริหารที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งถูกกำชับจากมังกรให้หุบปากสนิท ไม่ให้แพร่งพรายอะไรออกไป พวกเขายินดีให้ความร่วมมือเต็มที่
แต่ยังมีคำถาม คนในห้องหายไปไหนกันหมด แม้แต่ดลภัทรเองก็ไม่มีใครเห็น ใครเป็นคนยิงปืน เสียงปืนมาจากไหน ปอกกระสุนกับลูกปืน หรืออะไรที่เป็นหลักฐานสำคัญมันหายไปไหน ทำไมเห็นแต่รอยขี้เถ้าถูกเผาเป็นหย่อมๆ คำถามนี้ไม่มีใครได้รับความกระจ่าง
นอกเสียจากรอมังกรเป็นคนมาอธิบาย แต่ตอนนี้มังกรไม่สะดวก ดูจากสีหน้าแววตาซึ่งวิตกกังวลที่ฉายชัด แสดงออกว่าห่วงลูกแก้วที่มาในคราบบุรุษชุดดำมากมายแค่ไหน จนพวกเขารู้ว่าไม่ใช่เวลาที่จะถามเอาความจริงในเวลานี้
เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นสีหน้าแบบนี้ของมังกรก็ว่าได้ แววตาห่วงใยไหวระริก ใบหน้าซีดเผือดจนไร้สีเลือด มือที่ไม่ยอมห่างจากอุ้งมือหนาที่เจ้าของร่างหลับใหลไม่ได้สติ เดินกึ่งวิ่งตามรถเข็นพยาบาลตรงไปขึ้นรถฉุกเฉินไม่ยอมห่าง กลายเป็นภาพติดตาที่น้อยครั้งพนักงานใต้บังคับบัญชาของประธานหนุ่มจะได้เห็น มังกรพิสูจน์ให้รู้ว่า เด็กหนุ่มที่ชื่อลูกแก้ว เป็นคนสำคัญที่สุดของประธานวิริยะทรัพย์...????
ตอนหน้าเป็นตอนจบบริบูรณ์แล้วนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาอย่างเหนียวแน่น
สำหรับท่านที่สนใจสั่งหนังสือ ดูรายละเอียดด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ
Luk.
@@เปิดโอนเงิน@@เปิดโอนนิยายชุด ลูกแก้วมังกร ตั้งแต่ 5 - 30 พ.ย 55
รายละเอียดหนังสือ1.นิยายมี 2 เล่มจบ
2.เนื้อในกระดาษถนอมสายตา จำนวน 640 หน้าต่อ 2 เล่ม
3.ที่คั่นหนังสือ
4.ตอนพิเศษที่ไม่ได้ลงในเล้าฯ 5 ตอน เป็นของคู่เอก 3 ตอน คู่รอง 2 ตอน
4.1.เจ้าพ่อของจริง
4.2.มังกรล่อแก้ว
4.3.ขืนใจ..รามูน
4.4.เสือเล่นน้ำ
4.5.แฮปปี้เบิร์ดเดย์..คงคา
ราคานิยาย 1 ชุด 860 บาท รวมค่าจัดส่งลงทะเบียน
ราคานิยาย+ บ็อกเซท 1,000 บาท รวมค่าจัดส่งลงทะเบียน
(บ็อกเซท เหลือเพียง 17 ชุดเท่านั้นค่ะ)1.โอนได้ที่
ธนาคารไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์
เลขที่บัญชี 391-214997-2
ชื่อบัญชี นายภาณุพงศ์ ทับประสูติ2.โอนแล้วแจ้งรายละเอียดการโอน พร้อมที่อยู่จัดส่งหนังสือมาทาง Mail ได้เลยค่ะ
luxilove_19690 แอท hotmail ดอท comThank so.
ลักษ์.
PS. ตัวอย่างปกหนังสือพร้อมบ็อกเซท