นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -  (อ่าน 843353 ครั้ง)

yaoifan

  • บุคคลทั่วไป
 :z13:ไปแล้ว จะครบ ๓๐๐ แย้ว หุหุ

วันนี้วันเด็กขอให้คนรักเด็กทุกคนมีความสุขกันมากๆเด้อ

ศาลาวัด ยังไม่มาต่ออีก

คิดถึงธงรบ อาทิตย์

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ชักธงรักออกมาแล้วธงรบก็หายไป :laugh:
คุณคฑาวุธสบายดีไม๊ค่ะ หายไปนานเป็นห่วงแล้วนะ  :monkeysad:

kororo

  • บุคคลทั่วไป
คุณวุธครับ แฟนเก่าเขาทิ้งไปน่ะ ก็ปล่อยไปเหอะ เขาคงพบทางที่ (เขาคิด) ว่าดีกว่าแล้ว ปล่อยไปตามแรงกรรมของเขาเถอะครับ    :o12:

ส่วนฟิคเนี่ย ถ้าทำให้ตัวละครอกหักเหมือนคนแต่ง ระวังจะโดนตามไป "เหยียบ" อกเอานะ จะหาว่าไม่เตือน  :z6:

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4

TAMAKUNG

  • บุคคลทั่วไป
 :z2: :z2: :z2: :z2:



ม่ายต้องไปเยี่ยมครับ



ไปนอนเฝ้าเลยครับ




katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ผู้อ่านที่รักครับ ผมหยุดคริสต์มาสปีใหม่ยาวตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคมเลยครับ ตอนนี้กลับมาูสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว วันจันทร์มะรืนนี้ก็ต้องไปทำงาน  :เฮ้อ: เหมือนใจจะขาด
ต้องขอโทษที่ไม่ได้มาโพสเรื่องของธงรบกะอาทิตย์ต่อ มันฮอลิเิดย์อ่ะครับ นิยายตอนใหม่ก็เลยฮอลิเดย์ตามไปด้วย ก็ไปกินๆ นอนๆ อยู่ต่างจังหวัดสิบกว่าวัน ผอมไปเลยเนี่ย ยังหนักใจอยู่เลย  :z1:
ตอนนี้กำลังเร่งทำต้นฉบับนิยายเรื่องคดีรักส่งโรงพิมพ์ให้ได้ภายในอาทิตย์หน้า ก็เลยไม่ได้เขียนตอนใหม่ๆ ตั้งใจจะเข็นหนังสือให้พิมพ์ออกมาก่อนให้ได้ครับ ยังไงก็ฝากไว้ในอ้อมอก อ้อมใจ อ้อมแขน อ้อมขาของทุกท่านด้วยนะคร้าบ
และอีกอย่าง เขียนหนังสือไ่ม่ค่อยออกเลยครับ ตอนนี้กำลังชีช้ำหัวใจ ปีใหม่ก็เงียบเหงาเพราะเศร้ากับความรักที่หลุดหลอย เลยนอนเหงาหงอยไปซะเกือบสองสัปดาห์ เห็นใจผมเถอะนะ นิยายรักเขียนจบ รักของคนเขียนก็จบด้วย ทู๊กทีเลย  :เฮ้อ: เศร้านะนี่
เรื่องของธงรบกับอาทิตย์คือส่วนหนึ่งที่แทรกอยู่เป็นระยะๆ ในคดีรักภาคสองครับ ต่อไปพอส่งต้นฉบับโรงพิมพ์คดีรัก 1 เสร็จ ตรวจพรูฟ หรือรูปเล่มแล้วก็จะเริ่มมาโพสภาคที่สองครับ ถ้ายังไ่ม่เบื่ออ่าน
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรและกำลังใจนะครับ
ขอให้ทุกคนมีความสุขสมหวัง คิดอะไรก็ขอให้สมหวัง อยากได้อะไรก็ขอให้ซื้อเอานะครับ  :L1:  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-01-2009 16:49:44 โดย katawoot »

benxine

  • บุคคลทั่วไป

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
เปิดจองหนังสือเมื่อไรบอกนะค๊าบบบ
คงไม่ต้องถึงกับจองครับ จะขายออกหรือเปล่าไม่รู้  :z1:

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
 :z3: ทำมั้ยจะขายไม่ออก
เรื่องนี้สนุกมาก เปิดจองเมื่อไรแจ้งด้วยนะ o13

ออฟไลน์ SANDSEAME

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3
 :a1: เค้าเอาด้วยๆนะ เอาๆๆๆ อ้ะๆๆ ว่าแต่อย่ามาทำชวนคุยนะ เค้าจำได้นะว่ายังมะได้อัพอ้ะ รออยู่นะค้ะ  :z13:

kororo

  • บุคคลทั่วไป
จองหนังสือด้วยคน ถึงจะอ่านจบไปแล้ว แต่ก็ ... ยังอยากได้อ่ะ

ส่วนภาค 2 ก็คงได้แต่รอต่อไป

yaoifan

  • บุคคลทั่วไป
เปิดจองหนังสือเมื่อไรบอกนะค๊าบบบ
คงไม่ต้องถึงกับจองครับ จะขายออกหรือเปล่าไม่รู้  :z1:

นิยายดีดีน่าอ่านอย่างนี้ ขายออกอยู่แล้วล่ะ

ที่ขายไม่ออกน่ะ คนแต่งแหงๆ 5555 :z2:

aimaim

  • บุคคลทั่วไป
ขายออกอยู่แล้ว ก็กำลังรอซื้ออยู่เนี่ยไง ( อย่าแพงน้า :monkeysad: แพงเดี๋ยวเด็กไม่มีเงินซื้อ )
 

ออฟไลน์ FÂntastic 1st™

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
สู้ๆ คร้าบบบบบบบบบ

V

V

V                   :really2:

V

V

จอง ๆๆ ด้วย พี่วุธ อยากได้เก็บไว้

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
 :really2: มาให้กำลังใจนะครับ ปีใหม่นี้คุณวุธคงจะได้พบแต่สิ่งดีๆนะครับ รอสั่งจองหนังสือด้วยคนครับ

ออฟไลน์ sasi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :z2:
รอด้วยคนคับ
อย่าแพงนะ เดี๋ยวไม่มีตังซื้อ เห็นใจมนุษย์เงินเดือน(น้อยๆ) ด้วยเน้อ

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงคับ พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆในบอร์ดนี้รักษาสุขภาพ(หัวใจ) วยนะคับ อิ่ๆ

ไปล๊ะ ทำงานดีก่า :z10:

ืnuttykung

  • บุคคลทั่วไป
โถๆๆๆๆ


ใครไม่รักไม่สนไม่ตอ้งไปแคร์์น้าาาา


เพราะไงๆเราก็รัก..........












....ผู้กองธงรบ   :m20:

อ่ะแหมๆ  พี่นายเราก็รัก  แต่น้อยกว่าผู้กองธงรบนิดนึง  อิอิ

ออฟไลน์ saruwatari_guy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
นั่งอ่านตั้งแต่ 6 โมงเย็นวันเสาร์ ถึง ตี4ครึ่งเช้าวันอาทิตย์ ...จนป่านนี้เพิ่งอ่านเสร็จ

สนุกมากเลยฮะ >.<  o13

ปล. >.< เรื่องรวมเล่มสนใจด้วยเหมือนกันนะครับ

Zarch_Chabu_Chabu

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






katawoot

  • บุคคลทั่วไป
อรุณสวัสดิ์ครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านและกดคะแนนให้นะครับ ไม่นึกว่าจะถึง 300 ก็เลยมาโพสคดีรักภาคสอง แล้วครับ
ภาคนี้ไปช้าๆ แบบรถขายโอ่ง หรือแบบละครช่อง 7 นะครับ แบบว่าไม่มีสต๊อค ถ่ายละครไปก็ออกอากาศไป
ตอนนี้กำลังทำต้นฉบับคดีรักภาค 1 ส่งโรงพิมพ์วันพฤหัสบดีนี้ แล้วคงพิมพ์เสร็จภายในสิ้นเดือน ใครอยากซื้อเป็นของขวัญวาเลนไทน์ก็จะได้บุญมากมาย
ใครที่จะรออ่านฟรีก็ได้นะครับ แต่มีข้อแม้ว่าต้องแก้ผ้าอ่านด้วยกันบนเตียง  :m20:  :m20:  :pigha2:
ทั้งหมด 400 หน้าเต็มๆ ราคาขายก็ 250 แพงไปรึเปล่านี่ แต่ไปเดินๆ ดูตามร้านซีเอ็ดและิบีทูเอสแ้ล้วก็เห็นว่าราคาประมาณนี้
ซื้อ 1 เล่ม แถมลายเซ็น
ซื้อ 2 เล่ม แถมลายเซ็น 2 ลาย
ซื้อ 3 เล่ม แถมกายผู้เขียน
ซื้อ 4 เล่ม แถมหัวใจผู้เขียน
ซื้อ 5 เล่ม แถมทั้งกายทั้งใจ

1 -

อนุภาพวางปากกาลงบนโต๊ะ เอนตัวพิงเกาอี้นวมตัวใหญ่ สูดลมหายใจลึกๆแล้วปิดเปลือกตาลง กอดสมุดแนบอก มือลูบไล้กระดาษเนื้อดีที่เขาใช้บันทึกเรื่องราวประจำวัน บนหน้าแรกของสมุดเล่มนั้นลายมือสวยงามเป็นระเบียบเขียนว่า
...เราไม่สามารถย้อมเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้ เพราะอดีตผ่านมาแล้ว แต่เราทำปัจจุบนให้ดีได้ เพราะแท้ที่จริง ปัจจุบันก็คืออดีตของอนาคตนั่นเอง และเมื่อเราไปถึงอนาคนแล้ว ก็จะไม่ต้องมองย้อมกลับมาด้วยความเสียดายว่า...อดีตทำไมปวดร้าวเช่นนี้...
ทุกคืนที่เขานั่งเงียบอยู่ในห้องทำงาน หยิบสมุดขึ้นมาจดบันทึกเรื่องราวประจำวัน หากภาพในอดีตกลับผุดขึ้นมาในห้วงความคิดคำนึงทุกคราว...ชัดเจนจนดูราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อไม่กี่เดือน ทั้งที่เรื่องราวเหล่านี้...เรื่องราวทั้งสุขและทุกข์ได้เกิดขึ้นมากว่าสิบปีแล้ว
...สิบปีแห่งความรักที่เขาได้เลือก...
...สิบปีที่คนที่เขาเคยรักหลายคนได้จากไป และสิบปีที่ความรักเขาได้เพิ่มพูนขึ้นมาทดแทน...
...เขาเคยคิดว่าอยากจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีต แต่ทว่า...หลายปีที่ผ่านมา เขาไตร่ตรองแล้วว่า...จะเป็นการดีกว่าที่จะดำรงชีวิตอยู่กับปัจจุบัน...ปัจจุบันที่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของชีวิต...

อธิคมเดินเข้ามาในอาเบดีนซ์ ร้านอาหารหรูหราชั้นบนสุดของโรงแรมสูงริมแม่น้ำเจ้าพระยา กระจกใสเกือบรอบด้านเผยให้เห็นทิวทัศน์สวยงามของโค้งน้ำที่สะท้อนแสงสีทองของอาทิตย์อัสดง นายตำรวจหนุ่มหยุดยืนกวาดสายตามองหาอนุภาพแต่ไม่เห็น พนักงานเดินเข้ามาต้อนรับแล้วนำไปยังโต๊ะที่จองไว้แล้ว
อนุภาพยังเดินทางมาไม่ถึง อธิคมอยากจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรถามคนรัก แต่กลัวว่าจะถูกดุที่โทรไปเร่ง ชายหนุ่มจึงนั่งรอที่โต๊ะติดกับกระจกมองออกไปเห็นธรรมชาติสวยงาม มองสิ่งต่างๆ รอบตัวพร้อมปล่อยใจให้ลอยละล่อง
วันนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งปีที่เขาเป็นแฟนกับอนุภาพ แต่ก่อนที่จะตกลงกันได้ทั้งสองเถียงกันเล็กน้อยเรื่องความถูกต้องของ 'เวลา'

อนุภาพบอกว่าควรนับครบรอบหนึ่งปีตั้งแต่วันแรกที่พบกันแต่อธิคมแย้งว่า "ขอนับตั้งแต่วันที่คุณเสียตัวให้ผมดีกว่า...โอ๊ย"
นายตำรวจถูกชกเข้าที่ต้นแขนเพราะปากอดที่จะยั่วเย้าไม่ได้
"เราฉลองครบรอบหนึ่งปีของความรักของเรานะครับคุณนุ ผมจำได้ว่าคืนนั้นเป็นครั้งแรกที่คุณบอกรักผม...แล้วคุณก็ไม่ค่อยพูดอีกบ่อยๆ ผมเสียอีกพูดทุกวัน วันละหลายครั้ง"
"แสดงว่าก่อนหน้านั้นสารวัตรไม่ได้รักผมเหรอ"
"รักสิ รักมาตั้งนานก่อนที่จะได้เผด็จศึกคุณอีก...อ๊ะ อ๊ะ อย่านะ อย่าตีผมอีกนะ ไม่งั้นเดี๋ยวเจอดี" นายตำรวจหนุ่มพูดเสร็จแล้วรีบขยับตัวออกห่าง
"ก็พูดดีๆ สิ ผู้กองก็กวนผมอยู่เรื่อย"
"อยากรู้ไม๊ว่าผมเริ่มรักคุณนุตอนไหน" อธิคมทำตากรุ้มกริ่ม
"ตอนถอดเสื้อผ้าผมมั๊ง" ชายหนุ่มเมินหน้าหนีไปมองทางอื่น "อย่างผู้กอง ถ้าไม่ได้ขึ้นเตียงก็คงไม่รัก"
"โธ่ที่รัก อย่าดูถูกกันยังงี้สิครับ" สารวัตรหนุ่มโอดครวญ "ผมจำวันที่แน่นอนไม่ได้ แต่คิดว่าเป็นตอนที่...อืม..." อธิคมทำท่าคิด "ตอนที่เราไปยืนดูดาวตกด้วยกัน"
อนุภาพยิ้มบางๆ
"แล้วคุณนุล่ะ รักผมตอนไหน"
"ไม่บอก" อนุภาพอมยิ้ม อยากแกล้งให้อธิคมร้อนใจ "ถามอยู่ได้ตั้งหลายครั้ง ไม่เบื่อหรือยังไง"
"ก็คุณนุไม่ยอกบอกผมซักที"
"เอาไว้ให้ผู้กองทำตัวดีๆ แล้วผมจะบอก"
"ผมทำตัวดีมาตลอดคุณนุก็เห็น พยานก็มี ไปถามธงรบดูสิ”

"ผู้กองธงรบเป็นเพื่อนสนิทกับสารวัตร อาจจะเข้าข้างกัน แล้วอีกอย่าง ผู้กองธงรบก็ท่าทางน่าเชื่อถือนักนี่" อนุภาพเอียงหน้า
"โธ่ คุณนุ" อธิคมนึกว่าหากธงรบมาได้ยินอนุภาพก็คงสะดุ้ง "ปีกว่าๆ นี่คุณนุไม่เห็นบ้างเลยหรือว่าผมเป็นคนดีขนาดไหน" นายตำรวจหนุ่มอดีตคนเคยเจ้าชู้อ้อน
"อย่าเพิ่งดีแตกก็แล้วกัน" อนุภาพหันมามองหน้าคนตัวใหญ่ที่นั่งคลอเคลียอยู่ข้างๆ
"ไม่ครับ รับรองว่าไม่ดีแตก คุณนุเชื่อใจผมสิ" แววตาอธิคมมุ่งมั่น
"สัญญานะ" อนุภาพเสียงเข้ม
"สัญญาสิครับ ไม่รู้เหรอว่าผมรักคุณนุมากขนาดไหน หัวใจก็ควักเอาออกมาให้ได้เลยนะ"
อนุภาพกรอกตา ถอนหายใจ...อธิคมปากหวานได้แทบทุกวัน
"ขอให้จริงเถอะ ผมจะคอยดู ถ้าผิดสัญญาจะควักออกมากลับมือ เอามาสับให้ละเอียด"
"โหดร้าย"
"ก็อยากท้าเองนี่"

อธิคมอมยิ้มอยู่คนเดียวเมื่อคิดถึงตอนที่หยอกเย้ากับอนุภาพ ปีกว่าๆ ที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุขที่สุด ทั้งสองมีโอกาสได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่าเดิม แม้งานของทั้งคู่จะยุ่งแต่ก็ยังพยายามหาเวลาที่จะพบกับและทำตัวเป็นคู่รักที่เพื่อนๆ ต่างก็อิจฉา
พลับความคิดของอธิคมก็สะดุดเมื่อสายตามองไปเห็นชายหนุ่มร่างสูงเพรียว ผิดขาวสะอาด ผมตัดสั้นจัดแต่งทรงเนี๊ยบทันสมัย
“ศรุต”...ศรุตอีกแล้ว เจอกันสองครั้งภายในหนึ่งอาทิตย์
เจอโจทย์เก่า อธิคมรีบก้มหน้า กลัวศรุตเห็น เขาไม่อยากให้ศรุตเดินเข้ามาทักเหมือนครั้งที่แล้ว ระแวงไปหมดว่าจะทำให้อนุภาพหึงหวง หรืออาจเข้าใจผิดว่าเขายังไม่เลิกเจ้าชู้
โชคไม่เข้าข้างนายตำรวจหนุ่มเมื่อศรุตมองเห็นอธิคม ชายหนุ่มยิ้มแล้วลุกเดินเข้ามาหา
“สวัสดีครับสารวัตร เจอกันอีกแล้ว”
อธิคมเงยหน้าขึ้น ยิ้มแหยๆ “สวัสดีครับ ศรุต เอ่อ...มาทานข้าวเหรอครับ”
ศรุตพยักหน้าแล้วเติมว่า “คนเดียวครับ”
“ดีครับ จะได้ไม่มีใครแย่งทาน”
ศรุตนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้าม มองหน้าอธิคมนิ่ง “ไม่คิดว่าจะเจอพี่คมอีก โลกกลมจังเลยนะครับ”
“ครับ กลมจริงๆ เหมือนลูกบอล อยากเอาไปเตะเล่น” อธิคมยิ้มบางๆ ทั้งที่จริงอยากให้โลกเป็นสี่เหลี่ยม หรือหกเหลี่ยมด้วยซ้ำ จะได้จะแอบหลบอยู่ตามมุมต่างๆ
“พี่คมไม่เห็นรับโทรศัพท์ผมเลย ไม่โทรกลับด้วย ผมโทรไปตั้งหลายครั้ง”
อธิคมเลิกคิ้ว คิดหาคำตอบ
...อะไรกัน ครั้งที่แล้วที่เจอกันบอกไม่ให้โทรมา ศรุตก็ทำท่าเข้าใจ แต่ทำไมยังไม่ยอมเชื่อ... นายตำรวจหนุ่มกลัวอนุภาพจะรู้เรื่อง สงสัยว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของใคร เดี๋ยวก็งอนอีก แต่โชคดี อนุภาพไม่เคยแตะโทรศัพท์เขาเลย แทบทุกวันเขาต้องคอยลบเบอร์เรียกเข้าแปลกในเครื่องให้เหลือเฉพาะเบอร์โทรที่บันทึกเอาไว้ในความจำของสมุดโทรศัพท์มือถือ
“พอดีช่วงนี้ยุ่งครับ มีคดีหลายคดี ตอนนี้โจรขโมยมันชุมจริงๆ ทำงานไม่ได้หยุดหย่อน”
“แต่ก็ยังมีเวลามาดินเนอร์...แต่คงไม่มาทานคนเดียวเหมือนผมหรอกใช่ไม๊ครับ คนอย่างพี่คมคงไม่เคยอยู่คนเดียว” ศรุตพูดยิ้มๆ
“โธ่ คนเรามันก็ต้องมีเวลาทานข้าวบ้างสิครับ” อธิคมยิ้ม...ไม่รู้สึกตัวว่ารอยยิ้มอันมีเสน่ห์ของตนเป็นอาวุธประจำกายที่หลอมละลายใครต่อใครได้ไม่ยาก
ศรุตจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของนายตำรวจหนุ่ม อดเสียดายไม่ได้...เวลาของเขากับอธิคมสั้นเหลือเกิน...เวลาของอธิคมกับใครๆ ช่างสั้นเสมอ...เขารู้ดีถึงความจริงข้อนี้ แต่เขาก็ไม่ยอมที่จะหยุดนึกฝันว่า สักวันหนึ่ง เขาอยากจะได้เวลาของอธิคมที่ยาวนานมากกว่าเดิม มากกว่าใครๆ แม้กระทั่งคนที่อธิคมแนะนำว่าเป็นแฟน...
...แฟนหรือ...อธิคมจงใจพูดหรือเปล่า...คนอย่างสารวัตรอธิคมนั่นหรือจะมีแฟน...หรือถ้าบอกว่าเป็นแฟน ก็คงเป็นคนใหม่ที่เขาเพิ่งคบ...เวลาที่ให้กับแฟนคนนี้จะยาวนานแค่ไหน...หนึ่งเดือน...หรือเกือบสองเดือนเหมือนเขา...
“มีเวลาทานข้าว แต่ไม่มีเวลาโทรหาคนเคยรู้จักกัน หรือว่าที่พี่คมไม่รับเพราะกลัวผมจะโทรไปตื๊อ” ศรุตยังพูดหน้ายิ้มๆ เหมือนล้อเล่น...เขารู้ว่าอธิคมชอบคนอารมณ์ดี ไม่ชอบให้แสดงท่าทางฉุนเฉียว...แต่ครั้งที่แล้วที่เขาเห็นคนที่อธิคมยอมรับว่าเป็น ‘แฟน’...ผู้ชายคนนั้นใบหน้านิ่งเรียบ เยือกเย็น...
...สารวัตรอธิคมเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ได้พบกันสองปี คนๆ เดิมจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวหรือ...ไม่มีทาง
...คนเจ้าชู้ ยังไงก็เป็นคนเจ้าชู้...ไม่มีทางเปลี่ยนไปได้หรอก...อาจจะเปลี่ยนรสนิยมชั่วครั้งชั่วคราว แต่ท้ายสุด ก็ต้องกลับมาทำในสิ่งที่เขาชอบ...สิ่งที่ฝังอยู่ในตัวเขามานานจนกลายเป็นตัวตนของเขาไปแล้ว...
“เปล่าไม่ได้คิดอย่างนั้น เพียงแต่พี่กลัวว่า...”
“แฟนจะเข้าใจผิด” ศรุตแทรก “ไหนบอกว่าไม่ค่อยขี้หึงไงครับ”
ศรุตยังจำได้อีก “งั้นก็เหอะ ประวัติพี่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่อยากให้เขาคิดมาก”
“แสดงว่าพี่คมเปลี่ยนแปลงตัวเอง” ศรุตไม่อยากจะเชื่อ คนอย่างอธิคมจะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ เจ้าเล่ห์สิไม่ว่า...
ศรุตคิดว่าอธิคมพยายามลื่นไหลไปตามเรื่อง ชายหนุ่มเห็นว่าเป็นการท้าทาย...อดคิดไม่ได้...ลองจับปลาไหลดูสักครั้ง...ดูสิว่าจะเกินความสามารถของเขาหรือเปล่า...ในตลาดหุ้นเขาก็ถือว่าเขี้ยวคนหนึ่งเหมือนกัน เรื่องอะไรก็ทำได้ ประสบความสำเร็จมาแล้วทั้งนั้น...ผู้ชายคนเดียว...จะเกินความสามารถเชียวหรือ...
“ผมอิจฉาแฟนใหม่พี่คมจังเลย เขามีอะไรดีถึงทำให้พี่คมคิดจะเลิกเจ้าชู้”
“ไม่ได้คิด เลิกแล้วจริงๆ”
“พี่คมก็นี่กระไร คบผมแค่เดือนกว่าๆ ไม่น่ารีบทิ้งผมเลย ผมมีอะไรไม่ดีตรงไหนหรือครับ”
อธิคมนึก...ศรุตมีอะไรไม่ดีตรงไหน เขาหาข้อบกพร่องไม่เจอ จะว่าไปคนที่เขาเคยคบมาก็ไม่มีใครมีข้อบกพร่องอะไรจนทนไม่ได้ เพียงแต่ว่าทุกคนขาดอะไรสักอย่างที่เขาบอกไม่ถูก...อะไรคล้ายๆ แม่เหล็กที่ดึงดูดเขาให้เข้าหาเหมือนที่เขารู้สึกกับอนุภาพ
“โธ่ อย่าพูดยังงั้นสิครับ พี่ไม่ได้ทิ้ง เพียงแต่ว่า...”
“เพียงแต่ว่าเบื่อแล้ว เลยไปหาคนใหม่”
...เอ๊ะ ยังไงกัน...ศรุตนี่ขยันแทรกจริงๆ พูดยังไม่ทันจะจบความ...
“อย่าคิดยังงั้นสิ คิดแต่เพียงว่า เราได้ใช้เวลาดีๆ อยู่ด้วยกันตั้งเดือน แล้วหลังจากนั้นก็ถึงเวลาเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ” นายตำรวจหนุ่มส่งยิ้ม
“ผู้ชายเจ้าชู้ก็พูดยังงี้กันทุกคน” ศรุตยิ้ม ไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหน
“บอกแล้วไง พี่เลิกเจ้าชู้แล้ว”
“พี่คมมาคนเดียวหรือครับ” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง
“เปล่ามาคนเดียวครับ กำลังรอ...คุณนุ” ท้ายประโยคสายตามองไปเห็นอนุภาพกำลังเดินเข้ามา อธิคมพึมพำชื่อของคนรักเบาๆ
ศรุนหันตาม...ชายหนุ่มหน้าตาดี ผิวขาวสะอาดสะอ้าน ท่าทางนิ่งๆ เดินตัวตรงเหมือนหุ่น สวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลอ่อน ทับด้วบสูทลำลองสีตำ กางเกงสีกากี
...แฟนของอธิคม...คนที่เขาเห็นในร้านอาหารบลูเอเลเฟ่นเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว...
“กำลังรอแฟนนี่เอง งั้นผมขอตัวไปก่อนนะครับ เดี๋ยวแฟนหึง” ศรุตยิ้ม แล้วลุกขึ้น
“ไม่ต้องรีบก็ได้ครับ รอทักทายเขาก่อนก็ได้ คุณนุไม่หึงขนาดจนพี่คุยกับใครไม่ได้ขนาดนั้นหรอก” อธิคมกัดฟัน...ใครว่า...อนุภาพขี้หึงจะตาย...หึงเงียบ...ไม่แสดงอาการ...แต่สายตาพิฆาตคู่นั้นสิ...เอาเรื่อง
“จริงหรือครับ แต่ผมมองออกนะว่าเขาหึงสารวัตรมาก ไม่รอทักหรอกครับ ผมไปก่อน พี่คมจะได้สบายใจ ยินดีที่ได้เจออีกนะครับ” ศรุตมองออก...อธิคมที่เคยลื่นไหล เมื่อเห็นชายหนุ่มที่เคยบอกเขาว่าเป็นแฟน นายตำรวจหนุ่มดูยุกยิกชอบกล...
ศรุตชักเริ่มสนุก...

อนุภาพเดินเข้ามาใกล้จะถึงแล้ว ทันมองเห็นว่ามีชายหนุ่มหน้าตาดีลุกขึ้นจากโต๊ะที่อธิคมนั่งอยู่ กระถางต้นไม้บังนายตำรวจหนุ่มทำให้เขามองไม่เห็นว่าอนุภาพมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
ชายหนุ่มหยุดยืนชั่วครู่ ก่อนเดินเข้ามาใกล้...ให้อธิคมมีเวลาหายใจสักนิด...
“สารวัตรมารอนานแล้วหรือครับ ขอโทษนะ ผมมาช้า”
“รอไม่นานหรอกครับ ผมก็เพ่งมาถึง นั่งไม่ทันก้นร้อน” ที่จริงร้อนตัวต่างหาก
“จริงเหรอครับ นึกว่าจะรอจนเบื่อ” อนุภาพยิ้ม “เอแต่ว่าผู้กองคงไม่เบื่อหรอกใช่ไม๊ครับ เห็นมีคนคุยด้วยแก้เบื่อทุกทีเวลาไปร้านอาหาร”
...อนุภาพอดกระทบกระเทียบไม่ได้...ชายหนุ่มที่เพิ่งลุกไปเมื่อครู่น่าจะเป็น ‘อดีต’ คนใดคนหนึ่งของอธิคม...ต้นอาทิตย์ที่แล้วก็นิตินัย กลางอาทิตย์ก็จักรินทร์ ปลายอาทิตย์ก็ศรุตที่ทำงานตลาดหุ้น อาทิตย์นี้ก็อีกคน...เด็กเก่าๆ ของอธิคมทำไมเยอะแยะ เด็นไปเดินมากันอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ไปไหนก็เจอ...
“เขาเข้ามาทักผมเอง อุตส่าห์นั่งก้มหน้าแล้ว”
“ใครครับ เมื่อกี้ผู้กองไม่ได้นั่งอยู่คนเดียวเหรอ” อนุภาพทำท่าทางแปลกใจ ไม่รู้ไม่เห็นอะไร
“ก็คุณนุบอกว่าผมมีคนคุยแก้เบื่อ ก็นึกว่าจะอยากรู้”
“เปล่า ผมพูดไปยังงั้น สรุปแล้วเมื่อกี้ผู้กองนั่งอยู่กับใครเหรอครับ”
“อย่ามาทำไก๋ เห็นก็บอกมาเถอะ แล้วกำลังงอนใช่ไหมล่ะ ผมรู้หรอก คุณนุเรียกผมว่าผู้กองตั้งหลายครั้ง” อธิคมทำหน้ารู้ทัน...จำได้ไม่เคยลืม...เวลาอนุภาพไม่พอใจมักจะเรียกเขาว่าผู้กอง แทนที่จะเรียกว่าสารวัตร
“ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ ทำไงได้ คนรูปหล่อร้ายกาจเสน่ห์แรงก็ต้องมีคนเข้ามาหาเป็นธรรมดา”
“ผมก็ว่างั้น” อธิคมเออออ “สรุปแล้ว คุณนุก็อย่าคิดมากนะครับ”
นายตำรวจหนุ่มโน้มตัวเข้ามาใกล้ ทำตาหวานซึ้ง “ผมมีคุณนุคนเดียว ไม่เคยคิดที่จะเหลียวมองใครเลย แต่ผมห้ามคนอื่นๆ ไม่ให้เหลียวมามองผมไม่ได้นะ”
“ผู้กองสั่งอาหารหรือยังครับ” อนุภาพเปลี่ยนเรื่อง
“ทำไมยังเรียกผู้กองอีก ยังงอนอยู่อีกเหรอ”
“เปล่า” อนุภาพถอนหายใจที่คนขี้อ้อนยังไม่ยอมหยุด “เพียงแต่มันถนัดกว่าที่จะเรียกสารวัตร”
“จริงนะ...เดี๋ยวผมจะรีบทำผลงานให้ได้เลื่อนยศหนีจากการเป็นสารวัตรเร็วๆ จะได้เรียกผมว่าผู้กำกับ”
“ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ยาวสามพยางค์ยิ่งกว่าสารวัตร”
“ถ้างั้นจะไปขอให้เขาลดยศมาเป็นร้อยตำรวจโท จะได้เรียกสั้นๆ ว่า หมวด”
อนุภาพอดยิ้มไม่ได้ คุยกับอธิคมไม่เคยจะจบสิ้นเสียที บางทีก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคุยเรื่องไม่เป็นเรื่องกับเขาได้เป็นนานสอนนาน
“สารวัตรอธิคมครับ ผมหิวข้าวแล้ว เราสั่งอาหารกันเถอะ คุณยังไม่ได้สั่งใช่ไม๊”
“เรียกที่รักบ้างสิ” อธิคมไม่สนใจ
“ที่จริงมาก่อน น่าจะสั่งรอเอาไว้ ผมมาถึงจะได้ทานเร็ว”
“น่านะ คุณนุ เรียกผมว่าที่รักให้ได้ยินซักครั้งเถอะ” นายตำรวจหนุ่มยังเซ้าซี้
“งั้นผู้กองให้ผมสั่งนะ” อนุภาพหันไปโบกมือให้บริกร
“โธ่ คุณนุ” อธิคมเอนตัวพิงเก้าอี้งอนๆ ทำหน้ามุ่ย
“ผู้กองไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ อายุปูนนี้แล้ว มาทำงอนเป็นเด็กๆ”
“เดี๋ยวคืนนี้ไม่ให้นอนด้วย” อธิคมยังไม่ยอมหยุด
บริกรเดินเข้ามาที่โต๊ะ การสนทนาต้องพักไว้ก่อน อนุภาพสั่งอาหารแต่ละอย่างพร้อมหันหน้าไปยังอธิคม อีกฝ่ายเอาแต่พยักหน้าเห็นด้วย
บริกรเดินจากไป อนุภาพหันหน้ามองไปรอบๆ พบว่าชายหนุ่มที่ลุกจากโต๊ะอธิคมนั่งอยู่ไม่ไกล กำลังทานอาหารคนเดียว หน้าตาคุ้นเหมือนเคยเห็นที่ไหนซักแห่ง...
“ถ้าไม่ให้นอนด้วย ผมก็จะไปนอนกับคนอื่นก็ได้” อนุภาพพูดลอยๆ ยังมองสิ่งต่างๆ รอบตัว
“ลองดูสิ ผมจะตามไปกระชากออกมา แล้วฆ่าผู้ชายคนนั้นซะ” อธิคมโน้มตัวเข้ามาใกล้ ทำเสียงจริงจัง
“ก็ผู้กองไม่ให้ผมนอนด้วยนี่นา ผมก็ต้องไปหาความอบอุ่นที่อื่น” อนุภาพล้อเล่นด้วย
อธิคมยิ้มกว้าง รู้ว่าชายหนุ่มกำลังยั่วเย้าเขา “ถ้างั้นคืนนี้ผมจะให้ความอบอุ่นเต็มที่” อธิคมเอื้อมมือมาจับมือชายหนุ่ม อนุภาพพยามดึงมือหนี กลัวคนเห็น
“คุณนุ อย่าสิ”
“ผู้กองไม่เอานะ ประเจิดประเจ้อ อายเค้า”
“คุณนุครับ คืนนี้นอนที่บ้านผมนะ ฉลองครบรอบหนึ่งปีของเรา คุณนุไปค้างบ้านผมซักครั้งเถอะ ผมไม่อยากนอนคนเดียว” อธิคมทำตาซึ้ง เสียงจริงจัง
“ทำยังกับว่าไม่เคยนอนด้วยกัน”
“เคย แต่ว่าคุณนุไม่ยอมไปนอนที่บ้านผมซักที”
“แสดงว่าสารวัตรไม่ชอบนอนที่บ้านผม”
“ไม่ใช้อย่างนั้น ชอบสิครับ ชอบจะตาย อยากจะนอนทุกคืน แต่ผมอยากให้คุณนุไปนอนบ้านผมบ้าง หรือไม่ก็เราก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันเลย”
อนุภาพมองตาอธิคมนิ่ง พยายามค้นหาว่าเขาต้องการอย่างนั้นจริงหรือเปล่า...สายตาของอธิคมแน่วแน่...ไม่มีแววล้อเล่น
ชายหนุ่มอึกอัก ยังไม่มั่นใจว่าจะให้ความสัมพันธ์ไปไกลถึงขนาดนั้น อนุภาพก้มหน้า ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
“ผมรู้ มันตอบยาก แต่ผมอยากให้เราอยู่ด้วยกันจริงๆ นะครับ เหมือนคนที่แต่งงานกัน แล้วใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน” อธิคมละมือออกจากมือของอนุภาพ ล้วงเข้าไปในเสื้อสูท
อนุภาพกลั้นหายใจ...สารวัตรอธิคมจะทำอะไร...
อธิคมล้วงกล่องกำมะหยี่เล็กๆ สีน้ำตาลออกมา...มองอนุภาพด้วยแววตาเปี่ยมรัก ชายหนุ่มยังก้มหน้าอยู่อย่างเคย...
“คุณนุ เข้าโหมดนิ่งเงียบอีกแล้ว” อธิคมล้อ “จะให้ผมเชยคางขึ้นมาไม๊ครับ”
“บ้า” อนุภาพอุบอิบ เงยหน้าขึ้นมาสบตาอธิคมที่ทำตากรุ้มกริ่มมองอยู่
“สารวัตรจะทำอะไร อายคนเขาบ้าง”
“งอหมั้นไว้ก่อนนะ” อธิคมดันกล่องนั้นมาข้างหน้า
อนุภาพรีบคว้าเอาไว้ กลัวว่าสารวัตรมือปราบจะทำอะไรไม่อายประชาชนรอบข้าง สวมแหวนใส่นิ้วเขาอย่างที่เขากลัว
“เปิดดูซะหน่อยสิครับ”
“ผู้กอง อายคนเขาบ้างนะ ถ้าไม่อาย ผมอาย” อนุภาพหันไปมองรอบข้าง แม้เห็นว่าไม่มีใครสนใจแต่ก็อดรู้สึกประดักประเดิดไม่ได้
“อายทำไม คนเขารักกัน ใครมายุ่ง ผมจะจับเข้าคุกให้หมดเลย” อธิคมยักไหล่
อนุภาพเปิดกล่องกำมะหยี่ช้าๆ แหวนวงเล็กส่องประกายระยิบระยับต้องแสงไฟ ชายหนุ่มเงยหน้ามองผู้มอบให้
“ของจริงหรือเปล่าครับ” ถามเสียงเรียบ
“โธ่ คุณนุ ทำเสียบรรยากาศหมดเลย” อธิคมขมวดคิ้ว ส่ายหน้า...อยากกระโดดเข้าขย้ำคนช่างแกล้งที่ทำหน้านิ่งอยู่ตรงหน้า
“ก็ไม่เห็นต้องซื้ออะไรแพงขนาดนี้”
“คุณนุครับ ไม่รู้เหรอว่าผมรักคุณขนาดไหน ผมอยากให้สิ่งที่ดีที่สุด ให้รู้ว่าคุณมีค่าต่อผมมาก ก็เลยให้เพชรเป็นตัวแทน” อธิคมเสียงจริงจัง “พอแหวนแต่งงาน จะให้เม็ดใหญ่กว่านี้”
อนุภาพก้มลงมองแหวนนิ่งอยู่ชั่วครู่ แล้วเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยว่า “สารวัตรรู้ไม๊ครับว่าผมอยากได้อะไรมากที่สุด”
“รู้สิ หัวใจของผมไง” อธิคมตอบทันที “ให้ไปแล้วทั้งใจ จะเอาชีวิตด้วยก็ให้ได้”
“พูดเล่นอีกแล้ว” อนุภาพยิ้ม มองตาอีกฝ่ายนิ่งอยู่ชั่วครู่จึงพูดขึ้นว่า “ขอบคุณสารวัตรมากนะครับที่ทำให้ผมถึงขนาดนี้ ผมรู้ว่าสารวัตรทำให้ผมมากเหลือเกิน แต่อยากให้รู้ไว้ว่า สิ่งที่ผมต้องการมากที่สุดคือความรักที่จริงจัง มั่นคง มันเป็นสิ่งเดียวที่ผมต้องการ ผมคงทนไม่ได้หากความรักที่ได้ต้องถูกแบ่งให้คนอื่น เพราะเมื่อผมติดสินใจรักกับสารวัตรแล้ว ก็หมายความว่าผมมั่นใจแล้ว”
อนุภาพพูดยาว...ซึ่งไม่บ่อยที่อธิคมจะได้ยินชายหนุ่มพูดยาวขนาดนี้
“ผมรักคุณนุคนเดียว หัวใจของผมเป็นของคุณนุคนเดียว”
“กายด้วย ไม่ใช่หัวใจอย่างเดียว” อนุภาพเสียงเข้ม
“ครับผม ท่านผู้กำกับ” อธิคมทำตาเจ้าชู้ “เพื่อเป็นการยืนยัน คืนนี้ขอพลีกายให้คุณนุทั้งคืน...ที่บ้านผมนะ...นะครับ”
“เมื่อไหร่อาหารจะมาซะที” อนุภาพหันไปมองบริกร ทิ้งให้อีกฝ่ายพ่นลมหายใจอย่างขัดใจ
“ทุกทีเลยคุณนุ”

เดี๋ยะมีต่อ...


katawoot

  • บุคคลทั่วไป
เช้าวันอาทิตย์ หากอธิคมไม่ต้องเข้าเวรก็มักจะชวนอนุภาพไปหากิจกรรมทำด้วยกัน เช้าวันนี้นายตำรวจมือปราบบอกว่าน่าจะทำอะไรที่ตื่นเต้นและแปลกไปกว่าทุกครั้ง จึงชวนคนรักไปฝึกยิงปืน
“จะได้เอาไว้ป้องกันตัว เวลาผมคอยอยู่ปกป้องไม่ได้” อธิคมให้เหตุผล
“สารวัตร พูดอะไม่ดี” อนุภาพดุเสียงเข้ม
“ไม่ดีตรงไหน” อธิคมเลิกคิ้ว ทำหน้าตาสงสัย
“ก็บอกว่าคอยอยู่ปกป้องไม่ได้ พูดเหมือนจะไปไหน มันเป็นลางไม่ดี เขาไม่ให้พูด”
อธิคมยิ้ม “โธ่ เป็นเด็กนอกแล้วยังจะงมงายอีก ผมหมายฟามว่า เวลาผมไปราชาการ ไปทำงาน หรือไม่ได้ไปไหนด้วยกัน ทั้งที่อยากจะไปไหนแบบตัวติดกันตลอดเวลา อย่าคิดมากสิครับคนดี” นายตำรวจหนุ่มพูดแล้วขยับตัวออกห่างเพราะอีกฝ่ายยกมือขึ้นทำท่าจะเอาเรื่อง
“พูดดีๆ นะ” อนุภาพชี้หน้า
“นี่หมายความว่า คุณนุรักและห่วงผมมากถึงมาที่สุดใช่ไม๊ น่า นะ ฝึกเอาไว้ เผื่อใครมารังแก” อนุภาพหัวเราะสนุกสนาน
“ก็ไม่พูดให้ชัดตั้งแต่แรก” อนุภาพส่ายหน้า
“แล้วจริงไหมล่ะ” อธิคมชนไหล่อนุภาพ
“อะไรจริง”
“ก็ที่ว่ารักและห่วงผมมากนะสิ” นายตำรวจทำตาหวานเยิ้ม “ใช่ไม๊ ใช่ไม๊ ใช่ไม๊”
“ผู้กอง” อนุภาพปรามเสียงเข้มเพราะโดนอธิคมกระแทกไหล่จนเซ “ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากบอกว่า เวลาจะพูดอะไรก็พูดให้ชัดๆ
“ถ้าพูดชัดเราจะได้เถียงกันเหรอ” อธิคมยักคิ้ว “ผมไม่จากคุณนุไปไหนหรอก อะไรก็มาพรากเราไม่ได้ จะอยู่กับคุณนุจน...”
“สารวัตร”
เสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆ ขัดจังหวะการหยอกล้อกัน อธิคมหันขวับทันที เห็นชายหนุ่มหน้าตาดี ผิวขาวสะอาดยืนอยู่ไม่ไกล ยิ้มกว้าง ฟันขาวสะอาด รูปร่างสูงโปร่งอยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ซีด สวมหมวกสีกรมท่ามีคำว่า NY ปักอยู่ด้านหน้าของหมวก
“ใครน๊อ” อธิคมพึมพำเบาๆ กับตัวเอง หนุ่มหน้าเด็ก ผิวขาวตาตี่แบบนี้ สเป็คของธงรบ
...เอเป็นเด็กธงรบ หรือว่าเด็กเขากันแน่...นึกชื่อเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก หรือไม่ก็เด็กของทั้งสองคน บ่อยครั้งเขากับธงรบก็มีเด็กคนเดียวกัน เขาเบื่อแล้วยกให้ธงรบ ไม่ก็ธงรบเบื่อแล้วยกให้เขา
อธิคมยิ้มแหยๆ หันมามองอนุภาพที่ยืนทำหน้าเคร่งอยู่ข้างๆ
แฟนของคนที่เลิกเจ้าชู้ถอนหายใจ แล้วพูดขึ้นเบาๆ ว่า “ดีใจจัง ไม่คิดว่าจะเจอสารวัตร”
“โธ่ คุณนุ” อธิคมหน้ามุ่ยที่อนุภาพทำเสียงล้อเลียน
“ไม่นึกว่าจะเจอสารวัตรที่นี่” ชายหนุ่มคนนั้นเดินเข้ามาประชิดตัว ยื่นหน้าเข้ามาทักทาย “สวัสดีครับผม”
เห็นใกล้ๆ อนุภาพอยากจะเรียกว่า “เด็กหนุ่ม” มากกว่า เพราะคนที่เข้ามาทักนั้นหน้าเด็กมาก เขาเองก็หน้าอ่อนกว่าอายุ แต่ผู้ชายคนนี้หน้าอ่อนมากจริงๆ ดูเหมือนจะเรียนมหาวิทยาลัยปีแรกๆ ด้วยซ้ำ
...หากเด็กคนนี้เป็น “อดีตคนเก่า” ของอธิคม นั่นก็ควรจะเป็นเมื่อสองปีที่แล้ว และหากตอนนี้กำลังเรียนมหาวิทยาลัยปีสอง ก็หมายความว่าอธิคมมีอะไรกับเด็กคนนี้ตอนเรียนปีสุดท้ายของมัธยมปลาย หรือเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ๆ
คิดแล้วอยากจะเอาศอกกระแทกสีข้างของคนที่เคยเจ้าชู้จริงๆ...
“สารวัตรมายิงปืนที่นี่หรือครับ ผมมาหลายครั้งไม่เคยเห็นเจอ”
“เอ่อ ปรกติยิงที่สโมสรตำรวจครับ วันนี้ข้ามเขต” อธิคมตอบ...ข้ามเขตวันแรกก็ได้เรื่อง...
“ผมมาทุกวันอาทิตย์” เด็กหนุ่มยิ้มกว้างสดใส
...ดีแล้ว...จะได้ไม่ข้ามเขตอีก...อธิคมคิดแล้วตอบว่า “พาคุณนุมาฝึก”
“สารวัตรชอบพาเพื่อนข้ามเขตครับ” อนุภาพยิ้มบางๆ แล้วหันไปมองคนที่ชอบพาคนอื่นข้ามเขตไปเจอดี “ผมไปรอที่โน่นนะครับผู้กอง”
อธิคมมองตาม รีบจบการทักทายกับเด็กหนุ่มหน้าใสแล้วเดินตามอนุภาพมายังเคาท์เตอร์ลงทะเบียน แล้วพาชายหนุ่มเข้าไปยังช่องยิง ตรวจสอบความพร้อมของปืนแล้ว Colt ให้อนุภาพ
แฟนตำรวจรับปืนมาถือไว้ในมือ พลิกปืนไปมาเงียบๆ จนอธิคมทนไม่ไหวเพราะอีกฝ่ายนิ่งเสียจนผิดปรกติ
อธิคมเอียงคอ กางมือออกแล้วยื่นมือไปโบกหน้าอนุภาพเพื่อเรียกร้องความสนใจ
“ไปหลอกเด็กตั้งแต่เมื่อไหร่ บรรลุนิติภะวะหรือยังไม่รู้” อนุภาพสัพยอก
“โธ่ คุณนุ เขาคงเรียนมหาวิทยาลัยแล้วล่ะ” อธิคมแก้ตัว
“ปีหนึ่งล่ะสิ แสดงว่าตอนนั้นที่ผู้กองมีอะไรกับเขา เด็กคนนั้นก็คงอยู่มอห้าใช่ไม๊” อนุภาพลดอายุเด็กคนนั้นลงอีกหนึ่งปี
“ไม่รู๊ อายุเท่าไหร่ผมไม่รู้หรอก ชื่อยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ” อธิคมส่ายหน้า
“แสดงว่านานมากจนจำไม่ได้” ฝ่ายคาดคั้นสรุปเอง
นายตำรวจหนุ่มพยักหน้า แต่พลันนึกอะไรได้บางอย่างจึงรีบส่ายหน้าปฏษิเสธ “เฮ้ย ไม่ใช่อย่างนั้น คือ...คือ” อธิคมอ้ำอึ้ง จะพูดอะไรไปก็เข้าเนื้อตัวเองทั้งนั้น ครั้นจะบอกว่าผ่านไปนามมากแล้วก็เป็นว่าเขาไปหลอกเด็ก แต่ครั้นจะบอกว่าไม่ได้จำก็เป็นว่ามีเยอะจนจำไม่ไหว
อนุภาพยกปืนในมือขึ้นเล็งเป้า ท่าทางทะมัดทะแมงจนนายตำรวจมือปราบชมว่าไม่เหมือนการยิงครั้งแรก อนุภาพจึงบอกว่าได้ครูดี
“ผมยังไม่เคยสอนอะไรเลย” อธิคมแย้ง แล้วขยิบตา “สอนแต่เรื่องนั้น”
“ผู้กองธงรบเคยพาไปยิงที่สนามบางบัวทองสองสามครั้ง” อนุภาพพูดเสียงเรียบ
“อะไรนะ ไอ้เสาธงมาพาคุณนุไปหรือ” อธิคมโวยลั่น ถลึงตา วางที่ครอบหูเก็บเสียงที่อยู่ในมือกระแทกลงบนโต๊ะ แต่พลันก็นึกได้ว่าอนุภาพอาจแกล้งพูดให้เขาหึงก็ได้ “อย่ามาล้อเล่นนะคุณนุ”
“ก็ไปถามผู้กองธงดูสิครับ” อนุภาพแกล้งต่อ
...ผู้กองธง...เขาเคยเรียกผู้กองธงรบแบบนี้ที่ไหนกัน..
“ไอ้ธง” อธิคมพึมพำ “ไม่เชื่อหรอก”
“ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ” อนุภาพลดปืนลง หันมาหาอธิคม “แล้วผมควรเชื่อที่สารวัตรจำเด็กคนนั้นไม่ได้หรือเปล่าล่ะ”
“ควร” อธิคมตอบสั้นๆ ขยับตัวเล็กน้อยเมื่ออนุภาพหันมาเต็มตัว ในมือยังถือปืนอยู่
“คุณนุ โกรธเหรือเปล่านี่ อย่าหันปืนมาทางนี้นะ วางปืนไว้ก่อนดีกว่านะครับ กฏของการฝึกยิงปืนมีอยู่ประการหนึ่งว่า...”
“ทำไมเขาเรียกผู้กองว่าสารวัตร” อนุภาพถามแทรกทันใด “รู้ได้ยังไงว่าผู้กองเลื่อนยศแล้ว แสดงว่าหลังจากผู้กองเลื่อนยศแล้ว ผู้กองยังติดต่อเขาอยู่อีกใช่หรือไม่”
“โอ้โห เรียกผู้กองเป็นชุดๆ เลยแฮะ” อธิคมกลืนน้ำลาย “คุณนุยังเรียกผมว่าผู้กองเลย ทั้งที่เลื่อนยศแล้วตั้งนาน” อธิคมตอบอ้อมแอ้ม
“อย่ามาทำไก๋” อนุภาพกระพริบตาช้าๆ แล้วเมินไปมองด้านข้าง “แสดงว่าหลังจากเป็นสารวัตรแล้ว ผู้กองยังติดต่อเขาอยู่อีกใช่หรือเปล่า ไม่งั้นเขาต้องเรียกว่าผู้กองสิ”
“อย่าคิดเองสรุปเองสิครับ ผมก็ไม่รู้ว่าเขาไปรู้มาจากไหน” อธิคมขมวดคิ้ว “เอาที่ครอบหูกันเสียงปิดหูก่อนสิครับ”
“รู้แล้ว” อนุภาพหยิบที่ครอบหูขึ้นมาครอบ อธิคมยกนิ้วขึ้นอุดหู รอจนแฟนตัวเอง ยกปืนขึ้นเล็งเป้า เหนี่ยวไก แล้วจึงลดมือลง เอื้อมมือไปขยับที่ครอบหูของอนุภาพออก
“โอ้โห แม่นแฮะ” อธิคมอุทาน ไม่นึกว่าแฟนหนุ่มจะยิงปืนได้แม่นขนาดนี้
อนุภาพหันมามองสารวัตรหนุ่มที่ยืนมองจอภาพ อธิคมยิ้มให้ ทำตาเชื่อม
“ที่นี่เขามีเป้าเคลื่อนที่ให้ยิงหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มถาม
“โธ่ คุณนุ เชื่อกันบ้างสิ ผมเจอกับเขาล่าสุดตอนโน่นแน่ะ”
อนุภาพเลิกคิ้ว “ตอนโน่น?”
“ตอนเอ่อ ตอนที่ ธงรบไปราชการที่...” อธิคมขมวดคิ้ว พยายามนึก “ที่เวียดนาม”
ตอบเสร็จ อธิคมถอนหายใจ ตอนนี้เขานึกหน้าของเด็กหนุ่มออกแล้วว่าคบกันช่วงอาทิตย์กว่าตอนที่ธงรบเรียกเขาให้ไปรับตัวผู้ต้องหาหน้าอ่อนที่ผับแห่งหนึ่งเพราะต้องรีบกลับบ้าน เช้ามืดธงรบต้องรรีบไปสนามบิน เมื่อไปถึงเขาเห็นหนุ่มน้อยนั่งคอพับคออ่อนอยู่บนรถของธงรบ แล้วเพื่อนเขาก็บอกว่า “เอ๊า เอาไป แกรับต่อ น้องเขาเมา ทะนุถนอมเด็กมันหน่อยนะ เพิ่งฉลองสอบเข้ามหา’ลัย”
...บางทีตอนพูดความจริงนี่มันก็ดูยากลำบากเหมือนกันวู้ย...แล้วนี่ท่าทางเราอึกอักหรือเปล่าวะนี่...
อธิคมนึกในว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงๆ แม้จะนึกหน้าออกแล้วแต่ชื่อก็จำไม่ได้อยู่ดี แต่เวลาถูกอนุภาพจ้องเขม็ง อธิคมรู้สึกอ้ำอึ้งบอกไม่ถูก ยิ่งทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคนเคยเจ้าชู้ทำท่าทางพิรุธ
“อ้อ ผู้กองธงรบไปราชการที่เวียดนาม ตำรวจไทยยุ่งอะไรกับเวียดนาม” อนุภาพพยักหน้าช้าๆ ทำทีรับรู้ “งั้นก็ก่อนเรารู้จักกัน แสดงว่าเกินสองปี ตอนนั้นเด็กคนนี้ก็คงเรียนมัธยมปลาย สารวัตรไปหลอกเด็ก ยังไม่บรรลุนิติภาวะก็ไม่เว้น ตอนนั้นตัวเองก็สามสิบกว่าปีแล้ว ห่างกันเกินรอบ” อนุภาพทำเสียงเรียบ หน้าเรียบ ไม่แสดงอารมณ์
“โธ่ คุณนุ เขาอาจทำเบบี้เฟซ” อธิคมแก้ตัว “เหตุการณ์มันผ่านมานาน แล้วไม่สำคัญด้วย ผมเลยจำไม่ค่อยได้”
“นานตั้งแต่เด็กเค้าเรียน มอสี่มอห้าเลยหรือไง”
อธิคมถอมหายใจ ไม่เข้าใจตนเอง ทุกครั้งที่อนุภาพทำเสียงเย็น ใบหน้าเรียบนิ่ง เขาจะรู้สึกร้อนตัวจนควบคุมตัวเองลำบาก
...เวลาปราบปรามโจรผู้ร้าย เวลาตกอยู่ในสภานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ยังควบคุมตัวเองได้มากกว่านี้...
...อนุภาพนี่ร้ายกาจกว่าโจรผู้ร้ายจริงๆ...อธิคมนึกในใจ พลางยกนิ้วขึ้นอุดหู ตายังจับจ้องชายหนุ่มที่ทำหน้าขรึม เล็งปืนไปยังเป้า แต่อนุภาพลดปืนลง ขยับที่ครอบหูกันเสียงแล้วหันมาพูดกับอธิคม
“ขอเป้าเล็กกว่านี้หน่อยสิครับ”
อธิคมเอานิ้วขวาออกจากการอุดหูแล้วบอกอนุภาพว่าสนามยิงปืนที่นี้ไม่ทันสมัยขนาดนั้น อนุภาพถอนหายใจเบาๆ อธิคมจึงเสนอว่า “ไว้คราวหน้าผมจะพาไปฝึกยิงเป้าบิน”
“ชวนผู้กองธงรบไปด้วยนะครับ” อนุภาพสั่ง
“จะเอาธงรบไปด้วยทำไมให้เกะกะ” อธิคมประท้วง
“จะคุยเรื่องเวียดนาม เผื่อได้ไปเที่ยว” อนุภาพตอบยิ้มๆ นิ่งชั่วอึดใจ ปิดที่ครอบหูกันเสียง ยกปืนขึ้นเล็ง แล้วลั่นไกปืนยิงเข้าตรงกลางเป้า
อธิคมมองจอภาพตาโต อนุภาพเจาะกลางเป้าอีกแล้ว “คุณนุ ทำไมยิงปืนแม่นขนาดนี้ เป็นตำรวจลับหรือเปล่านี่”
อนุภาพไม่พูดหันมายิ้มบางๆ ได้ยินเสียงอธิคมค่อยๆ พร้อมกับอ่านริมฝีปากของนายตำรวจหนุ่ม
“เป้านิ่งครับ ยิงได้สบายๆ แค่เล็งให้ตรงแล้วลั่นไกแค่นั้น ไม่มีอะไรยาก ยิงเป้าเคลื่อนที่สิสนุกกว่า”
อธิคมเอื้อมมือไปเลื่อนที่ครอบหูของชายหนุ่มออกแล้วพูดว่า “กำลังนึกภาพผมเป็นเป้าเคลื่อนที่อยู่ละสิ” อธิคมแกล้งทำหน้าน้อยใจ
ชายหนุ่มนักแม่นปืนอมยิ้ม “สารวัตร ไม่ไปยิงซะที มาชวนคุยอยู่ได้ ขี้เกียจขยับที่ครอบหูจะแย่อยู่แล้ว”
อนุภาพขยับที่ครอบหูให้เข้าที่ อธิคมไม่ตอบ หยิบปืนของตัวเองที่วางอยู่ใกล้ๆ แล้วขยับตัว ตาคมกริบหรี่มองอนุภาพอย่างคาดคั้น
“ไปซะทีสิครับ” อนุภาพไล่
“ไปก็ได้” อธิคมพูดงอนๆ ขยับตัวออกห่าง แต่พลันขยับเข้ามาใกล้ ดึงที่ครอบหูกันเสียงของอนุภาพออก แล้วพูดเบาๆ “คุณนุ อย่าคิดมากนะ เชื่อผมบ้าง ตั้งแต่เราเจอกัน ผมไม่เคยคิดถึงใครเลย”
อนุภาพไม่ตอบ ปัดมือนายตำรวจออก แล้วหันกลับมามุ่งความสนใจไปที่การยิงปืน นานแล้วที่เขาไม่ได้ฝึกซ้อม ตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย เขาก็ไม่เคยจับปืนอีกเลย
อธิคมเดินไปที่ช่องยิงปืนข้างๆ ยังไม่เริ่มยิง มัวแต่ตรวจสอบปืนสลับกับการหันมามองคนที่ยืนอยู่ในช่องติดกัน
อนุภาพยิ้มอย่างอารมณ์ดี สนุกกับการได้แกล้งนายตำรวจหนุ่มให้รู้สึกว้าวุ่น พร้อมกับที่ทำให้อธิคมรู้สึกแปลกใจที่เห็นฝีมือการยิงปืนของเขา
ความจริงก็คือ...อธิคมไม่รู้ว่าชายหนุ่มท่าทางเรียบนิ่งที่เขาชวนมาฝึกยิงปืนนั้นเคยเป็นนักกีฬายิงปืนของมหาวิทยาลัยที่คว้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยระดับชาติมาแล้ว
อนุภาพยิงเข้ากลางเป้าแทบทุกครั้ง รู้สึกเพลิดเพลินกับ “กิจกรรม” วันอาทิตย์ที่อธิคมชวนมาทำ เขายิงต่ออีกประมาณสิบครั้งแล้วจึงเดินแอบไปหยุดยืนอยู่ข้างหลังอธิคมเพื่อแอบดูคะแนนของนายตำรวจที่พาเขามาฝึก อธิคมรู้สึกตัว หันมาทำปากยื่นอย่างไม่สบอารมณ์เพราะผลการยิงสู้อนุภาพไม่ได้
“ถ้าชนะ คืนนี้มีรางวัลให้” อนุภาพกระซิบอธิคมเบาๆ แล้วปล่อยมือที่ดึงที่ครอบหูของนายตำรวจกลับแรงๆ จนอีกฝ่ายแกล้งร้องโอ๊ย
มีหลายอย่างเกี่ยวกับอนุภาพที่อธิคมยังไม่รู้ เหมือนกับที่มีอะไรมากมายเกี่ยวกับอธิคมที่อนุภาพยังไม่รู้เช่นกัน แต่ที่แน่ๆ อธิคมมีอดีตอยู่หลายคนเหลือเกิน เขารู้ว่านายตำรวจไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับชายหนุ่มหน้าเด็กคนนั้นแล้ว แต่ก็อดฉุนไม่ได้ ฉุนกับอดีตของอธิคม...อดีตที่นายตำรวจคนนี้ช่างเจ้าชู้นัก
อนุภาพบอกตัวเองว่าต้องอดทน ต้องหนักแน่น ต้องมั่นคง ในเมื่อยอมรับอธิคมเป็นแฟนแล้วก็ต้องเชื่อใจกัน แต่อีกเสียงหนึ่งในหัวก็ยังรบกวนเขาเป็นบางครั้ง
...คนที่เคยเจ้าชู้ จะ “เลิก” ได้จริงๆ หรือ...เขาเคยได้ยินใครก็ไม่รู้พูดไว้ว่า คนที่เจ้าชู้นั้น มันเหมือนฝังอยู่ในสายเลือด ต่อให้ลดหรือเลิกไป ก็เพียงชั่วขณะหนึ่งเท่าน้น จะช้าจะนาน สักวันก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม ความจริงก็คือว่า ใครเคยเป็นอย่างไรก็มักจะยังคงเป็นอย่างนั้น คนบางคน หรือแทบจะทุกคน เปลี่ยนแปลงได้ยากจริงๆ หรือบางทีอาจจะไปเปลี่ยนเลย คนที่บอกเลิกเจ้าชู้ ไม่แน่ อาจจะมีเผลอไผล ออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง
อนุภาพถามตัวเอง...หากอธิคมเป็นเช่นนั้นเล่า...เขาจะยอมรับได้หรือไม่...

หนุ่มหน้าเด็กยังคอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ส่งสายตามาทางอธิคมอยู่บ่อยครั้ง อธิคมสนใจฝึกยิงปืนก็จริง แต่บางครั้งอนุภาพแอบจับได้ว่านายตำรวจหนุ่มหันไปมองเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นบางครั้ง หลังยิงปืนเสร็จ อนุภาพและอธิคมนั่งทานของว่างอยู่ในร้านอาหารของสนามยิงปืน แต่จู่ๆ ฝ่ายหนึ่งก็เข้าสู่งห้วงคิดคำนึงที่ทำให้อีกฝ่ายรีบพูดขึ้นว่า
“เขายิ้มให้ผม ผมก็แค่ยิ้มตอบ” อธิคมร้อนตัว รีบแก้ตัวกับอนุภาพเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งนิ่งเงียบ ส่งสัญญาณให้รู้ว่าเริ่มไม่พอใจ
“ผมไม่ได้ว่าอะไรนี่ จะยิ้มก็ยิ้มไป ผู้กองก็ยิ้มให้คนอยู่ทั่วไปจนเป็นเอกลักษณ์อยู่แล้วนี่” อนุภาพยักไหล่ ทำท่าไม่ใส่ใจ
“นั่นไง โกรธจริงๆ ด้วย” อธิคมยักนิ้วขึ้นชี้หน้าคนรัก
“โกรธตรงไหน”
“เก๊าะ หนึ่ง คุณเรียกผมว่าผู้กอง ทั้งๆ ที่ผมเป็นสารวัตรมาตั้งงานแล้ว สอง คุณเข้าโหมดนิ่งเงียบซะดื้อๆ สาม ประชดว่าผมยิ้มให้คนทั่วไป ซึ่งก็หมายถึง...”
“วิเคราะห์คนเก่งจังเลยนะ” อนุภาพเสียงเรียบพอๆ กับใบหน้า
“เขามองผมบ่อยๆ แล้วผมก็หันไปหันมาตามปรกติของผม เห็นเขามองอยู่ ยิ้มให้ ผมก็ยิ้มตอบธรรมดา จะให้แลบลิ้นใส่เขาหรือยังไง”
“ก็ลองแลบลิ้นดูบ้างสิ” อนุภาพหน้าบึ้ง “หว่านเสน่ห์เขาไปทั่ว”
“อ้าวคุณนุ จะมาให้ผมเป็นลิงเป็นค่างหรือ หว่านเสน่ห์ที่ไหน ผมก็อยู่ของผมเฉยๆ”
...อธิคมแก้ตัวหรือไม่รู้ตัวจริงๆ...อนุภาพถามตัวเองอยู่ในใจ นอกจากเด็กหนุ่มหน้าอ่อนคนนั้นแล้วยังมีอีกสองสามคนที่ทอดสะพานให้อธิคม คนหนึ่งเป็นผู้ชายอายุพอๆ กับเขา หน้าคมเข้มผิวคล้ำ อีกสองคนเป็นหญิงสาวแต่งตัวทันสมัย แต่เขาสังเกตเห็นว่าอธิคมแอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่มีคนสนใจ
...แบบนี้เรียกว่าหว่านเสน่ห์หรือเปล่า...ทำไมอธิคมต้องหันไปหันมาอยู่เรื่อยๆ เป็นลักษณะปรกติของตำรวจหรือเปล่าที่เวลาไปไหนก็ต้องสังเกตสิ่งต่างๆ รอบข้างจนติดเป็นนิสัย
...หรือเป็นลักษณะปรกติของคนเจ้าชู้?
ไม่ได้จีบก็ขอให้ได้มอง...
“คุณนุ” อธิคมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “ต้องกดปุ่มไหนถึงจะออกจากไซเลนท์โหมดนะนี่”
อนุภาพขมวดคิ้ว ส่งสายตาปรามคนช่างสงสัยที่ทำท่าจะยกนิ้วชี้มาที่หน้าเขาเหมือนจะกดปุ่มอะไรซักอย่าง
“สารวัตร อย่ามาทำรุ่มร่ามนะ อายคนเค้า”
“ไม่เห็นมีใครมอง” อธิคมยักไหล่
“แน่ใจเหรอ ผมว่าเด็กคุณมองอยู่นะ” อนุภาพกระพริบตา เบือนหน้าออกไปด้านข้าง
“ค้อนอีกแล้ว”อธิคมยิ้ม อนุภาพทำหน้าตาแบบนี้แล้วทำให้เขานึกขัน คิดในใจว่า...ปากก็ว่าไม่หึง แต่ที่จริงหึงเขามาก...เขาเคยเซ้าซี้อนุภาพอยู่บ่อยๆ ว่าให้แสดงอาการหึงเขาบ้าง แต่อนุภาพแค่เพียงยักไหล่ ทำหน้าเรียบเฉย และนิ่งเงียบแบบที่เคยทำ
“คุณนุ อย่าคิดมากน่า ผมมีคุณนุคนเดียว คุณก็รู้” อธิคมพูดเสียงนุ่ม “แต่เวลามีคนมามองผม มันช่วยไม่ได้นะ มีแฟนหล่อก็ต้องทำใจ” อธิคมเริ่มต้นด้วยการพูดจริงจัง ทำหน้าจริงจัง แต่กลับลงท้ายด้วยน้ำเสียงขี้เล่น ทั้งที่ยังทำหน้านิ่งอยู่
...นัยน์ตาระยิบระยับ...เต้นริกๆ แบบนี้อธิคมทำได้อย่างไรกันนะ...นึกแล้วอยากจะเอาหลอดกาแฟจิ้มเข้าไปซักสองสามครั้ง ดูซิว่าจะหายไปหรือเปล่า...อนุภาพนิ่ง มองตาคู่นั้นอย่างหมายมั่น
“คิดจะทำร้ายผมอีกล่ะสิ” อธิคมรู้ทัน หากอนุภาพนั่งนิ่ง จ้องตาเขา หายใจสั้นๆ มีอย่างเดียวคือนึกจะทำร้ายเขา
“ไปกันหรือยัง หิวข้าวแล้ว หรือผู้กองอยากจะนั่งอยู่ที่นี่นานๆ”
“จะได้หว่านเสน่ห์ต่อ คุณนุจะพูดแบบนี้ต่อใช่ไหมละ” อธิคมหัวเราะชอบใจ
อนุภาพไม่ตอบ หยิบเป้สะพายที่วางอยู่บนเก้าอี้ข้าๆ ลุกขึ้นแล้วเดินนำหน้าตรงไปทางออกสนามยิงปืน นายตำรวจหนุ่มเดินตาม ยังหัวเราะเบาๆ ไปตลอดทาง รู้สึกสนุกที่ได้ยั่วเย้าแฟนหนุ่มให้งอน
สารวัตรหนุ่มหมายมั่นในใจว่า...รอให้ถึงบ้านก่อนเถอะ จะง้อให้ใจขาดตายคาอกเลยทีเดียว

1111111
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2009 12:46:18 โดย katawoot »

anna1234

  • บุคคลทั่วไป

benxine

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^


250 กำลังพอดีค๊าบบบ......




ภาคสองนี้น่ารักจัง!!!~

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1
+1 เป็นกำลังใจให้จ้า

ขอดองไว้อ่าน ตอนจบรวดเดียวเลยยย กลัวมันบีบหัวใจ ยิ่งหัวใจ อ่อนแอ อ่อนแอ อยู่

จะตามให้กำลังใจตลอดจ้า

ออฟไลน์ A-ram 70

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 765
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ในมี่สุดสารวัตรอธิคมกับอนุภาพก็มาซักที


ตอนนี้น่ารักจัง

อย่างนี้ต้องติดตามต่อแล้วววววว

ดัษบดินทร์ กษิดิษฐ์

  • บุคคลทั่วไป
น้องนาย
ตกลงเอาแค่งอนเฉยๆๆๆนะอย่าเอารุนแรงนะครับ
ทำใจไม่ได้
ดัษบดินทร์

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
ทิ้งท้ายแบนี้....แสดงว่าจะต้องมีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นแน่ๆ


รอตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
คุณคฑาวุธมาทิ้งทวนเอ๊ยทิ้งท้ายแบบนี้...ขอร้องอย่าให้เศร้านะ....รับไม่ได้ :serius2:

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
อ่า


อ่านแล้วเสียวหัว .. . จายยยย จางงงงงงงง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด