ตอนที่ 43 ตามสืบ
.....................
หลายวันแล้วครับที่ผมไม่ได้มีโอกาสไปหาพี่ชิงกับน้องหลงเลยซักนิด ไม่รู้ว่าเป็นอยู่ยังไงบ้าง เพราะโดนพวกพี่เขาสั่งห้ามไปครับ ครั้นจะแอบไปพวกพี่โคก็ดันรู้ทันเสียก่อน แล้ววันนี้น้องบุ้งกี๋ไม่ได้ไปโรงเรียนด้วยครับ ก็เลยมาเล่นกับพวกผมที่บ้าน แน่นอนว่าน้องบุ้งกี๋ดูจะเข้ากับพี่ลุคได้เป็นอย่างดีด้วย (ผิดกับตอนแรกที่กลัวพี่ลุคแทบตายเพราะคิดว่าเป็นยักษ์กินคนนะครับ) แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะเล่นหนักไปหน่อยก็เลยเปื้อนโคลนด้วยกันทั้งคู่
“ไม่ไหว พี่ลุคพาน้องบุ้งกี๋ไปอาบน้ำเลยฮะ” ผมพูดเสียงดุใส่ เห็นผมใสซื่อแบบนี้ (?) แต่ก็รักความสะอาดเหมือนกันนะครับขอบอก “อาบเสร็จก็ช่วยเช็ดพื้นที่เปื้อนโคลนด้วยนะฮะพี่ลุค”
“คร้าบคุณพ่อ แล้วนี่จะให้พี่เอาชุดที่ไหนมาให้น้องบุ้งกี๋ใส่ล่ะ” อีกฝ่ายพูดตอบเสียงยาน
“ไปรื้อตู้เสื้อผ้าผักเดี๋ยวก็เจอเองฮะ เพราะลุงจอบเคยฝากเสื้อผ้าน้องบุ้งกี๋ไว้กับผมตัวสองตัว”
“โอเค งั้นพี่พาน้องบุ้งกี๋ไปอาบน้ำก่อนนะ” พี่ลุคพูดพลางอุ้มน้องบุ้งกี๋ขึ้นขี่คอตัวเอง “ส่วนเราก็อย่าไปไหนไกลจากบ้านล่ะ มันอันตราย”
“ฮะ”
“อ้อ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองก็ให้ร้องออกมาสุดเสียงเลยนะ พี่จะรีบออกมาช่วยเราทันที”
“ฮะพี่ลุค ไว้ใจผักได้เลย” แล้วร่างสูงก็เดินหายเข้าไปในบ้านพร้อมกับน้องบุ้งกี๋ ส่วนผมก็หันไปพรวนดินใส่ปุ๋ยต่อ จะว่าไปตั้งแต่ได้รับคำแนะนำของพี่ลุคแล้ว ผักที่ผมปลูกก็เจริญเติบโตงอกงามดี ไม่เหี่ยวแห้งเหมือนตอนแรก “เดี๋ยวเด็ดแบ่งส่วนหนึ่งไปทำสุกี้กินคืนนี้เลยดีกว่า คิกๆ”
ผมพูดไปหัวเราะไปพลาง ก่อนก้มหน้าก้มตาพรวนดิน แต่ยังไม่ทันได้พรวนดิน ความมืดก็เข้าครอบงำพร้อมกับเสียงพูดที่แทรกเข้ามาอย่างเย็นยะเยือก
“เห็นทีว่าคืนนี้สุกี้คงเป็นหมัน เพราะน้องผักจะไม่ได้มีโอกาสทำมันแล้วล่ะ”
!!!!!!.................
“นี่หรือบ้านของน้องผัก ใหญ่โตไม่เบาเหมือนกันแหะ”
“อืม กูเองก็คิดไม่ถึงกันว่าจะใหญ่ขนาดนี้” ผมพูดอย่างเห็นด้วยกับไอ้โค วันนี้ผมกับไอ้โคขึ้นเรือมายังฝั่งเพื่อมาสืบเรื่องของไอ้คนที่อ้างว่าเป็นผัวของน้องผัก แต่เนื่องด้วยอีกฝ่ายเป็นถึงมาเฟีย พวกผมสองคนจึงได้แต่มองดูห่างๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ บ้านของน้องผักที่ผมคิดว่าน่าจะไม่ใหญ่มากแต่กลับใหญ่เท่าขนาดคฤหาสน์หลังหนึ่ง “มิน่าพ่อแม่ของไอ้มาเฟียนั่นถึงได้ฆ่าพ่อแม่ของน้องผัก เพราะอยากได้บ้านหลังนี้นี่เอง แม่งโคตรชั่วเลยวะ”
ที่พวกผมรู้เรื่องนี้ได้เป็นเพราะไอ้เคียวช่วยตามสืบให้ครับ
“ใช่ แม่งวางแผนให้ดูเป็นอุบัติเหตุ แถมยังยัดเงินให้กับตำรวจไม่ให้ตามสืบเรื่องนี้อีกด้วย อ๊ะ มีรถมา” โคพูดก่อนที่ผมกับมันหันไปมองรถคันที่ว่า เป็นรถมิร่าสีขาวขนาดเล็กแล่นมาจอดหน้าประตูทางเข้าบ้านน้องผัก ก่อนจะเผยให้เห็นร่างเล็กเอวบางผมสั้นสีน้ำตาลประกายทองสวมเสื้อผ้าเรียบง่ายแต่ดูดีอายุราวประมาณเท่าน้องผักเดินลงมาจากรถคันนั้น
“ใครวะนั่น”
“ไม่รู้สิผลไม้ ต้องดูกันต่อไป” เสียดายที่พวกผมจอดรถกันไกลไปหน่อย ก็เลยทำให้ไม่ได้ยินบทสนทนาของเจ้าของรถกับชายชุดดำที่ยืนอยู่ในรั้วประตูบ้าน พวกผมดูสถานการณ์ไปซักพัก จากที่ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย กลับได้ยินชัดแจ๋วราวกับมีใครไปเพิ่มโวลุ่ม
“พูดไม่รู้เรื่องหรือไง กูบอกให้พวกมึงตามไอ้เหี้ยวินออกมา!”
“นายท่านไม่อยู่ กรุณากลับไปซะเถอะครับคุณหนู”
“ไม่กลับ ยังไงกูก็ไม่กลับ!” ร่างบางตะคอกเสียงหน้าดำหน้าแดง ดูท่าจะโมโหสุดขีดจนระงับอารมณ์ไม่อยู่แล้วจริงๆครับ “ถ้ากูไม่เค้นคอถามแฟนตัวเอง กูก็คงโง่ดักดานไม่รู้เรื่องที่มันยอมบอกที่อยู่ของผักให้ไอ้เหี้ยวินรู้ แล้วไหนจะเรื่องที่ผักโดนไอ้เหี้ยวินข่มขืนอีกหรอกไอ้สัด!”
!!!!!!
“ยังไงก็กลับไปก่อนเถอะครับคุณหนู อย่าให้พวกผมต้องใช้กำลัง”
“ไอ้สัดแม่ง!” ดูเหมือนร่างบางต้องยอมยกธงขาวแต่โดยดีครับ เพราะอีกฝ่ายมีปืนด้วย จึงทำให้ต้องกลับขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที
“ตามเด็กคนนั้นไปเร็วผลไม้”
“อืม กูรู้แล้ว” ว่าแล้วผมก็รีบขับตามคันนั้นไปทันทีโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
..............
“เห็นทีว่าคืนนี้สุกี้คงเป็นหมัน เพราะน้องผักจะไม่ได้มีโอกาสทำมันแล้วล่ะ”
!!!!!!
“เพราะพี่ทำขนมจีนแกงเขียวหวานมาฝาก” เสียงนั้นบอกก่อนที่มือของอีกฝ่ายเปิดออก ทำให้ผมได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง ก่อนจะหันไปมองต้นเสียง เห็นพี่ชิงยืนยิ้ม มือข้างหนึ่งถือหม้อขนาดเล็กคาดว่าเป็นขนมจีนแกงเขียวหวาน ส่วนข้างกายนั้นเป็นน้องหลงที่ยืนเกาะขากางเกงยีนส์พี่ชิงอยู่ “ไม่รู้จะถูกปากหรือเปล่า เพราะพี่ทำอาหารไม่ค่อยเก่ง ลองชิมดูก่อนก็ได้นะ”
ผมยิ้มแห้งเมื่ออีกฝ่ายเชิญชวนให้ผมลองชิมอาหาร
อย่าทานหรือชิมอะไรที่คนแปลกหน้าให้เด็ดขาดนะครับน้องผัก…“ขอบคุณนะฮะที่ทำมาให้ แต่ผักยังไม่หิว” ผมพูดปฏิเสธแบบสุภาพแต่ก็ยอมยื่นมือไปรับหม้อแกงเขียวหวานที่อีกฝ่ายส่งมาให้ “ไว้คืนนี้ผักจะทานแล้วกัน”
“แล้วนี่อยู่กับใครหรือ ปกติเห็นอยู่กับผู้ชายอีกสามคน” พี่ชิงเอ่ยปากถามพลางหันซ้ายแลขวา
“อ้อ ผักอยู่…”
“อยู่กับฉันเอง” เสียงทุ้มเข้มพูดแทรก ทำเอาผมกับพี่ชิงหันไปมอง ก่อนจะเห็นพี่ลุคยืนทำหน้าเคร่งขรึมในชุดเปื้อนโคลนอยู่ด้านหลังผม “นายเป็นใคร มีธุระอะไรกับผัก”
ไม่พูดเปล่าเพียงอย่างเดียว ร่างสูงยังจับมือผมให้ไปยืนอยู่ด้านหลังตัวเองอีกด้วย
“ผมชื่อเทียนชิง ส่วนนี่เทียน…”
“เทียนหลง น้องชายของนายฉันรู้ชื่อพวกนายสองคนจากผักแล้ว” พี่ลุคพูดเสียงเข้ม ก่อนจะคว้าหม้อที่ผมถือออกมาคืนให้กับพี่ชิง “ส่วนหม้อนี่ ไม่จำเป็น เราไม่รับ เพราะหากินอะไรเองได้”
“ครับ งั้นพี่ไปก่อนนะผัก แล้วเจอกัน” พี่ชิงหันมายิ้มให้กับผม ส่วนผมได้แต่ยิ้มแห้งๆตอบกลับไป
“ฮะแล้วเจอกัน” พออีกฝ่ายเดินจากไปแล้ว พี่ลุคก็พ่นลมหายใจอย่างแรงก่อนจะหันมามองผมอย่างเหนื่อยๆ (แต่ผมแอบเห็นพี่ลุคเก็บปืนเข้าซองที่เอวด้วยครับ)
“น้องผักครับ ทีหลังถ้าเจอคนนี้อีก อย่าคุยกับเขากันแค่สองคนตามลำพังอีกนะ”
“ฮะพี่ลุค ผักขอโทษ” ผมตอบเสียงอ่อย ก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในบ้านพร้อมกับพี่ลุค
................