Chapter 9 [ครึ่งหลัง]
“We arrived. (เราถึงแล้ว)” แซ็คบอกเสียงเรียบตอนที่จอดรถต่อท้ายรถอีกคันตรงหน้าบ้านสีครีมหลังคาสีแดงชั้นเดียวหลังหนึ่ง เจ้าเด็กผมดำเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขาแบบงุนงงก่อนหันไปมองข้างหน้าและยกมือซ้ายชี้ไปที่บ้านหลังนั้น เขาพยักหน้ายืนยันอีกที
“No look like food shop. It is house. (ไม่เหมือนร้านอาหารเลยอ่า มันคือบ้านนี่)” แซ็คถอดแว่นดำและตามด้วยขมวดคิ้ว
“It’s studio. Not restaurant. (ก็มันสตูดิโอ ไม่ใช่ร้านอาหาร)” ไอติมอ้าปากหวอ
“I think you will go to shop name Studio. (ผมคิดว่าคุณจะพาไปร้านอาหารชื่อร้านสตูดิโอ)” แซ็คยิ้มขำ
“No. It’s a house and also studio. I will work here today. And inside the house you can find food to eat. (ไม่ใช่ มันคือบ้านที่เป็นสตูดิโอด้วย วันนี้ฉันทำงานที่นี่ และข้างในนั้นนายหาอาหารกินได้)” แซ็คพยายามสื่อสารกับไอติมแบบง่าย ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจ หนุ่มเอเชียอ้าปากค้างไว้แล้วพยักหน้าลงแบบงง ๆ ไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ว่าใช่ที่เข้าใจมั้ย
“Okay.” ไอติมตอบพลางเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเล็กของเป้ ปลดเข็มขัดนิรภัยได้ก็เปิดประตูลงไปยืนบนถนนลาดยางสีเทา คนตัวผอมหันมองไปรอบสถานที่ที่มา บ้านหลังที่แซ็คพามาอยู่สุดซอยในซอยสั้น ๆ ซอยหนึ่ง ตรงข้ามหน้าบ้านเป็นบ้านอีกหลังที่ติดป้ายประกาศขาย มีต้นไม้ใหญ่ที่มีดอกสีม่วงร่วงอยู่ใต้ต้น ที่นี่น่าจะเป็นหมู่บ้าน ไอติมเดาจากการที่มีบ้านอยู่ถัด ๆ กันไป แต่ไม่ใช่ว่าชิดติดรั้วกันมาก มีระยะห่างของแต่ละบ้านที่พอเหมาะ ไม่ได้เป็นชุมชมแออัด แต่ก็ไม่หรูหราเท่าแถวบ้านแซ็ค
“Where is here? (ที่นี่ที่ไหนเหรอ)” ไอติมหันไปถามแซ็ค
“Long beach. (ลองบีช)” ไอติมทำหน้ามึน เพราะไม่รู้จัก แซ็ครู้ตัวอย่างนึงว่าตลกหน้าไอติมเวลาไอ้เด็กลามกมันงง ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาบอกหรือพูด หรือเวลามันกำลังสับสน สีหน้ามันจะเหมือนลูกหมาเดินถอยหลังหนีวัตถุแปลกปลอม
“Search google. (หาในกูเกิ้ล)” ไอติมพยักหน้าและบอกกับตัวเองในใจว่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาข้อมูลลองบีชแน่นอน
“Who house? (บ้านใคร)” ไอติมถามพลางก้าวเท้าเดินตามแซ็คเข้าไปในรั้ว ไปยืนตรงบันไดสามขั้นหน้าประตูบ้าน
“Lukas. (ลูคัส)” เพราะอยากเห็นหน้าเหมือนลูกหมาเดินถอยหลังเลยแกล้งบอกแบบทื่อ ๆ ซึ่งก็ได้เห็นหน้าแบบนั้นจริง ๆ แซ็คเลยยิ้มขำ ยิ่งเห็นไอติมขยับเท้าถอยหลังไปหนึ่งก้าวในขณะที่หน้าตายังคงสับสนปนงงก็ยิ่งขำ
“Who? (ใครอ่า)” ไอติมถามด้วยความไม่รู้จัก ว่าไปตั้งแต่เจอแซ็คจนถึงวันนี้ ไอติมก็คิดถึงเรื่องความไว้เนื่อเชื่อใจที่ตัวเองมีต่อแซ็คน้อยมาก (เพิ่งคิดได้เหรอ) เพราะมัวแต่โฟกัสว่าอยากจะได้เสียกับเขา
“You will see him. (เดี๋ยวนายก็ได้เจอ)” ยังไม่ทันที่ไอติมจะได้งงต่อยาว ๆ ประตูบ้านก็เปิดออกพร้อมกับหน้าของแอนโทนี่ที่โผล่ออกมาจากประตู จากกำลังทำหน้ามึนงง ไอติมก็เปลี่ยนเป็นหน้ายิ้ม
“แอนโทนี่!” ได้พูดภาษาไทยเต็ม ๆ แล้ว
“Hi.” แอนโทนี่เอ่ยทักทายไอติมพลางดึงประตูบ้านให้เปิดกว้างขึ้น แซ็คผายมือให้ไอติมเดินขึ้นบันไดไปก่อน เจ้าเด็กลามกที่ตอนแรกทำท่าระแวดระวังตอนนี้เปลี่ยนเป็นท่าทางตื่นตัวเหมือนเดิมเดินขึ้นบันไดเข้าไปในบ้าน เขาเดินตามขึ้นไปและปิดประตูตามหลังให้ ไอติมมองซ้ายมองขวาหน้าตาอยากรู้อยากเห็นแต่ก็ไม่ได้ทำเอะอะโวยวายหรือกระโตกกระตาก
“You are the first one. (แกมาคนแรก)” แซ็คทำหน้าเอือมน้อย ๆ และมองเจ้าเด็กลามกที่ยืนยิ้มแฉ่งด้วยสายตาหมั่นไส้
“He wakes me up. (หมอนี่ปลุกฉัน)” แอนโทนี่เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับเอียงหน้าสี่สิบห้าองศา มองสลับทั้งสองคนไปมา
“Does he stay with you last night? (เขาค้างกับแกเหรอเมื่อคืนนี้)” แอนโทนี่ถามตามปกติ ไม่ได้มีท่าทีหรือสีหน้าประหลาดใจใดๆ
“Stay and sleep. (ค้างและนอนด้วยกัน)”
“I know you sleep together, I saw from cam-show but I just found out that he stays. (ฉันรู้ว่าแกนอนด้วยกันเพราะฉันเห็นจากแคมโชว์เมื่อคืนนี้ แต่ฉันเพิ่งรู้ว่าเขาค้างกับแกด้วย)”
“It’s too late. (มันดึกมากแล้ว)” แอนโทนี่พยักหน้าเข้าใจ ไม่คิดถามอะไรให้มากความ เขาหันกลับไปหาไอติมที่ยืนมองไปรอบบ้านแบบกำลังทำความคุ้นเคย
“Are you hungry?” ไอติมหันกลับมามองแอนโทนี่แบบงง ๆ หนุ่มแว่นตัวสูงเลยพูดอีกทีในเวอร์ชั่นภาษาไทย
“หิ้วไหม?” ไอติมพยักหน้ารัวๆ
“มีอ๊าหานอยู่ในห้องหนั่งเล่น ไปกินกัน” แอนโทนี่พาไอติมเดินผ่านห้องโถงของบ้านไปทางขวามือ เดินไม่นานแต่ก็หลายก้าวก็เจอกับห้องนั่งเล่นที่ว่า ห้องนี้อยู่ติดกับสระว่ายน้ำสีฟ้าสะอาดตาขนาดใหญ่ของบ้าน มีทีวี เครื่องเล่นดีวีดี หรืออุปกรณ์ใด ๆ อย่างที่ควรจะมีในห้องพักผ่อนหย่อนใจ ใกล้กับประตูกระจกบานเลื่อนที่ออกไปยังสระว่ายน้ำมีราวแขวนเสื้อผ้าสามราวตั้งอยู่และมีเสื้อผ้าแขวนจนเต็มราว
“Are you really kiss him? (แกจูบเขาจริง ๆ เหรอ)” แอนโทนี่กระซิบถามแซ็คหลังจากปล่อยให้ไอติมนั่งกินอาหารบนโต๊ะในห้องนั่งเล่นได้ตามสบาย
“Really. (จริง)” แซ็คตอบพลางมองไอติมนั่งกินเบคอนจิ้มซอสมะเขือเทศทีละสามชิ้นและเคี้ยวจนแก้มอูม
“Oh.” จากที่ตอนแรกไม่ได้มีทีท่าประหลาดใจอะไร คราวนี้แอนโทนี่ถึงกับมึนคล้ายกับโดนคนทุบหัว แซ็คหันไปมองเพื่อนแล้วยักไหล่สองข้าง ตามด้วยยักคิ้วอีกสองข้างและทำหน้าตาสบาย ๆ แอนโทนี่ทำเหมือนอยากจะสงสัยใคร่รู้ต่อ แต่สุดท้ายก็ปัดสีหน้านั้นทิ้ง ยักคิ้วหนึ่งทีแล้วก็เดินไปนั่งคุยกับไอติม แซ็คเดินตามไปนั่งบนโซฟาเดี่ยวอีกตัว นั่งมองสองคนคุยกัน เขาไม่ได้คิดมานั่งเฝ้า แต่ยังไม่มีใครมาเขาก็ไม่รู้จะทำอะไร
“พ้าสาอังกริดของเถ่อดีหยู่แล้วนะ แข่ต๊องฝึกชั้ยบ่อยบ่อย” ไอติมที่นั่งอยู่บนพื้นและกำลังกินไส้กรอกพยักหน้า
“I will try to speak English more more. (จะพยายามพูดภาษาอังกฤษให้มากมาก)” แอนโทนี่หัวเราะเบาๆ
“Good.” ไอติมยิ้มทั้งที่อาหารเต็มปากก่อนหันไปมองแซ็คที่นั่งมองเขานิ่ง แต่ไม่ได้มองจ้อง มองเหมือนมองไปเรื่อยไม่มีโฟกัส
“Zach เอ้ย ไบรอั้น don’t eat? (ไม่กินเหรอ)” ไบรอั้นที่ไอติมเรียกเลื่อนสายตาไปมองเจ้าเด็กลามกแบบเรียบเฉยก่อนจะพยักหน้าหนึ่งที ไอติมยิ้มกว้างและชี้อาหารบนโต๊ะไม้ที่วางละลานตาเต็มไปหมดก่อนจะตักอาหารเข้าปากตัวเองต่อ
“ซะ… เอ่อ ไบรอั้น tell me, this house is Lukas house. Who? (ไบรอั้นบอกว่าบ้านนี้เป็นของคนชื่อลูคัส ใครเหรอ)” ไอติมพยายามใช้ภาษาอังกฤษในการพูดคุยกับแอนโทนี่
“อ้อ he is—.”
“—Does anyone asking about me? (มีใครกำลังถามเกี่ยวกับฉันอยู่รึเปล่า)” เสียงใหญ่และทุ้มจนเกือบจะแหบ แต่ก็ไม่ใช่แหบดังแทรกขึ้น แต่ไม่ใช่ดังแบบแหกปาก ไอติมที่กำลังเคี้ยวอาหารเต็มปากและเต็มคำหันไปมองทางเดียวกับที่ตัวเองเดินเข้ามาแล้วก็อ้าปากหวอทั้งที่ยังเคี้ยวเบค่อนไม่หมดปาก
“โฮ่!” ไอติมอุทานพอมองรูปร่างของผู้ชายคนนั้นแบบชัด ๆ ตัวสูงและยังตัวใหญ่ ใหญ่แบบที่ยืนบังเขามิดชิด ถ้าเล่นซ่อนแอบคือไม่มีใครหาเขาเจอแน่นอน ผู้ชายคนนั้นคลี่ยิ้มให้ไอติมที่กำลังมองตัวเอง ไอติมกำลังประเมินว่าระหว่างผู้ชายคนนี้กับเดอะร็อค นักมวยปล้ำชื่อดังคนนั้นใครตัวใหญ่กว่ากัน
“Hi, are you ice-cream? (ว่าไง เธอคือไอศกรีมใช่รึเปล่า)” ไอติมได้สติกลับมาแล้วรีบเคี้ยวอาหารในปากให้หมดพร้อมกับยืนขึ้นเพื่อทักทายผู้ชายคนใหม่
“Hello. (สวัสดีฮะ)” ไอติมลืมตัวเลยยกมือสวัสดี แต่พอนึกได้ก็ชะงักและเปลี่ยนเป็นยื่นมือขวาไปด้านหน้าเพื่อจับมือของผู้ชายตัวใหญ่คนนั้นที่ยื่นมาให้
“Ah, lovely. (อ้า… น่ารักเชียว)” ไอติมอ้าปากเป็นรูปตัวโอ เมื่อมือตัวเองจมไปในมือของผู้ชายตัวใหญ่โต เจ้าของมือยิ้มกว้างด้วยความขยบขัน ไอติมยิ้มแหะ ๆ ก่อนจะปล่อยมือออก วินาทีที่มือหลุดออกจากกันและสายตาก็มองรอยยิ้มนั้นอยู่ ความทรงจำบางอย่างก็พุ่งวาบเข้ามา ไอติมอ้าปากค้าง ดวงตาโตด้วยความตื่นเต้น สองมือชี้ไปที่ผู้ชายที่ยืนตรงข้ามกับตัวเองแบบลุกลี้ลุกลน
“Oh! You! You, you เอ่อ you play porn” ไอติมนึกชื่อไม่ออก แต่จำได้ว่าผู้ชายคนนี้เคยเล่นหนังโป๊ จำได้ว่าเป็นหนึ่งในพระเอกหนังโป๊ที่ดึงดูดเขาเข้าสู่วงการกามเมื่อสมัยมัธยมต้นจากการเห็นวิดีโอที่เขาช่วยตัวเองอยู่ริมชายหาด เนื่องด้วยรูปร่างดี หน้าตาก็ดี เรียกว่าเป็นคนหล่ออีกคน ไอติมจำได้ว่าตอนนั้นเขาก็ตัวใหญ่ล่ำบึ้ก แต่ตอนนี้คล้ายว่าตัวจะขยายขึ้นจากแต่ก่อน เขาหายไปจากวงการหลังจากแซ็คเข้าวงการมาได้สักพัก แต่ผลงานที่เขาทิ้งไว้ให้ช่วยตัวเองนั้นถือว่าปลุกเร้าอารมณ์ได้สุดยอดเลยละ
และแม้ปัจจุบันนี้ ปัจจุบัน ณ ตรงหน้าไอติมตอนนี้ เขาจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา โตขึ้นตามวัยของเขา แต่ผู้ชายคนนี้ก็ยังดูดี ไม่ได้เหี่ยวย่นยับยู่ยี่ และรู้สึกว่าจะหล่อกว่าสมัยก่อนด้วยซ้ำ หล่อแบบผู้ใหญ่ มีเสน่ห์มากกว่าตอนละอ่อนอีก ที่สำคัญยังแน่น และน่าจะแน่นกว่าเดิมด้วย
เขาไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าจะเจออีกหนึ่งตำนานของวงการหนังโป๊ในชีวิตของตัวเอง โอ้ว~
ฝรั่งหัวดำตัวโตสูงใหญ่ยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตรก่อนตอบ “Collin, but my real name is Lukas and you can call me that. I don’t mind.”
ไอติมยิ้มแหยไปแล้ว เพราะฝรั่งคนนี้พูดเร็วมากจนเกือบจะเป็นลิ้นพันกัน ไอติมหันไปหาแอนโทนี่โดยอัตโนมัต หนุ่มแว่นยิ้มขำก่อนจะพูดเป็นภาษาไทย
“เรียกเข๋าว้าลูคัสก่อได้ เข๋าไม๊ว่าอะรัย” ไอติมร้องอ๋อและหันไปหาอีกคน
“Hello, Lukas.” ลูคัสยิ้มกว้าง แววตามองเด็กน้อยอย่างเอ็นดู
“Hello, ice-cream.”
“ข่นคนนี้แหละ ที่ฉั๋นบอกเธอเมื่อวานนี้ว่าอยากเจอเธอน่ะ” ไอติมทำปากว่าอ๋ออีกครั้ง
“Sit down. (นั่งลงเถอะ)” ไอติมพยักหน้า หันไปมองแซ็คที่นั่งเงียบแต่ก็ไม่ได้หน้าเครียดอะไร น่าจะเป็นฟีลว่าไม่รู้จะพูดอะไรด้วย
“Ready, Bryan? (พร้อมมั้ยไบรอั้น)” ลูคัสหันไปถามไบรอั้น แต่ดูจะเป็นการถามแบบทักทายเฉย ๆ ไม่ได้ต้องการคำตอบจริงจัง เพราะพอไบรอั้นยักไหล่สองข้าง ลูคัสก็ยิ้มบางแล้วหันมามองไอติมที่นั่งอยู่บนพื้นตามเดิม
“Are you free for today? I want to talk with you. (วันนี้ว่างมั้ย ฉันอยากคุยกับเธอ)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ พยายามแปลด้วยตัวเองก่อนเพราะฟังแล้วมันก็ไม่น่าจะใช่คำศัพท์ยาก
“เอ่อ ฟรี แอมฟรี ว่างๆ” ไอติมพยักหน้าอย่างหนักแน่นเป็นการบอกย้ำว่าวันนี้ตัวเองว่างจริงๆ
ลูคัสยิ้มกว้างขึ้น “Cool, after they start they work we will start talking. (เจ๋ง เดี๋ยวพอพวกเขาเริ่มทำงาน เราค่อยคุยกันก็แล้วกัน)”
ไอติมนึกคำแปลแปบนึงก่อนจะพยักหน้าลงหนึ่งครั้ง “Talk what? (คุยอะไรอ่า)” แล้วก็ขมวดคิ้วให้อีกสามคนที่ขำกับท่าทางมึน ๆ งง ๆ หน้าตาสงสัยหลังจากตอบรับไปแล้วว่าจะคุย ขนาดแซ็คยังร่วมขำด้วย แม้จะขำนิดหน่อยก็เถอะ แต่ก็ขำอยู่ดี
ลูคัสขำเบา ๆ แล้วว่า “I want to get to know you more. (ฉันอยากทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น)”
ไอติมยังคงขมวดคิ้ว และพยายามแปลประโยคของลูคัสทีละคำ แต่แอนโทนี่กลัวไอติมจะขมวดคิ้วจนเลือดตรงคิ้วไม่เดินเลยเป็นคนแปลให้ “เข๋าหยากทำความรู้จักกับเธอน่ะ”
“รู้จักผมเหรอ” ไอติมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง แอนโทนี่พยักหน้า ลูคัสยิ้มตลกกับความงง ๆ ของไอติมสักแปบก่อนจะยืนขึ้น
“But now, I want to talk with you first, Anthony. (แต่ตอนนี้ฉันอยากคุยกับนายก่อนแอนโทนี่)” ลูคัสยิ้มให้ไอติมอีกทีแล้วเดินต่อเข้าไปในโซนที่ต่อจากห้องนั่งเล่น แอนโทนี่เดินตามฝรั่งตัวใหญ่ไป ไอติมหันไปมองแซ็คแล้วลุกเดินไปยืนตรงหน้าแซ็ค ใช้สองมือทำท่าวัดขนาดของหนุ่มหัวทอง
“What? (อะไร)”
“You look small because Lukas big. (คุณดูตัวเล็ก เพราะลูคัสตัวใหญ่)” แซ็คยักคิ้วขึ้นหนึ่งที
“He is a bodybuilder. That’s why he is so big. (หมอนั่นเป็นนักเพาะกายเลยตัวใหญ่)” ไอติมนั่งลงใกล้กับแซ็คแต่โซฟาคนละตัว ส่วนคำว่าบอดี้ ๆ อะไรนั่น ไอติมไม่รู้ความหมาย
“Are you okay? (คุณโอเคมั้ย)” คนถูกถามขมวดคิ้วงง มองคนถามแบบงงๆ
“Okay what? (โอเคอะไร)”
“Yesterday, you look not okay. (ก็เมื่อวานนี้คุณดูไม่โอเค)” แซ็คนั่งนิ่ง มองไอติมที่กำลังมองเขาตาใสด้วยความรู้สึกตัวเบา ช่องอกเกิดความรู้สึกอุ่นคล้ายมีความร้อนที่กำลังพอเหมาะเกิดขึ้นในนั้น เขายิ้มบาง ๆ ก่อนตอบ
“Better. (ดีขึ้นแล้ว)”
“It’s mean okay, right? (มันแปลว่าโอเคแล้วใช่มั้ย)” แซ็คยิ้มมุมปากซ้าย
“Yes, I am okay. (ใช่ ฉันโอเคแล้ว)” แซ็คยืดแขนขวาไปขยี้หัวไอติม เจ้าเด็กลามกยิ้มแป้น แซ็คมองหน้าเรียวใสด้วยความรู้สึกบางเบาและเบาสบาย
“Don’t worry, be happy. (ด๊อนท์วอร์รี่ บีแฮปปี้)” ไอติมไม่แน่ใจนักหรอกว่าไอ้คำนี้มันเป็นประโยคให้กำลังใจแบบตรงประเด็นกับเรื่องของแซ็คได้มากน้อยแค่ไหน แต่คิดว่าความหมายมันก็พอจะตบ ๆ เข้ากับสถานการณ์ของแซ็คได้อยู่ละมั้งแม้จะไม่รู้ว่าสถานการณ์จริง ๆ นั้นคืออะไร และหากถามว่าประโยคนี้มาจากไหน มันติดตาและติดหัวมาตั้งแต่ไปเดินตลาดนัดแถวมหาวิทยาลัยช่วงปีสามแล้วเจอเสื้อยืดสกรีนไอ้คำนี้ละลานตามากจนตอนนั้นหลอนประโยคนี้อยู่นาน
“You look like a word ‘happy’. (นายดูชอบคำว่าแฮปปี้นะ)” ไอติมนิ่งคิดคำแปลแปบหนึ่งก่อนจะยิ้ม
“Yes, it is good word. You don’t like it เหรอ (ใช่ฮะ มันเป็นคำที่ดีอะ คุณไม่ชอบเหรอ)”
“No, I like it. Has anyone doesn’t like it? (ไม่ ฉันชอบ มีคนไม่ชอบคำนี้ด้วยเหรอ)” มันเป็นคำที่เขาอยากมีมันให้เต็มที่ ไม่ใช่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ
มันเป็นประโยคที่ง่ายสำหรับคนอื่นแหละ แต่อันนี้ไอติมแปลไม่เคลียร์กับตัวเองเลยทำหน้ามึนตามเคยจนแซ็คขำเบา ๆ ไอติมยิ้มแห้งก่อนจะพูดตะกุกตะกัก “You can เอ่อ…” ไอติมนึกคำศัพท์ที่ต้องการพูดไม่ออกเลยหยิบโทรศัพท์ออกมากดคำนั้น คำว่าปรึกษาแล้วยื่นโทรศัพท์ให้แซ็คดู ฝรั่งหัวทองอ่านคำศัพท์นั้นก่อนเลื่อนสายตาไปมองคนตัวผอม
“You mean I could talk to you if I am not okay, do you? (นายหมายถึงว่าให้ฉันคุยกับนายได้ถ้าฉันรู้สึกไม่โอเคงั้นเหรอ)” ประโยคยาว ไอติมเลยยังยิ้มแห้ง แต่ก็ตอบแบบอ้อมแอ้มไปก่อน
“เอ่อ yes, you.” แซ็คขำกับการตอบแบบใช้คำท้ายของประโยคที่เขาถามมาเป็นคำตอบ ไอติมยิ้มน้อย ๆ แล้วยื่นมือซ้ายไปตีตรงหัวเข่าขวาของแซ็คเบา ๆ หนุ่มหัวทองย่นคิ้วกับท่าทีนั้นแต่มุมปากก็ยกยิ้มขำขันกับการทำท่าทำทางเหมือนตัวเองโตกว่าเขามากมาย
ครืดดด ครืดดด~
โทรศัพท์ของไอติมสั่นอยู่ในมือขวา ยกหน้าจอขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นเดนนี่โทนมา ไอติมกดรับสายทันที “ฮัลโหลเดน… โอ๊ะ วันนี้เลยเหรอ… เออ ๆ …” ไอติมเหลือบมองแซ็คที่มองกลับมาแบบนิ่งเงียบ หนุ่มเอเชียนิ่งไปสักแปบก่อนจะคลี่ยิ้มบางเบาแล้วพูดกับเดนต่อ
“กลับด้วย แต่มารับได้มั้ยอะ… ลองบีชอะไรสักอย่าง… ไม่รู้อะ อธิบายไม่ถูก มึงคุยกับแซะ เอ้ย ไบรอั้นได้มั้ย… เค” ไอติมยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้ฝรั่งหัวทองที่ทำหน้างง ไอติมเลยขยับปากและชี้นิ้วไปที่โทรศัพท์เป็นการบอกว่าให้คุยกับคนในสาย แซ็ครับโทรศัพท์มาแนบหู
“Hello… ah, yeah… where are you now… you drive through the…” แซ็คอธิบายเส้นทางให้เดนรัว ๆ แบบที่ไอติมฟังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพราะแซ็คพูดเร็วมาก ซึ่งสำหรับเดนก็ไม่ใช่ปัญหาในการฟัง รัวภาษาอังกฤษกับเพื่อนสนิทเขาอยู่สักแปบแซ็คก็ยื่นโทรศัพท์กลับคืนมาให้ ไอติมมองหน้าจอก็เห็นว่าเพื่อนสนิทวางสายไปแล้ว
“You go back now? (กลับตอนนี้เลยเหรอ)”
“Back to ซานฟราน” แซ็คอ้าปากค้างนิดหน่อยแต่ก็แค่แปบเดียวก่อนจะพยักหน้าหนึ่งครั้ง
“When do you go back to Thailand? (กลับไทยเมื่อไหร่)” ไอติมกะพริบตาปริบสองสามทีก่อนจะนึกคำศัพท์ที่จะใช้ตอบที่นึกได้จากโปสเตอร์หนัง
“Soon. (เร็ว ๆ นี้ฮะ)” แซ็คยิ้มมุมปากซ้ายน้อย ๆ และพยักหน้าลงอีกหนึ่งครั้ง ไอติมยิ้มเบา ๆ แต่ใบหน้านั้นปลื้มปริ่ม แววตาเปล่งประกาย
“You fuck me. I’m ready happy.” แซ็คย่นคิ้วด้วยความงงก่อนจะถามด้วยความไม่แน่ใจ
“You mean, already happy? (หมายถึงออลเรดี้แฮปปี้รึเปล่า)” ไอติมอ้าปากค้างและทำหน้าตกใจเล็กๆ
“Oh, yes, yes, already happy.” ฝรั่งหัวทองส่ายหัวเบา ๆ แต่หน้าตาก็ขำกับการใช้ภาษาอังกฤษของไอติม ถึงมันจะตลก แต่อย่างน้อยเจ้าเด็กลามกมันก็มีความพยายามที่จะใช้
ใช่ ไอ้เด็กนี่มันมีความพยายามสูงจริง ๆ แล้วตอนนี้ความพยายามนั้นก็สำเร็จแล้ว
“Then, I can’t talk with you anymore if you go back. (ฉันก็ปรึกษานายไม่ได้อีกสินะถ้านายกลับไปแล้ว)” แซ็คแซวยิ้ม ๆ ไอติมยิ้มตามแต่เป็นยิ้มแบบงง ๆ ว่าตัวเองกำลังเข้าใจประโยคนั้นว่าอะไร
“Can not talk to me เหรอ you talk with me?” แซ็คกลอกตากับภาษาที่มันเริ่มจะมั่ว จริง ๆ มันก็มั่วมาตลอดนั่นแหละ แต่อันนี้คือมั่วแบบสื่อสารไม่เข้าใจกันละ
“It’s okay. Forget it. (ไม่เป็นไร ลืมมันเถอะ)” ไอติมยิ้มเอ๋อ อันนี้คืออ๊องไปแล้ว แต่ก็ยังจับคำศัพท์ได้หนึ่งคำเลยโพล่งขึ้นมา
“No forget. No forget you. (ไม่ลืมหรอก ไม่ลืมคุณ)” ไอติมย่นคิ้วพร้อมกับส่ายหัวเป็นเด็ก ๆ ต้องการจะสื่อว่าเขาไม่มีทางลืมแซ็ค เขาจะไม่ลืม
แซ็คมองแววตาที่จริงจังกับประโยคที่บอกว่าเจ้าตัวจะไม่ลืมจริง ๆ แล้วก็คลี่ยิ้ม ความรู้สึกภายในอกนั้นยังคงอุ่น ไอติมเลื่อนมือขึ้นจากเข่าของเขามาวางบนหลังมือขวาและลูบเบา ๆ พร้อมกับยิ้มกริ่ม แซ็คพยักหน้าสองสามที
“Shall we say goodbye? (บอกลากันเลยมั้ย)” ไอติมเอียงหน้าหน้าคิดแปบหนึ่ง หน้าตาไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่
“Goodbye? (ลาก่อนเหรอ)” แซ็คพยักหน้า
“You are going back. (นายกำลังจะกลับนี่)”
“Back? Oh, okay goodbye.” ไอติมปล่อยมือออกจากหลังมือของแซ็คแล้วยกขึ้นมาโบกสะบัดและยิ้มกว้างให้กับพระเอกขวัญใจตัวเอง แซ็คมองไอติมนิ่งพักหนึ่งก่อนยกมือขวาขึ้นโบกหนึ่งที
“Thank you. My dream come true. (ขอบคุณนะฮะ ความฝันผมเป็นจริงแล้ว)” แซ็คมองรอยยิ้มของไอติม รอยยิ้มที่เขานึกสงสัยว่ามันผุดขึ้นง่ายเหลือเกินบนหน้าเรียวสวยนั่น
แต่เอาจริง ๆ มันก็ไม่ยาก ก็แค่ยิ้ม และใช่ว่าตัวเขาเองก็ยิ้มไม่เป็น เพียงแต่ไอ้เด็กมือไวใจกล้าคนนี้มันยิ้มบ่อย ยิ้มเก่งจนเหนื่อยแทน
“I will miss you. Forget me not. I will look your porn forever. (ผมจะคิดถึงคุณ อย่าลืมผมนะ ผมจะดูหนังโป๊คุณตลอดไป)” ด้วยความที่กลัวลืมเลยพูดประโยคที่เอาไว้ใช้บอกลากันแบบเพราะ ๆ ออกมารัว ๆ ท่องมาจากอินเตอร์เน็ตทั้งนั้น
แซ็คยิ้มบาง ไอติมลุกขึ้นยืนแล้วอ้าแขนออก ฝรั่งตัวโตขยับยิ้มอีกนิดพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วอ้าแขนออก ไอติมหัวเราะเดินเข้าไปกอดแซ็คเต็มวงแขน สูดดมกลิ่นเนื้อหอม ๆ เข้าจมูกไว้มาก ๆ กะให้กลิ่นนี้อยู่ในต่อมความทรงจำไปนานๆ
“Thank you. (ขอบใจ)” แซ็คพึมพำ ไอติมขมวดคิ้ว
“Thank you what? (ขอบคุณอะไรเหรอ)”
“Just thank you. (แค่ขอบคุณน่ะ)” ไอติมดึงหน้าออกจากอกของแซ็คแล้วยืดคอขึ้นหอมแก้มแซ็คทั้งสองข้างดังฟอด แซ็คเห็นว่าไหน ๆ เด็กมันจะกลับแล้วเลยหอมแก้มเอาใจไปหนึ่งที เป็นรางวัลสำหรับแฟนคลับตัวจริงของเขาก็แล้วกัน
ไอติมยิ้มระริกระรี้ หน้าตาสดชื่น “Fuck again? (เอากันอีกรอบมั้ย)”
แซ็คทำหน้าดุ กดหน้ามองไอติมเป็นการปราม ไอติมหัวเราะคิกและเขย่งเท้าเพื่อเอาหน้าวางไว้บนไหล่ซ้ายของแซ็ค สองแขนกอดร่างใหญ่หนาของพระเอกหนังโป๊คนโปรดของตัวเองไว้แน่น
“Hope to see you again. (หวังว่าคงได้เจอกันอีก)”