เพื่อนร่วมงานแบบที่ 31
เบลกดปลายจมูกไปที่แก้มขาว ๆ ที่พอนึกได้ตอนที่เห็นหน้ากันชัด ๆ ก่อนไฟจะดับ ทั้งจูบทั้งซุกไซร้เรื่อยไปจนถึงซอกคอเนียนขาวและวนเวียนกลับมาที่ริมฝีปากนุ่มที่ขบเม้มเข้าหากันอีกครั้ง ชยาพยายามขืนตัวออกห่างในคราวแรก แต่ไม่นานก็ยอมโอนอ่อนไปพร้อมกับเบลด้วย และถึงแม้อีกฝ่ายจะขัดขืนไม่ยอม เบลก็คิดว่าจะทำแบบนี้อยู่ดี
เบลอุ้มชยาขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ที่ใช้สำหรับเช็กเอกสาร จูบคนที่หมดเรี่ยวแรงจนพอใจอย่างที่ต้องการ บดเบียดริมฝีปากร้อนเข้าหาที่ริมฝีปากนิ่มของชยาที่เพียงไม่นานก็ยอมให้ปลายลิ้นของคนที่แสดงความรู้สึกที่อยู่ในใจออกมาทั้งหมด สอดปลายลิ้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัดรัดพัวพันปลายลิ้นที่ถอยหนีของชยาจนแทบจะสำลักเพราะหายใจไม่ทัน และเบลก็ยังไม่ยอมหยุด จูบอย่างที่อยากทำ ส่งผ่านความรู้สึกที่เอ่อล้นให้ไปถึงหัวใจของชยา
กว่าจะยอมถอนริมฝีปากออกได้ก็ใช้เวลานานจนชยาแทบหายใจไม่ทัน ปากคงเจ่อไปหมดเพราะโดนจูบและชยาก็ได้แต่นั่งนิ่งและหอบหายใจหนักอยู่อย่างนั้น หน้าผากแตะอยู่ที่แผ่นอกกว้างของคนที่ทำตามใจตัวเองจนถึงที่สุดและชยาก็ไม่สามารถขยับร่างกายได้ ปล่อยให้เบลกอดเอาไว้จนพอใจ
“คุณหนู คุณหนู คุณหนู”
เสียงที่เรียกอยู่ที่ข้างหู ทุ้มนุ่มอ่อนโยนแผ่วเบาและชยาที่ได้ยินสิ่งที่เบลพูดก็กำมือลงที่อกเสื้อของเบล ไม่มีเรี่ยวแรงจะตอบ นิ่งเงียบอยู่ในอ้อมแขนของคนกอดและเบลก็วางปลายคางลงบนกลางกระหม่อมของชยา สอดมือเข้าไปในเสื้อ ลูบไล้แผ่นหลังเนียนของชยาเพราะอยากสัมผัสแบบนี้มานานแต่ก็ไม่มีโอกาสได้ทำ
“เข้าใจหรือยัง”
ชยายังคงนิ่งเงียบและทำอะไรไม่ถูก ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ผลักไสหรือพยายามออกห่าง
เสียงฟ้าร้องครืน ๆ มาพร้อมกับแสงสว่างเป็นพัก ๆ พอให้เห็นกันได้เลือนราง คนสองคนยังกอดกันเงียบ ๆ ในความมืดและฝ่ามืออุ่น ๆ ของเบลยังลูบไล้ที่แผ่นหลังของชยาอยู่อย่างนั้น
แม้อยู่ในความมืดและต่างฝ่ายต่างเงียบงันแต่ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่ชัดเจนมากขึ้นและทำให้อบอุ่นไปถึงหัวใจ
และถึงแม้จะไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ชยารู้สึกดีและมีความสุขมากที่ได้ใกล้ชิดกับเบลแบบนี้ ไม่ได้โกรธหรือรังเกียจ ไม่ได้โมโหจนคิดอยากผลักไสแต่ก็ยังไม่แน่ใจกับความรู้สึกของตัวเอง
แสงจากหลอดไฟที่กระพริบเตือน เพียงไม่นานจากความมืดมิดก็สว่างชัดเจนขึ้นอีกครั้ง ชยาผละออกจากคนที่กอดเอาไว้ทันที และลงจากเคาน์เตอร์เช็กเอกสารมายืนอยู่ตรงหน้าของเบลแล้ว
เบลถอยไปนั่งอยู่ที่เก้าอี้ห่างออกไปและชยาที่กำลังก้มหน้าก้มตาไม่มองหน้าเบลเลยสักนิดก็ยกหลังมือขึ้นเช็ดที่ริมฝีปาก และเบลก็เมินหน้าหนีไม่อยากมองคนที่เพิ่งทำเรื่องบางอย่างด้วยกันมา ไม่ใช่ไม่อยากมองเพราะรู้สึกไม่ดี แต่ที่ไม่อยากมองเพราะกลัวว่าจะทำให้ชยาอึดอัดใจจนเกินไป และชยาก็เหลือบสายตามองคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้และไม่ได้พูดอะไรกับชยาอีกเลยสักคำ
หัวใจกำลังเต้นแรงรัวขึ้นเรื่อย ๆ ทำตัวไม่ถูกตอนที่ได้เห็นหน้ากันชัด ๆ และผู้จัดการที่นัดให้เบลมาช่วยรับสินค้าเข้าคลังก็เดินมาจากประตูส่งของที่ลานรับสินค้า
“เดี๋ยวรถกำลังเลี้ยวเข้ามาแล้ว อ้าวคุณชยาก็มาด้วยเหรอครับ ทำไมเสื้อผ้าหลุดลุ่ยแบบนั้นล่ะครับ อ่อใช่ ฝ่าฝนมาเลยใช่มั้ยครับ ขอโทษที่รบกวนแต่งานมันด่วนจริง ๆ”
ชยารีบจัดแต่งเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่ และเบลที่แอบเหลือบสายตามองก็อยากจะยิ้มแต่ก็ต้องพยายามสะกดกลั้นไม่ให้แสดงความรู้สึกออกมา
ลุกขึ้นและเดินไปยืนรอรถส่งของที่กำลังจะเข้ามาที่ลานรับสินค้าและชยาก็เดินตามไปเงียบ ๆ หลังจากที่จัดการกับเสื้อผ้าเรียบร้อย คนสองคนตั้งใจทำงานและขยันขันแข็งจนเกินเหตุโดยที่ไม่พูดกันเลยสักคำและผู้จัดการก็มองเบลกับชยาด้วยความสงสัย
“นี่พวกคุณไม่ได้ทะเลาะกันใช่มั้ยครับ”
เบลมองมาที่ชยาและชยาก็มองมาที่เบลเหมือนกัน สบตากันแค่เล็กน้อยแล้วต่างฝ่ายต่างก็เมินหน้าหนีและพูดปฏิเสธขึ้นมาพร้อมกัน
“เปล่าครับ”
“ไม่มีอะไรจริง ๆ ครับผู้จัดการ พวกเราไม่ได้ทะเลาะกัน”
แต่แบบนี้มันเหมือนทะเลาะกันชัด ๆ
ผู้จัดการขมวดคิ้วและมองมาด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามให้มากความ บอกว่าไม่ทะเลาะก็คือไม่ทะเลาะ แค่คุณชยากับเบลไม่ได้ทะเลาะกันและสามารถทำงานด้วยกันได้ก็พอแล้ว
+++
อยากจะอ้อยอิ่งคุยด้วยอีกหน่อย แต่ฝนที่เพิ่งหยุดไปก็เริ่มลงเม็ดอีกแล้ว เบลมาส่งชยาที่หน้าบ้านและชยาที่ลงจากรถก็ถอดหมวกกันน็อคและส่งให้เบล ไม่ได้ขอบคุณ ไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำแต่หลบสายตาและเบลก็อยากจะรั้งชยาเอาไว้อีกสักหน่อย
“พรุ่งนี้คุณต้องพาคุณแม่ไปหาหมอใช่มั้ย เดี๋ยวผมจะมารับแต่เช้าจะได้ไม่ต้องเรียกรถให้ลำบากกัน”
ชยาคิดว่าแบบนี้เป็นการรบกวนอีกฝ่ายจนเกินไป รีบเอ่ยปากปฏิเสธและเบลก็ส่ายหน้าไม่ยอมรับสิ่งที่ชยาบอก
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมเรียกแท็กซี่ก็ได้”
“ไม่ได้ คุณไม่ควรเกรงใจผมจนทำให้คุณแม่ของคุณต้องลำบากไปด้วย หน้าที่ลูกที่ดีคืออำนวยความสะดวกสบายให้พ่อแม่ และผมยินดีช่วยให้คุณทำหน้าที่ลูกที่ดี”
เบลก็แค่อยากทำสิ่งที่ควรทำ ยินดีทำให้ทุกอย่างและไม่ต้องการให้ชยาปฏิเสธความช่วยเหลือ
“เวลาที่ลำบาก คุณต้องหัดขอความช่วยเหลือจากคนอื่นซะบ้าง”
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ ผมไม่อยากสร้างปัญหาหรือความเดือดร้อนให้ใคร”
“พูดไม่ฟัง ดื้อขนาดนี้ คุณอยากโดนทำโทษใช่มั้ย”
แววตาและรอยยิ้มของเบลที่มองมา ทำให้ชยาเข้าใจคำว่า “ทำโทษ” ของเบลได้อย่างชัดเจน แค่คำขู่คำเดียวของเบลก็ทำให้ชยายกมือขึ้นปิดปากตัวเอง และขยับกายถอยห่างจากคนที่อยู่ตรงหน้าทันที
ทำไมจะจำไม่ได้ว่าโดนทำอะไรบ้าง สัมผัสร้อนแรงที่ทำให้ชยาไม่มีเรี่ยวแรงปฏิเสธ ไม่ว่ายังไงก็คงไม่กล้าลืม
เบลอมยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก ถอดหมวกกันน็อคแขวนเอาไว้และดึงแขนชยาให้เข้ามาหา
“เบล !”
เรียกให้เบลได้ยิน และเบลก็กดปลายจมูกไปที่ต้นแขนของชยาแรง ๆ จนชยาต้องผลักใบหน้าของเบลให้ออกห่าง
“เสียเป็นแสนแล้ว ขอดมแขนสักทีเถอะ”
คำพูดเหลวไหลที่สุดของคนที่ยิ้มกว้างจนตาหยีทำให้ชยาต้องเมินหน้าหนีและผลักไหล่ให้เบลรีบกลับได้แล้ว
“มากเกินไปแล้วนะ”
ตรงไหนที่ว่ามากก็ไม่รู้ แต่ที่รู้คือสำหรับเบลอยากได้มากกว่านี้อีกมาก ๆ แบบไม่มีที่สิ้นสุด
“พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวผมมารับนะ”
ชยาก็เลยต้องพยักหน้ารับและเบลก็ส่งยิ้มให้กับคนที่ทำให้วันนี้เป็นอีกวันที่มีความสุขมากที่สุดอีกหนึ่งวัน
“ผมไปแล้วนะ ถึงแล้วเดี๋ยวผมส่งข้อความหา”
ไม่จำเป็นต้องรายงานตัวขนาดนี้ก็ได้ แต่เบลรู้สึกว่าไม่ได้ทำแบบนี้มานานแล้วและรู้สึกดีที่ได้ทำ
ชยาไม่ได้ตอบรับ และเบลก็สวมหมวกกันน็อคและบิดคันเร่งมอเตอร์ไซค์จากไปแล้ว
ชยาใช้ชีวิตปกติเหมือนทุกวัน เข้าบ้าน อาบน้ำและกำลังจะเข้านอน
เสียงข้อความในโทรศัพท์ดังขึ้นมาและชยาก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูทันทีหลังจากที่รอข้อความของเบลอยู่นาน
...ผมถึงบ้านแล้ว ไม่เปียกฝน กำลังจะนอน และคิดถึงคุณหนูมาก ๆ...
รีบวางโทรศัพท์ทันทีและชยาก็เขี่ยโทรศัพท์ให้ออกห่างไปไกล ๆ ตัว
ได้แต่มองโทรศัพท์ที่มีข้อความของเบลอยู่ห่าง ๆ และชยาต้องใช้เวลาตั้งสติอยู่นานกว่าจะสามารถระงับความรู้สึกของตัวเองไม่ให้หัวใจเต้นรัวและไม่หน้าแดงเพราะข้อความที่เบลส่งมา
ค่อย ๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความอีกครั้งและก็เห็นข้อความถัดมาที่เบลส่งมาให้
...อ่านแล้วแต่ไม่ตอบ ผมจะตามไปบอกว่าคิดถึงคุณหนูในฝัน...
ข้อความบ้าบออะไร ทั้งเลี่ยนทั้งชวนให้ขนลุก ไม่รู้ว่าตอนที่เบลพิมพ์ข้อความแบบนี้มาทำหน้ายังไงและคิดอะไรอยู่ถึงได้พิมพ์ข้อความแบบนี้ส่งมาให้
ชยาแค่เพียงส่งรูปภาพนอนคลุมโปงให้รู้ว่าเข้านอนแล้วกลับไป และไม่ได้พิมพ์ตอบอะไรเลยสักข้อความ และเบลที่กำลังรอข้อความจากชยาก็ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
ล้มตัวลงนอนพร้อมกับโทรศัพท์ในมือ
เพิ่งรู้ว่าความรู้สึกที่เหมือนได้กลับไปอายุ 14 อีกครั้ง มันทำให้ชุ่มชื่นหัวใจและมีความสุขมากที่สุดก็วันนี้เอง
TBC.