นิยายจีน มังกรซ่อนหิมะ ตอนที่41 บทสรุป p15 8/10/60 จบแล้วจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายจีน มังกรซ่อนหิมะ ตอนที่41 บทสรุป p15 8/10/60 จบแล้วจ้า  (อ่าน 75777 ครั้ง)

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
สั้นไปปปป  :ling1: มาหลังสอบเสร็จ เย้ๆ พน.ก็สอบแต่หนังสือก็อ่านหลังนิยาย  :hao5: มาต่อเร็วๆน้าาา :กอด1: o13

ออฟไลน์ lovetogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มาต่อเร็วๆนะ รออยู่จ้าาาาา :katai2-1:

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
ตอนที่20



ถูกคณะของอู่เหว่ยกั๊วะนำพามาสู่ทุ่งหญ้าซึ่งห่างออกไปไม่ไกลจากเมืองเหวยกัง เมื่อมาถึงพวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างดี เสวี่ยหมิงและเสี่ยวหลงเข้าพักที่กระโจมใหญ่โตซึ่งจัดเตรียมไว้ให้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง



“เพราะอะไรเจ้าถึงสนับสนุนให้ข้ายอมรับว่าเป็นคนรักกับเม่ยเหนียงเล่าเสี่ยวหลง” ทันทีที่ได้อยู่ตามลำพังเสวี่ยหมิงก็ถามในสิ่งที่คับข้องใจมาตลอด



“เพราะข้าคิดว่ายังไงพี่ใหญ่ก็จะไม่แต่งงานกับเม่ยเหนียงน่ะสิ”



“เพราะอะไรเจ้าจึงเชื่อเช่นนั้น” เสวี่ยหมิงรอฟังคำตอบอย่างสนอกสนใจ



“เพราะว่าข้ารู้ว่าในใจของพี่ใหญ่มีข้าแล้วอย่างไรเล่า”



 เสี่ยวหลงยิ้มกว้างทั้งยักคิ้วหลิ่วตา เสวี่ยหมิงไม่แน่ใจว่าเด็กน้อยนี่แค่พูดเล่นหรือรับทราบความในใจของเขาจริง ดังนั้นจึงตกประหม่าและตั้งตัวไม่ทัน ใบหน้าซับสีเรื่อจนเห็นได้ชัด



“อ๊ะพี่ใหญ่หน้าแดงด้วย” ยิ่งเสี่ยวหลงล้อเลียนยิ่งทำตัวไม่ถูก เมื่อตั้งสติได้เขาจึงลงมือเขกศีรษะเด็กน้อยหนึ่งทีเป็นการตักเตือน



“พี่ใหญ่ใยทุบตีข้า” เสี่ยวหลงลูบหัวทั้งแสร้งทำหน้าเสียขวัญ หากว่าเขาไม่รู้จักนิสัยเด็กน้อยนี่ดี คงใจอ่อนไปแล้ว



“บอกเหตุผลที่แท้จริงมา ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่ยอมพูดกับเจ้าอีกเลย”



“โธ่พี่ใหญ่ ข้าก็พูดความจริงนะ ที่ข้าสนับสนุนให้ท่านโกหกเป็นคนรักของเม่ยเหนียงเพราะสงสารนางอยากจะแก้สถานการณ์ให้นางชั่วคราว อีกอย่างคาดว่าถึงตกกะไดพลอยโจนไปคาดว่าพี่ใหญ่คงไม่แต่งงานกับนางหรอก”



“ใยเจ้าถึงคิดเช่นนั้น”



“เพราะพี่ใหญ่มีหน้าที่ที่ต้องทำนะสิ ถึงท่านไม่บอกข้าก็เดาได้ พี่ใหญ่ยังมีที่ที่ต้องให้เดินทางไป ดังนั้นคงไม่รีบตกแต่งภรรยา เอหรือว่าข้าเข้าใจผิด”



เสี่ยวหลงทำท่าทางราวกับผู้หยั่งรู้ มันกอดอกแล้วยักคิ้วด้วยความภาคภูมิ



“เจ้าไม่คิดบ้างหรือว่าบางทีข้าอาจจะอยากตกลงปลงใจกับเม่ยเหนียงดูก็ได้ เจ้าไม่รู้หรือว่าหากนางไม่ต้องแต่งงานกับเหลยเฟิงเพราะข้า พ่อของนางย่อมต้องมุ่งหวังให้นางแต่งงานกับข้า”



ตอนนี้เองที่เสี่ยวหลงลูบคางทำท่าครุ่นคิด มันไม่ใช่ว่าไม่คิดถึงเรื่องนี้ ทว่าขอเพียงมันจัดการกับเหลยเฟิงได้ทุกอย่างย่อมง่ายดายยิ่ง ด้วยฝีมือของมันแค่จัดการปลิดชีวิตตัวเกะกะซักหนึ่งคนทำได้ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ กระนั้นยังอยากให้วิธีนั้นเป็นขั้นสุดท้ายจริงๆ



“ข้าลืมนึกถึงเรื่องนั้นไปเลยพี่ใหญ่”

มันยักไหล่แล้วแลบลิ้นอย่างซุกซน มันน่าทุบตีให้น่วมนัก ทว่าขณะที่คิดจะเข้าไปสั่งสอนด้วยมือไม้เม่ยเหนียงก็เข้ามาในกระโจมเสียก่อน



“ข้ามารบกวนหรือเปล่าคะ”



“แหมจะว่ารบกวนก็ใช่ แต่ถึงเราจะบอกอย่างนั้น เจ้าก็ยังมีธุระกับเราใช่ไหมเล่า” เสี่ยวหลงยังปากคอเราะร้ายไม่เปลี่ยนสุดท้ายเสวี่ยหมิงต้องลงมือทุบตีเด็กน้อยอีกครั้ง



“อย่าไปฟังเด็กน้อยนี่พูดไร้สาระ เม่ยเหนียงมีอะไรก็พูดมาเถอะ”

เมื่อได้รับอนุญาตเม่ยเหนียงก็ยิ้มกว้างนางเดินเข้ามาข้างในพร้อมกับลดกายลงนั่งบนเบาะที่เตรียมไว้ตรงหน้าเสวี่ยหมิง



“ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพี่ใหญ่กับเสี่ยวหลงมากที่ช่วยโกหกเรื่องเป็นคนรักของข้า ขอบคุณจริงๆ” เม่ยเหนียงก้มหัวให้เสวี่ยหมิงหลายครั้ง จนเขาต้องเข้าไปประคองให้นางหยุดการกระทำ



“หากอยากขอบคุณเจ้าช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับเจ้าและเหลยเฟิงมาจะดีกว่านะเม่ยเหนียง” เสี่ยวหลงกล่าว ซึ่งเสวี่ยหมิงเองก็เห็นด้วย



“เรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ เดิมที่เหลยเฟิงมาในนามพรรคมังกรพิโรธ มาเพื่อเกลี่ยกล่อมค่ายอาชาของเราให้ทำการต้อนม้าทั้งหมดที่เรามีไปยังรัฐหลี ซึ่งแต่เดิมพวกเราตระกูลอู่ตามจริงใช้ชีวิตร่อนเร่ไม่ติดที่อยู่แล้ว ทว่าประมาณสามชั่วอายุผู้นำจนถึงท่านพ่อเราปักหลักอยู่ในรัฐฉินและมีสถานะมั่นคงถึงขั้นไม่อยากจะย้ายถิ่นฐานไปไหน”



นางเว้นจังหวะพูดชั่วครู่ เสวี่ยหมิงฟังอย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะเสี่ยวหลง ยามนางกล่าวถึงความเกี่ยวพันธ์ของพรรคมังกรพิโรธกับรัฐหลี ดวงตาของมันพลันลุกวาวประดุจเสือร้าย



“เหลยเฟิงมาเข้าพบท่านพ่อหลายครั้ง ทว่าครั้งล่าสุดที่มาพบเขาบังเอิญได้พบข้า ไม่รู้ว่าทำไมหัวข้อเจรจาครั้งต่อมาจึงได้มีการสู่ขอข้าไปเป็นภรรยาด้วย พี่ใหญ่เองก็รู้ใช่ไหมคะว่าเหลยเฟิงผู้นี้รวบรวมหญิงสาวมากมายมาไว้ในมือ ข้าได้ยินข่าวลอยลมมาบ้าง”



“ดังนั้นเจ้าถึงรังเกียจเขาหรือ” เสวี่ยหมิงถาม



“ไม่แค่นั้นหรอกค่ะ คนผู้นี้มักช่วยโอกาสลวนลามข้าเมื่ออยู่ตามลำพังบ่อยครั้ง ข้าเกลียดเขาค่ะ เรื่องนี้ข้าบอกท่านพ่อบ่อยครั้ง ทว่าท่านพ่อมีเรื่องให้ต้องลำบากใจหลายอย่าง ตามจริงท่านพ่อไม่ต้องการย้ายถิ่นฐานไปรัฐหลี ทว่าพวกเราเองก็ใช่ว่าจะมีเส้นสายหรือพวกพ้องนอกจากพี่น้องในค่ายอาชา ดังนั้นเมื่อเหลยเฟิงข่มขู่ว่าจะรวบรวมคนของพรรคมังกรพิโรธมาขยี้เรา ท่านพ่อจึงคิดหนักเพราะชีวิตของคนในค่ายอาชาย่อมต้องสำคัญ”



“สำคัญกว่าชีวิตของเจ้าทั้งชีวิตด้วยสินะ” เสี่ยวหลงกล่าวอย่างเราะร้าย ตอนนี้เม่ยเหนียงน้ำตาคลอทั่วดวงตา เสวี่ยหมิงใช้สายตาตำหนิมองดูเด็กน้อยหากแต่มันทำแค่เพียงยักไหล่



“อย่างนี้จะให้เราช่วยเจ้าอย่างไรดี” เสวี่ยหมิงถาม



“ไม่มีอะไรที่พี่ใหญ่กับเสี่ยวหลงจะช่วยได้หรอกค่ะ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ข้าก็ทำใจขึ้นมาได้บ้างแล้ว”



เม่ยเหนียงยิ้มทั้งน้ำตา เสวี่ยหมิงเข้าไปปลอบโยนนาง ในขณะที่เสี่ยวหลงครุ่นคิดถึงแผนการณ์ของผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมด หากมันคาดไว้ไม่ผิดหลงเยี่ยอิ่งตัวปลอมอาจมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อรัฐหลี เรื่องสำคัญเช่นนี้ยิ่งต้องควรแจ้งไปยังนายเหนือหัว นับว่าการที่มันพาทั้งพี่ใหญ่และตัวเองเข้ามาพัวพันครั้งเป็นเดินหมากได้ถูกทางอยู่ไม่น้อย



มันตัดสินใจจะให้ราชสำนักติดต่อเข้ามาจัดการกับค่ายอาชา เพราะเล็งเห็นความสำคัญของม้าเหงื่อโลหิต ม้าชั้นเลิศขนาดนี้หากมีจำนวนมากไว้ในกองทัพคาดว่าจะช่วยให้กองกำลังของรัฐฉินมีประสิทธิ์ภาพมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว



จากการอนุมานเพียงเล็กน้อยทั้งการที่หลงเยี่ยอิ่งตัวปลอมใช้ให้เยิ่นเสียนฉีไปชโมยแปลนอาวุธทางการทหารจากตึกศาสตราก็ดีหรือการเรียกร้องให้ค่ายอาชาซึ่งเพาะม้าชั้นเลิศต้อนม้าไปรัฐหลีก็ดี ตอนนี้ข้อเท็จจริงในใจของมันกระจ่างชัด คาดว่าพรรคมังกรพิโรธคงถูกแทรกซึมด้วยคนของรัฐหลีเป็นแน่แท้



มันเป็นใครกันนะ ใครกันที่มีเส้นสายถึงกับยึดพรรคมังกรพิโรธได้ในพริบตา คนที่จะทำเช่นนี้ได้มีแค่สองคนเท่านั้น หากไม่ใช่หลี่มู่ไป๋ก็ต้องเป็นอิงเฟย การติดต่อกับราชสำนักครั้งนี้นอกจากช่วยเหลือค่ายอาชาแล้วมันยังต้องขอให้ช่วยสืบประวัติของศิษย์พี่ศิษย์น้องสองคนของมันด้วยเช่นกัน



“พี่ใหญ่เราไปทานอาหารเย็นกันเถอะค่ะ ที่ข้ามานี่ก็เพราะท่านพ่อให้ข้ามาชวน”

กล่าวจบเม่ยเหนียงก็นำพาไปยังกระโจมซึ่งบิดานางรอคอยอยู่ เมื่อไปถึงพวกเขาจึงร่วมรับประทานอาหารค่ำกับเม่ยเหนียงและอู่เหว่ยกั๊วะ



“อิ่มแปล้เลย”



 เสี่ยวหลงลูบท้องไปมาหลังจากกลับมายังกระโจมที่พักของตัวเอง เสวี่ยหมิงได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ เด็กน้อยนี่ทั้งดื่มทั้งกินไปมาก แถมปากยังกล่าวชมว่าอร่อยๆไม่ขาดปากทำให้อู่เหว่ยกั๊วยิ้มพึงพอใจตลอดการรับประทานอาหารมื้อนี้



“เจ้าทานมากเกินไปแล้วนะ”



“ก็มันอร่อยนี่พี่ใหญ่”



กล่าวพลางล้มตัวลงนอนบนที่นอนหนานุ่มซึ่งเตรียมเอาไว้ เสี่ยวหลงพลิกตัวนอนตะแคงพลางใช้มือตบลงบนฝูกข้างตัวเป็นสัญญาณเรียกให้เสวี่ยหมิงเข้าไปนอนร่วมเตียงกับมัน



“พี่ใหญ่มามะเราเข้านอนกันเถอะ”

ไม่พูดเปล่าเด็กน้อยยังส่งจูบมาให้ เสวี่ยหมิงไม่ทราบว่าจะควบคุมความรู้สึกได้เช่นไร เพราะตอนนี้เขาคันในหัวใจจนยากที่จะเกา



“พี่ใหญ่เร็วๆสิ ข้ารอท่านอยู่น้า”

เด็กน้อยชักจะงอแง เสวี่ยหมิงทำเพียงส่ายหน้า ทว่าก่อนจะเดินเข้าไปหา พลันได้ยินเสียงเรียกของอู่เหว่ยกั๊วะที่หน้ากระโจม



“คุณชายเสวี่ยนอนแล้วหรือยัง”



“ข้ายังไม่นอนท่านอู่เหว่ยกั๊วะ มีเรื่องอันใดหรือ”



“ข้าขอเวลาคุยกับท่านหน่อยได้หรือไม่”



“ย่อมได้อยู่แล้ว” เสวี่ยหมิงเดินออกไปนอกกระโจมแล้วพบว่าอู่เหว่ยกั๊วะยังอยู่ในชุดเต็มยศ



“ไปเดินเล่นพูดคุยกับข้าหน่อยเถอะคุณชายเสวี่ย”



กล่าวจบอู่เหว่ยกั๊วะก็เดินนำทางเสวี่ยหมิงไป ขณะที่เดินไปตามทางอย่างเงียบๆเขาก็รอคอยอย่างใจจดจ่อให้อีกฝ่ายกล่าววาจาเสียที เมื่อพวกเขาสองคนเดินไปถึงคอกม้าในที่สุดอู่เหว่ยกั๊วะก็เริ่มพูดจนได้



“ข้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าท่านกับเม่ยเหนียงหาได้เป็นคนรักกันไม่”



 อู่เหวยกั๊วะกล่าวพลางมองดูดวงดาวยามค่ำคืน เสวี่ยหมิงนึกอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะต้องรู้ เพราะเขากับเม่ยเหนียงยังไม่สามารถแสดงเป็นคนรักกันได้แนบเนียนอย่างแท้จริง



“ท่านไม่เคยได้ยินชื่อเสียงในทางเลวร้ายของเหลยเฟิงหรือขอรับท่านอู่”

ตอนนี้เองที่อู่เหว่ยกั๊วะถอนหายใจ



“เจ้ามีใจให้บุตรีของข้าบ้างหรือไม่” คำถามนี้เสวี่ยหมิงตอบได้ในทันที



“ข้าเห็นเม่ยเหนียงเป็นแค่น้องสาว”



“ถ้าอย่างนั้นเพราะเหตุใดเจ้าถึงยอมโกหกว่าเป็นคนรักเพื่อช่วยนาง”



“เพราะว่าข้าสงสารนาง ส่วนอีกเหตุผลที่เหลือข้าไม่สามารถบอกท่านได้” ใช่แล้วเหตุผลคืออยากจะสืบเรื่องของพี่รองซักเล็กน้อย ทว่าคราแรกไม่ได้คิดว่าจะเป็นการสืบในสถานะอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้



“เจ้าคล้ายมีเรื่องลำบากใจ” ตอนนี้เองที่อู่เหว่ยกั๊วะหันมาเผชิญหน้า เสวี่ยหมิงมองเข้าไปในดวงตาอันนิ่งสงบของอีกฝ่าย



“หากเป็นเรื่องส่วนตัวข้าคงไม่กล้าถาม ทว่าการยื่นมือเข้าช่วยเหลือของเจ้าครั้งนี้นับว่ามาได้ถูกเวลา ตามจริงข้าพยายามหาข้อบ่ายเบี่ยงเรื่องบุตรีอยู่หลายทาง แต่ไม่มีผู้ใดที่งามสง่าพอจะนำมาเป็นข้ออ้างปฏิเสธการดูตัวของเหลยเฟิงได้”



“หมายความว่าท่านอู่อยากให้ข้าช่วยโกหกเรื่องเป็นคนรักของเม่ยเหนียงต่อไป” อู่เหว่ายกั๊วะยิ้มกว้างแทนคำตอบ



“เรื่องย้ายถิ่นฐานก็อีกเรื่องที่เราลำบากใจ เรื่องบุตรีเราก็ลำบากใจไม่แพ้กัน แต่เรื่องบุตรีของเราย่อมสำคัญกว่า เราไม่อยากให้บุตรีเราแต่งงานไปใช้ชีวิตอย่างไร้สุข”



คำพูดของเสวี่ยหมิงกับอู่เหว่ยกั๊วะเสี่ยวหลงซึ่งแอบฟังอยู่ได้ยินทุกถ้อยคำ เมื่อคิดถึงการแต่งงานอันมีความสุขของเม่ยเหนียงมันก็ได้แต่เหยียดยิ้ม สำหรับกับนางผู้นั้นที่แสนเอาแต่ใจทั้งยังเชื่อมั่นในตัวเองสูง หากไม่ได้เลือกสามีด้วยตัวเองเห็นทีว่าคงจะมีความสุขได้ยาก



หลังจากแอบฟังจนคาดเดาว่าการพูดจาสาระสำคัญจบลงจนหมด เสี่ยวหลงก็พลิ้วกายไปยังสถานที่นัดพบกับผู้ส่งสาร มันรีบเร่งด้วยวิชาตัวเบาขั้นสูงสุดตั้งใจว่าจะกลับไปถึงกระโจมก่อนพี่ใหญ่ของมัน



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



ใกล้จะถึงฉากบู๊แล้วละมั้งอิอิ ขอบคุณที่สละเวลากันเข้ามาอ่านนะคะดีใจมั่กๆ



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ชอบตรงที่มาต่อได้รวดเร็วนี่แหละอิอิ :katai2-1:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ชอบมากค่ะ สนุก อ่านแล้วรู้สึกเหมือนกับอ่านนิยายจีนที่เป็นเล่ม ๆเลย

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
อยู่หน้าห้องสอบก็ยังมาส่องนิยาย  :katai1: :hao7: รอฉากบู๊ค่าาาา  :z6: รอกรี้ด เตรียมป้ายไฟรอ o17 :pig3:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
กลัวแม่นางเหนียงจะฉุดรั้งจริงๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
น่าจะเป็นอย่างที่เสี่ยวหลงคิด
คนที่กล้าทรยศ อาจเป็นพี่ใหญ่หลี่มู่ไป๋
หรือน้องเล็กอิงเฟย
ตัวปลอมกล้าทำเรื่องเลว ไม่กลัวเอิกเกริก
แสดงว่ากุมกำลังส่วนให๋ไว้ได้
และมีกองกำลังหนุนหลังที่แข็งแกร่ง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ติดตามๆ สนุกดี

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ลุ้นทุกตอน

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
ลุ้นทุกตตอนว่าเมื่อไหร่นังเสี่ยวหลงจะยอมบอกความจิงงงงง

ออฟไลน์ numberll

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไม่นะ ไม่แต่งงงง    :ling1:
ไม่ถึงพรรคสักกะที มีแต่เรื่องมามัดเต็มตัว  :a5:

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
ตอนที่21



เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เสี่ยวหลงต้องวิ่งเต้นติดต่อราชสำนักเพื่อช่วยเหลือค่ายอาชาในฐานะหลงเยี่ยอิ่งซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงของมัน ถึงแม้ว่าจะกรำงานหนักจนต้องเหินห่างจากพี่ใหญ่ของมันเป็นช่วงๆแต่ก็นับว่าเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่ไม่สามารถละเลยได้



“องค์ชายแปดตอนนี้ข้าพระองค์เตรียมการทุกอย่างพร้อมแล้วพะยะค่ะ เหลือแค่ส่งคนไปเจรจาเพียงเท่านั้น จากนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคนสกุลอู่จะรับไมตรีของเราไว้ไม่”



หลงเยี่ยอิ่งพยักหน้ารับโดยไม่ตอบคำ ตามจริงแล้วด้วยฐานะองค์ชายของมันกับตราทองคำที่ได้รับมาจากบิดาย่อมสั่งการณ์ให้ลงมือได้โดยไม่ต้องสืบ เพียงแต่ว่ามันต้องการความระเอียดทุกการทำงานดังนั้นจึงรอจนกว่าบิดาของมันจะส่งจดหมายลับมาซึ่งกินระยะเวลาถึงเจ็ดวัน



“วันพรุ่งเจ้าก็เริ่มทำตามแผนการได้ ขอให้ส่งคนที่เฉี่ยวชาญการพูดและเกลี่ยกล่อมที่สุดไป ข้าไม่ยอมรับความผิดพลาดใดใดทั้งสิ้นเข้าใจหรือไม่”



“พะยะค่ะ”

จ้าวเมืองเหวยกังรับคำสั่งของมัน เมื่อปรึกษาหารือจบมันก็รีบจำแลงกายกลับเป็นเสี่ยวหลงแล้วเดินทางไปยังกระโจมของมันกับพี่ใหญ่ในค่ายอาชา



“พี่ใหญ่ดูสิ ปิ่นหยกนี้เหมาะกับข้าไหมคะ”



 เม่ยเหนียงปักปิ่นลงบนมวยผมของนาง เสวี่ยหมิงคล้ายกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัว นั่นก็เป็นเพราะหลายวันมานี่เสี่ยวหลงทำตัวเหินห่างจากเขามากเหลือเกิน



“อื้อ...เหมาะๆมาก”



“จริงนะ ถ้าอย่างนั้นข้าซื้อปิ่นหยกนี่ดีกว่า”



ขณะที่เม่ยเหนียงจ่ายอัฐ เสวี่ยหมิงก็อดมองไปรอบๆไม่ได้ ในใจแอบหวังว่าเสี่ยวหลงจะตามติดมาที่หลัง ทว่าก็ได้แต่ถอนใจ หลายวันมานี่ทุกครั้งที่เม่ยเหนียงชักชวนเขาออกมาเที่ยวเสี่ยวหลงจะอ้างว่าอยากพักผ่อนท่าเดียว



เด็กน้อยนั่นคิดอะไรอยู่กันแน่นะ ไม่ใช่ว่าต้องการจะหลีกทางให้เขากับเม่ยเหนียงหรอกใช่ไหม คิดได้ดังนั้นภายในใจก็ร้อนระอุ เสวี่ยหมิงไม่นึกยอมให้เด็กน้อยทำเช่นนั้น ไหนว่าเจ้าชอบข้านักอย่างไร คำบอกรักบ่อยครั้งที่พ่นออกมา เป็นแค่เสียงเห่าจากปากสุนัขรึ



คิดๆดูแล้วก็รู้สึกใจหายวาบ ชั่วเวลาที่สติกลับมาก็เกิดความละอาย เสี่ยวหลงยังเด็กอาจมีพฤติกรรมเกินเลยไปบ้าง คนที่ถูกอุปโลกน์ให้เป็นพี่อย่างเขาควรจะมีสติคิดให้มากกว่าเด็กน้อยนั่นสิ



แต่จะให้เขากลับไปคิดอย่างพี่น้องแบบเดิมทั้งที่ไฟสุมอกมากขึ้นเรื่อยๆแบบนี้ก็ช่างทรมาณเหลือเกิน หากว่าตนเองกล้าพอที่จะบอกรักกลับมันจะดีซักแค่ไหนนะ ทว่าเกิดกล่าวคำหวานไปแล้วเด็กน้อยปฏิเสธเขาล่ะ แค่คิดก็ราวกลับถูกมีดเฉือนก็ไม่ปาน นี่เขาถลำลึกต่อเสี่ยวหลงมากเกินจะถอยหลังแล้วเชียวหรือ



“พี่ใหญ่เราไปที่ร้านขายผ้ากันเถอะค่ะ”



เม่ยเหนียงซึ่งมีความสุขยิ่งจูงมือเสวี่ยหมิงเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ ตามจริงสมัยที่ยังเป็นบ่าวไพร่เขาก็ถูกคุณหนูเสวี่ยถิงใช้ให้เดินตามแบกของเช่นนี้ประจำ ดังนั้นจึงไม่เกิดความเบื่อหน่ายถึงแม้เม่ยเหนียงจะเดินพล่านไปทั่วเมืองเหวยกัง



“พี่ใหญ่ทางนี้ค่ะ”



 อู่เม่ยเหนียงพยายามปั้นยิ้ม ใยนางจะไม่รู้ว่าพี่ใหญ่กำลังเบื่อหน่าย หลายวันมานี้คาดว่าเป็นเพราะเสี่ยวหลงปฏิเสธที่จะมาเที่ยวเล่นด้วย ตามจริงการที่เสี่ยวหลงไม่มาเป็นก้างทำให้นางดีใจนัก ทว่ากลับไม่สดชื่นเท่าใดเพราะพี่ใหญ่ทำหน้าเหงาๆบ่อยครั้งเมื่ออยู่ตามลำพังกับนาง



พี่ใหญ่คงมีใจให้เสี่ยวหลง ไม่อย่างนั้นคงไม่โหยหาจนแสดงออกถึงเพียงนี้ นางทั้งเจ็บใจและเสียใจ นึกน้อยใจในชะตาฟ้าลิขิตเหตุใดนางถึงไม่ได้เป็นคนเจอพี่ใหญ่ก่อนเจ้าตัวน่าตายนั่นกันนะ ทว่าใช่ว่านางจะเป็นคนโง่เขลา นางยังเหลือหนทางให้กลับหลัง เพราะยังยับยั้งชั่งใจไม่ให้ถลำลึกในตัวพี่ใหญ่มากไปกว่านี้



“เม่ยเหนียงหนึ่งอาทิตย์มานี้เหลยเฟิงมีการติดต่อมาบ้างไหม”



เสวี่ยหมิงถามเพราะว่าหลายวันมาแล้วที่เขามาอาศัยอยู่ในค่ายอาชาเพื่อรอเผยตัวให้เหลยเฟิงรู้จะได้ตัดใจจากเม่ยเหนียงไปเสียที ตามจริงหลายวันมานี้เขาตามสืบเรื่องของเหลยเฟิงมามาก แต่ข่าวคราวที่ได้มีแต่จำนวนหญิงสาวที่ถูกฉุดและซื้อไป การกระทำเยี่ยงนี้เลวร้ายเสียจนเขายอมรับไม่ได้ ทว่าใช่ว่าจะยื่นมือก้าวก่ายช่วยเหลือใครได้ เพราะไม่มีใครเป็นจ้าวทุกข์และเขาเองก็ไม่ใช่มือปราบของทางการเสียด้วย



บางครั้งก็มีใจคิดอยากจะเดินเดี่ยวเข้าไปถล่มช่วยเหลือหญิงสาวหลายนางออกมา ทว่ายังมีความลังเลอยู่มาก หากทำเช่นนั้นจริงมิเท่ากับว่าเผยตัวให้ศิษย์พี่รองทราบและสร้างความบาดหมางกระนั้นหรือ คิดได้ดังนี้ก็ขัดกับความรู้สึกของตนนักถึงแม้จะรู้ว่าเหลยเฟิงกระทำการชั่วช้าซักเพียงไหน แต่ไม่อาจผดุงความยุติธรรมได้ดังใจเพราะหน้าที่ในฐานะศิษย์ของอาจารย์มันรัดตัวจึงต้องคิดให้มากก่อจะลงมือ



“เหลยเฟิงส่งคนมาบอกค่ะว่าจะเข้ามาหาท่านพ่อในอีกสามวัน คงจะมาพูดเรื่องเดิมๆทั้งยังเรื่องของข้าอีกด้วย”



เม่ยเหนียงทำหน้าสลด เสวี่ยหมิงเห็นใจนางก็จริงแค่คาดว่าคงจะอยู่ที่นี้ต่อให้อีกแค่เจ็ดวันเท่านั้น ภายในเจ็ดวันนี้เขาคงจะตัดสินใจขาดได้ว่าจะผดุงความยุติธรรมหรือจะปล่อยเฉยแล้วเดินทางต่อไปดี



เสวี่ยหมิงเดินในเมืองกับเม่ยเหนียงจนเย็นย่ำ ได้ข้าวของกลับมามากมาย เมื่อกลับมาถึงยังค่ายอาชาก็ตรงไปยังกระโจมกลางเพื่อเตรียมรับประทานอาหารเย็นทันทีที่นั้นเสี่ยวหลงกับอู่เหว่ยกั๊วะรออยู่แล้ว



“พี่ใหญ่กลับมาแล้วหรือข้ารอท่านอยู่เลยนึกว่าท่านจะกลับมาไม่ทันอาหารเย็นเสียแล้ว”

แค่ได้เห็นรอยยิ้มของเสี่ยวหลงเขาก็รู้สึกแช่มชื้น ทว่าพอคิดได้ว่าเด็กน้อยนี่ทอดทิ้งตัวเองให้หงอยเหงาพลันใบหน้ากลับบึ้งตึงขึ้นมา



“เจ้าต่างหากที่ข้านึกว่าจะเอาแต่นอนจนไม่ตื่นเสียแล้ว”



“พี่ใหญ่ก็พูดเกินไป ข้าแค่เปิดโอกาสให้ท่านกับเม่ยเหนียงได้อยู่ตามลำพังบ้างก็เท่านั้น”



เจ็บแปลบในอกเพราะคำพูดของเสี่ยวหลง นี่เจ้าไม่ใส่ใจข้าแล้วกระนั้นหรือ เขาอดไม่ได้ที่จะส่งสายตาตัดพ้อไปแต่แค่แวบเดียวเท่านั้น เพราะเกรงว่าผู้อื่นจะเห็นท่าทางอันไม่น่าดูนี้



หลังจากรับประทานอาหารเย็นเรียบร้อย เขาอยู่พูดคุยกับท่านอู่อีกนิดหน่อยก่อนจะแยกย้ายกลับมายังกระโจมส่วนตัวพร้อมเสี่ยวหลง เมื่อกลับมาถึงความอัดอั้นตันใจก็ประทุขึ้นมาทันที



“หลายวันมานี้เหตุใดเจ้าถึงไม่ไปเดินเที่ยวกับข้าและเม่ยเหนียง”



“ท่านไม่ชอบรึที่ได้อยู่ตามลำพังกับนาง” เสี่ยวหลงยิ้มกว้างตามนิสัยของมัน ในขณะที่เสวี่ยหมิงอึกอัก



“เจ้าก็รู้ว่าชายหญิงอยู่กันตามลำพังสองคนเป็นเรื่องไม่งาม”

พอได้รับฟังคำตอบ เสี่ยวหลงก็หัวเราะฮิฮะ มันยิ้มเจ้าเล่ห์แสนกลดูแล้วทั้งน่ารักและน่ากลัวไปพร้อมๆกัน



“พี่ใหญ่คิดถึงข้าใช่หรือไม่”



“.........”



“จริงหรือไม่” มันย้ำคำเดิมชวนให้น่าหงุดหงิด ทว่ากลับไม่อยากนึกโกหกรักษาหน้าของตัวเองเท่าใดดังนั้นจึงตอบไปตามตรง



“ใช่” ตอบออกไปแล้ว ตอนนี้ใบหน้าของเขาเห่อร้อน เสี่ยวหลงเมื่อได้ฟังก็ยิ้มหวาน มันเดินเข้ามาหาทั้งยังใช้มือทั้งสองข้างคล้องโอบรอบคอเขา



“พี่ใหญ่ท่านช่างน่ารักยิ่ง”



 มันยื่นหน้าเขามาใกล้เขาทั้งยังจุมพิตแผ่วๆลงมาบนริมฝีปาก แปลกนักเขาไม่เกิดความต่อต้าน ยิ่งเวลาถัดมาเด็กน้อยยังคลอเคลียอย่างอ้อยอิ่งทั้งยังหลับตาพริ้มคล้ายรอคอยให้เขาเสนอจูบครั้งต่อไป เสวี่ยหมิงลังเลใจว่าจะทำอย่างไรดี ไม่ปฏิเสธว่าเขามีความคิดอยากประทับจูบกับเสี่ยวหลง ทว่าร่างกายตอนนี้คล้ายกลายเป็นหินก็ไม่ปาน



“ฮิฮิ....พี่ใหญ่ถ้าท่านไม่รุกข้าจะรุกท่านนะ” กล่าวจบเด็กน้อยก็ประทับจูบแผ่วๆลงมาอีกหน สติสัมปชัญญะของเขาโบยบินไปไกลเสียแล้วในตอนนี้



“พี่ใหญ่เราเข้านอนกันเถอะ”



ทั้งที่ผ่านเวลาเย็นย่ำไปไม่นานเท่าไหร่ ทว่ากลับไม่คิดต่อต้านคำชวนของเสี่ยวหลง เด็กน้อยจับจูงลากพาเขาไปยังที่นอนนุ่ม สุดท้ายต้องลดตัวลงนอนปล่อยให้เสี่ยวหลงก่ายเกยเหมือนทุกค่ำคืน



เทพเซียนเอ๋ยเหตุใดถึงเล่นตลกให้หัวใจเขาเต้นแรงถึงเพียงนี้ เหตุใดข้าถึงได้ลุ่มหลงต่อเด็กชายเพศเดียวกันได้เยี่ยงนี้ ทว่าถึงแม้มีคำถามต่อฟ้า แต่หาได้มีความคิดว่าความรู้สึกของตนเป็นเรื่องผิดแปลกไป



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



มีคนถามเยอะเลยว่าเสวี่ยหมิงเคะหรือเมะ555555 ไม่บอกดีกว่า ปล่อยให้ลุ้น ขอบคุณที่ตามอ่านกันตลอดนะคะ



เม้นเป็นกำลังใจบ้างน้า

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เจ้าเด็กน่าตายปากสุนัข กลับมาเห่าใกล้ ๆ พี่ใหญ่ได้แล้ว!

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
หมิงๆ ติดเล่ห์มารยาหนุ่ม(?)ซะแล้วววววว :hao7: ง่ะ ตอนนี้ยังไม่บู้หรอเนี่ย รอตอนหน้าก็ด้ะ :hao3:

ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
หมิงๆ ตกหลุมขอเด็ก(ปลอม)เจ้าเล่ห์แล้วว
#เชียร์ศิษย์พี่สองให้รุกค่ะ #อิ้อิ้

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
รักกันล้าววววววววววววววววววววววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เสี่ยวหลง - หลงเยี่ยอิง - องค์ชายแปด 
หลายบทบาทเลยนะ คนๆเดียว :katai2-1:
เสี่ยวหลง เสวี่ยหมิง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
กล้าลวนลาม รุกเสวี่ยหมิง ใหญ่เลยนะ เสี่ยวหลง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
 :hao4: แอบเชียร์เสียวหลงให้เป็นอุเคะ แฮดซะขนาดนั้น

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0


ตามขอรับ


ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0

ตอนที่22

“พี่ใหญ่ที่ข้าไม่ตามติดท่านกับเม่ยเหนียงไปทั้งหมดเพื่อให้การเล่นเป็นคนรักของพวกท่านสมจริง ดังนั้นข้าถึงได้อดทนเพียงเท่านั้นเอง”

นี่เป็นคำพูดอธิบายของเสี่ยวหลงก่อนที่ต่างคนจะหลับตานอนไป เสวี่ยหมิงเมื่อตื่นนอนแล้วคิดไปคิดมาก็พบว่ามีเหตุผล บางทีการที่เขาออกไปไหนมาไหนตามลำพังกับเม่ยเหนียง เรื่องราวเหล่านี้อาจลอยลมไปถึงหูของเหลยเฟิงบ้างก็ได้ ด้วยเหตุการณ์เช่นนี้คงทำให้เหลยเฟิงเชื่อถือในความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนาง เป็นแบบนี้แล้วจุดประสงค์คงบรรลุง่ายดายดั่งที่เสี่ยวหลงกล่าว

             

  เช้าวันนี้คล้ายว่าเสี่ยวหลงจะอารมณ์ดีกว่าทุกๆวัน เด็กน้อยเข้ามาประจ๋อประแจ๋รอบตัวเขาเหมือนเดิมอีกครั้ง เสวี่ยหมิงด้วยความอายจึงแสร้งทำเป็นเย็นชา ทว่าเสี่ยวหลงหาได้สนใจไม่มันยังคงหน้าด้านหน้าทนไม่สนความรู้สึกผู้ใดนอกจากตัวเองอยู่เหมือนเดิม

         

     “พี่ใหญ่กลิ่นกายท่านช่างหอมนัก” ไม่พูดเปล่ายังซูดดมกลิ่นกายเขาจนชื่นปอด เขาไม่เคยสังเกตกลิ่นกายของตัวเองเท่าใดนัก แต่กับเสี่ยวหลงหมู่นี้บ่อยครั้งที่เขาลอบซูดกลิ่นกายหอมๆจากตัวเด็กน้อย

           

   “มีแต่กลิ่นเหงื่อกับคราบไคลข้ายังไม่ได้อาบน้ำจะหอมอันใดกัน”

           

   “ถ้าอย่างนั้นเราไปอาบน้ำกันดีหรือไม่พี่ใหญ่”

           

   ถูกชักชวนให้ไปอาบน้ำย่อมไม่แปลก ทว่าอาบน้ำย่อมต้องเปลือยกาย แต่ก่อนที่เขาจะรู้ใจตัวเองก็เคยเห็นเสี่ยวหลงเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเผยผิวกายอยู่บ่อยครั้ง แต่ครานี้ไม่รู้ว่าเขาจะทนความตื่นเต้นยามเห็นเนื้อตัวเปลือยเปล่าของเด็กน้อยนี่ได้หรือไม่

         

     “เอ่อ....”

           

    ยังไม่ทันได้กล่าวตกลงเสี่ยวหลงก็ออกจากกระโจมไป หายไปนานพอสมควรเด็กน้อยก็กลับเข้ามาในกระโจมพร้อมกับคนของค่ายอาชา คนของค่ายนำอ่างอาบน้ำขนาดที่พอให้สองคนอาบร่วมกันได้มาจัดวางก่อนจะเริ่มต้นต้มน้ำตามคำขอของเสี่ยวหลงตรงหน้าเขา

           

    “น้ำร้อนพอดีหรือไม่ขอรับคุณชายหลง”

 คนของค่ายอาชาถาม เสี่ยวหลงทดสอบโดยการจุ่มมือลงไปในอ่างซึ่งเต็มไปด้วยน้ำร้อน เมื่อมันคิดว่าพอเหมาะมันจึงกล่าวขอบคุณและขอให้คนของค่ายอาชาออกไปทั้งหมด

             

  “ฮิฮิ”

 เสี่ยวหลงอารมณ์ดียิ่ง มันรีบเปลื้องผ้าทีละชิ้นพลางฮัมเพลงในลำคอ เมื่อผ้าผ่อนหลุดออกจากกายทั้งหมดมันหันไปเผชิญหน้ากับพี่ใหญ่ของมัน

             

  “...........”

 พี่ใหญ่ของมันแข็งค้างเป็นหิน ช่างน่ารักยิ่งนัก นอกจากนั้นดวงตาที่จ้องมองมาที่มันยังเบิกโพลงมันสงสัยว่ามองดูที่ตรงไหน ทว่าถ้าสังเกตให้ดีดีย่อมเข้าใจว่าพี่ใหญ่จดจ่อที่มังกรน้อยของมันไม่ผิดแน่   

“.........”

เสวี่ยหมิงจ้องมองจนตาค้าง ผิวกายเปลือยเปล่าของเสี่ยวหลงนับว่าเรียบเนียนทั้งยังขาวใสยิ่ง ไม่รู้ทำไมตาเจ้ากรรมกลับไม่อาจละสายตาจากเครื่องเพศของเสี่ยวหลงได้ เหตุใดนะเด็กน้อยจึงได้ใหญ่โตเกินตัวเยี่ยงนี้

“พี่ใหญ่.......หากท่านไม่ถอดอย่างนั้นช่วยถูหลังให้ข้าก่อนดีหรือไม่ ข้าหนาวนะ ท่านช่วยอาบน้ำให้ข้าที่สิ”

เสียงของเสี่ยวหลงช่างกวนราคะ เด็กน้อยค่อยๆหย่อนกายลงในอ่างน้ำ พลางวักน้ำใส่ตัวลูบไล้เนินเนื้อตามร่างกายดูแล้วช่างเย้ายวน เสวี่ยหมิงไม่ทราบว่าวิญญาณและความคิดอ่านไปอยู่ที่ใด ร่างกายกลับเดินไปหาเสี่ยวหลงหยิบเอาผ้าหนึ่งผืนจุ่มลงในน้ำบิดหมาดแล้วถูลงไปบนแผ่นหลังของเด็กน้อย

“คิกๆพี่ใหญ่ถูหลังเก่งจัง ท่านเชี่ยวชาญการอาบน้ำถึงเพียงนี้ ข้าคงต้องให้ท่านมาช่วยข้าบ่อยๆแล้ว”

ด้วยน้ำเสียงยั่วเย้ากับร่างกายขาวใสตรงหน้า ร่างกายของเสี่ยวหลงใช่ว่าจะผอมบางอย่างอิสตรี แต่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยงามสมวัยของเด็กชาย กระนั้นก็ยังทำให้เลือดลมสูบฉีดจนรู้สึกร้อนผ่าวที่ปลายจมูก

“พี่ใหญ่ท่านถูหลังข้าพอแล้วข้างหน้าบ้างสิ”

เสี่ยวหลงหันกลับไปหาพี่ใหญ่ของมันตั้งใจหว่านเสน่ห์หยอกเย้าเสวี่ยหมิงสุดฤทธิ์ ตามจริงแล้วมันพอทราบอยู่บ้างว่าพี่ใหญ่คงมีใจให้มันไม่มากก็น้อย ครั้งนี้มันจึงได้จงใจรุกเข้าหาอย่างจริงจัง เพื่อดูปฏิกิริยาของพี่ใหญ่ให้มั่นใจยิ่งกว่าเดิมว่าแท้จริงแล้วคิดกับมันมากน้อยแค่ไหน

ทว่าเมื่อหันหลังไปก็พบว่าพี่ใหญ่ของมันเลือดกำเดาไหลโกรก เสี่ยวหลงคาดไม่ถึงว่าแผนการเย้ายั่วของมันจะกระตุ้นเร้าพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้

“พี่ใหญ่ท่านอยู่นิ่งๆก่อนนะ”

 เสี่ยวหลงทั้งดีใจทั้งสงสารพี่ใหญ่ของมัน มันดีใจที่พี่ใหญ่รู้สึกกับมันจนถึงขั้นนี้ ในขณะเดียวกันนึกตำหนิตัวเองที่ล้อเล่นมากไปจนพี่ใหญ่ถึงกับต้องหลั่งเลือดออกมา เสี่ยวหลงลุกออกจากอ่างน้ำรีบไปหยิบเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับเลือดให้เสวี่ยหมิง ไม่คาดว่าพี่ใหญ่ของมันจะผลุนผลันออกไปนอกกระโจมทั้งที่หน้ายังแดงก่ำ ตอนนี้เองที่มันฉุกคิดขึ้นได้ตอนนี้มันเปลือยเปล่าโล้งโจ้งเห็นกระจ่างตายิ่งกว่าตอนที่อยู่ในอ่างน้ำเสียอีก

เสวี่ยหมิงเดินออกมานอกกระโจมด้วยแววตาเหม่อลอย หัวใจของเขาเต้นตึกตักจนแทบทะลุออกมานอกอก เด็กน้อยช่างน่าตายนัก กล้าล้อเล่นกับเขาถึงเพียงนี้ คิดแล้วก็นึกโกรธขึ้นมา ทว่าในหัวไม่อาจสลัดภาพกายเปลือยเปล่าของเสี่ยวหลงไปได้ ถึงแม้ว่าความเป็นชายอันใหญ่โตเกินรูปร่างจะสร้างความตระหนกให้เขาบ้างก็ตามที

ขณะที่ครุ่นคิดด้วยความเหม่อลอย พลันได้ยินเสียงหวานใสดังอยู่ข้างหู เสวี่ยหมิงหลุดออกจากภวังค์และพบว่าเม่ยเหนียงมาอยู่ตรงหน้าเขา

“พี่ใหญ่มีข่าวดีค่ะ”

“อะไรหรือเม่ยเหนียง”

“จ้าวเมืองเหวยกังติดต่อมาที่ค่ายอาชาของเรา มีพระราชสารจากฮ่องเต้พระราชทานยศให้กับท่านพ่อในตำแหน่งเจ้ากรมม้าหลวง ทั้งยังขอให้เราย้ายถิ่นฐานไปยังเมืองหลวงภายในสองอาทิตย์ด้วยค่ะ”

“เป็นเรื่องจริงหรือ”

“จริงค่ะพี่ใหญ่ ตอนนี้จ้าวเมืองเหวยกังคุยกับท่านพ่ออยู่แถมยังส่งกองกำลังทหารมาช่วยดูแลเคลื่อนย้ายคนและม้าของค่ายอาชาเป็นจำนวนมาก”

“ถ้าอย่างนั้นก็เหลือแต่เรื่องของเหลยเฟิงสิ” เสวี่ยหมิงถาม

“ท่านพ่อส่งจดหมายไปปฏิเสธการดูตัวกับเหลยเฟิงแล้วค่ะ เมื่อวันก่อนดังนั้นวันนี้เหลยเฟิงจึงส่งคนมาแจ้งเพื่อขอเข้าพบท่านพ่ออีกครั้งเย็นนี้ค่ะ ยังไงต้องรบกวนพี่ใหญ่ช่วยเล่นละครด้วยนะคะ”

“ย่อมได้อยู่แล้วเม่ยเหนียง เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก”

เสวี่ยหมิงดีใจกับการได้รับตำแหน่งของท่านอู่ และคิดว่าท่านอู๋คงไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน นอกจากนั้นยังรู้สึกยินดีที่เรื่องของเม่ยเหนียงกับเหลยเฟิงจะจบลงได้เสียที เพราะตอนนี้มีราชสำนักคอยหนุนหลังค่ายอาชา ถึงแม้ว่าจะปฏิเสธข้อเสนอทุกอย่างของเหลยเฟิงไปหมด ฝ่ายนั้นย่อมไม่กล้าลงมือบุ่มบ่าม

“พี่ใหญ่แล้วเสี่ยวหลงล่ะคะ”

“ช่างเจ้าลูกเต่านั่นเถอะ เราไปหาอะไรกินกันดีกว่าไหมเม่ยเหนียง”

“ดีเลยค่ะ ท่านพ่อคงสนทนากับจ้าวเมืองเหวยกังอีกนาน คงไม่ได้มาทานร่วมกับเรา ข้าเองก็หิวจนท้องกิ่วแล้วเราสองคนไปทานกันก่อนน่าจะไม่ผิดอะไร”

กล่าวจบเม่ยเหนียงก็จูงมือเขาไปตามทาง เดินออกไปยังไม่พ้นกระโจมดีนัก เสี่ยวหลงก็ออกมาจากกระโจมส่งเสียงโวยวายกระเง้ากระงอดหาว่าพวกเขาไม่รอทั้งยังกีดกัน

“พวกท่านตั้งใจจะกีดกันไม่ให้ข้าร่วมวงใช่หรือไม่ถึงได้ไปทานอาหารโดยไม่รอข้า” เสี่ยวหลงแสร้งขยี้เท้าแสนงอนต่อหน้าพี่ใหญ่ของมัน

“ใครกีดกันเจ้ากันหา คาดว่าเจ้าตื่นสายพี่ใหญ่ต้องหิ้วท้องรอเจ้าด้วยรึ”

 เม่ยเหนียงยืนเท้าเอวตำหนิเสี่ยวหลง ตามจริงเสวี่ยหมิงยังโกรธที่เด็กน้อยเย้าหยอกเขาในอ่างน้ำไม่หาย แต่เมื่อเห็นดวงตาแดงก่ำกับท่าปาดน้ำตาปอยๆก็ให้นึกใจอ่อน สุดท้ายต้องยอมลืมความแค้นเมื่อครู่ไปเสียแล้วปล่อยให้มันเกาะติดไปทุกหนทุกแห่งเช่นเดิม

“พอทีเสี่ยวหลงหิวก็รีบมา เร็วเข้า”

เสวี่ยหมิงยื่นมือไปให้เสี่ยวหลงจับ เด็กน้อยรีบคว้าหมับใบหน้าเปลี่ยนจากสลดเป็นยิ้มกว้างสดใส ภาพสองพี่น้องสนิทสนมชิดใกล้ช่างบาดตาและทรมาณจิตใจของเม่ยเหนียงนัก นางเองก็อยากให้พี่ใหญ่เอาอกเอาใจนางทุกการกระทำอย่างที่ทำกับเสี่ยวหลงบ้าง ทว่านางในตอนนี้ไม่อาจทัดเทียมกับเจ้าตัวน่าตายนี้ได้แม้เพียงนิด ภายในใจของพี่ใหญ่คงมีแต่เสี่ยวหลงอยู่ทั่วทุกแห่งแล้วกระมัง

“เม่ยเหนียง รีบมาเถอะ” พี่ใหญ่หันมาทั้งยังยื่นมือมาให้จับ นางลิงโลดอย่างหนัก พี่ใหญ่ใจดีกับนางเพียงแค่นี้นางก็เหมือนกับจะลอยให้ได้

“รอข้าด้วยสิพี่ใหญ่”

 นางสาวเท้าวิ่งไปคว้าเอามือของพี่ใหญ่มาจับ แม้ว่าหลังจากนั้นเสี่ยวหลงจะกล่าวล้อเลียนนาง นางก็หาได้ใส่ใจไม่แค่ช่วงเวลานี้เท่านั้นนางอยากจะใกล้ชิดกับพี่ใหญ่ให้มากก่อนที่จะจากลากันไปแสนไกล

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

คนเขียนเขียนฉากบู๊ไม่เก่งเลย ทว่าอีกไม่กี่ตอนต้องเขียนและ กระนั้นไม่ใช่ฉากใหญ่โตอะไร

อย่าคาดหวังมากคนเขียนกลัวล้าววววววว ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันตลอดนะคะ

ที่ช่วงนี้มาสั้นๆเพราะมันเขียนยากแต่จะมาให้บ่อยนะจ๊ะ

เม้นเป็นกำลังใจกันบ้าง

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
ติดตามอยุ่จ้าาา

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ถ้าเห็นตัวจริงของเสี่ยวหลง พี่ใหญ่อาจช็อคได้

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ karamailpraleen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ถึงกับเลือดกำเดาไหลกันเลยทีเดียว

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
 o13 ไม่ต้องซีเรียสเรื่องฉากบู้หรอกเราอ่านหมด 5555 :hao7:  แต่อย่างไรก็ตามหลงๆต้องเมะแน่นวล ฮุๆๆๆโฮะๆๆๆ :laugh: :hao6: คนอ่านสอบเสร็จแล้วววว ดีใจมั่ก5555 จะเข้ามาเช็คบ่อยๆนะคะ :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด