{ { NEVER DIE } } ผมยังไม่ตายนะครับหมอ!! -----> Chapter 25 [ 15/01/2561 ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { { NEVER DIE } } ผมยังไม่ตายนะครับหมอ!! -----> Chapter 25 [ 15/01/2561 ]  (อ่าน 32909 ครั้ง)

ออฟไลน์ lostboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ตอบคอมเมนต์คนอ่านครับ

แวมมมมมช่วยบีมทีบีมถูกข่มขู่
แวมบอกว่ารอก่อนครับผม

แวมออกจากร่างอีกรอบมาช่วยหมอบีมได้มะ รอบนี้เอาให้พี่วีเป็นบ้าไปเลย  :katai1:
โถ่ว กว่าจะฟื้นมาได้

ไอ้พี่วีเลวววว :katai1: :katai4:
ใจเย็นครับบบ

:katai1:   :katai1:  :katai4: เอาพี่วีไปเก็บที หงุดหงิดค่ะ
ให้ตัวร้ายได้ทำหน้าที่ก่อนครับ เดี๋ยวค่อยเก็บ

ตามมมมมมมม
:pig4: ห้ามหายไปไหนนะครับ

ขอความสุขจงกลับคืนสู่ทั้งคู่สักทีเถ้ออออ แงงงงง อุปสรรคเยอะจริงเยอะจัง อิพี่ก็โรคจิตไปอีก แวมอย่าเพิ่งเข้าใจหมอบีมผิดนะลูกนะ กลับมาช่วยหมอบีมก่อน  :katai1: :katai1:
ใกล้จะแฮปปี้แล้วครับ ไม่นานๆ

รอครับ สนุกดี
ขอบคุณครับบบ  :3123:

ออฟไลน์ lostboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Chapter 23



“ คิดไงชวนพวกกูออกมาดื่มวะไอ้แวม? ดึกดื่นขนาดนี้แล้ว ” ไอ้เมฆบ่นอุบตั้งแต่นั่งลงบนเก้าอี้ ส่วนไอ้คิมก็เรียกพนักงานมารับออเดอร์พร้อมกับสั่งเครื่องดื่มเบาๆมานั่งกินเป็นเพื่อนผม 

“ วันนี้กูเลี้ยงเอง ” ผมพูดพร้อมกับเรียกพนักงงานให้เอาเครื่องดื่มมาเพิ่ม

“ เลี้ยง? นี่ผับพ่อมึง พูดยังกะจะเสียตังค์ ”

“ เออๆ แดกเป็นเพื่อนกูหน่อย ”

“ มึงเครียดเรื่องอะไรวะ? ” นาคิมถามผม

นี่สีหน้าผมบอกชัดขนาดนั้นเลยเหรอ? ใช่ ผมกำลังเครียด เครียดมากด้วย

“ หมอบีมบอกว่าอยู่ใกล้กูก็มีแต่เรื่องแย่ๆ ”

“ เฮ้ยมึง หมอบีมเขาอาจจะไม่ได้หมายความอย่างที่มึงคิดหรอก ”

“ ตอนที่หมอบีมถูกจับตัวไป กูก็แม่งเป็นห่วงเขาแทบบ้า แต่มันก็จริง อยู่ใกล้กูมีแต่จะทำให้เขาเดือดร้อน มีแต่เรื่องทำให้ต้องเจ็บตัว หมอบีมถึงไม่อยากเข้าใกล้กู ”

“ เอ่อ ไอ้แวม กูว่ามึงเมาแล้วนะ ” ไอ้คิมดึงแก้วเหล้าออกจากมือผมทันที

“ เชี่ยคิม ” ผมมองหน้าเพื่อนรักอย่างคาดโทษ

“ เอางี้ไหมไอ้แวม กูมีสาวๆเพียบ เดี๋ยวคืนนี้กูจัดให้มึงสักคน ”

“ หยุดเลยไอ้เมฆ ไอ้แวมมันเครียดเรื่องหมอบีมอยู่นะเว้ย ”

“ แล้วไงวะ? ว่าไง? เอาสักคนไหม? ”

“ เอามาดิ ” ผมตอบ

“ ... ”

“ ... ”

“ เออ กูก็ว่ามันเมา ” ไอ้เมฆหันไปพูดกับไอ้คิม

“ อะไรของพวกมึงวะ? กูไม่ได้เมา ” ผมยืนขึ้นชี้หน้าพวกมันแต่ก็ต้องเซล้มลงนั่งบนโซฟาอย่างเดิม

“ ไม่เมาพ่องสิ ”



“ เฮ้ยมึง พี่วีมา ”

แค่พี่วีมาทำไมต้องทำน้ำเสียงตื่นเต้น?

“ พี่วีมาแล้วทำไมมึงต้องทำหน้าตาตกใจขนาดนั้นวะไอ้คิม? ”

ไม่น่าแปลกใจที่เห็นพี่วีพาลูกค้ามากินเลี้ยงที่นี่เป็นประจำ

แต่ไม่นานผมก็ต้องชะงักไปทันทีเมื่อเห็นหมอบีมยืนอยู่ข้างๆพี่วี แถมมือพี่ชายของผมยังโอบเอวเขาอยู่!

หมอบีมไม่มีการขัดขืนใดๆ ถ้าเป็นผมทำแบบนั้นคงโดนหมอบีมแกะมือออกไปแล้ว

หรือว่าหมอบีมกับพี่วี...

ทำไมผมถึงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน? ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

“ เชี่ยยย ” ใต้เมฆหันมองหน้าพวกผมสองคนบ่งบอกถึงความตกใจไม่แพ้กัน

ผมจดจ้องไปยังโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่ตลอดเวลา แสงไฟริบหรี่ในร้านที่เป็นผับกึ่งนั่งชิลล์มีฟอร์ให้ผู้คนออกไปเต้นกันอย่างเมามันส์ นักเที่ยวราตรีที่ออกลีลากันอย่างสนุกสนานปะปนกันจนบดบังสายตาคนที่นั่งอยู่อีกไม่ไกล

หมอบีมไม่สังเกตเห็นผมที่จ้องเขาอยู่แบบไม่วางตา คงเป็นเพราะผมนั่งโต๊ะด้านในสุดซึ่งห่างจากผู้คนพอสมควร

“ ไอ้เมฆ มึงมีเด็กกี่คนเอามาให้หมด ”

“ เฮ้ยใจเย็นดิวะ พี่วีกับหมอบีมคงไม่ใช่อย่างที่มึงคิดหรอก...มั้ง ”

“ มันจะเป็นอย่างอื่นไปได้อีกเหรอวะ? ”

ผมได้แต่นั่งจ้องหมอบีมที่มีพี่วีนั่งข้างๆ แค่เห็นสายตาที่พี่ชายของผมมองเขาก็รู้แล้วว่าคิดยังไง พี่วีชอบหมอบีมแน่ๆ

ผมยกเหล้าเข้าปากอย่างที่จะระบายอารมณ์คุกรุ่นอยู่ข้างใน หงุดหงิดที่เห็นสองคนนั้นใกล้ชิดกันขนาดนั้น

ลูกค้าของพี่วีกลับไปแล้วแต่เขาสองคนก็ยังนั่งอยู่ ถ้าผมไม่เมาจนคิดไปเอง ไม่ผิดแน่ พี่วีกำลังมองผมอยู่เช่นกัน สายตาเขาดูเยาะเย้ยราวกับผู้ชนะ ผมกำหมัดแน่นก่อนจะลุกขึ้นยืน

“ ไอ้แวม หยุดเลย นั่งลง ”

“ พวกมึงจะห้ามกูทำไมวะ? ”

“ มึงมีสิทธิอะไรไปหาเรื่องเขา? หมอบีมเขาเป็นเมียมึงเหรอ? ก็ยังไม่ใช่ ”

“ แต่กูทนไม่ได้ ” ผมจะลุกขึ้นแต่ไอ้เมฆกับไอ้คิมก็ไม่ยอมปล่อยผมสักที ดึงอยู่ได้ จะห้ามทำไมวะ?

“ ใจเย็นดิวะ ”

“ ไม่ กูจะไปถามหมอบีมให้รู้เรื่องว่าเขากับพี่วีเป็นอะไรกัน ”

เอ่า เขาสองคนหายไปไหนแล้ว?

“ เขากลับแล้ว มึงอ่ะเมามาก ควรกลับได้แล้วไอ้แวม ”

“ กูไม่ได้เมา หมอบีมอยู่ไหน? กูจะไปหาหมอบีม ”

“ กูว่าเราเอามันไปส่งก่อนดีกว่าว่ะ ”

“ เออ กูก็ว่างั้น ”

“ ไม่ไปปป ”

สักพักผมก็รู้สึกปวดหัว มึนๆเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ คงจะดื่มหนักอย่างที่พวกมันบอกจริงๆ และไม่นานผมก็หลับไปจนได้



“ หมอบีม! ” ผมตื่นขึ้นมาก็เอ่ยปากเรียกชื่อหมอบีมทันที

เมื่อคืนผมฝันว่าเห็นหมอบีมกับพี่วีอยู่ด้วยกัน นึกแล้วก็รู้สึกแย่ไม่หาย ถ้าเป็นเรื่องจริงนะผมคง...

“ ตื่นแล้วเหรอมึง? ”

“ เมื่อคืนแม่งเมาเละเลยนะ ”

ไอ้เมฆกับไอ้คิมกำลังนั่งกินข้าวที่โต๊ะอาหารในคอนโดผมอย่างสบายใจ และของที่มันกินอยู่ก็คงหยิบออกมาจากตู้เย็นผมทั้งนั้น

แต่เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้พวกมันบอกว่าผมเมา แสดงว่าเรื่องเมื่อคืนก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ?

ผมลุกขึ้นอย่างรวดเร็วจนรู้สึกปวดหนึบไปที่ศีรษะ พอก้มลงมองสภาพตัวเองแล้วก็ต้องส่ายหัวแบบเอือมๆ

“ พวกมึงทำไมไม่เอากูไปนอนเตียงดีๆวะ? นอนโซฟาแม่งโคตรปวดหลัง ”

“ กูกลัวมึงอ้วกใส่เตียงไง ”

“ แล้วเมื่อคืน...หมอบีมไม่ได้ไปที่ผับใช่ไหมวะ? ” ผมถามออกไปเผื่อความแน่ใจว่าผมไม่ได้ฝัน แอบหวังลึกๆว่าเพื่อนผมจะตอบว่าไม่

แต่...

“ ไป ”

ผมกุมขมับทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบจากปากไอ้คิม

“ กี่โมงแล้ว? ”

“ เก้าโมงกว่า ” ได้ยินดังนั้นผมก็รีบลุกไปอาบน้ำทันที

“ แล้วมึงจะไปไหนวะไอ้แวม? ”

“ กูจะไปคุยกับหมอบีมให้รู้เรื่อง ”



ผมนั่งรอหมอบีมที่หน้าตึกคณะแพทย์เช่นเคย วันนี้เขามีสอบช่วงเช้ากว่าจะออกจากห้องสอบก็คงเที่ยง แต่ผมใจร้อนจนแทบจะรอไม่ไหว อยากเป็นบ้าตาย ยังไงวันนี้ถ้าผมไม่เคลียร์มีหวังตายตาไม่หลับแน่

นั่งมองนาฬิกาเป็นร้อยรอบก็ยังไม่เที่ยงสักที โถ่ยเว้ย!

“ เอ่าแวม มาทำอะไรที่ตึกนี้ล่ะ? ”

ผมหันขวับไปตามเสียงของคนที่เดินเข้ามาทักทายผมอย่างอารมณ์ดี แต่ผมกลับรู้สึกตรงกันข้าม บอกเลยว่าตอนนี้อารมณ์เสียสุดๆ

“ แล้วพี่วีมาทำอะไรที่นี่ครับ? ”

“ มารับหมอบีม ” พี่วีเหยียดยิ้ม

“ แล้วทำไมต้องมารับด้วยครับ? ” ผมถามไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแม้ในใจจะเดือดมากแล้วก็ตาม

“ พี่ว่านายก็ไม่น่าจะเข้าใจอะไรยากนะ ”

“ อยากบอกอะไรกับผมก็พูดมา ” ผมถามด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ ตอนนี้ความอดทนของผมเริ่มที่จะหมดลงทุกที

“ พี่กับหมอบีม... ”

“ แวม! ” ไม่ทันที่พี่วีจะพูดจบหมอบีมก็วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตกใจเหมือนกลัวอะไรสักอย่าง “ นายมาที่นี่ทำไม? บอกแล้วไงว่าให้อยู่ห่างๆฉัน พูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ”

“ เพราะพี่วีใช่ไหมครับ? ” หมอบีมนิ่งเงียบไปทันทีที่ผมถาม “ บอกเหตุผลมาให้ชัดเจนเถอะ ที่หมอไล่ผมไปก็เพราะว่าหมอกับพี่วีกำลัง... ”

“ ใช่ ฉันกำลังคบกับพี่วีอยู่ ” ผมอึ้งไปทันที

รู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนเมื่อได้ยินคำตอบนั้นจากปากหมอบีม มันจุกเหมือนมีใครเอามีดมาแทงกลางอก

“ ได้ยินชัดแล้วใช่ไหมน้องชาย? ” พี่วีตบบ่าผมเบาๆก่อนจะโอบไหล่หมอบีมและเดินออกไป

“ ผมไม่เชื่อ ”

ผมตามไปจับมือหมอบีมไว้ เขาหยุดชะงักมองหน้าผม แววตาของเขาวูบไหวอย่างเห็นได้ชัด ผมเชื่อว่าหมอบีมรักผม

แต่ทำไมการกระทำของเขาถึงเป็นแบบนี้?

เขาสะบัดมือออกแรงๆจนผมเงียบทำอะไรไม่ถูก “ ทำไม? ”

“ เราไปกันเถอะครับพี่วี ” หมอบีมหันไปพูดกับพี่วีก่อนที่สองคนจะเดินออกไปพร้อมกัน พอก้าวขึ้นรถผมก็ยังคงเห็นแววตาของหมอบีมที่มองมาที่ผมด้วยความหวั่นไหวอยู่ลึกๆ

ผมเชื่อว่าหมอบีมยังรักผม แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย?



“ มึง หมอบีมคบกับพี่วีว่ะ ”

“ เฮ้ย เอาดอกดาวเรืองมาตรงนี้ดิวะ! เดี๋ยวๆ มึงว่าอะไรนะแวม? ” ไอ้เมฆถามผมขณะกำลังลงแปลงดอกไม้จัดงานเกษตรแฟร์ร่วมกับรุ่นน้องในคณะ

ผมนั่งคิดแล้วคิดอีก ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร ไอ้คิมก็ติดเรียน ส่วนไอ้เมฆก็ยุ่งจนแทบไม่สนใจเพื่อนที่กำลังนั่งเศร้าอยู่ตรงนี้เลย

“ มึงไม่ต้องสนใจกูหรอก ”

“ โหว ถ้าหน้ามึงจะเศร้าเหมือนโลกกำลังจะแตกขนาดนี้นะ ไอ้บอลมานี่ดิ๊ ” ไอ้เมฆเรียกรุ่นน้องอีกคนเข้ามาหา

“ ครับพี่เมฆ ”

“ มาจัดกระถางต้นไม้ให้ได้แบบนี้นะ กูไปดูเพื่อนแป๊ปนึง ”

“ ครับๆ ” น้องที่ชื่อบอลรับกระดาษไปจากไอ้เมฆพร้อมกับยกต้นไม้มาตามคำสั่ง

เพื่อนรักของผมยอมละมือจากการทำงานแล้วเดินมานั่งข้างๆก่อนจะเอ่ยถามขึ้น “ ไหน มึงเป็นไรว่ามา? ”

“ มึงไปทำงานก่อนก็ได้นะเว้ย ”

“ ให้เด็กพวกนั้นทำไปอ่ะดีแล้ว เอางี้มึง ไปเที่ยวกับกู สาวๆเพียบ คราวนี้ไม่มีไอ้คิมมาห้ามแล้ว มันบอกว่ามีงานต่อ ”

“ ไม่เอาว่ะ ”

“ เอ่า แล้วมึงจะให้กูช่วยอะไรวะ? ”

“ หมอบีมคบกับพี่วีแล้ว ”

ผมควรทำยังไงดี? แย่งหมอบีมคืนมาอย่างนั้นเหรอ?

“ หือ? เขาคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่? ” ใต้เมฆถามแบบไม่ใส่ใจนัก

“ ทำไมมึงดูไม่ตกใจกับกูเลยวะไอ้เมฆ? ”

“ เฮ้ย ตกใจดิวะ ”

ผมจ้องหน้าเพื่อนรักอย่างจับผิด มันก็เงียบไปสักพัก

“ มึงมีอะไรจะบอกกูไหม? ” ผมถามด้วยน้ำเสียงเหยียบเย็น

ผมรู้จักเพื่อนของผมดี แค่มองตาก็รู้แล้วว่ามันมีอะไรปิดบังผมอยู่

“ มึงอย่าโกรธกูนะเว้ยไอ้แวม คือว่า... ” มันยังพูดไม่จบก็มีเรื่องมาขัดจังหวะซะก่อน

ครืดดด ครืดดด ( สายเรียกเข้าจากนาคิม )

ไอ้เมฆกดรับสายพร้อมกับเปิดลำโพงให้ผมได้ยินด้วย

“ มึง มาหากูด่วนเลย ” เสียงนาคิมดูร้อนรนกว่าปกติ

“ ไอ้คิม คือว่าไอ้แวมมัน... ” ไอ้เมฆทำน้ำเสียงกังวลอย่างเห็นได้ชัดจนไอ้คิมถึงกับเงียบ

พวกมันมีเรื่องอะไรกันวะ? ชักเริ่มจะหงุดหงิดจนทนไม่ไหวแล้วนะเว้ย รีบบอกกูเถอะ

“ อืม? งั้นมึงเรียกไอ้แวมมาด้วยเลยแล้วกัน ”






...................................
แฮ่ะๆ แก้ไขแล้วนะครับ ลืมเปลี่ยนสีตัวหนังสือพาร์ทของแวม เลยกลัวว่าคนอ่านจะงง  :call:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-01-2018 20:53:18 โดย lostboy »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ลุ้นๆเรื่องอะไรกันอ่าาาา

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :m31: :m31: :m31:  หมอบีม ถูกข่มขู่ชัดๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
คือแบบว่าเพื่อนแวมรู้อะไรมาใช่มั้ยถึงได้บอกแวมแบบนั้น

หมอบีมบอกอะไรตอนที่ไปแอบฟังใช่มั้ย เดาาาาาา

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
ลุ้นทุกตอน  :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ลุ้นต่อไปปป เพื่อนแวมต้องกุมความลับแน่ๆเลยใช่มั้ยๆๆ ทุกคนช่วยหมอบีมจากอิพี่วีโรคจิตด้วยยย

ออฟไลน์ worry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ลุ้น  :katai1:
ช่วยหมอบีมให้ได้ไวๆ

ออฟไลน์ lostboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ตอบคอมเมนต์ครับบบ  :3123:


ลุ้นๆเรื่องอะไรกันอ่าาาา
แน่ะ อยากรู้อ่ะดิ เดี๋ยวก็รู้ครับผมมมม

:m31: :m31: :m31:  หมอบีม ถูกข่มขู่ชัดๆ
เฮ้อ สงสารหมอบีมอยู่เหมือนกัน  :mew2:

คือแบบว่าเพื่อนแวมรู้อะไรมาใช่มั้ยถึงได้บอกแวมแบบนั้น

หมอบีมบอกอะไรตอนที่ไปแอบฟังใช่มั้ย เดาาาาาา
เดาเก่งนะเราเนี่ย  o13 แต่ไม่บอกหรอกครับว่าใช่ไหม รออ่านๆ

ลุ้นทุกตอน  :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4:
มีคนบอกว่าลุ้น ผมก็ดีใจแล้วครับ :L1:

ลุ้นต่อไปปป เพื่อนแวมต้องกุมความลับแน่ๆเลยใช่มั้ยๆๆ ทุกคนช่วยหมอบีมจากอิพี่วีโรคจิตด้วยยย
ฮ่าๆ ทุกคนกำลังช่วยหมอบีมอยู่ ฮึบๆ

ลุ้น  :katai1:
ช่วยหมอบีมให้ได้ไวๆ
ครับผม ขอบคุณครับบบ  :3123:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
แง่มๆ อะรายเนี้ย โห

ออฟไลน์ lostboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Chapter 24



ร้านอาหารบนภัตคานชั้นดาดฟ้าโรงแรมหรู มีอาหารราคาแพงวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะด้านหน้าผมเต็มไปหมด อาหารพวกนี้น่าตาดูดีและน่ารับประทานหากแต่ผมไม่ได้รู้สึกอยากกินเลยสักนิด

“ ชอบที่นี่ไหม? ” พี่วีเอ่ยถามผมพร้อมกับหั่นเนื้อวากิวเผยให้เห็นไขมันสีขาวแทรกเป็นลายสวยงามในชิ้นเนื้อสีแดงสด เขายื่นเนื้อชิ้นนั้นมาจ่อที่ริมฝีปากของผมเป็นการบังคับว่าให้กิน ผมจึงต้องอ้าปากลิ้มรสมันอย่างจำใจ

ผมนั่งเงียบให้คนตรงหน้ายื่นอาหารเข้าปากราวกับเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงของเขา

“ ผมอิ่มแล้ว ” ทั้งๆที่กินไปไม่กี่คำแต่ก็เริ่มรู้สึกกินไม่ลง

“ อิ่มไวจังเลยนะ ”

“ ผมไม่ค่อยหิว ”

“ ทำไมทำหน้าบึ้งแบบนั้น? อย่ามาทำเหมือนไม่มีความสุขเวลาอยู่กับพี่ ทำไมถึงไม่เหมือนตอนอยู่กับไอ้แวมล่ะ? ” พี่วีเน้นหนักท้ายประโยคพร้อมกับจ้องหน้าผมอย่างไม่พอใจ

ผมได้แต่นิ่งเงียบเพราะไม่มีอะไรจะพูด

“ พรุ่งนี้มีสอบอีกรึเปล่า? ”

“ ไม่มีครับ ”

“ ดี งั้นวันนี้นอนคอนโดพี่นะ ”

“ ไม่ ”

“ ทุกคำที่พี่พูดมันคือคำสั่ง ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเข้าใจไหม? อ่อ เมื่อวานพี่เห็นว่าบีมต้องเตรียมตัวสอบหรอกนะ เลยยอมปล่อยไปก่อน ”

แค่นึกถึงเรื่องเมื่อวานก็แทบขนลุก ผมเกือบไม่รอดมือพี่วีแล้ว แต่ยังดีที่เขายังยอมเห็นใจผมอยู่

แล้ววันนี้ผมจะหาข้ออ้างอะไรมาหลบหลีกเขาได้อีก?

ผมคงไม่รอดแล้วสินะ

“ เงียบทำไม? กลัวพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ? ฮึ! จะช้าหรือเร็วบีมก็ต้องเป็นของพี่อยู่ดี แล้วพี่ก็เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วด้วย ” พี่วีกระตุกรอยยิ้ม

“ อย่าทำแบบนี้เลยนะครับ ” ผมเม้มปากแน่นด้วยความกลัว

“ ไม่เอาน่าเด็กน้อย อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ถ้ายังอยากให้ไอ้แวมมีชีวิตอยู่ คืนนี้ก็เป็นเด็กดีของพี่ แต่ถ้ามันลำบากใจมาก ก็ดื่มนี่ซะ ” พี่วียื่นแก้วไวน์สีสดมาให้ผมพร้อมกับเหยียดยิ้มร้าย

ผมลังเลอยู่นานก่อนจะรับแก้วในมืออีกคนมากระดกรวดเดียวหมด

“ พอใจรึยังครับ? ”

พี่วีหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะยกมือเรียกพนักงานมาเช็คบิล

“ งั้นเรารีบกลับกันดีกว่า พี่อยากทำอะไรสนุกๆเต็มทีแล้ว ”



“ อ๊ะ ” ผมถึงกับสะดุ้งเฮือกเพียงเพราะอีกคนเอื้อมมือมาสัมผัสที่ต้นขาของผมเบาๆขณะที่รถกำลังติดไฟแดง “ พี่วี ปล่อยผม ”

“ เหงื่อตกขนาดนี้เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วเหรอ? ขอโทษนะที่พี่ใช้ยาแรงไปหน่อย ” ไม่รู้สึกตกใจสักเท่าไหร่ที่ได้ยินแบบนั้น เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าในแก้วไวน์มียาอะไรผสมอยู่

ตอนนี้ผมต้องกัดฟันกรอดเพื่อระงับอารมณ์ดิบที่คุกรุ่นขึ้นมาอย่างหนัก มือทั้งสองข้างกำชายเสื้อตัวเองเพื่อข่มอารมณ์ จังหวะหอบหายใจที่ถี่รัวดังชัดเจนในห้องโดยสารที่เงียบสนิท

พี่วีมองมาที่ผมและหัวเราะในลำคอเบาๆ

ผมอยากจะปลดปล่อยจนรู้สึกขัดใจเมื่ออีกคนขับช้าๆราวกับจะแกล้งกัน แต่ก็ดีแล้ว เพราะผมก็ยังไม่เตรียมใจและพร้อมที่จะทำเรื่องแบบนั้น

“ ยั่วชะมัด ” พี่วีเหยียบคันเร่งเร็วขึ้นทันทีที่พูดจบ

ไม่นานรถก็มาถึงที่คอนโดของเขา

“ อย่า ไม่ใช่ที่นี่ ” ผมพูดเสียงสั่นเมื่อพี่วีพยายามจะลุกล้ำร่างกายผมบนรถ ทั้งๆที่มีเพื่อนร่วมคอนโดกำลังยืนมองอยู่ไม่ไกล

เขาเปิดประตูลงจากรถพร้อมกับดึงผมไปที่ลิฟท์อย่างรวดเร็ว

พอมาถึงห้องพี่วีก็โถมตัวเข้ามาจูบผมทันทีที่ประตูปิดลง แผ่นหลังของผมถูกดันให้แนบชิดติดผนัง ตอนนี้แข้งขาไร้เรี่ยวแรงจนต้องใช้มือเกาะไหล่อีกคนแน่น

“ อืม ให้มันได้แบบนี้สิ ” พี่วีถอดเสื้อตัวเองออกเผยให้เห็นซิกแพคเรียงเป็นระเบียบ

ผมหลับตาปล่อยให้เขาชักจูงร่างกายไปตามใจชอบ ถึงจะไม่อยากทำแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถต้านแรงอารมณ์ดิบที่เกิดจากฤทธิ์ยาได้เลย

น้ำตาเริ่มรินไหลเมื่อรู้สึกได้ว่าตัวเองถูกผลักลงบนพื้นเตียงนุ่มๆ หัวใจสั่นคลอนด้วยความตื่นกลัวเมื่ออีกคนกำลังแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาของผมออกทีละเม็ด มือหนาลูบไล้บริเวณแผ่นอกเนียนลงมาเรื่อยๆ ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อเขาหยุดอยู่บริเวณใต้สะดือและแกะเข็มขัดผมออกพร้อมกางเกง

ผมไม่กล้าลืมตามองสภาพตัวเองตอนนี้เลย แค่ได้ยินเสียงครางของตัวเองก็น่าสมเพชพออยู่แล้ว

ใครก็ได้ช่วยที ได้โปรด

ผมสั่นด้วยความกลัวเมื่อกางเกงในสีขาวถูกถอดออกเผยให้เห็นแท่งร้อนชูชันอยู่ตรงหน้า “ อ๊ะ อื้อออ ” ความเสียวซ่านและอึดอัดถาโถมเข้ามาเมื่ออีกคนใช้มือกอบกุมส่วนนั้นของผมชักรูดขึ้นลงช้าๆ พร้อมกับฉวยจูบที่ริมฝีปากและตวัดลิ้นอย่างเอาแต่ใจ

“ รับรองว่าพี่จะทำให้บีมมีความสุข ” พี่วีกระซิบที่ข้างหูก่อนจะแยกขาของผมออกกว้างและหยิบเจลหล่อลื่นมาป้ายที่ช่องทางด้านหลัง

เจลเย็นสัมผัสกับนิ้วมือเพียงนิ้วเดียวก็ทำให้ความรู้สึกเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั้งตัว

“ ฮืออ ” ผมกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ไม่อยู่แล้ว น้ำตาไหลออกมาจนอาบแก้มไปหมด “ ขอร้องล่ะ ฮึก อย่าทำเลย ”

“ โอ๋ๆ ไม่ร้องนะคนดี พี่สัญญาว่าจะไม่รุนแรงนะครับ ”

นาทีนี้ผมคิดว่าตัวเองจะไม่รอดพ้นจากการถูกขืนบังคับไปได้แล้ว ไม่คิดว่าจะมีใครมาช่วยได้ทัน

แต่โชคชะตาไม่ได้ใจร้ายกับผมขนาดนั้น

ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆๆๆๆ
เสียงเคาะประตูดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ

พี่วีทำท่าขัดใจก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดประตูด้วยความโมโห

ผมถือโอกาสลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นมาสวมใส่ด้วยความยากลำบากเพราะมือไม้สั่นไปหมด

ผลั่ก!

แวมซัดหมัดใส่หน้าพี่วีทันทีที่ประตูเปิดออก

“ อะไรของมึงวะ! ”

พี่วียกหมัดจะสวนกลับแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นตำรวจอีกสามคนเดินตามเข้ามาพร้อมกับการ์ดของพี่วีที่โดนจับใส่กุญแจมือไปเรียบร้อยแล้ว

“ มอบตัวเถอะครับคุณวี ” ตำรวจหนุ่มหล่อคนนี้เป็นรุ่นพี่ที่ผมรู้จัก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อผู้หมวดอัคคี ไอ้ก่อกับไอ้เกื้อชอบเรียกเขาว่าหมวดไฟหรือพี่ไฟ

“ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ” พี่วีหน้าถอดสีพร้อมกับก้าวเท้าถอยหลังไปช้าๆ เขามองซ้ายมองขวาหาทางรอดแต่ก็จนมุมอยู่ดี

“ พวกเรารู้หมดความจริงหมดแล้วล่ะครับ ” ใต้เมฆพูดขึ้นก่อนจะเดินตามเข้ามาพร้อมกับนาคิม และอีกคนคือไอ้ก่อเพื่อนสนิทของผม ส่วนไอ้เกื้อไม่ยอมมาด้วยก็คงจะรู้เหตุผลอยู่แล้ว

ย้อนไปวันที่พี่วีพาผมไปที่ผับ ผมสังเกตเห็นแวมและเพื่อนของเขาที่นั่น ผมตัดสินใจหาโอกาสขอความช่วยเหลือจากพวกเขาโดยอาศัยจังหวะที่พี่วีไปเข้าห้องน้ำ ตอนนั้นแวมหลับไปแล้ว ใต้เมฆกับนาคิมตกลงจะช่วยผม และคงต้องขอบคุณพวกเขาที่รู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง

พี่วียืนนิ่งอ้าปากค้างเมื่อเห็นฝ้ายกับพี่เทียนมากับพวกตำรวจด้วย

“ คุณเทียนกับคุณฝ้ายได้ให้การสารภาพและยอมเป็นพยานให้กับทางตำรวจแล้ว คุณเทียนบันทึกเสียงของคุณไว้เป็นหลักฐานยืนยันว่าคุณมีพฤติกรรมข่มขู่พยาน ทางเราจึงจำเป็นต้องทำการจับตัวคุณตามหมายจับ ส่วนมือปืนที่คุณสั่งให้ไปยิงคุณแวมก็ถูกจับตัวไปเรียบร้อยแล้ว เขาให้การสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างมาจากคุณ เพราะฉะนั้นคุณหนีความผิดไม่พ้นหรอกครับคุณวี มอบตัวเถอะ ”
หมวดไฟพูดพร้อมกับกระชับกระบอกปืนในมือแน่นขึ้น เขาเริ่มเดินเข้าหาตัวคนร้ายอย่างช้าๆ

แต่คนอย่างพี่วีไม่ยอมให้จับง่ายๆอย่างที่คิด เขาเปิดลิ้นชักในตู้ใกล้มือและหยิบปืนขึ้นมาทันที

“ อย่าเข้ามานะ! ” เขาดึงผมไปเป็นตัวประกันแบบไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้ปลายกระบอกปืนจ่ออยู่ห่างจากศีรษะของผมไปไม่ถึงสองเซนด้วยซ้ำ

“ ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งเป็นการเพิ่มข้อหามากขึ้นนะครับพี่วี ปล่อยหมอบีมเถอะครับ ” นาคิมพยายามเกลี้ยกล่อม

“ ไม่ ขืนปล่อยฉันก็โดนจับน่ะสิ ”

“ ทำไมพี่ต้องทำแบบนี้ด้วย? ” แวมมองหน้าพี่ชายตัวเองอย่างไม่เข้าใจ

“ ก็เพราะมึงไง เพราะมึงแย่งทุกอย่างไปจากกู ใช่สิ ก็กูมันไม่ใช่ลูกแท้ๆนี่ คุณแม่กับคุณพ่อถึงไม่ยกสมบัติทั้งหมดให้กู ถ้ามึงเรียนจบบริษัทฯก็จะตกเป็นของมึง แล้วกูล่ะ? ทั้งๆที่มึงไม่เคยช่วยเหี้ยอะไรเลย อยู่ดีๆก็ชุบมือเปิบเอาสิ่งที่ควรจะเป็นของกูไปหน้าตาเฉย กูเป็นคนดูแลบริษัทฯมันก็ควรจะเป็นของกู ไม่ใช่มึง! ”

ปัง!

เสียงปืนนัดแรกถูกยิงขึ้นฟ้าทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทันที

“ ใจเย็นๆก่อนนะครับ ” หมวดไฟพยายามปรามคนร้ายอย่างใจเย็น

“ ถอยไปเดี๋ยวนี้นะ! ” พี่วีออกคำสั่งและถอยออกห่างจากตำรวจเรื่อยๆ

แต่พี่วีก็ต้องชะงักฝีเท้าทันทีที่เห็นผู้มาใหม่เดินเข้ามาด้วยท่าทางร้อนรน

“ วี วางปืนลงเดี๋ยวนี้นะลูก ” ท่านนักการเมืองใหญ่เอ่ยห้ามลูกชายคนโตด้วยสีหน้าเครียดจัด

คุณหญิงหน้าตาตื่นตกใจเมื่อเห็นลูกชายตัวเองกำลังจะถูกจับ “ แม่ขอโทษนะลูก ”

“ ทำไมแม่ไม่บอกผม? ทั้งเรื่องบริษัท แล้วก็เรื่องที่พี่วีไม่ได้เป็นพี่ชายแท้ๆของผมด้วย ” แวมเครียดจัด มือทั้งสองข้างของเขาบีบแน่นเพื่อระงับความเครียด

ในตอนแรกพ่อกับแม่ของแวมประสบปัญหาการมีบุตรยาก ทั้งสองจึงตัดสินใจรับเลี้ยงพี่วีเอาไว้ แต่พอเวลาผ่านไปทั้งคู่ก็มีลูกด้วยกันจริงๆคือแวม ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ให้การเลี้ยงดูลูกชายทั้งสองเท่าเทียมกัน หากแต่ด้วยภาระงานและหน้าที่ทางสังคมทำให้พ่อแม่คู่นี้ไม่ได้ให้ความอบอุ่นกับลูกเหมือนกับครอบครัวอื่นๆ พวกเขาทำแต่งานจนแทบไม่มีเวลามาดูแลลูกๆเลย

พี่วีประสบปัญหาสภาพจิตไม่ปกติมาหลายปี คุณหญิงส่งเขาไปเข้ารับการบำบัดที่เมืองนอกและบอกคนอื่นๆว่าลูกชายไปดูแลธุรกิจที่โน่น เพียงเพราะอยากรักษาหน้าตาทางสังคม ไม่อยากให้ใครรู้ว่าลูกชายป่วยอยู่ พี่วีจึงไม่ได้รับการรักษาเท่าที่ควรจะเป็น จึงส่งผลให้เขาต้องกลายเป็นแบบนี้

“ แม่ผิดเอง อย่าทำแบบนี้เลยนะวี ”

“ อยากได้อะไรพ่อจะยกให้แกทุกอย่าง แต่แกอย่าทำอะไรบ้าๆแบบนี้นะ ”

“ มันสายไปแล้วล่ะครับ ไอ้แวมมันได้ทุกอย่างไปหมดแล้ว แม้แต่ความรักที่ผมไม่เคยได้รับ ทุกคนกลับมอบให้มันไปหมด ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ แล้วก็หมอบีม แวมแย่งไปจากผมหมดแล้ว ” พี่วีมองหน้าผมก่อนจะผลักตัวผมออกไปให้เป็นอิสระ

เขาก้าวเท้าถอยหลังพร้อมกับยกกระบอกปืนขึ้นระดับศีรษะ น้ำตาของเขาคลอจนเต็มหน่วยหากแต่ไม่มากพอที่จะไหลออกมา เขาเป็นคนเข้มแข็ง แต่ตอนนี้ความอดทนได้ขาดสะบั้นเรียบร้อยแล้ว มือข้างที่ถือปืนสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด

พี่วีหันปลายกระบอกปืนเข้าหาตัวเองช้าๆ

ปัง!

กระสุนจากปืนของหมวดไฟแล่นไปโดนมือพี่วีได้ทันก่อนที่เขาจะลั่นไกล กระบอกปืนตกจากมือคนร้ายหล่นลงพื้นไปเรียบร้อยแล้ว

ฝีมือการยิงปืนของหมวดไฟนี่สุดยอดจริงๆ

พี่วียังไม่ยอมแพ้ เขาก้มลงจะเก็บปืนขึ้นจากพื้นแต่ก็โดนหมวดไฟยิงขู่ไว้ซะก่อน เขารู้สึกทนไม่ไหวเหมือนอยากจะตายให้ได้ จึงตัดสินใจถอยหลังออกไปที่ระเบียงและทำท่าจะโดดลงไป นาทีนั้นทุกคนต่างตกใจทำอะไรไม่ถูก

“ หยุดนะครับพี่วี ” แวมรีบวิ่งไปคว้าตัวพี่ชายไว้ได้ทัน พี่วีโกรธจัดและขว้างหมัดไปที่หน้าแวมแบบเต็มแรง แวมเองก็สวนกลับเพื่อเรียกสติอีกคนเช่นกัน

ทั้งสองยื้อยุดกันอยู่สักพัก พี่วียกหมัดขึ้นมาเตรียมซัดออกไปเต็มแรงอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้แวมก้มหลบได้ทัน แต่พี่วีกลับเสียหลักล้มลง ศีรษะของเขากระแทกกับขอบระเบียงเสียงดัง และหมดสติไปในที่สุด

เลือดสีแดงสดเริ่มไหลไปตามพื้นกระเบื้องสีขาวอย่างน่ากลัว

“ จ่า เรียกรถพยาบาลเร็ว ” หมวดไฟหันไปสั่งลูกน้องทันที



ตอนนี้ทุกคนต่างนั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างใจจดใจจ่อ

“ แวม เป็นไงบ้าง? ” ผมยื่นแก้วน้ำหวานให้แวมเผื่อว่าจะบรรเทาความเครียดลงได้บ้าง สีหน้าเขาดูเครียดมากจนผมรู้สึกเป็นห่วง

“ ผม...ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี มันรู้สึกแย่ ไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นพี่วี ถึงแม้เขาจะเป็นยังไงผมก็เห็นเขาเป็นพี่ชายมาตลอด เรื่องนี้ผมเองก็มีส่วนผิด ผมไม่อยากให้เขาต้อง... ” แวมพูดเร็วมากราวกับคุมสติไว้ไม่อยู่

“ ฉันเข้าใจ ไม่ต้องคิดมากนะแวม ” ผมดึงเขาเข้ามากอดเพื่อปลอบใจ จังหวะการหายใจที่ถี่รัวเริ่มสงบลงเรื่อยๆ

“ แล้วหมอบีมไม่เป็นไรใช่ไหมครับ พี่วีทำอะไรคุณหรือเปล่า? ”

“ ฉันไม่เป็นไร ” ผมยิ้มบางๆ

“ พวกมึงสองคนทำไมไม่บอกกูให้เร็วกว่านี้วะ? ” แวมหันไปหาเพื่อนสนิททั้งสองคนอย่างคาดโทษ

“ ที่กูไม่บอกมึงเพราะทางตำรวจรอหมายจับจากศาลอยู่ ถ้าบอกมึงไป มึงก็คงไม่อยู่เฉยๆแน่ กูกลัวว่าไก่จะตื่นซะก่อน ” นาคิมว่า

ขณะที่แวมกำลังรู้สึกเคืองเพื่อนของเขาอยู่ หมอที่ทำการรักษาพี่วีก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉินพอดี

“ หมอมาแล้วเว้ย ” ใต้เมฆบอก ทุกคนต่างลุกขึ้นแล้ววิ่งกรูกันเข้าไปถามคุณหมอพร้อมกัน

“ ลูกชายดิฉันเป็นไงบ้างคะคุณหมอ? ”

“ คุณวีปลอดภัยแล้วนะครับ แต่หมอไม่สามารถบอกแน่ชัดว่าเขาจะฟื้นได้เมื่อไหร่ เนื่องจากสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก หมอเกรงว่าระบบสั่งการร่างกายจะมีปัญหา คงต้องนอนพักฟื้นที่นี่อีกซักระยะนะครับ งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ ” พูดจบหมอก็ไปดูแลเคสอื่นต่อ

หลังจากย้ายพี่วีไปที่ห้องพักใกล้มือแพทย์แล้วทุกคนก็หายห่วงและแยกย้ายกันกลับ หลังจากคุยกับตำรวจเสร็จเรียบร้อยคุณหญิงก็เรียกผมเข้าไปคุยต่อ

“ ฉันขอโทษเธอด้วยนะ ที่ทำให้ต้องเดือดร้อน ” คุณหญิงหันมาพูดกับผม ถึงอคติของเธอจะลดลงแต่ก็ยังหวงลูกชายอยู่ดี “ แวม กลับบ้านนะลูก อย่าหนีแม่อีกเลย ”

“ ถ้าแม่เลิกหาผู้หญิงมาแต่งงานกับผม ผมก็จะกลับครับ ”

“ แต่แม่... ”

“ คุณ เลิกบงการลูกสักทีเถอะ เพราะคุณเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ? วีถึงต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ” พ่อของแวมพูดต่อ “ เราควรเอาใจใส่ความสุขของลูกให้มากกว่านี้นะ ”

คุณหญิงนิ่งเงียบไปสักพัก

“ แม่ครับ ” แวมเดินเข้าไปจับมือคุณหญิงอย่างอ้อนวอน “ ผมรักหมอบีมจริงๆ ”

แม่ของแวมหันมามองหน้าผม แววตาของเธอดูลังเลอย่างเห็นได้ชัด

“ ไม่ได้ ยังไงแม่ก็ไม่ยอม ” เธอตวาดทิ้งท้ายและเดินหนีไปทันที

“ พ่อว่าเราคงต้องให้เวลาแม่แกสักพักนะ แต่คนนี้... ” ท่านนักการเมืองเงียบไป เขามองหน้าผมด้วยแววตาที่คาดเดาไม่ถูก และประโยคต่อมาก็ทำให้ต้องชะงักไปในทันที แทบจะไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อเขาหันไปพูดกับลูกชายว่า “ คนนี้พ่อให้ผ่าน ” 




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-01-2018 01:22:33 โดย lostboy »

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โอ๊ะโอ.......วี ไม่ใช่ลูกแท้ๆ  :really2:
แต่แม่ที่ชอบบงการบังคับลูกทุกอย่างนี่ก็  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
แม่เลี้ยงลูก ยังไงกันนะ มาชอบหมอบีมทั้งคู่
ท่าทางแม่ ยังไงก็ไม่ยอมเรื่องลูกชอบเพศเดียวกัน
แต่พ่อให้บีมผ่านแล้ว  :mew1:
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
คุณแม่คะ เรื่องมันเกิดมาขนาดนี้แล้วยังคิดไม่ได้อีกหรอคะ ให้เขามีความสุขกันสักทีเถอะค่ะ

ออฟไลน์ Nekosama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หมอบีมเอาไปเลย3 ผ่าน o13

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
คือแม่ยังสร้างเรื่องไม่พอ

ออฟไลน์ worry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :pig4: :pig4: :pig4: รอความหวานของคู่นี้อยู่

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
ถึงไม่ใช่ที่เดาไว้แต่ก็ใกล้เคียงล่ะนะ

พ่อให้ผ่านขาดแต่แม่รีบ ๆ ให้ผ่านนะแวมกับบีมจะได้ลงเอยกันสักที

เผลอ ๆ อาจจะมีหลาน? ให้อุ้ม55 (มโนไปอีก)


ออฟไลน์ paper

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ลำไยคุณหญิง :katai4:

ออฟไลน์ fanhy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณหญิงแม่ควรปลง และยอม

ออฟไลน์ lostboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ตอบคอมเมนต์ครับผมมม

โอ๊ะโอ.......วี ไม่ใช่ลูกแท้ๆ  :really2:
แต่แม่ที่ชอบบงการบังคับลูกทุกอย่างนี่ก็  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
แม่เลี้ยงลูก ยังไงกันนะ มาชอบหมอบีมทั้งคู่
ท่าทางแม่ ยังไงก็ไม่ยอมเรื่องลูกชอบเพศเดียวกัน
แต่พ่อให้บีมผ่านแล้ว  :mew1:
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
อุปสรรคใกล้หมดแล้ววว  :katai2-1:

คุณแม่คะ เรื่องมันเกิดมาขนาดนี้แล้วยังคิดไม่ได้อีกหรอคะ ให้เขามีความสุขกันสักทีเถอะค่ะ
เนอะๆ คุณแม่นี่ก็ดื้อจริงๆเลย  :katai1:

หมอบีมเอาไปเลย3 ผ่าน o13
ขอบคุณงับบบ  :mew1:

คือแม่ยังสร้างเรื่องไม่พอ
ใช่555

:pig4: :pig4: :pig4: รอความหวานของคู่นี้อยู่
อดใจรอแป๊ปนึงนะครับ

ถึงไม่ใช่ที่เดาไว้แต่ก็ใกล้เคียงล่ะนะ

พ่อให้ผ่านขาดแต่แม่รีบ ๆ ให้ผ่านนะแวมกับบีมจะได้ลงเอยกันสักที

เผลอ ๆ อาจจะมีหลาน? ให้อุ้ม55 (มโนไปอีก)
555 ชอบความมโนของคนอ่านมาก  o13

ลำไยคุณหญิง :katai4:
ใจเย็นครับบบ  :mew5:

คุณหญิงแม่ควรปลง และยอม
จริงที่สุด  :ruready


ออฟไลน์ lostboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Chapter 25



เกือบเดือนแล้วที่พี่วีกลายเป็นเจ้าชายนิทราอยู่โรงพยาบาล ตอนนี้ก็เป็นช่วงวันหยุดสั้นๆสำหรับนักศึกษาแพทย์อย่างผม พอได้ว่างแล้วก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกัน แต่ยังดีที่มีแวมอยู่ด้วย วันหยุดของผมจึงมีสีสันมากขึ้น

“ หมอบีม ช่วยด้วยครับ! ”

ผมลุกขึ้นจากเตียงอย่างงัวเงียเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนแหกปากโวยวายตอนเช้าตรู่ แต่ไม่ต้องเดาก็คงรู้ว่าใคร ง่วงชะมัด ทำไมชอบมาปลุกผมแต่เช้าแบบนี้ทุกทีนะ ทั้งๆที่เป็นวันหยุดแท้ๆ

ผมไม่รู้ว่าแวมรู้ที่ซ่อนกุญแจบ้านของผมที่ซุกไว้ใต้กระถางต้นไม้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็ช่างเถอะ ผมก็ขี้เกียจเดินไปเปิดประตูอยู่เหมือนกัน ก็เล่นมาหาทั้งเช้าเที่ยงเย็นทุกวันขนาดนี้

ผมเดินลงบันไดมาในสภาพทรุดโทรมจากการนอนไม่เพียงพอ เมื่อคืนอ่านหนังสือสารคดีสัตว์โลกจนถึงตีสอง แล้วนี่เพิ่งจะหกโมงเช้าก็ต้องตื่นซะแล้ว

“ นายทำอะไรของนายเนี่ย? ” ผมเอามือกุมขมับทันทีที่เดินเข้าไปในครัว รอบข้างมีควันคละคลุ้งเต็มไปหมด

ถึงผมจะอนุญาตให้แวมเข้าออกบ้านผมได้ตามใจชอบ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีสิทธิ์มาเผาครัวของผมแบบนี้นะ!

แวมหน้าถอดสีเมื่อเห็นผลงานของตัวเอง ไข่เจียวที่ควรจะเป็นสีเหลืองอ่อนน่ารับประทาน ตอนนี้มันได้ไหม้เกรียมจนกลายเป็นสีดำไปเรียบร้อยแล้ว

ผมเห็นหน้าเหวอๆของพ่อครัวฝึกหัดแล้วก็แทบจะกลั้นขำไม่อยู่

“ ผมขอโทษครับ เฮ้อ อดทำอาหารเช้าให้หมอบีมทานเลย ”

“ อยากจะโชว์ฝีมือว่างั้น? ” แวมพยักหน้ารับ

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วปัดมือให้เขาหลบ เดี๋ยวพ่อครัวมืออาชีพจะโชว์ฝีมือเอง พอตัดสินใจดังนั้นผมก็เเปิดตู้เย็นดูว่ามีวัตถุดิบอะไรบ้าง จะทำเมนูอะไรดี?

แวมมองการกระทำของผมทุกขั้นตอนเพื่อที่จะเก็บข้อมูลเอาไปทำตาม

“ ให้ผมช่วยเป็นลูกมือไหมครับ? ”

“ ฉันว่านายอยู่เฉยๆดีกว่านะ เมื่อวานก็เสียไก่ไปตัวนึงไม่ใช่เหรอ? นายนี่นะ อบไก่ยังไงให้หนังไหม้แต่ข้างในยังดิบอยู่เลย ”

“ คุณหมอรู้ได้ไงครับ? เมื่อวานผมอุตส่าห์แอบทำแล้วนะ ” แวมเกาท้ายทอยตัวเองแก้เขิน

“ ฮ่าๆ นายไปรอด้านนอกดีกว่า เดี๋ยวฉันทำเอง ”

“ ก็ได้ครับ ” ถึงจะทำหน้าหงอยๆแต่เขาก็ยอมเดินออกไปแต่โดยดี



“ เรียบร้อยแล้ว ” ผมวางแกงจืดเต้าหู้หมูสับ ไข่เจียว และผัดคะน้าลงบนโต๊ะ “ อ่ะนี่ กินซะ ” แวมยิ้มให้ผมก่อนจะยื่นมือมารับจานข้าวสวยไป

“ ผมนี่ไม่ได้เรื่องจริงๆเลย มารบกวนแล้วยังทำให้หมอบีมต้องลำบากอีก ”

“ ใช่ ” แวมหน้าเหวอไปอีกรอบเมื่อผมพูดแบบนั้น ผมอย่างแกล้งเขาดูบ้าง

“ รำคาญผมแล้วใช่ไหมครับ? ”

“ นี่ ถ้าฉันรำคาญนายฉันก็คงไล่นายไปตั้งนานแล้วล่ะ ” ได้ยินแบบนั้นแล้วแวมก็ยิ้มกว้างขึ้นมาทันที จากนั้นผมก็ชวนเขาคุยเรื่องที่ผมสงสัย “ แล้วนายได้กลับบ้านบ้างรึเปล่า? ”

“ ช่วงนี้ผมอยู่ที่คอนโดมากกว่าครับ ขืนกลับบ้านคุณแม่ก็ได้คงหาผู้หญิงมาให้อีกตามเคย ”

“ แล้วนายไม่สนใจผู้หญิงที่แม่นายหามาให้สักคนเลยเหรอ? ”

“ ก็ผมมีหมอบีมอยู่แล้วนี่ครับ ” ถึงจะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ก็ทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อนเผ่าจนรู้สึกได้

“ กินข้าวดีกว่า เย็นหมดแล้วเนี่ย ”

แวมมองหน้าผมก่อนจะเผยรอยยิ้มและตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย เราสองคนเงียบอยู่สักพักก่อนที่อีกคนจะเป็นฝ่ายพูดออกมา

“ หมอบีมครับ ตอนนี้เราเป็นแฟนกันใช่ไหม? ”

“ มั่วแล้ว ใครเป็นแฟนนาย ”

“ นั่นสิ ผมยังไม่เคยขอหมอบีมเป็นแฟนเลยนี่นา เป็นแฟนกันนะครับ? ”

“ แฮ่กๆๆ ” ผมแทบสำลักข้าวที่กินเข้าไปเมื่อครู่

นี่ใจคอจะขอกันง่ายๆขนาดนี้เลยเหรอ?

ผมคงต้องปฏิเสธเพื่อเล่นตัวไปก่อนใช่ไหม? ทั้งๆที่รอคำนี้มานานแล้วเหมือนกัน ไม่ทันที่สมองจะได้คิดไตร่ตรองอะไร ปากเจ้ากรรมก็เผลอตอบไปในทันที “ อือ ”

“ อะไรนะครับ? ”

“ เออ ”

“ แสดงว่าตอบตกลง? ”

“ โว้ย เข้าใจอะไรยากจังวะ! ”

ผมแสดงสีหน้าหงุดหงิดแล้วเดินหนีออกไปข้างนอกทันที ที่จริงต้องบอกว่าหาเรื่องหลบหน้าเพื่อแก้เขินมากกว่า

“ ตามมาทำไม? ” ผมนั่งลงที่ม้าหินอ่อนในสวนเล็กๆหน้าบ้าน คนที่ตามมาไม่พูดอะไรแต่ก็หย่อนตัวนั่งลงข้างๆ

เขาตั้งใจยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนผมต้องเอียงตัวไปด้านหลังแทบไม่ทัน คนตรงหน้ากระตุกยิ้มที่มุมปากพร้อมกับมองตาผมอย่างไม่ลดละ

หัวใจผมเต้นรัวไม่เป็นจังหวะจนต้องเอามือขึ้นมากุมไว้ที่อกข้างซ้าย ให้ตายเถอะ

“ เราเป็นแฟนกันแล้วนะครับ ” รอยยิ้มกว้างแสดงความดีใจถูกเผยออกมาบนใบหน้าหล่อเหลา

แวมเอียงตัวเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ส่วนผมก็เอนหลังหลบเช่นกัน

“ โว้ยยย จะตกม้านั่งอยู่แล้วเนี่ย ” ผมดันตัวอีกคนออกห่างแต่ก็ไม่เป็นผล

แทบจะเซตกลงพื้นหญ้าไปจริงๆถ้าแวมไม่ใช้แขนของเขาโอบเอวผมไว้ซะก่อน ผมสะดุ้งเฮือกในจังหวะที่พยุงตัวเองไม่ทัน สัญชาตญาณบ่งบอกให้ผมเกาะไหล่อีกคนไว้แน่น แวมมองตาผมก่อนจะโน้มตัวลงมาประกบริมฝีปากแผ่วเบา ผมตกใจจนหายใจลำบากเพราะกำหนดจังหวะไม่ทัน

“ อื้อออ ” แวมยอมผละออกเล็กน้อยเพื่อให้ผมได้ตักตวงอากาศก่อนจะประกบริมฝีปากเข้ามาอีกครั้ง “ อืม ” อีกคนครางในลำคออย่างพอใจขณะที่ผมเริ่มจะปรับจังหวะการจูบไปตามที่เขาชักนำได้ แค่ปล่อยให้อารมณ์ล่องลอยไปตามที่อีกคนจะพาไป

“ อย่าเม้มปากสิครับ ” แวมออกคำสั่งและส่งลิ้นร้อนแทรกเข้ามาทันทีที่ผมยอมทำตาม ปลายลิ้นของเข้าไล่ต้อนลิ้นเล็กไปมาเพื่อเพิ่มความรู้สึกวาบหวิวไปทั่วร่างกายอย่างบอกไม่ถูก

“ เหนื่อย ” ผมเอ่ยเสียงแผ่วเมื่อรู้สึกว่าถูกสูบพลังงานไปจนหมด แขนขาก็เริ่มอ่อนปวกเปียกจนไร้เรี่ยวแรง

“ รู้สึกดีไหมครับ? ” แวมถอนริมฝีปากออกและเปลี่ยนเป็นหอมแก้มผมหนึ่งฟอด

“ อื้อ ” พูดไปก็อายจนต้องหลบสายตาโดยการซุกหน้าไว้บนอกแกร่งของอีกคน

“ ที่จริงผมอยากทำมากกว่านี้นะครับ ” แวมหัวเราะในลำคอเบาๆ พูดตรงขนาดนี้ไม่รู้สึกอายบ้างเลยหรือไง?

“ ไม่ต้องเลยนะ ” ผมทำหน้าบึ้งใส่

“ โอเคครับ ไม่ทำก็ไม่ทำ ” แวมดึงผมเข้าไปกอดก่อนจะหอมแก้มผมอีกทีนึง แค่นี้ผมก็เขินจนหน้าแดงไปหมดแล้ว ไม่อยากจะนึกถึงอะไรที่มันมากกว่านี้เลย



“ แวม นายไม่เบื่อบ้างเหรอที่มานั่งเฝ้าฉันทุกวันแบบนี้? บ้านฉันก็ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนคอนโดนายเลยนะ ” ผมเอ่ยขึ้นขณะนั่งดูทีวีฆ่าเวลาในวันหยุด

แวมนั่งทำรายงานอย่างขะมักเขม้นที่มุมหนึ่งของห้องรับแขก ขณะที่เพื่อนคนอื่นปิดเทอมทำโปรเจคจบและเตรียมหาสถานที่ฝึกงานกัน ส่วนเขานั้นต้องลงเรียนซัมเมอร์วิชาที่ดรอปเอาไว้เพื่อเก็บหน่วยกิจให้ครบ

ทุกวันแวมจะมานั่งเฝ้าผมอยู่แบบนี้ เบื่อๆก็ชวนออกไปกินข้าวหรือดูหนังข้างนอก

“ แค่มีหมอบีมอยู่ด้วยก็ไม่เบื่อแล้วครับ ” เขาวางกระดาษปากกาลงแล้วขยับตัวมาใกล้ๆผม

แวมใช้แขนอีกข้างโอบตัวผมให้เข้าไปอยู่ในอ้อมแขน ผมปรายตามองหน้าคนที่กอดผมแน่นแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร จะว่าไปก็รู้สึกดีเหมือนกันแฮะ

“ ดูอะไรอยู่ครับ? ” แวมเอ่ยถามพร้อมกับมองไปที่ทีวีด้านหน้า เขาโน้มตัวลงมาเอาคางเกยไหล่ผมไว้ จงใจเอาแก้มแนบชิดกับแก้มของผมจนรู้สึกได้ถึงสัมผัสอ่อนนุ่มและแข็งกระด้างของไรหนวดบางๆ

“ สะ...สารคดีสัตว์โลกน่ะ ” ผมเอ่ยเสียงสั่นเมื่อแวมประทับริมฝีปากลงที่แก้มของผมแผ่วเบาพร้อมกับสูดดมความหอมอยู่เนิ่นนาน ผมรู้สึกได้ว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวจนขึ้นสีแดงไปแล้ว

ทำไมเขาชอบทำให้ผมเขินอยู่ได้วะ!

“ สารคดีสัตว์โลก? ไม่เห็นจะน่าสนุกตรงไหนเลยครับ ”

“ ไม่สนุกก็ไม่ต้องดู เอาหน้าออกไปได้แล้ว ”

“ เขินเหรอครับ? ”

“ รู้แล้วยังจะแกล้งอีก ” ผมทำหน้าบึ้งใส่ แวมใช้จังหวะที่ผมหันเข้าหาเพื่อประกบริมฝีปากลงมาแผ่วเบาเพียงเสี้ยววินาที

ผมตกใจจนต้องเบิกตาโพลงมองคนฉวยโอกาสอย่างเคืองๆ

“ โอเคครับ ไม่แกล้งแล้วๆ ”

กริ๊งงง! (เสียงกดออดที่ประตูรั้ว)

“ ใครมาตอนนี้วะ? ” แวมพำพัมกับตัวเองเบาๆ

“ ปล่อยได้แล้ว ฉันจะไปดูว่าใครมา ” เมื่อเขายอมผละตัวออก ผมก็เดินออกไปดูหน้าบ้านทันที

มีรถเอ็มพีวีคันเดิมที่คุ้นตาจอดรออยู่ ส่วนคนที่อยู่บนรถก็คือคุณหญิงแม่ของแวม เธอคงมาตามลูกชายสุดที่รักกลับบ้านอีกตามเคย

คนขับรถของเธอกดกริ่งอีกสองสามครั้งก่อนที่ผมจะเดินมาเปิดประตูรั้ว ผมยกมือไหว้คนที่อยู่บนรถ เธอเปรยตามองมาก่อนจะพยักหน้ารับ

“ ลูกชายฉันอยู่ที่นี่ใช่ไหม? ”

“ ครับ ” เธอไม่พูดอะไรและเดินเชิดหน้าเข้าไปในบ้านผมโดยที่ยังไม่ได้เอ่ยเชิญ

เฮ้อ ผมถอนหายใจและเดินตามเธอเข้าไปในบ้านเพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาที่จะเกิดตามมา



แวมชะงักไปทันทีเมื่อเห็นหน้าแขกคนใหม่ “ คุณแม่ ” เขาอุทานอย่างตกใจเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าเฉยเมยและทำเป็นไม่สนใจ

“ แวม แม่อยากให้แวมกลับไปอยู่บ้านกับแม่นะลูก ” คุณหญิงพูดกับลูกชายสุดที่รักด้วยน้ำเสียงโอนอ่อนกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

คงเป็นเพราะเธอรับรู้แล้วว่าลูกชายคนนี้หัวดื้อขนาดไหน ต่อให้ใช้ไม้แข็งยังไงเขาก็ไม่ยอมแน่ เธอจึงเปลี่ยนวิธีมาใช้ไม้อ่อนแทน

“ ครับ? ”

“ แม่เข้าใจแล้ว ที่ผ่านมาแม่คงบังคับแวมมากเกินไป ใช่ไหม? ” เธอนั่งลงข้างๆลูกชาย แวมยังทำท่าสนใจแค่รายงานที่อยู่ตรงหน้า มืออีกข้างก็จับปากกาจดข้อมูลในสมุดไปด้วย

คุณหญิงเปรยตามามองผมราวกับจะขอความร่วมมือ

“ แวม ฉันว่า... ” ผมกำลังจะพูดแต่ก็โดนเจ้าตัวขัดขึ้นทันที

“ ห้ามไล่ผมนะครับคุณหมอ เพราะผมไม่ไป ” แวมเอ่ยเสียงแข็งจนผู้เป็นแม่ถึงกับไปต่อไม่เป็น

“ ตอนนี้แม่ก็เหลือแวมแค่คนเดียว แม่ไม่สบายใจเลยที่ลูกไม่ยอมกลับบ้าน ”

“ เมื่อก่อนผมทำตามคำสั่งคุณแม่ทุกอย่างแล้ว คราวนี้ให้ผมทำตามใจตัวเองบ้างนะครับ แม่อย่าให้ผมต้องฝืนทำอะไรอีกเลย ผมไม่อยากแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่หาให้ ”

คุณหญิงเผยรอยยิ้มขึ้นมาจนแวมแสดงสีหน้าแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด

“ แม่จะไม่หาผู้หญิงมาให้แวมอีกแล้วนะลูก กลับบ้านกับแม่นะ ”

แวมครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะหันมามองหน้าผมเพื่อขอความคิดเห็น ผมพยักหน้าให้เป็นเชิงว่าให้เขาเลือกตัดสินใจเอง

“ ถ้าผมกลับไปอยู่บ้าน หมอบีมต้องไปอยู่กับผมด้วย ”

ผมจ้องหน้าแวมอย่างคาดโทษ ปัญหาครอบครัวของเขาทำไมต้องเอาผมเข้าไปเกี่ยวด้วยเนี่ย แล้วรอยยิ้มที่มุมปากนั่นมันหมายความว่ายังไงกัน?

“ เฮ้ย ฉันไม่ไป ” ผมปฏิเสธแทบจะทันที

“ งั้นผมก็ไม่กลับ ”

คุณหญิงหน้าถอดสีทันทีที่ได้ยินแบบนั้น เธอลำบากใจไม่น้อยกับเรื่องนี้ ก็แน่ล่ะ เธอไม่ชอบผมอยู่แล้ว จะให้ผมไปอยู่ด้วยคงไม่ได้

อีกอย่างผมก็เพิ่งเป็นแฟนกับแวมเมื่อกี้นี้เอง อยู่ดีๆจะให้ย้ายไปอยู่ด้วยกันได้ยังไง?

คุณหญิงเงียบไปนาน ท่าทางคงจะคิดไม่ตกอยู่พอสมควร ผมเชื่อว่าเธอคงจะไม่ยอมแน่

แต่ทว่าผมกลับคิดผิด

“ หมอบีม ถือว่าฉันขอร้องแล้วกัน  ย้ายไปอยู่กับลูกชายฉันเถอะนะ ”

!!!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด