รักฤๅผูกพัน . . . ก็เจ็บปวดเท่ากัน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักฤๅผูกพัน . . . ก็เจ็บปวดเท่ากัน  (อ่าน 267313 ครั้ง)

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เตรียมบินแล้ว  :a1:

มีเรื่องอยากถามอ่ะค่ะ
พี่อาร์ม    - ที่ตั้งชื่อว่า อาร์ม เพราะต้องใช้ 2 แขนปลอบใจตัวเองหรือเปล่าคะ
น้องโก    - เป็นเพราะตั้งใจให้ "ไป" หรือเปล่าคะ
เพื่อนโอ๋  - เป็นเพื่อนที่เข้าใจเรา ปกป้องเราตลอดใช่มั้ยคะ

หรือว่า แก้วคิดมากไปเอง   :m23:

ไม่คิดมากหรอกครับคุณแก้ว

ชื่อตัวละครมันบอกอะไรได้หลายอย่าง

นิยายมันก็คือภาพสท้อนที่เป็นจริงในสังคม

เหมือนกับที่ว่า ดูหนังดูละครแล้วย้อนดูตัว

อันนี้ก็ อ่านนิยายแล้วย้อนดูตัว

อะไรในนิยายที่ไม่ชอบก็อย่าทำ อะไรที่ชอบก็เก็บไว้

 :teach:

ออฟไลน์ DEK-JANGRAI™

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ขอบคุณคร้าบ  สำหรับเรื่องดีดีที่น่าเศร้าใจ


อ่านแล้วเจ็บปวดใจเป้นที่สุด   ถ้ามันเกิดกับชีวิตของผม 


ผมคงรับมันไม่ไหวแน่  เหอๆๆๆ

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป


เย้ยยยยยยยยยย  ไปกันใหญ่แร่ะ . . ง


พี่อาร์ม    - ที่ตั้งชื่อว่า อาร์ม เพราะ . .. ไม่มีเหตุผลจริง ๆ
น้องโก    - พ่อมันชื่อโกเมศ . . .แล้วมันก็เกิดปีฉลองกรุงรัตนโกสินทร์  จะให้ชื่อไรล่ะ
เพื่อนโอ๋  - ไอ้เพื่อนเหี้ย . . . ชื่อนี้มาตั้งแต่เกิดครับ


ปล.  เรื่องนี้คือ . . . เรื่องเล่า . . . ไม่ใช่นิยาย

เพราะนิยายคือความฝัน  จินตนาการ . . . เรื่องเรื่องเล่าคือสิ่งที่ผ่านมา  แม้จะไม่ทั้ง ๑๐๐%  แต่มันก็มากกว่า ๘๐%  ที่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง  เพราะฉะนั้นในความคิดของผม 

เรื่องเล่า . . . แตกต่างจากนิยาย



แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
 o6  แหะ แหะ 

ขอโทษค่า

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
 :sad2: :sad2:ง่า.....ปวดใจ......

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
อาร์มตื่นเช้าจังเลย มาต่อตั้งแต่หกโมงเช้าแน่ะ เอ๊ะ รึเราตื่นสายเองกันแน่หว่า :m23:
ดีใจนะที่อาร์มก้าวออกมาได้อีกขั้นนึงแล้ว o7
ชอบตรงที่อาร์มทิ้งระยะห่างกะโกได้ "ใกล้ใจ..แม้ไกลตัว" ไม่ได้พยายามยื้อไว้กะตัวเองแบบดันทุรังเหมือนเดิม อ่านจากบทสนทนาทางโทรศัพท์แล้วรู้ได้เลยถึงความสงบ มากกว่าบทสนทนาตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันพักหลัง มันเปนการเชื่อดเฉือนกันซะมากกว่า....

เรื่องเดินทางมาถึงระยะไหนของปัจจุบันแล้วนี่.... วันนี้ยังรออีกตอนอยู่นะ อิอิ  :m13:
เปนกำลังใจให้เสมอจ้ะ :L2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เหอเหอ

สงสัยผมจะเข้าใจผิด

ยังงัยก็รอตอนต่อไปนะครับ

 :m23:

Bliss_Destiny

  • บุคคลทั่วไป
อ่า

จริงด้วย

ว่าแต่ตอนนี้ พี่อาร์มเดินมาถึงจุดไหนแล้วล่ะคะ?

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
อ่า

จริงด้วย

ว่าแต่ตอนนี้ พี่อาร์มเดินมาถึงจุดไหนแล้วล่ะคะ?



ผมไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ผมเดินมาถึงจุดไหน . . .

ผมรู้แค่ว่า . . . ผมเองก็ยัง . . . งง . . .

ทำไมชีวิตคนเรามันเน่าได้ขนาดนี้ . . .  ขนาดดูสวรรค์เบี่ยงตอนอวสานผมว่าเน่าสนิทแล้วนะ  แต่พอผมมองย้อนหลังไป  เออ  ชีวิตกูก็เน่า  เน่าได้ดีแบบที่ไม่ต้องหาออกซอเจนเติมลงไป  เพราะมันไม่หายเน่า



iamhappywood

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไรจะมาต่ออ่ะครับ อยากอ่าน  :serius2: :serius2: :serius2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Bliss_Destiny

  • บุคคลทั่วไป
นั่นสินะ...

พอจะเข้าใจค่ะ

เพราะชีวิตคนเรามันไม่เหมือนกันเลย

พยายามเข้านะคะพี่อาร์ม

หนูเชื่อว่าสักวันพี่จะต้องรู้ได้แน่ๆ  ว่าตัวพี่เอง  เดินปถึงจุดไหนของชีวิตแล้ว...

หนจะเป็นกำลังใจให้นะคะ ^-^  :กอด1: :L2: :L1: :c5:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป


ตอนที่  ๓๑



   เวลาที่ผมมีอยู่ . . .

   ไม่ถึงเจ็ดวัน  นึก ๆ  แล้วก็ใจหาย  ผมเคยจากแผ่นดินเกิดหรือ? 

   แม้แต่เที่ยวเมืองนอก  ผมแทบไม่อยากก้าวเท้าพ้นแผ่นดินไทยเลย  ไม่รู้สิ  ผมมีความรู้สึกว่าแผ่นดินนี้  ร่มเย็นที่สุดแล้ว  จะดิ้นรนไปที่อื่นทำไม

   หาก . . .


   ที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้  ไม่ใช่ . .

   . . . แผ่นดินที่ผมอยู่มันรุ่มร้อน . . 

   ร้อนอย่างกะไฟ  เหมือนยืนอยู่บนกองเพลิงก็ว่าได้

   ผมก้มลงกราบหลวงพ่อ . . . 

   นานทีเดียวที่ผมไม่ได้เจอท่าน  เพราะท่านออกธุดงค์  แต่น่าแปลก  ท่านกลับมาจำวัด  ก่อนผมไปนอกไม่ถึงเดือน    และเหมือนท่านจะรอผมอยู่ด้วยซ้ำ

   “มาแล้วหรืออาร์ม”

   “หลวงพ่อ”

   “รอมาหลายวัน . . .”

   ผมมองหน้าท่าน  บางที  เรื่องบางอย่างเราไม่สามารถที่จะพูดได้  เวลาเท่านั้นที่จะคลี่คลายทุก ๆ  อย่าง

   “แดนสบายดีหรือลูก . . .”  ท่านหันไปทักทายอีกคน

   “ครับหลวงพ่อ”

   “โอ๋ไม่มากันด้วยหรือ . . .”

   “จะบวชอีกสามวันแล้วครับ  ตอนนี้ไปอยู่ที่วัดแล้วครับ”

   “อืม  ทางสงบ  เหลือแต่เราสินะ”  ท่านมองมาทางผม  แววตามีแต่ความสงสาร  เปี่ยมด้วยเมตตา  ใบหน้าท่านสว่าง  มีสง่าราศี

   “จะมาลา . . .”  ผมก้มหน้าต่ำ

   “พี่อาร์ม  พูดอะไร. . .”  แดนกระตุกที่ขาผมเบา ๆ 

   “. . . ใครเขาให้พูดเรื่องลา  มันเป็นลาง” 

   ผมรู้ มันห่วงผม   หากตัวผม . . .

   . . . ผมมาเพื่อลา

   “ผมจะไปอยู่เมืองนอก . . . ได้งานที่โน่น”

   “พี่อาร์ม  เมื่อไหร่”  ดูเหมือนคนที่จะตกใจเป็นไอ้แดน  หากหลวงพ่อมองผมนิ่ง  แววตาไม่เปลี่ยน

   “อนิจจัง  ทุกขัง  อนัตตา”   ท่านยิ้ม  แววตาเอื้ออาทร

   “หลวงพ่อ . . .” ผมมองหน้าท่าน  ผมรู้ความหมายเสียที่ไหน  ท่านเมตตาผม  ยิ้มบาง ๆ

   “จงหยุด  แล้วมองโลกด้วยความเป็นจริง  พิจารณาสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์  เพราะทุกสิ่งทุกอย่างไม่เที่ยง  ไม่ใช่ตัวตน  เพราะขณะนี้  เราไม่รู้ไงว่าชีวิตหรือสิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่เรากำลังหลง รัก ใคร่ ยินดี ล้วนเป็น อนิจจัง  ทุกขัง อนัตตา”    น้ำเสียงสะกดให้ผมต้องคิดตาม

   ธรรมะ . . .

   . . . มาจากธรรมชาติ

   น้ำ . . .

   . . . ต้นกำเนิดสรรพสิ่งของชีวิต

   หาก . . . ธรรมะ  หลักการดำรงชีวิต

   “อนิจจัง  ทุกขัง อนัตตา. . . “   ผมทวนคำ

   “มันคืออะไรหรือหลวงพ่อ   สั่งสอนสัตว์โลกเถิดหลวงพ่อ นึกว่าเมตตา . . .”  ผมมองท่าน  ก้มกราบ ก่อนพนมมือเต้อีกครั้ง  ผมยอมรับ  ไกลวัด  ไกลศาสนา

   ช่องที่มีให้กรอกในเอกสารต่าง ๆ  ศาสนา . . .

   พุทธ . . . สิ่งที่ผมกรอกด้วยความเคยชิน 

   หากแต่ไม่เคยเลยที่จะรู้อะไรมากไปกว่า  พระพุทธองค์เกิดมา  แล้วเดินเจ็ดก้าว   ทรงแต่งงาน แล้วเบื่อหน่ายทางโก  ก่อนหนีออกผนวช  ทรงตรัสรู้  ปรินิพพาน . . .

   ถึงผมจะเคยบวช . . .  แต่แค่เจ็ดวัน  บวชตามประเพณี  หาใช่บวชเพราะอยากศึกษาในธรรมะของพระพุทธองค์

   หลวงพ่อยิ้มที่มุมปาก . . .

   “คืออะไรหรือ  ก็คือ  การหลงรักยินดีติดพัน  ยึดถือ  ครั้นเราจะสลัดมันทำไม่ได้  เราต้องเปิดตามอง  ตามวิธีของศาสนา  คือ  มองให้ชัด  ว่าสิ่งทั้งปวงไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  ไม่ใช่ตัวตน  ไม่มีอะไรน่าผูกมัดตัวเราไว้กับสิ่งนั้นจริง ๆ  แล้วจิตมันก็จะเกิดความหลุดพ้นจากอำนาจครอบงำ  ในสิ่งที่เรา ๆ  มักจะบอกตัวเองว่าเสมอว่า . . .  ความรัก”  ท่านกระเอมเบา ๆ  คล้ายมีอะไรติดคอ 

   ผมรินน้ำชาจากในกา  ก่อนเลื่อนให้ท่าน  หลวงพ่อท่านจิบเบา ๆ 

   “อนิจจัง  คือ  สิ่งทั้งปวงเปลี่ยนแปลงเรื่อย  ไม่มีอะไรเป็นตัวเองที่หยุดอยู่แม้ชั่วขณะ  มีรักได้  ก็เลิกรักได้”

   ผมนั่งฟังด้วยหัวใจที่เยือกเย็นลง . . . 

   สิ่งที่หลวงพ่อบอก  ผมคุ้น ๆ  เหมือนเคยเรียนในวิชาพระพุทธศาสนา  หากมันนานมาแล้ว  นานมากเหลือเกิน  แล้วตอนที่ผมบวช  ผมก็เคยอ่านหนังสือแนวธรรมะ 

   แต่ทำไม . . . 

   ตอนที่ผมทุกข์  ผมกลับไม่หันหน้าเข้าหาธรรม  อาจเพราะว่าห่วงผมหนาเกินไป   ผมเลือกไปยึดเอาอะไรมาผูกเอาไว้กับตัวเอง

   “ทุกขัง หมายความว่า  สิ่งทั้งหลายทั้งปวงมีลักษณะเป็นความทนทุกข์ทรมาน  อยู่ในตัวเอง  มีลักษณะดูแล้วน่าชัง น่าเบื่อหน่าย  น่าระอาอยู่ในตัวมันเองทั้งนั้น  มีรักก็มีทุกข์แหละ  รักมากก็ทุกข์มากเป็นธรรมดา”

   ผมทุกข์เจียนตาย . . .

   นั่นเพราะผมรักมันมากกว่าตัวเอง  ผมมันเหมือนคนที่มืดบอด  ไร้สติ  ไร้การตรึกตรอง  หากเปรียบตัวเองเป็นบัว  ผมไม่แตกต่างอะไรจากบัวที่เพิ่งโผล่พ้นโคลนตม  อีกกี่วันก็ไม่รู้ที่จะได้โผล่พ้นน้ำ  รอรับแสงอรุณ  เพื่อที่จะแบ่งบานอวดกลีบดอกของความสวยงาม

   ความรัก . . .

   . . . ทำหัวใจผมบอดสนิท

   “อนัตตา  คือ  การบอกให้รู้ว่า  บรรดาสิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่มีอะไรที่เราควรจะไปยึดมั่นถือมั่นด้วยจิตใจว่า  เป็นตัวเราหรือเป็นของเรา . . .”   หลวงพ่อมองผมด้วยสายตาที่ผมรู้ว่าห่วงใย

   “. . .  ถ้าไปยึดถือก็ต้องเป็นทุกข์  และยังบอกให้รู้ว่าสิ่งทั้งปวงนั้นยิ่งกว่าไฟ  เพราะว่าไฟนั้นเราสามารถมองเห็นว่ามันลุกโชติช่วง  เราไม่ควรไปเข้าใกล้  แต่สิ่งทั้งปวงนั้นมันเป็นไฟที่มองไม่เห็น  เราจึงเข้าไปกอดกองไฟด้วยความสมัครใจ  แล้วมันก็เลยเป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลา  นี่คือการบอกให้รู้ว่าสิ่งทั้งปวงคืออะไร”

   ผมนั่งน้ำตาไหลคลอ . . . 

   . . . อยากกอดหลวงพ่อจับใจ

   ทางสว่าง . . .

   ท่านชี้ทางสว่างให้กับผมโดยแท้  สิ่งที่ท่านบอกผม  ท่านไม่ได้คิดมาเอง พระพุทธองค์ตรัสไว้เป็นพัน ๆ  ปีแล้ว   ท่านให้ความร่มเย็นแก่มวลมนุษยชาติ  หากทำไม  คนเราถึงไม่ยึดติดกับกิเลส ตัณหา  กันมากนักก็ไม่รู้

   “สิ่งที่หลวงพ่อบอกว่า  เราเรียกรวม ๆ  ว่า ไตรลักษณ์   ที่นี้เมื่ออาร์มรู้ว่าสิ่งทั้งปวงไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  ไม่ใช่ตัวตน  ยึดถือไม่ได้  และไปหลงใหลด้วยไม่ได้  เราก็ต้องปฏิบัติทั้งปวงให้ถูกต้องด้วยความระมัดระวัง  คือ  เว้นจากการทำชั่ว  แค่เราไม่ทำชั่วเท่านั้น จิตใจเราก็สงบเองลูก”

   ผมก้มลงกราบหลวงพ่อ . . . 

   ตอนนี้หัวใจผมโล่งเหมือนโดนปลดปล่อย  ปล่อยจากโซ่ตรวนของพันธนาการที่ผมสร้างมันขึ้นมา  สิ่งที่ผมเรียกมันว่า . . .

   . . . ความรัก

   “จะไปวันไหน”

   “อีกห้าวันครับหลวงพ่อ  อีกนานกว่าจะได้กลับมาเยี่ยมหลวงพ่ออีก”

   “พี่อาร์ม”  แดนมันยังไม่รู้  มันยังไม่ชินกับการจากลากระมัง  แดนจับขาผมเอาไว้  ผมหันไปยิ้มให้มัน  บอกเป็นเชิง  ไว้คุยกัน

   “อย่าห่วงเลย  หลวงพ่อสบายดีใต้ร่มเงาพระศาสนา  อาร์มล่ะลูก  เหนื่อยก็พัก  แล้วคิดที่หลวงพ่อบอกให้มาก  ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเรานะลูก”

   “ครับหลวงพ่อ”

   “บอกอาเขาหรือยัง”

   “ยังครับ”

   “ยังไม่เพล  ถ้าไปปาย  ยังทันนะลูก  ไปบอกอา  ไปบอกเขาคนนั้นเสีย  บอกทุก ๆ  คนที่ลูกอยากบอก . . .”

   ผมมองหลวงพ่อ . . .

   หลวงพ่อรู้อะไรหรือ  หลวงพ่อเป็นพ่อผม  มีหรือจะไม่รู้จักลูกตัวเอง  เพียงแต่ว่าท่านจะพูดออกมาตรง ๆ  หรือไม่  และในสถานะของท่านตอนนี้  คงไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้มากกว่านี้

   เรื่องของทางโลก . . .

   . . . หาใช่  กิจของสงฆ์ 

   “. . . กรรมแต่อดีตก็เป็นเรื่องของอดีต  เราไม่สามารถแก้ไขอะไรมันได้นะอาร์ม   แต่วันนี้  ปัจจุบันนี้  อาร์มถามตัวเองนะลูก  ตัดได้มั้ย  ไม่ต่อกรรมกันอีกได้มั้ย   ถ้าเราตัดได้  เราก็จะอยู่ร่วมกันบนโลกนี้ได้อย่างสงบ”  น้ำเสียงท่านราบเรียบ  แต่ทำไม  ผมกลับอบอุ่นอย่างที่สุด

   “ครับหลวงพ่อ  งั้นผมจะไปปาย”

   “ดีแล้วลูก  ตัดกรรมซะ เอ้า. . . ว่าง ๆ  ก็อ่านมันซะบ้าง  เดินทางปลอดภัย”  ท่านเลื่อนหนังสื่อเล่มเล็ก ๆ  ให้

   คู่มื่อมนุษย์ . . . พุทธทาสภิกขุ

   แบบนี้แปลว่าท่านไม่อยากให้ผมรบกวนอีกแล้ว  ผมกับผมแดนก้มลงกราบ  ก่อนที่จะออกมาจากวัด

   หัวใจผมเย็นอย่างที่สุดแล้ว . . .

   . . . ผมควรตัดกรรม





   เราแวะเติมน้ำมันเต็มถังก่อนถึงแม่มาลัย  แดนมันอาสาที่จะขับให้  เส้นทางสายนี้มีแต่โค้งกับเขา  แต่มันก็สวยงามมากเส้นทางหนึ่ง  และเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างปลอดภัยกว่าเส้นทางอื่น


   ผมนั่งเงียบ . . .

   คิดตามสิ่งที่หลวงพ่อบอกมา  ก่อนเปิดอ่านหนังสือเล่มเล็ก ๆ  และคิดตามเปรียบเทียบสิ่งที่มีในหนังสือ  กับความเป็นจริงที่ผมเจอ

   . . .  ผมเคยกลัว  กลัวหลายอย่าง

   ตอนเด็ก ๆ  ผมกลัวผี  กลัวความมืด

   . . . ผมกลัวการนอนคนเดียว  ต้องแอบไปนอนกับแม่ 

   ผมโตขึ้นผมมีความรัก . . .   

   . . . ผมก็กลัว  กลัวมันจะไม่รักผม กลัวมันทิ้งผมไป เพราะผมคิดมาตลอด  มันคือส่วนหนึ่งในชีวิตของผม  ผมไม่เคยแยกความรักระหว่างผมกับมัน  เพราะผมรู้  ความรักมันแยกได้เสียที่ไหนเล่า  ความรักมันมีเพศหรือ  มันคงเป็นไอ้ตัวสองเพศตามใต้ทะเลลึกกระมัง

   ใช่แล้ว  . . .

   . . .  ลึกสุดในทะเลแห่งหัวใจไง

   ผมค่อย ๆ  ใช้เวลาพิจารณาถึงคำสอนของท่านพุทธทาส  ก่อนอื่นเลย  ผมมานั่งอยู่ตรงนี้เพราะ?

   “มันไม่รักผมแล้ว  มันมีผู้หญิงเหมือนที่ผมเคยมีมาก่อนมัน”

   ผมถามตัวเองเป็นร้อยรอบ  พันรอบ 

   ทำไมว่ะ . . . 

   . . . กูผิดเหรอ  ผิดตรงไหน 

   ทำยังไงจะเหมือนเดิม . . .   

   แล้วคำตอบมันก็ออกมาเป็นน้ำตา  เป็นก้อนอะไรไม่รู้ที่แล่นขึ้นมาจุกแน่นที่หน้าอก  แล้วลามมาถึงลำคอ  ทำให้กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น  แล้วสายตาที่มองถนัดก็เริ่มพร่ามัวเพราะมีหยาดหยดน้ำตารดรินลงอาบแก้มอย่างช้า ๆ 

   ผมว้าวุ่น  ร้อนรุ่มหัวใจ . . .

   ยามที่มันนอนอยู่กับผม  มันกอดผม  แต่เมื่อใครโทรเข้ามาในเวลาอันดึก  มันต้องรีบรับสาย  มันคุยสนุกสนานมีความสุข  แต่หัวใจผมร้าวราญ  หมอนผมเปียก  มันจะรู้มั้ยว่าผมเจ็บ  แล้วผมเจ็บจนต้อสะอื้นทุกครั้งก่อนที่มันจะวางสายกับคำพูดที่มันกรอกไปตามสาย   

   “รักมากนะ”

   ผมคงไม่ชินกับการที่คนที่ผมรักเท่าชีวิตบอกรักคนอื่นกระมัง  เพราะผมชินกับการที่มันบอกรักผมคนเดียวไง แม้จะมีสร้อยต่อท้าย . .  . แบบพี่

   เห็นมั้ย . . .   

   ผมบอกแล้ว  พอลองพิจารณาดู  ถึงสาเหตุ  ก็จะค่อย ๆ  เห็นภาพว่าจริง ๆ  แล้วที่ผมทุกข์  อยู่ทุกวันนี้เพราะอะไร  ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี  แต่จะมีศาสนาใดบ้างที่สอนให้คนค้นหาสาเหตุแห่งทุกข์  ผมว่าน่าจะไม่มี 

   บาป  กับ  บุญ . . .

   . . . ล้างกันไม่ได้  ผมเชื่อ

   สารภาพบาปแล้วหาย . . .

   . . .  ผมเงียบ  ไม่ขอออกความเห็นแฮะ

   ทำไมต้องทุกข์? 

   . . .  ก็เพราะรักเขาไง

   แล้วก่อนหน้านี้ทำไมถึงสุข? . . . 

   . . . ก็มันรักผมนี่

   เมื่อเราไม่ร้อนรุ่ม  เราเอาคำสอนศาสนามาพิจาณา  เอามาเป็นแนวทาง  ค่อย ๆ  คิด  ค่อย ๆ  ค้น  ค้นไปจนเจอสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์  แล้วเราดับมันที่ต้นเหตุ  เราก็ไม่ทุกข์เองแหละ  ผมหาสาเหตุของทุกข์ 

   ทุกข์เพราะรักมาก  ถ้าไม่รักมันจะทุกข์มั้ย?

   เห็นมั้ย . . . 

   เมื่อเรามีสติ  เราก็จะมองอะไรที่ง่าย  ผมรู้แล้วสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์  แต่ทำอย่างไรถึงจะดับทุกข์นั้นได้เหมือนที่บอกไง 

   . . . บ่วงดวงใจตัดยาก 

   แต่ผมต้องดับมันให้ได้  หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล  เรามีทางเลือกไม่มาก  แล้วแต่ว่าเราจะเลือกทางใดก็เท่านั้น 

   “ตัวกูหรืออัตตา” 

   ผมเริ่มจะรู้จักกับมันแล้ว  ผมจะต้องทำความคุ้นเคยกับมัน  ต้องเรียนรู้กับมันอีกสักระยะ  คนเราเกิดมาพร้อมหน้าที่ 

   หน้าที่ของความเป็นลูก . . . 

   . . . หน้าที่ของคนในชาติ 

   หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อการงาน และอะไรอีกมากมายที่เราเอามันมาสวม  เอามาแบกไว้  ผมต้องค่อย ๆ  ผ่อนคลายหน้าที่  และผมต้องทำความรู้จักกับ  อัตตา  ให้มากขึ้น   และที่สำคัญที่สุดสำหรับผม    “หน้าที่ของหัวใจ”

   ผมต้องปล่อยวางหัวใจเอาไว้ . . .

   . . . โดยที่มันต้องไม่มีหยดเลือดและน้ำตา . . .

   ไม่ว่าจะเป็นจากผมหรือจากมัน . . .

   นี่แหละที่ต้องใช้เวลายากหน่อย  แต่มันคงอนุโมนทาสาธุ  ถ้าถนนสายชีวิตของผม  ผมจะไม่ยอมให้มันเฉียดมาอีกแล้ว  ระหว่างมันกับผม  เราเดินด้วยกันมานาน  นานจนผมไม่คิดว่าจะมีอะไรจะแยกกันได้ 

   แต่ผมลืมไปไง  . . . 

   . . . คนเราเกิดมาคนเดียว  แม้กระทั่งฝาแฝดยังไม่ได้เกิดมาพร้อมกันเลย

   คนเราเกิดมาทำไม ?

   หลายคนอาจเคยเจอคำถามแบบนี้  กิน ขี้ ปี้  นอน  แค่นี้นะเหรอที่เราเกิดมา  ซ้ำ ๆ  ซาก ๆ  แบบนี้นะเหรอในชีวิตของคนเรา ไม่มีแก่นสารเลยว่ะกู   ชีวิตมึงทำดีได้เท่านี้จริง ๆ  หรือ  ผมถามเอง  ผมก็ต้องหาคำตอบเองอีกแร่ะ 

   ถ้าเช่นนั้นคนเราเกิดมาทำไม?

   . . . ทุกวันนี้เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไรกันแน่?

   และอีกมากมายที่มันผุดในสมองกลวง ๆ  ของผม 

   อะไร? 

   . . . ทำไม?

   ทำอย่างไร? 

   มันตอบยาก . . . 

   . . . แต่ผมต้องค้น  ผมต้องหา   คำตอบที่ใครก็ไม่สามารถบอกได้  นอกจากตัวผมเอง   

   เวลาที่ร้อน  เวลาที่ไม่สบายใจ  ทำไมเมื่อเราใกล้พระ  เราใกล้ศาสนา  เราจึงร่มเย็น  แล้วทำไมไม่ลองเข้าไปอยู่ในศาสนาเสียล่ะ 

   เหอะ ๆ ๆ ๆ ตรูยังมะพร้อม . . .

   “ทำไม?”

   ผมกลัว

   “กลัวเหี้ยไรว่ะ”

   ม่ายรู๊เด่ะ

   งั้นคุณมึงลองนึกดูนะไอ้สาดดดดด  ว่าตั้งแต่มีโลกนี้มา  มันมีศาสนามาพร้อมโลกไหม  ไม่มีใช่ไหม  คนสมัยก่อนบรรพบุรุษของมึงนะ  คนป่า คนถ้ำ  มันกลัวเหมือนมึงตอนนี้มะ 

   “กลัว”

   เห็นมะ  คนป่ามันก็กลัว 

   กลัวไร . . . 

   . . . กลัวฟ้าร้อง  ฟ้าผ่า  กลัวความมืด  กลัวพายุ  กลัวช้างแมมมอธ  อันนี้เกี่ยวมะนี่ 

   มะรู้ว่ะเพราะผมเกิดมิทันเหอะ ๆ ๆ ๆ

   . . . ที่เรากลัวนะ  มันกลัวสิ่งที่อยู่เหนือการคาดหมาย  ที่อยู่เหนือความเข้าใจและความต้านทานของคนสมัยนั้นกระมัง  แล้วไงรู้ไหม   บรรพบุรุษของมรึงงงงงงงงงงง  คนป่า  คนถ้ำ  ก็เริ่มพัฒนาความกลัวให้มันน้อยลง  บูชาไฟ  หมอบกราบอ้อนวอน  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 

   เห็นมั้ย . . .   ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากความกลัว  ศาสนาก็เหมือนกันมันเกิดจากความกลัว 

   พระพุทธเจ้าเห็นอะไรถึงทรงหนีผนวช  ทั้ง ๆ  ที่พระองค์มีทุกอย่างในชีวิต 

   มีเมีย . . . 

   . . . มีลูก 

   มีพ่อ . . . 

   . . .มีพระราชวังศ์สามฤดู 

   ยกเว้นดาวกับเดือน  แต่พระองค์ท่านมองเห็น  การเกิด การแก่  การเจ็บ  การตาย   ทุกอย่างมันล้วนวัฏฏะสังขาร  มึงก็เหมือนกันไอ้อาร์ม  เกิด  แก่  เจ็บ  สักวันก็ต้องตาย  มึงโชคดีที่อย่างงน้อยมึงมีคนที่มึงรัก  และเขาก็รักมึง  แค่นี้แล้วมึงยังต้องการอะไรอีก 

   มีรักได้  ก็หน่ายรักได้

   ชายคู่หญิงโว้ยยยยยยย  มะช่าย   ชายคู่ชาย      แบบที่มึงอยากให้อีกคนเป็นแบบมึง

   ผมนั่งคิดในขณะที่ไอ้แดนขับไปเรื่อย ๆ    นานครับ  นานจนผมคิดว่า  ผมจะต้องค่อย ๆ  วางหัวใจของผมให้มันนุ่มที่สุด  ผมจะได้ไม่ทรมาน  และมันคนที่ผมรักก็ไม่ต้องทรมานเช่นเดียวกัน 

   ผมแปลกใจตัวเอง  ผมไม่ร้อนรุ่ม  ไม่คิดว่ามันจะที่ไหน อยู่กับใคร  อาจเพราะ  ผมเริ่มรู้จักเพื่อนแท้ของผมมากขึ้นกระมัง   “ตัวกู”



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2010 12:40:37 โดย ราชบุตร »

Bliss_Destiny

  • บุคคลทั่วไป
พี่อาร์มค้นพบที่ยึดเหนี่ยวในจิตใจแล้วนะคะ ^-^

ต่อจากนี้ไปก็พยายามเข้านะคะ 

เพราะเมื่อเรามีที่ยึดเหนี่ยว

ทุกอย่างจะไม่ยากเหมือนเดิมแล้ว

เพราะเรารู้ว่าอะไรคืออะไร 

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :กอด1: :c5: :L1: :L2:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
อาร์มสู้ ๆ  :a2: :a2:

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ดีใจด้วยที่เจอที่ยึดเหนี่ยวทางใจ"อันใหม่"
 
ขอบใจที่มาต่อให้อีกตอนน้า อ่านเรื่องของอาร์มแล้วติดจริงๆนะ ตอนก่อนจะนอน เรื่องราวของอาร์มจะผุดเข้ามาในมโนจิตเสมอ แล้วก้อคิดจินตนาการเอาเองว่ามันจะเปนยังงั้น ยังงี้ นี่เราอินเกินไปมะ??? :m23:

ว่าแต่ตอนนี้อาร์มทำไรอยู่หรอ ทำงานในไทยใช่มะ รึว่างงานอยู่รักษาแผลใจสักระยะ เหนว่ากลับมาวันที่26เดือนที่แล้วนี่นา ได้เดือนกว่าๆแล้วสินะ เหตุการณ์ตอนนี้จะเปนยังไงมั่งนี่ เปนกำลังใจให้เสมอนะ :L2:

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10
 :m13: :m13:สาธุ

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ธรรมะ เป็นที่พึ่งที่ดีที่สุด :a1:

แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
สาธุ
มีแทรกธรรมะด้วย ดีจริง ๆ  :m4:

เพื่อนใหม่นอกจาก "เจ้าเหงา"  "เจ้าเศร้า"  ก็มี  "ตัวกู"  เพิ่มอีก  :a3:  :a11:  :a4:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
น่าสงสารจัง แต่ยังไงซะหนึ่งเชื่อใครทำไรได้อย่างงั้นแหละ ไงพยายามเอาโหสิกันเนอะๆ

sarin

  • บุคคลทั่วไป
ใจนิ่ง..ไม่ยึดติด...ปล่อยวาง..
กระทำได้...ก่อเกิดความสงบฮะ..
ป.ล. :กอด1: :กอด1: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เข้าทางธรรม ...........................สาธุ

ออฟไลน์ DEK-JANGRAI™

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
รัก คืออะไร คำตอบนี้อาจไม่มีที่สิ้นสุด
แต่การที่จะบอกรักใครบางคน
นั่นไม่ใช่การตัดสินใจเพียงอารมณ์ชั่ววูบ
และรักก็ไม่ใช่แค่คำพูด รักคือความรู้สึกที่ออกมาจากใจทุกๆคน

" รัก " คือคำที่ใช้แทนความรู้สึก

บางคนแทนในความหมายที่มากเกินไป
บางคนแทนในความหมายที่ไม่ตรงประเด็น
บางคนแทนในความหมายที่เกินความเป็นจริง
บางคนแทนในความหมายที่เหมือนคิดว่าตัวเองอยู่แต่ในความฝัน

จริงๆ แล้ว คำว่า "รัก" ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเลย
 
" รัก " ก็แค่ความรู้สึกอันหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ผลของการที่คนๆ หนึ่งมีรักขึ้นมา
มันทำให้เกิดเรื่องราวหลากหลาย ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกและความคิดของแต่ละคน

ที่บอกว่า " รัก " ไม่ยิ่งใหญ่
เพราะว่า เรื่องราวของความรักต่ะหากที่ทำให้คุณรู้สึกขนพอง
ที่ทำให้คุณรู้สึกซึ้ง เศร้า มันเป็นแค่เรื่องราวของชีวิต
มันไม่ใช่ความรัก ที่คุณยิ้มน้ำตาไหล ไม่ใช่เพราะคุณชื่นชมคำว่า "รัก"
แต่คุณชื่นชมเรื่องราวแห่งความรัก ต่ะหาก

ความรักคือการให้
ความรักคือการเข้าใจกัน
ความรักไม่มีที่สิ้นสุด
เพราะมันมีความหมายมากเกินกว่าจะเข้าใจได้
และนี่อาจจะเป็นแค่เศษเสี้ยวของความหมายในคำว่า รัก

"รัก" ไม่มีคำว่าเศร้า ทุกข์ ขมขื่น หรืออะไรที่ทำให้รู้สึกไม่ดี…
"รัก" มีแต่สิ่งดีๆ ให้กันและกัน
สิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจาก "รัก" แต่เกิดจากการคาดหวัง
ที่แต่ละคนคิดว่าหากรักกันแล้ว ... ต้องทำให้ได้ทุกอย่าง
ในความเป็นจริงแล้วใช่อย่างนั้นหรือ ... การคาดหวังเกิดขึ้นได้กับทุกคน...
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อสิ่งที่คาดหวังของคนสองคนไม่ตรงกัน...
คุณคงนึกภาพออก...
แล้วถ้ายิ่งคุณทำอะไรให้กับคนที่คุณรักแล้วแต่ไม่ตรงกับที่คนรักคุณคาดไว้สิ่งนั้นก็หมดความหมาย...

คนทำก็หมดกำลังใจ ทำตั้งเยอะไม่ได้อะไร ตอบแทนเลย
จึงกลายเป็นการเรียกร้องเกิดขึ้น
เมื่อคุณเป็นฝ่ายให้แล้วทำไมอีกฝ่ายไม่เป็นฝ่ายให้บ้าง
โดยคุณอาจลืมไปว่าอีกฝ่ายก็ได้ให้คุณเหมือนกัน
เพียงแต่สิ่งนั้นไม่ได้ตรงกับที่คุณคาดไว้ และมันไม่มีความหมายกับคุณเลย
เมื่อคนสองคนคิดไม่ตรงกัน ... ที่ต้องการจะเป็นฝ่ายรับ
หรือเรียกร้องที่จะรับโดยบอกให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายให้...
ความทุกข์ต่างๆ ก็จะตามมา

"รัก" ไม่ต้องคาดหวัง...ทำให้เมื่ออยากทำ...ไม่ต้องรอสิ่งตอบแทน...
และรับในสิ่งที่อีกฝ่ายให้เมื่อเขาอยากให้...ไม่ต้องเรียกร้อง
เป็นตัวของตัวเองในบางครั้ง...โอนอ่อนในบางที...สิ่งดีๆ ก็จะเกิด "รัก" ก็จะปรากฎ


-------------------------------------------------------------------------------------

ผมชอบมากเลยเอามาให้อ่านอ่ะนะ



ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ชอบจังข้อความข้างบน :กอด1: ขอบคุนสำหรับข้อความดีๆที่นำมาแบ่งปันกันค่ะ :L2:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
   :a1:สู้ต่อไป


    ไฮ้ติ้ง :a2:


 :L2: :L1: :L2:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป

ตอนที่  ๓๒



   ความรัก . . .

   . . . ควรจบลง ณ จุดเริ่มต้น

   ผมยืนมองลำน้ำปายที่แห้งแทบจะติดก้นลำธาร  แตกต่างจากเก้าปีก่อนที่ผ่านมา  ในเก้าปีตอนนั้น  ที่นี่มีแต่ความเงียบสงบ  หากแต่ตอนนี้  รีสอร์ท  ล้ำไปอีกฝั่งของลำน้ำปาย  ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมด


   เหมือนชีวิต . . .

   มีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา  เพียงแต่ว่าเราจะมองเห็นความเปลี่ยนแปลงนั้นหรือไม่    สำหรับผม  ผมเห็นมัน  เห็นมันทุก ๆ  ย่างก้าว  ผมไม่ต่อต้านกับการเปลี่ยนแปลง

   แต่จะทำอย่างไร . . .

   ที่จะปรับตัวเองให้อยู่ได้  ในกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เชี่ยวกรากเช่นนี้  มันอาจจะยากอยู่สักเล็กน้อย  แต่ก็ไม่ยากเกินไป  สำหรับผม  คำที่หลวงพ่อพร่ำสอน  ทำให้ผมมองโลกกว้างขึ้น

   ผมหาต้นเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ได้แล้ว . . .

   เหลือเพียงแต่ว่า . . . ผมจะดับมันได้อย่างไรก็เท่านั้นเอง  ผมไม่ใช่พระนี่ครับ  แล้วการตัดใจ  มันต้องใช้เวลา  มันต้องให้เวลา

   เวลา . . .

   . . . มันเหมือนตัวแปรหลักในเรื่องของความรัก

   คนสองคน . . .

   . . . ก็สมการ  

   เมื่อสมการกับตัวแปรมาเจอกัน  มันก็จะได้ผลลัพท์  แต่จะมีผลออกมาแบบใด  มันก็แล้วแต่ว่า  ใครจะพอใจกับคำตอบนั้นหรือเปล่า  ส่วนผมตอนนี้  ผมเต็มใจ

   การหยุด . . .

   . . . แปลว่าผมมีความสุข

   “น้าอาร์ม  น้าอาร์ม  มีคนฝากของมาให้”  ไอ้ทัช  หลานผม  มันเริ่มโตเกินเด็กแล้ว  ร่างมันสูง  มันดีที่ได้แม่มา  หน้าตาเลยดูดี

   “อะไรเหรอ”

   “ไม่รู้”  มันส่งซองสีน้ำตาลให้ผม

   “น้าแดนไปไหน”

   “ออกไปเดินเล่นมั้ง  เห็นบอกค่ำ ๆ  จะกลับมา  น้าอาร์ม  ทัชไปแตะบอลก่อนนะ  แล้วเดี๋ยวคืนนี้ทัชไปนอนกับน้าอาร์มนะ”

   “เอาสิ”  ผมลูบหัวมันเบา ๆ  ก่อนมองมันวิ่งปรู้ดหายไปทางเดิม

   ชีวิตที่เหมือนผ้าขาว  สดใสไปตามวัย  ไม่ต้องมีเรื่องให้ต้องคิดอะไรมากมาย  ผมยิ้ม  บางที  ผมอยากมีลูกเหมือนกันนะ  ชีวิตน้อย ๆ  ที่เกิดมา  มันคงมีความสุขที่เราได้เลี้ยงดูชีวิตนั้นให้เติบใหญ่  คงจะดีไม่น้อยที่สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากเลือดเนื้อของเราเอง  ค่อย ๆ  เติบใหญ่ตามลำดับ

   แต่ . . . มันก็แค่ความคิด

   ซองเอกสารนั้น  ไม่ได้ปิด  ผมเปิดดู . . .

   “ซีดี”  ผมบอกตัวเองเบา ๆ คิ้วขมวดเข้าหากัน  

   ผมไม่เข้าใจ  ซีดีอะไร  หากแต่  มีจดหมายแนบมา  ลายมือที่เขียนหวัด ๆ  ไม่คุ้นตาผมเลย    ผมต้องค่อย ๆ  อ่านลายมือที่เรียกได้ว่าไก่เขี่ย . . .



   พี่อาร์ม . . .

   ขอโทษนะครับที่ต้องใช้วิธีนี้  แต่ผมไม่กล้าเจอหน้าพี่  มันละอายใจอย่างไรไม่รู้  ผมคิดว่าจะไม่ได้เจอพี่อีก  แต่วันนี้ตอนบ่ายจัด ๆ  ผมเห็นพี่ที่รีสอร์ทน้าปู  ผมดีใจนะ  ดีใจมากที่เห็นพี่  

   พี่ว่าคนเราจะทำผิดได้สักกี่ครั้งกัน . . .

   . . . สำหรับผม

   ผมทำผิดนะ  แต่สำหรับบางคน  ผิดมาก  ผิดมาก ๆ  แต่เพราะความรัก  ผมถึงยอมมองเขาทำผิด    หากแต่เขาไม่เคยมองผมเลย  จนเกิดเป็นความแค้น  ความแค้นมันทำให้ผมทำได้ทุกอย่าง

   ผมเลยต้องทำ . .  .

   ผมไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเลย  แต่สิ่งที่ผมทำ  ผมไม่อยากให้คนดี ๆ  ต้องมาแปดเปื้อนกับผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวคนนึง . . .  เขาไม่ได้มีแค่ผม

   เขามีโกเมศวร์ . . .

   แต่เขาไม่เคยพอ  ผมจับได้คาห้องนอน  เขาแอบมีอะไรกับพี่ชายผมเอง . . .  

   ผมถึงรู้  ผมโง่มาตลอด  ผมแค้นจนไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้ว  ผมถึงต้องทำแบบนี้  พี่ไปเปิดดูในซีดีที่ผมให้พี่ไปนะครับ  มันอาจจะไม่น่าดูเท่าไหร่  แต่ผมคงยอมไม่ได้  ถ้าผู้หญิงคนนี้  มันจะทำร้ายคนอื่นอีก

   ผมอยากขอโทษโกมัน  ที่ดึงให้มันมาเกี่ยวข้องตั้งแต่ต้น . .

   แต่อย่างที่ผมบอก  ผมไม่กล้า  เห็นจะมีแต่พี่นี่แหละ พี่สนิทกับมัน  พี่อาจจะช่วยมันได้


                                                                                                 ชัย





   ผมมองซีดีในมือ . . .

   มันจะเกี่ยวอะไรกับผมมั้ย  ในเมื่อผมเลือกที่จะวางทุกอย่างแล้ว  ผมไม่จำเป็นที่จะต้องทำอะไรอีก  เรื่องที่มันจบไปแล้วจะมารื้อฟื้นมันอีกทำไม   ผมเหนื่อยเกินกว่าที่จะหาเรื่องใส่ตัวเองอีกแล้ว

   “พี่อาร์ม  ไม่กลับเข้าบ้านอีกหรือ”  แดนมันเดินข้ามมาจากอีกฝั่งของลำน้ำ  ในมือมันมีกล้องตัวใหม่ที่มันเพิ่งถอยมาเมื่อตอนปีใหม่

   “อีกแปบ”

   “ซองอะไรเหรอพี่”

   “ไม่มีอะไร”

   “ดูหน่อยดิ”

   ผมส่งให้มัน   ไม่มีความลับระหว่างมันกับผมนี่หว่า  ผมรู้ที่ผ่านมา  ผมเป็นทั้งความสุขและความทุกข์ของมัน  ตอนนี้เวลามีน้อยมาก  ถ้าเวลาที่เหลือในเมืองไทยตอนนี้ผมจะยกให้มันก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร  ในความเป็นเพื่อน  ไม่มีอะไรดีไปกว่า  ความรู้สึกจริงใจต่อกันมิใช่หรือ  ที่ผ่านมา  มันแสดงให้ผมเห็นแล้ว  ว่ามันดีกับผมขนาดไหน  แม้จะมีช่วงนึงที่ห่างหาย  แต่คงเพราะผมเปลี่ยนไปจนมันไม่กล้าเข้าใกล้ก็ได้      

   “ซีดี  อะไร”

   “ไม่รู้”

   “อ้าว   ก็พี่ถืออยู่  ไม่รู้ได้ไง”

   “ก็เพิ่งได้มา อยากรู้อ่านเองแล้วกัน”  ผมส่งจดหมายที่ใส่มาพร้อมซองซีดีให้มัน  มันดึงผมให้นั่งที่ขอนไม้ริมลำน้ำปาย

   ในเวลาอัสดงที่พระอาทิตย์กำลังจะลาลับ . . .

   “แสดงว่าพี่ยังไม่ได้ดู”

   “อืม”

   “แลปท้อปพี่อยู่ไหน  ไปดูกันมั้ย”

   “อยู่ในห้อง  แต่พี่ไม่ดูหรอก”  ผมมองไปที่ริมขอบฟ้า  ที่กลายเป็นสีทองระเรื่อ  ใกล้มืดเต็มที  เสียงนกร้องเซ็งแซ่  โบยบินเหนือศรีษะ

   “ทำไมว่ะ”

   “ก็พี่วางแล้ว”

   “เฮ้ย”

   “หลวงพ่อบอกเอง  ให้พี่ค้นหาสาเหตุของทุกข์  ทุกข์ของพี่ก็คือพี่รักคนอื่นมากว่าตัวเอง  แล้วเมื่อตอนนี้พี่เลือกที่จะไม่ทุกข์  พี่ก็คิดว่า  มันไม่สำคัญที่จะต้องรู้เรื่องอะไรที่มันเกี่ยวพันกับสิ่งที่จะก่อให้เกิดทุกข์กับหัวใจพี่อีก”  

   “สาธุ  บวชพร้อมพี่โอ๋เลยดีมั้ยพี่”

   “ก็ถ้าไม่บินไปเมืองนอกก็จะบวชอยู่”

   “อีกแล้ว  พูดเรื่องนี้แล้วใจหาย  ไม่บอกผมจริง ๆ  หรือพี่  ว่าจะไปอยู่ที่ไหน  บอกสักทีเหอะพี่”

   “เอาน่า  เดี๋ยวบอกเองแหละ  บอกพร้อมไอ้โอ๋มัน  เดี๋ยวมันน้อยใจอีก  รอมันใส่ผ้าเหลืองก่อน  มันจะได้ห้ามไม่ได้  ขืนบอกมันตอนนี้  มีหวังโดน”  ผมเอานิ้วมาทำท่าเชือดคอตัวเอง

   “รักกันจริ๊ง  เป็นผัวเมียกันเลยดีมั้ย”

   “ได้แบบนั้นก็คงดี  แต่ไอ้มิ้นแหกอกเอาเด่     มันจองไว้ตั้งแต่เรียนแล้ว”  ผมมองหน้าไอ้แดน  ยิ้มให้มัน  รอยยิ้มที่ผมรู้สึกว่า  ผมมีความสุข

   ที่นี่ . . .

   . . . ผมเคยยิ้มกับคน ๆ  นึงแบบนี้

   “ว่าแต่ไม่ดูจริง ๆ  อ่ะซีดีนี้”

   “ไม่ดูหรอก”

   “งั้นผมขอนะ”

   “เอาไปทำไม”  ผมเลิกคิ้วมองหน้ามัน

   “เอ้า  เผื่อมันจำเป็นต้องใช้   เพราะหากมันไม่สำคัญจริงเขาคงไม่เอามาให้พี่หรอก  น่าไหน ๆ  ตัวเองก็ไม่อยากได้  ทิ้งไปก็เท่านั้น  ผมขอแล้วกัน  พี่ไม่เห็นว่าสำคัญ แต่มันอาจจะสำคัญสำหรับคนอื่นก็ได้  เรื่องของพี่  ผมสอดรู้เสมอพี่อาร์ม”  แดนมันหัวเราะเบา ๆ  ทำผมยิ้มได้

   “ตามใจสิ”

   ผมยิ้มให้มัน  

   ต่อจากวันนี้  อะไรก็ตามที่จะทำให้ผมต้องไปเกี่ยวพันกับมันอีก  ผมจะพยายามหลีก  หลีกให้ไกลที่สุด  ที่ผ่านมา  ผมเจ็บอย่างแสนสาหัส  

   แต่วันนี้ . . .  

   . . . ผมไม่อยากเจ็บอีก  ความอยากรู้  อยากเห็น  สร้างความเจ็บปวดให้เราเสมอ  

   แล้วตอนนี้ . . .

   . . . ผมไม่อยากเจ็บอีกแล้ว  

   ผมค่อย ๆ  วางมันลงอย่างเบามือที่สุดแล้ว . . .





   สายมากแล้ว . . .  

   ผมร่ำลาอา  ก่อนที่จะขนของไปใส่ท้ายรถ    ผมกอดไอ้ทัชก่อนลา ลูบหัวมันด้วยความเคยชิน  ผมหันไปมองรอบ ๆ  รีสอร์ท  ที่แห่งนี้  ทำให้ผมรู้จักกับคน ๆ  นึง  ที่แห่งนี้ทำให้ผมรู้จักกับความรัก  ทุก ๆ  อย่างมันยังอยู่ในใจผม  มันไม่ได้หายไปไหนเลย

   “ไปเหอะพี่อาร์ม  สายกว่านี้ร้อน  เดี๋ยวคืนนี้ต้องขับรถทั้งคืนอีก”  แดนมันเร่ง  ผมกอดไอ้หลานชายอีกครั้ง  ก่อนเดินตามแดนไปขึ้นรถ

   คราวหน้า . . .


   ผมอาจเจอมันตอนมันสูงเท่าผมก็เป็นได้  คงอีกนานกว่าที่ผมจะได้มาที่นี่อีก  นานแค่ไหน  ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน  ผมได้แต่เก็บความรู้สึกของวันนี้เอาไว้ให้มากที่สุด

   “พี่อาร์มน่าจะได้ดูซีดีนั่น”

   “ดูทำไม  ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่”

   “ไม่รู้สิ บางที . . .”  มันหันมามองหน้าผม  

   “. . . ช่างเหอะ  ไม่ดูก็ดีไปอย่าง    แต่ถ้าดูก็ดี  บางทีพี่อาจไม่ไปนอก”

   “บ้าแล้ว เอาไงกันแน่  ดูก็ดี  ไม่ดูก็ดี    ไอ้เรื่องไปนอก  ยังไงก็ต้องไป  เซ็นสัญญาไปแล้ว  ไม่ไปโดนฟ้อง  เอาที่ไหนจ่ายว่ะ . . .”    ผมหันไปยิ้มกับมัน  

   “. . . แวะบ้านป้าภาก่อน  ลาแกด้วย”

   “จะแวะทำไมก็ไม่รู้”  มันบ่นหาก  จอดรถเข้าเทียบหน้ารีสอร์ทเล็ก ๆ  

   มันก็บ่นไปตามเรื่องตามราวของมัน  บางทีมันอาจไม่อยากให้ผมเจอกับบรรยากาศแบบเดิม ๆ  ก็ได้  ผมเข้าใจมันดี  มันห่วงผมขนาดไหน  แต่หลวงพ่อบอกให้ผมวาง  บอกให้ผมลา  ทุก ๆ  คนที่ผมอยากลา

   ป้าภา . . .

   . . . ผมรักแกเหมือนแม่คนนึง

   ไปลา . . . มาไหว้  

   ธรรมเนียมไทยแท้แต่โบราณ  เมื่อวานผมดูจะเป็นคนแย่ ๆ  ไม่ได้มาไหว้  แต่วันนี้  ผมจะไปแล้ว  อีกไม่รู้นานแค่ไหนถึงจะได้เจอกันอีก  หรือจะไม่เจอกันอีกในชีวิตนี้

   ผมใจหาย . . .

   ต่อจากนี้  ผมห่างคนที่ผมรักทุกคน  ในเมื่อผมเลือกเส้นทางนี้เอง  ผมก็ต้องรับสภาพของมันให้ได้  ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ    ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน

   “ลูกอาร์ม  มาเมื่อไหร่”  แกละจากงานมากอดผมเอาไว้

   “มาเมื่อวานครับ  กำลังจะกลับ”

   “อ้าว  ทำไมรีบกลับ  มาตั้งแต่เมื่อวาน  แต่เพิ่งมาหา”  แววตาแกน้อยใจกระมัง  แกลูบที่ต้นแขนเบา ๆ

   “เดี๋ยวคืนนี้ต้องไปนครพนมอีก  โอ๋บวชครับ  แล้วอีกไม่กี่วันก็บินแล้วครับ  ได้งานใหม่ที่เมืองนอก”

   “อ้าว  เหรอ  น้องละ  น้องอยู่ยังไง”

   ผมเลิกคิ้วสูง . . .

   มันยังไม่บอกแม่มันอีกหรือ  ก็มันย้ายออกไปจากบ้านผมตั้งหลายเดือนแล้วนี่หว่า  ผมไม่เข้าใจมัน  หรือ  ที่ผ่านมา  ผมไม่เคยเข้าใจมันเลย

   “จบแล้วนี่ครับ  ปลายปีรับปริญญาแล้วล่ะ”  ผมยิ้ม

   “อ้าว  พูดถึงก็มาพอดีเลย  ลูกคนนี้ตายยาก”

   ผมหันไปทางสายตาที่ป้าภาบอก  คนที่เดินเข้ามา  บนหลังมันมีเป้ใบเดิม  ใบที่ผมซื้อให้มัน  แววตามันเหมือนดีใจที่เจอผม  

   หากผมล่ะ . . .

   บอกไม่ถูกเหมือนกัน  ไม่ได้เจอกับมันมานานหลายเดือน  ตอนนี้ความรู้สึกของผม  คล้าย ๆ  กับมีอะไรบางอย่างมากดเอาไว้  อาจเป็นความรู้สึกที่ผมไม่อยากให้เกิดก็เป็นได้  

   “แม่หวัดดี  พี่แดนหวัดดี พี่อาร์ม . . .”   มันเดินมาใกล้ผม

   ไอ้แดนเดินมากันเอาไว้ . . .  

   ผมรู้  แดนมันหวงผม  มันกลัวผมต้องเจ็บปวดอีกกระมัง  หากตอนนี้หัวใจผมมันนิ่ง  ผมมองหน้ามันได้เต็มตา  ไม่มีความรู้สึกเจ็บแบบวันก่อนอีกแล้ว

   “โกนหนวดโกนเคราเสียบ้างนะ  ดูแก่ไปเลย”   ผมมองหน้ามัน

   “ช่างมัน . . . พี่อาร์ม  ผมมีเรื่องอยากจะคุยด้วย”

   “เอาดิ๊”

   “ไปข้างนอกได้มั้ย”

   ผมหันไปมองหน้าไอ้แดน  ดูเหมือนมันไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่  ผมตบไหล่มันเบา ๆ  อยากบอกให้มันรู้  ตอนนี้ผมไหว  ไม่มีอะไรที่จะมาทำร้ายผมได้อีก  ในเมื่อผมเลือกที่จะจากลา . .

   ครั้งนี้ . . .

   . . . ผมจะลาจากมันทั้งชีวิต

   ผมเดินนำหน้ามันออกมานอกบ้าน  เดินไปที่ศาลาเล็ก ๆ  ใกล้ ๆ  กับลำน้ำ  ศาลาที่ผมเคยมานั่งเล่นนอนเล่นเป็นประจำ

   “สอบเสร็จเมื่อวาน  แต่สงสัยเทอมนี้ไม่จบ  โปรเจคยังไม่ผ่าน”

   เสียงมันบอก . . .

   หัวใจผมเย็นยะเยียบ  ความหวังที่ผมมี  มันวูบลง หากแต่จะเป็นอย่างไร  ผมก็ทำดีที่สุดแล้ว  ผมส่งมันได้แค่นั้นจริง ๆ

   “ผมขอโทษที่ทำไม่ได้”

   “ช่างเหอะ  ช้าไปสักปี  ไม่เป็นไรหรอก . . .”     เป็นยิ้มแรกตั้งแต่ที่ผมกับมันเริ่มทะเลาะกันเมื่อปีก่อน  

   “. . . นึกว่าสอบเสร็จจะไปงานบวชพี่โอ๋”

   “ผมอยากไป  แต่มีธุระ”

   “สำคัญมากหรือ”

   ยังไม่ทันที่มันจะตอบอะไร  ผมก็ได้ยินเสียงอื่นแทรกเข้ามา . . .

   “สำคัญสิ    ถ้าเรื่องเด็กในท้องหน่อยไม่สำคัญ  มันจะมีอะไรสำคัญกว่านี้อีกล่ะ”  เจ้าของเสียงคว้าแขนหมับเข้าที่แขนมัน

   ผมมองหน้ามันนิ่ง . . .

   . . . หัวใจผมหายวาบ

   สีหน้ามันเศร้าจัง . . .  

   “พี่โกนะพี่โก  มาถึงก็มาออดอ้อนกัน  อย่ามายุ่งนะ วันนี้ขอเคลียร์กับคนที่ชอบยุ่งครอบครัวคนอื่นหน่อยเหอะ . . .”  มันหันไปตวาดโกแว่ด ๆ  

   “. . . พี่ก็เหมือนกัน  เลิกยุ่งกับชีวิตเราสักที ออกไปจากชีวิตของเราได้แล้ว  คนผิดเพศแบบพี่  อย่ามาทำให้ครอบครัวเขาต้องมีปัญหากันอีกเลย”  เสียงมันด่าผมฉอด ๆ  

   ผมพยายามนับหนึ่งถึงสิบ . . .

   วางทุกสิ่งไว้อาร์ม . . .

   . . . ใครจะเป็นอะไร  ใครจะท้องมันไม่สำคัญหรอก  เราอยู่ในที่ของเรา  ส่วนเขาอยู่ที่ของเขา  มันไม่มีอะไรที่ต้องมาเกี่ยวข้องกันอีกมิใช่หรือ

   “พี่อาร์ม . . .”   หล่อนเดินมาประชิดผม  

   “. . . พี่มันคนนอก  พี่ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่โกแล้ว พี่น้องก็ไม่ใช่  สายเลือดก็ห่างไกลกัน   หัดจำไว้สิ    คนแบบพี่  เป็นได้แค่กะเทยแก่ ๆ  ผิดเพศ  อย่ามายุ่งกับเราเลย”

   ผมคงยังไม่ถึงธรรมกระมัง . . .

   . . . ไม่สามารถยืนมองใครด่าผมได้  พยายามนับให้ถึงสิบแบบที่ตั้งใจ  แต่ใบหน้าและแววตาที่เหมือนเหยียดผมเอาไว้  มันทำให้ผมหมดความอดทน

   “แล้วไง   ถึงจะเป็นอะไรก็ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน  คิดว่าตัวเองเป็นใครเหรอถึงได้มาด่าคนอื่นปาว ๆ  แบบนี้  ลองวันนั้นกูไม่ให้มันมาสิ  ลองวันนั้น  กูไม่ยอมให้คบแค่เพื่อนสิ  ป่านนี้มึงก็คงนอนแห้งตะกายข้างฝาต่อไปเหอะ”  ผมเหลืออด  

   ความอดทนผมมีไม่มากเท่าไหร่กระมัง  ผมจ้องหน้าหล่อนนิ่ง

   “ไอ้ทุเรศ  ไอ้กะเทย”  มันด่าผม  พร้อมกับที่ผมรู้ อะไรบางอย่างมันมากระทบหน้าผมอย่างแรง  จนผมรู้สึกชาวาบ    

   ผมเอามือจับแก้ม . . .

   เกิดมาไม่เคยโดนใครตบแบบนี้  ผมจ้องหน้าหล่อนนิ่ง  คนแบบผมใครจะมาหยามไม่ได้  กว่าผมจะรู้ตัวเอง  คนที่มันด่าผมก็ลงไปนั่งกับพื้น  เพราะแรงฟาดที่ผมฟาดไปบนใบหน้าเขาเต็มแรง  

   “กูไม่เคยระรานมึง  ไม่เคยแอบกินของใคร  มึงอย่ามายุ่งกับกู  เพราะกูไม่เคยคิดไปลดตัวยุ่งกับมึง”

   ผมจ้องหน้าหล่อน  ผมเกิดมาไม่เคยทำร้ายเพศแม่  หล่อนเป็นคนแรกที่โดนผมกระทำ  และแค่ฝ่ามือเดียวมันถึงกับล้มลงด้วยแรงเหวี่ยงจากแขนของผม  เจ้าตัวลุกมา  ตอบโต้ผมพัลวัล  ผมได้แต่จับแขนเขาล็อกเอาไว้  

   สารพัดเสียงที่มันร้องด่า  มันกรี๊ดเหมือนผีบ้า  หากผมไม่ตอบโต้ ได้แต่ป้องกันตัวเอง  ไม่มีวันที่ผมจะยอมให้ใครมาทำอะไรผมฝ่ายเดียวเป็นแน่  

   “พี่อาร์มพอเหอะพอ”  

   โกมาดึงผมเอาไว้  ให้แยกออก  จนดูเหมือนว่าจะจับให้ผมเป็นเป้าของอีกฝ่าย  ผมดิ้น  ไม่อยากโดนพันธนาการไว้แบบนี้  แต่คนที่ยิ่งดิ้น  มันเหมือนเข้าทาง  เลยกลายเป็นเหมือนกำลังมีเรื่องกันมากกว่า  ผมทั้งดิ้นเพื่อให้หลุดจากที่โกจับ  และ ดิ้นให้พ้นจากมือของอีกฝ่ายที่พยายามจะตบผม  แต่ดูเหมือนจะเป็นโกเมศวร์  ที่โดนอีกฝ่ายตบ

   มันปกป้องผม . . .

   หรือ . . . กำลังซ้ำเติมผมกันแน่

   เสียงเจ้าหล่อนที่ด่าออกมานั้น . . .

   . . . มีแต่คำหยาบ

   ผมดิ้นจนหลุดจากการกอดรัดของโกเมศวร์  และดูเหมือนว่า  จะกลายเป็นแรงเหวี่ยงที่มากพอที่จะทำให้ผมหลุดจากพันธนาการ  เพราะกว่าผมจะรู้ตัว  ผมก็เซถลาไม่สามารถประคองตัวเองได้  ผมรู้แค่ว่า  ผมไปกระแทกกับอ่างเลี้ยงปลา  

   “โอ้ย”   ผมร้องได้คำเดียว  รู้สึกเหมือนมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น   

   “ทำอะไรกัน . . .”   เสียงแดนร้องมาแต่ไกล   มันปรี่เข้ามาที่ผม

   “หยุดเลย  มาทำอะไรในนี้”  เสียงป้าภา  เดินมาสมทบกับแดน

   “ต๊าย . . . มีคู่ขามาด้วย   แล้วยังมายุ่งกับผัวคนอื่นอีก  ทุเรศ”

   “หยุดปากเน่า ๆ  ของมึงได้แล้ว  กูไม่ใช่พี่อาร์มนะโว้ย  ไอ้โก  มึงทำบ้าอะไรไป  มึงบอกคนของมึงเลยนะ  ถ้ามันพูดอะไรอีกนิดเดียว  กูนี่แหละจะแหกปากมันให้ถึงรูหูเลย  ไม่เชื่อลองดู”  ไอ้แดนปรี่ไปชี้หน้าหน่อยเอาไว้

   “พี่อาร์ม”  โกมันจะเดินมาหาผม  เมื่อผมลุกขึ้นหันหน้าไปทางมัน

   “อย่าเข้ามานะ  มึงเข้ามาอีกก้าวเดียวกูเอามึงตายแน่  มึงไม่มีสิทธิ์  ไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายพี่อาร์มอีก”  ไอ้แดนชี้หน้า

   “แต่พี่อาร์มหัวแตก  พี่อาร์มเจ็บมั้ย”     มันพยายามจะเดินเข้ามา

   “สะใจมึงแล้วใช่มั้ย  สะใจมึงมากใช่มั้ย  มึงมาดู  มาดูให้เต็มตา”  ไอ้แดนลากโกมาใกล้ ๆ  ผม

   ผมยืนนิ่ง . . .  

   มองหน้ามัน  ผมรู้  ที่หน้าผากข้างซ้ายผม  ตอนนี้มีกลิ่นคาว  หยาดน้ำอุ่น ๆ  กระมังไหลผ่านคิ้ว  ลงสู่ตา  ก่อนตกมาถึงแก้มผมแล้ว  

   แต่เชื่อเหอะ . . .  

   ผมไม่เช็ดหรอก  ให้มันไหลออกมาให้พอ  ให้สาสมกับสิ่งเลว ๆ  ที่ผมเคยกระทำลงไป  ผมมองหน้าโกเมศวร์  ราวกับจะจดจำมันเอาไว้เป็นครั้งสุดท้าย

   “อาร์ม  ไปทำแผลก่อนลูก”  ป้าภามาที่ผม

   “ไม่ต้องครับ  ปล่อยให้มันหยุดเองเหอะครับ  ไม่ต้องทำแผล ไม่ต้องเย็บ  ให้มันเป็นรอยแผลเป็น  ไว้เตือนใจ”  ผมบอก  หากสายตาจ้องหน้าโกนิ่ง

   “ก็สมควรแล้ว”  เสียงนั่น  ยังไม่หยุด

   “มึงเงียบไปเลยอีกกะหรี่  อย่างมึงเป็นได้แค่สิ่งบำบัดความเงี่ยนให้ผู้ชายเท่านั้นล่ะว้า  ไม่มีใครหน้าไหนเขาเอามึงมาทำเมียหรอก  ผู้หญิงเน่า ๆ  แบบมึงอย่าว่าแต่นอนเลย  แค่อยู่ใกล้ยังขยะแขยง . . .”  แดนมันด่า  ชี้หน้า  เดินก้าวไปหาหน่อย  

   “. . . ถ้ามึงปากดีอีกคำเดียว  กูเอามึงตายแน่”  ท่าทางแดนตอนนี้น่ากลัว

   แดนเหมือนจงอางที่โดนฉกไข่  มันพร้อมที่จะฆ่าคนที่ทำมันได้ตลอดเวลา  

   ผมได้แต่ยืนนิ่ง  มองหน้าไอ้โก . . .  

   . . . ผมไม่โกรธมันนะ   ไม่โกรธมัมนเลย   สิ่งที่มันทำ  มันอาจไม่ตั้งใจ  มันเองก็คงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นก็ได้

   ส่วนแดน  ตอนนี้มันเหมือนคนบ้า . . .

   แววตามันน่ากลัว  ผมไม่เคยเจอมันโมโหร้ายขนาดนี้มาก่อน  สิ่งเดียวที่ผมทำได้  คือมองมันนิ่ง ๆ  ปล่อยให้มันระเบิดสิ่งที่อยู่ในใจมันมาทั้งหมด

   


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2010 12:54:42 โดย ราชบุตร »

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
 :o12: :o12: :o12:

 :sad2: :sad2: :sad2:

 :m15: :m15: :m15:

 o7 o7 o7

 :sad4: :sad4: :sad4:

 :dont2: :dont2: :dont2:

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
 o7เจ็บอีกแล้วตอนนี้
ในที่สุดก็จบกันซะที....
แดนสุดยอดเลย :m4:รักแดนจังแฮะ

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :serius2: :serius2: ทำไมโกปล่อยให้คนชั้นต่ำอย่างหน่อยมาพูดอย่างนี้ใส่หน้าอาร์มได้ไงอ่ะคับ   :angry2: :angry2: ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงมากๆ 

 :laugh: :laugh:แต่ชอบใจที่แดนทำหน้าที่ได้ดีมากครับ  ยิ่งตอนสุดท้าย  ให้เดาก็คงไม่พลาด  โกคงได้ดูซีดีแผ่นนั้นแล้วแน่นอน  :laugh: :laugh:

มะวานกลับไปอ่านตอนต้นๆใหม่  พอมาถึงตอนล่าสุดก็เลยไม่แน่ใจว่า  ตกลงโกรักแบบไหนกันแน่อ่ะคับ  ต้องการทดแทนบุญคุณหรือว่าเพิ่งรู้ตัวว่ารัก  o12 o12  ถ้าเปนกรณีที่2  รู้สึกตัวช้าไปมั๊ยเนี่ยะ    :o o12 :o

iamhappywood

  • บุคคลทั่วไป
นี่ถ้าพี่แดนไม่มีแฟน ขอสมัครเป็นแฟนพี่แดนได้ไหมครับเนี่ย

มีคนรักมากขนาดนี้ พี่อาร์มคงไม่ทำร้ายใครอีกต่อไปนะครับ

แต่ยังเศร้าอยู่เลยอ่ะ  :m15: :m15: :m15:

พรุ่งนี้มาต่อแต่เช้านะครับ :m12:

tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป



อยากดูซีดี . . .

หาดูได้ที่ไหนว่ะนี่ . . . อยากรู้จัง  มีอะไร



ปล.   พูห์ . . . หาได้ที่ไหนหว่า  สองปีผ่านมาแร่ะ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด