FC ที่ 9 เพื่อเพื่อนที่มีเพียงหนึ่งเดียว กว่าผมจะมาถึงห้องชมรมก็เกือบค่ำแล้ว พยาธิในกระเพาะกำลังร่ำร้องหาอาหารกันระงม วันนี้ช่างเป็นวันที่ยาวนานซะจริงๆ
" มึงมาทำอะไรที่นี่วะ ทำไมไม่กลับห้อง จะมืดแล้วนะ " ซวยละสิ มาส่งแล้วก็ไปสิวะ มึงจะอยากรู้อยากเห็นไปทำไมเนี่ย
" กูเบื่อๆ อ่ะ ไม่มีไรทำ เลยจะมาซ้อมเปียโน " ผมแหลสดพลางหลบสายตามัน
" อืม เหมือนกัน งั้นเดี๋ยวกูซ้อมเป็นเพื่อน " ไอ้เกลียวว่าพลางเดินไปหยิบไวโอลินมาปรับสายลองเสียงไปมา เวรกรรมจริงๆ มึงมาขยันอะไรตอนเน้ครับคุณเพื่อน
" กูว่ากูไปกินข้าวก่อนดีกว่าว่ะ ยังไม่ได้กินไรเลยวันนี้ " ผมว่าผมหนีไปกินข้าว แล้วชิ่งเลยน่าจะดีกว่า ดึกๆ ค่อยกลับมานอน แผนนี้แจ๋ว
" โอเค กูก็หิวเหมือนกัน ป่ะ เจ้เล้งหลังมอ " โอ้ย มึงนี่มัน กูนึกคำด่าไม่ออกเลยเฟ้ย ไปที่ชอบที่ชอบได้แล้วโว้ย
ไม่นาน ผมก็ต้องจำใจมานั่งจกข้าวเหนียวส้มตำพร้อมกับไอ้เพื่อนเกลอจอมเกือกนี่ อยากจะเอาส้อมจิ้มตามันสักทีจริงๆ เชียว
แต่ผมที่นั่งกินไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงวี๊ดว้ายแปลกๆ ดังขึ้นรอบตัว ผมที่สงสัยจึงหันไปสำรวจรอบๆ ร้าน และก็พบว่าสาวๆ ทุกโต๊ะกำลังมองมาทางผมด้วยใบหน้าเคลิ้มฝัน เหมือนตกอยู่ในภวังค์ของความหลงไหล
" อะแฮ่ม " ผมกระไอพร้อมดึงคอเสื้อขึ้นด้วยความมั่นใจ พร้อมเสยผมหนึ่งทีเป็นของแถม เฮ้อ ขนาดดำเกรียมแบบนี้ยังปิดบังความหล่อไม่หมดอีกเหรอเนี่ย ผมคิดและส่ายหน้าเบาๆ อย่างเบื่อหน่ายในความหล่อของตัวเอง
" นี่นายคนนั้นอ่ะ อย่าบังทีวีได้ไหม " สาวผมสั้นคนหนึ่งตะโกนมาจากกลางร้านสุดเสียง ทำเอาผมหดคอแทบไม่ทัน ฮือ นี่พวกตะเองไม่ได้มองเค้ากันหรอกเหรอ
ผมหน้ามุ่ยทันทีด้วยความเศร้าใจ ขณะที่ไอ้เกลียว หัวเราะจนเส้นขนมจีนออกจมูก เออสิวะ คนเรามันก็ต้องมีพลาดกันบ้าง ขยี้จังนะมึง
ผมหันไปมองจอทีวีตามสาวๆ ที่พากันจ้องตาไม่กระพริบด้วยความสงสัย ว่ามันจะมีอะไรน่ามองไปกว่าผมได้ยังไงกัน มันเป็นไปไม่ด๊าย
' พรวดดดด! '
แต่เมื่อเห็นสิ่งที่ฉายอยู่บนจอนั้น ผมก็ถึงกับพ่นน้ำเป็นละอองสายรุ้งเลยทีเดียว ส่วนคนที่ซวยไม่ต้องบอกนะครับ ไอ้เกลียวไม่ต้องอาบน้ำแล้ววันนี้
บนจอทีวีนั่น เป็นรายการเดินแบบของเสื้อผ้ายี่ห้อดังระดับโลก ซึ่งนายแบบทั้งหลาย ล้วนแต่หล่อล่ำน่าหม่ำกันทั้งนั้น แต่ที่ผมต้องอึ้งสุดๆ ไปเลยก็เพราะ ไอ้หน้าตายด้านที่ผมคุ้นสุดๆ กำลังเดินบนแคทวอร์คพร้อมสองมือล้วงกระเป๋า เดินๆหยุดๆ พร้อมโพสท่าจิกสายตาที่เหมือนกำลังโกรธแค้นปานจะแดกหัวผู้ชมอยู่นั้น มันคือไอ้คุณไอ ไอเลว ไอบ้านั่น แม่งมันเป็นนายแบบเหรอวะ ฮึ่ม หมั่นไส้โว้ย เพราะงี้สินะถึงเป็นเพื่อนกับพี่พริ้น ทั้งๆ ที่นิสัยไม่น่าไปด้วยกันได้เลย
" หึ หล่อตายห่า " ผมพูด พร้อมเบะปากมองบนอย่างอดไม่ได้
" มึงอิจฉาเขาก็บอก ไม่ต้องอาย "
" อิจฉาพ่อง กูหล่อกว่าเยอะ "
" หยุดเถอะ กูเสียดายส้มตำ " ไอ้เกลียวพูดพร้อมทำหน้าแบบกูไม่อยากจะเชื่อว่ามึงจะกล้าพูด
" ว่าแต่มึงรู้จักไอ้นายแบบในทีวีนั่นได้ยังไงวะ " ทำไมไม่รู้ แต่ผมสังเกตุว่าไอ้เกลียวมีสีหน้าแปลกๆ ไปเล็กน้อยเมื่อผมถามออกไปแบบนั้น
" อ๋อ ใครบ้างจะไม่รู้จัก นั่นน่ะ นายแบบชื่อดังลูกครึ่งญี่ปุ่น รู้สึกจะชื่อ ฮิเดกิ ไอ ชื่อเสียงกระฉ่อนเรื่องอย่างว่า มึงก็ระวังตัวให้ดี มันเรียนที่นี่ด้วย อยู่ปี 3 มั้ง มันฟันไม่เลี้ยงทั้งผู้หญิงผู้ชาย เสือไบนั่นแหละ แต่ก็ไม่แปลกใจหรอก แม่งก็หล่อซะขนาดนั้น ใครเห็นก็ยอมตั้งแต่หน้าประตู "
" เป็นมึงก็ยอมสินะ " ผมพูดแหย่มันเล่น
" ถุยยย แทงมากูแทงสวนยับบอกก่อน กูไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างแน่ๆ หึ เพราะงั้นมึงอย่าไปยุ่งกับมัน เจอรีบเผ่นเลย แต่เอ๊ะ ไม่ต้องหรอก หน้าแบบมึงท่าทางจะปลอดภัย ก๊าก ฮ่าๆ " ผมตบกบาลมันเน้นๆ อย่างรักใคร่ หนอยไหนหมาตัวไหนบอกวะ ว่าไม่ชอบให้ใครมาดูถูกเพื่อนกู มึงนี่แหละตัวดีเลยสัด
ผมว่าผมไปดีกว่า รู้สึกพะอืดพะอมเหลือเกินที่จะต้องเห็นไอ้บ้านั่น แม้กระทั่งบนทีวีก็ไม่อยากจะเห็น หวังว่าผมคงไม่ต้องเจอมันอีกแล้ว ครั้งเดียวก็เกินพอจริงๆ
" เกลียว งั้นกูกลับละนะ มึงจ่ายด้วยละกัน " อิ่มแล้วจะอยู่ทำไม รีบชิ่งสิครับ อิ่มจังตังอยู่ครบ
" เฮ้ยยย จะรีบไปไหนวะ ไปด้วยกัน เดี๋ยวกูไปส่ง " แขนมึงจะยาวไปไหน ผมว่าผมเดินไวแล้ว แม่งยังตามมาจับทันอีก
" ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวกูจะไปธุระ "
" ธุระอะไรวะ แถวไหนเดี๋ยวกูพาไป " มันไม่พูดเปล่า ลากผมไปที่รถของมันด้วยความรวดเร็ว มึงนี่มันปลิงอเมซอนสมชื่อจริงๆ
" อะไรของมึงวะ จะไปไหนก็ไปไป๊ " ผมเหลืออดเต็มทน เลยไล่มันแม่งตรงๆ ไปเลยนี่แหละ กูเหนื่อยกับมึงแล้ว พอกันที
" มึงเก็บเสื้อผ้าไปไว้ที่ชมรมทำไมวะ " ผมเงยหน้ามองมันด้วยใบหน้าที่หนักอึ้ง เพราะแบบนี้สินะ มันถึงไม่ยอมปล่อยผมไปไหน
" ไม่มีอะไรหรอก คือ ห้องกูตอนนี้น้ำรั่วน่ะ กูก็เลยไม่มีที่ไป " ผมหลบสายตามันด้วยความรู้สึกผิด เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะที่ผมไม่กล้าบอกความจริงกับมัน
" งั้นไปนอนห้องกู ห้องชมรมนอนไม่ได้หรอก ทั้งหนาวทั้งยุง " มันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังจนผมไม่กล้ามองหน้ามันทีเดียว
" กูอยู่ได้ ผ้าห่มก็พอมี ไม่เป็นไรหรอก " ผมยังยืนยันหัวชนฝาที่จะไปนอนที่ชมรม เพราะผมไม่อยากให้มันต้องมาเดือดร้อนเพราะผม
" ก็ได้ งั้นรอกูแพพ " ผมงง ที่อยู่ดีๆ มันก็เชื่อฟังง่ายขึ้นมาซะงั้น
" เดี๋ยวกูไปเก็บกระเป๋าก่อน เดี๋ยวไปนอนเป็นเพื่อน " เดี๋ยวๆๆๆ ครับพี่น้อง นี่กูฟังไม่ผิดใช่ไหมเนี่ย เฮ้อ ผมจะทำยังไงกับมันดีละเนี่ย
" โอเค โอเคกูยอมแล้ว กูแพ้แล้ว ไปนอนหอมึงก็ได้ " ผมยกมือขึ้นบอกว่ากูยอมทุกอย่างแล้ว มึงอยากทำไรทำไปเลย ตามใจมึงเถอะ ยอมแพ้สิโรราบคาบกล้วย
ผมขึ้นรถไปกับมันอย่างว่าง่าย จะว่าไปตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่มหา'ลัยนี่ ก็มีแต่มันเท่านั้นที่ไม่เคยห่างผมไปไหน บางทีผมก็สงสัยจริงๆ ว่ามึงแอบรักกูหรือเปล่าเนี่ย ฉิบหายแล้ว มึงจะล่อลวงกูไปข่มขืนที่หอมึงใช่ไหม อย่าแม้แต่จะคิดนะโว้ย
" ไม่ต้องกลัว กูไม่ชอบของดำ " ไอ้นี่มึงอ่านใจกูอีกแล้วใช่ไหม กูเริ่มกลัวมึงจริงๆ แล้วนะเนี่ย ผมยิ้มออกมาอย่างมีความสุข อย่างน้อยวันนี้ก็มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นสินะ
' ขอบใจนะ ' ผมพูดออกมาเบาๆ เพื่อเพื่อน เพียงหนึ่งเดียวของผม