แค่สบตา ก็รู้ว่ารัก - ตอนพิเศษ P.25 [18.11.13]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แค่สบตา ก็รู้ว่ารัก - ตอนพิเศษ P.25 [18.11.13]  (อ่าน 369431 ครั้ง)

KaZuKi

  • บุคคลทั่วไป
กรี้ดด อ่านทันแล้ว รอคุณเชษฐ กับ ภัทร นะค่ะ อิอิ

อบอุ่นมากเลยอ่ะ ชอบๆๆๆ

ออฟไลน์ litlittledragon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +304/-1
เคยอ่านเรื่องนี้ก่อนจะหายไปจากบอร์ดเกือบปี แล้วก็พบว่า ผมกลับมาเล่นได้เกือบปีแต่เรื่องนี้ก็ยังไม่จบ
วันหลังจะเข้ามาดันใหม่แล้วกันนะครับ ชอบภัทรเพราะนิสัยเหมือนกันเกือบเดี๊ยะ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
^
^
กรี๊ดดดดด สาบานได้ว่าเดือนที่แล้วทั้งเดือนไม่ได้เข้ามาห้องนิยายที่ยังลงอยู่เลยค่ะ (มัวไปเมามันกับนิยายที่จบแล้วอยู่) พอมาวันนี้จะคลิกหากระทู้เพื่ออัพ เรื่องเลยต๊กกะใจหมดที่กระทู้เลื่อนมาอยู่หน้าสอง ตอนแรกนึกว่าคงหล่นไปเกือบๆ หน้าสุดท้ายแล้วแหงเลยไล่คลิกหาจากหน้าสุดท้ายแน่ะ ^^" ขอบคุณทุกคนมากเลยที่มาช่วยอ่าน + คอมเม้นต์ + ดันนะคะ อิป้ากลับมาหาคุณเชษฐ์กับน้องภัทรแล้วค่ะ และจะพยายามไม่ทิ้งช่วงให้นานเท่าคราวที่แล้วด้วยนะ ดังนั้นติดตามให้กำลังใจกันไปเรื่อยๆ ก่อนนะค้า (อยากจุดพลุฉลองจริงๆ เพราะไหใบนี้ทั้งหนาทั้งหนักเหลือเกินกว่าจะแตกเป็นตอนใหม่ได้)

ขอเวลาตรวจแก้คำผิดนิดนึง แล้วจะมาอัพตอนใหม่ให้ในคืนนี้ละค่า
 :impress2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-06-2011 21:08:33 โดย bellbomb »

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด เข้ามารอค่ะ  :monkeysad:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ตอนที่ 12.

หลังกลับจากไปเที่ยวทะเลที่ระยองเป็นต้นมา หนึ่งเดือนต่อจากนั้นเป็นช่วงที่ทั้งภัทรและเชษฐ์ต่างยุ่งกับการทำงานจนแทบไม่มีเวลาไปไหนด้วยกันอย่างที่ภัทรคาดไว้ เพราะว่างานแสดงเครื่องจักรที่บริษัทของเขาเป็นผู้จัดกำลังจะเริ่มในอีกไม่ถึงสองสัปดาห์ ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่แต่ละแผนกจะยุ่งกันเป็นระวิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนกโอเปอเรชันของภัทรซึ่งต้องเป็นผู้ประสานงานระหว่างบริษัท ลูกค้าที่จะเข้าไปจัดบูธ และกับสถานที่จัดงานเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรียบร้อยและมีปัญหาน้อยที่สุด

แต่สิ่งที่ภัทรไม่ได้คาดไว้ และเพิ่งจะมารู้เอาภายหลังจากที่กลับมาจากระยอง ก็คือเรื่องโปรเจ็กต์ล่าสุดที่เชษฐ์ได้รับมอบหมายมาจากทางสำนักงานใหญ่ ซึ่งความจริงเจ้าตัวเคยพูดถึงในที่ประชุมของงาน Friday Party หลังกลับจากไปเทรนนิงที่ต่างประเทศแล้ว แต่เพราะตอนนั้นภัทรมัวแต่กังวลว่ากำลังโดนคุณผู้จัดการโกรธจนไม่ได้สนใจฟัง ทำให้ไม่เฉลียวใจกับเรื่องนี้เลยจนกระทั่งฝ่ายบุคคลพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งในที่ประชุมรวมเมื่อสิ้นเดือนก่อน

เนื่องจากคณะผู้บริหารของสำนักงานใหญ่ลงมติจะเปิดสาขาเพิ่มในเวียดนาม แต่จำเป็นต้องให้สาขาที่เมืองไทยซึ่งตั้งมานานกว่ายี่สิบปีเข้าไปคอยดูแลความเรียบร้อยในช่วงเริ่มต้น ทำให้ท่านประธานตัดสินใจมอบหมายให้เชษฐ์ซึ่งเป็นคนที่รับเรื่องนี้มาจากสำนักงานใหญ่โดยตรง กับผู้จัดการโปรเจ็กต์อีกคนดูแลโครงการนี้ร่วมกัน โดยทั้งสองคนจะสลับเวรกันเดินทางไปดูแลโครงการที่เวียดนาม แต่อาจไม่จำเป็นต้องไปอยู่ทั้งสัปดาห์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าตกลงแบ่งงานกันอย่างไร เพียงแต่ต้องรายงานความคืบหน้าให้ท่านประธานและสำนักงานใหญ่ทราบเป็นระยะ

และการที่ต้องคอยรายงานสำนักงานใหญ่ด้วยนี่เอง ทำให้แม้ช่วงที่อยู่กรุงเทพฯ เชษฐ์ก็จะไม่ได้กลับบ้านเร็วนักเพราะต้องคอยอยู่ออฟฟิศจนดึกเพื่อเทเลคอนเฟอเรนซ์กับสำนักงานใหญ่ซึ่งเวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย ซึ่งในคืนเช่นนั้น เชษฐ์จะให้ภัทรกลับบ้านก่อนเพื่อจะได้ไม่ต้องคอยอยู่รั้งที่ออฟฟิศจนดึกดื่นตามไปด้วย และนั่นก็ทำให้ทั้งสองยิ่งเหลือเวลาที่จะได้ใช้ร่วมกันในแต่ละวันน้อยลงไปอีก

และนั่นก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้เช่นเดียวกัน

ภายในออฟฟิศที่เงียบสงัดเพราะเลยเวลาเลิกงานมาพอสมควร เมื่อภัทรเหลือบเห็นว่านาฬิกาที่มุมล่างหน้าจอคอมพิวเตอร์บอกเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง ชายหนุ่มก็เงยหน้าแล้วเหลียวมองไปรอบบริษัทที่ไม่มีใครอยู่แล้ว ซึ่งนับเป็นเรื่องหายากในช่วงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแผนกของเขาซึ่งมีงานเอกสารกองเป็นภูเขา แต่เพราะว่างานส่วนมากยังไม่ค่อยเร่งด่วน เพื่อนๆ และรุ่นพี่ร่วมแผนกจึงกลับกันไปตั้งแต่ยังไม่หนึ่งทุ่ม ส่วนภัทรยังคงนั่งทำงานต่อเพื่อรอทานมื้อเย็นกับเชษฐ์ เพราะวันนี้ฝ่ายนั้นก็ต้องอยู่เวรคอยเทเลคอนเฟอเรนซ์กับสำนักงานใหญ่ตามเคย

เหมือนเดี๋ยวนี้จะถูกงานบีบจนได้มีเวลาคุยกันวันละไม่เกินสองชั่วโมงยังไงก็ไม่รู้...

ภัทรคิดพลางยกมือทั้งสองข้างประสานกันแล้วเหยียดขึ้นสูงเพื่อบิดขี้เกียจ ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้แล้วลุกเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำ เขากะว่าเดี๋ยวออกมาอีกครั้งจะเดินไปถามเชษฐ์ซึ่งนั่งทำงานอยู่ในห้องประจำตำแหน่งว่าจะลงไปทานมื้อเย็นกันที่ร้านอาหารแถวออฟฟิศหรือสั่งอะไรขึ้นมาทานด้วยกันก่อนเขากลับไหม

หลังจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จ ภัทรก็ออกมาล้างมือที่อ่าง ขณะที่กำลังวักน้ำล้างหน้าก็ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กดังมาจากทางห้องครัวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องน้ำ ทำเอาชายหนุ่มตัวแข็งด้วยความตกใจไปชั่วขณะ แต่แล้วก็ค่อยๆ ระบายลมหายใจเมื่อนึกขึ้นได้ว่านอกจากตัวเองแล้วยังมีเชษฐ์กับ รปภ. ที่เฝ้าบริษัทช่วงกะกลางคืนอีกคน จึงเป็นไปได้ว่าคนใดคนหนึ่งคงเดินเข้าไปชงกาแฟหรือหาอะไรในตู้เย็นทานอยู่ก็เป็นได้

ภัทรดึงกระดาษสำหรับเช็ดมือออกมาซับมือกับหน้าจนแห้ง จากนั้นก็ออกจากห้องน้ำและเดินไปชะโงกมองผ่านพาร์ติชั่นที่กั้นห้องครัว ทำให้เห็นแผ่นหลังของร่างสูงใหญ่ที่กำลังยืนชงกาแฟอยู่พอดี พอเขาเดินเข้าไปหา คนที่ยืนอยู่ก่อนก็เหลียวกลับมามองและยิ้มอ่อนๆ ให้

“ว่าไง เห็นไม่อยู่ที่โต๊ะฉันก็นึกว่าหนีกลับไปก่อนแล้วซะอีก”

ภัทรฟังแล้วก็ได้แต่ย่นจมูก เพราะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่อีกฝ่ายจะไม่รู้ว่าเขายังอยู่ในบริษัท ในเมื่อหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขาก็ยังไม่ปิด แล้วยังเสียงเปิดน้ำในห้องน้ำเมื่อกี้อีก ดังนั้นที่พูดแบบนั้นก็มีแต่เพราะอยากแซวเขาเท่านั้นแหละ

“คุณเชษฐ์เห็นผมเป็นคนยังไงกันครับ นี่ผมอยู่รอเพราะจะได้ไปกินข้าวเย็นด้วยหรอกนะ แต่ถ้าอยากให้ผมกลับก่อนเดี๋ยวผมไปตอนนี้เลยก็ได้”

ชายหนุ่มหันหลังแล้วทำท่าจะเดินหนี ไม่ใช่เพราะน้อยใจแต่เพราะหมั่นไส้มากกว่า แต่ก็ยังช้ากว่าเจ้าของเสียงหัวเราะที่ยื่นแขนมาดึงมือแล้วรั้งตัวเขาเข้าไปหาจนแผ่นหลังของภัทรแนบกับแผงอกกว้าง คนถูกกอดสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงลำแขนแข็งแรงที่รัดอยู่รอบเอว

“คุณเชษฐ์! เดี๋ยวน้าลั่นมาเห็นนะครับ!”

ภัทรรีบเตือนว่าในบริษัทยังมี รปภ. ที่นั่งเฝ้าเคาน์เตอร์อยู่ตรงทางเข้าอีกคน แล้วก็ต้องรีบหดคอหนีเมื่อรู้สึกถึงปลายจมูกที่จรดลงบนขมับ แต่ว่าเจ้าของอ้อมแขนแข็งแรงที่รั้งเอวเขาไว้ก็ไม่ได้หย่อนแรงลง

“น้าลั่นไม่เข้ามาหรอก เมื่อกี้ฉันเพิ่งเอากระทิงแดงในตู้เย็นกับขนมไปให้เอง แกก็คงนั่งดูทีวีของแกอยู่ที่เคาน์เตอร์นั่นแหละ”

เชษฐ์ตอบก่อนจะก้มลงเอาคางเกยไหล่เขาไว้ ภัทรจึงพยายามไม่ทำตัวขยุกขยิกให้มากนักแม้จะจั๊กจี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเขินที่โดนกอดแล้วก็ตาม แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ชินกับการทำแบบนี้ในออฟฟิศอยู่ดี

หลังจากต่างยืนนิ่งกันได้สักครู่ ภัทรก็ชักทนไม่ไหว เพราะเสียงหัวใจเขามันเต้นดังเสียจนก้องในหูตัวเอง และเขามั่นใจว่าคนที่ยืนกอดอยู่ก็คงรับรู้ได้เหมือนกันแน่ๆ

“เอ่อ...คุณเชษฐ์ไม่หิวเหรอครับ? ไปหาอะไรกินกันข้างล่างดีกว่า เดี๋ยวก็ต้องกลับขึ้นมารอประชุมอีกนี่นา?”

ภัทรทักขึ้น และได้สบตากับเชษฐ์ตรงๆ เมื่อคนตัวใหญ่เหลือบตาขึ้นมองเขา คนถูกถามหัวเราะก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วคลายอ้อมแขนแต่โดยดี

“เอาอย่างนั้นก็ได้ ถ้างั้นเธอไปเก็บกระเป๋ากับปิดคอมเลยก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันไปหยิบกระเป๋าสตางค์ที่ห้องก่อน”

ภัทรพยักหน้าก่อนจะรีบเดินเร็วๆ ออกมาจากครัวโดยมีร่างสูงใหญ่ก้าวตามมาห่างๆ พอถึงแถวที่นั่งของตัวเอง เขาก็เลี้ยวแยกไปที่โต๊ะโดยที่เชษฐ์เดินต่อไปที่ห้องประจำตำแหน่ง ไม่ถึงอึดใจ ทั้งสองก็เดินออกจากปีกด้านตะวันออกของออฟฟิศด้วยกัน

พนักงาน รปภ. ที่นั่งประจำอยู่ที่เคาน์เตอร์หันมายิ้มให้เมื่อเห็นทั้งคู่ “จะกลับกันแล้วหรือครับ คุณเชษฐ์ คุณภัทร?”

ชายวัยกลางคนร่างกะทัดรัดในเครื่องแบบเบนสายตาจากโทรทัศน์ขนาดเล็กที่กำลังดูฆ่าเวลามาเอ่ยถาม เชษฐ์จึงยิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้าไปทางคนข้างตัว “คนนี้น่ะกลับ แต่เดี๋ยวผมจะไปกินข้าวก่อนค่อยขึ้นมาเพราะยังไม่ได้ประชุมกับทางสำนักงานใหญ่ น้าลั่นอยากได้อะไรหรือเปล่าผมจะได้แวะซื้อขึ้นมาให้”

น้าลั่นส่ายหน้าพลางชูขวดกระทิงแดงที่เปิดฝาแล้วขึ้นจากโต๊ะ “โอ้ย ไม่ต้องลำบากหรอกครับคุณเชษฐ์ ผมมีข้าวกล่องอยู่แล้ว อีกอย่างได้ไอ้นี่มาก็ช่วยได้มากแล้วครับ เชิญทั้งสองคนตามสบายเถอะ”

ภัทรยิ้มแล้วยกมือไหว้ชายวัยกลางคนก่อนจะเดินไปที่ลิฟต์พร้อมกับเชษฐ์ ความจริงฝ่ายนั้นก็คงสงสัยว่าทำไมคืนที่คุณผู้จัดการหนุ่มอยู่ดึกๆ จึงมักมีพนักงานโอเปอเรชันคนนี้อยู่รอทานข้าวด้วยประจำ แต่โชคดีที่แกไม่ใช่คนชอบสู่รู้และจะเข้างานแค่ช่วงกลางคืน ภัทรจึงไม่ค่อยลำบากใจว่าแกจะไปพูดต่อให้ใครฟังเท่าไรนัก

หลังจากที่ลงลิฟต์มาถึงชั้นล่าง เชษฐ์ก็เดินนำภัทรไปที่ร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณสี่ช่วงตึก เนื่องจากย่านนี้จะคึกคักเฉพาะตอนกลางวัน จึงมีร้านอาหารที่เปิดจนถึงดึกเพียงไม่กี่ร้าน ยังดีที่มีสถานีรถไฟฟ้าตั้งอยู่ด้านหน้าตึกสำนักงาน ไม่เช่นนั้นแล้วช่วงดึกๆ ถนนเส้นนี้ก็คงจะทั้งเปลี่ยวและมืดจนไม่น่าเดิน

ภายในร้านอาหารจีนซึ่งเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำไว้มีลูกค้านั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะ แต่ทั้งสองก็เลือกนั่งที่โต๊ะด้านในสุดติดกับผนังกระจกที่พ่นทรายเป็นลายมังกร หลังจากที่ทานมื้อเย็นกันเสร็จในเวลาไม่นานเพราะความหิว เชษฐ์ก็จ่ายเงินและเดินไปส่งภัทรจนถึงหน้าช่องตรวจตั๋วของสถานีรถไฟฟ้าซึ่งในเวลานี้แทบไม่มีใครนอกจากพนักงาน

“ถ้างั้น...ผมกลับแล้วนะครับคุณเชษฐ์ พรุ่งนี้เจอกันครับ”

ภัทรหันไปลาพลางกระชับสายสะพายกระเป๋าซึ่งเป็นใบที่จับสลากได้เมื่อตอนปีใหม่ แต่แล้วก็ชะงักฝีเท้าที่กำลังจะเดินไปที่ช่องตรวจตั๋วเมื่อได้ยินเสียงจากคนที่มาส่ง

“ความจริงถ้ามาอยู่บ้านฉันซะก็ไม่ต้องมาลากันอย่างนี้ทุกเย็นหรอก จริงมั้ย?”

ชายหนุ่มเอี้ยวคอกลับมามองคนพูดซึ่งกำลังใช้นิ้วชี้ดันแว่นขึ้นและมองเขายิ้มๆ แต่ก็เลือกจะไม่ตอบและรีบสาวเท้าเข้าไปด้านในสถานีเร็วๆ ต่อให้ไม่มีตามองหลัง แต่ภัทรก็มั่นใจว่าคนตัวใหญ่คงยืนมองปฏิกิริยาของเขาพร้อมกับหัวเราะในคออยู่แน่ๆ ดูเหมือนว่าไม่ว่าทั้งคู่จะสนิทสนมคุ้นเคยกันมากขึ้นแค่ไหน แต่ไอ้นิสัยชอบแกล้งของคุณเชษฐ์ก็ยังคงเส้นคงวา ไม่มีวี่แววว่าจะน้อยลงจากเมื่อก่อนแม้แต่นิดเดียว

แถมป่านนี้แล้วจะขอให้แก้ก็คงยากซะด้วย คนที่ควรจะต้องรับมือการแกล้งของอีกฝ่ายให้ดีกว่านี้ก็มีแต่เขานี่เอง...

ภัทรคิดแล้วอดจะยิ้มไม่ได้ เมื่อได้เข้าไปในรถไฟฟ้าแล้วก็เลือกนั่งตรงที่ที่ใกล้ประตูที่สุดเพื่อจะได้ลงจากรถไปเปลี่ยนขบวนที่สถานีเชื่อมต่อได้สะดวก แต่เพราะที่สถานีนี้มีคนใช้บริการเยอะมาก พอเปลี่ยนรถเขาจึงต้องยืนแทนที่จะได้นั่ง ขณะที่กำลังใกล้จะถึงสถานีปลายทาง ชายหนุ่มก็รู้สึกได้ว่าโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงสั่น จึงเบียดตัวขอทางผู้โดยสารคนอื่นไปที่ประตูพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า และพบว่าคนที่โทรมาก็คือพี่สาวคนเดียวที่ไม่ได้คุยกันมาเกือบสองเดือน

“ฮัลโหล?”

ภัทรรอจนออกมาจากขบวนรถแล้วจึงค่อยกดรับสาย และได้ยินเสียงแจ๋วๆ จากหลานสาวลูกครึ่งญี่ปุ่นตัวน้อยแทนที่จะเป็นพี่สาว

“น้าภัทรขา คิดถึงน้าภัทรจังเลย ทำไมไม่มาหาหนูเลยคะ”

เสียงตัดพ้อจากหลานสาวตัวน้อยทำเอาภัทรใจอ่อนยวบ ชายหนุ่มยิ้มบางๆ ด้วยความเอ็นดูถึงแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายมองไม่เห็น “ขอโทษจ้ะมิมิ ช่วงนี้น้าภัทรงานยุ่งมากเลย เดี๋ยวถึงวันเกิดหนูเดือนหน้าเมื่อไหร่น้าภัทรจะไปหานะ”

“…ไม่เอา เดือนหน้านานไป พรุ่งนี้น้าภัทรต้องมาฉลองวันเกิดกับมิมิด้วย”

เสียงหลานสาวตัวน้อยขุ่นอย่างเอาแต่ใจ ภัทรจึงได้แต่ขมวดคิ้ว เพราะเขาจำได้ว่ากว่าจะวันเกิดหลานสาวก็ต้นเดือนหน้าซึ่งยังอีกตั้งสองอาทิตย์ แต่แล้วปลายสายก็ถูกเปลี่ยนมือและเสียงพี่แพนดังขึ้นแทน

“ขอโทษจ้ะภัทร พอดีโทรุต้องบินไปเทรนงานที่ญี่ปุ่นตั้งแต่วันมะรืนนี้แล้วก็อยู่ยาวเป็นเดือนเลย พวกพี่ก็เลยตั้งใจกันว่าจะจัดเลี้ยงวันเกิดให้มายูมิเร็วหน่อยเป็นคืนพรุ่งนี้ ภัทรพอจะว่างมาได้หรือเปล่า? พวกพี่คงไปฉลองกันที่ร้านแถวๆ บ้านนี่แหละ”

ภัทรฟังคำอธิบายจึงค่อยถึงบางอ้อ และเข้าใจว่าทำไมเมื่อครู่หลานสาวถึงทำเสียงเครือเหมือนจะร้องไห้ เพราะหากคิดแบบเด็กวัยห้าขวบ การที่คุณพ่อติดภารกิจจนอยู่ฉลองวันเกิดด้วยไม่ได้ก็คงทำให้น้อยอกน้อยใจไม่น้อยเลย

“คืนพรุ่งนี้น่าจะได้นะพี่แพน เดี๋ยวภัทรจะรีบเคลียร์งานจะได้ไม่ต้องอยู่ดึก ว่าแต่มายูมิอยากได้ของขวัญอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?”

ภัทรถามขณะเดินออกจากช่องตรวจตั๋ว จากตัวสถานีรถไฟฟ้าสามารถมองเห็นคอนโดของเขาที่อยู่เลยออกไปอีกไม่กี่ช่วงตึกได้อย่างชัดเจน ซึ่งความสะดวกนี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาไม่ได้ย้ายไปไหนถึงแม้พี่สาวที่เคยอาศัยด้วยจะแต่งงานและแยกบ้านออกไปหลายปีแล้ว

“ก็ไม่เห็นว่าอยากได้อะไรเป็นพิเศษนะ ถ้าถามตอนนี้ก็คงมีแต่อยากให้พ่ออยู่ฉลองวันเกิดด้วยเท่านั้นแหละ ภัทรก็ไม่ต้องซื้ออะไรแพงๆ มาให้หรอก แค่ได้ฉลองกันพร้อมหน้าทั้งครอบครัวหลานก็คงดีใจแล้วล่ะ”

ชายหนุ่มพยักหน้า “นั่นสิ ถ้างั้นก็ตกลงตามนั้น เดี๋ยวพรุ่งนี้เลิกงานแล้วภัทรจะโทรหาพี่แพนอีกที”

“เอ้อนี่ภัทร ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ชวนแฟนเรามาฉลองวันเกิดหลานไปด้วยเลยสิ พรุ่งนี้เช้าตอนโทรไปจองโต๊ะพี่จะได้นับเขาเพิ่มไปด้วย”

ภัทรที่กำลังเดินลงบันไดจากสถานีรถไฟฟ้าเกือบสะดุดขาตัวเอง “เอ๋? เอ่อ...จะดีเหรอพี่แพน ช่วงนี้คุณเชษฐ์งานยุ่งมากเลยนะ ภัทรไม่อยากรบกวน”

ชายหนุ่มตอบไปพลางก็นึกถึงคนที่ตอนนี้คงกำลังนั่งเฝ้าออฟฟิศ แต่ปลายสายกลับทำเสียงจุ๊ปากอย่างไม่ค่อยพอใจ “นี่ภัทร เธอก็ชวนเขาในฐานะแฟนสิจ๊ะไม่ใช่ลูกน้อง คบกันมาก็หลายเดือนแล้วไม่ใช่เหรอ ใจคอจะไม่ให้พี่สาวได้รู้จักคนที่กำลังคบด้วยเลยหรือไง?”

คนถูกท้วงห่อปาก “ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย ภัทรแค่เกรงใจเพราะช่วงนี้คุณเชษฐ์ต้องอยู่ที่บริษัทจนดึกแทบทุกคืนต่างหาก”

ชายหนุ่มพยายามจะอธิบาย แต่แล้วก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของหลานสาวดังผ่านลำโพงมาแว่วๆ

“ตายละ มายูมิเริ่มงอแงกับพ่อเขาอีกแล้ว เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ภัทรชวนคุณเชษฐ์มาด้วยก็แล้วกัน ถ้าไม่เห็นแก่พี่ก็ถือว่าจะได้แนะนำน้าเขยให้หลานรู้จักก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปพายายตัวเล็กเข้านอนก่อนนะ”

พี่สาวของเขาตัดบทแล้วก็วางสายทันที ภัทรจึงได้แต่เผยอปากค้าง แต่ก็รู้ว่าไร้ประโยชน์ที่จะโทรกลับไป เพราะตอนนี้อีกฝ่ายคงกำลังวุ่นกับการพยายามกล่อมลูกสาวตัวน้อยให้หยุดร้องไห้และเข้านอน จึงได้แต่ถอนหายใจเบาๆ ขณะเดินกลับไปที่คอนโด

พอถึงห้องแล้ว ภัทรก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเอนหลังดูโทรทัศน์อยู่บนเตียง ขณะที่กำลังเคลิ้มๆ ก็ได้ยินเสียงจากมือถือว่ามีข้อความเข้า เมื่อกดเปิดดูก็พบว่าคนส่งคือคุณผู้จัดการโปรเจ็กต์ที่ต้องอยู่เฝ้าบริษัทจนดึกดื่น

“I’m going home now. Good night.”

ภัทรเหลือบตามองนาฬิกาบนผนัง และพบว่าเป็นเวลาเกือบจะห้าทุ่มแล้ว ทำให้อดจะเห็นใจคนที่ส่งเมสเสจมาไม่ได้ที่เพิ่งจะได้กลับเอาป่านนี้

นิ้วมือเีรียวยาวเลื่อนไปที่ปุ่มโทรออก แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เลือกที่จะตอบกลับด้วยการพิมพ์ข้อความสั้นๆ แทน

“OK. Good night.”

ภัทรกดส่งข้อความก่อนจะวางมือถือไว้ที่เดิม จากนั้นจึงกดรีโมทปิดโทรทัศน์และค่อยๆ ซุกตัวลงใต้ผ้าห่ม ร่างเพรียวระบายลมหายใจยาวก่อนจะหลับตาลง

ไหนๆ วันนี้คุณเชษฐ์ก็ต้องเหนื่อยกับงานจนดึกแล้ว เรื่องนี้ค่อยเอาไว้ถามวันพรุ่งนี้ก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง...


++------++



ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
เช้าวันถัดมา ภัทรมาถึงบริษัทตั้งแต่เช้าตรู่เพราะตั้งใจว่าจะเคลียร์งานให้ได้มากที่สุด พอถึงตอนเย็นจะได้ขอกลับเร็วหน่อยเพื่อไปซื้อของขวัญให้หลานสาวก่อนจะไปกินข้าวเย็นด้วย และอาจเพราะช่วงนี้หลายแผนกต่างก็งานยุ่งเหมือนกัน ทำให้มีคนมาถึงบริษัทแต่เช้าเหมือนกับเขาหลายคน

สำหรับวันนี้ ภัทรได้รับภารกิจพิเศษจากป๋วยให้รับผิดชอบคนเดียวไปเลยทั้งวัน ก็คือการปรินท์และจัดเตรียมเอกสารสำหรับแจกลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยร่วมออกงานในปีก่อนๆ โดยทางบริษัทของเขาได้เชิญลูกค้าเหล่านี้ให้มาเข้าร่วมประชุมที่บริษัทเพื่อจะได้แจกแจงรายละเอียดและตอบคำถามพร้อมกันทีเดียวในวันรุ่งขึ้น ภัทรจึงง่วนอยู่กับการเตรียมเอกสารเหล่านั้นและส่งอีเมล์หาลูกค้าเพื่อย้ำเรื่องการเข้าประชุมตั้งแต่เช้า

พอถึงเวลาเที่ยง แม่บ้านก็ปิดไฟในบริษัทตามนโยบายประหยัดไฟ เสียงถอนหายใจจึงดังขึ้นจากมุมนั้นมุมนี้ขณะที่บางคนก็ลุกไปเข้าห้องน้ำหรือออกไปรอลิฟต์ แต่แทนที่จะเดินออกไปพร้อมคนอื่นๆ ภัทรกลับกดสั่งพิมพ์เอกสารแล้วเดินไปที่เครื่องปรินเตอร์ซึ่งวางอยู่ในห้องเล็กๆ ตรงมุมด้านในใกล้กับห้องของเหล่าผู้จัดการ ความจริงตามที่นั่งแต่ละแถวของพนักงานจะมีเครื่องปรินเตอร์ขาวดำที่ถูกเชื่อมต่อให้ใช้การอยู่แล้ว แต่เนื่องจากมีเอกสารบางส่วนที่เขาจำเป็นต้องปรินท์สี ซึ่งเครื่องเดียวที่พนักงานทั่วไปสามารถใช้ปรินท์สีได้ก็คือเครื่องปรินเตอร์ใหญ่ที่ถูกตั้งไว้ในห้องนี้

ชายหนุ่มเลื่อนประตูห้องที่เป็นบานกระจกติดฟิล์มสีเข้มออก จากนั้นก็ตรงเข้าไปที่เครื่องปรินเตอร์สีซึ่งตั้งอยู่ติดผนัง เนื่องจากเขาสั่งปรินท์เอกสารไปหลายชุด ชุดหนึ่งก็มีหลายสิบหน้า ทำให้ต้องยืนรอระหว่างที่เครื่องยังปรินท์ไม่เสร็จ ครู่หนึ่งเครื่องก็ส่งเสียงสัญญาณดังติ๊ดๆๆ ว่ากระดาษหมด ภัทรจึงหันไปฉีกกระดาษรีมใหม่มาและก้มลงเรียงใส่ถาดปรินท์เพิ่ม เมื่อยืดตัวขึ้นอีกครั้งก็เห็นท้องฟ้าภายนอกผ่านกระจกหน้าต่างเนื่องจากบริษัทของเขาอยู่ถึงชั้นสามสิบสอง

แดดแรงชะมัด...เดี๋ยวโทรฝากพี่ป๋วยซื้ออะไรขึ้นมาให้ดีกว่าจะได้ไม่ต้องลงไป

ภัทรหยีตามองแสงแดดที่แรงชวนแสบตาทั้งที่มองผ่านกระจกติดฟิล์ม ความที่มัวแต่เหม่อมองวิวด้านนอก เขาจึงไม่รู้ตัวเลยว่าใครบางคนเพิ่งจะเปิดประตูออกจากห้องประจำตำแหน่งและมองเข้ามาเห็นเขาอยู่ในห้องปรินเตอร์คนเดียว จึงเดินตามเข้ามาแล้วเลื่อนปิดประตูตามหลัง จากนั้นก็มายืนซ้อนอยู่ข้างหลังอย่างเงียบเชียบ

“ไม่ไปกินข้าวเที่ยงหรือไง? ภัทรกร”

“หวา!”

ลมอุ่นๆ ที่เป่ากระทบใบหู บวกกับชื่อเต็มยศที่ไม่ได้ยินมานานทำเอาภัทรรีบยกมือหนึ่งขึ้นปิดหูแล้วถอยห่างอย่างตกใจ แต่คุณผู้จัดการดันใช้มืออีกข้างยันเครื่องปรินเตอร์กันไว้ก่อนแล้วจนเขาถอยไม่ได้มากนัก ภัทรจึงหันไปมองอีกฝ่ายตาขุ่นที่มาแกล้งเขาอีกแล้ว แต่เชษฐ์ก็เพียงยิ้มตอบอย่างไม่รู้สึกรู้สา

เห็นเขาไม่เคยโต้กลับเลยได้ใจ แกล้งได้แกล้งเอาเลยนะ...

“พอดีผมยังมีเอกสารที่อยากปรินท์ให้เสร็จก่อนน่ะครับ จะได้จัดเข้าไฟล์ไว้เตรียมแจกลูกค้าตอนประชุมวันพรุ่งนี้ให้เรียบร้อย”

น้ำเสียงท้ายประโยคของคนพูดสะบัดนิดหน่อย ก็...มันอดไม่ได้นี่นา แต่คุณผู้จัดการก็แค่พยักหน้ารับรู้พลางหยิบเอกสารแผ่นหนึ่งขึ้นอ่าน “อืม...พวกลูกค้าใหม่สินะ”

ร่างสูงใหญ่ถอยหลังให้นิดหนึ่งขณะไล่สายตาตามรายละเอียดบนแผ่นกระดาษ ประกายเฉียบคมเข้าแทนที่ความขี้เล่นเมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงานของบริษัท ภัทรจึงถือโอกาสนั้นถอยห่างคนตัวใหญ่อีกนิด แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นว่าข้างเท้าของคุณผู้จัดการมีกระเป๋าเอกสารทรงสี่เหลี่ยมวางอยู่

“กำลังจะออกไปประชุมข้างนอกเหรอครับ?”

เชษฐ์มองตามสายตาเขาแล้วก็พยักหน้า “อืม พอดีตอนบ่ายมีประชุมกับลูกค้าใหญ่น่ะ แล้วตอนเย็นก็ต้องไปงานเลี้ยงครบรอบของสมาคมที่เป็นพันธมิตรกับบริษัทเราด้วย พอดีท่านประธานสั่งไว้ว่าอยากให้ผู้จัดการโปรเจ็กต์ไปร่วมงานทุกคน เพราะสมาคมนี้ก็ทำงานร่วมกับบริษัทเรามาหลายปี ควรจะไปให้เกียรติกันแบบพร้อมหน้าหน่อย”

ภัทรฟังแล้วก็รู้สึกใจหายไปนิดหนึ่ง เพราะถ้าหากอีกฝ่ายต้องไปร่วมงานเลี้ยงตามคำสั่งของท่านประธาน ก็หมายความว่าเย็นนี้คงไม่สะดวกจะมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของหลานเขาน่ะสิ...

เชษฐ์มองเห็นแววตาของภัทรก็เข้าใจผิดไปอีกทาง นัยน์ตาคมเข้มฉายประกายอ่อนโยนลงพลางยกมือหนึ่งขึ้นเสยผมให้เบาๆ

“ขอโทษนะที่วันนี้คงกลับมากินข้าวเย็นด้วยไม่ได้ ไว้วันหลังฉันจะชดเชยให้ก็แล้วกัน”

ภัทรรีบส่ายหน้า “ก็ครั้งนี้มันจำเป็นนี่ครับ อีกอย่างเย็นนี้ผมก็มีนัดกินข้าวกับพี่แพนอยู่แล้วด้วย เพราะงั้นไม่เป็นไรหรอกครับ”

คราวนี้ผู้สูงวัยกว่ามุ่นหัวคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง “นัดกับพี่สาวเอาไว้แล้ว? เนื่องในโอกาสพิเศษอะไรหรือเปล่า?”

นี่เห็นเขาเป็นพวกไม่พบปะพี่น้องถ้าหากไม่มีโอกาสพิเศษหรือไงกัน แต่ก็นั่นแหละ คราวนี้คุณเชษฐ์ดันเดาถูกเสียด้วย ความที่ไม่อยากโกหก ภัทรจึงตอบเสียงอ่อยๆ

“...พอดีมีงานเลี้ยงวันเกิดล่วงหน้าให้หลานผมน่ะครับ เพราะว่าพ่อแกต้องไปญี่ปุ่นเดือนนึงตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยอยู่ฉลองตอนวันเกิดจริงๆ ของแกไม่ได้”

คำตอบที่ได้ทำให้คนฟังขมวดคิ้วมากขึ้นอีก “แล้วนี่ตั้งใจจะไม่ชวนฉันไปด้วยเลยเหรอ?”

น้ำเสียงที่เรียบนิ่งแต่จับอารมณ์ไม่ถูกทำให้ภัทรเหลือบตาขึ้นอีกครั้ง พอเห็นคิ้วที่ขมวดหน่อยๆ ของคนถาม เขาก็ใจหายวูบ

“ไม่ใช่นะครับ! พี่แพนก็เพิ่งจะโทรบอกผมเมื่อคืนนี้เอง แต่มันดึกแล้วผมเลยไม่ได้โทรไปบอกคุณเชษฐ์ แล้ววันนี้ก็เพิ่งจะได้คุยกัน ยิ่งได้ยินว่าคุณเชษฐ์มีงานเลี้ยงต้องไปอยู่แล้ว ผมก็ไม่อยาก...”

ภัทรพูดไม่จบ เพราะยิ่งฟังก็ยิ่งเหมือนกำลังปัดความผิด นี่ถ้าไม่ใช่เพราะถูกทักขึ้นมาว่าทำไมถึงจะไปเจอพี่สาวตอนเย็น เขาก็คงเกรงใจที่คืนนี้อีกฝ่ายมีงานเลี้ยงสำคัญต้องไปร่วมจนไม่คิดจะบอกเรื่องนี้แน่ๆ

เชษฐ์ยกมือขึ้นกอดอกพลางมองภัทรนิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่ง “จริงๆ ไอ้งานเลี้ยงเย็นนี้น่ะ ในเมื่อผู้จัดการคนอื่นก็ไปกันหมดแล้ว ฉันไม่ต้องไปสักคนงานก็คงไม่ล่มหรอก เดี๋ยวฉันบอกคุณปรีชาว่าเย็นนี้ฉันไม่ว่างแล้วก็ได้”

ภัทรทำหน้าตื่น “ไม่ต้องหรอกครับคุณเชษฐ์ ถ้าเกิดท่านประธานให้ผู้จัดการไปกันทุกคนก็แปลว่าอาจจะมีเรื่องสำคัญต้องคุย อีกอย่างวันนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดจริงๆ ของหลานผม ไว้วันหลังที่เราว่างตรงกันค่อยไปเจอกันใหม่ก็ได้ครับ”

ผู้สูงวัยกว่ายังทำหน้านิ่งอยู่ ก่อนจะใช้นิ้วชี้ข้างหนึ่งดันแว่นขึ้นแล้วถาม “ร้านที่เธอจะไปกินเลี้ยงกับพี่สาวคืนนี้อยู่แถวไหน?”

ภัทรกะพริบตาทีหนึ่งก่อนจะตอบ เชษฐ์จึงทำท่าคิด “ไกลจากโรงแรมที่ฉันต้องไปงานเลี้ยงอยู่เหมือนกัน เอาเป็นว่าฉันจะพยายามตามไป เธอก็บอกพี่เธอด้วยล่ะว่าจะมีแขกเพิ่มอีกคน”

“คุณเชษฐ์ครับ ถ้าเกิดว่าคุณเชษฐ์ไม่สะดวก…”

“ฉันนึกว่าเราผ่านขั้นที่จะมัวแต่เกรงใจกันไปแล้วซะอีกนะ”

เขายังพูดไม่ทันจบก็ถูกคุณผู้จัดการขัดจังหวะ คราวนี้ภัทรเลยได้แต่อ้ำอึ้ง มันก็จริงหรอกที่ทั้งคู่น่าจะข้ามผ่านขั้นของความสัมพันธ์ที่มัวแต่เกรงใจกันได้แล้ว แต่นิสัยของเขามันไม่ใช่สิ่งที่จะแก้กันง่ายๆ แบบนั้นี่

ร่างสูงใหญ่มองคนตัวเล็กกว่าที่หลุบตาหนีตัวเอง แล้วก็ถอนหายใจสั้นๆ ทีหนึ่งก่อนจะก้มลงหยิบกระเป๋าเอกสารขึ้นมาถือ แต่ที่ทำเอาภัทรสะดุ้งโหยงคือการที่จู่ๆ อีกฝ่ายก็ก้มลงมาหอมแก้มเขาหน้าตาเฉย!

“คุณเชษฐ์!!”

ใบหน้าคมเข้มยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นภัทรรีบยกมือขึ้นปิดแก้มข้างที่โดนฉวยโอกาส “แบบนี้ค่อยน่าดูกว่าหน้าตาตอนหงอยๆ หน่อย แล้วก็อย่าเอาแต่ทำงานจนลืมกินข้าวซะด้วยล่ะ เย็นนี้เจอกันที่ร้าน อาจจะดึกหน่อยแต่ฉันจะตามไป”

เชษฐ์ทิ้งท้ายก่อนจะเลื่อนประตูกระจกที่ติดฟิล์มสีเข้มออก ภัทรถึงได้รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้กล้าทำอุกอาจเมื่อครู่ เพราะนอกจากจะปิดประตูห้องปรินเตอร์ไว้ ด้านนอกยังไม่มีใครอยู่อีกต่างหากเพราะว่าลงไปพักเที่ยงกันหมด ภัทรมองตามแผ่นหลังของร่างสูงใหญ่ที่เดินตัวตรงออกไปทางด้านหน้าของบริษัท ตรงแก้มที่เพิ่งโดนสัมผัสยังรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากร่องรอยของริมฝีปาก เขาเลยได้แต่ถูแก้มตัวเองแล้วก็ส่ายหน้ายิ้มๆ

อย่างน้อย...คืนนี้เขาก็จะได้แนะนำคุณเชษฐ์กับครอบครัวเสียทีละนะ...


+---tbc---+   :z2:

ออฟไลน์ litlittledragon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +304/-1
ดีใจ ที่เชษฐ์กับภัทรมาแล้ว จะมาทันเจอแพนกับมิมิหรือเปล่าก็ไม่รู้

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
 :mc4: :pig2:ด้วยความดีใจ ที่น้องภัทรกับคุณเชษฐ์กลับมาให้หายคิดถึง
มาคราวนี้หวานกันใหญ่นะคะ

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
Re: Immaculate Confession – คุณเชษฐ์ + น
«ตอบ #368 เมื่อ06-06-2011 22:33:04 »

กรี๊ดดดดดดดด มีความสุข  :-[

ว่าแล้วก็แว่บกลับไปอ่านรื้อฟื้นความทรงจำใหม่ดีกว่า หุหุ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-06-2011 22:42:06 โดย love2y »

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ภัทรให้ความรู้สึกว่าเป็นลูกน้องมากกว่าแฟนอีก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






lasom

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงจังเลยน้าสสสสสสสสสสสสสส :กอด1:

ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1
กอดรวบแน่นๆ  :กอด1:
ทั้งภัทรและคุณเชษฐ์
แถมฟัดเน้นๆคุณริน  :จุ๊บๆ:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
^
คุณโอม เดี๋ยวเค้าตัวเหลวหมด อ๊าง~ 5555

+1 ให้ทุกคอมเม้นต์ค่า ^____________^

@StaR@

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาตามอ่านด้วยความคิดถึงคุณเชษฐ์น้องภัทร
 :กอด1: :pig4: :L2:

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
 :-[

ขอแบบคุณเชษฐ์สักคน ไม่ต้องดีเท่า ไม่ต้องเก่งเท่า ไม่ต้องเข้าอกเข้าใจเท่า
แค่...ลดลงมาอย่างละนิดละหน่อยก็พอ

(ฝันเฟื่องตลอดที่อ่านเรื่องนี้ หงุงหงิง)

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1
กรี๊ด ๆ

รอการ เปิด ตัว 555

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ได้อ่านซะที หวังว่าตอนต่อไปคงจะมาอีกเร็วๆ นี้ใช่ไหมคะ  :impress2:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
มาต่อแย้วววว

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ได้อ่านซะที หวังว่าตอนต่อไปคงจะมาอีกเร็วๆ นี้ใช่ไหมคะ  :impress2:

^
แอร๊ยยย์ "เร็วๆ นี้" นี่ความหมายกว้างงงงงงงมากเลยนะคะตะเอ๊ง (พูดไปงั้น แต่ถ้าไหวก็อยากมาเร็วๆ เหมือนกัน)
   :laugh:

KaZuKi

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ยย เหมือนรอลุ้นเมื่อไรคู่นี้จะแบบว่า เลิกอาย และ เกรงใจซํกทีนะ อยากให้ภัทร แสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ ให้ได้ครึ่งของคุณเชษฐ ก้ยังดี ฮาๆ รอตอนต่อไปค่าา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
 :a5:  :a5:  ขยี้ตาแรง แล้วบอกตัวเองว่า ฝันไปหรือเปล่า นี่ชั้นไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด คุณเชษฐ์ ของน้องกลับมาแล้ว

กรี๊ดดดดดดดดดดดด กลับมาทั้งที คุณเชษฐ์ ทำงานซะหนักเชียว แล้วจะได้สวีทวีดวิ้ว กันตอนไหนค่ะ  :serius2:

ออฟไลน์ boboaje

  • ไม่ชอบหวาน ชอบครบรส
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
ชอบบ บบ บ บ บ ชอบคู่นี้ค่า น่ารักดีเชญฐ์กลายเป็นผู้บริหารช่างแกล้งเวลาอยู่กับภัทร ภัทรก็ยั่วขึ้นตลอดแต่เป็นพวกภูมิคุ้มกันต่ำนี่คะ โดนอำยังไม่ค่อยจะรู้ตัว เมื่อไหร่หนอผู้จัดการถึงจะได้รับรางวัลซะทีน้า  รอตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ evilheart

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-3
เพิ่งเข้ามาอ่าน ก้อทำท่าจะติดซะแล้ว
ตาลุงลามกนี่อบอุ่นใช่ย่อยนะเนี่ย

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดพี่รินนนนนนน น้องตามอ่านทันแล้วค่า น่ารักมากๆ
แต่ภัทรก็ยังเกรงใจไม่เลิก ชอบเก็บไว้ในใจ แต่คุณเชษฐ์อ่านออกหมด 55 ชอบใจจัง

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจ อ่านทันแล้ว ชอบนิยายแนวนี้มากเลย
มันค่อนข้างเป็นชีวิตจริงที่พบเห็นได้
แต่ก็แอบช้านะคะ เห็นว่าหลายเดือน
แต่พอดีว่า เพิ่งมาเจอนิยายสนุกๆ
ถ้าดูจากจำนวนคนรีพลาย ก็จะเห็นว่าน้อย
พออ่านแล้ว ก็รู้ได้ว่านิยายที่รีพลายเยอะๆ อาจจะตรงกับกลุ่มเป้าหมายในเล้า
พอดีพี่แก่แล้ว เลยชอบนิยายแนวนี้ o13

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
^ พอดีเขียนแบบที่อยากอ่านเองน่ะค่ะ ถ้าคุณ little_nok ได้อ่านผลงานเรื่องอื่นของเราด้วย จะดูออกเลยว่ายายนี่เขียนตามใจตัวเองทุกเรื่อง 555  :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-06-2011 17:34:03 โดย bellbomb »

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
กรี๊ดๆๆๆ เห็นชื่อคุณริน ดีใจรีบวิ่งเข้ากระทู้นึกว่ามาอัพคุณเชษฐ์เพิ่มซะอีก >_<

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
^ แหะๆ รอก่อนนะค้า ตอนนี้กำลังเขียนตอนพิเศษให้ลำนำรักสีรุ้งในห้องนิยายจบแล้วอยู่ง่ะ ^^" ของคุณเชษฐ์รออีกสักอาทิตย์เนะ (เร็วไปไหมนั่น?)

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
^ แหะๆ รอก่อนนะค้า ตอนนี้กำลังเขียนตอนพิเศษให้ลำนำรักสีรุ้งในห้องนิยายจบแล้วอยู่ง่ะ ^^" ของคุณเชษฐ์รออีกสักอาทิตย์เนะ (เร็วไปไหมนั่น?)
ไม่เร็วค่า กำลังพอดี เรารอได้เสมอค่า ^^

+ และ :กอด1:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด