Only You Episode 7 :: My little-alien. [Special Viewpoint By Victor.] [50%]เอเลี่ยนน้อยหลับไปแล้ว คงเพลียจากการโดนผมฟัดในห้องน้ำไปอีกหนึ่งรอบหลังจากเกี่ยวก้อยสัญญากัน ผมปล่อยให้เขาขย่มผมบนโถส้วมที่ปิดฝา ปล่อยให้เขาโยกไปโยกมาจนผมเสร็จ แล้วผมก็ใช้มือช่วยเขาจนเสร็จตามกันมา พอปลดปล่อยเรียบร้อย ผมก็พาเขาอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย แอบตกใจเหมือนกันตอนเห็นเลือดไหลออกมา แต่ว่าเลือดเขาไม่ใช่เลือดเข้มข้น เป็นเลือดจางๆ เหมือนน้ำ แมทบอกว่าเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บแสบ ไม่ได้เจ็บปวด ก็คงมีแผล เพียงแต่อาจไม่ใช่แผลใหญ่ คงเพราะเราห่างกันไปนาน ผมคิดถึงเขาเลยใส่เต็มกำลัง ยังนึกสงสัยตัวเองว่านี่เรียกว่าตายอดตายอยากหรือเปล่า
ผมพาเขาแช่น้ำอุ่นเพื่อให้กล้ามเนื้อเขาได้ผ่อนคลาย ช่วยบีบช่วยนวดไปตามตัว มีโอกาสก็แทะเล็มนั่นนี่เขาไปเรื่อย ผมมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเขาแล้วยิ้มกว้าง ใช้มือขวาลูบบั้นท้ายเขาเบาหวิว ก้มลงจูบที่หัวไหล่ ไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้กอด ไม่ได้หอมร่างแน่นๆ ร่างนี้นานเท่าไหร่แล้ว ไม่ต้องให้หมอดูที่ไหนมาทำนาย ผมก็กล้าพูดเลยว่า ช่วงที่อยู่ด้วยกัน ผมเอาเขามันส์แน่ ร้างจากเขามานานแล้ว อีกอย่างระยะเวลาที่อยู่ด้วยก็ใช่ว่าจะนาน ยังไงขอเสพสุขทางกายและใจกับเอเลี่ยนน้อยเยอะๆ หน่อยเถอะ ผมก้มลงจูบบั้นท้ายอวบอิ่มเขาแผ่วเบา ดึงผ้านวมขึ้นมาคลุมร่างเปลือยเปล่าของเขาไว้ ลุกออกจากเตียง เดินเปลือยไปหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาออสติน
ผมมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเขาแล้วยิ้มกว้าง ใช้มือขวาลูบบันท้ายเขาเบาหวิว ก้มลงจูบที่หัวไหล่ ไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้กอด ไม่ได้หอมร่างแน่นๆ ร่างนี้นานเท่าไหร่แล้ว ไม่ต้องให้หมอดูที่ไหนมาทำนาย ผมก็กล้าพูดเลยว่า ช่วงที่อยู่ด้วยกัน ผมเอาเขามันส์แน่ ร้างจากเขามานานแล้ว อีกอย่างระยะเวลาที่อยู่ด้วยก็ใช่ว่าจะนาน ยังไงขอเสพสุขทางกายและใจกับเอเลี่ยนน้อยเยอะๆ หน่อยเถอะ ผมก้มลงจูบบั้นท้ายอวบอิ่มเขาแผ่วเบา ดึงผ้านวมขึ้นมาคลุมร่างเปลือยเปล่าของเขาไว้ ลุกออกจากเตียง เดินเปลือยไปหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาออสติน
“นายอยู่ไหน… ได้ช็อคโกแล็ตมาแล้วใช่มั้ย… ดี เอามาให้ฉันที่ห้องหน่อย…” ผมกดวางสาย เดินไปหยิบกางเกงเนื้อนุ่มสีดำจากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาใส่ ก็พอดีกับที่เสียงเคาะประตูห้องพักดังขึ้น ผมหันไปมองเจ้าตัวจ้อย กลัวว่าเขาจะสะดุ้งตื่นรึเปล่า แต่เขาก็ยังนอนคว่ำหน้านิ่งสนิท คงเหนื่อยจัดจากการคุมเองและโดนผมคุม
ผมก้าวเท้าออกจากห้องนอน ผ่านเสื้อผ้าที่ยังกระจัดกระจายอยู่บนพื้นพรม ปล่อยไว้ก่อนค่อยมาจัดการ ตอนนี้รีบไปเอาช็อคโกแล็ตให้เอเลี่ยนขี้แยก่อน ตื่นมากินของโปรดจะได้มีแรงยิ้มน่ารักๆ มาให้ผมอีก
แกร๊ก~
“ผมไม่รู้ว่าเขาชอบแบบไหน ผมเลยเหมามาทุกอันที่มีอยู่ในร้านสะดวกซื้อและห้างใกล้ๆ กัน” ออสตินยื่นถุงพลาสติกถุงโตมาให้ผมเป็นสิบถุงเห็นจะได้ ผมแอบทึ่งไปเล็กน้อยเพราะมันเยอะมาก นี่ถ้าแมทกินหมดคงอ้วนฉุจนเนื้อแน่นกว่าเดิมแน่ๆ
“ขอบใจมาก” ออสตินยิ้มให้ผมเพียงนิดพร้อมกับก้มหัวให้ผมนิดหน่อย
“เย็นนี้คุณจะไปทานอาหารที่ไหนมั้ยครับ”
“ไม่รู้สิ รอเขาตื่นก่อนแล้วกัน แต่ฉันคงพาเขากลับบ้านไปเอาของ นายไม่ต้องไปหรอกนะ” เขาทำหน้าอึกอัก ผมยิ้มมุมปาก ยกมือตบบ่าเขาเบาๆ
“พักบ้างก็ได้ เซล่า (Cayla) ไม่ตามมาแหกอกนายถึงที่นี่หรอก” เขายิ้มแห้งเมื่อผมเอ่ยถึงคนที่ส่งเขามาดูแลและคุ้มครองผม ออสตินเป็นบอดี้การ์ดคนแรกที่ถูกส่งมาให้เลือก ผมถูกชะตากับเขาแทบจะทันทีหลังจากที่รู้ว่าเขาเป็นคนไม่ยุ่งวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของใคร เขาทำแค่ในส่วนหน้าที่ของเขา ไม่พูดมากหรือพูดเยอะ ตอนแรกผมก็รู้สึกแปลกที่จะต้องมีบอดี้การ์ด เพราะผมรู้สึกว่าผมเป็นผู้ชาย ผมดูแลตัวเองได้ แต่ทางค่ายหนังเขากลับยืนยันว่าผมควรมี นักแสดงชายหรือนักร้องชายหลายคนก็มีกันเป็นเรื่องปกติ แค่ไม่ออกสื่อชัดเจนแบบนักแสดงหญิงหรือนักร้องหญิงเท่านั้น ผมก็เลยลองรับออสตินมาพิจารณาก่อน ถ้าเป็นก่อนเจอแมทผมไล่ตะเพิดเขาไปแล้วละ พอได้ทำความรู้จักกันคร่าวๆ ในหนึ่งวันผมก็ตกลงให้เขามาเป็นบอดี้การ์ดให้ เขาให้ความรู้สึกเหมือนเป็นน้องชายมากกว่า เขาไม่ค่อยสุงสิงอะไรกับใครแบบผมละมั้ง เลยรู้สึกว่าเขาไว้ใจได้
“แล้วนี่นายกินอะไรรึยัง”
“ยังครับ ผมว่าจะลองไปกินบะหมี่ข้างซอยโรงแรม เห็นพวกบอดี้การ์ดคนไทยบอกว่าอร่อย” พอพูดถึงพวกนั้นผมก็นึกขึ้นได้
“อย่าลืมกำชับพวกนั้นนะว่ามีหน้าที่อะไรก็ทำไป ถ้าไม่ทำตามที่ตกลงไว้ เตรียมโดนฟ้องร้องตามสัญญาได้เลย” ผมว่าหน้าเหี้ยมเสียงข่มขู่ บอดี้การ์ดคนไทยถูกจับเซ็นสัญญาก่อนร่วมงานกับผมทั้งหมด หากใครปากโป้ง ปากไม่ดีเรื่องผมแม้แต่นิดเดียว ผมเล่นพวกนั้นเละ ผมไม่ได้กลัวเขาจะนินทาเรื่องผมกับแมท อันนั้นผมไม่สนใจ แต่ที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นคือการที่มีสื่อและแฟนคลับแห่มาที่นี่กันเยอะแยะ พนักงานโรงแรมที่นี่ก็ถูกกำชับแล้วว่าห้ามบอก ถ้าอะไรเล็ดลอดไป ผมฟ้องเรียกค่าเสียหายแน่นอน ผมอยากใช้เวลาอยู่กับแมทอย่างสงบสุข
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะย้ำอีกที แต่ผมว่าผมคัดคนไม่ผิด คนพวกนี้มืออาชีพและมีจรรยาบรรณมากพอครับ” ผมพยักหน้ารับเบาๆ
“พวกไอ้เบนมาถึงรึยัง”
“ทางโรงแรมแจ้งว่ามาถึงตอนที่เราออกไปรับคุณแมทครับ”
“แล้วตอนนี้พวกมันอยู่ไหน”
“น่าจะนอนหลับอยู่ห้องข้างๆ ที่คุณจองไว้ให้ครับ” ผมทำหน้าประหลาดใจแวบหนึ่ง แต่ก็พยักหน้าเข้าใจได้ ไม่ได้แปลกใจอะไรนักหรอก เพราะมันก็บอกแล้วว่าจะบินตามมาถึงประมาณวันนี้ ตอนนี้คงเจ็ทแล็กกันอยู่
“คุณแน่ใจแล้วนะครับกับเรื่องนี้” ออสตินเอ่ยถามสีหน้านิ่งสงบ ผมยิ้มขำหน่อยๆ
“นี่ฉันยังดูโลเลอยู่เหรอเนี่ย”
“เอ่อ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ เพียงแต่… คุณเซล่าน่ะครับ…” ผมทำหน้าเอือม ส่ายหัวเป็นเชิงไม่ใส่ใจกับคนที่เขาพูดถึง จริงๆ ผมก็ไม่ใส่ใจนั่นแหละ เธอสลักสำคัญขนาดนั้นเลยรึไงกัน
“เธอสายตรงถึงนายสินะ ช่างเธอเถอะ เธอไม่ใช่พรมลิขิตที่จะมาลิขิตชีวิตฉันแบบนั้นแบบนี้ นายเองก็เหมือนกัน ตอนนี้ฉันต่างหากที่จ่ายค่าจ้างนาย ไม่ใช่เธอ” ผมพูดไปเรื่อยเปื่อย ไม่ได้คิดทวงบุญคุณอะไรจากออสติน แต่เขากลับหน้าเสียไปนิด แล้วรีบพูดด้วยเสียงคล้ายคนสำนึกผิด
“ขอโทษครับ ผมแค่พูดไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”
“ไม่เป็นไร ว่าแต่นายเถอะ รับเรื่องแบบนี้ได้รึเปล่า” เขาขมวดคิ้วงง
“แบบไหนครับ”
“ก็ที่แฟนฉันเป็นผู้ชายไง รับได้มั้ย เป็นพวกโฮโมหรือเปล่า” ออสตินส่ายหน้าแข็งขัน ตอบคำถามผมสีหน้าจริงจังและจริงใจตามนิสัยของเขา
“ไม่ครับ มันไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้หรือไม่ได้ แต่มันคือความรักของคุณ ผมเข้าใจ และผมไม่ใช่โฮโม” ผมแอบรู้สึกดีกับน้ำเสียงหนักแน่นของเขา ผมยกยิ้มมุมปากขึ้นชื่นชมอีกฝ่าย
“ท่าทางฉันจะเลือกบอดี้การ์ดไม่ผิดจริงๆ แต่ถ้านายอยากเลิกทำงานกับฉันเมื่อไหร่ บอกฉันได้เสมอนะ”
“ผมคงไม่โง่ทิ้งงานที่เจ้านายให้เงินเดือนใกล้เคียงกับราคาแมนชั่นในแมนแฮทตันหรอกครับ” ผมหัวเราะเสียงเบา แม้เขาจะนิ่งหน้าดุไปบ้าง (เหมือนตัวเอง) แต่ถ้าได้รู้จักเขา ก็จะได้เห็นมุมขำขันของออสตินอยู่เหมือนกัน
“ขอบใจ ตามสบายนะ ถ้ามีอะไรฉันจะเรียกก็แล้วกัน” เขาผงกหัวให้ผมเล็กน้อย หมุนตัวกลับไปทางประตูห้องตรงข้าม ผมใช้เท้าปิดประตู หอบถุงใหญ่ๆ หลายสิบถุงเข้ามาวางไว้บนโต๊ะทานข้าวในห้องรับรองด้านนอก ผมแหวกถุงดู ก็เห็นช็อคโกแล็ตหลากหลายรูปแบบอยู่ในนั้น ตอนแรกผมจะหอบช็อคโกแล็ตของสวิตเซอร์แลนด์มาให้แมท แต่ไอ้อันเดรเตือนว่ากว่าจะมาถึงมือแมทคงละลายคากระเป๋าเดินทางไปแล้ว ไว้เขากลับนิวยอร์กด้วยกันเมื่อไหร่ ค่อยให้เขานั่งกินเพลินๆ ทั้งวัน
ก๊อก~ ก๊อก~
ผมเงยหน้าขึ้นมองไปทางประตู หยิบช็อคโกแล็ตของแบรนด์สีแดงชื่อดังขึ้นมาแกะกินหนึ่งชิ้น เท้าก็ก้าวเดินไปที่ประตู ผมไม่ได้ส่องตาแมวหรอก เพราะชั้นนี้มันก็มีอยู่ไม่กี่คน
“Hey! Buddy!” ไอ้เบนยิ้มกว้างอยู่หน้าประตู สภาพมันดูยุ่งๆ เหยิงๆ น่าจะเพิ่งตื่นนอน ผมยักคิ้วให้มันหนึ่งทีเดินนำมันเข้ามาในห้อง ไอ้เบนปิดประตูตามหลัง
“โห เฮ้ย?! นี่แกเอาใครมาอึ๊บที่ห้องเนี่ย” น้ำเสียงมันตกใจพอๆ กับสีหน้าของมัน ผมยิ้มุมปากขวานิดหน่อย
“เด็ก” ผมตอบสั้นๆ พลางนั่งลงบนเก้าอี้นั่งทานข้าว ไอ้เบนย่นคิ้วมองผม แววตามีความเคืองเล็กๆ
“ไหนว่าแกมาตามแมทไง แล้วทำไมถึงเอาใครขึ้นมานอนด้วยวะ!” ไอ้นี่โกรธแค้นแทนแมทได้ดีตลอด ผมเข้าใจว่ามันเอ็นดูแมทเหมือนน้องมากกว่าที่จะมองเป็นอย่างอื่น (แต่ถ้าใกล้ชิดมากไปผมก็ไม่ชอบ) อีกอย่างตอนนี้มันไม่สนใจแมทแล้วละ เห็นว่ากำลังพิชิตใจเพื่อนแมทอยู่คนนึง แต่มันก็ยังคงห่วงแมท แทบจะเป็นองครักษ์พิทักษ์เอเลี่ยนน้อยของผม นี่ถ้าได้แท็กทีมกับเอมิลี่นะ ผมขอยอมแพ้
“ก็เด็กมันน่าฟัดนี่หว่า” ผมตอบกวนๆ ปากก็เคี้ยวช็อคโกแล็ตเข้มๆ นี่อย่างอารมณ์ดี ไอ้เบนชูนิ้วกลางให้ผม หน้าตามันไม่พอใจมาก
“ฉันจะฟ้องแมท!” มันขู่เสียงเข้ม หน้าตาฉุนเฉียว
“งั้นก็เปิดประตูห้องนอนเข้าไปฟ้องเลย นอนสลบอยู่บนเตียงนั่นไง” ไอ้เบนอ้าปากจะด่าต่อ แต่มันคงได้สติแล้วว่าผมพูดชื่อใครมันก็เลยเปลี่ยนมาเป็นทำหน้าตกใจแต่ก็แฝงความดีใจไว้ด้วย
“เฮ้ย นี่แกไปรับเอเลี่ยนน้อยมาแล้วเหรอ”
“เออสิวะ ฉันจะรอช้าทำไม เล่นจะไม่ยอมมาดูแลฉันตามที่ขอ ฉันเลยต้องรีบไปอุ้มมาเก็บไว้กับตัวก่อน” ไอ้เบนยิ้มถูกใจและปรบมือเสียงดังหนึ่งที มันยกนิ้วโป้งให้ผม หน้าตาฉุนเฉียวเมื่อกี้เปลี่ยนเป็นอารมณ์ดี
“เจ๋งมาก แบบนี้สิวะถึงจะสมกับเป็นเพื่อนฉันหน่อย” มันว่าเสียงระรื่น เดินมาคุ้ยๆ ถุงขนมของแมท หน้าตามันดูเคร่งเครียดนิดหน่อย
“มีแต่ช็อคโกแล็ตทั้งนั้นเลย”
“ก็แมทชอบกิน ฉันซื้อมาให้เขา” ไอ้เบนทำหน้าเข้าใจ หยิบช็อคโกแล็ตแท่งหนึ่งออกมาแกะเปลือกกิน หมุนตัวเดินไปนั่งตรงโซฟาตัวกว้างอย่างสบายใจเฉิบ
“แล้วไอ้อันเดรล่ะ”
“หลับอยู่ สงสัยจะเมารถตอนมาโรงแรม อ้วกไปหลายรอบแล้ว” มีแค่ไอ้เบนกับไอ้อันเดรเนี่ยแหละที่ตามผมมาที่ไทย แต่อย่านึกว่ามันมาเพื่อผมหรือเกิดความรู้สึกหวานเลี่ยนห่วงผมอะไรทำนองนั้นหรอกนะ พวกมันมาเที่ยว แต่ก็ยังไม่มีแพลนเลยว่าจะไปที่ไหนกันบ้าง
“แล้วโทรหาเพื่อนแมทรึยังล่ะ” ไอ้เบนเคี้ยวช็อคโกแล็ตพลางส่ายหัวหน้าตามุ่ยเล็กน้อย ก่อนจะยื่นช็อคโกแล็ตออกมามอง มันทำท่าว่าจะไม่กินต่อ แต่สักพักมันก็กัดเข้าปากอีกคำ
“ก็เพิ่งมาถึงเอง แต่เขารู้แล้วละว่าฉันจะมาเที่ยวที่นี่”
“เขารู้รึยังเนี่ยว่าแกชอบเขา” ผมถามพลางลุกขึ้นยืน เดินไปเปิดตู้เย็นขนาดเล็กตรงมุมห้อง โยนกระป๋องโค้กให้ไอ้เบน มันรับไปวางไว้บนโต๊ะกระจก ส่วนผมเดินกลับมานั่งที่เดิม
“ฉันก็บอกชอบเขาตั้งแต่อยู่ที่นิวยอร์กแล้วนะ ถ้ายังไม่รู้ตัว ฉันคงต้องบอกอีกรอบแล้วมั้ง” ผมยิ้มขำกับหน้าตาขาดความมั่นใจของมัน ไอ้เบนไม่ใช่คนที่มั่นใจในตัวเองขนาดหนัก แต่ก็ไม่ใช่คนมั่นใจอะไรมาก นานๆ ครั้งมันจะจีบใครสักคนละมั้ง ไอ้เบนไม่ใช่คนเรื่องมากหรือยุ่งยากกับความรัก ถ้ามันชอบก็คือชอบ
“ว่าแต่แกเถอะ จะเลิกนิสัยเดิมๆ ได้แน่นะ” ผมกระดกโค้กเข้าปาก สายตาเหลือบไปทางประตูห้องนอนที่มีร่างเล็กๆ เนื้อแน่นๆ นอนหลับปุ๋ยอยู่ในนั้น ผมหันกลับมามองไอ้เบนที่เลิกคิ้วขึ้นมองกลับมา ผมถอนหายใจเบาๆ
“ฉันจะเลิกนะ ฉันบอกแมทไปแล้วว่าจะไม่ทำอีก เห็นเขาร้องไห้เรื่องอันเดรียนาแล้วใจไม่ดี” ไอ้เบนย่นคิ้วหรี่ตามองผมเล็กน้อย
“แกตอบเหมือนไม่มั่นใจ ฉันไม่ได้อยากพูดว่ามันเป็นเรื่องแค่นี้หรือแค่ไหน แต่เรื่องรักใครแค่คนเดียว ฉันว่ามันไม่น่ายากไม่ใช่เหรอวะ”
“มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก แกต้องให้เวลาฉันบ้าง ฉันรักแมท รักเขาคนเดียว ข้อนั้นฉันรู้ตัวเองดีที่สุด” ผมพยายามหยุดคิ้วตัวเองที่ชอบเอาหัวไปชนกันอยู่เรื่อย
“ก็ถ้ารู้ตัวดีที่สุด แกก็น่าจะมั่นใจว่าแกจะไม่มีใครไม่ใช่เหรอ”
“ฉันก็ไม่ได้คิดอยากหาใคร หรือมีใครใหม่นะ…” ผมพูดจริงๆ และพูดอย่างจริงใจ แต่ก็แอบมีอาการหนักใจอยู่เหมือนกัน
“…แต่ฉันก็รู้ตัวเองดีว่ายังมีความเป็นผู้ชาย ฉันไม่ได้สนใจประเด็นตรงที่ว่า การที่ฉันรักแมทแล้วจะถูกมองว่าเป็นเกย์ แต่ที่ฉันสนใจคือฉันกลัวตัวเองจะหวั่นไหวไปกับสันดานเดิมๆ ของตัวเอง” ผมสบตาไอ้เบนด้วยสายตาเกร็งเครียด ไอ้เบนยัดขนมเข้าปากจนหมด มันยืดตัวขึ้นมานั่งตรงๆ
“แล้วถ้าแกยังกลัวใจตัวเองอยู่แบบนี้ แกจะเอาความมั่นใจจากไหนไปให้แมทวะ แค่คำสัญญาจากลมปากเหรอ” ไม่ใช่ผมไม่คิดแบบนั้น ผมพยายามทำใจให้เข้มแข็งเพื่อที่แมทจะได้เชื่อมั่นในตัวผม อะไรที่ทำให้เขารู้สึกมั่นคงและเชื่อใจผมได้ ผมจะทำ แม้กระทั่งเกี่ยวก้อยสัญญาหรือพูดสัญญาอะไรก็ตาม ผมอยากให้แมทสบายใจ
“ทั้งคำพูดและการกระทำ ฉันว่ามันจำเป็นต้องไปควบคู่กัน พูดแล้วแกควรทำด้วย หรือไม่ใช่ว่าทำอย่างเดียว แต่ไม่ยอมพูดอะไร…” ไอ้เบนมองผมนิ่งๆ สักพัก ก่อนจะถอนหายใจ เอนตัวพิงพนักโซฟาไว้
“…นี่ฉันก็บอกตัวเองด้วยนะ ใช่ว่าบอกแต่แก” ผมยิ้มกว้างอย่างขบขัน ไอ้เบนยักไหล่เล็กน้อย ผมไม่ค่อยรู้เรื่องมันหรอก มันบอกว่ายังไม่อยากพูดมาก รอให้เป็นแฟนกันก่อนค่อยบอกอีกที
“ยากมั้ยวะ กับการคบผู้ชายด้วยกัน คือฉันก็รู้นะว่ามันคงไม่ได้ต่างอะไรจากผู้หญิงกับผู้ชาย แต่เผื่อแกจะมีทริคดีๆ แนะนำกันบ้าง” ไอ้เบนเบ้ปากนิดหน่อย ยักคิ้วขึ้นเร็วๆ หนึ่งที แล้วตอบเสียงสบายๆ
“ไม่มีทริคอะไรดีที่สุดสำหรับความรักหรอก ไม่ว่าจะเพศไหนก็ตาม แค่แกยอมรับความรู้สึกของแกว่ารักเขาก็พอแล้ว”
“ฉันรักแมท”
“ก็แค่นั่นแหละ จะทำให้มันยากทำไม รักคือรักอ่ะ” ผมยิ้มบาง ตอนนี้รู้สึกอยากให้เอเลี่ยนน้อยส่งยิ้มมาให้จัง ไปกวนเขาจนตื่นดีมั้ยนะ เวลาเขางอแงเพราะงัวเงียง่วงนอน หน้าตาน่ารักจะตาย
“แมทรักแกมากนะ แมทเป็นคนยิ้มเก่ง หัวเราะเก่ง แต่แกรู้มั้ยว่าเวลาที่คนแบบนี้ร้องไห้ เขาจะน่าสงสารยิ่งกว่าคนประเภทไหนๆ เลยละ” ไม่ต้องบอกผมก็รู้ เคยเห็นมาแล้วตอนที่เกิดเรื่องครั้งก่อน แมทร้องไห้จนตาแดง หน้าแดง น้ำตานองหน้า มองหน้าผมอย่างตัดพ้อ มองด้วยความผิดหวังกับผมอย่างรุนแรง
“อย่าทำให้แมทจากแกไปอีกครั้ง เพราะพฤติกรรมไม่ดีของแกเอง”
“ไม่เอา ฉันไม่ให้แมทไปไหนอีกแล้ว” ผมตอบกลับทันควัน จู่ๆ ใจก็กระตุกด้วยจังหวะประหลาดหนึ่งที แค่คิดว่าจะต้องห่างแมทแบบที่ผ่านมาอีกครั้ง ความเหงา ความโดดเดี่ยวก็พุ่งมาประชิดขอบชีวิตผมทันที
แกร๊ก~
“Giant…” เสียงเล็กๆ นุ่มๆ ดังมาจากประตูห้อง พร้อมกับร่างจ้อยหน้าตาง่วงๆ เดินดุ๊กดิ๊กๆ ออกมาจากห้องนอน ผมยิ้มเมื่อเห็นเขาเอาผ้านวมมาคลุมตัวมิด เห็นแต่หน้าตาน่ารักน่ามองในสายตาผมคนเดียวนั่น เขาเดินผ่านไอ้เบนมาแบบที่ไม่ได้หันไปมองเลยด้วยซ้ำ ผมวางกระป๋องโค้กลงบนโต๊ะ อ้าแขนรับเขาให้มานั่งบนตักผม ใช้สองแขนโอบรอบร่างเขาไว้ ก้มลงไปหอมแก้มป่องน้อยๆ นั่น เปลือกตาเขาขยับขึ้นลงอย่างคนง่วงนอน เห็นแล้วคันเขี้ยวอยากเคี้ยวร่างเขาอีกสักรอบ
“กินมั้ย” ผมแหวกถุงขนมให้เขาดู เอเลี่ยนน้อยยื่นหน้าไปดูแบบเบลอๆ ถามผมเสียงงึมงำว่ามันคืออะไรทั้งที่ยังชะโงกหน้ามองถุงขนมที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างตั้งใจ
“ช็อคโกแล็ตที่ออสตินซื้อมาให้” เขาหันมามองหน้าเอ๋อแต่ก็พยักหน้ารับ ผมเลยหยิบช็อคโกแล็ตกล่องสีแดงที่อ่านว่า POCKY ขึ้นมาให้เขา เด็กน้อยของผมปล่อยมือที่จับผ้านวมไว้เพื่อมารับกล่องขนม ผ้านวมเลยร่วงลงเผยผิวเนียนๆ ลื่นๆ ที่ไหล่สองข้าง ผมรีบดึงขึ้นพร้อมกับโวยวายสีหน้าดุนิดๆ
“ระวังตัวหน่อย” เขาหันมามองผมหน้าตาขมุกขมัว มือก็แกะกล่องขนมไปด้วย
“ทำไมต้องดุด้วย อยู่กันแค่สองคนเอง” ผมแอบเห็นไอ้เบนกลั้นเสียงหัวเราะ ไอ้ตัวจ้อยนี่ก็ซื่อ ไม่สังเกตอะไรเลยสักนิด นี่ถ้าโดนใครดักฉุดไป กว่าจะรู้ตัวก็คงตอนที่ถึงโกดังร้างแล้วมั้ง
“ถ้าสองคนฉันให้นายนั่งแก้ผ้าไปแล้ว” สีหน้าเขาเหลอหลาขึ้นมา แล้วความที่เขาแค่ซื่อแต่ไม่ได้โง่ เขาเลยหันไปมองด้านหลังอย่างรวดเร็ว ตอนแรกผมคิดว่าเขาจะตกใจโวยวาย แต่เขากลับตะโกนด้วยเสียงตื่นเต้น
“Benedict!!!” เขาลุกพรวดจนโป๊ไปครึ่งตัว แถมยังทำท่าจะวิ่งเข้าไปหาไอ้เบนทั้งที่ผ้านวมยังกองอยู่บนตักผมอีก ดีที่ผมยกแขนขวาคล้องเอวเขาไว้ทัน
“ไง” ไอ้เบนเอ่ยทักเสียงหล่อพร้อมกับส่งยิ้ง แมทคงลืมตัวไปแล้วว่ากำลังโป๊อยู่ครึ่งตัว เพราะเขาพยายามแกะแขนผมออก และวิ่งไปหาไอ้หัวน้ำตาลทองเพื่อนผม
“แมท! อยู่นิ่งๆ ไม่เห็นรึไงว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอยู่” ผมดุเขา แมททำหน้าเหลอหลาอีกรอบ ก่อนจะทำหน้านึกขึ้นได้ เลยดึงผ้านวมขึ้นมาคลุมตัวไว้อีกรอบ พอผมคลายอ้อมแขนขวารอบเอวเขา ไอ้ตัวดีก็วิ่งเข้าไปหาเบนเนดิคท์ด้วยท่าทางระริกระรี้ ไอ้เบนยื่นขึ้นและอ้าแขนรับตัวน้อยๆ เตี้ยๆ ของแมทเข้าไปไว้ในอ้อมกอด เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากแมท จนผมเริ่มรู้สึกหน้าตึง
ไม่ได้เลย กับผู้ชายมีรอยสักนี่ไม่ได้เลย พลังงานความสดชื่นจะเพิ่มเป็นพิเศษ สงสัยผมต้องไปสักบ้างแล้วมั้ง เห็นว่าที่เมืองไทยดังเรื่องยันต์ห้าแถวใช่มั้ย อยู่แถวไหนกัน
TBC.
พี่ยักษ์มาแล้ววว สำหรับพาร์ท Only You อย่างที่บอกไปว่า จะได้อ่านมุมมองของพี่แกเยอะขึ้นค่ะ แต่มุมมองของวิคเตอร์ในพาร์ทสอง ก็อยู่แค่พาร์ทนี้ ไม่มีย้อนไปพาร์ทแรกแล้ว สำหรับพาร์ทแรกก็อยู่ในรวมเล่ม ใครที่ไม่ซื้อหนังสือตอมก็ขอบอกอีกครั้งและแทบจะบอกทุกครั้งว่า ไม่ต้องวอร์รี่ค่ะ ไม่อ่านก็ยังรู้เรื่องตามปกติ แค่ไม่ได้เจาะลึกพี่ยักษ์แกเท่านั้นเอง ไม่เอาดราม่าละเนาะ โน้โนนะคะ (คนอ่านเล้าเป็ดบางท่านอาจไม่รู้ พอดีเคยมีดราม่าเรื่องตอนพิเศษในเล่มค่ะ แต่ตอนนี้เคลียร์จบไปแล้วจ้า) ส่วนใครที่ซื้อไปก็ไปล้วงลึกความคิดพี่แกในภาคแรกเอาน้อ ล้วงแค่ความคิดนะคะ ล้วงเป้านั้นสิทธิของแมทคนเดียว
(อยากล้วงบ้าง)
ขออนุญาตพูดถึงคอมเม้นต์ที่ว่าน้องแมทเลือดออกเสี่ยงต่อการติดโรค ตรงนี้ตอมก็คิดไว้จ้า เดี๋ยวในเนื้อเรื่องก็จะมีแทรกๆ อยู่เน้อ แต่อาจไม่ใช่ถึงขั้นวงการแพทย์เนาะ 5555 ยังไงก็ขอบคุณมากเลยค่าที่ทักเรื่องนี้ขึ้นมา ทำให้ตอมต้องหาข้อมูลเพิ่มขึ้นอีกนิดเพื่อความสมบูรณ์ (หรอ 55555)
ขอบคุณคนอ่านที่เล้าเป็ดมากๆ เลยค่ะ ดีใจที่มีคนอ่านหน้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมา และขอบคุณคนอ่านผู้เก่าแก่ (เปล่าด่าว่าแก่นะ 5555) ที่คอยติดตามกันเสมอมาค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ อยู่ด้วยกันไปจนจบเลยเน้อ ตอนนี้กลัวหน้าสารบัญไม่พอมาก จะทำสารบัญได้ครบสามซีซั่นมั้ย -..- เยอะเหลือเกิน