Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]  (อ่าน 2279753 ครั้ง)

Rhythm

  • บุคคลทั่วไป
รออ่านนะะคะ

ออฟไลน์ jinjin283

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 934
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
>< น่ารักก ชอบคู่ฟาร์มากเลยคะ
อ่านคู่นี้แล้วจะหลุดขำตลอดเลยอะ

ออฟไลน์ Mediness

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ติดตามต่อไปค่า :) สู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ NiNJA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
สนุกมากเลยค่าา

ติดตามๆๆๆ

CnTy

  • บุคคลทั่วไป
นี่เอ็นซีแล้วใช่ปะ
แม่งไม่เหมือนเลยอ่ะ 55555555555
อย่างกะมาเล่นตลกให้ดู
ยิ่งอ่านยิ่งขำ
ไม่ไหวแล้ว รักคนแต่งมวากกกกกกกกกก
ฮามวากกกกกกกกกกกกกกก
สาบานว่าจะไม่มาร์กหน้าตอนอ่านนิยายเรื่องนี้อีกแล้ว
หลุดหมดเลยเจ้าค่ะ
ฮาปะล่ำปะเหลือ :laugh: 55555

ออฟไลน์ bobby_bear

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-5
ก๊อก ๆ ๆ

ไปป์กลับมารึยังครับ :)

ออฟไลน์ www.maxdevil

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 294
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ตอนนี้ special จริงๆ

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ร ร รอ ร้อ รอ

ออฟไลน์ londoneye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :m32:ย่องเข้ามาดู

คิดถึงอ่า :m13:

คิดถึงคนแต่งด้วย^^

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
Special Room  06 [Far’s chapter]

   ผมปวดหัวจนแทบจะระเบิดแล้ว....

   คนมีความรักมักจะดูเด็กลงไปนิดนึง  คนมีความรักมักจะไม่ทำหน้าตาบึ้งตึง  คนมีความรักมักจะชอบทำแววตาหวานซึ้ง  อย่างที่ฉันเป็นตอนนี้อย่าถือสา  แค่อยากขอนิดนึง

   “เฮ้ย!  เปิดเพลงให้มันเบา ๆ หน่อยเนียร์”
   “เฮียอย่าพูดเหมือนป๊าได้มั้ย  สุนทรียภาพน่ะ  มันต้องรับรู้ด้วยโสตประสาทที่เปิดกว้าง...  เคยได้ยินมาว่า  ความรักทำให้คนเราตาบอด  เคยได้ยินมาว่า  ความรักทำให้หัวใจเป็นทุกข์” แล้วมันก็แหกปากร้อง  ทำเอาผมกุมขมับ
   “เนียร์...  มึงไม่ใช่พิจิกานะ  เสียงใหญ่เป็นควายแล้วเสือกมาร้องแอ๊บเนี่ย”
   “ใช่สิ...  ผมมันไม่ได้มีความรักเหมือนคนแถวนี้  จะได้เข้าถึงเพลงนี่เนอะ” เนียร์เงยหน้าขึ้นมาจากคอมฯแล้วจ้องตาผม “เป็นไงล่ะ  คนหน้าเด็ก”
   “อย่ามากวนประสาทนะเนียร์” ผมเริ่มส่งเสียงขู่ลอดไรฟัน  แต่ไอ้น้องชายนรกก็หาได้สนใจไม่
   “ยิ่งใกล้วันวาเลนไทน์  เฮียก็ยิ่งออกไปนอกบ้านบ่อยขึ้น  ม้าหุงข้าวให้ผมกินทุกวัน  ไม่ใช่หญ้านะเฮีย”
   “อ๊อ...  นึกว่าแอบไปกินหญ้าที่สนามบอลมา  ถึงได้โง่ไม่ยอมฟังว่าเฮียไปซ้อมดนตรีที่มหาลัยเนี่ย”
   “ซ้อมดนตรีบ้าอะไร!  เฮียกลับบ้านดึกทุกวัน  ไปทำอะไรมิดีมิงามมาใช่มั้ย  ผมจะฟ้องม้า!”
   “ไร้สาระ” ผมหันกลับมาสนใจหน้าจอคอมฯต่อ
   “เฮียอย่ามาเมินผมนะ” เนียร์มันทิ้งดอทเอไว้เบื้องหลังแล้วหันมาแย่งเม้าส์ผมแทน  เฮ้ย...  ชักจะกวนตีนแล้ว
   “อย่าเสียงดัง  เดี๋ยวป๊าก็มาด่าหรอก”

   ได้ผลทันที  ทุกอย่างที่มีคำว่า ‘ป๊า’ ประกอบอยู่ในรูปประโยค  ถือว่าศักดิ์สิทธิ์สำหรับบ้านผมที่สุด  ไอ้เนียร์ที่โวยวายง้องแง้งถึงกับต้องหยุด  แล้วไปนั่งบ่นอุบอิบแทน  เฮ้อออออออออ  อายุสมองเคยโตขึ้นมั้ยน้องผม

   เนียร์มานอนเล่นที่ห้องผมตามปกติของมัน  แน่นอนว่าไม่ลืมแบกโน้ตบุ๊คมาเล่นเกมออนไลน์ตามภาษาเด็กติดเกมอย่างมัน  นิสัยนี้แหละทำให้มันเข้ากับไอ้ไปป์ได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย  สนิทกันเร็วเหมือนรู้จักกันมาตั้งแต่เกิด  ผมนั่งสาปแช่งมันในใจขณะเปิดไฟล์งานขึ้นมานั่งอ่านทวนอีกรอบ  อาจารย์ก็ไม่ได้ดูเลยสินะว่ามันใกล้เทศกาลอะไร  ถึงได้มาสั่งงานนักเรียนแบบนี้เนี่ย

   วาเลนไทน์  เทศกาลระลึกถึงนักบุญวาเลนไทน์  ผู้ล่วงลับในปี ค.ศ.207  โอเค  ผมจะเลิกเลคเชอร์เรื่องเทศกาลสำคัญก็ได้  แต่ความสำคัญของวันที่ 14 เดือนกุมภาพันธ์มันก็มีแค่นั้นจริง ๆ นี่นา  อ๊อ... ปีนี้พิเศษกว่าเดิมนิดหน่อยตรงที่ชมรมดนตรีของผมได้รับเกียรติให้ไปเล่นเพลงรักสนุก ๆ ที่ลานกิจกรรมของมหาลัย  ภายใต้ชื่องาน ‘Once Upon a Love Song กาลครั้งหนึ่งในบทเพลงรัก’  น่าตื่นเต้นใช่มั้ยล่ะครับ  เพื่อน ๆ ที่ชมรมคึกกันใหญ่เลย  ไม่ใช่อะไรหรอกครับ  มันกะจะพาแฟนไปนั่งจ้องตาเล่นดนตรีกันน่ะสิ

   ส่วนผมน่ะเหรอ...

   ตั้งแต่เหตุการณ์บนรถวันนั้นก็ผ่านมาร่วมสัปดาห์แล้ว  ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างผมกับอาร์ท  ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันแน่...  ผมไม่ใช่คนหลอกตัวเอง  บนความปกตินั่นแหละที่มันไม่ปกติ  ผมทำทุกอย่างเหมือนเดิม  แต่ความรู้สึกต่างหาก  ที่มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

   ทุกครั้งที่หลับตาผมมักจะถามตัวเองอยู่ทุกครั้งว่า  กำลังทำอะไรอยู่?  ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?  จะทำร้ายคนอื่นไปถึงไหน?  แล้วผมรู้สึกยังไงกันแน่?

   ไอ้กัญชานั่นก็บ้า!  เสือกมาขอคบด้วยตอนที่ผมโคตรจะหงุดหงิดสุด ๆ  พร้อมจะขับรถชนคนตาย  รู้ทั้งรู้ว่าเวลาขับรถผมจะเป็นพวกสติแตก  ความดันในเลือดสูง  และพร้อมจะองค์ลงด่าชาวบ้านประหนึ่งผีไอ้ไปป์เจาะปาก  แล้วนี่มันเรื่องบ้าอะไรที่มาปั่นหัวผมเล่น  ให้ขับรถวนไปมาเหมือนคนโง่  ไม่รู้ว่าสนุกมากนักรึไงถึงได้ทำแบบนี้  ตอนนั้นผมโกรธจริง ๆ นะ  ไม่ได้รู้สึกโกรธใครจนแสดงอาการออกมาแบบนี้นานมาก...  เกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าครั้งสุดท้ายที่ผมระเบิดอารมณ์แบบนั้น  มันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...

   แถมยังไม่ทันหายโกรธดี  ดันเสือกมาขอคบด้วยอีก  ตอนนั้นผมแทบจะเป็นบ้าทำอะไรไม่ถูกกับชีวิต  ในหัวมีแต่สีขาววาบ  จับต้นชนปลายไม่ถูก  เหมือนมีใครมาเย็บปากไว้  ทั้ง ๆ ที่แค่ตะโกนกลับไปว่า ‘ไม่’  เรื่องมันก็จะจบอยู่แค่ตรงนั้นแล้วแท้ ๆ  มันไม่ใช่ตัวผมเลยที่ปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อมาเป็นอาทิตย์แบบนี้  ทั้งที่สัญญากับตัวเองไว้แล้วแท้ ๆ ว่าจะไม่รักใครในแบบนั้นอีก  ปัญหาตอนนี้ก็คือ  ผมไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดสัญญาอยู่รึเปล่า?

   ผมคิดยังไงกับอาร์ทกันแน่นะ?

   ถ้าไม่ได้รู้สึกอะไรทำไมไม่ปฏิเสธไปเลยล่ะ?  แล้วถ้าเกิดผมชอบมันขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ...  ผมจะทำยังไง?  จะกล้าเปิดใจเหรอ  ยังไม่เข็ดจากเรื่องแบบนี้อีกเหรอ  ผมนึกโกรธตัวเองที่ตอนนั้นกำลังเลือดขึ้นหน้าเลยทำอะไรไม่ถูก  ถ้าตามปกติผมคงปฏิเสธให้มันจบ ๆ ไปตั้งแต่ตรงนั้นแล้ว...

   ไอโฟนบนเตียงแผดเสียงร้องขึ้นในวินาทีเดียวกับที่ผมสบตาเข้ากับเนียร์  เราจ้องตาอยู่แบบนั้นสองสามวินาที  ก่อนที่ผมจะใช้ความเร็วระดับแสงเอาชนะมัน  คว้าเครื่องมือสื่อสารมานอนเล่นในมือได้  พอดูชื่อสายเรียกเข้าที่ขึ้นหราบนหน้าจอก็ทำเอาขมวดคิ้ว  คนที่หายไปเป็นอาทิตย์โทรหาผมทำไม?

   “เนียร์...  เฮียจะคุยโทรศัพท์”
   “ก็คุยสิ” ไอ้น้องชายเอนตัวลงกับหมอนแล้วยักคิ้วให้ “ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเฮีย”
   “มารยาท?”
   “ถ้าเฮียบริสุทธิ์ใจก็เชิญตามสบาย” อุก...  ช่างยอกย้อนนักนะ  ผมมองในหน้ากวนประสาทนั่น  ก่อนจะแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการกดรับแล้วกรอกเสียงลงไปห้วน ๆ

   “เออ... ว่าไง”
   “รับโทรศัพท์แบบนี้ไม่สุภาพเลยนะครับ” ช่วยอย่ากวนประสาทกูตอนนี้เลยครับคุณอาร์ท...  ไหว้ล่ะ
   “โทรมามีอะไร”
   “ต้องมีอะไรด้วยเหรอครับ” เสียงยานคางนั่นหัวเราะเบา ๆ มาตามสาย “ปกติก็โทรมาคุยทุกวัน  วันนี้เกิดอยากจะให้มีอะไรขึ้นมาเหรอ” ก็หายไปตั้งหลายวันไม่ใช่รึไงเล่า  ผมกลืนคำถามลงคอเมื่อพบว่าไอ้เนียร์เปิดจานดาวเทียมไว้ที่หัว
   “ตกลงไม่มีอะไรใช่มั้ย” ผมเหลือบมองน้องชายที่แกล้งทำเป็นตีดอท  กดปุ่มแรงขนาดนั้นมึงจะให้ทะลุคอมเลยรึไงวะ
   “มีครับ...  พรุ่งนี้ว่างมั้ย?”
   “แจกใบปลิวโปรโมทงานดนตรีที่โรงอาหารกลาง”
   “โธ่...  แอบนัดพบ  ทำลับ ๆ ล่อ ๆ ไปได้  แน่จริงมาเจอผมเลยดีกว่า” ไอ้เนียร์แกล้งพูดลอย ๆ  ผมก็เลยตีเบลอไม่ได้ยินไปซะ  คิดจะกวนประสาทเฮียเหรอไอ้เด็กน้อย!
   “กี่โมงครับ”
   “บ่าย ๆ  หมดธุระแล้วใช่มั้ย  แค่นี้ก่อนนะ...”
   “ครับ” ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่ามันยิ้มเย็น ๆ “บอกน้องชายด้วยว่า  พี่อาร์ทฝากความห่วงใยในสวัสดิภาพไปให้นะครับ”

   ติ๊ด...  ผมชิ่งกดตัดสายมันไปก่อน  ตาย! ตาย! ตาย!  น้องหนูดีจะเลิกสิงที่ห้องไอ้ไปป์มันรึยังวะ  มันจะมาสิงบ้านผมแทนมั้ยเนี่ย  อากงที่เสียไปยังวนเวียนอยู่เลยนะ  อย่ามาแย่งที่อยู่บ้านพี่เลยครับน้องหนูดี  ผีไทยผีจีนจะตีกันให้วุ่น!

   “เฮีย...  หน้าซีดทำไม”
   “เนียร์...  คืนนี้นอนห้องเฮียนะ”
   “เฮียกลัวผีเหรอ  วันนี้คนอวดผีไม่ออกนะ  เฮียไปดูย้อนหลังมาเหรอ”
   “เปล่า  ดูผีอวดผีมา”

   ไอ้เนียร์เกาหัวงง ๆ ไม่เก็ทมุกอย่างแรง  ผมเลยชิ่งนั่งทำงานแทน  มันจะได้เลิกพูดซะ  ไอ้น้องตัวแสบเลยหันไปเล่นเกมต่อ  มันเล่นแล้วพูดคนเดียวไปด้วยนะครับ  มีกระตุกขาลุ้นตามเป็นครั้งคราว  อินเหมือนอยู่ในโลกเสมือนจริง

   คืนนั้นไอ้เนียร์ขนหมอนมานอนข้างผม  ห้องนอนผมเป็นอาณาเขตที่แสนจะอึมครึมของบ้าน  แม้ว่าจะน้อยกว่าห้องนอนป๊ากับม้าก็ตาม  ที่ว่าอึมครึมน่ะ  ไม่ใช่เพราะแค่การแต่งห้องสีทึม  แต่รวมไปถึงเจ้าของห้องผู้จืดชืดอย่างผมอีกด้วย
   อากาศคืนนี้ค่อนข้างเย็นนิดหน่อย  ผมเลยเลือกที่จะเปิดหน้าต่างแทนแอร์หรือพัดลม  เนียร์นอนกลิ้งไปมาบนเตียงนอนสีน้ำตาลแก่  มันไม่ลืมที่จะหนีบหมอนข้างคู่บุญมาด้วย  น้องผมติดหมอนข้างมากครับ  เรียกได้ว่าวันไหนไม่ได้กอดมันจะนอนไม่หลับเลย  นี่มันยังเครียด ๆ อยู่เลยว่าแบกหมอนข้างไปเข้าค่ายรด.จะเป็นอะไรมั้ย  เออ  ตกลงมันกี่ขวบนะ?

   “เฮียปิดไฟเด๊ะ  นอนไม่ได้”
   “เออ ๆ  รู้แล้ว  ปิดคอมฯอยู่เนี่ย” ผมรีบพับโน้ตบุ๊คเก็บเข้าที่  ถอดปลั๊กให้เรียบร้อย  จากนั้นก็เดินไปปิดไฟแล้วกระโจนลงเตียง  เนียร์นอนตะแคงมาทางผม  ไม่ลืมที่จะใช้ขาหลังหนีบหมอนข้างเอาไว้ด้วย  มันรอจนผมสวดมนต์เสร็จแล้วค่อยเอ่ยทัก

   “ไอ้เวรนั่นมันขู่จะปีนห้องเฮียเหรอ”
   “ไปกันใหญ่แล้ว  นอน  นอน  นอนไม่ต้องถามอะไรมาก” โอ๊ย...  ทำไมรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ๆ  อุตส่าห์เอาไอ้เนียร์มาช่วยนอนให้เต็มเตียงแล้วนะ  หวังว่าน้องหนูดีคงไม่ใจแตกขนาดนอนร่วมเตียงกับผู้ชายสองคนนะเว่ย
   “ห้ามมีแฟนนะเฮีย!” อยู่ ๆ ไอ้เนียร์ก็พูดเสียงดังขึ้นมาเล่นเอาผมสะดุ้งแทบไหลตกเตียง
   “โอ๊ย!  ไม่มีหรอกน่า  ประสาทว่ะ!” ผมนอนพลิกตัวออกด้านนอก  ไม่อยากเสวนากับไอ้น้องปัญญานิ่ม  แต่เนียร์ไม่ยอมแพ้มันลุกขึ้นมาเขย่าแขนผม
   “เฮียแปลก ๆ ไปอะ  เฮียมีอะไรปิดบังผมวะ”
   “.............” ผมเงียบ  ผมไม่ชอบหลอกใคร  ถ้าไม่อยากพูดก็เงียบไปซะดีกว่า...

   พรุ่งนี้อาร์ทจะต้องมาหาผมแน่ ๆ  มันโทรมาดักคอไว้ขนาดนี้แล้ว  แล้วถ้ามันถามถึงคำตอบล่ะ  ผมจะทำยังไงดี  ปฏิเสธไปเลยจะใจร้ายเกินไปมั้ย?  ถ้าทำแบบนั้นมันก็จะออกไปจากชีวิตผมสินะ...  ทั้ง ๆ ที่น่าจะเป็นเรื่องดีแท้ ๆ แต่พอคิดว่าชีวิตจะไม่มีมันแล้ว  ทำไมมันปวดหนึบที่อกซ้ายแบบนี้นะ...

   “เฮีย!  เรามาแลกความลับกัน” เนียร์ดึงแขนเสื้อผมแรง ๆ  น้องผมนี่น้า...  สูงหล่อหน้าตากวนโอ๊ย  แต่ดันเป็นไอ้น้องแหง่ติดพี่แบบนี้  มันใช้ได้ที่ไหนล่ะ
   “ไม่แลก...  เฮียจะนอนแล้ว  พรุ่งนี้มีเรียนเช้า  ตอนเย็นต้องซ้อมดนตรีอีก”
   “ครูที่โรงเรียนมาจีบผมด้วย!”
   “เฮ้ยยยยยยยยยยย!  ทำแบบนั้นได้ไงวะ” ผมเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงนอนมาเขย่าตัวเนียร์ที่นั่งรออยู่แล้ว
   “เอ๊า!  จะรู้มั้ย  ก็เขามาจีบอะ  สวยด้วยนะเฮีย  อายุก็ยังไม่มาก  เพิ่งจบได้ไม่นาน”
   “อะไรวะเนี่ย  ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปขนาดนี้เชียว” ผมละปวดหัวกับประเทศไทยจริง ๆ “อย่าบอกนะว่ามึงเป็นแฟนกับครูแล้วน่ะ?”
   “ทีนี้ตาเฮียบอกความลับเฮียมั่ง” ไอ้เด็กแสบกระตุกยิ้มกวนโอ๊ยที่มุมปาก  เป็นสัญญาณให้ผมรู้ว่าตัวเองพลาดท่าให้มันซะแล้ว  เนียร์มันร้ายกาจ  มันรู้ว่าผมไม่ชอบผิดคำพูด  ไอ้เด็กนรกเอ๊ย!
   “หลอกกูเหรอ”
   “เปล๊า” ไม่ต้องมาเสียงสูงเลยนะมึง “ไม่ได้หลอกซะหน่อย  ผมก็ทำตามเงื่อนไข  ทีนี้ตาเฮียบอกมั่ง” ยันมันตกเตียงซะดีมั้ย?  ผมนั่งฮึดฮัดอยู่สักพัก  แต่สุดท้ายก็ยอมบอกจนได้
   “มีคนมาขอคบกับเฮีย...”
   “ไอ้เหี้ยนั่นใช่มั้ย?” น้องชายผมสติแตกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เนียร์ทึ้งหัวตัวเองจนผมแทบหลุดออกมาเป็นกระจุก  ซึ่งผมก็ไม่ห้ามครับ  เป็นพี่ที่แสนดี “อย่าบอกนะว่าเฮียเป็นแฟนกับมันแล้ว”
   “แล้วมึงเป็นแฟนกับครูแล้วรึยังล่ะ” ผมยักคิ้วกวนมันกลับบ้าง  ไอ้เนียร์จิ๊ปากอย่างขัดใจ
   “ยัง!  ไม่อยากมีเมียแก่  เรื่องผมช่างแม่งมันก่อน  เอาเรื่องเฮียอะ” มันดีดดิ้นบนเตียง “เฮียเป็นแฟนมันแล้วใช่มั้ย!?”
   “ยัง...  เฮียยังไม่ได้ตอบอะไรมันเลย”
   เนียร์ถอนหายใจ “ผมหวังจะได้ยินว่าเฮียปฏิเสธมันไปแล้วมากกว่านะ...”
   “..........” ผมเงียบ  เพราะตอบน้องไม่ได้  พูดให้ถูกคือตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ปฏิเสธไป  การยืดเยื้อให้มันเสียเวลาแบบนี้มีแต่จะทำให้เจ็บกันไปทั้งสองฝ่ายเสียเปล่า ๆ

   “เฮีย...” เนียร์วางมือลงที่หน้าตักผม “ผมว่าแล้ว  เฮียต้องมีผู้ชายมาจีบ  แม่งเอ๊ย!”
   “มันใช่ประเด็นตอนนี้ที่ไหนกันล่ะโว้ย” ผมเขกหัวไอ้เด็กเวรเข้าไปทีนึง  ไอ้นี่มันพูดจาดูถูกผมนี่หว่า
   “ก็ว่าอยู่แล้ว  เตี้ย ๆ อย่างเฮียหาเมียไม่ได้หรอก  แต่จะผู้ชายหรือผู้หญิงเฮียก็ห้ามมีแฟน”
   “มึงเป็นป๊ารึไง?”
   “เป็นน้องชาย” มันยิ้มบาง ๆ “ที่ไม่อยากเห็นเฮียเป็นบ้าไง”

   ผมยิ้มตอบแล้วลูบหัวเกรียน ๆ นั่นเบา ๆ  บ้านผมก็แบบนี้แหละ  ถึงจะไม่ค่อยสนิทกับป๊าเพราะป๊าเป็นคนเคร่งขรึม  ส่วนม้าก็ไม่ค่อยมีเวลาให้พวกเราเท่าไหร่  แต่ยังไงผมก็ยังมีน้องชายคนนี้อยู่ทั้งคนนี่นา  ผมไม่ได้คว้าตัวมันเข้ามากอดแบบในละครน้ำเน่าหรอกนะ  ลูกผู้ชายเขาไม่ทำอะไรแบบนั้นกันหรอกครับ...

   “กูดูเหมือนคนบ้า?”
   “ตอนนี้ไม่หรอก  แต่ถ้าเฮียผิดหวังเมื่อไหร่  เฮียบ้าแน่” มันลดระดับเสียงลงไปนิดหน่อย “เมื่อปีที่แล้วเฮียซึมไปเป็นเดือน  ผมนะแม่งอยากจะบุกไปกระทืบเชี่ยนั่นให้ไส้ไหล”
   “เกินละมึง”
   “ก็จริงนี่!  เฮียซึมน่ากลัวจะตาย  อย่างกับวิญญาณออกจากร่าง  ฉะนั้นไม่ต้องไปมีมันหรอก  ฟงแฟนอะไรนั่นน่ะ  อีกอย่างเฮียคงไม่ได้ชอบมันหรอกใช่มั้ย?”
   “.............” ผมเงียบ
   “ใช่มั้ยเฮีย?  ใช่มั้ย?” เนียร์เริ่มเขย่าแขนเรียกร้อง  แต่ผมไม่รู้จะตอบอะไรนี่หว่า...  แม้แต่ใจตัวเองผมยังไม่กล้าเปิดออกดูด้วยซ้ำ “เฮียยยยยยยยยยยยยยยยยย”
   “โอ๊ย...  จะเรียกอะไรนักหนา  เดี๋ยวป๊าก็ตื่นมาด่าหรอก”
   “เฮีย...” แหนะ...  ยังจะเรียกอีก
   “อะไรเล่า?”
   “รู้ตัวมั้ยว่า  เฮียยิ้มบ่อยขึ้นตั้งแต่เลิกซึมคราวนั้นอะ  เฮ้อออออออออออออ” มันถอนหายใจ “บางทีเฮียอาจจะทิ้งผมไปจริง ๆ ก็ได้คราวนี้”
   “ทิ้งห่าอะไรล่ะ  อย่าเวิ่นเว้อ”
   “ก็เฮียทำเหมือนชอบไอ้เชี่ยนั่นไปแล้วอะ!” ฮะ!?  ผมทำตัวแบบนั้นลงไปเหรอ?  บ้าน่า!  นี่ผมแสดงออกชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย “นั่นไง!  นิ่งไปเลย  เฮียชอบมันใช่มั้ย?”
   “ไม่รู้ว่ะ...  เฮียไม่รู้” ผมส่ายหน้าเบา ๆ  ตอนนี้ผมไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้นแล้ว  ไอ้ความสัมพันธ์บ้า ๆ นี่มันจะไปจบลงตรงไหนกันนะ...  ผมล่ะนึกภาพไม่ออกเลยจริง ๆ “เฮียไม่อยากยุ่งกับใครอีกแล้ว  เฮียไม่อยากเจ็บ  ไม่อยากโง่...”
   “ที่เป็นอยู่นี่เฮียฉลาดมากงั้นสิ” ผมหันควับ “แหม...  พูดเล่นน่าเฮีย  แบบว่าไม่อยากให้เฮียเครียด”
   “หนักกว่าเดิมล่ะสิไม่ว่า”

   ผมหลับตาลงเฝ้าถามตัวเองไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ว่ารู้สึกยังไงกับอาร์ทกันแน่  พอลองถามตัวเองว่าตั้งแต่มีมันเข้ามาในชีวิตแล้วผมรู้สึกยังไง?  ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าการมีอาร์ทเข้ามาในชีวิตเป็นเรื่องดีแค่ไหน  ผมไม่เคยลืมมือที่ยื่นเข้ามาในวันที่เจ็บที่สุดวันนั้น...  ตอนที่ถูกทิ้งไว้คนเดียว ถ้าไม่มีผู้ชายมึนๆคนนี้เดินเข้ามาผมจะเป็นยังไงกันนะ?

   ผมที่เคยไร้ค่า...ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่มีความสำคัญกับคนคนหนึ่งขึ้นมา....

   ผมยิ้ม....ผมหัวเราะ...ผมตะโกน...ผมกระโดดได้สูงที่สุดในชีวิต...  ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมแสดงอารมณ์ต่อหน้าคนไม่สนิทได้มากมายขนาดนี้...


   แต่ถึงจะมีความสุขกับเขามากแค่ไหน... ผมก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร...  ความรักของผมเหมือนไฟ...  ถ้ามองอยู่ไกลๆมันก็จะให้แสงสว่างกับเรา แต่หากยื่นมือไปแตะเมื่อไหร่ก็พร้อมจะเผาเราให้มอดไหม้..  แล้วมันจะผิดด้วยเหรอ ถ้าผมจะหวาดกลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อมมือออกมา  ในเมื่อความรู้สึกตอนถูกเผานั้นผมเคยสัมผัสมันมาแล้ว...มันเจ็บเสียจนทนแทบไม่ไหว...

   ถ้าต้องมาเจ็บแบบนั้นอีกผมคงทนไม่ไหว....

   “เฮีย...” เนียร์จับบ่าผมไว้  ท่ามกลางความเงียบของห้อง  มันจ้องลึกเข้ามาในดวงตาผมด้วยสีน้าจริงจัง  แล้วขยับปากพูด “ถ้าอยากทำอะไรก็ทำเลย  อย่าไปกลัวมัน  ชีวิตเกิดมาแม่งก็เท่านี้แหละ  เจ็บก็เจ็บให้มันถึงที่สุด  สุขก็สุขให้มันลืมโลกไปเลย”

   ฮ่า ๆ ๆ ๆ  บ้าจริง ๆ ที่ต้องให้เด็กโง่ ๆ อย่างมันมาปลอบ  บางทีน้องชายผมก็มีมุมเท่ ๆ เหมือนกันนี่นา...  เนียร์กำมือแล้วยื่นมาตรงหน้า  ผมยิ้มออกมากว้าง ๆ แล้วเอากำปั้นเข้าชนมือนั้น  มันเป็นวิธีทักทายแบบจ๊าบ ๆ ที่สมัยเด็กเราเคยใช้กันน่ะ  โบราณแต่ก็เท่ไม่หยอกนะครับ

   เราล้มตัวลงนอนพร้อมกันและคิดว่าค่ำคืนนี้เราเปิดอกคุยกันมามากพอแล้ว  น้องชายสูงเปรตของผมใช้ขาหนีบหมอนข้างไว้แล้วนอนตะแคงหันมาทางผม  มันถูหน้าลงกับหมอน  พร้อมกับกำชับประโยคสุดท้ายกับผม

   “ผมบอกให้เฮียทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ  ไม่ได้ให้เฮียไปมีแฟนนะ”

   ทราบแล้วครับ  คุณน้องชาย...

.....................................................................................
.............................................................
...................................
..............

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7

   ผลตอบรับไม่ต่างจากที่คาดไว้นัก ไม่สิ...  ดีกว่าที่คาดไว้นิดนึงล่ะนะ

   ผมนั่งอยู่ในห้องเขียนแบบของคณะนั่งมองเพื่อนในกลุ่มถกเถียงกันเรื่องแปลนของงานใหม่  ที่จริงมันก็ไม่ได้ยากอะไร  ถ้าทุกคนไม่มัวแต่ยึดความคิดตัวเองเป็นใหญ่ล่ะก็นะ  คินเดินหน้ามุ่ยมานั่งข้างผมเป็นเชิงว่าจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ  เขาก็เป็นซะแบบนี้แหละครับ...  เคยสนใจอะไรที่ไหน  กลิ่นควันบุหรี่ลอยเอื่อยในห้องถือเป็นเรื่องปกติของคณะพวกผม  ยิ่งตอนนี้ที่กันกำลังอัดมันเข้าปอดอย่างดุเดือดยิ่งเห็นควันขาวลอยฟุ้ง  ผมเคยเตือนเพื่อน ๆ ในคณะหลายคนถึงโทษของบุหรี่แล้วนะ  ที่บ้านผมก็สอนมาเยอะ  แต่เขาไม่ฟังกันบ้างเลย  เฮ้อออออออ  แย่จัง  ตายคนเดียวไม่พอ  มาแบ่งคนอื่นตายอีก  ถาผมตายก่อนขึ้นมา  ก็คงอาฆาตพวกเขาจนอยากจะให้ตายตกไปตามกันเลยล่ะครับ  ฮะ ๆ

   “มึงไม่เห็นเหรอว่างานก่อนเราโดนตัดคะแนน  เพราะตรงหลังคามันบิดให้งอแบบนั้นจริง ๆ ไม่ได้  แล้วนี่มึงยังไม่เข็ดอีกเรอะ”
   “มึงดูวัสดุก่อน  แล้วค่อยมาด่ากู  คราวนี้มันไม่เหมือนอันเก่า”

   เฮ้อออออออออออ  ผมถอนหายใจยาว ๆ  อาจารย์ก็ช่างคิดจริงนะครับ  จัดกลุ่มให้ทำงานสิบคนนี่มันยื่นมืดให้เชือดกันเล่นชัด ๆ เลยครับ  ทั้งกลุ่มตอนนี้มีผมกับคินปลงไปแล้วสองคน  ผมไม่พูดเพราะตัวเองยังไม่ได้ร่างแปลนเลย  คินน่ะไม่พูดเพราะเขาเป็นประเภท ’ช่างหัวมัน’ ทุกอย่าง  ส่วนกันกับโจ้ยังคงสุมหัวยืนเถียงกับเพื่อนในกลุ่มคอเป็นเอ็นเลยแฮะ  เอาเถอะครับ...  อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด  แม้ว่าโปรเจคปิดเซคนี้จะคะแนนมากถึง 20% เอาเป็นว่าไม่ติดเอฟก็ถือว่าทุกคนประสบผลสำเร็จทางการศึกษาแล้วล่ะ

   อ่า... ท้องฟ้าวันนี้ปลอดโปร่งโล่งสบายดีจัง  ผมคลี่ยิ้มบาง ๆ ให้สรรพสัตว์รอบข้าง...  อ๊อ  ไม่ได้หมายถึงสัตว์โลกที่โต้เถียงกันด้านหลังนะครับ  วันวาเลนไทน์กับอากาศดี ๆ นี่ชวนให้มีความสุขเสียเหลือเกิน  ว่าแล้วก็ยืดแขนบิดขี้เกียจให้หายเมื่อยเสียหน่อย  ผมก้มมองนาฬิกาข้อมือและพบว่าพวกเขาเถียงกันมาได้เกือบสองชั่วโมงแล้ว  แย่จังแฮะ  วันนี้ผมไม่ว่างเสียด้วย

   “เรากลับก่อนนะวันนี้เรามีธุระ  พวกนายเถียงกันเสร็จก็โทรบอกด้วยละกัน” ผมคลี่ยิ้มบาง ๆ ให้เพื่อน ๆ อย่างเป็นสุข  น่าแปลกที่ทั้งห้องกลับเงียบเป็นคำตอบ  เอาเถอะ...  ยังไงวันนี้ผมก็มีนัดสำคัญมาก ๆ เลยนี่นา

   เมื่อวันก่อนผมได้เจอฟาร์แล้ว  หลังจากที่เราไม่ได้เจอหน้ากันมาร่วมอาทิตย์  จะว่าไงดีล่ะ...  ผมแกล้งเขาหนักไปหน่อยมั้ง?  หึ ๆ ๆ  ถึงนั่นจะเป็นความตั้งใจของผมก็เถอะ  เชื่อสิถ้าตอนนั้นเขาไม่ได้โกรธจนเลือดขึ้นหน้าแบบนั้น  เขาคงตั้งสติแล้วตะโกนปฏิเสธผมไปนานแล้วล่ะ  ผมก็แค่อยากเห็นเขาแสดงอารมณ์ออกมาบ้างก็เท่านั้นเอง  ไม่ได้ตั้งใจทำให้โกรธจริง ๆ เสียหน่อย  อืม... จะว่าไปเวลาเขาโกรธน่ารักดีนะ  ทำท่าจะหนีลงรถด้วย  ถ้าผมปล่อยให้ลงไปจริง ๆ แล้วแอบขับรถเขากลับบ้าน  เขาจะโกรธกว่าเดิมมั้ยนะ  เสียดายจังที่ตอนนั้นไม่ได้ทำ  ฮะ ๆ ๆ

   มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นนี่มันแย่จังครับ  แต่นั่นแหละ...  ใครว่าอาทิตย์ที่ผ่านมาผมสุขกันล่ะ?  การรอคอยคำตอบที่ไม่รู้จะมาถึงมาเมื่อไหร่นี่มันทำเอาลุ้นไม่ใช่เล่น  มีคนเคยบอกว่าผมเป็นพวกมองอะไรทะลุปรุโปร่งตลอดเวลา (คินพูดอยู่บ่อย ๆ ว่ายอมเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก  ดีกว่าเป็นกับผม  อ่า... ผมคงเป็นมิตรที่ดีที่สุดสินะครับ)  แต่ผู้ชายตัวเล็กคนนี้ทำเอาผมอ่านเกมไม่ออกเลย

   ฟาร์ชอบทำอะไรที่ขัดกันตลอดเวลา  เขาเกลียดแสงสี  เกลียดผู้คน  แต่กลับตัดผมทรงแปลก ๆ ให้ตัวเองดูเด่นขึ้นมา  เขาชอบเงียบไม่ตอบคำถาม  แต่กลับเถียงไปป์ได้ไม่หยุดปาก  เขาดูเหมือนอ่อนแอ  แต่ที่จริงสู้คน  เขาทำท่าเหมือนมีใจให้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีคำตอบอะไรคืนกลับมา  ใครว่าเขาเรียบร้อยกันล่ะ  ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจกว่าที่ตาเห็นเยอะครับ  ว่าไปก็นึกถึงตอนครั้งแรกที่เราเจอกันที่โรงอาหารวันนั้น...  เขาคงลืมไปแล้วล่ะ  ฮะ ๆ ๆ  คิดถึงใบหน้าดื้อเงียบแบบนั้นจัง

   ผมเดินลัดเลาะมาตามฟุตบาท  เอามือซุกกระเป๋าแล้วแหงนหน้ามองฟ้าไปเรื่อย ๆ  เดินจนชินไม่ต้องมองทางแล้วล่ะครับ  ที่หมายของผมก็คือลานกิจกรรมของมหาลัยที่วันนี้ดูจะคึกคักกว่าทุกวัน  เมื่อวันก่อนที่ผมแวะไปหาเขา  เลยได้รู้จากใบปลิวว่าวันนี้จะมีงานแสดงดนตรีที่ลานกิจกรรม (เขาไม่ได้แจกผมนะครับ  ผมไปแย่งมา...)  ดูท่าเขาจะหายโกรธเรื่องที่ผมพาไปขับรถวนเล่นแล้วล่ะมั้ง?  หรือไม่เขาไม่อยากพูดถึงเพราะพาลไปนึกถึงเหตุการณ์หลังจากนั้น  แล้วกลัวผมจะทวงคำตอบก็เป็นได้  ไม่รู้รึไงนะ... ที่บ้านผมสอนมารยาทในการรอมานะครับ

   ถ้าเลือกที่จะรอก็อย่าไปเร่งร้อนทวงถามคำตอบ  นั่นแหละครับ... การรอที่แท้จริง

   เสียงบทเพลงบรรเลงจากเปียโนลอยเคล้าสายลมมา  บรรดาคู่รักหลายคู่พากันจูงมือเดินหาที่นั่งสบาย ๆ และเป็นส่วนตัว (เอ... ทำไมต้องเป็นส่วนตัว  เขาจะทำอะไรกันเหรอครับ?)  ลานกิจกรรมของมหาลัยผมเป็นลานคอนกรีตกว้าง ๆ กลางแจ้ง  ตั้งอยู่ใจกลางของมหาลัยพอดี  เด็กทุกคณะจึงต้องเดินผ่านที่นี่เวลาเปลี่ยนคาบเรียนเสมอ  แต่วันนี้มันถูกตกแต่งให้แปลกตาด้วยป้ายเชิญชวนเข้างานขนาดใหญ่  ลูกโป่งรูปหัวใจสีหวานถูกประดับไว้เต็มหน้าเวทีที่ถูกยกระดับจากพื้นขึ้นมาเป็นแท่นเตี้ย ๆ  อย่างว่าแหละครับงบชมรมเขาคงน้อย  แต่งได้แค่นี้ก็เก่งแล้วครับ

   ผู้ชายที่กำลังบรรเลงเปียโนหลังนั้นส่งยิ้มกรุ้มกริ่มให้หญิงสาวที่นั่งแถวหน้าสุด...  ไม่ต้องเดากันเลยว่านั่นแฟนเขาแน่ ๆ  ผมก็เพิ่งเข้าใจวันนี้แหละ  ว่าห้วงบรรยากาศเพ้อฝันมันเป็นยังไง (เพราะแม้แต่คินกับไปป์ก็ไม่เคยทำให้ผมดูเลย)  แต่ดูเหมือนคนอื่นในงานก็ไม่ค่อยจะสนใจความเป็นไปของโลกสักเท่าไหร่  เพราะคู่รักแต่ละคู่ก็หามุมนั่งเกี้ยวกันเป็นคู่ ๆ ไป  ผมอยากจะเรียกพี่ ๆ ที่แจกถุงยางที่โรงอาหารให้มาแจกตรงนี้จังครับ  ดูน่าจะมีประโยชน์มากกว่าไปแจกตรงนั้นที่เอาไปเคี้ยวแทนหมากฝรั่งหลังทานข้าวไม่ได้นะครับ

   ผมสอดส่องสายตาแล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้แถวกลาง ๆ  นั่งอยู่ท่ามกลางคู่รักผสมคนโสดแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน  รอจนผู้ชายคนนั้นบรรเลงเพลงเสร็จทุกคนก็ปรบมือให้  แต่เขายังไม่ได้ลงจากเวที  เด็กในชมรมคนอื่น ๆ ก็กรูกันขึ้นไปยืนบนเวทีเพื่อเตรียมเล่นบทเพลงต่อไป  และในตอนนั้นแหละที่ผมเห็นฟาร์  เขาดูโดดเด่นด้วยทรงผมแปลก ๆ และส่วนสูงที่น้อยจนต้องมายืนแถวหน้าสุด  อ่า... วันนี้เขาน่ารักเหมือนกับทุกวันเลย  ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความวิตกรับกับคิ้วที่ขมวดกันเป็นปม  ดูน่าสงสาร  น่ารัก  และน่าแกล้งไปในคราวเดียว  ผมเลยลุกพรวดแล้วเดินจ้ำอ้าวไปนั่งตรงเก้าอี้แถวหน้าสุด...  ซึ่งมันตรงกับเขาเด๊ะ ๆ!

   เขาเบิกตากว้างขึ้นเมื่อมองเห็นผมส่งยิ้มอันเป็นมิตรไปให้  ดูสิ...  คงดีใจสินะ  ที่มีคนมาให้กำลังใจตอนแสดงด้วย  ทีนี้เขาคงมีสมาธิมากขึ้นแล้วล่ะ  ผมนี่เป็นคนดีจริง ๆ  ฮะ ๆ ๆ  พอผมหัวเราะเบา ๆ เขาก็ถลึงตาใส่  ดูน่ากลัวจัง...  ผมกวาดสายตาไปบนเวทีที่ตอนนี้มีนักศึกษาร่วมยี่สิบชีวิตยืนเรียงกัน  จนบางคนต้องไปยืนบนพื้น   โชคดีที่เห็ดขี้ควายของผมได้ยืนบนเวที  ทีนี้เขาจะได้สบตาผมพร้อมกับเล่นดนตรีไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้

   “ยินดีต้อนรับเข้าสู่งาน Once Upon a Love Song กาลครั้งหนึ่งในบทเพลงรักนะคะทุกคน  ขอเชิญเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่ยังเดินผ่านมาผ่านไป  มาทิ้งตูดลงนั่งได้เลยค่ะ  งานนี้จะโสด  มีคู่  หรือมีกิ๊กเราก็ไม่เกี่ยง  ขอเพียงท่านมีหูไว้ฟังบทเพลงอันไพเราะก็เชิญทางนี้ได้เลยค่ะ” พี่สาวที่พูดเก่ง ๆ คนนั้นคือพี่ก้อย  เอ็มซีซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมที่ฟาร์เคยพูดให้ฟังอยู่บ้าง  จะว่าไปวันนี้ทุกคนในชมรมต้องสวมเสื้อสีชมพูหวานแหววด้วยแฮะ  ผมไม่เคยเห็นฟาร์ใส่เสื้อสีแบบนี้มาก่อนเลย...  ใส่ขึ้นดีนะครับ  เสื้อชมพูกางเกงดำตัดกับผิวขาว ๆ ดีจัง  ในชีวิตจริงเขาน่าจะลองหาสีสันมาใส่ในชีวิตบ้างนะ

   แอร์ไทม์ของเอ็มซีราว ๆ สี่ห้านาทีผ่านไป  ต่อจากนั้นก็เป็นการบรรเลงพร้อมขับร้องจากชมรม  เพลงบรรเลงของชมรมดนตรีสากลไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิดนะครับ  เพราะนอกจากเอาบทเพลงคลาสสิกมาบรรเลงแล้ว  ทางชมรมยังมีการเล่นเพลงรักของวงดนตรีดัง ๆ  แต่นำมาปรับจังหวะให้ออกแนวบอสซ่านิด ๆ  เหมาะกับเทศกาลแห่งความรักแบบนี้เลย

   แต่ถึงจะเคยบอกไว้ว่า “ชนใดไม่มีดนตรีกาล  ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก” แต่เอา ๆ จริง...  ดนตรีมันไม่เข้าหูคนที่สันดานเป็นคนชอบกลนักอย่างผมเลย  ผมเอาแต่มองใบหน้าเล็ก ๆ นั่นที่หลับตาพริ้ม  มองนิ้วเรียว ๆ ที่บรรจงกดฟลุตด้วยจังหวะเนิบ ๆ  ยิ่งเวลาลมพัดเส้นผมมาคลอเคลียข้างแก้มนะ...  เขาน่ารักชะมัดเลย!  ผมเลยขอฟังดนตรีด้วยสายตาแทนการใช้หูแล้วกันนะครับ  ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายหน้าตานิ่ง ๆ แบบเขา  เวลาได้ทำให้สิ่งที่ตัวรักแล้วจะดูมีความสุขได้ขนาดนี้

   ผมหันไปมองคู่รักรอบ ๆ กายที่ดื่มด่ำไปกับเสียงเพลง...  บรรยากาศหวานชื่นเสียจนผมยิ้มตาม  แม้ว่าฟาร์จะยังหลับตาเป่าฟลุตเสียทุกเพลงไป  แถมยังไม่ยอมมองหน้าผมเลย  ทั้ง ๆ ที่นั่งประจันหน้ากันอยู่แท้ ๆ  หรือเขาจะยังโกรธเรื่องวันนั้นไม่หาย?  เรื่องนั้นผมเสียใจจริง ๆ  สัญญาว่าจบงานนี้ผมจะพาลูกเขาไปเติมน้ำมันให้เต็มถังเลยครับ

   ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ที่ผมเอาแต่นั่งจ้องหน้าคนคนนี้...  ผู้ชายที่ดื้อเงียบคนนี้

   “การแสดงต่อไป  เราจะส่งมือฟลุตฝีมือดีของชมรมขึ้นมาโซโล่นะคะ  ขอเสียงปรบมือให้น้องฟาร์หน่อยเร้วววว” ผู้ชายตัวเล็กคนนั้นเดินขึ้นมายืนบนเวทีด้วยความประหม่าที่แสดงออกชัดเจนทางสีหน้า  ผมเห็นพี่สาวที่ชื่อก้อยตบบ่าให้กำลังใจแล้วเดินลงมา  ทิ้งฟาร์ให้ยืนเคว้งอยู่กลางแท่นคนเดียว  เขาดูสับสนไม่รู้จะเอามือไปวางตรงไหนดี  นิ้วที่จับฟลุตไว้ก็ดุ๊กดิ๊กไปมาตลอดเวลา  ฮะ ๆ ๆ  เล่นมาตั้งหลายเพลงแล้ว  เขายังตื่นเต้นไม่เลิกเลยครับ  ฟาร์ขยับไมค์ปรับระดับให้ตรงกับฟลุตของเขา (ผมไม่อยากจะพูดว่าเพราะไมค์สูงเกินไปหรอกนะ... แต่มันคือเรื่องจริง)

   เขาพยายามกวาดสายตามองคนดูพร้อมเก้าทายทอยแก้เก้อ “ผะ... ผมขอฝากเพลงนี้... ด้วยครับ” เขาจรดฟลุตแนบริมฝีปาก  แล้วเริ่มต้นขับขานเสียงเพลงออกมา...
   
   http://www.youtube.com/v/j4DIhIBfM_U?version=3&amp;hl=en_US&amp;rel=0
   
   ใคร... อาจจะไม่เข้าใจ
   ว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นมันเป็นเช่นไร
   และใคร... อาจจะเข้าใจผิด
   และคงคิดไป
   และคงเข้าใจตามที่เห็น


   แน่นอนว่าเขายังคงหลับตาปี๋อยู่ในโลกดนตรีของเขา...  เขาจะฝากเพลงนี้ให้คนหลังเปลือกตาเขารึไงกันนะ

   คง... มีเพียงเราสองคน
   ท่ามกลางหมู่ดาวมากมาย ที่รู้กันในใจ
   มันจำเป็นด้วยหรือ ที่ต้องอยู่ในกฎเกณฑ์
   ที่ใครบางคนกำหนด ว่ารักเป็นอย่างไร


   ฟาร์ค่อย ๆ เปิดเปลือกตาของเขาขึ้น  และมันก็สบเข้ากับสายตาผมพอดี  วินาทีนั้นเขายิ้มตอบผมด้วยแววตา  แล้วหัวใจของผมก็เต้นแรงขึ้น...

   ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน
   ไม่อาจหาคำคำไหนมาเพื่ออธิบาย
   ไม่ต้องรักเหมือนคนรัก ก็สุขหัวใจ
   เพียงแค่เราเข้าใจ ก็เหนือคำอื่นใดในโลกนี้

   เสียงบรรเลงฟลุตครั้งนี้หวานบาดหูผมเกินกว่าครั้งไหนที่เคยได้ยินมา  ดวงตากลมโตนั้นจับจ้องมาที่ผมเหมือนต้องการจะสื่อความในใจออกมา...

   เรา... อาจจะแยกกันอยู่
   ไม่นอนด้วยกันทุกคืนทุกวัน อย่างคู่ใคร
   อย่างน้อย... มีเธอที่เข้าใจ
   แม้จะไม่มีผู้ใดเข้าใจความรักนี้


   ผมยิ้มตอบเขาแล้วเริ่มขยับปากตามท่วงทำนองนั้น...

   คง... มีเพียงเราสองคน
   ท่ามกลางหมู่ดาวมากมาย ที่รู้กันในใจ
   มันจำเป็นด้วยหรือ ที่ต้องอยู่ในกฎเกณฑ์
   ที่ใครบางคนกำหนด ว่ารักเป็นอย่างไร

   ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน
   ไม่อาจหาคำคำไหนมาเพื่ออธิบาย
   ไม่ต้องรักเหมือนคนรัก ก็สุขหัวใจ
   เพียงแค่เราเข้าใจ ก็เหนือคำอื่นใดในโลกนี้


   ผมเฝ้ามองสีหน้าที่มีชีวิตชีวาของเขาแล้วแทบลืมหายใจ...  เขาดูมีความสุขกับเสียงเพลงจนยิ้มออกมาในแววตา  อ่า...  ผมกำลังจะคลั่งแล้ว....

   ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน
   ไม่อาจหาคำคำไหนมาเพื่ออธิบาย
   ไม่ต้องรักเหมือนคนรัก ก็สุขหัวใจ
   เพียงแค่เราเข้าใจ ก็เหนือคำอื่นใดในโลกนี้


   นิ้วเรียว ๆ กดลงบนปุ่มช้า ๆ  ก่อนจะจบบทเพลงที่หวานที่สุดในชีวิตของผม....

   ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ผมได้แต่ปรบมืออยู่อย่างนั้น  บทเพลงนี้มันไพเราะควรค่าแก่การปรบมือให้กระดูกนิ้วแตกละเอียดเลยล่ะครับ  พอจบเพลงปุ๊บ  ฟาร์ก็หันกลับไปก้มหน้าก้มตาเหมือนเดิม  แต่ข้างแก้มของเขาขึ้นสีเรื่อ ๆ ด้วยความเขินอาย  ดูแล้วน่าเอ็นดูเสียจริง ๆ  ผมเห็นมือที่ถือฟลุตขยับไปมาเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงเหมือนคนทำอะไรไม่ถูกนั่น  แล้วอยากจะแกล้งชะมัดเลย  ไม่สิ  อยากดึงเข้ามาฟัดให้หายมันเขี้ยวเลยล่ะ  ฮะ ๆ ๆ  แต่ถ้าผมแสดงอาการมากไปกว่านี้  เขาอาจจะหวดฟลุตใส่หน้าผมแทนก็ได้ครับ  เห็นแบบนี้เขาโหดเงียบนะ

   รอจนพี่ก้อยขึ้นมารับช่วงต่อ  เด็กน้อยคนนั้นถึงได้วิ่งลงมาเหมือนกลัวอะไรสักอย่าง  ผมเห็นฟาร์พยายามมุดเข้าไปในกลุ่มเพื่อนแล้วก็ขำออกมาเบา ๆ  ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินอ้อมไปด้านหลังทันที  จุดประสงค์ของผมไม่ใช่มาฟังเพลงอยู่แล้วนี่ครับ...

   “เพลงเพราะดีนะครับ” ผู้ชายตัวเล็กที่ยืนคุยกับเพื่อนสะดุ้งเฮือก  เขาไม่หันกลับมามองหน้าผมด้วยซ้ำ...  เห็นแต่ใบหูเล็กๆที่แดงเรื่อ
   “......” เขาเงียบ  มือที่กำท่อนเหล็กนั่นสั่นนิด ๆ  จนผมแอบสงสัยว่าเขาจะหวดผมหัวแตกมั้ยนะ?  เอาเลือดบ้าออกหน่อยก็น่าจะดีเหมือนกันนะ  ฮะ ๆ
   “ฟาร์ครับ” ผมกระตุกแขนเสื้อเขาเบา ๆ “เมื่อกี้...  เป็นคำตอบสำหรับคำถามของผมหรือเปล่า?”
   “......”

   ไม่รู้ทำไมบรรยากาศเงียบคราวนี้มันถึงทำให้หัวใจผมพองโตนักนะ...  ผมยกมือซ้ายขึ้นทาบหน้าอกตัวเอง  สัมผัสถึงก้อนเนื้อด้านในที่เต้นแรงขึ้น ๆ  ใครว่าผมไม่ปกติกันล่ะ  ผมใจเต้นเป็นนะครับ...  พอเห็นเขาไม่ตอบแบบนี้  ผมก็เลยจับบ่าเขาแล้วพลิกตัวให้มาเผชิญหน้ากันจัง ๆ  ซึ่งก็อย่างที่คาดไว้  เขาเอาแต่ก้มหน้าเหมือนพร้อมจะเป็นลมลงไปตรงนั้น  ผมเอียงคอแล้วก้มลงไปเพื่อส่องใบหน้านั้นใกล้ ๆ  แต่เขาก็เบี่ยงคอหลบ  อืม... ดื้อเงียบจริง ๆ เลย  แต่แบบนี้แหละถึงได้น่ารักไง

   “ฟาร์ครับ...”
   “.........” ริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากัน  อยู่ต่อหน้าผมเขาดูทรมานยังไงชอบกลนะ  แต่เอาเถอะ...  ผมชอบครับ
   “ฟาร์...”
   “อะ...  อะไรเล่า...”
   “เพลงเมื่อกี้...”
   “ของมึง!” เขาตัดบทด้วยสีหน้าแดงเรื่อ “พะ... เพลงเมื่อกี้น่ะ  ของมึง...

   บ้าไปแล้ว!  ผมต้องหูฝาดไปแล้วแน่ ๆ  ฟาร์คนนั้น...  คนที่ผมเอาแต่รอมาตลอด  เล่นเพลงรักให้ผมงั้นเหรอ...  บ้าไปแล้ว...  บ้าไปแล้ว  ผมต้องฝันไปแน่ ๆ เลย  หัวใจผมเต้นแรงขึ้นอย่างต้านทานไม่อยู่...  เขาจะฆ่าผมให้ตายตรงนี้เลยรึไงนะ...  ให้ตายเหอะ!  ผมไม่เคยอ่านเกมเขาออกเลยจริง ๆ

   “ครับ... ขอบคุณครับ” อ่า... ไม่รู้ว่าตอนนี้ผมยิ้มกว้างขนาดไหนนะ “เงยหน้าขึ้นมาหน่อยครับ”
   “.....” เมื่อเขายังยืนยันแบบนั้น  ผมเลยต้องขืนใจเชยคางมนขึ้นมาให้ยอมสบตากับผม  ฟาร์เลือกที่จะเงยหน้าแต่ตามองมาที่คางผมแทน  ดื้อจริง ๆ แฮะ...
   “คำตอบก็คือ...?”
   “ไม่ต้องรู้ว่าคบกันแบบไหน...” เขาก้มหน้าพึมพำ “ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องนิยามมัน”

   นั่นสินะ...  ความรู้สึกของเราไม่ได้ถูกนิยามด้วยคำคำเดียวเสียหน่อย...

   เท่านั้นแหละครับไม่ต้องรอให้พูดจบดี  ผมก็รวบตัวเขาเข้ามากอดเลย...  นี่เป็นครั้งแรกที่เรากอดกัน  และเป็นการกอดท่ามกลางนักศึกษาจำนวนมาก  โชคดีที่ทุกคนเอาแต่สนใจกับคู่ของตัวเองมากกว่าจะดูคนอื่น  ผมซบหน้าลงบนบ่าเล็ก ๆ นั้น  สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ  กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเขาทำให้ผมคลี่ยิ้มอย่างเคลิบเคลิ้ม...  ตัวเขาเล็กมากแม้ว่าผมจะไม่ได้สูงอะไรมากมาย  แต่ก็โอบเขาได้มิดเลย

   “ฮะ ๆ ๆ  เหมือนฝันเลยนะครับ”
   “เมายาอยู่รึไงล่ะ”
   “เมาเห็ดครับ” เดาได้เลยว่าตอนนี้เขาอยากจะเตะก้านคอผมเสียเต็มประดา...  ผมไม่เครียดครับ  ผมมั่นใจว่าเขาเตะไม่ถึง
   “เฮ้อออออ  นี่กูเลือกทางถูกแล้วใช่มั้ยเนี่ย” ฟาร์บ่นอู้อี้กับบ่าของผม  ผมเลยยกมือขึ้นลูบหัวเขาเบา ๆ
   “ให้เวลามันพิสูจน์เถอะครับ  ว่าฟาร์เลือกไม่ผิด” ผมไม่ได้หลงตัวเอง  ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่แสนดีอะไรแบบนั้น  แม้ว่าบ้านผมจะสอนมาดี  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความดีของผมจะทำร้ายคนอื่นไม่ได้นี่นา...

   ผมโยกตัวไปมาโดยมีเขาอยู่ในอ้อมกอด  ตัวเขาเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร  ยอมให้ผมกอดไว้แต่โดยดี...  น่ารักจริง ๆ  อย่าหาว่าผมใช้คำซ้ำเยอะเลยครับ  แต่นี่มันน่ารักจริง ๆ

   “ปะ... ปล่อยได้แล้วมั้ง...” ว้า... กอดนานก็ไม่ได้อีก  แต่ผมก็ยอมผละออกมาแต่โดยดี  เพราะอยากจะดูหน้าแดง ๆ ของเขามากกว่า
   “ไม่เป็นไรครับ  คราวหน้าค่อยกอดกันใหม่ก็ได้เนอะ”
   “......” ไม่ยอมตอบผมอีกแล้ว... น่าลงโทษซะจริง ๆ  เขาทำตัวน่ามันเขี้ยวจนผมต้องขยี้หัวเขาเบา ๆ  เส้นผมเล็ก ๆ นั่นเลยชี้ฟูไม่เป็นทรง  เขาส่งสายตาไม่พอใจมาให้  แต่ก็ยืนจัดผมตัวเองเงียบ ๆ  ผมชอบเวลาคิ้วเล็ก ๆ นั่นขมวดเข้าหากันเวลาใช้ความคิด  เขาทำหน้าเครียดแล้วตลกดีครับ  ฮะ ๆ ๆ

   “หัวเราะอะไร...”
   “ตลกคนทำหน้าเหวี่ยงครับ  ทำบ่อย ๆ นะครับ  ผมชอบดู”
   “โรคจิต...” เขาชี้หน้าด่า  โอเค... ผมไม่เถียงครับ “แล้วก็ไม่ต้องกระแดะมาพูดเพราะเลยนะ  มัน...”
   ผมยิ้มบาง ๆ ให้เขา... “เหี้ย

   เขาช็อกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ  ฟาร์ถึงกับหน้าเหวอเพราะโดนผมด่าไปชัด ๆ เน้น ๆ  ไม่คิดล่ะสิว่าผมจะด่าเป็น  ผมกระตุกยิ้มมุมปากแบบที่เลียนแบบมาจากเพื่อนคนนึง  เพราะที่บ้านสอนมาว่ายิ้มแบบนี้ไม่สุภาพ

   “น่ารักเหี้ย ๆ เลยครับ
   อ้าวนั่น...  ตะลึงไปเลยครับ  ช่วยไม่ได้แฮะ  ใครใช้ให้ทำตัวน่าแกล้งแบบนี้ล่ะ? 

   ความผิดฟาร์เองนะครับ


TBC


หวานแหววล่ะซี่ ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววว
ขอเชิญเอฟซีลูกเมียน้อยออกมารำวง เพราะตอนหน้าเราจะลดบทลูกเมียน้อยแล้ว จะมาแย่งซีนพี่คินขาของคนเขียนมิได้ หึหึหึ

ตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายแล้วนะคะ.....ตอนสุดท้ายของชีวิตคนเขียนก่อนจะไปตายในสนามรบ
ขอส่งใบลาไปสอบตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่12มีนาคม2555 (สอบนานมาก อย่าให้รู้นะว่าบ้านคนจัดตารางสอบอยู่ที่ไหน แม่จะไปเผาซะ.....)
ดังนั้นจะไม่ได้มาอัพอีกสักพักใหญ่ๆนะคะ ถ้าหายไปไม่ต้องตกใจเพราะคงสิ้นชีพอยู่ใต้กองหนังสือ  ถ้ามีอะไรอยากทวงถาม แต่ห้ามทวงนิยายนะ555 เชิญในแฟนเพจค่ะ(เอ๊ะ...ยังไง)

PS.รอดตายเมื่อไหร่ลูกเมียหลวงจะกลับมา.....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2016 16:51:36 โดย Indigo »

wolfram

  • บุคคลทั่วไป
 :z13:

น่ารักจัง!!  :o8:

คู่นี้จะโดนลดบทแล้ว...ไม่เป็นไร คู่ไหนเราก็ชอบ!! :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2012 22:21:10 โดย wolfram »

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
กำลังรออยู่พอดีเลย
ยาวสะใจจริงๆ ชอบคู่เน้  :impress2:

เดี๋ยวกลับมาอีดิท

คุณคนเขียนลืมเปลี่ยนหัวข้อหรือปล่าวจ๊ะ??
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
อีดิท
แหวนแบบแปลกๆนะ
น้องฟาร์ เข้าใจหาคำตอบ ตอบแบบนี้ก็ไม่ผิดสัญญากับน้อง ยอดชายนายอาร์ทก็ไม่หนีหายอีกด้วย(เชื่อว่าต่อให้ไล่มันก็คงไม่ไป)
ไม่รู้จะสงสารหรือดีใจกับฟาร์ดีนะ ที่ไปตกหลุมชายอาร์ทเข้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2012 04:46:00 โดย 2pmui »

ออฟไลน์ ณยฎา

  • ขอเพียงมีเธออยู่คู่ฉัน แม้นหลับก็มิฝันถึงสิ่งใด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-3
  :a5: หวานแบบแปลกๆอ่ะ

ออฟไลน์ P.PAN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เป็นแฟนเอ๊ยยยไม่ใช่สิ ไม่มีคำนิยามสินะสำหรับคู่นี้
ตอนนี้อาร์ทดูเป็นผู้เป็นคนสุดละ 5555555555555

แอบเสียดานที่ลูกเมียน้อยจะโดนลดบทบาทซะแล้ว
แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยก็ลงเอยกันด้วยดีแล้ว หุหุหุหุ
อ่านนตอนนี้ละเขินซะยิ่งกว่า!!! โฮกกก ก   :o8:

ออฟไลน์ maminto

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
5555555555555555555555555555

น่ารักมากกกกกก
อ่านแล้วเขินนนน
จะหวานไปไหน งื๊ดๆ ><

ปลล.อาร์ทดูจิตจริงๆอ่ะ !
ที่บ้านสอนนนน ~ สิ่นะ !
555555 5


ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33
เกลียดไอ้บ้านี่โว้ยยยยยยยยยยยยยยย :m31: :m31: :m31: :m31:

ออฟไลน์ Youch06

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
มาดึกจังเลยน้าาา  5555
คู่นี้เป็นอะไรที่ฮาอ้ะ  ฮาแบบน่าหยิก
น่ากลัวด้วย  น้องหนูดีนั่นง่ะ
กรั่กๆๆๆๆ

gonna.be

  • บุคคลทั่วไป
มาดึกมาก
เเต่เราก็ยังมาดึกกว่า  :laugh:
สอบพร้อมกันเลยค่ะ ยาวนานที่สุด  :sad4: :z3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2012 02:48:45 โดย gonna.be »

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
อัยย่ะ แม่ยกออกมารำเซิ้งค่ะ กรี๊ดดดดดร้องงงงงงง  :impress2:
ละลายเหลวอยู่หน้าคอม ตอนนี้ทำไมมันน่ารักกกกกกอย่างงี้
+1  :กอด1:

โชคเอ นะคะน้องคนแต่ง  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
เอาเป็ดไปเลย !!  o13

โทษฐานทำคนอ่านเสียสติไปแล้ว ไชโยกับอาร์ทด้วย  :a2:

ออฟไลน์ papa_paolo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
กรี๊สไปสามโลก ห้องพิเศษไอ้โรคจิตอาทขา ในที่สุดก็มา
น้องเห็ดน่ารักแล้วนะ แต่ไอ้คนเมาเห็ดน่ารักมากกว่าา ฮิ้ววว :o8: :-[ :impress2:

ออฟไลน์ londoneye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดแอบเข้ามาต่อเค้า 

ตอนแรกเข้ามาย่องดูแล้วไม่เห็น

ดีนะที่เข้ามาย่อง  ส่องดูอีกรอบเลยเจอ :impress3:



ลูกเมียน้อยคู่นี้นี่....อ่านแล้ว :-[

ทำไงดีอ่า  หุบยิ้มไม่ได้เลย

แล้วที่เรียกฟาร์ว่า.....เห็ดขี้ควายของผมเนี่ย....

แสดงให้เห็นว่านายอาร์ทรักหนูฟาร์มากเลยนะเนี่ย

แต่ที่เด็ดสุดก็ไอ้ประโยคสุดท้ายนี่ล่ะ o13


"น่ารักเหี้ยๆ"

ทำไมเค้าอ่านแล้วอยากระเบิดตัวเองชะมัด :z1:

เป็นกำลังใจให้นะค้า....รอตอนต่อไปอยู่เน้อ :กอด1: :L2:


ออฟไลน์ หอยทาก

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
คนเมาเห็ด  !!
อ่านแล้วอยากกินเห็ดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
 5555+

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
อาร์ทเอ็งแนวมากฟร่ะ  ข้ารักเอ็งว่ะ

ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
5555555 waan baeb here here na khaaa...

ออฟไลน์ BitterSweet~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 788
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0
“น่ารักเหี้ย ๆ เลยครับ”

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น่ารักเหี้ย ๆ
เห็นด้วยกับรีบนว่าตอนนี้อาร์ทดูเป็นผู้เป็นคนที่สุดแล้ว
ฟาร์น่าร๊ากกกก
เนอะ ไม่ต้องรู้ว่าเรารักกันแบบไหน
แค่ที่เป็นอยู่ เข้าใจกัน
พอแล้วเนอะ ฟาร์ ^^

ตอนหน้าเป็นคินไปป์ใช่ไหมคะ
รอน๊า..

คนเขียนจะสอบ
ขอให้ทำข้อสอบได้นะคะ
เก็ทเอด้วยเน้อ  :กอด1:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :laugh: ไอคู่นี้มันหวานแบบฮาๆดีเฟร้ยยย  :o8: แต่ก็น่ะ ในที่สุดเค้าก็สารภาพกันแล้ว


ส่วนคนเขียนก็สู้ๆ ขอจงรอดกลับมา ขอพลังจงอยู่กับท่าน  :a1:

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
คิดถึงไปป์

ออฟไลน์ evilheart

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-3
น้องไกลกับน้องใกล้ (ถูกป่ะ) เป็นพี่น้องที่รักกันฮามาก
อาร์ทเป็นคนที่เข้าใจพฤติกรรมของน้องไกลดีมาก ดีจนคิดว่ามีหนูดีอยู่ด้วยจริงๆ  :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด