#พิเศษ : เอาใจ
แม้ว่าทุกวันนี้ผมจะมีความสุขมาก แต่ลึกๆ แล้วผมรู้สึกผิดต่อชาร์ล แม้ว่าตอนอยู่ในบ้านหรือสถานที่ที่เป็นส่วนตัว ผมสามารถอ้อนเขาได้โดยไม่มีขีดจำกัดก็ตามที แต่ในยามที่เราสามคนออกไปข้างนอก พี่สามารถเดินจับมือผมได้อย่างเปิดเผย ในขณะที่ชาร์ลเดินอยู่ข้างๆ ผมมีความสุข และผมอยากให้ทุกคนมีความสุขเท่าๆ กัน
ผมเคยลองเอื้อมมือไปคล้องแขนชาร์ลในขณะที่พี่ยังจับมือผมเอาไว้ เขาหยุดชะงักหันไปมองหน้าพี่ เราสามคนเลยต้องหยุดเดินก่อนที่ผมจะค่อยๆ คลายแขนออกแล้วหันไปซบตัวกับแขนพี่แทน เราสามคนไม่มีใครพูดอะไรต่อจากนั้น
...มันอาจจะไม่เหมาะสมก็ได้ ผมคิดเอาเองในใจ…..
ตั้งแต่ตกลงอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ บ้านก็มีแต่ความสุข อีธานอดนึกเสียดายไม่ได้ว่าทำไมไม่คุยกับพ่อดีๆ ก่อนหน้านั้น แต่ก็อย่างว่า เรื่องบ้างเรื่องถ้าไม่ได้เรียนรู้เราก็จะไม่จดจำ
และพอได้ไฟเขียวจากมารีน่า คราวนี้อีธานก็แทบจะพาน้องติดตัวไปทุกที่ก็ว่าได้ เคยถามว่าน้องเบื่อไหม...จำตัวคลี่ยิ้มจนตาหยีแล้วส่ายหน้า ถ้าน้องมีความสุขจะเอาอะไรก็ได้
“รอที่ห้องพ่อก่อนนะ พี่ต้องประชุมก่อน เสร็จแล้วกลับบ้านพร้อมกัน” อีธานบอกพร้อมกับจุ๊บหน้าผากไปหนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยว หันไปมองพ่อตัวเองแล้วส่งสายตาเป็นนัยมาทางน้อง
ก็ระยะหลังมานี่ น้องดูซึมไป ถามหาสาเหตุเจ้าตัวก็คงไม่บอกง่ายๆ การทำตัวให้ทุกคนพอใจคงเป็นนิสัยติดตัวที่แก้ได้ยากไปแล้วสำหรับน้อง การไม่พูดอะไรเลยก็เหมือนกัน อีธานไม่อยากให้มันก่อให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก ถึงได้หาโอกาสให้พ่อช่วย นั่นเพราะรู้ตัวเองว่าเป็นคนใจร้อนอดทนรออะไรได้ไม่นาน กลัวอารมณ์ตัวเองจะทำให้พลาดพลั้งขึ้นมา แล้วรอบนี้จะโดนพ่อด่าเป็นสองเท่าด้วย
ชาร์ลพยักหน้าตอบลูกชายสบตากันราวกับอ่านใจกันได้ ในขณะที่อีกคนยังคงก้มหน้ากอดไอแพดในมือ จนกระทั่งอีธานเดินออกจากห้องไป
“อาลัน มานี่มา” ชาร์ลเอ่ยเรียกเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวยังคงยืนนิ่ง
ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา ทุกคนต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
อาลันเป็นเด็กที่ไวต่อความรู้สึกคนรอบข้าง และชาร์ลก็เป็นพวกช่างสังเกตความรู้สึกคน แม้อารมณ์เพียงเล็กน้อยก็ตาม
เมื่อเจ้าตัวเดินเข้ามาใกล้ ชาร์ลก็ยื่นมือไปรั้งเข้าตัวเข้ามากอด
“อ๊ะ..ชาร์ล..” อาลันตกใจเมื่อถูกยกตัวขึ้นไปนั่งซ้อนบนตักกว้าง ชาร์ลสอดแขนกอดเอวผอมเอาไว้หลวมๆ ก่อนวางคางลงบนไหล่เล็ก เจ้าตัวเกร็งขืนตัวอยู่ในอ้อมแขนไม่ยอมเอนตัวพิงลงมา
“ไม่ชอบให้ฉันกอดหรือ? ”
“มะ..ไม่ใช่ครับ” อาลันตอบคำถามแทบจะทันที
“อาลัน...” ชาร์ลเรียก และรอคอย เจ้าตัวยังคงก้มหน้านิ่ง ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน
“อ๊ะ…! ” พอหันหน้าไปตามเสียงเรียก ชาร์ลที่รออยู่แล้วก็จูบตรงริมฝีปากบาง รอยยิ้มอบอุ่นของชาร์ลส่งผลให้อาลันหน้าแดง ก่อนจะเอนตัวพิงอกกว้างเพื่อซ่อนใบหน้าที่ร้อนผ่าว
ชาร์ลหัวเราะชอบใจ อย่างน้อยอาลันก็ยังเป็นแมวน้อยขี้อ้อนคนเดิม ยอมให้กอดและนั่งซบอยู่บนตักอย่างงั้น ในขณะที่มือชาร์ลก็ยังคงตรวจเซ็นเอกสาร พูดคุยกันในเรื่องต่างๆ จนเมื่ออีธานกลับมาน้องก็ยังคงนั่งอยู่บนตักไม่มีอะไรผิดแปลกไปจากอาลันคนเดิม ยอมให้อีธานเดินเข้ามาหอมแก้มคลอเคลียในขณะที่ยังอยู่ในอ้อมกอดชาร์ล
จนชาร์ลเสร็จงาน ทั้งสามคนจึงตกลงว่าจะออกไปหาอะไรทานกันก่อนกลับบ้าน
นั่นแหละคนช่างสังเกตอย่างชาร์ลถึงได้รู้ถึงความผิดปกติ น้องจะระวังทุกการเคลื่อนไหวตั้งแต่ก้าวออกจากห้อง เช่นการเดินเกาะแขนเบียดตัวไปกับอีธาน ระวังที่จะไม่สัมผัสโดนตัวชาร์ล แม้กระทั่งตอนที่ชาร์ลตักอาหารให้ น้องยังดูหวาดระแวงมองไปรอบๆ โดยไม่รู้ตัว เหมือนแววตาคู่นั้นจะคอยระวังสายตาคนรอบข้างอยู่ตลอดเวลา สลับกันถ้าเป็นการดูแลจากอีธานน้องจะผ่อนคลายกว่ามาก
ชาร์ลและอีธานหันมาสบตากันราวกับรู้ถึงความคิดกันและกัน สายตาอีธานคือเห็นใจคนเป็นพ่อ ส่วนชาร์ลรู้สึกเจ็บลึกๆ ในอก กับความผิดแปลกนี้
“อาลัน เรามีเรื่องต้องคุยกัน”ชาร์ลพูดขึ้นเมื่อพวกเราสามคนถึงบ้าน อาลันมีสีหน้าตกใจด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังของคนพูด และช่วยไม่ได้ที่น้องจะหันไปมองหาอีธานราวกับขอความช่วยเหลือ
“พี่...จะอยู่ใกล้ๆ นี่แหละนะ” อีธานไม่ได้เดินเข้ามากอดปลอบและก้มลงจูบที่หน้าผากด้วยเพราะเห็นสีหน้ากังวลของน้อง แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางที่พ่อจะทำอะไรที่เป็นการทำร้ายน้องโดยเด็ดขาด แต่ในใจก็รู้สึกหนักอึ้งไม่ต่าง ด้วยสีหน้าแววตาเศร้าหมองของพ่อส่งผลต่ออีธานเช่นกัน
“อาลัน..” น้องไม่ได้ดิ้นหรือขัดขืนตอนที่ชาร์ลเดินเข้ามารวบตัวไปกอด ไม่ได้สะดุ้งหรือระแวดระวังเหมือนตอนอยู่ในร้านอาหาร แววตาคู่นั้นที่มองกลับมามีแววสับสน
“ชาร์ล…? ” อ้อมแขนเล็กโอบกอดตอบอย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ
ชาร์ลคลายอ้อมแขนแล้วจูงมือน้องไปยังโซฟา เจ้าตัวเดินตามมาแต่โดยดี ไม่มีขัดขืนตอนที่นั่งลงแล้วรั้งลงไปนั่งซ้อนกันบนตัก ชาร์ลไม่ได้พูดอะไรต่อเพียงแต่รั้งใบหน้าอาลันให้หันมามองสบตากันนิ่ง ปลายนิ้วแตะสัมผัสแก้มเนียนเบาๆ ไม่มีแววรังเกียจในดวงตาคู่สวย จนกระทั่งใบหน้าถูกรั้งเข้ามาจูบอาลันก็ไม่ได้ขัดขืน ยังคงตอบรับ และเรียกร้องอย่างไร้เดียงสาเช่นเคย ใบหน้าขาวแดงเรื่อเขินอาย กลายเป็นชาร์ลเองที่ไม่เข้าใจ
“เธอกำลังทำให้ฉันสับสน” ชาร์ลบอกออกมาตามตรง และคนถูกต่อว่าก็มีสีหน้างุนงงมองตอบกลับมาอย่างไม่เข้าใจ
“ฉันคิดว่าเธอรังเกียจฉัน” น้องทำตาโตแล้วส่ายหน้ารัว
“ไม่ใช่...ไม่ใช่แบบนั้น..” พอรู้สึกว่าทำให้อีกฝ่ายไม่สบายใจขึ้นมา สีหน้าอาลันก็สลดวูบขอบตาเริ่มแดงขึ้นมาทันที ความคิดว่า ‘รังเกียจ’ ไม่เคยอยู่ในเศษเสี้ยวความรู้สึกเลยสักนิด
“แล้วเป็นแบบไหน ช่วยอธิบายให้ฉันเข้าใจหน่อยได้ไหม” น้ำเสียงของชาร์ลยังคงอ่อนโยน นั่นยิ่งทำให้คนฟังรู้สึกอยากจะสะอื้นออกมาแล้วโผกอดแน่นๆ
“ฉันทำอะไรให้เธอรู้สึกไม่ดีรึเปล่า”
อาลันทำตาโต ส่ายหน้ารัว ไม่มีอะไรที่ชาร์ลทำให้แล้วไม่ดี ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับมาคือดีที่สุดเท่าที่เคยได้ ทั้งการดูแลเอาใจใส่ และความรักที่ชาร์ลมอบให้
...แค่อยากตอบแทนกลับให้ได้สักเสี้ยวหนึ่งที่ได้รับมา
ชาร์ลต้องรู้สึกแย่แค่ไหน อาลันไม่เคยรู้ตัวเลย เพียงแต่คิดเอาเองว่า กลัวชาร์ลจะเดือดร้อน กลัวคนอื่นๆ จะมองชาร์ลไม่ดี กลัวว่าชาร์ลจะโดนตำหนิ ความคิดเหล่านั้นทำให้เกิดความหวาดระแวงและแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว...ทั้งๆ ที่รักมาก
ชาร์ลกอดปลอบลูกแมวน้อยที่ซบอยู่กับอกเบาๆ และเมื่อเห็นว่าน้องร้องไห้ออกมาอีธานก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ ด้วยความเป็นห่วง
“ผะ..ผม..ผมแค่คิดว่าชาร์ลจะลำบาก ถ้า..ถ้าผมแสดงออกว่ารักชาร์ลออกมาตอนอยู่ข้างนอก อึก..! ” ไม่มีทางเลยที่จะรังเกียจไม่มีเลย ...มีแต่อยากจะรัก แต่อาลันไม่ใช่คนที่จะมีประสบการณ์การใช้ชีวิตในสังคมและสายตาคนรอบข้างมากมายนัก การแสดงออกมามันก็เลยกลายเป็นตรงกันข้าม
สองพ่อลูกหันไปมองหน้าสบตากันแล้วต่างถอนหายใจออกมาเบาๆ
อาลันยื่นมือมาให้อีธานที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ขณะที่ยังนั่งซบอกอยู่บนตักชาร์ล
“แต่ว่า...เวลาอยู่ข้างนอกผมอ้อนพี่ได้ แต่ชาร์ลเหมือนถูกทิ้งไว้คนเดียว ผมแค่… แค่อยากให้ชาร์ลมีความสุขด้วย...ผม...ผม...ขอโทษ” อาลันสะอื้นหนักแล้วคราวนี้ อีธานเลยเอื้อมมือมาปาดน้ำตาที่นองหน้าออกให้
คราวนี้ชาร์ลและอีธานถึงได้เข้าใจเสียที...อาลันเป็นเด็กดีเกินไป
น้องแค่อยาก
‘เอาใจ’ ทุกคนอย่างเท่าเทียม
ในอกที่หนักหน่วงกลายเป็นฟองฟูเมื่อเข้าใจ ชาร์ลถึงกับกระตุกยิ้มออกมา กระชับอ้อมแขนกอดแน่นขึ้น นับจากนี้ต่อไปคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีอาลัน เจ้าแมวขี้อ้อนตัวน้อยๆ แต่กลับมอบความรักที่ยิ่งใหญ่ได้มากมายขนาดนี้
“เด็กโง่...ไม่จำเป็นเลย ฉันมีความสุขมากที่เธอรักฉัน มีความสุขมากๆ ” ชาร์ลยืนยันคำพูดด้วยการฟัดจูบหอมแก้มคนในอ้อมแขนไม่หยุด
“อ่า...อิจฉาพ่อจัง”และอีธานก็ทำลายบรรยากาศหวานซึ่งพังลงในพริบตา คนที่กำลังจะร้องไห้กลายเป็นหัวเราะออกมาทั้งน้ำตาแทน
“ผมก็รักพี่ด้วยนี่….อื้อ..”
คำบอกรักของอาลันถูกให้รางวัลด้วยการจูบดูดดื่มจากอีธาน
“ฉันคงอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีเธอ..อาลัน..” ชาร์ลบอกพร้อมกับกอดและหอมแก้มใสอีกครั้ง
“พี่ก็เหมือนกัน” อีธานบอกต่อบ้าง อย่างเอาใจ
ทั้งสองคนนิ่งเงียบ จ้องมองคนที่อยู่ตรงกลาง ราวกับรอคอย
“ผมก็เหมือนกัน” อาลันตอบอย่างเขินอาย ซบหน้าไปกับอกกว้างของชาร์ลแต่ก็ยังไม่ปล่อยมืออีธาน
และเมื่ออีธานโน้มตัวลงมาจูบอีกครั้ง
ค่ำคืนแห่งการบอกรักกัน...ก็เพิ่งเริ่มต้นขึ้น...*****************
#Talk
ตอนพิเศษเอาใจทุกคน #เหม็นฟามรัก 55555555
ก็ยังคิดถึงน้องเรื่อยๆ ก็จะผลิตตอนพิเศษออกมาเรื่อยๆ แต่จะผิดกฎเว็บไหม
ไม่อยากให้ทุกคนลืมน้อง อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ >..< (หรือเราควรเปิดภาค #พิเศษ กันละ)
ปล.อาจจะไม่ได้ตอบทุกเม้นท์ แต่อ่านทุกเม้นท์จริงๆ นะ #มันดีต่อใจมากๆ
ขอบคุณทุกคนที่หลงเข้ามาอ่าน ดีใจที่ชอบกัน
กดเข้ามาอ่านแบบคนใจบาปแท้ๆ
แล้วก้หยุดไม่อยู่ อ่านรวดเดียวเลย เขียนได้ดีค่ะ สำนวนภาษา สะเทือนใจจนฯ้ำตาซึม สงสารน้องจับหัวใจ
ชอบตอนน้องอยู่ด้วยพี่และชาร์ลน่ารักมากๆ มีความลงตัวทั้งสามคน
nc ดีมากกกก ไม่มากไม่น้อยแต่สื่ออารมณ์ได้เต็มๆ แอบบอกว่าคาดหวังเล็กๆตอนครั้งแรกกับชาร์ล แต่เกินคาดทำเอา...ฮืออออ ไม่ไหวกับใจ
ยังไม่อยากให้จบเลย แต่ตอนพิเศษ เป็นแบบ #อาหารตามสั่ง ขอแบบน้องหึงชาร์ล งอลพี่ แล้วดื้อขั้นสุดในแบบของน้องอีกได้ไหมค่ะ สองพ่อลูกคงหัวปั่นน่าดู
ขอบคุณนะคะ เป็นนิยายที่ทำให้คนใจบาป ร้องไห้ กรี๊ดร้องงงง ใจสั่นระรัว แงงง
และยิ้มขำไปพร้อมกันๆ ส่วนมากจะฮาอิพี่ ที่ออกอาการผีบ้าจนน่าตบ แต่ก็รักน้องเวอร์
ขอบคุณมาก #เจ้าคนใจบาปทั้งหลาย
รีเควสตามสั่งตอนนี้มีดังนี้
ทำน้องแรงๆ > ชาร์ลหึง > น้องหึง > น้องงอน > น้องดื้อ และอิพี่เป็นบ้า 555555555
เดี๋ยวดูก่อนว่าจะเอาอะไรมาผัดรวมได้บ้าง