SPACIALWHEN I WAS YOUNG 1 เด็กเล็กๆเปรียบเสมือนเหมือนผ้าขาวบริสุทธิ์ สะอาดทั้งกาย สะอาดทั้งใจ
ระบบความคิดไม่สลับซับซ้อนเหมือนผู้ใหญ่
คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น รู้สึกอย่างไรก็จะแสดงออกอย่างนั้น
เด็กก็เหมือนกับเมล็ดพันธ์พืช..
เมื่อโผล่พ้นจากดินที่ห่อหุ้มร่างกายก็ต้องเผชิญต่อสิ่งเร้ารอบตัว
หากอยู่ในที่สมบูรณ์ พืชต้นนั้นก็จะเติบโต ออกดอก ออกผลตามฤดูกาล
หากสิ่งเร้ารอบด้านเป็นลบ ไม่ช้านาน ดอก ผล ที่ผลิมาก็จะฟ้องในตัวมันเอง
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
แสงอาทิตย์ในตอนเช้าสาดส่องทั่วทุกผืนดิน ปลุกทุกชีวิตบนโลกให้ตื่นจากการหลับใหล รวมถึงสิ่งมีชีวิตเล็กๆภายใต้ผ้าห่มผืนหนานี้ด้วย...
เด็กชายวัยกระเตาะอายุ 3 ขวบเศษ นอนคุดคู้ หดแขนหดขากอดหมอนข้าง ดวงตากระพริบปริบอยู่ใต้ผ้าห่ม ใบหน้าบูดเบี้ยวใกล้จะร้องไห้อยู่รอมร่อ ใครว่าเป็นเด็กไม่มีเรื่องให้เครียด วิคเตอร์เถียงสุดใจ เด็กอย่างเขานี่ล่ะที่เครียดจนอยากจะนอนก่ายหน้าผากให้เห็นชัดๆเลยว่าตอนนี้กำลังเครียดแค่ไหน
คำว่าโรงเรียนเคยได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วน จากคำบอกเล่าของพี่ข้างบ้านทำให้วิคเตอร์รู้สึกขยาดกับคำว่าโรงเรียนมากถึงมากที่สุด! แค่ได้ยินชื่อก็ทำให้เบ้หน้าเอาง่ายๆ จากที่เคยอยู่บ้านทั้งวันทั้งคืน ก็ต้องออกไปอยู่ในที่ไม่คุ้นเคย
เด็กชายให้คำมั่นกับตัวเองว่า ยังไงๆก็จะไม่ยอมลุกออกจากที่นอนนุ่มๆแน่ๆ ไม่ไปหรอก โรงเรียนน่ะ! ใบหน้ากลมพยักขึ้นลงกับตัวเองอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะก่อนจะรีบกดหน้าลงกับหมอนข้างแน่นกว่าเดิมจนแทบไม่มีอากาศหายใจ หน้าอกข้างซ้ายภายใต้เสื้อนอนเต้นกระหน่ำ เมื่อแว่วได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังแผ่วๆอยู่หน้าห้อง เมื่อเสียงเปิดประตูเปิดดังขึ้นก็ทำให้ร่างน้อยบนเตียงที่เมื่อครู่ยังลืมตาแป๋วรีบหลับตาปี๋ทันควัน!
เสียงหวานๆของแม่ที่เด็กชายจำได้ขึ้นใจ และเขามักยินดีเสมอยามที่แม่เรียกหา ทว่าเวลานี้.. เขาไม่อยากได้ยินมันเลย
“วิคเตอร์ ตื่นได้แล้วนะลูก สายมากแล้ว” หญิงวัยกลางคนพูดขณะสืบเท้าเข้ามาใกล้ เธอทรุดลงนั่งบนเตียง ทอดสายตามองผ้าห่มตรงส่วนที่นูนเด่นแล้วคลี่ยิ้มบางๆ มือเรียวดึงผ้าออกเผยให้เห็นร่างม้วนต้วนเป็นลูกกลมๆ ก่อนจะแตะแขนป้อมแล้วเขย่าเรียกเบาๆ ซึ่งคนถูกปลุกก็ได้แต่นอนนิ่ง แสร้งหลับได้อย่างแนบเนียน
บรรยากาศในห้องเริ่มเงียบ... แม่ไม่พูด ไม่ปลุก แต่จับแขนเขาไว้นิ่งๆ นั่นทำให้เด็กชายเริ่มกลัวว่าแม่จะจับได้ว่าเขาไม่ได้หลับ เด็กน้อยออกอุบาย ริมฝีปากเล็กๆจึงอ้าออกแล้วส่งเสียงกรนออกมา ให้รู้กันไปเลยว่ากำลังหลับจริงๆ
“คร่อก...ฟี้....ZZzzz”
เพียงเท่านั้น ผู้เป็นแม่ก็หลุดขำอย่างเอ็นดูพลางโคลงหัวเล็กน้อย
ขำทำไม?
หรือว่าแม่ไม่เชื่อ..?
“ฟี้.... คร่อก... ฟี้.... งืมม แจ๊บๆ” เมื่อเห็นแม่ขำ เด็กชายก็เริ่มวิตกจึงแสร้งกรนดังกว่าเดิม
“อือหืออ ท่าทางจะหลับลึกนะลูกคนนี้” มือเรียวเลื่อนไปลูบผมนิ่มแผ่วเบาก่อนจะค่อยๆดึงตัวเด็กชายให้ลุกขึ้นนั่งแล้วโอบอุ้มไว้ทั้งตัว
“ปกติไม่เคยงอแงอย่างนี้เลยนะ ทำไมวันนี้ถึงได้เป็นแบบนี้ล่ะครับ” เอ่ยถามเสียงนุ่มก่อนจะจัดท่าทางให้ลูกน้อยนอนบนตักตนพลางใช้อีกมือลูบไล้ใบหน้ากลมแป้นอย่างแสนรัก
เมื่อเจอสัมผัสคุ้นเคยก็ทำให้วิคเตอร์ลืมตัวเผลอยิ้มออกมา ทว่าเมื่อคิดได้ก็รีบหุบยิ้มฉับแล้วพลิกกายเบียดหน้าเข้าหาไออุ่นตรงช่วงหน้าท้องนิ่มๆของแม่ทันที
นัยน์ตาที่ทอประกายอ่อนโยนมองร่างเล็กบนตักก็เห็นท่าทางที่คงจะไม่ยอมตื่นง่ายๆแน่ ฝ่ามือนุ่มเลยเคลื่อนลงมาวางตรงเอวของร่างป้อม
“จะตื่นดีๆไหม” เด็กน้อยเริ่มเอะใจกับน้ำเสียงที่เปลี่ยนโทนไปจากเดิม อีกทั้งมือที่วางบนเอวของตนก็ไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่ แม้จะเริ่มใจไม่ดี แต่กระนั้นก็ยังดื้อเพ่งแกล้งหลับต่อ
“ไม่ตื่นใช่ไหม..” ผู้เป็นแม่พูดพร้อมกับกดนิ้วลงบนเอวลูกรัก ซึ่งก็ได้ผล ร่างป้อมสะดุ้งเฮือก ก่อนจะแน่นิ่งไปเหมือนเดิมพร้อมทั้งกดหน้าซุกพุงนิ่มๆแน่นขึ้น
แม่ขี้โกง! ทำไมทำอย่างนี้!?
เริ่มต่อว่ามารดาในใจ ก่อนจะทำตัวเกร็งด้วยนึกรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
หญิงวัยกลางคนหัวเราะแผ่วเบาก่อนจะวางร่างป้อมลงนอนบนเตียง แล้วกระหน่ำจี้เอวเล็กๆทันที
“ฮะ... ฮ่าๆๆๆๆ กร๊ากก ม... แม่!! ฮ่ะๆๆ ฮ่าาา!” เด็กน้อยดิ้นพล่านไปทั่วเตียงทั้งยังหัวเราะเสียงดังจนน้ำหูน้ำตาไหลพราก มือป้อมๆยกขึ้นจะจับมือแม่ออกทั้งพลิกกายขยับหลบเป็นพัลวัน แต่ด้วยขนาดร่างกายที่ต่างกัน ไม่ว่าจะพยายามหลบยังไงก็หลบไม่พ้น!
“ฮ่าๆ.. ย..หยุด! อ๊ากกก” เด็กชายร้องลั่นเมื่อโดนมือเรียวดึงตัวไว้แล้วเลิกชายเสื้อขึ้นสูง นัยน์ตาคู่ใสฉายแววตระหนก เพราะท่าทางเตรียมพร้อมของแม่ ทำให้รู้ว่า..แม่คิดจะทำอะไร!
“จะยอมตื่นดีๆไหม” เอ่ยถามอีกครั้งให้ลูกชายคิดใหม่ ทว่าผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ วิคเตอร์หลับตาปี๋ให้ดูเหมือนว่าตนยังไม่ตื่นจริงๆ ผู้เป็นแม่เมื่อเห็นดังนั้นก็ก้มหน้าลงแล้วเป่าพุงนิ่มๆอย่างแรง เด็กชายหัวเราะลั่นพลันกระเถิบตัวหนี แล้วดึงเสื้อปิดพุงเด้งตัวลุกจากที่นอนตาสว่างเป็นปลิดทิ้ง
“ฮ่าๆๆๆ อย่า.. ไม่ ไม่เอาแล้ว” ร้องบอกอย่างตระหนกเมื่อเห็นแม่ทำท่าย่างสามขุมเข้ามาใกล้ ตาล่อกแล่กกวาดมองไปรอบห้องอย่างหาทางหนีทีไล่ ริมฝีปากเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวเบ้ทำให้แม่ที่กำลังมองอยากจะจับลูกชายมาฟัดให้หายหมั่นเขี้ยว วิคเตอร์ดึงเสื้อให้ปิดพุงกลมๆไว้อย่างหวงแหน ใบหน้างองุ้มเตรียมจะร้องจ้าจริงๆถ้าแม่ยังเข้ามาใกล้
“โอ๋ๆ ไม่เล่นแล้วครับๆ มาหาแม่มา” แขนเรียวอ้าออกกว้างรอให้เด็กชายเข้ามากอด ซึ่งวิคเตอร์มีท่าทางลังเลเล็กน้อย ก่อนเด็กชายจะโถมกอดแม่ทั้งตัว ใบหน้ากลมแป้นแนบซุกลาดไหล่ รู้สึกเพลิดเพลินจนอยากจะหลับขึ้นมาอีกรอบกับสัมผัสที่ลูบแผ่นหลังไปมา
“ป่ะ ไปอาบน้ำแล้วไปโรงเรียนกันนะ พ่อรออยู่ข้างล่างแล้ว” ใบหน้ากลมแป้นงองุ้มขึ้นมาทันที แขนป้อมยิ่งกอดคอมารดาแน่นขึ้น ก่อนเสียงสะอื้นจะหลุดจากริมฝีปาก
โรงเรียน โรงเรียนอีกแล้ว
ไม่ไปได้ไหม
ปากเบ้ เสียงมา แต่ไร้น้ำตา อาการเรียกร้องความสนใจของเด็ก
ริมฝีปากเล็กกำลังจะอ้าออกเตรียมร้องจ้าเพื่อขอความเห็นใจ แต่หญิงวัยกลางคนก็เข้าประชิดตัวเสียก่อน พร้อมทั้งอุ้มร่างน้อยขึ้นในวงแขน กดจมูกฝังแก้มนุ่มแล้วสูดลมหายใจเข้าไปแรงๆอย่างหมั่นเขี้ยว
“วิคเตอร์อยากให้พ่อกับแม่รักหนูไหม” ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แขนเรียวกระชับร่างลูกน้อยแนบอกมากยิ่งขึ้นพร้อมทั้งมองสบตาใสๆที่ไหววูบ ก่อนหัวกลมๆจะพยักหน้าขึ้นลงถี่ๆพลางเม้มปากแน่น อีกทั้งน้ำใสๆยังรื้นขอบตาทำท่าจะหยดแหมะเสียให้ได้ จนผู้เป็นแม่ต้องยื่นหน้าไปหอมแก้มยุ้ยๆอีกสักทีเพื่อปลอบใจ
“ถ้าน้องเตอร์อยากให้พ่อกับแม่รัก หนูต้องไปโรงเรียน” ทันทีที่ยื่นข้อต่อรองเสร็จ ริมฝีปากเล็กๆก็เบะออกควัน อยากให้พ่อกับแม่รัก แต่ไม่อยากไปโรงเรียน เพราะไปโรงเรียนจะทำให้ไม่ได้อยู่บ้าน ไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่
วิคเตอร์ยกแขนป้อมๆสองข้างขึ้นกอดผู้เป็นแม่แล้วเอนหัวซบไหล่อย่างประจบ คนถูกอ้อนหัวเราะขำขันกับท่าทีนั้นแล้วลูบผมนิ่มแผ่วเบา
“ว่าไง จะไปไหม ถ้าไม่ไป.. พ่อกับแม่ ไม่รักจริงๆนะ”
สิ่งที่เด็กกลัวที่สุดคือการที่พ่อแม่ไม่รัก เพราะงั้นไม่ต้องรอให้เสียงหวานๆต้องย้ำอีกเป็นรอบที่สอง วิคเตอร์ก็ดันหน้าตัวเองเงยขึ้นมองสบตาแล้วพยักหน้าขึ้นลงถี่ๆพร้อมทั้งพูดประกอบ
“ไป ไป ไปแล้ว ไป รักนะ” ทวงถามหาคำว่ารัก เพราะอยากมั่นใจว่าแม่จะรักตัวเอง ทว่าคนเป็นแม่กลับนิ่งเงียบ แกล้งทำเป็นมองไปทางอื่นเสียอย่างนั้น ปากเล็กๆจึงเริ่มยื่นพร้อมทั้งลำตัวก็เริ่มดิ้นทว่าสองแขนกลับรัดรอบลำคอมารดาไม่ปล่อย
“รักนะ รักนะ” ย้ำอีกครั้งพร้อมทั้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะหอมแก้มนุ่มๆของแม่ แล้วผละมามองหน้า ดวงตาใสๆเริ่มรื้นด้วยน้ำตา จนคนเป็นแม่ที่เดิมทีตั้งใจจะแกล้งให้มากกว่านี้กลับใจอ่อนยวบ แกล้งต่อไม่ลง เธอพยักหน้าขึ้นลงแล้วหอมแก้มลูกชายเสียฟอดใหญ่
“รักสิครับ ลูกชายแม่ทั้งคน”
แค่คำพูดแค่นั้นก็สามารถสร้างรอยยิ้มกว้างขวางให้ปรากฏบนริมฝีปากของเด็กชายได้แล้ว
. . . .
การไปโรงเรียนวันแรกไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เคยได้ยินมา มันค่อนข้างดีด้วยซ้ำ วิคเตอร์มีเพื่อนที่โรงเรียนเยอะแยะเลย ใครๆต่างก็เรียกหาวิคเตอร์ ที่สำคัญวิคเตอร์ได้รับคะแนนโหวตอย่างท่วมท้นจนได้เป็นหัวหน้าห้องด้วยนะ
เมื่อกลับมาบ้าน เด็กชายก็เล่าประสบการณ์การไปโรงเรียนวันแรกให้พ่อกับแม่ฟังอย่างตื่นเต้น วันแรกของการไปโรงเรียนนั้นสำคัญมาก เพราะมันจะเป็นตัวบอกว่าลูกรักจะงอแงไม่ไปในวันต่อๆมา หรือจะไปดีๆโดยไม่ต้องให้พูดซ้ำๆ จากวันนี้ที่ได้ฟังสิ่งที่ลูกตัวน้อยเล่า ก็ทำให้ทั้งพ่อและแม่วางใจจนยิ้มไม่หุบกันเลยทีเดียว
แม้จะล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่สามแล้ว วิคเตอร์ก็ไม่มีอาการงอแงให้เห็น แต่อย่างไรเสีย เด็กก็คือเด็ก วิคเตอร์เฝ้ารอวันศุกร์เสมอ วันศุกร์แสนสุข นอนดึกได้ แล้วยังได้ดูการ์ตูนเรื่องโปรดอีก เพราะวันเสาร์ไม่ต้องไปโรงเรียน
และแน่นอนว่าวันนี้คือวันศุกร์ที่รอคอยมานาน
นาฬิกาบอกเวลาบ่ายสามโมง เป็นเวลาเดียวกับที่รถโรงเรียนวิ่งมาจอดเทียบประตูรั้วหน้าบ้าน ทันทีที่ประตูรถเปิดออกเด็กชายก็รีบวิ่งลงจากรถโดยไม่ลืมหันกลับไปสวัสดีคุณครูและโบกมือบ๊ายบายเพื่อน
วิคเตอร์มองตามรถที่วิ่งไกลออกไปทั้งยังโบกไม้โบกมือไม่หยุด จุดโฟกัสของสายตาคือเด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มที่เปรียบเสมือนฮีโร่ของตนที่เกาะเบาะหลังรถ โบกมือยิ้มเต็มสีหน้า
น้องพัดอะ ฮีโร่ตัวจริงเลยนะ วิคเตอร์ยังจำวันแรกของการไปโรงเรียนได้ พ่อมาส่งที่โรงเรียน แต่พอรถจอดเขาก็นึกว่าพ่อจะเข้าไปนั่งเรียนด้วย แต่พ่อกลับทิ้งให้เขาอยู่โรงเรียนคนเดียว! วิคเตอร์ร้องไห้งอแงหน้าประตู รู้สึกใจหายถ้าจะต้องอยู่ในที่แปลกๆเพียงลำพัง
ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ จะกลับบ้าน!!
และวิคเตอร์คงจะได้กลับบ้านสมใจ ถ้าหากไม่มีน้องพัด เด็กหญิงตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มเข้ามาจูงมือและมาโอ๋ไว้ วินาทีนั้นเด็กชายงงตึ้บ กอดทำไม โอ๋ทำไม น้องพัดเป็นผู้หญิง พ่อจ๋าสอนว่าผู้ชายต้องปกป้องผู้หญิง ไม่ใช่ผู้หญิงมาปกป้องผู้ชาย
คิดได้อย่างนั้นมือป้อมก็รีบเช็ดหน้าเช็ดตา ปาดน้ำตาจนหมดจด เมื่อสติมา วิคเตอร์ก็หน้าแดงแปร๊ด ความอายพุ่งจู่โจมจนไม่กล้ามองหน้าน้องพัด แต่น้องพัดกลับหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ ก่อนจะจูงมือเขาเข้าโรงเรียนไปด้วยกัน
น้องพัดน่ะ ฮีโร่เลย ไม่กลัว ไม่ร้องไห้ เก่งที่ซู้ดด
เด็กชายคิดพลางหัวเราะกับตัวเอง รถโรงเรียนวิ่งไปไกลจนลับสายตาไปแล้ว มือป้อมข้างหนึ่งล้วงลงกระเป๋ากางเกงนักเรียน กำลูกแก้วสามลูกที่เล่นชนะเพื่อนมา ตั้งใจจะเอามาอวดแม่จ๋า แล้วพอพ่อกลับจากทำงานค่อยอวดพ่ออีกที
ดีดลูกแก้วลงหลุมวิคเตอร์เพิ่งเคยได้เล่นเป็นครั้งแรกก็วันนี้ แถวบ้านไม่มีเพื่อนเล่น ไม่สนุก ได้แต่นอนดูทีวี แต่เขาก็ชอบ ไปโรงเรียนมีอะไรใหม่ๆให้เล่นเสมอ ต๊อดเพื่อนตัวโตมักจะเป็นหัวโจกเอาของเล่นใหม่ๆมาเล่นเสมอ วันนี้ต๊อดมีลูกแก้วมาเล่น วิคเตอร์ก็ได้แต่ดู เพราะไม่มีลูกแก้ว แต่ต๊อดให้มาหนึ่งลูก ต๊อดใจดี เกมส์นี้เล่นไม่ยาก แค่ดีดๆลูกแก้วให้ลงหลุมที่ขุดไว้ แล้วก็ดีดลูกแก้วของคนอื่นๆ วิคเตอร์ดีดโดนหมดเลย เลยได้ลูกแก้วสวยๆพวกนี้มา
เด็กชายกำลูกแก้วในมือแน่นแล้ววิ่งรี่เข้าบ้าน ทั้งอยากอวด ทั้งคิดถึงแม่สุดใจ!
“แม่จ๋า! แม่!” ปากร้องเรียก สองขาก็วิ่งไปทั่ว เมื่อได้กลิ่นหอมๆที่ลอยมาปะทะจมูกก็ทำให้ขาสั้นๆวิ่งตรงไปยังห้องครัวโดยไม่ลังเล แล้วก็ไม่ผิดจากที่คิด เมื่อเห็นแผ่นหลังของแม่พิมยืนอยู่หน้าเตาไฟ เมื่อได้ยินเสียงวิ่งตึงตัง พิมพาก็หันมามองแล้วคลี่ยิ้มอ่อนโยน
“ค่อยๆวิ่งสิลูก เดี๋ยวลื่นล้มหัวแตกขึ้นมาจะทำยังไง” เธอเอ่ยดุไม่จริงจังนัก แต่วิคเตอร์ไม่สนใจ รีบปลดกระเป๋าออกจากหลังวางไว้บนโต๊ะแล้ววิ่งโร่ไปหาแม่ ก่อนแบมืออวดของเล่นใหม่
“อะไรน่ะ”
“ลูกแก้วว เล่นชนะ” บอกพร้อมทั้งยิ้มแป้น
“เก่งมากเลยลูกรัก” เธอว่าพลางขยี้ผมสีเข้มอย่างนึกเอ็นดู “ว่าแต่คนเก่งของแม่หิวหรือยังเอ่ย”
“หิวแล้ววว วิคเตอร์อยากกินเฟร้นฟรายฝีมือแม่”
ประจบเข้าไปอีกหน่อย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้แม่รักแม่หลงได้ยังไง
พิมพาหัวเราะก่อนจะบอกให้ลูกไปล้างไม้ล้างมือแล้วมานั่งรอที่โต๊ะรับประทานอาหาร
วิคเตอร์คือสิ่งเติมเต็มที่มาทำให้ให้ครอบครัวของชายหญิงคู่นี้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น สามปีที่มีลูกตัวน้อยมา ทำให้โลกของเธอมีแต่ความสุข วิคเตอร์เองก็มีความสุขที่ได้อยู่กับพ่อกับแม่ แต่ใครล่ะจะรู้ ว่าวันหนึ่ง ความสุขที่เด็กชายหวงแหนจะถูกแบ่งครึ่ง ทุกๆอย่างจะถูกหารสอง..
ถึงวันนั้น เด็กคนหนึ่งที่ได้รับความรักอย่างท่วมท้นคนเดียวมาตลอดจะเป็นอย่างไรนะ
TBC.
ยู๊ฮูวววววววววววววววว คิดถึงที่สุดเลยยยยยยย
พาน้องต้ากับพี่เตอร์ตอนเด็กมาฝากกกก น่ารักป่ะล่าา 5555
พี่เตอร์ตอนเด็กก็น่ารักมุ้งมิ้งไม่หยอกนะ(?)
ไว้พบกับเปอร์เซ็นต์ที่เหลือเร็วๆนี้น้าาา จ๊วบบ
รักเหมือนเดิมม
NNEW.