ร้ายที่ 39กว่าครอบครัวผมจะกลับคืนสู่สภาพปกติ ก็ใช้เวลาหลังจากเหตุการณ์วันนั้นอีกสองสามวัน . .
ไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างไอ้เจ้านายมันจะมีคนมาคลั่งไคล้ได้ถึงเพียงนี้ เล่าให้ใครฟังใครก็ขำ เอาแต่ขำอยู่นั่น ผมเองก็ขำ แต่จิตแบบนี้มันน่ากลัวแถมอันตรายเกินไป อย่าได้มายุ่งกับน้องชายของผมอีกเลย ผมขอร้อง . .
ผมกับพ่อจัดการให้มันเข้าคุกเข้าตารางได้อย่างสาสม พ่อขุดเอาหลักฐานที่มันเคยฆ่าเพื่อนของไอ้มังกรมาจากไหนก็ไม่รู้รวมทั้งหลักฐานที่มันทำร้ายผู้คนมากมายและก็หลักฐานที่มันจับตัวเจ้านายไปด้วย เรียกได้ว่ามัดมันทุกทาง จนในที่สุดก็เอาตัวมันเข้าตะรางได้สำเร็จ และยัดมันใส่คุกที่พัศดีรู้จักกับพ่อด้วย ป้องกันมิให้มันออกมาลอยนวลอีก
คนอย่างนั้นมันต้องเจอแบบนี้ . . และผมหวังว่าเจ้านายมันจะได้ใช้ชีวิตอย่างสบายอกสบายใจกับไอ้มังกรสักที . .
ผมเดินเข้ามาในออฟฟิศ พนักงานยิ้มไหว้ทักทายผมเฉกเช่นปกติทุกวัน แต่ผมรู้ทุกคนยังไม่ลืมเหตุการณ์ที่ผมเถียงกันกับไอ้ไนท์จนทำเอาสะพรึงไปทั้งบริษัท แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาหรือถามเพื่อให้คลายข้อสงสัยตัวเอง ทุกคนเงียบแต่ใช้สายตาและหูคอยสอดส่อง
ข่าวลือแพร่สะพัด . . ว่าผมกำลังจีบไอ้ไนท์อยู่
อยากจะสิ้นให้ดิ้นตาย ลืออะไรไม่ลือชอบลือในเรื่องที่ไม่มีมูลความจริง ผมยังไม่ได้จีบมันเลยสักแอะ จริงๆนะ . .
“เอ่อ . . คุณจิ๊บ” ผมถามเลขาสาวคู่ใจเมื่อมาถึงหน้าห้องตัวเอง ที่ยืนขึ้นพร้อมรับคำสั่งผม ใบหน้ากระตือรือร้น
“คะบอส”
“เอ่อ . . นักศึกษาฝึกงาน นายอัศวิน . . ยังไม่มาเหรอ” ผมถามแบบนี้ติดๆกันเป็นวันที่สามแล้ว เพราะตั้งแต่ที่เกิดเรื่อง ไอ้ไนท์ก็หายหัว ราวกับว่าสัญญาที่ว่ามันจะต้องเป็นเด็กฝึกงานในบริษัทผมจู่ๆก็หายไปกับอากาศ
“อ๋อ น้องไนท์น่ะเหรอคะ” เธอถามย้ำอย่างกับล้อเลียนผม “ยังไม่เห็นนะคะบอส”
“อ๋อ เหรอ” ผมกระแอม พยายามทำหน้าให้ปกติที่สุด “. . น่าหักเงินเดือนที่สุด”
“บอสคะ นโยบายบริษัทเรานักศึกษาฝึกงานยังไม่มีเงินเดือนนะคะ”
“ฮะ”
“ข้อนี้บอสตั้งเองเลยค่ะ . . เมื่อสามเดือนก่อน”
ผมจ้องหน้าคุณจิ๊บค้างไปสามวิ พร้อมๆกับกระพริบตาให้สามที . . เออว่ะ . . ตอนนั้นที่ผมตั้งกฏข้อนั้นขึ้นมาก็เพราะไอ้นักศึกษาฝึกงานหน้าใหม่มันรู้ว่ามันจะได้เงินเดือนมันก็ไม่ตั้งใจทำงาน ผมเลยตั้งกฎข้อนั้นขึ้นมาซะ . . ไม่นึกว่ามันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวผมได้ด้วย
หมดกัน . . แล้วผมจะใช้อะไรขู่ไอ้เชี่ยไนท์ล่ะ ? . . “คุณจิ๊บ . . มีแฟ้มประวัติของนายอัศวินมั้ย”
“ไม่มีนะคะ จู่ๆบอสก็รับน้องเข้ามาทำงาน ก็เลยไม่มีเอกสารเป็นทางการอะไรเลยค่ะ”
กูโดนอีกแล้วสินะ . . “งั้นก็ . .”
“แต่เมื่อวานจิ๊บไปหาน้องที่บ้านมาค่ะ”
ผมที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องถึงกับหันขวับกลับมามองหน้าคุณจิ๊บ “ฮะ?”
“จิ๊บไปที่บ้านของน้องมาค่ะ พนักงานที่ชั้นนี้บางส่วนก็ไปกับจิ๊บ ทุกคนคิดถึงน้องกันน่ะค่ะ”
“นี่สนิทกันถึงขนาดนั้นเลยเหรอ”
“น้องไนท์น่ารักนะคะ ทุกคนสนิทกับน้องรักน้องกันทุกคนแหละค่ะ อาจจะยกเว้น . . .” เธอปรายตามองมาที่ผม . .
“งั้นเหรอ โอเค . . ตั้งใจทำงานละกันนะคุณจิ๊บ” หึ ไม่สนิทงั้นเหรอ . .ใครจะอยากไปสนิทกับมัน ไอ้ร็อตไวเลอร์ชอบกัดคนอื่นแบบนั้นอ่ะนะจะมีแต่คนรัก โธ่เอ๊ย . .
ผมเข้ามาในห้อง มองดูกาแฟที่คุณจิ๊บชงให้อย่างเหม่อๆ . . ทุกคนที่ทำงานชั้นนี้รู้จักบ้านไอ้ไนท์ ทุกคนไปหาไอ้ไนท์มาแล้ว . . ทุกคนรู้ว่าไอ้ไนท์มันเป็นยังไง ยกเว้นผม . .
ผมที่มันไม่โทรหา ทั้งๆที่ผมบอกให้ไอ้เจ้านายนำข่าวไปบอกว่าให้โทรหาผมด้วย มันเจือกไม่โทรหาไม่อะไรเลย มันช่างเหี้ยอะไรเช่นนี้ . .
ผมเปิดแฟ้ม พยายามอ่านเอกสารที่อยู่ในนั้น แต่ทว่า . . อักษรพวกนั้นตีกันรวนไปหมดผมโคตรอ่านไม่รู้เรื่อง หรือเพราะเอกสารพวกนั้นมันเป็นภาษาอังกฤษวะ ไม่ใช่ ภาษาอังกฤษของผมคล่องปรื๋ออย่างกับอะไร แค่นี้สบาย แต่อะไรล่ะที่ทำให้ผมไม่สบาย . .
ความรู้สึกอยากรู้ที่ทำลายได้ยากบังเกิดขึ้นมาในใจผม ผมกระแอมกับตัวเอง จิบกาแฟของคุณจิ๊บที่ผมคุ้นเคยมานานหลายปี แต่บัดนี้กลับไม่คุ้นเคยเพราะหลังๆมาผมกินกาแฟฝีมือไอ้ไนท์ตลอด
แม่งเอ๊ย . . ผมวางกาแฟ หยิบโทรศัพท์กุญแจรถกระเป๋าตังค์ที่เพิ่งวางลงไปเมื่อห้านาทีก่อนขึ้นมาใหม่แล้วเดินไปหาคุณจิ๊บที่กำลังทำงานให้ผมอยู่ ผมเห็นตารางงานของตัวเองแว้บๆเลยล่ะ ให้ตาย เหมือนจะมีงานเต็มทั้งวันเลยนะวันนี้ . .
“โอ๊ะ บอส มีอะไรรึเปล่าคะ”
“อืม . . วันนี้งานเยอะเหรอ” ผมพยายามชวนเธอคุย ชวนแบบที่ลุ้นขี้บิดไปด้วย เพราะกลัวคำตอบของเธอ
“งานบอสเหรอคะ เพียบเลยค่ะ” เธอบรรยายเป็นท่าทางประกอบ “เช้านี้เก้าโมงประชุมเรื่องโปรโมชั่นใหม่ของสถานบันเทิงสาขาทองหล่อ ประชุมเสร็จสิบโมงครึ่งบอสต้องเข้าพบลูกค้าที่เขานำเข้าสุราและบรั่นดีที่บาร์ชั้นล่างนะคะ เที่ยงจนถึงบ่ายโมงไม่มีนัด บ่ายโมงเป็นต้นไปจนถึงสี่โมงเย็นบอสต้องเข้าฟังการนำเสนอของสถานบันเทิงสาขาใหม่ของฝ่ายขายด้วยค่ะบอส” บอกได้คำเดียวว่ามึน เธอสาดใส่ผมรัวเร็วซะจนผมจำได้แค่คำว่าสุรากับบรั่นดี “อ้อ หลังจากสี่โมงเย็นรอบอสคอนเฟิร์มเรื่องนัดทานข้าวกับหุ้นส่วนผับABCที่บอสเพิ่งลงขันไปเมื่ออาทิตย์ก่อนด้วยค่ะ”
เยอะจังวะ . . อลังการบานตะไท “เอ่อ . . งั้นเหรอ”
“ค่ะ” เธอยิ้ม “บอสมีอะไรอีกมั้ยคะ ท่าทางบอสจะออกไปข้างนอกนะ”
“คือ . .” ไอ้ออกน่ะมันก็อยากออก แต่เจอตารางงานเข้าไปใครมันจะไปกล้าโดดงานวะแม่ง TT
“จิ๊บเคลียร์ให้บอสได้นะคะ ให้บอสว่างยาวจนถึงบ่ายโมงได้”
“จริงเหรอ คุณจิ๊บ ทำได้จริงๆเหรอ” ผมดูกระตือรือร้นขึ้นมาทันตา คุณจิ๊บส่งสายตาให้ผมอย่างล้อเลียน
“ค่ะบอส นี่ค่ะที่อยู่น้องไนท์ จิ๊บรอบอสออกมาจากห้องตั้งนานแน่ะ” เธอยื่นแผ่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ผม
นานเหรอ ห้านาทีเองนะ . . “อืม”
“รีบๆง้อน้องเขานะคะ พนักงานที่นี่คิดถึงน้องจะแย่”
“ง้อเหรอ ผมทำอะไรผิด”
“ผิดเถอะค่ะ จะได้มีเรื่องไปคุยกับน้องไง” คุณจิ๊บยิ้มแฉ่ง . . ส่วนผมงงเป็นไก่ตาแตก “รีบไปสิคะ . .”
“เอ่อ อื้อ”
คุณจิ๊บเธอเชียร์ผมกับไอ้ไนท์อยู่เหรอเนี่ย ผมเกาหัวงงๆขณะที่เดินผ่านพนักงานนับสิบ ทุกคนมองมา เชียร์อย่างออกนอกหน้า . . แต่ไม่กล้าพูดอะไรมาก . .
มีคนหนึ่งมาขวางทางผมไว้แบบบังเอิญ . . ไอ้อาร์ต
“บอสไม่ดูแลมันตามที่บอสพูดกับผมนะ” ไอ้อาร์ตเกริ่น ผมชักสีหน้า ทำไม . . ไม่ดูแลเหี้ยอะไร กูบอกไม่ให้มันออกไปจากรถ แต่มันก็ไม่ยอมเอง . .
แต่ผมพูดได้เพียงแต่ว่า . . “แล้วไง”
“ผมให้บอสแก้ตัวใหม่ . . ถ้าบอสดูแลน้องผมไม่ดี . . บอสอย่าลืมขึ้นเงินเดือนให้ผมนะ” อาร์ตพูดรัวเร็วก่อนที่จะเดินจากไป . . ทิ้งให้ผมยืนตะลึงอยู่คนเดียว
ไอ้อาร์ตก็เป็นคนนึงที่เชียร์ผมกับไนท์เหรอ ประหลาดใจว่ะ . . เป็นไปได้ยังไง . .
แต่ก็ดีเสี้ยนหนามจะได้หักไปอีกหนึ่ง ใครๆก็ปูทางให้ถึงขนาดนี้ ผมต้องจัดให่ตามที่เขาขอแล้วมั้ง
บ้านไอ้ไนท์ . .
คอนโดสูงเสียดฟ้า . . ผมแหงนมองขึ้นไปผมยังปวดคอ ให้ตายเหอะ . . เด็กนั่นมันรวยขนาดนี้เลยเหรอวะ ผมเดินเข้าไปยื่นบัตรประชาชนให้ยาม ดีที่ท่าทางผมน่าเชื่อถือและผมปรากฏตัวผ่านสื่อในฐานะนักธุรกิจบ่อยเลยเข้าไปได้ง่ายๆ ผมไม่เห็นยามเขาจะจ้องดูบัตรประชาชนผมเลย เขาดูแค่สูทของผมเท่านั้น . .
ที่อยู่ของมันคือห้อง 41 ชั้นสูงสุดที่มีแต่มันเพียงผู้เดียวเป็นเจ้าของทั้งชั้น ให้ตาย มีลิฟต์ขึ้นไปส่งแค่หนึ่งตัว ถามจริง . . คอนโดนี้พ่อมันสร้างเหรอ อะไรจะอำนวยความสะดวกให้ไอ้ไนท์มากถึงขนาดนั้น
กิ๊ง . .
ประตูลิฟต์เปิดออก ผมกระแอมขณะที่กระชับเสื้อสูท ตรงหน้าผมคือรูปไอ้ไนท์ที่เหมือนกำลังถ่ายแบบอะไรสักอย่าง เสื้อเชิ้ตสีขาวกับการโชว์แผงอกนิดๆ . . ผมจ้องมองภาพนั้นราวกับตกอยู่ในภวังค์ . .
“ป้า ใครมาอ่ะ”
เฮ้ย ผมได้ยินเสียงมัน . . และก็ได้ยินเสียงคนเดินมาหา เป็นป้าแม่บ้านคนหนึ่งท่าทางใจดี
“มาหาคุณไนท์เหรอคะ” เธอยิ้มให้ผม
“ครับ . .”
“เมื่อคืนคุณก็มาใช่มั้ยคะ”
ผมทำหน้างงใส่เธอ แต่สุดท้ายผมก็รู้ว่ามันคืออะไร “นั่นมันไอ้อาร์ตครับป้า” แอบโกรธนิดๆนะเนี่ย
“อ้าวเหรอคะ ป้าขอโทษนะคะ เสียมารยาทไปหน่อย” ป้าทำหน้าตาเสียใจจริงๆ “จะให้ไปเรียนคุณไนท์ว่าใครมาคะ”
“อันที่จริงบอกว่าผมเป็นไอ้อาร์ต เอ๊ย . . นายอาร์ตก็ได้ครับ” เพราะถ้าบอกว่าเป็นผมมันคงไม่ต้อนรับผมหรอก
“เอางั้นเหรอคะ ได้ค่ะ”
เธอใจดีจัง เธอเดินนำผมเข้ามาในบ้าน แม่เจ้าโว้ยทั้งกว้างทั้งยาว แถมบนนี้ยังมีสวนและก็สระน้ำด้วยไม่อยากจะเชื่อ รวยสัดดดดดดดดดดดดดดดดด
“พี่อาร์ต!” ผมได้ยินเสียงเรียกดังมาจากห้องนอน แม่ง ไว้ใจกันถึงขนาดเรียกตั้งแต่อยู่ในห้องนอนเลย “ไนท์อยู่นี่! มาได้เลย ขี้เกียจลุก . .”
ผมเบะปากอย่างหมั่นไส้ มันกะนอนอ่อยไอ้อาร์ตถึงเตียงเลยใช่มั้ย ผมเดินเข้าไปทันที แต่ไอ้ไนท์ไม่ได้นอนบนเตียงในท่าที่โคตรอ่อยตามที่ผมคิด มันกำลังนั่งในท่าเรียบร้อยและแขนของมัน . .
. . มีเฝือก “เห้ย!” มันตกใจที่เห็นหน้าผม “มึง . . มาได้ไง”
“มึงใส่เฝือกเหรอ”
“ออกไปเลย” มันยกหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาเตรียมโยนมาใส่ผม “ป้าครับ ไอ้เหี้ยนี่มันโรคจิต เอามันออกไป!!!”
“นี่มึงใส่เฝือกเหรอ” ผมไม่ได้สนใจในสิ่งที่มันโวยวายเลย . . ผมทรุดตัวนั่งลงข้างๆมัน “มือมึงเป็นไรวะ”
“กระดูกร้าว” มันตอบสั้นๆ หน้าตาท่าทางดูหวาดระแวงผมเอามากๆ “เพราะมึงนั่นแหละ”
“เพราะกู . . กูทำไม” ผมไม่ได้เป็นคนตีแขนมันสักหน่อย
“ตอนนั้นมึง . . ไม่ช่วยกู” มันยกกำปั้นคาดโทษผม
ตอนนั้น . . ตอนไหนวะ . . ผมพยายามนึกระลึกชาติดูเหตุการณ์เมื่อสามวันก่อนที่พวกผมบุกไปช่วยเจ้านายจากรังไอ้เหม มันวุ่นวายเอามากๆและผมก็พยายามกันไอ้ไนท์ให้อยู่ห่างจากศัตรูที่สุด แต่สุดท้ายแล้วผมก็ทำมันคลาดสายตาไป และผมไม่มีเวลาที่จะไปตามหามันเพราะผมเองก็ยุ่ง
. . ไอ้ไนท์เลยตกอยู่ในสภาพนี้
“ช่างแม่งเหอะ” มันพูดขึ้น “แล้วมึงมาที่นี่ทำไม”
“…”
“เรื่องฝึกงานใช่มั้ย ขอโทษนะ กูคงไปฝึกไม่ได้สักพักใหญ่ๆ” มันชูแขนที่ใส่เฝือกให้ดูประกอบคำพูด
ผมนั่งนิ่ง . .ปลดเนคไทออกแก้เครียด โคตรรู้สึกผิดชิบหายที่ทำมันเจ็บ “กูขอโทษ”
“ไม่ต้องมาขอโทษเลยสัด แผลแค่นี้กระจอกจะตายไป” มันพูดปัดๆ “หมดเรื่องแล้วใช่มั้ยบอส เชิญครับ” มันผายมือไปทางที่ผมเข้ามาราวกับต้องการขับไล่
ผมนิ่ง . . และผมก็หน้าด้านมากพอ “โทษทีว่ะ วันนี้พนักงานทุกคนฝากกูมาเยี่ยมมึง” ผมถอดเสื้อนอกออก แอร์เย็นๆกระทบผิวหนังที่ชื้นเหงื่อของผม “ต้องรบกวนมึงสักหน่อยแล้ว”
“รบกวนเหี้ยอะไร ไปไกลๆเลย ไปหาทำงงทำงาน ไอ้เหี้ย”
ผมเริ่มเซ็งกับคำพูดที่โคตรไม่เพราะที่มันพูดกับผมแล้ว
“เมื่อไหร่จะพูดกับกูเพราะๆสักที”
“ไม่มีวัน ถอยไป” ไนท์ผลักผมที่ยืนหน้าเข้าไปใกล้มันให้ออกห่าง
รังเกียจกูจังเลยนะ . . ผมเลยแกล้งล้มมันให้นอนราบลงไปบนโซฟา โดยมีผมคร่อมมันอยู่ข้างบน แขนมันใช้การได้เพียงข้างเดียวจึงลำบากที่จะต่อต้านผม
“จะพูดดีๆกับกูมั้ย” อย่างไอ้ไนท์ต้องใช้กลเม็ดในการข่มขู่ . . ตอนนี้ผมกับมันอยู่ในท่าที่เสี่ยงสุดๆ มันนะเสี่ยง ผมนี่สบายๆอยู่แล้ว
“ไอ้เหี้ย ออกไปจากตัวกู!!!”
“ชู่ววว ถ้ามึงเสียงดัง ป้าก็จะมาเห็นมึงกับกูในสภาพนี้นะ”
มันหุบปากฉับ หลบสายตาของผมที่ลอยละล่องอยู่เหนือใบหน้าของมันไม่กี่เซ็นต์ “ออก ไป จาก ตัว กู”
“พูดเพราะๆกับกูก่อนสิ”
“ไม่”
. . แม่งดื้อจังวะ . . ผมก้มหน้าลงไปหอมแก้มมันแบบเร็วๆฟอดหนึ่ง . . มันช็อคตาค้าง . . ผมก็เช่นกัน แต่ผมช็อคในใจ
“ยังจะกล้าตอบว่าไม่อีกมั้ย”
มันเงียบ . . ผมจ้องใบหน้าของมันที่อยู่เบื้องล่างอย่างพินิจพิจารณา มันเป็นคนหน้าตาดีแบบดื้อหัวรั้น เหมือนพวกตัวร้ายน่าหมั่นไส้ในละครที่หน้าตาดี นั่นแหละครับคำจำกัดความของใบหน้าของมัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะทำหน้าไม่เหมือนพวกตัวร้ายแล้วล่ะครับ
เหมือนนางเอกกำลังเขินมากกว่า . .
“ว่าไง”
“มึงนี่แม่ง . .”
“อะไรมึงๆนะ . . พูดอีกโดนอีกนะ . .”
“ครับๆ พูดเพราะก็ได้ครับบอส” ไนท์จำใจต้องรับคำอย่างหมดทางเลือก
“ไม่เอาคำว่าบอสสิ”
มันทำหน้าหงิก อยากจะเอาเฝือกทุบหัวผมใจจะขาด “เรื่องมากว่ะ”
“เรียกพี่ . . พี่ขุนงี้ เรียกเร็วๆเข้า”
“. .” มันทำหน้าเหมือนมันมีขี้หมามาจ่ออยู่ใต้จมูก ให้ตายเหอะ
“ไม่เรียกโดนอีกนะ ทีนี้จะไม่ใช่แค่หอมแก้มแล้ว”
. . . เหมือนมันจะกัดฟันพูด “พี่ . . ขุน”
โอ้ยยย ย. . ได้ยินแบบนี้แล้วมีกำลังใจขึ้นมายังไงไม่รู้ว่ะ . . “ไม่ได้ยิน”
“พี่ขุน”
“พี่ขุนครับสิ”
“พี่ขุน . . ครับ”
“ดีมาก”
“ปล่อยได้ยัง”
ผมปล่อยก็ได้ . .ผมปล่อยมันและกลับมานั่งในท่าเดิม ไอ้ไนท์กระแอม แล้วลุกขึ้นเดินหนี
“เห้ย มึงจะไปไหนวะ”
“กินน้ำ”
ผมรีบลุกตามออกไป เพื่อที่จะไปหาน้ำให้มันกิน เพราะการที่มันเจ็บนั้นก็ทำให้ผมรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
“เอาน้ำอะไร เย็น ไม่เย็น หรืออุ่น”
ไนท์มันทำหน้าเหมือนเป็นคำถามที่ผมไม่ควรถาม “เย็นดิ”
ผมเปิดตู้เย็นออกมาเทน้ำให้มันทันที แต่ไอ้ไนท์ไม่ได้รอที่จะกินน้ำ มันกำลังเขย่งขึ้นเอาขนมที่วางอยู่บนชั้นวาง นั่นทำให้ผมต้องรีบเดินมาหยิบให้มัน
“อะไรของมึง . . เอ้ย . . อะไรของพี่เนี่ย”
“ก็แขนเจ็บ . . ไปนั่งนิ่งๆไป อยากได้อะไรให้บอก”
“หยิบเองได้ ไม่ต้องมาช่วยไนท์เลยนะ”
ผมชะงักค้างในขณะที่ไอ้ไนท์มันใช้ศอกถองสีข้างของผมให้ออกไปจากทางของมัน . . มันเรียกแทนตัวเองว่าไนท์ . . โหยยยยยยยยยยยยยยยย น่ารักขึ้นมาเป็นกอง
กูฟินว่ะ . . มันหยิบขนมนำเข้าได้สำเร็จและก็เดินผ่านผมไป “หยิบน้ำมาให้ไนท์ด้วยนะ ไนท์ไม่มีมือถือแล้วอ่ะ”
ผมหยิบน้ำให้มันตามที่มันขอ . .
มันนั่งจุมปุกลงบนโซฟา หยิบรีโมทมาเปิดทีวี แกะขนม และก็เคี้ยวแจ้บๆ ส่วนผมวางแก้วน้ำลงแล้วนั่งอยู่ข้างๆ มองดูไอ้ไนท์เคี้ยวขนมและดูทีวีไปพร้อมๆกัน
นี่ผมตกหลุมรักมันแล้วใช่มั้ย . .
ผมบอกปากที่ปกติจะใช้ด่าผม มองจมูกรั้นของมัน มองดวงตาที่ไม่ค่อยสดใสแต่ก็มีประกาย ตัวมันไม่ได้ผอมอะไรมากแต่ก็ไม่ได้อ้วน . . ไม่น่าจะมีส่วนที่ทำให้คนอย่างผมมารักมันได้เลย ถ้าผมจะรักผู้ชายด้วยกัน ผมขอสวยๆแบบธามวงโคบร้าสลีคได้ป่าว . .
แต่ดูเหมือนผมจะเลือกไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ก็ผมดันถูกใจไอ้ร็อตไวเลอร์ปากเสียขี้โวยวายคนนี้ไปแล้วน่ะสิ . .
“จ้องไนท์ทำไม” มันหันมาด่า
“นี่ไม่ได้ไปเรียนเลยเหรอ”
“ปิดคอร์สหมดแล้ว เตรียมสอบไฟนอล”
“สอบเมื่อไหร่”
“อาทิตย์หน้า”
“งั้นวันนี้ . . ไปเที่ยวกัน”
“เห้ย” มันตกใจจนแทบจะทำขนมพุ่งออกมาจากปาก “สภาพไนท์เหี้ย ไม่ไปหรอก”
“ไปเที่ยวกัน กูดูแลมึงเอง”
มันทำหน้าหงิก “ไม่ยุติธรรมว่ะ”
“อะไร”
“ทำไมไนท์ต้องพูดเพราะๆคนเดียวด้วยวะ”
. . ผมลืมตัวไปหน่อย . . “เอ่อ โทษที”
“ . . .”
“พี่ขอโทษนะครับ น้องไนท์” หลังจากนั้นเราสองคนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก ไนท์แอบหลุดยิ้มออกมานิดนึง ส่วนผมกำลังรู้สึกมีความสุขยังไงก็ไม่รู้ มาบ่อยอย่าเบื่อกันนะ
เค้าจะเปิดเทอมแล้ว TT