'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End  (อ่าน 179300 ครั้ง)

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
จันทร์เจ้า ~ น้องท่านเจ้า
ดิน ~~ ท่านเจ้าเก็บมาเลี้ยงเป็นน้อง
ดิน~~ เป็นคนรักกับท่านเจ้า ไม่ได้
ดิน~~ เป็นคนรักกับจันทร์เจ้าได้

อ้าว ยังไง? อะไร? ทำไมฉันงง หรือฉันเข้าใจอะไรผิด บอกฉันที โอวว ม่ายยย  :z3:

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
สงสารเจ้า ที่ต้องเป็นแบบนี้ตรอมใจ แต่เพราะรักมาก ยังตัดใจไม่ได้  แต่ก็เห็นใจธราเหมือนกัน คนที่สับสนไม่รู้จะเลือก ในอดีตยังเลือกไม่ได้ ตอนนี้จำอะไรไม่ได้ ยิ่งแย่
เป็นเรื่องที่หน่วง แต่อยากติดตามตลอดเวลา

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เจ้า ขอแค่อย่างเดียวนะ ถ้าเปิดแล้วพังให้ถอยออกมาจริงๆ ไม่ใช่อยู่ดูแลห่างๆ เราไม่อยากให้เจ้าพังไปมากกว่านี้แล้ว

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
พระเอกเลวแห่งปีไปเลยจ้าาา
หมดคำพูด แย่กว่ามาโปรด+ป๋าพ่ายอีกจ้า

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เจ้าพอเถอะเลิกเถอะเจ้า ร้องไห้น้ำตาเลือดดินก็ไม่รักแบบนี้  :ling2:

ยิ่งอ่านก็ยิ่งเจ็บปวดไปกับเจ้าเมื่อไหร่เจ้าจะยิ้มอย่างมีความสุขสักที ใครไม่รักก็ชั่งเขาแต่ป้ารักเจ้านะ :กอด1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :sad4: พังกันไปเลย

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ออกมาได้ก็ขอให้ออกมานะ
หลังจากฟังเรื่องเล่าไม่ต้องอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นยังไง  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
มีบทหนึ่งที่บอกว่าดินเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกับเจ้า

ครั้งแรกคงเป็นพี่น้องแบบรับมาเลี้ยง ดินขาดเจ้าไม่ได้จึงขอกลับเข้ากรงและรักกันได้จนวางแผนจะใช้ชีวิตด้วยกัน หลังจากนั้นเกิดเหตุให้กลายเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดที่รักกันไม่ได้ ... จี้เคยเล่าว่าพ่อรักดินมากทั้งๆที่เป็นลูกเลี้ยง  จึงขอคิดว่าเจ้ากับดินเป็นลูกพ่อเดียวกัน  ส่วนจันทร์เจ้าอาจเป็นลูกติดของแม่เลี้ยงคนใหม่ของเจ้า....เดาๆๆๆๆๆ
ส่วนบทสนทนาของเจ้ากับจันทร์  ประโยคสั้นๆยังให้รู้สึกได้ว่าจันทร์น่าจะร้าย

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ใจพังไปหมดแล้ว :o12:

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ไรท์รีบมาาาาา..
จิขาดใจแล้วววว...  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
จากนิยายแนวโรคจิต ตามติดยิ่งกว่าเงา กลายเป็นบทเศร้าน้ำตาซึม   อ่านไปแบบระแวงไปจะพลิกไปทางไหนกันอี๊กกก

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์





ยามบ่ายของวันอาทิตย์เป็นวันที่แสงอาทิตย์เจิดจ้า ท้องฟ้าสีครามไร้เมฆ ใบไม้ไม่ไหวติงเพราะไม่มีสายลมโชยพัดผ่าน มีเพียงความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่คอยสร้างความหงุดหงิดใจให้กับผู้คนที่กำลังเดินบนทางเท้าผ่านหน้าคาเฟ่ห์แห่งหนึ่งหน้ามหาวิทยาลัย ซึ่งไอ้เจ้าก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่หัวเสียกับอากาศร้อนในยามบ่าย แต่ก็คงโชคดีกว่าหลายๆ คนที่ต้องเดินทางต่อเพราะตอนนี้มันมาถึงสถานที่นัดหมายเป็นที่เรียบร้อย

กรุ๊งกริ๊ง~

เสียงกระดิ่งที่ประตูดังกังวานเมื่อไอ้เจ้าผลักประตูร้านเข้าไปและแค่เพียงไม่กี่วินาทีความเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศก็ปะทะใบหน้า ขายาวจึงก้าวข้ามธรณีประตูพลางกวาดตามองหาคนที่นัดหมาย เมื่อเจออีกฝ่ายอยู่ที่โต๊ะริมกระจกไม่ไกลจากพุ่มไม้ประดับแล้วก็เดินไปสั่งเครื่องดื่มให้ตัวเองกับพนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์

“นมคาราเมลปั่นเพิ่มวิปครีมครับ”

“ได้ค่ะ นมคาราเมลปั่นเพิ่มวิปครีมทั้งหมด 95 บาทค่ะ” พนักงานแจ้งราคาเครื่องดื่ม ก่อนจะรับเงินที่ไอ้เจ้าให้ไปพร้อมรอยยิ้ม “ให้มาพอดีนะคะ รอรับเครื่องดื่มสักครู่ค่ะ”

“ขอบคุณครับ”

ในอีกสิบนาทีต่อมาไอ้เจ้าก็ผละจากหน้าเคาน์เตอร์ไปที่โต๊ะริมกระจกเมื่อได้เครื่องดื่มมาไว้ในมือแล้ว มันนั่งลงบนโซฟาสีน้ำตาลเข้มตรงข้ามกับคนที่นัดหมายพลางวางแก้วนมคาราเมลลงบนโต๊ะกลางที่ทำจากลังไม้ขนาดใหญ่ ในขณะที่อีกฝ่ายมองตามทุกอิริยาบถของมันด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

จันทร์เจ้าอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์สีเข้ม ดูสะอาดสะอ้านและเรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าน่ารักนั้นขาวใสหมดจด ไม่มีรอยด่างดำหรือรอยตำหนิใดๆ ให้รำคาญตาทำให้ไม่ว่าใครที่พบเห็นต่างก็ไม่อาจละสายตาได้ ซึ่งแตกต่างจากไอ้เจ้าโดยสิ้นเชิง

“ไม่เจอกันนานนะครับพี่เจ้า” จันทร์เจ้าพูดขึ้นเป็นประโยคแรกด้วยน้ำเสียงเล็กหวานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว “พี่เปลี่ยนไปเยอะเลย ไม่เหลือคราบเทพบุตรสักนิด”

“เพราะกูไม่ใช่” ไอ้เจ้าตอบเสียงขรึม ใบหน้าเรียบตึงทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าคนคนนี้

“ก็จริงครับ ผมลืมไปเลยว่าพี่ไม่ใช่เทพบุตร” จันทร์เจ้าไม่ใส่ใจกับสีหน้าและน้ำเสียงของคู่สนทนา กลับยังยิ้มหวานแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไอ้เจ้ารำคาญหู “เพราะพี่เป็นพระเจ้า”

“มึงกำลังคิดจะทำอะไร” ไอ้เจ้าไม่ได้สนใจถ้อยคำเหน็บแนม มันพูดธุระที่อยากจะพูดทันทีโดยไม่เสียเวลา

คนถูกถามเลิกคิ้ว ใบหน้าหวานยังคงเจือรอยยิ้ม “ยังไงนะครับ พี่หมายถึงเรื่องอะไรเหรอ”

“กูใช่คนที่มึงควรเล่นลิ้นด้วยเหรอจันทร์” แววตาเย็นชาของไอ้เจ้ามองคนไม่เจียมอย่างคุกคาม “กูถามก็ตอบ ไม่ใช่ย้อนถามกู”

“ก็ผมไม่เข้าใจจริงๆ นี่ครับว่าพี่หมายถึงเรื่องอะไร” จันทร์เจ้ามีสีหน้าสลดเมื่อถูกดุ ดวงตากลมโตหลุบมองต่ำ “อุตส่าห์ได้เจอกันทั้งที แต่กลับไม่ถามผมสักคำว่าสบายดีไหม”

“เก็บมารยาของมึงไว้ใช้กับดิน” ไอ้เจ้าว่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ความรำคาญแล่นริ้วขึ้นทีละน้อย ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่สามารถทนคุยกับจันทร์เจ้าได้นานเลยสักครั้ง ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วที่คนคนนี้เหมือนรวมเอาความรำคาญใจไว้ในตัวเอง จันทร์เจ้าเป็นทุกอย่างที่ไอ้เจ้าไม่ชอบ ทั้งปากดี ขี้ฟ้องและชอบเรียกร้องความสนใจ “อยู่ต่อหน้ากูไม่ต้องแอ๊บ กูรู้สันดานมึงดี”

“ว้า...กำลังคิดว่ากลับมาเจอกันครั้งนี้จะเป็นน้องที่ดีให้อยู่แล้วเชียว” รอยยิ้มหวานนี้เคลือบยาพิษ แต่นอกเหนือจากไอ้เจ้าแล้วใครจะรู้ ไม่ว่าใครหน้าไหนต่างก็หลงมัวเมาไปกับรอยยิ้มของมันกันหมด

“กูไม่เคยพูดสักทีว่านับคนอย่างมึงเป็นน้อง”

“ก็เพราะเอาแต่พูดแบบนี้ คนอื่นๆ ก็เลยมองว่าพี่เป็นเด็กมีปัญหา” จันทร์เจ้ายกขาขึ้นไขว่ห้างพลางเชิดหน้าขึ้นสบตาไอ้เจ้า “แค่ลูกติดแม่เลี้ยงก็ยอมรับไม่ได้ ผมก็เลยกลายเป็นคนน่าสงสารที่ถูกพี่กลั่นแกล้ง แม้แต่บ้านก็ไม่ให้อยู่ ต้องระเห็จไปอยู่บ้านพักคนงาน กินข้าวกับพวกคนใช้ ใช้ของราคาถูก ทั้งที่ผมก็เป็นลูกของคุณผู้หญิงของบ้าน” ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต ภาพจำที่ไม่น่าจำฉายชัดแม้จะผ่านมานานหลายปีและคนที่เป็นต้นเหตุก็นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความรู้สึกผิด ทั้งที่ความทรงจำที่แสนขมขื่นของจันทร์เจ้าล้วนเกิดขึ้นเพราะคนที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิทั้งสิ้น

จันทร์เจ้าเป็นลูกติด มารดาของเขาแต่งงานกับบิดาของเจ้า จักรพรรดิในตอนที่เขาอายุสิบห้าปี มารดาของเขาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมาหลายปีจนมีนักธุรกิจคนหนึ่งมาติดพัน ทั้งคู่คบหาดูใจกันได้ไม่นานก็ตกลงจะใช้ชีวิตร่วมกันโดยที่เขาก็ไม่ได้คัดค้าน จันทร์เจ้าไม่ใช่เด็กสิ้นคิดที่ชอบทำตัวมีปัญหา เขารู้ว่ามารดาเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนที่ต้องเลี้ยงดูเขาเพียงลำพัง เพราะฉะนั้นหากมารดาจะมีความสุขบ้างเขาก็ไม่คัดค้าน เขาอวยพรและยินดีกับมารดาที่จะมีครอบครัวใหม่ แม้จะกังวลใจเมื่อรู้ว่าทางพ่อเลี้ยงของเขาก็มีลูกติด แต่ก็คิดว่าด้วยความดีของมารดาคงจะเอาชนะใจลูกเลี้ยงได้ ทว่าเมื่อถึงวันที่ต้องย้ายไปอยู่กับครอบครัวใหม่ ความคิดที่ว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีก็มอดดับ จันทร์เจ้ารู้ได้ทันทีเมื่อสบสายตาเข้ากับเด็กผู้ชายตัวผอมสูงที่ใครต่างก็เรียกขานว่าท่านเจ้า ท่านเจ้าคนนี้มีใบหน้าเรียบนิ่ง แววตาเย็นชาไม่ยินดียินร้ายต่อสิ่งใด ในตอนที่แนะนำตัวเพื่อทำความรู้จักก็ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมา มีเพียงเสียงของจันทร์เจ้าและเสียงของเด็กผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างท่านเจ้าเท่านั้นที่ทำความรู้จักกัน เขายังจำได้ดีถึงรอยยิ้มกว้างและฟันรูปกระต่ายของเด็กผู้ชายคนสำคัญของท่านเจ้า เพราะรอยยิ้มนั้นคือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเพียงอย่างเดียวที่ทำให้เขาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนั้นต่อ

ทั้งที่อยากหนีไปให้ไกลแต่เพราะมารดาของเขาและธรายังคงอยู่ที่นั่น แล้วตัวเขาจะไปที่ไหนได้

“กูไม่ได้มาเพื่อพูดเรื่องไร้สาระ” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขัดเมื่อเห็นจันทร์เจ้าดำดิ่งสู่อดีต

“ผมรู้” เสียงหวานตอบกลับ “ทุกเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับดินก็ไร้สาระสำหรับพี่ทั้งนั้น”

“ก็รู้ดีนี่ งั้นมึงก็ตอบคำถามว่ามึงกำลังคิดจะทำอะไร”

“ผมแค่จะทำในสิ่งที่ควรทำ” ดวงตากลมโตฉายแววจริงจัง “ผมมาเอาของของผมคืน”

จันทร์เจ้าคิด...คิดจริงๆ ว่าหากที่นี่เป็นที่ลับตาคน เขาก็คงไม่ได้นั่งสบายๆ อยู่บนโซฟา อาจได้นอนอยู่แทบเท้าด้วยสภาพสะบักสะบอม ท่านเจ้าน่ะอารมณ์ร้าย แค่แววตาอันตรายที่มองจ้องมานั้นก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าคนคนนี้ไม่เคยเปลี่ยนความคิดที่อยากให้เขาตาย

“มึงจะงัดกับกูเหรอจันทร์” แววตาคุกคามจดจ้อง เสียงที่เอ่ยก็เรียบนิ่ง “คิดว่าตอนนี้เป็นอิสระแล้วกูจะจับมึงขังอีกไม่ได้ใช่ไหม”

จันทร์เจ้ารู้ดีว่าเขาไม่มีสิ่งใดจะไปต่อกรกับคนระดับเจ้า จักรพรรดิ แม้แต่พ่อเลี้ยงและแม่ของเขาก็ไม่ใช่ตัวช่วย เขาอยู่ต่างประเทศมาตลอดหลายปีตั้งแต่เกิดเรื่องร้ายแรงในครั้งนั้น ถูกสั่งห้ามออกนอกประเทศ ไม่มีอิสระในการใช้ชีวิต ถูกควบคุมและจับตามอง แค่เพราะคำสั่งของเจ้า จักรพรรดิ คำสั่งของคนที่ชอบทำตัวเป็นเจ้าชีวิตของคนอื่น

“ผมรู้ว่าพี่ทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะแข่งเรื่องไหนผมก็เอาชนะไม่ได้เลย” จันทร์เจ้ายิ้มหวาน มองสบตาท่านเจ้าอย่างไม่กลัวเกรง “แต่มีแค่เรื่องความรักที่ผมจะไม่แพ้”

“ปากกล้าดีนี่” ใบหน้าคมคายเผยรอยยิ้ม แต่แววตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “แต่ขนาดว่ามั่นใจว่าจะทวงคืนได้ก็ยังทำทุกทางเพื่อให้ดินจำมึงได้”

“ผมคิดว่าเขาควรจำได้ว่าอะไรเป็นอะไร” จันทร์เจ้าเน้นย้ำท้ายประโยค อะไรเป็นอะไรที่ว่าคืออาวุธเพียงอย่างเดียวที่เขามี การทำลายเจ้า จักรพรรดิน่ะยากแต่ถ้าหากทำลายคนที่เขารัก นั่นก็เรียกว่าได้รับชัยชนะแล้ว “เขาควรรู้สิว่าที่เขาต้องกลายเป็นคนที่ไม่รู้จักแม้แต่ตัวเองก็พราะพี่ เพราะพี่ต้องการฆ่าผม เพราะคนใจร้ายอย่างพี่ เขาถึงต้องเป็นแบบนี้ แล้วพี่ก็ยังขี้โกง พี่ทำให้เขาลังเลที่จะเลือกผม ลังเลที่จะกลับมาหาผมทั้งที่ระหว่างเขากับพี่มันเป็นไปไม่ได้ พี่จะพาเขากลับไปตกนรกอีกครั้งด้วยความเห็นแก่ตัวของตัวเอง เพราะฉะนั้นเขาก็ควรต้องรู้ เขาต้องจำให้ได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเลือกผมไม่ใช่พี่ ผมจะตัดความลังเลของเขาออกให้หมด แล้วผมก็บอกเลยว่าถ้าครั้งนี้พี่คิดจะทำร้ายผมอีก พี่มีปัญหากับแม่ของพี่แน่”

“มึงใส่ร้ายคนอื่นโดยไม่มีหลักฐานก็ได้เหรอ คิดว่ากูเหรอที่สั่งฆ่ามึง” คิ้วเข้มเลิกขึ้นพร้อมกับที่รอยยิ้มยียวนปรากฏบนใบหน้า “แต่เอาเถอะ มึงจะคิดยังไงก็เรื่องของมึง อยากทำอะไรก็เรื่องของมึง แต่อย่าทำร้ายดิน อย่าฝืนให้เขาจำมึงได้หรือใส่ความทรงจำปลอมๆ ให้เขา กูมาเตือนมึงแค่นี้ ถ้ามึงคิดว่ามีแม่กูคอยคุ้มหัวแล้วจะไม่กลัว มึงก็ลองงัดกับกูก็ได้ แล้วคราวนี้ถ้ามึงทำให้เขาต้องเจ็บอีก...กูจะเป็นคนที่ฆ่ามึงด้วยมือของกูเอง”

“พี่คิดจริงๆ เหรอว่าที่เขาเจ็บมันเป็นเพราะผม” จันทร์เจ้าย้อนถามพลางยิ้มเยาะ “ทั้งที่คนใจร้ายที่ทำให้เขาเจ็บน่ะ...มีแค่พี่คนเดียวต่างหาก”

ร่างสูงของเจ้า จักรพรรดิผุดลุกขึ้นโดยไม่ตอบอะไรกลับไปแล้วหมุนตัวเดินหันหลังไปทางประตูร้านทันทีทั้งที่ยังไม่ได้ชิมรสนมคาราเมลปั่นเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่จันทร์เจ้าก็เอาแต่นั่งนิ่งจมอยู่ในความคิดของตัวเอง

รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีอะไรจะไปสู้กับคนที่ทำตัวเหมือนดั่งพระเจ้า แต่ครั้งหนึ่งก็เคยเอาชนะมาแล้วและครั้งนี้ก็จะไม่แพ้เหมือนกัน

.

.


ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
03:23 PM

OMG: คุณ

OMG: ว่างหรือยัง

D. : อยากให้ว่างก็จะว่างให้

OMG: เอาดีๆ ดิ๊

D. : ดุว่ะ ไปโดนตัวไหนมา

OMG: ตัวไหนก็เรื่องของผม

D. : อ้าว อารมณ์ไม่ดีจริงจังเลยมั้ย

OMG: ตอบคำถามก่อนครับ

D. : ว่าง

OMG: อืม ก็แค่นี้

D. : แล้ว?

OMG: ไปชลบุรีกัน

D. : คือที่กูบอกว่าว่าง ก็ไม่ได้ว่างถึงขนาดจะขับรถไปทะเลนะครับ

OMG: ติดงานเหรอ

D. : มีนัด

OMG: สำคัญกว่าผมมั้ย

D. : ถามมาขนาดนี้กูก็คงต้องไปกับมึงแล้วล่ะ เกิดติสท์อะไรขึ้นมาวะ

OMG: จะพาไปเจอเพื่อน

D. : มึงมีเพื่อนนอกจากไอ้น้องเอ๋ด้วยเหรอ

OMG: ผมน่ะเพื่อนเยอะ

OMG: แต่คุณไปกับผมใช่มั้ย

D. : อือ ไป

OMG: ยกเลิกนัดได้แน่นะ

D. : แน่ กูจะไปดูหน้าเพื่อนมึง

OMG: ดี ไปถึงก็ยกมือไหว้ด้วย หนึ่งในนั้นเคยเป็นกิ๊กผม

D. : สัดเจ้า กวนตีน

OMG: 555

D. : แล้วอยู่ไหน กูกลับห้องตอนบ่ายโมงแต่ไม่เจอมึง

OMG: มาซื้อนมปั่นกินแล้วก็แวะมาหาเอ๋ คุณล่ะ ยังอยู่ห้องอยู่มั้ย

D. : อยู่หอไอ้ซัน มาติวให้มันกับเพื่อนมันต่อ

OMG: เค เดี๋ยวไปรับ

D. : จะมายังไง รถก็ไม่มี

OMG: จักรยานเอ๋ ปั่นสักสองวันคงถึงชลบุรี ไม่งั้นเดี๋ยวหาซื้อรถเอาแถวนี้แหละ เห็นโชว์รูมรถอยู่เหมือนกัน

D. : มึงเมากาวเหรอเจ้า

OMG: เปล่า ทินเนอร์

D. : ไปหาไอ้น้องเอ๋ทีไร ชีวิตมึงมีแต่อบายมุข ไม่ยาดองก็ดมกาว ล่าสุดคือทินเนอร์แล้วไอ้สัด

D. : เจอเมื่อไหร่กูจะล็อคคอตีเข่า ดื้อนัก

OMG: ก็พูดขำๆ เป็นสีสันไปอย่างนั้นเอง

D. : เออ ยังไงก็รีบมา

OMG: ครับ เดี๋ยวส่งคนไปรับ





หลังจากที่จบการสนทนากับธราแล้ว ไอ้เจ้าก็ติดต่อไปหาลุงชัน คนสนิทเพื่อให้ไปรับธราที่หอพักของน้องรหัสของเขา ก่อนจะเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงตามเดิม

“ตั้งแต่มาถึงแล้วที่นายเอาแต่ทำหน้าตาน่ากลัว” ไอ้เอ๋ได้โอกาสทักขึ้นเมื่อเห็นว่าไอ้เจ้าเสร็จธุระเป็นที่เรียบร้อย “มีเรื่องอะไรรบกวนจิตใจของนายอีกหรือเปล่าเพื่อน บอกผมได้นะ ถ้ามันหนักหนานัก ในห้องของผมก็มีกาว ไม่ต้องทำหน้าอยากแจ้งตำรวจแบบนั้น ที่บอกว่ามีกาว ผมน่ะจะชวนนายมาทำงานศิลปะฉีกกระดาษแปะตามรูปเฉยๆ งานศิลปะจะทำให้นายใจเย็นลงนะเพื่อน”

ไอ้เจ้าหลุดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของไอ้เอ๋ คิดไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกมาหามัน เพราะตอนที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับความคิดไม่เข้าท่าแบบนี้ ใบหน้าเอ๋อๆ ของไอ้เอ๋ช่วยได้เป็นอย่างดี “ไม่มีอะไรหรอกเอ๋ พอดีผมเจอหมาเห่าเสียงดังไปหน่อย เสียงของมันน่ารำคาญก็เลยรู้สึกหงุดหงิดไม่หาย อยากเตะให้กลิ้งสักที แต่หมามันก็คงมีเจ้าของ”

“หมาที่ชอบนอนหน้าร้านของชำหน้าปากซอยปะนาย”

“อืม” ตอบรับส่งๆ ไม่รู้หรอกว่าหมาที่ว่านั่นเป็นยังไง ผ่านหน้าปากซอยทีไรก็ไม่เคยเจอสักที

“มันชื่อไอ้เฮงอะนาย” ไอ้เอ๋บอกชื่อหมาที่มันคิดว่าทำให้ไอ้เจ้าหงุดหงิดใจ ก่อนจะสาธยายให้ฟังถึงมิตรภาพอันดีงามของมันกับไอ้เฮง “มันนิสัยดีนะ ชอบวิ่งตามจักรยานของผม กลับหอดึกแค่ไหนก็มีมันวิ่งมาส่ง ผมน่ะซื้อซี่โครงไก่ย่างให้มันกินบ่อยๆ เราก็เลยสนิทกัน นายไม่เตะมันก็ดีแล้วเพื่อนรัก ไม่งั้นผมคงขาดใจ” ว่าแล้วก็ยิ้มกว้างแล้วยกมือนวดไหล่เอาอกเอาใจเพื่อนให้คลายความหงุดหงิดลงไปอีก “เอาอย่างนี้สินาย ต่อไปถ้านายเจอมันอีกนะ นายก็บอกไปเลยว่าเป็นเพื่อนกับเอ๋ หอสีเขียวสุดซอย ถ้ามันรู้ว่านายเป็นเพื่อนผม มันจะไม่เห่านายแน่นายเจ้า แถมจะช่วยเป็นบอดี้การ์ดไม่ให้หมาตัวอื่นวิ่งไล่กัดนายด้วยนะ เพราะหมาของคุณนายบ้านตรงข้ามกับหอผมอะชอบวิ่งไล่ ตัวแค่หน้าแข้งแต่ซ่าฉิบหาย”

แววตาของไอ้เจ้าขบขันก่อนมันจะยกมือขึ้นขยี้หัวฟูๆ ของไอ้เอ๋ให้ยิ่งฟูกว่าเดิม “บอกแล้วมันจะเข้าใจผมเหรอ”

“ไม่งั้นนายก็เอารูปผมให้มันดู” เป็นจริงเป็นจัง

“ตอนที่เอาให้ดูมันจะกัดมือผมมั้ยเอ๋” ไอ้เจ้าก็เล่นด้วย

“งั้นเอาอย่างนี้ ผมจะบอกควั๊นให้ช่วยนายเอง” ไอ้เอ๋รีบแนะวิธีที่ง่าย เพราะก็เห็นด้วยกับไอ้เจ้าว่าก่อนที่ไอ้เฮงจะได้ดูรูป ไอ้หมาตัวดีคงกัดนิ้วไอ้เจ้าเข้าเสียก่อน “ควั๊นน่ะเป็นมิตรกับสัตว์โลก ไอ้เฮงไม่เคยเห่าเลยตอนที่ควั๊นแว๊นมอเตอร์ไซค์มารับผมไปมอ”

“เมื่อไหร่เอ๋จะเรียกชื่อเพื่อนถูก” ไม่รู้ว่าการเรียกควั๊นมันง่ายตรงไหน

“ก็เรากลายเป็นแก๊งเสียงสูงแล้ว ผมไม่เรียกนายว่าเจ๊าก็ดีเท่าไร”

“เจ๊านั่นฟังดูเข้าที” รสนิยมของไอ้เจ้าไม่เคยมีใครเข้าใจ

“แต่ควั๊นว่าไม่ค่อยเหมาะ” แม้แต่ไอ้เอ๋เพื่อนรักของมันก็ตาม “ผมก็คิดว่าไม่”

“แล้วควั๊นมันเหมาะกว่าตรงไหน”

“นั่นสิ” ไอ้เอ๋คิดตาม ที่จริงการเรียกชื่อเพื่อนอีกคนด้วยเสียงสูงนั้นก็ออกเสียงยากเอาการ “หรือเราจะเป็นแก๊งคนรวยดีอะนาย นายเป็นรวยเบอร์หนึ่ง ควั๊นเป็นรวยเบอร์สอง”

“พวกเรารวยเหรอเอ๋” ไอ้เจ้าเลิกคิ้วถามแล้วชี้แจงข้อเท็จจริง “เริ่มจากนายเลย นายขี่จักรยานที่ยางแบนบ่อยๆ ยางนอกยางในสึกหรอก็ไม่ยอมเปลี่ยน ตะกร้าหน้ารถก็พังเพราะชอบเอาไปชนต้นไม้ ขวัญก็ขี่มอเตอร์ไซค์เก่าๆ บางทีก็ไปรับจ๊อบรับส่งลูกค้าเพื่อเป็นค่าน้ำมัน ส่วนผมก็เดินหรือไม่ก็อาศัยรถเมล์ฟรี อาหารโปรดของพวกเราคือข้าวราดแกง นัดปาร์ตี้กันที่ซุ้มยาดอง แต่แก๊งคนรวยน่ะต้องมีรถคันละหลายล้านขับ กินข้าวร้านหรูๆ ใส่เสื้อผ้าแพงๆ ใช้ของแบรนด์เนม จะปาร์ตี้ทีหนึ่งก็กินเหล้านอก กินไวน์อย่างดี วิถีคนรวยอะไม่เคยง่าย”

“โห ยากจริงด้วยนาย ถ้าผมทำอย่างนั้นแม่จ๋าคงฟาดผมน่องลายแน่” ไอ้เอ๋ยิ้มแหยพลางรู้สึกขยาดวิถีคนรวยที่ไอ้เจ้าสาธยายให้ฟัง “คนงานในโรงงานน้ำจิ้มไก่ของแม่จ๋าต้องทำงานกันแบบไม่ได้พักถ้าผมอยากซื้อรถซุปเปอร์คาร์สักคัน”

“นั่นแหละ แก๊งคนรวยไม่เหมาะกับเราหรอก”

“แต่นายรวยนี่นายเจ้า” ไอ้เอ๋แย้ง “นายบอกว่าที่เป็นเพื่อนกับควั๊นได้เพราะเจอกันที่งานเลี้ยงผู้ถือหุ้นบ่อน้ำมันที่ต่างประเทศ”

ไอ้เจ้าหัวเราะ “นายเชื่อเหรอเอ๋”

“อ้าว นายโกหกเหรอ” ไอ้เอ๋เอียงคอมอง เบิกตาโตเท่าไข่ห่าน

“อือ ผมเจอขวัญที่ซุ้มยาดองที่ซอยแรกข้างประตูมอต่างหาก”

“โอ้โห...แล้วนายก็สร้างสตอรี่ซะใหญ่โต”

“ขอผมรวยบ้างสิ” ไอ้เจ้ายกยิ้มเมื่อเห็นไอ้เอ๋มองมาตาใสแป๋ว “จะเป็นแฟนกับธราได้ก็ต้องหล่อต้องรวย”

“จะเป็นแฟนกับใครสักคนก็ต้องใช้ใจมั้ยนาย” ไอ้เอ๋ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของไอ้เจ้า “เพราะถ้าคนมันใช่อะ ต่อให้เป็นขอทานเขาก็รัก แต่ถ้าคนมันไม่ใช่ ต่อให้เป็นพระเจ้าเขาก็ไม่รัก”

“เนี่ย นายตอกย้ำเพื่อน”

“ก็ผมไม่ชอบใจนี่” ไอ้เอ๋บอกตามตรง สีหน้าของมันก็เป็นตามที่พูด “นายน่ะควรมีความรักดีๆ แทนที่จะเป็นของตายของธรา”

“เอ๋ห่วงผมเกินไปแล้ว” ไอ้เจ้าไม่ได้โกรธเลยแต่กลับยอมรับความเป็นห่วงของไอ้เอ๋ด้วยใจจริง “อย่าคิดมากสิ”

“ผมน่ะนอนไม่หลับมาหลายคืน เอาแต่คิดว่านายจะเสียใจอยู่มั้ยนะ จะเหงาอยู่คนเดียวมั้ยนะ” ไอ้เอ๋ไม่ได้โกหก ซึ่งไอ้เจ้าก็ดูออกเพราะขอบตาไอ้เอ๋ก็เริ่มดำคล้ำ จากเด็กอนามัยนอนก่อนเที่ยงคืน กลับคอยทักไลน์มาหาไอ้เจ้าตลอดว่าโอเคไหม ไหวหรือเปล่า

“บอกแล้วไงว่าถ้าอยู่คนเดียวไม่ไหวจะมาหานายทันที”

“พูดแบบนี้แต่ก็ไม่เคยมา” ไอ้เอ๋ย่นจมูกใส่ “ผมคิดแล้วนะนายเจ้า ผมจะยังไม่มีแฟนหรอกถ้านายยังไม่มีความสุข ผมจะไม่ทิ้งนายไว้คนเดียว เพราะผมมีนายเป็นเพื่อนคนสำคัญ ถ้านายโสด ผมก็จะโสดไปกับนาย”

“เพื่อนรักเพื่อนตายของผมจริงๆ” ไอ้เจ้าลูบหัวไอ้เอ๋ด้วยความเอ็นดู ถ้านับอายุแล้วไอ้เอ๋ก็เป็นน้อง เป็นน้องที่น่าเตะน่าถีบในบางเวลาเพราะความเมากาวของมัน แต่ก็เป็นน้องที่น่าปกป้อง ไอ้เอ๋เป็นคนไม่มีพิษไม่มีภัย ความคิดของมันบริสุทธิ์ ไม่คิดร้ายต่อใคร นั่นทำให้ไอ้เจ้าพึงพอใจที่จะอยู่ด้วย ที่บอกว่าตัวเองเป็นหลุมหลบภัยให้ไอ้เจ้าไอ้เอ๋ก็ไม่ได้โม้เลยสักนิด “ว่าแต่ผมต้องบวชให้ไอ้หมอแพร์มั้ยที่ทำให้เอ๋คิดจะโสด”

คำหยอกเย้าทำให้ไอ้เอ๋หูแดง มันเป็นคนดูง่ายจนนึกห่วง “อย่าพูดถึงซี่”

“ยังเขินไม่หายอีก แค่โดนจูบเอง”

“ก็คราวนี้ไม่ใช่แค่ที่ปากนี่”

“หืม”

“ไม่รู้ๆ ๆ ๆ ๆ ห้ามถามผมอีกนะ ผมจะไปรดน้ำน้องตะวันแล้ว” ว่าแล้วก็ชิ่งหนีทันที ไม่อยู่ให้ไอ้เจ้าได้ซักไซ้ ไอ้เอ๋หนีไปที่ระเบียงพร้อมกับบัวรดน้ำ ส่วนน้องตะวันที่ว่าก็คือต้นดอกทานตะวันที่ไอ้เอ๋เฝ้าฟูมฟักเป็นอย่างดี

ไอ้เจ้าหัวเราะกับท่าทีของไอ้เอ๋ คิดไว้ว่าหลังจากนี้คงต้องหาโอกาสไปซักฟอกไอ้หมอแพร์ เพราะหลังจากคืนที่ไปร้านเหล้าด้วยกันก็ไม่ค่อยได้เจออีกเลย ฝ่ายนั้นเรียนหนักอีกทั้งยังเร่งเก็บเคส เห็นธราหัวฟูจมอยู่กับกองหนังสือแล้ว ไอ้หมอแพร์ก็คงมีชะตากรรมไม่ต่างกัน มันจึงหลุดรอดการซักฟอกมาจนถึงทุกวันนี้

ไอ้เจ้านั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ เปิดเช็กอีเมลและติดตามข่าวธุรกิจเหมือนที่ชอบทำเป็นประจำอีกพักใหญ่ ก่อนจะบอกลาไอ้เอ๋ว่าจะไปทำธุระต่อเมื่อลุงชันติดต่อเข้ามาบอกว่าจอดรถรอที่หน้าหอพักแล้ว ไอ้เจ้ารีบออกจากห้องแล้วลงไปชั้นล่าง พอเดินไปถึงรถที่จอดคอยท่าก็เห็นว่าธรานั่งอยู่ที่เบาะหลัง เขาหอบเอาหนังสือเล่มหนาสองสามเล่มมาด้วย

“ทำไมมาช้าล่ะครับ” ถามพลางขึ้นไปนั่งเคียงข้างธรา

“รถติดครับ” ลุงชันเป็นคนในคำตอบ “อีกอย่างลุงหลงทางเพราะไม่ชินทางเท่าไร กว่าจะไปรับคุณชายได้ก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง”

“ทางเข้าหอไอ้ซันมันซับซ้อน” ธรารีบอธิบาย “อยู่ลึกในซอกในซอยเพราะราคาถูก ทางมันแคบด้วย รถยนต์ก็ผ่านลำบาก มึงอย่าตำหนิลุงนะเจ้า กูไปสองสามครั้งแล้วก็ยังหลง”

“เจ้ายังไม่ได้ว่าอะไรเลย” ไอ้เจ้าเผยรอยยิ้ม แววตาขบขัน “แค่ถามเอง”

“ก็มึงเหมือนจะเหวี่ยง แล้วปกติเวลารอนานมึงเหวี่ยงตลอด”

“เป็นคนหน้านิ่งอยู่แล้ว” ไอ้เจ้าแย้ง “ว่าแต่เวลาที่รอคุณอะ เจ้าเคยเหวี่ยงเหรอ”

“ก็...ไม่เคย” ธราตอบเสียงอ่อย เขาเถียงไม่ได้เพราะความจริงแล้วไอ้เจ้าไม่เคยบ่นแม้ว่าจะต้องรอเขานานแค่ไหน

“ไม่เปลี่ยนเลยนะครับ” ลุงชันที่กำลังตั้งอกตั้งใจขับรถเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ธราเห็นผ่านกระจกมองหลัง “ไม่เคยโกรธคุณชายได้สักที”

ธรารู้สึกเก้อเขินกับสรรพนามที่ถูกเรียกขาน เขาเคยทักท้วงแล้วว่าให้เรียกเขาแค่ชื่อก็ได้แต่ลุงชันก็ทำเพียงแค่ส่งยิ้มมาให้ ไม่ได้รับปากว่าจะทำตาม

“ดูทำหน้าเข้า” ไอ้เจ้าเห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนใจของธราแล้วก็ยิ้มขำ “ให้ลุงเขาเรียกไปเถอะ เพราะเขาก็เรียกคุณแบบนี้มาตั้งแต่คุณเด็กๆ แล้ว”

คิ้วเข้มมุ่นเข้าหากันพลางสบตามองคนพูด “งั้นเหรอ”

“อืม” ไอ้เจ้าพยักหน้า ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดรูปภาพให้ธราได้ดู “ผมขอให้เพื่อนถ่ายจากอัลบั้มรูปที่คอนโดฯ” ว่าแล้วก็จิ้มนิ้วไปบนรูปของคนสามคนที่กำลังยิ้มกว้างให้กับกล้อง เด็กชายตัวผอมสูงยิ้มกว้างตาหยีอยู่ทางซ้ายของรูป มือผอมจับมือกับเด็กชายตัวอวบขาวซึ่งกำลังยิ้มกว้างจนเห็นฟันกระต่ายและพื้นที่ข้างกันก็มีชายหนุ่มวัยกลางคนในชุดสูทสีสุภาพนั่งอยู่บนเก้าอี้บุนวมสีครีม สถานที่ในรูปคงจะเป็นสตูดิโอถ่ายภาพที่ถูกเซ็ตไฟและฉากไว้อย่างลงตัว “คนนี้คือลุงชัน คนนี้คือดินและนี่...”

“มึงเหรอ”

“อืม”

ธราไม่อาจอธิบายความรู้สึกของเขาในตอนนี้ได้ เขามองเด็กผู้ชายในภาพสลับกับตัวจริงในปัจจุบันอยู่หลายครั้ง แต่ละครั้งก็ขมวดคิ้วเพราะกำลังพยายามนึก ค้นเข้าไปในความทรงจำของตัวเอง ทว่าจนแล้วจนรอดก็ไม่รู้สึกคุ้นเคยเสียที

“ไม่ต้องพยายามจำให้ได้หรอกดิน คุณอย่าฝืนดีกว่า เดี๋ยวจะปวดหัวเปล่าๆ เพราะความเครียดไม่ดีต่อร่างกาย ปล่อยตัวให้สบายๆ ให้ทุกอย่างเป็นไปตามเรื่องตามราวของมัน” ไอ้เจ้าบอกเสียงนุ่ม แววตาของมันเต็มไปด้วยความห่วงใย “และที่ผมทำอย่างนี้ ผมแค่คิดว่าคุณจำเป็นต้องรู้ว่าใครเป็นใครและใครเคยอยู่ในชีวิตของคุณบ้าง ทั้งลุงชันและเพื่อนที่ผมกำลังจะพาคุณไปเจอก็คือคนที่เคยอยู่ในอดีตของคุณเหมือนกันกับผม คุณอาจจะรู้สึกคลางแคลงใจและเอาแต่ตั้งคำถาม แต่ไม่ว่าคุณจะคิดหรือรู้สึกอะไรก็ตามก็อย่าปิดกั้นความคิดที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นไปได้” ไอ้เจ้ายิ้ม เป็นรอยยิ้มน่ามองเหมือนกับเด็กชายในรูปภาพ “ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่อยู่ในกล่องแพนโดร่าของผมอาจจะไม่ได้ช่วยให้คุณจำอะไรขึ้นมาได้เลย ซึ่งถ้ามันเป็นอย่างนั้น คุณจะตัดสินใจอย่างไรผมก็เคารพการตัดสินใจของคุณ เพราะสำหรับผมแล้วการที่คุณจำได้หรือจำไม่ได้ มันไม่แตกต่างกันนักหรอก”

“ทำไมมันจะไม่ต่าง เพราะถ้าเมื่อก่อนกูเคยรักมึงมาก...”

“งั้นถ้าคุณจำได้ว่าเราเคยรักกันมากแล้วมันจะเป็นยังไงเหรอดิน” ไอ้เจ้าถามตัดบท ไม่ปล่อยให้ธราได้พูดจนจบประโยค “มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าคุณจำได้แต่คุณไม่ได้รู้สึก ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกันอยู่ดี”

“แล้วมึงจะอยากให้กูรื้อฟื้นความทรงจำทำไม ถ้าคิดว่ายังไงผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม มึงอยากให้กูจำได้ไม่ใช่เหรอว่าเราเคยรักกัน” ธราถามเสียงห้วน รู้สึกหงุดหงิดที่ไม่เข้าใจความคิดของไอ้เจ้าขึ้นมา

“ครับ ผมอยากให้คุณจำได้ แต่ไม่ใช่ด้วยเหตุผลอื่น แต่เป็นเพราะตอนนี้คุณกำลังสับสน” ไอ้เจ้าบอกเสียงเรียบ ไม่อนาทรต่อความหงุดหงิดของธรา “ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าถ้าคุณจำทุกอย่างได้คุณคงเกลียดผม”

เหตุผลของไอ้เจ้าไม่เหมือนจันทร์เจ้า ธรารู้ดีทีเดียวว่าแตกต่างเมื่อสบเข้ากับแววตาเย็นชาของมัน “อยากให้กูเกลียดมึงเหรอ” หัวใจของธราปวดหนึบยามที่ตั้งคำถาม “อยากไปจากกูมากนักเหรอเจ้า”

“ผมไม่เคยคิดอยากไปจากคุณเลยและไม่อยากให้คุณเกลียดผมด้วย” ไอ้เจ้าบอกเสียงแผ่ว “แต่เขามาแล้ว เขาคนที่ทำให้หัวใจของคุณรู้สึกในขณะที่ผมทำไม่ได้ ผมเป็นคนขี้โกงที่ผูกคุณไว้ด้วยความผูกพันโง่ๆ ถ้าผมหายไปตอนนี้คุณก็คงเสียใจซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมหวังเอาไว้ ผมไม่อยากทำให้คุณเจ็บ ผมอยากเห็นคุณมีความสุขและผมอยากแน่ใจว่าคุณจะมีความสุขจริงๆ ในวันที่ผมไม่อยู่”

“อย่าพูด...” ธราร้องห้าม “กูไม่อยากคิดถึงวันที่ไม่มีมึง”

“นั่นเพราะตอนนี้คุณไม่ได้เกลียดผม” ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มเศร้า “แต่ผมไม่ใช่คนดีหรอกธรา หลังจากที่คุณจำทุกอย่างได้ ผมจะกลายเป็นคนที่คุณเกลียดที่สุดในโลก”

“กูว่ามึงคงคิดผิด” ธราเอ่ยเสียงแผ่ว เขาดึงมือของไอ้เจ้ามากุมไว้แล้วบีบเบาๆ เพื่อส่งผ่านความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในอก “เพราะมันไม่มีตัวกูคนที่เกลียดมึงอยู่บนโลกนี้หรอก กูมั่นใจว่าไม่ว่าจะเป็นคนก่อนหรือคนนี้ก็ไม่เคยเกลียดมึงเลย”

เป็นไม่กี่ครั้งที่ธราเห็นน้ำตาของไอ้เจ้า น้ำตาหยดเล็กๆ ไหลกลิ้งออกจากดวงตาเรียวคม ก่อนที่เจ้าของมันจะรู้ตัวแล้วรีบซ่อนใบหน้า





‘จากนี้ไป...เราจะบอกรักกันไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม’

‘เราต้องทำเหมือนเกลียดกันจริงๆ เหรอ’

‘ถ้าผมทำได้คุณแม่จะให้เจ้าอยู่กับผมหรือเปล่า’

‘แล้วถ้าผมทำไม่ได้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกแล้วใช่ไหม’

‘แต่ผมไม่ใช่คนเก่งเลย ให้เกลียดเจ้าใครจะทำได้’

‘ใครจะเกลียดคนที่เป็นเจ้าชีวิตของตัวเองลง’

‘ตัวผมที่เกลียดเจ้าไม่มีอยู่บนโลกนี้หรอก’

‘เพราะผมรัก รักมากๆ’





หัวใจของไอ้เจ้าเจ็บแปลบราวกับถูกของแหลมคมทิ่มแทงครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกิดบาดแผลขนาดใหญ่ ถ้อยคำในความทรงจำยังคงดังก้องอยู่ในหัวเหมือนเทปถูกกรอซ้ำ ตอกย้ำความเจ็บปวดให้ยิ่งฝากรากลึก

“เอาเถอะนะ อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลย” กว่าถ้อยประโยคนี้จะหลุดออกมาได้ ไอ้เจ้าก็ต้องใช้ความพยายามอยู่มากโข น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยก็สั่นเล็กน้อยแต่ไม่นานก็กลับเป็นปกติดังเดิม “มาพูดเรื่องของคุณกันต่อดีกว่า”

ธราพยักหน้า เขายอมให้ไอ้เจ้าหยุดประเด็นที่ยากจะหาข้อสรุปนั้นไว้ ในเมื่อเห็นแล้วว่าคงยากเย็นเกินกว่าจะหาความชัดเจนได้ในตอนนี้ อีกทั้งเขาก็ไม่อาจทนเห็นมันต้องเจ็บปวดกับความทรงจำที่มันจำได้อยู่ฝ่ายเดียว เพราะเขาปลอบมันไม่ได้ ถามไปก็คงไม่ได้ความ คนอย่างไอ้เจ้าไม่ค่อยยอมอ่อนแอให้เห็น ไม่เคยบอกสาเหตุที่ตัวเองเจ็บ แม้แต่น้ำตาก็ถือเป็นของหายาก ซึ่งหลายๆ ครั้งที่ธราคิดไปเองว่าความเจ็บปวดและความเสียใจของมันเกิดขึ้นเพราะคนอื่น คนอื่นที่มันบอกว่าเป็นแฟนเก่าที่ไม่สามารถลืมได้ทำให้เขาตีโพยตีพายจนทะเลาะกันไปหลายหน แต่พอมารู้ว่าแท้จริงแล้วนั้นแฟนเก่าที่ว่าก็คือตัวเขาคนก่อน นั่นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยจนพานอยากชกหน้าตัวเองขึ้นมา

“ที่จริงผมศึกษาอาการของคุณมาเยอะเหมือนกัน ในกรณีของคุณมันเกิดขึ้นทั้งการที่สมองได้รับการกระทบกระเทือนและภาวะทางสภาพจิตใจ ในวันแรกที่คุณได้สติแล้วจำใครไม่ได้ ผมก็คุยกับหมอเจ้าของไข้ของคุณทันที” ไอ้เจ้าหยุดพูดเมื่อธรามองหน้ามันราวกับกำลังมีคำถามเป็นร้อยๆ ข้ออยู่ในหัวของเขา

“วันนั้นมึงอยู่ด้วยเหรอ”

“ครับ” ไอ้เจ้ายอมรับพลางพูด “ผมอยู่หน้าห้องของคุณตลอด ผมเฝ้าอยู่ทุกวันก่อนที่คุณจะหายตัวไป”

“พ่อให้ย้ายโรงพยาบาล” ธราบอกพลางนึกทบทวน “ตอนนั้นครบหนึ่งเดือนพอดีแล้วอาการกูก็ดีพอที่จะย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลของเพื่อนพ่อ เขาเป็นหมอที่เชี่ยวชาญทางด้านสมอง น่าจะดูแลอาการของกูได้ดีกว่า”

“หึ” ไอ้เจ้าทำเสียงในลำคอ แววตาขุ่นเมื่อนึกถึงภาพตัวเองวิ่งเป็นบ้าเป็นหลังเพื่อตามหาธราในโรงพยาบาล “ย้ายไปไกลถึงไหน นอกโลกเหรอ ทำไมตอนนั้นผมหาคุณไม่เจอ”

“มึงกำลังหงุดหงิดอยู่หรือเปล่าเจ้า”

“อืม” ไอ้เจ้ารับคำพลางพรูลมหายใจเพื่อข่มโทสะที่กำลังแล่นริ้วขึ้นทีละนิดทีละน้อย “นิดหน่อยครับ พอเข้าใจอะไรๆ แล้วก็หงุดหงิดขึ้นมา”

“แล้วคุยกับหมอว่ายังไง” ธรารีบเปลี่ยนประเด็นเพราะแววตาของไอ้เจ้าฉายแววอันตรายไม่ต่างจากหมาบ้า

“อ้อ...เขาบอกว่าสมองของคุณได้รับการกระทบกระเทือน คงใช้เวลาสักครึ่งปีหรือนานกว่านั้นหน่อยที่ความทรงจำจะค่อยๆ กลับมาแต่ก็อาจจะไม่เกินหนึ่งปีซึ่งหมอก็ตอบแน่ชัดไม่ได้ ในระหว่างนั้นก็ต้องมีคนคอยช่วยกระตุ้นความทรงจำของคุณด้วย” ไอ้เจ้าจับจ้องที่ใบหน้าของธรา “แต่ผมคิดว่าคุณไม่มี”

“อืม หลังออกจากโรงพยาบาลกูก็อยู่คอนโดฯ คนเดียวมาตลอด พ่อกับแม่ก็ไม่ได้อยู่ด้วย พวกเขาอยู่ต่างประเทศซะส่วนใหญ่ นานๆ ถึงจะบินกลับมาที”

บิดาและมารดาของธราเป็นนักธุรกิจ ทั้งสองคนใช้ชีวิตและดูแลธุรกิจอยู่ต่างประเทศ นานครั้งถึงจะบินกลับมา ทำให้ธราไม่ได้รู้สึกผูกพันกับพวกเขานัก หนึ่งเดือนจะโทรคุยกันหนึ่งครั้ง ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบและวางสายภายในไม่กี่นาทีจนธราคุ้นชินที่จะใช้ชีวิตตามลำพัง

“อืม เพราะแบบนั้นผมก็เลยคิดว่าจะลองวิธีของผมดู ตอนนี้ผมมีข้อสมมติฐานอยู่ในใจสองข้อ” ไอ้เจ้าว่าพลางขยับเปลี่ยนท่านั่งหลังจากนั่งอยู่ในท่าเดิมอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมง “ข้อแรกผมคิดว่าเพราะคุณใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ สังคมใหม่ ทำให้ไม่มีใครหรือสถานที่ไหนให้คุณได้ฉุกคิดขึ้นมา แต่สมมติฐานข้อนี้ถูกปัดตกไปเมื่อผมอยู่ตรงหน้าคุณ ผมใช้เวลาสองปีโดยที่ไม่สามารถทำให้คุณฉุกใจคิดขึ้นมาได้ว่าผมเป็นใคร จนเมื่อคุณเจอใครอีกคนที่ทำให้คุณรู้สึก สมมติฐานข้อสองของผมจึงเป็นไปได้มากกว่าข้อแรก” มันหยุดพูด หยุดไปนานหลายนาทีจนธราถามขึ้น

“ข้อสองคืออะไร”

“คุณต้องการลืมผม หัวใจของคุณปิดตายเรื่องของผมเอาไว้” ไอ้เจ้าเผยรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มเศร้าที่ธรานึกอยากให้หายไปสักที เพราะถ้ายิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้ก็อย่ายิ้มเลย “ไม่ยุติธรรมเลยนะว่าไหม เพราะแค่คุณสบตากับเขา ความพยายามสองปีของผมก็ไม่มีความหมาย”

“ขอโทษ” คำขอโทษของธราดังออกมาจากใจ เขารู้สึกอยากขอโทษ อยากขอโทษไอ้เจ้าเป็นพันๆ ครั้ง “ถ้ากูควบคุมความรู้สึกได้ บังคับมันได้ ตอนนี้เราคงมีความสุขด้วยกัน เพราะในโลกนี้คนที่ดีกับกู ตามใจกู ให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับกู ก็มีแค่มึง”

แต่เพราะคุณบังคับมันไม่ได้ ทำให้ไม่ว่าผมจะดีกับคุณ ตามใจคุณ หรือแม้กระทั่งยกทั้งชีวิตของผมให้กับคุณ คุณก็ไม่รักผมอยู่ดี

“ไม่เป็นไรครับ ช่างมันเถอะนะ”

“อย่ายิ้มได้ไหม” ธราอ้อนวอน เขาไม่อยากให้ไอ้เจ้าฝืนอีกแล้ว “ถ้ามันไม่ไหวก็หยุดยิ้มเถอะ”

“ถ้าไม่ให้ผมยิ้ม คุณจะให้ผมร้องไห้เหรอ”

“ร้องสิ ร้องกับกู”

“…”

“ให้โอกาสกูเช็ดน้ำตาให้มึงบ้าง”

“อย่าเลยดิน”

“เจ้า...”

“ต่อให้คุณจะเป็นผ้าเช็ดหน้าที่ดีแค่ไหน ผมก็ไม่ต้องการ”

มีคนเคยพูดไว้ว่าคนที่ทำให้น้ำตาหยุดไหลมักเป็นคนคนเดียวกับที่ทำให้ร้องไห้ แต่ถ้อยความนี้ใช้ไม่ได้กับทุกคน เพราะบาดแผลของคนบางคนก็ลึกจนยากจะเยียวยา



..............TBC..............



ยังอยู่ตรงนี้ถึงแม้จะเหงาและเดียวดาย 

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ปวดตับ สะเทือนไต  :m25:

ออฟไลน์ มุมิมิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เจ็บหัวใจจจจ :hao5:

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
คนพ่อก็บ้ารักลูกเลี้ยง เชื่อลูกเลี้ยง ลูกตัวเองไม่สนใจ

ยืนยันคำเดิมนะเจ้า ไม่ไหวก็ออกมาเถอะ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
พ่อเจ้า พาธราหนีไป เพื่อเปิดทางให้ลูกเลี้ยงเหรอ

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ถ้ารู้ความจริงแล้ว อย่าเกลียดกันได้ไหม  :katai5: กลัวรับไม่ไหวว

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หน่วงมากกกกก

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อยากจะร้องไห้ แต่อ่านแล้วเจ็บจนร้องไม่ออก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
มีคุณแม่ คุณพ่อ คุณแม่เลี้ยง คุณลูกเลี้ยงมาเกี่ยวพันกันหมดเลย
ชีวิตชุลมุนมากๆ เลยเจ้า :katai1:
แล้วจะรักกันกับดินได้อย่างไร ดูซับซ้อนจนมึนไปหมด

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หน่วงอะไรเบอร์นี้คะเนี่ยยยยยย  :hao5:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เจ็บเกินบรรยาย มันปวดใจไม่รู้ใครพูดจริงหรือโกหก ได้แต่รอให้ดินจำได้ว่าอะไรเป็นอะไร :ling2: :ling2:

ออฟไลน์ hikkie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หน่วงมาก ความจริงค่อยๆเปิดออกทีละนิด

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ถ้าวันนึง สุดท้ายแล้วดินจำไม่ได้ ออกมาได้ไหมเจ้า ฮือออออ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เห้ออออออ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จันทร์เจ้า คนหลอกลวง   :z6:
ว่าแต่มีใครซักคนไหม ที่จันทร์เจ้า ไม่หลอกลวงเขา  :hao3:
กับดิน รักดิน ทำให้ดินรักเพราะจะเอาชนะท่านเจ้าหรือเปล่า  :m16:

รอกล่องแพนโดราเปิด ...........ถ้าดินรู้ทุกอย่างแล้ว
ยังไงก็ไม่รักเจ้า  :m15:
เจ้าก็ปล่อยมือจากดินเถอะ  :mew2:
ยังมีคนที่ดีกับเจ้า ทั้งแบบเพื่อนแท้  :mew1:
รักเจ้าอย่างจริงใจแบบคนรัก แต่เจ้าไม่เคยสนใจ   :hao5:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
หนักหน่วง  :z3:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
หน่วงเข้าไป
นี่อินมากจนเก็บไปฝันเลยจ้า ฮ่าาา
เอ็นดูน้องเอ๋

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
นาทีนี้ไม่สงสารใครทั้งนั้นนอกจากตัวเอง  :katai1: :katai1: :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด