'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End  (อ่าน 177951 ครั้ง)

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
อยู่ไปก่อนเจ้า อยู่จนถึงที่สุด แล้วไปแบบไม่ต้องเหลืออะไรทั้งนั้น

มันไม่ใช่รักใช่มั้ย ก็ด้ายยยยย จำคำตัวเองไว้นะดิน

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :pig4:

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
โคตรเจ็บอ่ะ..

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
อ้างถึง
Gee : ความรักของท่าน มันเป็นไปไม่ได้
Gee : ทั้งดินและท่าน ต่างก็รู้เรื่องนั้นดี อย่าให้ใครต้องย้ำเตือนท่านเลย
Gee : เพราะไม่ว่ายังไงท่านก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้


ไอ้เจ้าแค่นยิ้ม ก่อนฟันขาวจะกัดริมฝีปากล่างจนเลือดสีสดไหลออกเป็นทาง

ความจริงที่เปลี่ยนให้ไอ้เจ้ากลายเป็นแค่อดีตคนรัก ความจริงที่ทำให้ธรารับใครคนอื่นเข้ามาในหัวใจ ความจริงนั้นกำลังกัดกินหัวใจของไอ้เจ้าให้ทรมานจนอยากอาเจียนเอาความรู้สึกขยะแขยงที่มีต่อตัวเองออกมา


Gee : น้องชายที่มีสายเลือดเดียวกันยกให้ท่านเป็นคนรักไม่ได้หรอก
ไอ้เจ้ายกกำปั้นขึ้นทุบอกของตัวเอง หนึ่งครั้ง...สองครั้ง...ก่อนขาที่อ่อนแรงจะพาให้ร่างผอมของมันทรุดฮวบลงกับพื้น


Gee : ตอนนี้ความทรงจำที่เป็นตราบาปมีแต่ท่านที่จำได้ คนที่ท่านพร้อมจะตกนรกไปด้วยนั้นเขาลืมไปหมดแล้ว
Gee : ท่านก็ควรจะลืมเสียทีกับความรักที่เป็นไปไม่ได้ของท่าน
Gee : เพราะดิน ธรา ถูกกำหนดให้เป็นได้แค่น้องชายของเจ้า จักรพรรดิตั้งแต่เกิด



ไปอ่านบทนี้ซ้ำใหม่อีกครั้ง
เจ้าหยุดเวลาไว้  แล้วย้อนอดีตกลับมา  อนาคตสองคนก็คือพี่น้องสายเลือดเดียวกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-01-2019 11:20:52 โดย kanj1005 »

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เจ้าๆ  :ling3: :ling3:

ออฟไลน์ mareeyah

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เจ็บจนจุก  :m15: :m15:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
โคตรกั๊ก

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
เจ้า น่ากลัวนะ เดี๋ยวนี้ก็ยังน่ากลัวอีกแบบ
เข้าใจ ความรู้สึกดินหรือยัง รักนะ แต่มันอึดอัด
กับอีกคนมันคงเบาสบายในใจ

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ย้อนกลับมาอ่านใหม่อีกรอบ

รักต้องห้ามชัดๆ

หน่วงใจมาก ดินแกทำงี้ได้ไงอ้ะ เจอเค้าวันเดียวแล้วทิ้ง2ปีเลยหรอ สงสารท่านต้องเจ็บไม่รุ้กี่รอบต่อกี่รอบทั้งๆที่ทำไปก็หวังดีกับดินทั้งนั้น หรือ2ปียังไม่มากพอ บอกตรงๆดินแม่งโคตรใจร้าย ถ้าเลิกกันอย่างน้อยก็อย่าเพิ่งคบใคร ให้รุ้ง่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะไม่ได้ชอบ ไม่ใช่เพราะเจอคนใหม่ที่อาจจะชอบกว่า ฮือออ อยากให้ท่านสมหวัง ท่านรักขนาดนี้ ทุ่มเทขนาดนี้ ดินเป็นความสุขของท่านนะโว่ยยยย ฮืออออออ  ไม่อยากนึกถึงตอนจันทร์กับดินคบกันเลย ท่านนนน ใจพังแน่คราวนี้ ทำไงดี  :hao5:

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 13 ยังไกล





Sunday, 11:30 AM

(กรุ๊ปไลน์) ถ้ารวยก็ออกจากแก๊งเราไป (3)

มั่นคง รักดี: ไอ้เจ้า! ไอ้มดทอระยิ๊ดดดดดดดด!

มั่นคง รักดี: ไอ้เจ้าาาา มึงออกมา มึงออกม๊าาาา

ควั๊นพั๊ด: เป็นไรเอ๋

มั่นคง รักดี: ควั๊นนนนนเพื่อนรั๊กกก! นายกำลังถามผมด้วยความห่วงใย

มั่นคง รักดี: นี่สิมิตรภาพที่แท้จริง ผมน้ำตาจะไหลแล้ว

มั่นคง รักดี: //เอ๋นอนร้องไห้จมกองน้ำตา

ควั๊นพั๊ด: เอ๋ตั้งสติก่อนดีมั้ย

มั่นคง รักดี: สติของผมตอนนี้มีครบถ้วนนะเพื่อน อ่านชื่อไลน์ผมแล้วตะโกนดังๆ สามครั้ง

ควั๊นพั๊ด: ตั้งสติ ตั้งสติ ตั้งสติ

มั่นคง รักดี: ควั๊น! นายไม่ใจเลยเพื่อน

ควั๊นพั๊ด: แป๊บนะเอ๋

มั่นคง รักดี: ไปไหนอะนาย

ควั๊นพั๊ด: ไปขอให้ไอ้แฝดนรกของผมสอนวิธีปิดแจ้งเตือนแชตก่อน

มั่นคง รักดี: เฮ้ๆ ๆ ๆ คำว่ามิตรภาพอะ

ควั๊นพั๊ด: งั้นก็เลิกดีดสักที

มั่นคง รักดี: เค๊!

มั่นคง รักดี: ว่าแต่เราคุยกันขนาดนี้แล้วทำไมนายตัวดีที่ทิ้งผมไว้ร้านเหล้าถึงยังไม่โผล่หัวออกมา

ควั๊นพั๊ด: ไปด้วยกันไม่ได้กลับด้วยกันเรอะ

มั่นคง รักดี: ไม่เลยเพื่อนรัก นายตัวดีคนนั้นทิ้งผมไว้กับตัวอันตราย!

ควั๊นพั๊ด: แต่นายยังปลอดภัยใช่มั้ย

มั่นคง รักดี: โผ๊มมมมเกือบเสียตั๊ว!

ควั๊นพั๊ด: ทำไมต้องเสียงสูงวะเอ๋

มั่นคง รักดี: เรามาตั้งแก๊งเสียงสูงกันเถอะเพื่อน

ควั๊นพั๊ด: ยังไง?

เอ๊: ท๊าดาาาา อ่านชื่อไลน์ผม

ควั๊นพั๊ด: มีผัวแล้วดีดเรอะ

เอ๊: ควั๊น! นายถูกปลดออกจากตำแหน่งเพื่อนรัก

ควั๊นพั๊ด: ได้เลยจ้า

เอ๊: ผมล้อนายเล่น @OMG นายตัวดี เปลี่ยนชื่อไลน์เดี๋ยวนี้

ควั๊นพั๊ด: ชื่อเจ๊าคงไม่ดีนะผมว่า

เอ๊: งั้นก็โอ๊เอ๊มจี๊

ควั๊นพั๊ด: พูดจริงนะเอ๋ ตั้งแต่ที่เป็นเพื่อนกับนาย ชีวิตของผมก็ยากขึ้นทันที

เอ๊: ไม่ลับลู้เด้อ

เอ๊: @OMG นายเจ้าาาาา นายเจ้าเพื่อนรักกกกกก





ไอ้เจ้ามองความวุ่นวายในกลุ่มแชตที่มีไอ้เอ๋เป็นตัวก่อกวนแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เมื่อคืนที่ผ่านมาคงเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นกับไอ้ตัวป่วน ตอนนี้มันถึงได้ดีดยิ่งกว่าคนเมากาว ทีแรกก็นึกเป็นห่วง แต่เห็นร่าเริงได้ขนาดนี้ก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว

ร่าเริงขนาดนี้สงสัยได้ลงจากคานสมใจ

เมื่อเปิดอ่านข้อความในกลุ่มแชตเป็นที่เรียบร้อยแล้วไอ้เจ้าก็เงยหน้าขึ้นสนใจวิวทิวทัศน์นอกระเบียงตามเดิมโดยไม่คิดจะตอบกลับข้อความแต่อย่างใด

“เสียงแจ้งเตือนดังรัวเลยนะ” ธราที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังของไอ้เจ้า คิ้วเข้มของเขาขมวดมุ่นด้วยความสงสัย ในขณะที่ไอ้เจ้าก็หันกลับมามองเขาพลางเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ “คุยกับใคร”

“เอ๋ป่วนในกลุ่มแชต” ไอ้เจ้าให้คำตอบ “โทษทีนะ คงรบกวนสมาธิของคุณ”

“นิดหน่อย” ธราว่าพลางลุกเดินจากเก้าอี้แล้วเดินไปหาคนที่นั่งทอดอารมณ์มองวิวทิวทัศน์อยู่ที่โซฟาเบดปลายเตียง “ไม่ได้คุยกับคนอื่นก็ดีแล้ว”

“หวงเหรอครับ” แสร้งถามทีเล่นทีจริง

“อืม หวง” แต่คนตอบกลับตอบเสียงแผ่วด้วยประโยคที่ทำให้หัวใจเต้นแรง อีกทั้งยังมองไอ้เจ้าด้วยแววตาที่จริงจัง “ได้ใช่มั้ย”

ไอ้เจ้าไม่ตอบ ร่างผอมของมันลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เผชิญหน้ากับธราที่มีความสูงไล่เลี่ยกัน แววตาว่างเปล่าที่ตีความไม่ออกนั้นทำให้คนถูกมองนึกหวั่นใจ “ถ้าคุณต้องการ ผมก็ให้ได้ทั้งนั้น”

“ให้ลืมแฟนเก่าก็ทำได้เหรอ”

ความต้องการของธราทำให้ไอ้เจ้าคลี่ยิ้ม รอยยิ้มที่ทำเพียงแค่ยกมุมปากขึ้นนั้นไม่อาจทำให้ธรายิ้มตามได้ “อย่าพูดเรื่องนี้เลยที่รัก เพราะไม่ว่าผมจะลืมหรือไม่ลืม มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร”

ไม่มีประโยชน์...ในเมื่อผมไม่ใช่คนที่ถูกคุณรัก

“ทำไมจะไม่มี” ธราย้อนถาม คำถามของเขาช่างอันตรายต่อหัวใจของไอ้เจ้าเหลือเกิน ถ้อยความที่ทำให้คิดไปไกลแต่ก็ไม่กล้าตีความคิดเข้าข้างตัวเอง ตอนนี้ไอ้เจ้าคิดแค่ว่าที่ธราพูดแบบนี้ก็คงแค่อยากรั้งมันไว้ เพราะต่อให้มันจะรับปากไว้แล้วว่าจะไม่ไปไหนแต่ดูเหมือนเขาไม่เชื่อแม้แต่น้อย หลังจากที่พูดคุยกันแล้วไอ้เจ้าก็ถูกเขากอดไปจนถึงเช้า เขากอดแน่นราวกับกลัวว่าเมื่อตื่นขึ้นมาไอ้เจ้าคนนี้จะหายไป

“เจ้า กูพูดจริงๆ” แววตาของธราแฝงความอ้อนวอน เขายอมรับว่ากลัวเหลือเกิน ความกลัวว่าจะไม่มีไอ้เจ้าอยู่เคียงข้างประดังประเดเข้ามาเมื่อได้พูดบอกความรู้สึกออกไป เขาบอกมันว่าไม่ได้รัก แต่เขาก็ยังคงอยากเป็นคนสำคัญ ยังอยากอยู่ในสายตาของมัน ยังอยากให้มันอยู่กับเขา...อยากเห็นแก่ตัวเก็บมันไว้ ทั้งที่ไม่สามารถระบุสถานะให้ได้ แต่ก็ยังอยากจะอยู่ด้วยกันต่อ “เป็นเหมือนเดิมได้ไหมวะ เป็นเหมือนสองปีที่ผ่านมาของเรา”

สองปีที่ผ่านมามีค่ากับธรามากแค่ไหน ไอ้เจ้าก็ยังอดสงสัยไม่ได้ ทั้งที่เป็นสองปีที่ไม่ได้หวานชื่น เป็นสองปีที่ไอ้เจ้ายัดเยียดตัวเองเข้าไปในชีวิตของธราโดยที่เขาก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามด้วย แต่ตอนนี้เขากลับบอกว่าให้เป็นเหมือนเดิม

ตลกดีเหมือนกัน...ไม่รู้ว่าคุณจะเล่นตลกกับความรู้สึกของผมไปจนถึงเมื่อไหร่นะดิน

“ผมจะพยายาม” ไอ้เจ้ารับปากด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง หัวใจปวดหนึบแต่ไม่อาจแสดงอาการออกทางสีหน้า ความเศร้าสร้อยถูกกลบฝังไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดและเลือกที่จะเผยความเฉยชาออกมา “ทำตามคำขอของคุณ" ริมฝีปากบางบวมแดงเพราะมีแผลจากการขบกัดโดยแรงนั้นถูกฟันขาวคมกัดย้ำซ้ำๆ หลังจากที่เอื้อนเอ่ยถ้อยคำออกไป

ยากแค่ไหนผมก็ต้องทำ ถ้าผมยังพอจะมีหวังก็อยากจะอยู่กับคุณไปจนถึงที่สุด

“อย่ากัด” ธราเตือนเสียงดุพลางใช้นิ้วบีบริมฝีปากของไอ้เจ้าเบาๆ เพื่อให้ฟันคมคลายแรงออก เห็นสีแดงช้ำของกลีบปากบางแล้วก็นึกห่วง “แผลใหญ่ขนาดนี้ยังไม่พออีกหรือไง”

“โทษที” คนถูกดุบอกเสียงแผ่ว “ผมไม่รู้ตัว”

ธราถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะรั้งท้ายทอยของไอ้เจ้าเข้าหาเพื่อให้ใบหน้าคมคายของมันอยู่ในระยะที่ริมฝีปากของเขาจะสามารถทำตามความปรารถนาได้ ซึ่งไอ้เจ้าก็ไม่ได้ขัดขืน มันโอนอ่อนตามธรา ยอมให้มือหนาได้กระทำตามใจและเมื่อกลีบปากบางเข้าชิดใกล้ก็ถูกเขาครอบครอง เขาจูบผะแผ่ว ใช้เรียวลิ้นเลียปากแผล ในขณะที่คนถูกกระทำก็ทำเพียงแค่ยกสองแขนขึ้นโอบรั้งรอบคอหนาให้เข้าใกล้มากขึ้นเท่านั้น

“อือ..อ” ไอ้เจ้าครางแผ่ว กลีบปากสีสวยถูกบดคลึงเบาๆ ธราอ่อนโยนกับจูบในครั้งนี้ เขารุกล้ำอย่างนุ่มนวล ไม่บดขยี้ ไม่ผลีผลาม เขาดำเนินความต้องการไปอย่างเชื่องช้า ป้อนความหวานให้อย่างต่อเนื่อง พอเห็นว่าไอ้เจ้ากำลังจะทานทนต่อสัมผัสของเขาไม่ไหวก็แกล้งผละออก แต่อีกไม่กี่วินาทีก็แนบชิด ครั้งแล้วครั้งเล่าจนไอ้เจ้าได้แต่อ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนของเขา

“มึงสำคัญกับกูนะเจ้า” ธรากระซิบเสียงพร่าในขณะที่มือข้างหนึ่งของเขากำลังสอดเข้าใต้เสื้อยืดตัวบาง ส่วนอีกข้างก็ดึงรั้งให้ร่างผอมนั้นบดเบียดแนบชิด “เพราะฉะนั้นอย่าคิดหายไปเลย”

ไอ้เจ้ารู้ดีว่าธราเป็นคนเป็นแบบไหน เขาทั้งเอาแต่ใจและเห็นแก่ตัว ธราคนก่อนหน้าก็ไม่ได้ต่าง แม้ความจำจะเลือนหายแต่ความใจร้ายของคนคนนี้ก็คงไม่ได้หายไปด้วย เพราะไม่ว่าเขาจะเลือกใครหรือหัวใจจะไม่ใช่ของไอ้เจ้า แต่เขาก็ไม่ยอมให้ไอ้เจ้าหายไป เขาขอร้องให้อยู่กับเขา ไม่ว่าจะในสถานะใดก็ขอให้ไอ้เจ้ายังอยู่ด้วยกัน ให้ไอ้เจ้าทนมองเขารักคนอื่น ทนอยู่กับความใจร้ายและหล่อเลี้ยงไอ้เจ้าด้วยความหวัง

ความหวังที่ทำให้คิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาจะรัก

“อยู่ด้วยกัน” ธราอ้อนวอน ริมฝีปากของเขายังคลอเคลียแนบชิด เขาสัมผัสริมฝีปากแดงช้ำของไอ้เจ้าเรื่อยไปจนถึงลำคอขาวที่เขากำลังฝากฝังร่องรอย “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องอยู่กับกู”

“ต่อให้คุณจะมีคนที่คุณรักด้วยใช่ไหม”

ธราชะงักกับคำถามที่ได้ยิน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขาผละออกห่างผิวเนื้ออ่อนบริเวณลาดคอขาวแล้วมองสบตากับคนตั้งคำถาม ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะพยักขึ้นลงช้าๆ อย่างยอมรับในความเห็นแก่ตัว “อืม ต้องอยู่ เพราะสำหรับกู ไม่ว่าต่อจากนี้จะมีใครเข้ามา ความสำคัญของคนคนนั้นก็ไม่มากเท่ามึงหรอก แต่ตอนนี้มึงไม่ต้องห่วงหรอกเจ้า กูยัง...ไม่คิดจะมีใคร” ในบรรดาความรู้สึกที่กำลังยุ่งเหยิงจนระบุอย่างแน่ชัดไม่ได้นี้ ความรู้สึกที่ไอ้เจ้าคือคนสำคัญของเขากลับเป็นความรู้สึกเดียวที่ชัดเจน เป็นเพียงความรู้สึกเดียวที่ธราให้ความมั่นใจได้

“คงเฉพาะเรื่องนี้ที่คุณไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจริงๆ” ไอ้เจ้าแค่นยิ้ม “ผมรู้สึกเหมือนกำลังกลับไปอ่านหนังสือเล่มโปรดในบทที่ไม่อยากอ่านอีกครั้งเลย”

ธราขมวดคิ้วพลางแย้ง “แต่ยังไงมันก็เป็นหนังสือเล่มโปรดของมึงนี่”

“อืม เป็นเล่มโปรดที่อยากเผาทิ้ง”

“อย่าใจร้ายสิวะ”

ไอ้เจ้ายักไหล่ ทำหน้ายียวนจนธราอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นบีบปลายจมูกโด่งด้วยความหมั่นไส้ เขาไม่ได้ออกแรงบีบมากนักทั้งยังยิ้มจนหน้ายับเมื่อเห็นไอ้เจ้ามองตาดุ

“มันเขี้ยวว่ะ” ว่าแล้วก็ปล่อยมือแต่กลับใช้ริมฝีปากฟัดแก้มของไอ้เจ้าแทน “ทำไมใครๆ ก็บอกว่ามึงหล่อ ไอ้จอมกรี๊ดมึงเหมือนคนบ้า พูดกรอกหูกูทุกวันว่าอยากได้มึงเป็นผัว”

“ก็เขาพูดเรื่องจริง” ไอ้เจ้าได้ทียืด

“ไม่จริงสักหน่อย” ธราไม่เห็นด้วย เขามุ่นคิ้วพลางยกนิ้วขึ้นไล้ไปตามแก้มเนียนขาวของคนในอ้อมแขน “เพราะสำหรับกู...” เขาหยุดพูดแล้วจูบลงบนกลีบปากบาง “มึงน่ารัก”

“ก็แย่ละ” ใช่...แย่ มันแย่ตรงที่หัวใจไม่รักดีของไอ้เจ้าเต้นรัวแรงอย่างไม่เคยหลาบจำ มันเต้นโครมครามทุกครั้งเมื่อถูกเขาให้ความหวัง

“ว่าแต่คุณหิวหรือยังดิน จะเที่ยงแล้ว” ไอ้เจ้าจำต้องรีบเปลี่ยนประเด็น การยังคงปล่อยให้ธรามีโอกาสสร้างความหวังให้คือเรื่องที่ไม่ดีต่อหัวใจในตอนนี้

“เที่ยงแล้วเหรอ” ธราทวนถาม เขาผละออกจากไอ้เจ้าแล้วก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ “จริงด้วย”

“ไปกินข้าวเที่ยงที่ไหนกันดี” ไอ้เจ้าถามความเห็นพลางลอบมองสีหน้าของธรา หัวใจที่เต้นโครมครามก่อนหน้าราวกับถูกทุบด้วยฆ้อนเหล็กเมื่อเห็นความลำบากใจของเขา “หรือคุณมีนัดแล้ว”

“อืม” ธรายอมรับ เลี่ยงสบตากับไอ้เจ้า “โทษทีที่ไม่ได้บอก”

“นัดกับใครเหรอครับ”

“ก็...พวกไอ้จอม”

โกหก

“ครับ ไปที่ร้านไหนกันเหรอ”

คุณน่ะโกหกไม่เก่งเลยที่รัก

“แถวๆ นี้แหละ”

แต่ผมจะเชื่อคุณ

“อ๋อ...โอเค”

เหมือนที่ผมเคยเชื่อมาตลอด

“ตอนเย็นค่อยกินข้าวด้วยกันนะ เลือกร้านโปรดของมึงไว้เลย”

แค่เพราะไม่อยากให้ผมหายไป คุณถึงเลือกที่จะโกหก

“อื้ม”

ธรายกมือขึ้นลูบศีรษะของไอ้เจ้า มือของเขาสั่นเล็กน้อยเพราะความรู้สึกผิดท่วมท้นอยู่ในใจ “ขอโทษ รอกูนะเจ้า เดี๋ยวก็กลับ”

เมื่อก่อนคุณก็พูดอย่างนี้ คุณบอกว่าเดี๋ยวคุณก็กลับมา แต่สุดท้าย...ผมก็รอเก้อทุกที

.

.

“สภาพนายดูไม่จืดเลยนายเจ้า” ไอ้เอ๋เหลือบตามองเพื่อนรักของมันที่มีสภาพอิดโรย ขอบตาดำคล้ำ ผมเผ้าไร้การเซ็ตให้เป็นทรง จากผมทรงคอมม่าที่ทำให้สาวๆ ในคณะฮือฮาในตอนนั้นกลับกลายมาเป็นผมยาวแทบทิ่มตาเกือบบอดในตอนนี้ แต่ไอ้เจ้าก็ไม่ได้ใส่ใจ ลำบากไอ้เอ๋ต้องไปขโมยกิ๊ฟติดผมของแป้งจี่มาติดให้เพราะกลัวเพื่อนจะตาบอดไปเสียก่อน “เกือบหนึ่งสัปดาห์ที่นายทดลองทำตัวเป็นหนุ่มอาร์ต มาดเซอร์ ผมขอบอกตามตรงเลยนะนายว่าไม่เวิร์กอย่างแรง เพราะสภาพนายในตอนนี้ไม่เรียกอาร์ต ไม่เรียกเซอร์เพราะมันค่อนไปทางซากศพ จากที่คิดว่าหล่อเซอร์จะมีสาวกรี๊ด ผมก็จะพลอยยืดไปด้วย แต่เดินไปทางไหนก็มีแต่คนหลบสายตา แม้แต่ยัยตัวดีแป้งจี่ยังแอบมากระซิบบอกผมเลยว่าให้พานายไปตัดผมโกนหนวด”

ไม่มีคำโต้แย้งใดๆ เพราะคำพูดของไอ้เอ๋เป็นจริงทุกคำ ไอ้เจ้าจึงได้แต่คลี่ยิ้มเล็กๆ รับสภาพของตัวเอง “โทษทีนะเอ๋ พอดีว่าช่วงนี้ผมนอนน้อยไปหน่อย”

ไอ้เอ๋มุ่นคิ้ว ก่อนตั้งคำถาม “แล้วนายทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ ล่ะเพื่อนรัก ผับบาร์ก็ไม่เข้า งานพาร์ทไทม์ก็ไม่ทำ อ่านหนังสือหรือทำการบ้านก็ขี้เกียจตัวเป็นขน” สาธยายจนไอ้เจ้าไม่เหลือความดีแต่คนรับฟังก็ไม่ได้โกรธ

“ผมนอนไม่ค่อยหลับ ที่จริงก็เป็นคนหลับยากอยู่แล้วแต่ช่วงนี้มันยากกว่าเดิม”

ไอ้เอ๋มองเพื่อนรักของมันอย่างนึกห่วง “นายมีเรื่องเครียดเหรอ”

“เปล่า” ไอ้เจ้าปฏิเสธ ใบหน้าคมคายที่ถูกเส้นผมบดบังไปเกือบครึ่งส่ายไปมา “ผมติดซีรีส์”

“โอ้โหนาย...ผมนี่เก็บความห่วงใยกลับคืนแทบไม่ทัน”

“ก็บอกหลายครั้งแล้วว่าไม่ต้องห่วง”

ไม่ต้องห่วงหรอก...ผมยังไหว

“แต่ควั๊นว่านายเหมือนคนอกหัก ผมก็บอกควั๊นแล้วว่านายคืนดีกับธรา จะอกหักได้ยังไง แต่ควั๊นก็บอกว่าอาการของนายคืออาการของคนอกหักแน่ๆ” ไอ้เอ๋บอกพลางทำหน้ายุ่ง คิ้วขมวดมุ่นราวกับกำลังต่อสู้กับความคิดของเพื่อนอีกคนในจินตนาการ “ผมน่ะนะไม่เคยมีแฟนมาก่อน ผมมองไม่ค่อยออกหรอกว่านายกำลังรู้สึกยังไง แฮปปี้ดีไหมหรือกำลังต้องการใครสักคนนั่งข้างๆ เพื่อระบายความในใจหรือเปล่า ผมเป็นคนโง่นะนายเจ้า เพราะฉะนั้นถ้านายกำลังเศร้าเสียใจก็อย่ายิ้มออกมาเลย ผมอาจจะช่วยอะไรนายไม่ได้ แต่ที่ตรงนี้จะเป็นหลุมหลบภัยให้นายนะ อะไรก็ตามที่นายแบกมันอยู่แบ่งมาให้ผมช่วยแบกก็ได้ แบกจอบแบกเสียมผมก็แบกมาแล้ว แค่ปัญหาของนายมันจะหนักสักแค่ไหนกันเชียว”

ไอ้เจ้าก้มมองมือตัวเอง มือของมันสั่นเทาในขณะที่ความคิดกำลังแล่นฉิวไปไกล ทว่าริมฝีปากก็ยังคงยิ้ม ใบหน้าคมคายไม่เคยปล่อยให้รอยยิ้มจางหายเลย ราวกับว่าที่กำลังยิ้มคือการปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไร ตอนนี้ยังไหว แต่แท้ที่จริงแล้วกลับเป็นแค่การหลอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“นายติดตามไอจีของธราใช่ไหมเอ๋”

“อือ ผมติดตามเพราะเขาเป็นแฟนนาย ช่วงนี้เขาโพสรูปบ่อยๆ ด้วยผมก็เลยคิดว่านายแฮปปี้ดีซะอีก เวลาเขาโพสรูปผมก็ยังแคปไปแซวนายในแชตกลุ่มอยู่เลยไม่ใช่เหรอ”

รูปภาพในอินสตราแกรมของธราในช่วงนี้มีแต่รูปภาพสวยๆ กับแคปชั่นหวานๆ ราวกับคนกำลังมีความรักซึ่งนั่นทำให้ไอ้เอ๋พลอยดีใจกับไอ้เจ้าไปด้วย คืนดีกันคราวนี้เห็นทีจะมีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับทั้งสองคนทำให้มันก็ไม่ได้นึกห่วง แม้สภาพของไอ้เจ้าจะตรงกันข้ามกับคนที่มีความสุขกับชีวิตก็ตามที ทว่าไอ้เอ๋ก็ปล่อยผ่าน ไม่ได้ตั้งข้อสงสัย จนกระทั่งขวัญพัฒน์ เพื่อนอีกคนที่มารวมกลุ่มด้วยกันไม่บ่อยแต่ก็พูดคุยผ่านทางแชตตลอดนั้นทักขึ้นมา ขวัญพัฒน์บอกว่าไอ้เจ้ามีอาการเหมือนคนอกหัก ด้วยคำทักท้วงนั้นทำให้ไอ้เอ๋นอนไม่หลับอยู่หลายคืนอย่างนึกห่วง

“อืม...ช่วงนี้เขาโพสบ่อย” ไอ้เจ้าว่า สีหน้าเหนื่อยล้าจนไอ้เอ๋จับสังเกตเห็นความผิดปกติได้ “แต่คนที่อยู่กับเขาในรูปไม่ใช่ผม”

ไอ้เอ๋อ้าปากหวอ แม้แต่จะอุทานก็ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา มันทำเพียงแค่อ้าปากพะงาบ งับลมงับอากาศแล้วมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของไอ้เจ้าและก็เป็นครั้งแรกที่เห็นอย่างชัดเจนว่าใบหน้าของเพื่อนรักเต็มไปด้วยความปวดร้าว

“เขาดูรักกันดีหรือเปล่าเอ๋ มีความสุขหรือเปล่า” คำถามของไอ้เจ้าดังขึ้นแผ่วเบา มันสั่นเครือเล็กน้อยในขณะที่คนพูดก็ยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า

“นายไม่ควรยิ้ม” เป็นไอ้เอ๋เสียเองที่น้ำตาคลอเบ้า “ไม่ควรยิ้มตอนที่กำลังเสียใจมากขนาดนี้”

“แล้วผมจะทำอะไรได้ เขาปิดทุกอย่างไม่ให้ผมรู้และเขาก็คงคิดว่าเขาทำได้” ไอ้เจ้ายังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงคงเดิม แผ่วเบาและสั่นเครือ “แต่ผมรู้ทุกอย่าง”

“นาย…”

“ผมคิดว่าถ้าผมหูหนวกตาบอดมันก็คงดีกว่านี้”

“นายเจ้า...”

“อย่าร้องไห้เลยเอ๋ นายไม่ควรร้องไห้แทนผม”

“ก็เพราะนายไม่ยอมร้อง!” ไอ้เอ๋ร้องลั่นทั้งน้ำตา ความรู้สึกโกรธแล่นพล่าน ทั้งโกรธเพื่อนรักที่ยังคงยิ้ม ทั้งโกรธใครอีกคนที่ทำให้รอยยิ้มเพื่อนของมันเศร้าจับใจ “เจ็บขนาดนี้แต่ก็ไม่ยอมร้องไห้! เสียใจอยู่คนเดียวทุกวันแต่ไม่ยอมบอกผมเลย!”

ไอ้เอ๋เป็นคนโง่ แต่เพราะเป็นคนโง่ ไอ้เจ้าจึงรู้สึกสบายใจที่จะอยู่ด้วย “ขอโทษนะเอ๋ แล้วก็ขอบใจมากที่ร้องไห้เพื่อผม”

“ก็เราเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกันนี่” ไอ้เอ๋ว่าพลางสูดน้ำมูกเสียงดัง พอเห็นจมูกแดงๆ ของมันแล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้ “มิตรภาพของเราน่ะจะยาวนานไปอีกหลายปีนายเจ้า ผมบอกเลยว่าต่อให้ใครจะทิ้งนายไป แต่ผมคนนี้จะไม่มีวันทิ้งนายแน่นอน”

ไอ้เอ๋คลี่ยิ้ม ในขณะที่ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มตามและคงเป็นรอยยิ้มแรกในรอบหลายสัปดาห์ที่เผื่อแผ่ไปถึงดวงตาเรียวคมของมัน ขับให้ใบหน้าคมคายกระจ่างน่ามอง

“เหมือนไม่ได้เห็นนายยิ้มนานแล้ว ทั้งๆ ที่นายก็ยิ้มอยู่ตลอด” ไอ้เอ๋พูดขึ้นหลังจากลดโทรศัพท์มือถือลง มันไม่พลาดที่จะเก็บรูปที่ประทับใจเอาไว้ เพราะเวลาไอ้เจ้ายิ้มจนตาหยีนั้นน่ามองมาก ยิ้มเต็มหน้าทีไรดวงตาเรียวคมของมันจะเป็นรูปสระอิคล้ายพระจันทร์เสี้ยว “ผมว่ารูปนี้ต้องขูดเงินจากแป้งจี่ได้มหาศาลแน่ๆ บอกเลยว่าหล่อนน่ะชอบนายมาก ถ้านายเฉดหัวธราทิ้งเมื่อไหร่ก็รับพิจารณาหล่อนไว้ก็ดี หล่อนมั่นคงกับนายนะเพื่อน ขนาดที่ว่าผักปลอดสารพิษของไอ้คิ้มที่ประเคนให้หล่อนทำสลัดทุกวันก็ไม่สามารถสั่นคลอนหัวใจของหล่อนได้”

“นี่นายถูกจ้างมาเท่าไร” ไอ้เจ้าถามอย่างรู้ทันเมื่อไอ้เพื่อนหัวฟูโฆษณาจบ

“แหะ” ไอ้เอ๋ยิ้มแห้ง “ก็ไม่มากไม่มาย แค่สองสามเมา นายอย่าโกรธนะเพื่อน”

“เอาเถอะ ผมไม่โกรธหรอก เพราะผมก็ไม่ได้เสียหายอะไร”

“แต่ผมก็คิดจริงๆ นะนายเจ้า เรื่องของแป้งจี่อะ ผมอยากให้นายรับพิจารณาไว้” ไอ้เอ๋ทำหน้าจริงจังยามพูดจนไอ้เจ้าไม่กล้าขัด เพราะนานทีคนป้ำๆ เป๋อๆ อย่างมันจะเข้าโหมดซีเรียสให้เห็น “ธราเห็นนายเป็นของตายเพราะที่ผ่านมานายไม่เคยสนใจใครเลยนอกจากเขา ผมก็เลยอยากให้นายเปิดโอกาสให้ตัวเองบ้าง ไม่จำเป็นต้องเป็นแป้งจี่ก็ได้ จะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้นขอแค่เป็นคนที่ทำให้นายมีความสุข ผมเชียร์เต็มที่เลย”

“พูดตามตรงว่าผมไม่อยากดึงใครเข้ามาเจ็บ” ไอ้เจ้าเข้าใจความเป็นห่วงของเพื่อนดี แต่ก็เข้าใจอีกเช่นกันว่าเรื่องของความรู้สึกนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการได้ง่าย “ตอนนี้ผมยังไม่เห็นทางที่จะเลิกรักธรา เพราะฉะนั้นผมก็ไม่อยากที่จะดึงคนอื่นเข้ามาในวังวนนี้ด้วย ไม่ควรมีใครมาเสียเวลากับผมหรอกเอ๋ สู้ไปมีความรักดีๆ กับคนที่เขาพร้อมจะดีกว่า”

ไอ้เอ๋ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อได้ฟังไอ้เจ้าพูดจบ มันเข้าใจดีทีเดียวแต่ก็อยากให้เพื่อนรักลองเปิดใจดูสักหน ไอ้เจ้าอาจจะบอกว่าไม่อยากให้ใครเข้าไปติดอยู่ในวังวนความรักที่ไม่สมหวัง แต่ไอ้เอ๋ก็อยากจะบอกเหมือนกันว่ามันก็ไม่อยากให้ไอ้เจ้าติดอยู่ในนั้นเพียงลำพัง วังวนที่ไร้ความหวังไม่ควรมีใครถูกขังไว้แม้แต่คนเดียว

“แล้วนายไม่คิดบ้างเหรอว่าคนที่ตามเข้าไปในวังวนนั้นเขาจะเป็นคนพานายออกมาได้ ธราคือคนที่สร้างวังวนแต่ผมเชื่อว่าต้องมีใครสักคนที่ทำลายวังวนนั้นลงได้ แค่นายให้โอกาส”

“นายเข้าใจผิดแล้วเอ๋” ไอ้เจ้าคลี่ยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ไม่น่ามองดังเดิม “ธราไม่ใช่คนสร้างวังวน”

ไอ้เอ๋เอียงคอมองด้วยความสงสัย คิ้วได้รูปภายใต้ผมหน้าม้าชี้ฟูมุ่นเข้าหากัน “นายกำลังปกป้องธรา”

“เปล่าเลย” ไอ้เจ้าปฏิเสธ “เขาไม่ใช่คนสร้างหรอกเอ๋ เพราะวังวนที่ผมติดอยู่นี้ ผมสร้างมันขึ้นมาเอง”

“ผมไม่เข้าใจ”

“สักวันถ้านายรักใครสักคนมากจนยอมเป็นทุกอย่างให้เขาได้ นายจะเข้าใจเอง”

“งั้นผมก็คงไม่มีวันเข้าใจ” ไอ้เอ๋พรูลมหายใจ สีหน้าเหนื่อยล้าเมื่อนึกถึงความพยายามในการลงจากคานของตัวเอง “ว่าแต่นายจะทนไปถึงเมื่อไหร่”

“คงอีกไม่นานหรอก ตอนนี้เขายังต้องการผม อีกอย่างผมก็อยากเห็นเขามีความสุขจริงๆ ก่อนที่ผมจะไป”

“นายเหมือนคนโง่เลยนายเจ้า”

“ไม่เหมือนหรอกเอ๋” ไอ้เจ้ายิ้มหยัน “เพราะผมน่ะ...คนโง่ตัวจริง”

เพราะไม่ใช่มุขตลกจึงไม่มีใครหัวเราะออกมา ทั้งไอ้เอ๋และไอ้เจ้าต่างนิ่งเงียบ ต่างฝ่ายต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ปล่อยเวลาให้เคลื่อนผ่านจนเมื่อถึงเวลาเข้าเรียนก็ลุกขึ้นเดินเคียงกันไป

.

.


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
“หิวแล้ว” ธราส่งเสียงอ้อนในขณะที่เดินเข้าไปสวมกอดคนที่กำลังยืนจัดอาหารใส่จาน เขาสอดแขนเข้าโอบรอบเอวบางแล้วกดปลายจมูกลงบนแก้มเนียนขาวไปหนึ่งที ก่อนจะก้มลงมองอาหารในจานพลางขมวดคิ้ว “ทำไมมีแต่ของโปรดกูอีกแล้วล่ะเจ้า”

“ไม่ดีเหรอครับ” ไอ้เจ้าย้อนถาม “คุณไม่ชอบเหรอ”

“ไม่ใช่ไม่ชอบแต่มันก็ควรมีของโปรดมึงบ้าง”

“เจ้ากินอะไรก็ได้”

“พูดอย่างนี้ทุกทีแต่ไม่เห็นจะกิน เดี๋ยวนี้มึงกินข้าวเหมือนแมวดม” ธราบ่น ไม่วายใช้มือลูบไล้บริเวณหน้าท้องของคนในอ้อมแขน “ดูสิ เหลือแต่กระดูก”

“ก็ไม่ได้ผอมขนาดนั้น” ไอ้เจ้าแย้ง จับมือที่กำลังซุกซนของธราให้หยุดนิ่งอยู่แค่ระดับเอว ไม่ให้ขึ้นสูงหรือลงต่ำไปมากกว่านี้ “ไปนั่งดีๆ สิครับ จะได้กินข้าวกัน”

“ขอกอดอีกหน่อย วันนี้เหนื่อย ห้องเด็กไม่เคยอ่อนโยนกับกูเลย” คนอ้างเหนื่อยไม่ยอมปล่อยกลับเอาแต่ซุกไซ้ใบหน้าลงกับลาดคอสวยราวกับกำลังหาขุมพลังงาน “เวลาได้กอดมึงแล้วกูหายเหนื่อยทุกที”

“แค่เจ้าคนเดียวเหรอ”

“อือ คนเดียวนี่แหละ” ธราย้ำคำตอบของเขาด้วยการกอดไอ้เจ้าแน่นขึ้น “แต่ตอนนี้ผอมไปหน่อย กอดแล้วเจอแต่กระดูก”

“ช่วยไม่ได้น้า เจ้ากำลังไดเอต ไม่อยากอ้วน”

ธราส่ายหน้าระอากับคนที่เอาแต่ยิ้มยียวน ผอมแห้งขนาดนี้ยังจะคิดลดน้ำหนัก เห็นทีต้องจัดการคนดื้อคนนี้ซะแล้วละมั้ง “อ้วนที่ว่านี่น้ำหนักเท่าไร”

“หกสิบกว่าๆ”

“กว่าเยอะมั้ย”

“นิด”

“แล้วจะไดเอตทำไม ไม่เข้าเรื่องเลย”

ไอ้เจ้ายิ้ม เป็นอีกครั้งที่รอยยิ้มของมันรบกวนจิตใจของธรา ทั้งที่ก็เป็นรอยยิ้มปกติแต่เขาก็บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงรู้สึกไม่ดีนัก “อย่าดุนักซี เจ้าไม่เป็นไรหรอก”

“ก็เป็นห่วง” ธราว่าพลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเรียวคมที่พักหลังมานี้เขาไม่สามารถตีความได้ราวกับเจ้าของปิดตายความรู้สึกไม่ให้ใครได้รับรู้ “รู้แล้วก็อย่าทำให้ห่วงเยอะนะเข้าใจมั้ย”

“แน๊ ช่วงนี้หยอดเก่ง” ไอ้เจ้าหยอกเย้า “เอาดินคนที่ปากแข็งคืนมาได้ไหม เจ้าเขิน”

“พูดแค่นี้ก็เขินแล้วหรือไง” อดีตคนปากแข็งไล้มือไปตามแก้มเนียนของคนเขินหน้าตาย ปากบอกว่าเขินแต่สีหน้าไม่เปลี่ยนเลยสักนิด “เขินจริงปะวะ” ถามพลางมุ่นคิ้วด้วยความสงสัยก่อนจะขยับใบหน้าเข้าไปใกล้เพื่อค้นหาความจริง แต่อีกฝ่ายกลับผละหนี ไม่ยอมให้สำรวจ ทว่าก็ถูกมือหนารั้งเอาไว้ สองมือของธราโอบแก้มของไอ้เจ้าแล้วรั้งเข้าหา ไม่นานหลังจากนั้นริมฝีปากบางของมันก็ถูกเขาบดขยี้ จากรุนแรงในตอนแรกก็ปรับเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลในตอนหลัง

ไอ้เจ้าหลับตาในขณะที่ริมฝีปากถูกดูดดึง แตกต่างจากธราที่ไม่อาจละสายตาไปจากใบหน้าเนียนได้ เขาชอบรสจูบนี้ จูบรสโคล่าที่เป็นรสชาติของอมยิ้มที่ไอ้เจ้าชอบกิน มันหอมกรุ่นอยู่ภายในโพรงปากและหวานล้ำ เรียวลิ้นนุ่มก็เหมือนเยลลี่ที่เขาอยากลิ้มชิมรสโดยไม่รู้เบื่อ

ปึก!

สะโพกของไอ้เจ้าชนเข้ากับขอบโต๊ะกินข้าวเพราะการรุกล้ำที่ราวกับจะช่วงชิงทุกสิ่งทุกอย่างที่มีไปนั้นทำให้มันพยายามผละหนี เพราะทุกครั้งที่ถูกธราจูบ ไอ้เจ้ามักจะไม่เป็นตัวของตัวเอง มันเคลิบเคลิ้มและรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในสรวงสวรรค์จนเผลอคิดไปว่าสัมผัสนี้มีเพียงมันที่เป็นเจ้าของ แต่ความจริงก็รู้ดีว่ามันไม่มีทางเป็นอย่างนั้น ไอ้เจ้าไม่อยากถูกพาขึ้นสวรรค์จอมปลอมแต่ก็หยุดยั้งเขาไม่ได้

“เจ็บมั้ย” ธรากระซิบถาม น้ำเสียงกระเส่าตามแรงอารมณ์ที่มี มือหนาของเขาลูบสะโพกของไอ้เจ้าราวกับกำลังบรรเทาความเจ็บ

“ไม่หรอก” เจ็บที่อื่นมากกว่า ประโยคนี้ถูกทดไว้ในใจ

ธราจ้องมองริมฝีปากบวมเจ่อที่ขยับเมื่อเจ้าของตอบคำถาม ริมฝีปากของไอ้เจ้ามีสีแดงระเรื่อเพราะถูกบดขยี้เป็นเวลานานจนเขาอดรู้สึกผิดไม่ได้ “แล้วตรงนี้ล่ะ” เขาย้ำจุดด้วยการแนบริมฝีปากลงไปผะแผ่วก่อนจะผละออก “เจ็บหรือเปล่า”

“ถูกจูบทุกคืนจนชินแล้ว”

คำพูดของไอ้เจ้าไม่ได้เกินจริง ริมฝีปากของมันกลายเป็นของว่างยามดึกให้กับธรา เขาอยู่กับไอ้เจ้าทุกคืน เข้านอนพร้อมกันและคอยมอบความหวานรัญจวนใจให้ แม้บางวันจะปล่อยให้ไอ้เจ้านั่งรอจนดึกดื่นแต่เขาก็กลับมา เขาอ้างเรื่องงาน อ้างเรื่องเพื่อน สารพัดคำโกหกของเขาก้องอยู่ในหัว แต่ไอ้เจ้าก็ไม่เคยซักไซ้ คิดแค่ว่าเขายังคงกลับมาก็ดีเท่าไรแล้ว จะดำเนินต่อไปอย่างนี้ก็ไม่เป็นไร ขอให้พื้นที่ที่มันอยู่ไม่ได้ถูกรุกล้ำก็พอ

“ขัดขืนบ้างก็ได้” ธราเอ่ยกระเซ้าคนที่มักจะตามใจกับความเอาแต่ใจของเขา แต่ไอ้เจ้าคงไม่รู้ว่าหลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมานั้นเขาไม่อยากหยุดอยู่แค่จูบ ไม่อยากหยุดอยู่เพียงแค่ริมฝีปากสัมผัสกัน ทุกครั้งที่ผละออกห่างด้วยความเสียดายเพราะกลัวจะเลยเถิด อีกฝ่ายคงไม่รู้หรอกว่าเขาต้องหักห้ามใจมากแค่ไหน

“ทำแล้วแต่สู้แรงคุณไม่ไหว”

ธราหัวเราะชอบใจเพราะไอ้เจ้ากำลังทำหน้างอ รู้สึกมันเขี้ยวจนต้องหอมแก้มมันไปอีกสองที “ก็เพราะไม่ค่อยกินข้าวไงก็เลยไม่มีแรง”

“เกี่ยวเหรอ”

“เกี่ยว เพราะฉะนั้นถ้าวันนี้มึงกินข้าวไม่หมดจาน โดนทำโทษแน่”

“จะทำอะไรเจ้า”

“ทำเรื่องที่คนเคยเป็นแฟนกันเขาทำกันไง”

ไอ้เจ้าแสร้งหัวเราะ “หูยย กลัวแล้วเนี่ย แต่อยากโดนจะแย่”

“มึงนี่...”

“ไม่กินข้าวดีกว่า อยากโดนทำโทษ”

ธราถอนหายใจ ดูเหมือนว่าเขาจะเปิดช่องให้คนดื้อเสียแล้ว แต่ไอ้เจ้าก็ยังเป็นไอ้เจ้า ต่อให้จะดื้อแค่ไหนแต่ก็ยังเป็นไอ้เจ้าที่แพ้ลูกอ้อนของเขา “กินเถอะนะครับ ถือว่าแฟนเก่าขอ”

“เนี่ย คำพูดคำจา”

ต่างคนต่างยิ้ม ก่อนจะแยกย้ายกันนั่งลงบนเก้าอี้เพื่อเริ่มมื้ออาหาร รอยยิ้มยังไม่จางหายไปจากใบหน้าคนทั้งคู่ ทว่าความรู้สึกกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง คนหนึ่งกำลังยิ้มเพราะมีความสุขจากใจจริง แต่อีกคนกำลังยิ้มเพื่อกลบเกลื่อนความเสียใจ

ติ๊ง!

เสียงแจ้งเตือนทำให้ทั้งไอ้เจ้าและธราหยุดชะงัก โทรศัพท์มือถือของไอ้เจ้ายังคงนอนแน่นิ่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวข้างๆ จานกระเบื้องใบสวย แต่เสียงแจ้งเตือนยังคงดังไม่หยุด นั่นทำให้ธราทำท่าจะลุกขึ้นเมื่อแน่ใจแล้วว่าเสียงแจ้งเตือนที่ได้ยินนั้นดังมาจากโทรศัพท์มือถือของเขา

“นั่งลงก่อน” น้ำเสียงของไอ้เจ้าเรียบนิ่งไม่ต่างจากสีหน้าของมัน “กำลังกินข้าวกันอยู่ไม่ใช่หรือไง”

“เผื่อว่าคนที่ทักมามีธุระสำคัญ เล่นรัวมาขนาดนั้น” เหตุผลของธราฟังเข้าทีแต่ไอ้เจ้าไม่ยอมความ

“ถ้าเป็นธุระสำคัญก็คงโทรมาแล้ว”

“เจ้า...”

ไอ้เจ้าเลิกคิ้วเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของธรา ก่อนจะตั้งคำถามที่ยิ่งทำให้อีกฝ่ายหลบเลี่ยงที่จะสบตา “ช่วงนี้คุณติดมือถือนะดิน คุยกับใครอยู่หรือเปล่า”

“ก็พวกไอ้แพร์ไง คุยงานกัน บางทีก็ต้องฟังพวกมันบ่นเรื่องเก็บเคส เรื่องสอบ”

คุณโกหกได้ไม่เนียนเลย

“อ๋อ อย่างนั้นเอง”

“ถามทำไมวะ ปกติไม่เห็นสนใจ”

ไอ้เจ้ารวบช้อนส้อมแล้วยกน้ำขึ้นดื่มทั้งที่เพิ่งกินไปได้ไม่กี่คำ “เจ้าถามเพราะดูเหมือนว่าสามสี่วันมานี้พวกไอ้แพร์รบกวนคุณแม้แต่ตอนนอน คุณบ่นว่าปวดหัวอยู่บ่อยๆ นะ สะดุ้งตื่นกลางดึกก็หลายครั้ง ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปจะไหวเหรอ พวกคุณคุยเรื่องเครียดๆ กันอยู่หรือไง เตือนพวกมันหน่อยมั้ยว่าให้รู้จักเวลาส่วนตัวบ้าง”

ธราเผลอเม้มริมฝีปาก ความเป็นห่วงของไอ้เจ้าทำให้เขารู้สึกจุกในอก “ไว้จะคุยกับพวกมัน มึงไม่ต้องห่วงหรอก”

“ก็ดี หวังว่ามัน...จะคุยรู้เรื่อง” ไอ้เจ้าว่าพลางเผยรอยยิ้ม

“อือ แล้วนี่อิ่มละเหรอวะ กินไปนิดเดียวเอง”

“ก็อยากโดนทำโทษ”

ธราย่นจมูกใส่พลางยื่นมือไปบีบปลายจมูกโด่งของคนดื้อรั้น “โดนแน่ๆ”

“รอเลย”

เพราะไอ้เจ้ายิ้ม ธราจึงยิ้ม ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดที่พักหลังมานี้เขาเอาแต่โหยหารอยยิ้มของไอ้เจ้า รอยยิ้มที่รบกวนจิตใจ รอยยิ้มที่ตามไปถึงแม้แต่ในความฝัน แม้ว่ามันจะยิ้มให้เขาอยู่บ่อยครั้ง แต่กลับเหมือนรอยยิ้มจอมปลอม รอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา ไม่ได้ออกมาจากใจจะนับว่าเป็นรอยยิ้มได้อย่างไร

มีสักกี่ครั้งกันที่ไอ้เจ้ายิ้มเต็มหน้าให้ธราได้เห็น

“ช่วงนี้กูฝันถึงมึงบ่อยมากเลยเจ้า” ธราพูดขึ้นหลังจากที่เขาฝืนกินต่อไม่ลงเหมือนกัน เขารวบช้อนส้อมแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม ความอยากอาหารหายไปหมดเมื่อมีความรู้สึกบางอย่างเข้ารบกวน “แต่ละครั้งก็อยู่ในที่ที่กูไม่รู้จัก แต่ใครก็ไม่รู้จักสถานที่ในฝันทั้งนั้นอะกูว่า มันคุ้นนะแต่ก็บอกไม่ได้ว่าที่ไหน กูโผล่ไปนั่นไปนี่ ไม่รู้ว่าคืนหนึ่งฝันกี่เรื่อง บางทีนั่งคุยกับมึงอยู่ดีๆ ก็มีผีโผล่มา วิ่งหนีกันแทบตาย ฉากแม่งก็เปลี่ยนไปเรื่อย”

“คุณก็เลยสะดุ้งตื่นเหรอ” ไอ้เจ้ามีสีหน้าขบขัน

“มันน่ากลัว วิ่งเท่าไรก็หนีไม่พ้น” ธราบอกพลางทำหน้าสยอง “ไอ้เหี้ยผีสับขาไวฉิบหาย”

“ผีมีขาเหรอดิน ไม่ใช่ว่ามันลอยตามคุณนะ”

“เออ น่าจะลอย” ธรามีสีหน้าสับสน เขาทวนความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมาที่ทำให้สะดุ้งตื่นแล้วก็เห็นแต่ภาพเบลอๆ “ไม่รู้ว่ะ ไม่แน่ใจ อีกอย่างกูในความฝันก็ไม่กล้าหันไปมอง”

“อืม...แต่แปลกนะช่วงนี้” ไอ้เจ้าตั้งข้อสงสัย “ปกติคุณนอนหลับสนิท เจ้าเฝ้าคุณนอนมาสองปี ไม่เคยเห็นคุณตื่นกลางดึกบ่อยๆ เท่าช่วงนี้เลย คุณมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่า”

“กูก็เครียดเรื่องเรียนเป็นปกตินะ บางทีก็ฝันว่ากำลังถอนฟันคนไข้ แต่เลือดคนไข้ไหลไม่หยุด ไหลท่วมปากยิ่งกว่าผีบุปผาปากฉีก ฟันก็งอกยาว” ขนแขนของธราลุกชัน สีหน้าเหยเกไปกับภาพจินตนาการ แววตาดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ถ้าบอกว่าช่วงนี้ขอบตาของไอ้เจ้าดำคล้ำ ธราก็คงไม่ต่างกันนักเพราะเขาหลับไม่สนิทเลย เขายกมือขึ้นนวดขมับพลางถอนหายใจออกมา “เฮ้อ...ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกันว่ะเจ้า หน้ามึงแว๊บเข้ามาในหัวกูบ่อยๆ จนบางทีก็ปวดหัวขึ้นมา”

“เนี่ย ก็คิดถึงกันทุกลมหายใจ ยังจะเล่นตัวไม่รีเทิร์นอีก”

“แล้วที่อยู่ด้วยกันทุกวันนี่ต่างจากคบกันตรงไหนวะ”

“ต่าง” ไอ้เจ้าตอบแค่นั้นและไม่อธิบายเพิ่มเติมถึงความต่างที่มันพูดถึง

“เถียงแล้วก็หยุดพูดไปดื้อๆ นะมึง”

“คุณไม่อยากรู้หรอกว่าต่างยังไง” ไอ้เจ้าว่าพลางลุกขึ้น “คุณไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะดิน เดี๋ยวเจ้าเก็บโต๊ะแล้วจะออกไปข้างนอก คืนนี้คงไม่ได้กลับมานอนด้วยนะ”

“เดี๋ยว” ธรามองตาดุทันทีเมื่อได้ยิน “จะไปนอนที่ไหน”

“ผ๊มก็มีธุระของผ๊ม”

“มึงดื้อละไอ้เจ้า เรื่องที่ชอบหายออกไปกลางดึกกูก็ยังไม่เคลียร์กับมึงนะ” แววตาของธราดุมากยิ่งขึ้น “ถ้ากูไม่สะดุ้งตื่นกลางดึกคงไม่รู้หรอกว่าบางทีมึงก็ไม่อยู่”

“เจ้าลุกไปเข้าห้องน้ำ คุณตื่นมาแป๊บเดียวก็หลับต่อ จะรู้อะไร”

“อย่าให้จับได้ละกันว่ามีคนอื่น” ธรามองด้วยสายตาคาดโทษ

“ผ๊มว่าผ๊มก็เนียนพอสมควร” ไอ้เจ้าพูดติดตลก แต่แววตาของมันจริงจัง “เนียนได้ยิ่งกว่าคุณถ้าคิดจะทำละกัน”

“พูดจาหาเรื่องไอ้สัด”

ไอ้เจ้าหัวเราะ ก่อนจะเดินเข้าไปโอบรอบคอธราจากทางด้านหลัง ทำเอาคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เกร็งตัวขึ้นมาเพราะสัมผัสแนบชิด ยิ่งเมื่อริมฝีปากบางจูบย้ำลงบนผิวเนื้ออ่อนบริเวณลำคอของเขา ร่างกายก็ยิ่งรู้สึกร้อนเร่า ตื่นตัวขึ้นอย่างน่าอาย เขาปล่อยให้ไอ้เจ้ากอดและสัมผัสตัวเขาตามอำเภอใจโดยไม่รู้เลยว่าพายุฝนได้ก่อต่อขึ้นแล้ว

“คุณคิดเหรอว่าผมไม่รู้อะไรเลย” ไอ้เจ้ากระซิบถาม อ้อมแขนของมันรัดธราแน่นขึ้น ริมฝีปากของมันก็ดูดย้ำอย่างรุนแรงก่อนที่ฟันคมจะกัดผิวเนื้อของเขาจนความเจ็บแล่นริ้วขึ้นมา “คิดเหรอว่าคำโกหกแบบเด็กๆ ของคุณทำให้ผมเชื่อ”

“เจ้า กูเจ็บ” ธราบอกเสียงแผ่ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังถูกกัดเข้าที่ตำแหน่งเดิม ทว่าเขากลับไม่กล้าผลักอีกฝ่ายออกห่างแค่เพราะถ้อยคำและน้ำเสียงสั่นเครือของมันที่เปล่งออกมาราวกับว่าความเจ็บของเขาเทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดที่มันมี

“ขอโทษ ผมแค่อยากลงโทษคุณ”

“อืม” ธราไม่รู้สึกโกรธ เขายอมให้ไอ้เจ้ากัดอีกพันๆ ครั้ง ถ้านั่นจะทำให้ความเจ็บปวดของมันบรรเทาลงได้บ้าง “ไม่เป็นไร ลงโทษกูได้เลย กูเป็นคนผิดเอง”

“คุณจะผิดอะไร ต่อให้คุณรักเขา คุณก็ไม่ผิด” ไอ้เจ้าบอกพลางจูบย้ำลงที่รอยช้ำเลือดจากการถูกกัด “ผมต่างหากที่ผิด ผิดที่ทำให้คุณรักไม่ได้” น้ำเสียงของมันอ่อนแรงในขณะที่น้ำตาหนึ่งหยดไหลรดลงบนรอยกัด “แต่ก็ไม่เห็นต้องโกหกกัน ในเมื่อผมก็บอกแล้วว่าผมเข้าใจคุณ ต่อให้เป็นเรื่องที่คนทั้งโลกมองว่าคุณผิด ผมก็ยังจะเข้าใจ”

“เจ้า...”

“ที่ผมพูด ผมไม่ได้จะตำหนิหรือด่าว่าคุณ แต่ผมก็แค่เป็นห่วง ผมไม่อยากให้คุณเหนื่อยที่ต้องปิดบังผม” ไอ้เจ้าเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงก่อนจะคลายออกเมื่อมีความกล้ามากพอจะพูดประโยคต่อไป “คุณไปกับเขาได้เลยนะดิน ไม่ต้องห่วงผม ผมเคยคิดว่าผมปล่อยคุณไปไม่ได้ แต่ถ้ามีแค่ตัวคุณที่อยู่ตรงนี้ มันก็คงแย่ใช่ไหม ตัวกับหัวใจไม่ควรอยู่ห่างกัน เพราะมันไม่มีอะไรดีเลย ผมเห็นแล้วว่าคุณเหนื่อย คุณทุกข์ใจ ต่อให้คุณไม่พูด ผมที่มองแค่คุณก็รู้สึกได้”

ถ้าไอ้เจ้ากำลังเจ็บ ธราก็คงเจ็บไม่ต่างกัน แต่อาจจะน้อยกว่า...ความเจ็บของเขาคงไม่ได้ครึ่งหนึ่งที่ไอ้เจ้ารู้สึก

“เจ้า มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิดหรอก แต่กูก็ยอมรับว่ากูโกหก กูต้องโกหกเพราะกูไม่อยากให้มึงไป” ธราบอกเสียงสั่น ความกลัวที่จะสูญเสียขยับเข้าใกล้จนทำให้รู้สึกหายใจลำบาก

“คุณเลือกสองทางไม่ได้ดิน เพราะเป็นคุณเองที่จะแย่ ผมอยู่กับคุณได้แต่คุณจะไม่ไหวเข้าสักวัน รู้มั้ยว่าพักหลังมานี้คุณเอาแต่มองผมด้วยความรู้สึกผิด ในตอนที่คิดว่าผมหลับไปแล้วคุณก็เอาแต่พูดขอโทษ” ไอ้เจ้าคลายอ้อมแขน แต่ธรากลับรั้งไว้ เขาจับแขนของไอ้เจ้าไว้แน่นไม่ยอมปล่อย “ผมอยากเห็นคุณมีความสุขนะ ต่อให้ผมจะเจ็บก็ไม่เป็นไรเลย ผมทนได้ แต่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่ผมหวังไว้”

ไม่ว่าไอ้เจ้าจะเอ่ยถ้อยความใด มือของธราก็จับไว้แน่น เขาไม่ยอมคลายแรง กลับเพิ่มแรงบีบเพื่อยืนยันความต้องการที่เห็นแก่ตัวของตัวเอง “อย่าไป...อย่าหายไปจากกู”

ธราไม่เข้าใจความรู้สึกที่เขามี ยิ่งตั้งแต่ที่ได้รู้จักจันทร์เจ้า เขาก็ยิ่งไม่เข้าใจ เพราะยิ่งได้ทำความรู้จัก ความสำคัญของไอ้เจ้าก็ยิ่งเด่นชัดขึ้นมา เขายอมรับว่าเขาสบายใจที่ได้พูดคุยกับจันทร์เจ้า เป็นความสบายใจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ไม่ใช่ความสบายใจที่ขาดไม่ได้ ตรงกันข้ามกับคนที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิ ตลอดเวลาสองปีที่อยู่ด้วยกัน แม้จะมีแต่ความอึดอัด วุ่นวายใจ แต่ก็เป็นความรู้สึกที่หัวใจยอมรับ ต่อให้มองแล้วรู้สึกเศร้าใจแต่กลับไม่อยากให้หายไปจากสายตา

“มึงรู้หรือเปล่าเจ้าว่ากูเคยเกิดอุบัติเหตุจนความจำเสื่อม” ธราเกริ่นเรื่องที่เขาไม่เคยคิดจะพูดคุยกับอีกฝ่าย เขาไม่รู้ว่าไอ้เจ้ามีสีหน้าแบบไหนเพราะมันซบหน้าลงกับไหล่ของเขา ทว่าเสียงขานรับในลำคอของมันทำให้เขาเริ่มพูดต่อ “กูไม่เคยพูดเรื่องนี้กับมึง ทั้งที่สงสัยแต่ก็ไม่เคยถาม เพราะกูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวกูเมื่อก่อนเป็นยังไง ใช่คนเดียวกับที่เป็นอยู่ไหม กูไม่เคยคิดหาคำตอบ กูรู้สึกว่ากูไม่อยากรู้จักตัวเองคนก่อนหน้า กูพอใจกับปัจจุบัน พอใจที่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้ พ่อแม่ของกูก็ไม่ได้อยากให้จำนัก พวกเขาบอกว่าไม่ต้องพยายามจำหรอก ให้กูใช้ชีวิตใหม่ที่ได้รับต่อไปให้มีความสุขก็พอแล้ว แต่พอเจอมึง กูก็คิดบ่อยๆ ว่าบางทีมึงอาจจะเป็นใครสักคนที่รู้จักตัวกูคนเก่า มึงคงเป็นใครสักคนที่ถูกกูลืม”

“ครับ” ไอ้เจ้ายอมรับเสียงอู้อี้ “เจ้าคนนี้เป็นคนที่มาจากอดีตของคุณ”

“แล้วทำไมถึงไม่บอกตั้งแต่แรก” ธราถามเสียงแผ่ว “ไม่อยากให้กูจำมึงได้เหรอ”

ผมอยากให้คุณจำได้ แต่ผมก็กลัวว่าคุณจะจำเรื่องที่ไม่น่าจำของเรา ไอ้เจ้าเก็บคำตอบไว้ในใจแล้วเลือกให้ความเงียบเป็นคำตอบแก่ธรา

“มึงสำคัญนะเจ้า กูรู้สึกจริงๆ ว่ามึงสำคัญกับกูมาก” เสียงทุ้มเอ่ยต่อเมื่อไม่ได้รับคำตอบ “สำคัญจนกูอยากรู้เลยว่ามึงเคยเป็นใครในชีวิตของกูมาก่อน”

“ทำไมคุณถึงอยากรู้ล่ะดิน” ไอ้เจ้าถามอย่างนึกหวั่น สัญญาณเตือนบางอย่างเริ่มปรากฏให้เห็น บ่งบอกว่าใครสักคนคงไปยุ่งกับความทรงจำที่หายไปของธราเข้าให้แล้ว “แล้วถ้ารู้ว่าผมเป็นใคร ระหว่างเราจะมีอะไรดีขึ้นมาเหรอ”

ธรายังไม่ให้คำตอบ กลับฉุดรั้งให้ไอ้เจ้านั่งลงบนตัก คนที่ซ่อนใบหน้าไม่ให้เห็นเผยความตกใจเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกเปลี่ยนตำแหน่ง อีกทั้งยังถูกจ้อง พอคิดจะหลบตาก็ถูกมือหนาจับใบหน้าเอาไว้ “กูไม่รู้ว่าจะมีอะไรดีขึ้นไหม แต่กูเจอคนที่มาจากอดีตเหมือนกับมึง คนที่รู้จักตัวกูคนก่อน คนคนนั้นบอกว่ากูเคยเป็นคนรักของเขา”

ก็คิดไว้แล้วว่าไม่ว่ายังไงคนอย่างมันก็ต้องหาโอกาสพูดจนได้...

“อย่างนั้นเหรอ” ไอ้เจ้าทวนถามเสียงแผ่ว “แล้วคุณรู้สึกยังไง ตอบผมได้มั้ย”

“บอกไม่ถูก” ธราตอบตามจริง “ทีแรกก็ไม่อยากเชื่อแต่เขาเอารูปให้ดู รอยยิ้มของเขาก็คุ้น เวลาเขายิ้มดวงตาของเขาเหมือนรูปพระจันทร์เสี้ยว ตอนที่เจอครั้งแรก กูยอมรับว่ากูสนใจ”

“ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นแค่เพราะรอยยิ้มเหรอ”

“เปล่า ไม่ใช่ความรู้สึกแบบนั้น กูสนใจเพราะกูรู้สึกคุ้น แต่ก็ยอมรับว่าใจเต้นแปลกๆ” ธราบีบแก้มคนช่างถามที่ตั้งคำถามเองแต่กลับทำหน้าเศร้าเอง แต่ถ้าไอ้เจ้ารู้ว่าเขาก็เคยใจเต้นกับรอยยิ้มของมันมาแล้ว มันจะยังทำหน้าเศร้าอีกไหม “รอยยิ้มของเขาคล้ายรอยยิ้มของมึง กูหมายถึงมึงที่กูฝันถึง ไม่ใช่มึงตัวจริงที่มีแต่รอยยิ้มปลอมๆ”

“ก็คนคนเดียวกันมั้ย แล้วรอยยิ้มของผมปลอมยังไง”

“งั้นไหนลองยิ้มหน่อย” ธราสั่ง ในขณะที่ไอ้เจ้ายกยิ้มมุมปาก “ไม่ใช่ ต้องยิ้มทั้งปากทั้งตาสิ”

“ใครจะทำได้ ผมไม่ได้มีความสุขขนาดนั้น” ไอ้เจ้าย่นจมูกใส่ ก่อนเปลี่ยนประเด็น “ว่าแต่คุณฝันถึงผมบ่อยแค่ไหน”

“ช่วงหลังมานี้แทบทุกวัน ที่จริงกูอาจจะเคยฝันถึงมึงเป็นร้อยเป็นพันครั้งแล้ว แต่กูจำความฝันไม่ได้ ที่จำได้ก็มีแต่ความฝันที่ทำให้ตื่นขึ้นมากลางดึกเท่านั้น”

“อืม ทำให้เดี๋ยวนี้คุณเหมือนคนนอนไม่พอสินะ”

ธราพยักหน้า แต่ต่อให้เขาจะเหน็ดเหนื่อยกับความฝันมากแค่ไหน ในใจลึกๆ แล้วกลับรู้สึกอยากฝันต่อไป เพราะในความฝันนั้นเขารู้สึกสุขใจ แม้จะจำไม่ได้เลยว่าทำไมถึงตกใจตื่น “แล้วมึง...ไม่เคยฝันถึงกูบ้างเหรอ”

“ผมไม่อยากฝันร้าย”

“อ้าว...ไอ้นี่”

ไอ้เจ้าหัวเราะ ก่อนแววตาขบขันของมันจะเต็มไปด้วยความจริงจัง “แล้วยังไงต่อเหรอดิน หลังจากที่เขาบอกว่าเขาเคยเป็นคนรักของคุณแล้ว พวกคุณคบกันทันทีเลยไหม”

“ไม่ได้คบ” ธราปฏิเสธแล้วตอบเสียงแผ่ว “แต่หลังจากนี้ก็ไม่รู้ กูรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร การถูกคนที่รักลืมคงเจ็บปวดน่าดู เขาบอกว่ากูไม่ผิดที่จะลืมแต่เขาก็จะทำให้กูจำให้ได้ เขาบอกว่ากูลืมเรื่องที่สำคัญมากๆ ไป เขาบอกว่าคิดถึงกูมาตลอด แต่เขามาหาไม่ได้เพราะเขาป่วยต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตั้งเกือบปี กว่าจะพักฟื้นแล้วกลับมาเป็นปกติก็ต้องใช้เวลานาน” ธราหยุดพูดแล้วจับมือของไอ้เจ้ามากุมไว้ “แต่เขามาแล้วเจ้า เวลามองหน้าเขากูทั้งสงสาร ทั้งรู้สึกผิด กูลืมเขา ตอนที่เขาป่วยกูก็ไม่ได้อยู่ด้วย กูเป็นคนรักที่แย่มาก” ในขณะที่สารภาพความรู้สึกมือทั้งสองมือก็บีบตอบรับกันเบาๆ “กูก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไง กูไม่อยากเสียมึงไป แต่กูก็ปล่อยเขาไว้ไม่ได้”

ความสับสนเต็มแน่นอยู่ในแววตาของธรา เขาไม่แน่ใจเลยว่าอธิบายความรู้สึกของตัวเองได้ดีแค่ไหน แต่คนที่รับฟังเหมือนจะเข้าใจเขายิ่งกว่าตัวเขาเองด้วยซ้ำ ไอ้เจ้ายังคงสงบนิ่ง ใบหน้าของมันเผยรอยยิ้มปลอมๆ รอยยิ้มที่เจ้าของไม่ได้อยากยิ้มแต่กลับยิ้มเพื่อปิดบังความรู้สึก

“แล้วตอนที่อยู่กับเขาคุณมีความสุขมั้ย” เนิ่นนานกว่าที่คำถามของไอ้เจ้าจะดังขึ้น ธราทบทวนคำถามก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยจนแทบไม่เห็น เขาไม่อยากทำให้ไอ้เจ้าเจ็บแต่ก็ไม่อยากโกหกมันอีกแล้ว “แล้วถ้าไม่มีผมล่ะ จะมีความสุขมากกว่านี้หรือเปล่า”

ธราส่ายหน้า เขาจับมือของไอ้เจ้าแน่นขึ้น “ที่กูมีความสุขเพราะกูรู้ว่ากลับมายังไงก็เจอมึง”

“จะมีผมไปพร้อมกับเขาเหรอ”

“ได้มั้ย” เสียงของธราสั่น ความเห็นแก่ตัวของเขาเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย แต่เพราะคนตรงหน้าของเขาคือไอ้เจ้า ไอ้เจ้าที่พร้อมจะเข้าใจเขาทุกอย่าง

“ต่อให้ผมตอบว่าได้ เขาก็คงไม่ยอม” น้ำเสียงเรียบเฉยไม่ต่างจากสีหน้าคนพูดทำให้ธราเดาความรู้สึกที่ถูกซ่อนไว้ไม่ถูกและเมื่อเดาไม่ได้ก็รู้สึกกลัวเหลือเกิน “คุณถามใช้มั้ยว่าผมเคยเป็นใครในชีวิตของคุณมาก่อน” ครานี้น้ำเสียงที่เอ่ยแฝงความไม่มั่นใจ หัวใจของคนพูดเต้นโครมครามจนรู้สึกเจ็บ ในขณะที่คนรับฟังก็ไม่ต่างกัน หัวใจของธราเต้นในจังหวะรัวเร็วเมื่อสบตากับไอ้เจ้า แววอาวรณ์ที่แฝงไปด้วยความปวดร้าวในดวงตาของมันฉายชัดเมื่อเริ่มพูดต่อ “ผมก็ไม่ต่างจากเขา”

ธรานิ่งฟังพลางเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว

“เพราะผมก็เคยเป็นคนรักของคุณ”

ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นบีบหัวใจของธรา มือนั้นออกแรงบีบขย้ำ รุนแรงจนเหมือนหัวใจของเขากำลังจะแหลกละเอียด ในขณะที่สีหน้าของไอ้เจ้าก็ไม่ต่างกันนัก ใบหน้าคมคายบิดเบี้ยวแต่รอยยิ้มยังไม่จางหายราวกับกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของมันไปเสียแล้ว

“แต่ผมพิเศษกว่านั้น”

“…”

“พิเศษมากจนคุณคาดไม่ถึง”

“…”

“พร้อมจะพังไปกับผมมั้ย”

“…”

“ถ้าคุณพร้อม ผมจะใช้กุญแจที่ผมมีเปิดกล่องแพนโดร่าที่ไม่ควรเปิดให้คุณได้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน”

ธรารู้สึกกลัว แต่เขากลับยอมพยักหน้าเพื่ออนุญาต เขาไม่มีความคลางแคลงใจในคำพูดของไอ้เจ้าเลยแม้แต่น้อย กลับกัน...บางแห่งในใจของเขากำลังกรีดร้องว่าเป็นเรื่องที่รู้อยู่แล้ว มันกรีดร้องออกมาพร้อมกับความเศร้าสร้อย

“แล้วหลังจากนั้น ถ้าคุณยังต้องการผม ผมสาบานเลยว่าจะไม่มีวันคิดไปจากคุณแน่นอน"





แต่มันคงไม่เป็นอย่างนั้นหรอก ผมรู้ดี

เพราะฉะนั้นผมจึงต้องเลือกทางนี้ คุณอาจจะต้องเจ็บปวดอีกครั้งแต่ก็อย่าให้คนอย่างผมฉุดรั้งคุณไว้

ผมอยากให้คุณเกลียดผมและไปมีความสุขจริงๆ เสียที





.

.





OMG: ออกมาเจอกันหน่อย กูมีเรื่องจะคุย

-Read-

.

.

J_Jao: รออยู่เลยว่าเมื่อไหร่จะทักมา

J_Jao: ว่าแต่เจอกันที่ไหนดีครับ

J_Jao: พี่ชาย :)

-Read-





..........TBC..........



สมองมันก็แพ้หัวใจเสมอ อยากจะลบความจำที่มันรักเธอ

แต่มันกลับจำได้ขึ้นใจ

พยายามทุ่มเทเพื่อเป็นคนที่ใช่ พยายามเท่าไรมันก็ไม่พอ  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
ขอหน่อยเถอะ ไม่ไหวจริงๆ  อิดิน ถ้ามึงจะพูดแบบนี้ เอามีดมาแทงพี่เจ้าของกูเลย เอาให้ตาย จะได้ไม่ต้องมาเจ็บปวดแบบเดิมซ้ำๆซากๆ  พี่จะทนไปถึงไหน พอได้เเล้ว อย่าฝืนเลย ก็รู้ว่ารัก แต่ถ้ารักแล้วมันเป็นแบบนี้ พี่มีความสุขหรอ ใครจะรู้ ว่าถ้าลองออกมาอาจจะมีความสุขกว่าการอยู่ตรงนั้นก็ได้

ชั้นเสียใจได้ยินไหม!!!!!!!!!!!

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทนมะไหวแล้ววววววววววววว อยากให้เจ้าออกมา

ออฟไลน์ อ้วนน้อย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
 :sad4:เจ็บโว้ยยยยยยยย เมื่อไหร่จะให้เจ้ามีความสุขค้าา ฮือ เกลียดอิดิน

ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
โอ้โห อ่านตอนนี้แล้วหัวร้อนมาก ไอ้ดินนะไอ้ดิน

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
มาเลยเปิดเผยเถอะ เอาให้ใจพังไปเลย เปิดออกมาทั้งกล่อง จีบกันไปทั้งสองคนนั่นแหละ
แล้วให้ดินเลือก สุดท้ายก็ต้องเลือกคนเดียวอยู่ดี ฮืออ อ่านแล้วเหมือนคนอกหัก ใจมันหน่วง มันชา :katai1:

ออฟไลน์ taku_kimu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

จันทร์เจ้านี่ เป็นน้องชายต่างแม่ของ เจ้า จักรพรรดิ์ ปะเนี่ย

ดินน่าเห็นใจที่สุด ก็คนมันความจำเสื่อม ฮึ่ยยยยยยยยยยย อึดอัดแทน :m31:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
คนอ่านอย่างฉัน ก็น้ำตานองอีกแน๊ววว ฮือออออ :katai1:

ออฟไลน์ Chobreadyaoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สงสารเจ้าแต่ก็นะ ถ้าดินรู้ความจริงทุกอย่างแล้วกลับไปเหมือนเดิมก่อนที่จะความจำเสื่อมก็ให้มันเป็นไปเถอะ เหมือน set zero กลับไปอยู่จุดเริ่มต้นใหม่ เจ้าก็นะ ไม่น่าตามเขามาเลย น่าจะต่างกันต่างอยู่ไปตั้งแต่ตอนดินความจำเสื่อม คิดว่าเจ้าคงใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อลืมดินอ่ะ รักขนาดวางแผนชีวิตกับดินขนาดนั้น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พังๆ ตามกันไป รวมถึงคนอ่านด้วยยย

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
วงสารท่านเจ้า ขนาดเราแค่อ่านยังรู้สึกอึดอัด น้ำตามันจุกอกแต่ร้องไม่ออก  งื้อออออ....อึดอัด!!!

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ฮืออ คือแบบอ่านเรื่องเดียวละจบเลย ซึมเลยหมั่นดินมาก โมโห :fire:

โมโหมาก เมื่อเย็นปั่นจักรยานไปนึกถึงที่ดินทำตัวละขึ้น โมโหไป ปั่นไป เงยหน้ามาอีกทีครึ่งชมละ เหงื่อเต็มตัว
 เลิกหัวร้อนได้หน่อยนึง  :z10: อยากจะจับดินมาฟาดก้นสักที ตั้งสติ!!!!

ออฟไลน์ YoK_mehok

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
เจ็บปวดกว่านี้มีอีกมั้ย :ling3: :ling1:


สงสารเจ้าอะ  :heaven

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หน่วงจิต และปวดตับสุดๆ   :ling1:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
พ่อกับแม่แยกกันก่อนที่เจ้าจะรับสามเกลอและดินเข้ามาใช่ไหม
J_J มาทีหลังอย่างตั้งใจหรือบังเอิญ
ถ้าตั้งใจขอเกลียดแฝดน้องล่วงหน้าเลยนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
หน่วงงงงง มาก สงสารเจ้า  :mew2: :hao5: :sad4:
อ่านไป น้ำตาก็ไหลไปสงสารเจ้าสุดๆ
ดิน เห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว.........เกลียดดิน  :z6: :z6: :z6:
รักเจ้าไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาให้ความสำคัญ........
ไม่ต้องมาบอกว่าเจ้าเป็นคนสำคัญ  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ดินแม่งงงงง พูดมาได้
โคตรๆๆๆๆๆๆๆเห็นแก่ตัวเลย
ปวดใจแทนเจ้า  :hao5:

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
จันทร์​เจ้านี่น้องคนละแม่กับท่านเจ้าแน่ๆ อารมณ์​อยากแย่งของพี่สินะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด