Chapter 20 - พี่ดาวไม่งอเเง
ในที่สุดก็ใกล้วันกำหนดกลับของดาว ขิงเลื่อนคิวงานโปรโมทวงตัวเองให้ว่างติดกัน3คืน เพื่อจะบินไปรับคนพี่ที่ญี่ปุ่นทันที
ดาริณส่งกระเป๋าใบใหญ่ไปรอไว้ที่โอซาก้า เพราะเขากับขิงจะเเวะเเช่ออนเซ็นกันที่เกียวโตก่อนกลับไทย เรื่องเรียวกังแบบญี่ปุ่นเเท้ขิงก็จัดการจองมาเเล้วตั้งเเต่อยู่ไทย
คู่รักยิ้มกริ่มให้เเก่กันเมื่อก้าวเข้าสู่เรือนพักแบบญี่ปุ่นโบราณที่มีบ่อน้ำร้อนส่วนตัว รอบข้างรายล้อมด้วยป่าและมีเสียงน้ำไหลจากลำธารธรรมชาติขับกล่อม
ถามว่าที่ยิ้มนี่เพราะชื่นชมบรรยากาศหรอ ก็ไม่ใช่ แต่เป็นเพราะความตื่นเต้นที่ได้นอนในสถานที่เเปลกใหม่ กับชุดยูคาตะสำหรับใส่นอนที่วางอยู่บนฟูกนุ่มมากกว่า
หากนี่เป็นการ์ตูนขิงก็กำลังยิ้มร้ายกาจเเบบพระเอกจอมหื่นทั้งหลาย ส่วนดาริณก็ไม่ได้เขินอายเเละพร้อมกระโจนเข้าไปในกองเพลิงเเห่งราคะกับน้องเหมือนกัน พวกเขาไม่ได้เจอกันแบบตัวเป็นๆ ตั้งหลายอาทิตย์ และดาริณเขินอายที่จะจุดจุดจุดกันผ่านกล้องหน้าโทรศัพท์ เพราะฉะนั้นเเค่มองตาก็รู้กันเเล้วว่าคืนนี้ต้องไม่พลาด จัดหนักจัดเต็มอย่าให้เสียชื่อคู่หื่น2018
“อ่า...มาเหนื่อยๆ เราไปเเช่ออนเซ็นกันก่อนดีกว่ามั้ยครับ” ขิงคีพลุคพระเอกคูลๆ ดาริณยิ้มกระมิดกระเมี้ยนพยักหน้า พวกเขาเลิกสนใจกระเป๋าเป้ที่เเบกกันมาคนละใบ แล้วเดินจูงมือกันไปที่ส่วนบ่อน้ำร้อนกลางเเจ้ง ที่สร้างเป็นส่วนหนึ่งของห้องพัก ใช้ม่านบังตาเป็นต้นไม้น้อยใหญ่เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว
ขิงถอดชุดที่สวมใส่ออกช้าๆ เริ่มด้วยเสื้อยืดตัวเก่ง เผยกล้ามอกแน่นๆ และช่วงหน้าท้องลีนๆ ขับเน้น V Line จนดาริณมองแล้วแก้มร้อนผ่าว
“เจ้าเด็กน่ากินจังอ่ะ” คนพี่พูดออกมาเหมือนเพ้อๆ แล้วขิงเองก็ต้องยันหน้าผากอีกฝ่ายไว้ด้วยความรวดเร็ว ดาริณพุ่งเข้ามาราวกับเป็นซอมบี้
ดาริณทำหน้างอ อ้าปากงับอากาศอย่างน่าสงสาร
“แช่น้ำก่อน ใจเย็นนะที่รัก”
“ตัดพาร์ทไปเลยได้มั้ยอ่ะ”
ขิงก้มลงไปจุ๊บปากงุ้ยๆ หนึ่งที ใครกันที่ทำเสียงน่ารักๆ ใส่เขาตอนอ้อนว่าอยากมาเเช่ออนเซ็น แล้วถ้าไม่ได้เเช่จะงอเเงอีกมั้ย คนน้องยื่นมือไปจับชายเสื้อยืดอีกฝ่าย ดาริณกำมือยกขึ้นเหนือศีรษะเป็นเด็กปล่อยให้ขิงถอดเสื้อให้โดยดี
ใบหน้าหล่อเหลาก้มต่ำลงไปอีกนิด ประทับจูบลงบนตำเเหน่งหัวใจบนหน้าอกบาง
จุ๊บ!
แล้วค่อยขยับปากลงไปงับตุ่มไตที่ฝังห่วงไว้ข้างหนึ่ง
“อะ อื้อ” ดาริณครางต่ำๆ ในลำคอ แค่โดนสัมผัสเบาๆ เท่านั้นเขาก็เกือบเป็นเกือบตายเเล้ว ขิงใช้มือที่ว่างปลดกระดุมกางเกงยีนส์ขายาวที่ดาริณสวมอยู่ ร่นมันลงจากสะโพกสอบของอีกฝ่าย โดยไม่ละปากออกจากอกเลย
“เจ้าเด็ก..ฮึก..ขี้โกง” ดาริณฟ้องเอากับลมฟ้าอากาศ
ถัดจากกางเกงขายาว ก็เป็นกางเกงชั้นในขอบลาย Supreme ที่วันนี้พวกเขาใส่คู่กัน ขิงยังดูดดึงเยลลี่สีหวานไปเรื่อยๆ พร้อมกับเกี่ยวชั้นในตัวจ้อยลง
“มะ ไม่เอานะ”
“ไม่ให้ทำหรอครับ”
“ขิงบอกให้ไปแช่น้ำก่อนไม่ใช่หรอ”
“แต่พี่รู้สึกมากขนาดนี้ ผมจะใจร้ายได้ยังไง”
ดาริณไม่มีโอกาสปฏิเสธเลย เมื่อใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงไปอีก พร้อมกับที่เจ้าตัวนั่งยองลงกับพื้น
“ดะเดี๋ยว..ฮื้อ” ดาริณห้ามน้อง แต่ขิงนั้นไม่ได้สนใจเเล้ว เขาต้องประพฤติตัวเป็นชายใจเหี้ยม กำจัดลูกๆ ของดาริณออกไปบางส่วนก่อน ไม่งั้นนะเจ้าตัวดีก็จะเเรงเยอะ พลังล้นสะกิดเขาจนไม่ได้แช่น้ำกันพอดี
“อื้อ ขิง!”
ลิ้นอุ่นๆ จัดการรีดเร้นอารมณ์ของดาริณให้พุ่งสูง ฝ่ามือขาวขยำไปบนเส้นผมของคนน้องบางครั้งก็ลูบไล้บางครั้งก็บังคับให้อีกฝ่ายเคลื่อนเรียวลิ้นตามที่ตนต้องการ ไม่นานเจ้าเด็กก็ทำสำเร็จ ทอนพลังของคนพี่ออกไปได้มากโข
หลังทำให้คนพี่เเรงน้อยลงได้ ขิงก็ลากเจ้าตัวดีของเขาไปนั่งลงบนเก้าอี้ไม้เตี้ยๆ แล้วเปิดฝักบัวล้างตัวให้อีกฝ่าย ดาริณนั่งนิ่งให้ขิงจัดการ อารมณ์เมื่อสักครู่รุนเเรงจนในสมองเขายังมึนเบลอ ขิงล้างตัวให้ดาริณเสร็จก็บอกให้อีกฝ่ายลงไปแช่ออนเซ็นก่อน
“แล้วเจ้าเด็กอ่ะ” ดาริณที่ร่างกายเปล่าเปลือยถาม
“ผมเเก้ผ้าต่อหน้าพี่เดี๋ยวก็ไม่ได้แช่อีกอ่ะ เดินลงไปก่อน ปิดตาด้วย แล้วเดี๋ยวขิงตามไป”
ดาริณยู่ปากอย่างแง่งอน เดินปัดๆ ลงไปหย่อนขาลงในบ่อหิน ขิงส่ายหน้าเเล้วยิ้มตาม ขี้หงุดหงิดอย่างกับลูกเเมวเเหนะ
เมื่อเห็นว่าคนพี่ดี๊ด๊าไปกับน้ำอุ่นจนลืมสนใจเขาเเล้ว ขิงก็ถอดกางเกงลงบ้าง เขาจัดการล้างตัวตามมารยาทการลงเเช่ออนเซ็นที่ดี แล้วค่อยไปหย่อนตัวลงไปในน้ำอุ่นกว่าอุณหภูมิร่างกาย
ปรับตัวเพียงเเป๊บเดียวจากที่รู้สึกร้อนมากก็เป็นความอุ่นกำลังดี
ควันสีขาวจางๆ ลอยคลอไปกับผิวน้ำ บังโฉมหน้าดาริณไว้บางส่วนทำให้กลายเป็นภาพที่หน้ามอง ขิงทรุดนั่งลงที่ขั้นบันไดหินใต้น้ำ แล้วมองคนพี่ที่เดินไปเดินมาอย่างอารมณ์ดี ไม่นานดาริณก็ก้าวเตาะเเตะมาซุกตัวอยู่ข้างๆ ขิง คนน้องกดจูบลงไปบนเเก้มชมพูนุ่มนิ่ม ดาริณหอมเเก้มอีกฝ่ายกลับเช่นกัน
“ชอบมั้ย” ขิงถาม ใช้นิ้วเกลี่ยจมูกเล็กนั้นไปด้วยความหลงใหล
ดาริณพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มเเทบจะถึงหู “ขอบคุณนะครับ ที่พาพี่มา”
เขาเเค่เปรยๆ ว่าอยากเเช่อ็อนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ บ้าง เย็นวันนั้นขิงก็ส่งใบจองเรียวกังมาให้ดู เจ้าเด็กเอาใจคนพี่เก่งที่สุด
พวกเขานั่งชมวิวเเล้วก็พูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อยกันพักหนึ่งก็ถึงเวลาที่ควรขึ้นจากน้ำ แน่นอนว่าขิงไล่เจ้าพี่ขึ้นไปก่อน พวกเขาสองคนยังไม่ควรสปาร์คกันทันทีหลังเเช่น้ำร้อน เดี๋ยวจะหน้ามืดเอาได้ เมื่อดาริณตะโกนบอกว่าเเต่งตัวเรียบร้อยขิงก็ลุกออกไปบ้าง เขาอาบน้ำอีกครั้งเพื่อปรับอุณหภูมิร่างกาย ขิงเปิดฝักบัวให้สายน้ำไหลผ่านร่างเปลือยเปล่าตั้งเเต่ศีรษะไปจนถึงข้อเท้า เขาหลับตาฮัมเพลงไปด้วย โดยไม่ได้รู้เลยว่าภาพสุดเซ็กซี่นั้นตกอยู่ในสายตาซุกซนของใคร ดาริณยกชายผ้าขึ้นมากัดเพื่อกลั้นเสียงกรีดร้อง เจ้าเด็กของเขาดูฮอตจนน่าหวงไปหมดทำยังไงดี และเมื่อขิงปิดน้ำดาริณก็ต้องกลิ้งตัวกลับไปที่ห้องนั่งเล่น ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ตอนนี้ใบหน้ามันร้อนผ่าวไปหมดแล้ว ดาริณนั่งทับขาอยู่หน้าโต๊ะเตี้ยๆ ที่มีกาน้ำชาวางอยู่
พอขิงเดินเข้ามา เขาก็ยกถ้วยชาขึ้นจิบทั้งที่มันว่างเปล่า พยายามให้เหมือนนั่งทำพฤติกรรมเเบบนี้มานานเเล้วไม่ได้ไปแอบดู
นัยน์ตาคมจ้องมองท่าทางหลุกหลิกนั้นเเล้วก็ทำคิ้วขมวด ดาริณหันมาเจอหน้ายุ่งๆ ของขิงเข้าไปแล้วอยากจะตายไปเสียเดี๋ยวนั้น เวลาน้องดุทำไมมันกร้าวใจจังอ่ะ เขาหลงเจ้าเด็กจนจะไม่ไหวอยู่เเล้วนะ
ปล้ำหลัวตัวเองผิดมากมั้ยวะ!
“เป็นอะไร” ขิงถาม แล้วเดินมานั่งลงใกล้ๆ ดาริณถอยกรูดไปชิดฝาผนังด้านหนึ่ง
“ดาว” ขิงเรียกเสียงเข้มเเล้วคลานตามไป มันเหมือนหมาป่าตัวใหญ่ที่ไล่ต้อนกระต่ายตัวน้อย
“อยะ อย่าเข้ามานะ” ดาริณหลับตาปี๋ แล้วส่ายหน้าผับ
ขิงยิ่งงง ปกติมีเเต่วิ่งเข้าหา “โกรธอะไรผมหรอ”
“ไม่ได้โกรธ”
“แล้วหนีผมทำไม”
“จะเจ้าเด็กหล่อเกินไป หัวใจพี่ดาวเต้นไม่ทันเเล้ว หัวใจจะวายอยู่เเล้ว งือ”
ขิงขำหลุดยิ้มออกมานิดนึงก็ปั้นหน้าดุเหมือนเดิม เจ้าตัวโตคว้าข้อเท้าคนพี่หมับ มันเป็นส่วนหนึ่งที่เซ็กซี่มากในตัวดาริณก่อนจะยกมันขึ้นจุมพิตลงไปเบาๆ
ดาริณเลือดลมเดินจนหน้าและหูเเดงไปหมด ขิงลากข้อเท้าคนพี่ให้ทั้งตัวสไลด์มาตกอยู่ใต้ร่าง ดาริณยกมือปิดหน้า ขิงจับมือสองข้างนั้นออกเบาๆ แล้วรวบมันไว้เหนือศีรษะ ตาคมกวาดมองใบหน้าเขินอายจนตลกไปหมดของดาริณ
“พร้อมโดนกินหรือยัง” เสียงแหบเซ็กซี่ถาม
คนพี่ตาโต นึกว่าจะกินข้าวเย็นกันก่อน แล้วค่อยทำกันก่อนนอนซะอีก
“หิวแล้วหรอ” เสียงหวานถาม
ขิงพยักหน้า เเช่น้ำร้อนมาเนื้อน่าจะเปื่อยพร้อมเคี้ยวละ
เขาไม่รอให้คนพี่ตอบแล้วก้มลงจูบทันที จูบอ่อนหวานในตอนเเรกแล้วก็ทวีความรุนเเรงขึ้นเรื่อยๆ ขิงขบกินกลีบปากสีอ่อนอย่างชอบใจ
สาปเสื้อยูคาตะค่อยๆ หลุดลุ่ยออกตามเเรงขยับของคนตัวเล็ก เสียงหายใจช้าๆ เริ่มกลายเป็นหอบหนักขึ้นเรื่อยๆ ดาริณผลักขิงออกจากตัว ไม่ได้รังเกียจรังงอนแต่พี่ชอบกระทำ ขิงนอนเเผ่รับเอวเจ้าตัวเล็กที่ปีนขึ้นมานั่งลงตรงช่วงกลางลำตัว
ขิงผ่อนลมหายใจอย่างยากลำบาก อาจจะเพราะเราห่างหายกันไปนาน ส่วนนั้นของดาริณจึงคับเเน่นคูณสาม คนพี่เองก็ทำหน้าทรมาณไม่เเพ้กัน แล้วค่อยๆ ขยับตัวเล่นซุกซนไม่ต่างจากลูกหมา ดาริณก้มลงไปจูบปากขิงบ้าง เเต่จูบไม่ถนัดมากหรอก เพราะส่งเสียงอิ๊อ๊ะในทุกครั้งที่คนน้องขยับเอวโต้ตอบ และวันนี้ขิงก็ไม่มีเวลาเล่นกับดาริณมากเพราะมันจะไม่ไหวแล้วโว้ย
คนน้องผลักไหล่คนพี่ออกบ้าง ดาริณลุกออกไปพร้อมหน้างอเเง แต่ขิงไม่เสียเวลาปลอบใจเหมือนเช่นที่เคยทำ อารมณ์เขากำลังพัดกระพือรุนเเรง ดาริณคลานกลับไปตรงฟูกนอน เพราะรู้ว่าช่วงต่อไปขิงไม่อ่อนโยนกับหัวเข่าเขาเเน่ๆ นุ้งดาวไม่อยากให้หัวเข่าด้านฮะเลยไปหาเบาะนุ่มๆ คอยซับเเรงกระเเทกหน่อยดีกว่า ขิงตามไปทาบทับที่ด้านหลังคนพี่ทันที เขาจับสะโพกนุ่มกลมไว้มั่นแล้วก็เชื่อมต่อส่วนสำคัญกัน ขิงเร่งจังหวะจนดาวต้องส่งเสียงต่ำๆ ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ประสานไปกับเสียงเนื้อบนต้นขาที่กระทบกันดังลั่น
ไม่นานคนน้องก็รวบเอวคนพี่ขึ้นมากอด ไหลเลื้อยมือลามไปตรงหน้าอก บีบเค้นมันไปด้วยจนดาวเเทบห้ามความรู้สึกไม่ไหว มือเล็กๆ ของดาวจับท่อนขาของขิงเเน่นเพื่อบรรเทาอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ใบหน้าหวานยุ่งเหยิง เกร็งตัวเป็นพักๆ เพื่อรองรับหนั่นเนื้อร้อนของเจ้าเด็กที่ตอกตรึงเข้ามาเเบบไม่เว้นจังหวะให้หายใจ
ท่ามกลางเสียงลมพัดใบไม้ไหว ภายในห้องพักกลับคุกกรุ่นไปด้วยเสียงหอบของสองร่างที่สอดประสานกันอย่างลึกซึ้ง
โชคดีที่เรือนโบราณสร้างมาอย่างเเข็งเเรงทนทาน ไม่งั้นเจอเเรงบดเบียดอันเเสนดุดันของน้องขิงเข้าไปเสาเรือนอาจจะทรุดได้
พายุอารมณ์ของคู่รักพัดกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งติดต่อกันอีกหลายชั่วโมง ขิงถึงยอมปล่อยคนพี่ให้เป็นอิสระ เขาโอบกอดรอบตัวดาริณไว้ กอดปลอบจนกว่าลมหายใจของดาริณค่อยๆ เข้าสู่ภาวะปกติ จูบซับเหงื่อรอบขมับแผ่วเบาไปพร้อมกับการลูบหลังให้อีกฝ่ายผ่อนคลายลง ทุกการกระทำเป็นไปอย่างอ่อนโยน เพื่อชดเชยการเอาเเต่ใจที่ผ่านมาเมื่อครู่ ขิงคงคิดถึงดาวมากไปหน่อย เล่นเอาคนพี่หมดเเรงครางหงิงๆ เลยทีเดียว
เมื่อดาริณพอจะหายงอเเงแล้ว คนตัวสูงก็รวบสาบเสื้อยูคาตะให้ปกปิดร่องรอยบวมเเดงทั่วร่างที่เขาเป็นคนสร้างขึ้นมา และไม่ต้องเดาว่าส่วนไหนของร่างกายที่ถูกรังเเกมากที่สุด
“อาบน้ำนะ” ขิงบอกคนพี่เบาๆ ดาวจะทำอะไรได้ โดนเขากินจนตัวอ่อนไปหมดก็ได้เเต่พยักหน้า กอดคอน้องเป็นลิงเลย
หลังจากได้พักร่างนิดหน่อยพี่ดาวคนเก่งก็กับมาฟิตเหมือนเดิม ขิงสอดนิ้วเข้าไปในอุ้งมือคนพี่เเล้วจูงเดินเรื่อยๆ ไปยังห้องอาหารของเรียวกัง เขาจองคอร์ส Omakase สำหรับ 2ที่ไว้ ซึ่งเป็นการรับประทานอาหารญี่ปุ่นเเบบดั้งเดิมคือเชฟจะเป็นคนเลือกเมนูมาให้เราเอง ดาริณตัวน้อยตัวนิดตื่นเต้นจนเเทบจะกระโดดดึ๋งดั๋งให้ไปถึงเร็วๆ แต่ขิงนั้นรู้ดีว่าร่างพี่อ่ะไม่อำนวยหรอก ทำมาเองกับมือทำไมจะไม่รู้ว่าสะบักสะบอมเเค่ไหน
ร่างสูงมองตามปากบวมฉึ่งที่พูดจ้อยๆ ไปตลอดทางเเล้วตัวขิงเองก็ต้องบีบเสียงเล็กเสียงน้อยตอบเพื่อให้เข้ากับบทสนทนาของคนพี่ บางครั้งดาริณก็เหมือนเด็กๆ ที่ยังไม่โต มีโลกสดใสเหมือนวิ่งเล่นอยู่ในการ์ตูนมังงะ ขิงมองเเล้วก็ยิ้ม มันเป็นยิ้มจางๆ ที่เขากำลังมีความสุขกับช่วงเวลาตรงนี้ เเต่ก็อดพาลกังวลไปถึงช่วงที่เขาต้องไปอยู่บ้านดาวไม่ได้ ถึงตอนนั้นที่ต้องเเยกกันนานๆ ชีวิตคู่ของพวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้างนะ และเมื่อความคิดนี้เเทรกเข้ามาหัวใจเขาก็วูบโหวงแปลกๆ
ในขณะที่ดาริณยังไม่รู้เลยว่า ‘พายุ’ กำลังจะพัดมา
ดาวมีความสุขกับการกินมื้อพิเศษ ตั้งใจฟังเชฟเเนะนำทั้งที่ภาษาอังกฤษกระท่อนกระเเท่นมากเต็มที ขิงเองก็อดจะยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ เขารักใบหน้าที่เเสนสดใสของดาว ถ้าเป็นไปได้เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายมีน้ำตาเลยเเม้เเต่น้อย ดาริณของเขาส่องประกายงดงามที่สุด มันเหมือนดาวสว่างได้ด้วยความหวังและความฝันอันเเรงกล้า
ขิงรักดาวที่เป็นเเบบนั้น รักดาวที่มีความสุขในการใช้ชีวิต
ร่างสูงรู้สึกตัวอีกครั้ง เมื่อมือนุ่มเเตะลงมาบนหัวเข่าเขา พร้อมใบหน้าน่ารักยื่นมามองเขาจนใกล้ ขิงพึ่งรู้ตัวว่าเชฟบรรยายจบเเล้ว
“เจ้าเด็กเหม่ออะไร”
“ผมมองดาวของผมเพลินไปหน่อย”
“โกหก ตาลอยไปไกลเชียว ไม่ได้มองหน้าดาวเเน่ๆ”
“ขอโทษครับ”
ดาวเปลี่ยนมาลูบเเขนคนน้องเบาๆ เเทน
“ถ้ามีอะไรไม่สบายใจ ก็บอกดาวนะ”
ร่างสูงเลือกจะส่ายหน้า ดาวกำลังมีความสุขกับการท่องเที่ยว เขาไม่ควรเอาเรื่องนั้นมาทำลายความสนุกในตอนนี้
“ขิงเเค่คิดว่าพรุ่งนี้จะพาพี่ไปนั่งรถไฟชมวิวสวยๆ หรือจะเเค่เข้าไปเดินเล่นในเมืองดี” นายขุนเขาเลือกที่จะปด
ดาวยิ้มกว้าง “เเค่ได้อยู่ด้วยกันจะไปไหนดาวก็แฮปปี้ทั้งนั้น”
ดาว...
ขิงอดส่งมือไปขยี้กลุ่มผมนุ่มของอีกฝ่ายไม่ได้ ดาวไม่ได้ตอบเอาใจเขา ดวงตานั้นตอบกลับมาด้วยความใส่ซื่อ ขิงเริ่มไม่แน่ใจว่าเรื่องที่เขาตกลงกับพ่อดาวนั้นมันคือทางออกที่ดีเเล้วจริงหรือไม่
คืนนั้นพวกเขานั่งดูท้องฟ้ากันที่ชานเรือน บนฟ้าพร่างพรายไปด้วยดวงดาวสุกสว่าง
“ดาวนำทางของขิงคือดวงไหนหรอ” ดาวถามย้อนไปถึงสิ่งที่ขิงเคยให้สัมภาษณ์บนเวที
ขิงกุมมือคนพี่มาไว้ที่หน้าตัก เขาไม่จำเป็นต้องตอบ ว่าทุกวันนี้ที่ชีวิตเขาดำเนินไปเพราะมีใครคอยให้ความสุขอยู่ข้างๆ
“ดาวของเรา ดาวของขิง” คำว่า ‘เรา’ ขิงไม่ได้หมายถึงตัวเอง แต่หมายถึง ‘ความรักของเรา ที่มีดาวของเขาคอยทำทาง’
ดาริณตีความในใจ แล้วก็อมยิ้ม เขาใช้มือที่ว่างช้อนใบหน้าของขิงไว้ แล้วยืดตัวเองขึ้นไปจูบเบาๆ ที่ปลายคาง
“ขิงของดาว ขิงที่ทำให้ดาวมีความหมาย”
นัยน์ตาของทั้งคู่มีเพียงกันและกันเท่านั้น ซึมซับความอบอุ่นที่ถ่ายทอดออกมารอบตัวอย่างรู้ความหมาย
พออากาศเริ่มหนาวเกินไป ขิงก็ชวนดาวเข้าห้องปิดประตูที่เชื่อมกับชานระเบียงเสีย ดาวคลานลงไปซุกตัวบนฟูกนุ่ม ขิงนอนตาม แล้วเจ้าตัวเล็กตัวน้อยก็พลิกเอาแก้มมาเเนบไว้กับอกขิง มือใหญ่เลื่อนไปจับหูดาวเล่น บางทีก็ลามไปเกาเเก้มนุ่มๆ นั้นบ้าง ดาวมุดหน้าหนีไปกับอก จนเลยเถิดพลิกตัวกอดเกี่ยวเขาไว้ทั้งตัว ดาวเงยหน้าเเล้วยิ้มซนให้ขิง คนน้องลูบไหล่พี่เบาๆ เหมือนจะกล่อมให้นอนได้แล้ว
ดาวหลับตาลงพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ ที่ริมฝีปาก เพียงเเค่ได้สัมผัสตัวเจ้าเด็ก ได้อยู่ใกล้ ความเหนื่อย ความเครียด แรงกดดันที่ได้รับตอนฝึกงานก็กลายเป็นเรื่องเเสนเบาบางราวปุยนุ่น ขิงคือขุมพลังของเขา เเค่มากอดๆ ก็เหมือนได้ชาร์ตเเบตให้เต็ม ดาวรู้สึกอบอุ่นหัวใจจริงๆ ที่ได้อยู่ใกล้ๆ ขิง
“ขอบคุณที่อยู่ข้างๆ พี่ดาวนะ” ดาวพึมพำเเผ่วเบาอยู่กับอก แต่เพราะในห้องมันเงียบมากทำให้ขิงได้ยินชัดทุกคำ เขาลูบเเขนดาวเบาๆ เป็นเชิงว่ารับรู้ ทั้งที่ในใจกำลังหนักเเสนหนัก
ความรักมั่นคงที่มีให้กันมันจะทดเเทนการอยู่ข้างๆ กันได้หรือไม่นะ?
ขิงเเละดาริณกลับมาถึงเมืองไทยเเล้ว เด็กมัธยมเปิดเทอมก่อนและไม่นานเด็กมหา’ ลัยก็ต้องไปเรียนบ้าง ช่วงม.6ของขิงอาจจะไม่ได้ยุ่งเรื่องเรียนวิชาการมากเพราะเป็นโรงเรียนที่เน้นศิลปะเเละดนตรี เเต่ขิงเองก็ต้องเตรียมตัวสอบเข้าระดับอุดมศึกษา เเถมยังมีเรื่องงานเพลงที่หลังได้รับรางวัล วงของเขาก็เข้าใกล้คำว่าศิลปินมีชื่อเสียงเข้าไปอีกนิด สัญญาทำเพลงเเละโปรโมทมีระยะเวลา10เดือน ดังนั้นกว่าจะหมดก็ตอนขิงเรียนจบม.ปลายพอดีนั้นเเหละ เเละขิงกับเพื่อนๆ ในวงเองก็ไม่ได้มีความคิดจะอยู่ในวงการต่อ ความฟันของพวกเขาถูกเติมเต็มตั้งเเต่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งในเวทีระดับเอเชียเเล้ว
ส่วนดาริณ ปีสี่ก็เป็นปีเเห่งการทำโปรเจค Animation ของตัวเองที่กินไปหลายหน่วยกิต ใช้เวลาเตรียมงานมากมายตั้งเเต่ร่าง Story Board ขายงานจนไปถึงปั้น3D ขึ้นมาเป็นการ์ตูนสั้น 1เรื่อง เเต่ดาวก็ยังอยากเจียดเวลารับงานรีวิวสินค้า หรือถ่ายโฆษณาเหมือนเดิมเพื่อหาเงินไว้ใช้ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ป๊าไม่ได้ให้เงินเขามาใช้ทิ้งขว้างไปกับคอมพิวเตอร์หรือเม้าท์ปากกาหรอกนะ
และไม่นานเกินรอดาริณก็มีเข้าไปถ่ายงานที่สตู GXX อีกครั้ง เเน่นอนว่าเป็นไปเพราะเเรงเชียร์ของอลงกรณ์ต่อลูกค้า รวมไปถึงพยายามทำให้ดาริณยุ่งเข้าไว้ โพนี่จะได้มีเวลาทักไปคุยกับขิงบ้างเป็นระยะ หลังจากที่ได้เเลกไลน์กันหลังจากที่ได้เจอกันบ่อยๆ ที่ขิงมาออกรายการ
Pony : น้องขิงคุยได้หรือเปล่า
KKK : ครับ
Pony : ปวดหัวเรื่องคนที่คุยด้วยอีกเเล้วอ่ะ
โพนี่สร้างเรื่องคนในจินตนาการขึ้นมาเพื่อปรึกษาขิงเรื่องความรัก และขิงจะได้ไม่รู้ตัวด้วยว่าเขากำลังวางเเผนจับ!
KKK : จับได้อีกแล้วอ่ะว่าคุยกับคนอื่น
Pony : ไม่เชิง แต่เเบบเค้าห่างๆ ไป ทักไปไม่ตอบ ทั้งที่พึ่งเล่นโซเชียลอื่นๆ
KKK : คิดมากน่า
Pony : หงุดหงิดอ่ะ แบบจะเอายังไงก็บอก พี่เเค่อยากได้ความชัดเจน
KKK : เค้าก็ยังไม่ชัดเจนไง พี่ถอยๆ ออกมาเองดีกว่ามั้ง จะได้ไม่เสียใจทีหลัว
Pony : จะมีคนอื่นก็หยุดคุยกับพี่ไปเลยดิ นี่พอจะห่างเดี๋ยวก็กลับมาง้ออีก
KKK : งั้นบอกเลิกเค้าก่อนมั้ยละ สวยๆ
Pony : เฮ้ย...ความคิดดี เดี๋ยวพิมพ์ไปบอกเลย
KKK : ใจเย็นดิพี่ มีตัวสำรองไว้ยัง เดี๋ยวไม่มีคนคุยด้วยก็เหงาอีกอ่ะ
Pony : สตรองดิ อยู่คนเดียวด๊ายยย สบ๊ายยยย
KKK : ได้จริงก็อย่าเสียงสูงดิ
Pony : ถ้าไม่ไหว เดี๋ยวค่อยไปงอเเงกับขิง
KKK : เอางั้นเลยนะ
Pony : อย่าพึ่งรำคาญนะ
KKK : ไม่หรอกพี่ ว่างก็คุยด้วยได้
Pony : ขอบคุณน๊า ไม่กวนละ ไปบอกเลิกก่อน
KKK : สู้ๆ ครับ
Pony : น้องขิงอย่าลืมลบเเชทที่เราคุยกันด้วยน๊า
KKK : ทำไมละครับ
Pony : ก็เดี๋ยวเเฟนมาเห็น คิดมากเปล่า คุยกับคนอื่น
KKK : แฟนผมไม่เล่นโทรศัพท์หรอก แล้วที่เราคุยกันก็ไม่เสียหายนิครับ
Pony : กันไว้ดีกว่าเเก้ เชื่อพี่ เนี่ยพี่ก็จะลบ เพื่อเค้ามาเห็นเเล้วโวยวายอีก ขี้เกียจอธิบาย
KKK : เอ้า พี่จะเลิกเเล้วไม่ใช่หรอ ยังกลัวอะไรอีก 555
Pony : กั๊กไว้ก่อนดิ เพื่อเรางอเเงเเล้วเค้ากลับมา
KKK : ร้ายมากอ่ะ
Pony : พี่จะไม่ตอบเเล้วนะ ขิงจะได้ลบ
KKK : เคเค ลบก็ได้ครับ
โพนี่คว่ำโทรศัพท์ลงกับหน้าตักแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มันจะไม่เเปลกเลยถ้าไม่ได้นั่งอยู่ในกองถ่ายเดียวกับดาริณ เเล้วเก้าอี้ก็ใกล้กันมาก เมื่อเห็นว่าดาริณไม่ได้สนใจรอบข้างมาก เขาก็หยิบมือถือขึ้นมาทยอยลบข้อความที่ไม่เกี่ยวข้องออก เหลือไว้เเค่
KKK : สู้ๆ ครับ
หึหึ...
“น้องโพนี่ คุยกับคุณกรณ์หรอ ทำไมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขนาดนั้น” เสียงพี่ช่างเเต่งหน้าเเซว หลายคนรู้ว่าเขากิ๊กๆ อยู่กับผู้บริหาร แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังกำลังจับมือกันทำลายความสัมพันธ์ของอีกคู่ต่างหาก
โพนี่คว่ำมือถือลงอย่างเนียนๆ แล้วส่ายหน้า ตอบไว้ให้เป็นปริศนา “เด็กกรุบกรุบ”
“วร้ายๆ กินเด็กเป็นอมตะ”
“เด็กขี้อ้อนด้วย คุยด้วยเเล้วรู้สึกดีจังครับพี่ตา”
“คบกันรึป่ะ หรือเเค่คุยๆ” พี่ตาถามต่ออย่างใส่ใจ
“ไม่รีบครับ คุยๆ กันก่อน”
“แหม...อัพเดทเป็นระยะๆ นะคะ พี่อยากเห็นเเฟนเด็กเเซ่บๆ แล้ว”
“รอดูข่าวเดทเเล้วกันครับ” โพนี่ยักไหล่ แล้วก็เป็นช่วงที่ผู้กำกับเรียกให้ไปถ่ายทำต่อพอดี มันเป็นฉากถ่ายเดี่ยวของโพนี่ เขาจึงลุกขึ้นเเละจงใจทำโทรศัพท์ตกหน้าดาริณชนิดที่ว่าอีกฝ่ายต้องก้มลงช่วยเก็บให้ และถึงให้เป็นคนไม่ใส่ใจเรื่องชาวบ้านให้ตายยังไง ก็ไม่มีทางที่จะไม่เห็น Background Line ที่เซตไว้เป็นรูปขิง พร้อมข้อความที่หลังเหลือไว้เดี่ยวๆ ว่า
KKK :สู้ๆ ครับ
ดาริณส่งโทรศัพท์คือให้โพนี่ คนเจ้าเเผนการณ์ยิ้มขอบคุณนิดหน่อยเเล้วเดินไปเข้าฉาก ดาวเม้มปากครุ่นคิด แต่ก็ช่างเถอะเจ้าเด็กที่บูชาเขาเช้าเย็นแบบนั้น ขิงน่าจะเป็นศิลปินที่ใครหลายๆ คนชอบ จะมีคนเซฟรูปไปใช้บ้างคงไม่ผิด...
หรา...ดาริณ
ความสงสัยเล็กๆ มันเกาะหนึบทำให้หัวใจดาริณคันนิดๆ เขากลับไปคอนโดแล้วก็นั่งกอดอกจ้องประตูทางเข้าห้องเขม็ง
ขิงเลิกเรียนแล้วไม่มีงานที่ไหน ก็กลับห้องกะจะหยอกเย้าดาริณคนฮอตให้สมใจ แต่กลับมาเจอบรรยากาศมาคุตาขวางเเทน ร่างสูงวางเป้ลงบนโต๊ะรับเเขกแล้วทรุดตัวนั่งลงไปบนโซฟาข้างๆ ตัวดาว
“เมนส์มาอีกแล้วหรอแฟน” คนตัวโตถาม เขารวบเอวขนาดกำลังพอดีนั้นมากอด หอมเเก้มนุ่มๆ ไปอีกหนึ่งที นัวเนียดาริณนี่เป็นสิ่งที่ขิงโปรดปราณอันดับหนึ่งล่ะ
“ขอดูมือถือหน่อยสิ” ดาริณอยากจะกัดลิ้นตัวเอง เขาไม่อยากทำตัวเป็นเเฟนงี่เง่าเลย แต่มันก็สลัดความสงสัยว่าเขาสองคนคุยอะไรกันออกไปไม่ได้จริงๆ
ขิงชะงักไป เขาพึ่งคุยกับรุ่นพี่พิธีกรในเครือ GXX ที่เคยเจอกันบ่อยๆ เวลาไปอัดรายการพอดีว่าดาวไม่มีทางเช็คโทรศัพท์หรอก อยู่ๆ วันนี้เจ้าตัวเล็กก็องค์ลงซะงั้น ดาวเเบมือมาตรงหน้ากวักยิกๆ เป็นแมวกวักเลย ขิงกดปล็ดล็อคแล้วส่งให้
ดาวเข้าไปในแอพลิเคชั่นไลน์ทันที ไล่ดูก็ไม่มีบทสนทนากับโพนี่เลย เเต่ขิงมีโพนี่เป็นเพื่อนจริงๆ ด้วย หัวใจคนตัวเล็กพลันเต้นเเรงขึ้นไปอีก เเปลว่าขิงคุยเเล้วเเอบลบข้อความหรอ ถ้าบริสุทธิ์ใจทำไมต้องลบด้วยอ่ะ มีเเต่ความไม่เข้าใจเต็มหัวดาวไปหมด ขิงมองสีหน้าที่เปลี่ยนไปมาตลอดเวลาของเเฟนเเล้วก็ต้องรวบกอดเอวนั้นไว้อีกรอบ
“อยากถามอะไรขิงหรือเปล่า” เขาเกยคางลงไปบนไหล่คนพี่
ดาริณส่ายหน้า จะให้ถามในเรื่องที่ไม่มีหลักฐานได้ยังไง
“ดาวครับ”
ดาริณหันมามองหน้าคนรัก แล้วก็ถอนหายใจ
“ไม่มีอะไรหรอก ดาวงี่เง่าเอง”
ขิงอมยิ้ม กดจูบลงไปบนริมฝีปากน่ารักนั้นหนึ่งที
“งี่เง่าเรื่องอะไรบอกได้มั้ย เราไม่มีความลับกันสิ” ขิงตะล่อมเเล้วก็อยากจะตีปากตัวเอง เขานี่เเหละยังมีความลับที่ไม่ได้บอกดาวเรื่องว่าต้องย้ายไปอยู่ภูเก็ต
“ไม่มีอะไรเเล้ว ขิงรักพี่ดาว ดาวรักน้องขิงเเค่นี้ก็พอเนาะ ไม่ต้องสนใจอย่างอื่นหรอก”
ขิงตามดาวไม่ทันเเล้ว เพราะหลังพูดจบคนพี่ก็หันมากอดเอวอ้อนเขาเเทน
“อยากกินขนมอ่ะ พาไปกินหน่อย”
“ขอเปลี่ยนชุดแป๊บนึงนะ”
ดาวพยักหน้ารับ
เมื่อขิงลุกจากไป ดาวก็ตบเเก้มตัวเองเรียกสติ “ไม่มีอะไรหรอกดาว อย่ากวนน้ำให้ขุ่นเลย”
หลังให้กำลังใจตัวเองเเล้วดาวก็รู้สึกดีขึ้น พอดีกับขิงเเต่งตัวด้วยเสื้อยืดสบายๆ กับกางเกงขาสั้นออกมา ดาวลุกขึ้นไปเกาะเเขนหนึบ เเล้วก็เดินออกไปจากห้องด้วยกัน
TBC
ลงต่ออย่างรวดเร็ว เพราะเห็นคอมเม้นเเล้วแบบ โอ้ยอยากสปอย ชั้นอยากสปอยรีดเดอร์ทั้งหลาย ให้รางวัลไรต์ที่ลงเร็วด้วยนะฮะ ^^
คือแต่งๆ มาเเล้วแบบ เป็นนิยายที่สงสารตัวร้ายเหลือเกิน คือไม่ว่าจะพยายามขนาดไหน อิพระนางของเราไม่สนห่าเหวไรทั้งนั้น นัวกันอย่างจริงจังเเละคร่ำเคร่ง คือถ้าโพนี่และอลงกรณ์รู้คือแบบ อกแตกอ่ะ
คอมเม้นแม่ๆ น้องดาวมาเต็มมากตอนที่ผ่านมา ขอบคุณนะคะ เเล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
ปล. ลาสบอสเป็นคุณป๊าของดาวนี่เเหละ ที่เหลือก็เเค่เเสบๆ คันๆ ฮี่ๆ