TWINS บทที่ 32 ฝาแฝดและความช่วยเหลือที่กำลังมา ผมยังคงนั่งอยู่บนเตียง ไม่สามารถลุกออกไปไหนได้ เพราะข้อมือถูกล็อคกุญแจไว้อย่างแน่นหนา หลังจากได้ยินเสียงเคาะประตูในตอนเช้า ธัชก็อยู่ข้างๆ ผม กอดผมเอาไว้แน่นจนผลอยหลับไป ผมลูบแก้มธัชเบาๆ ก้มลงไปจูบและหอมที่แก้มของธัชที่ยังคงหลับสนิท ผมอยากให้ธัชได้รู้ว่าผมนั้นรักธัชมากแค่ไหน แต่ตอนนี้นั้น ธัชไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลย
" พี่หิวไหมครับ " ธัชลืมตาขึ้นมองผม ยื่นมือมาลูบเบาๆ ที่แก้มผมช้าๆ ผมส่ายหน้าไปมา ผมไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น ผมอยากนั่งอยู่อย่างนี้ จ้องมองธัชที่กำลังส่งยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน
" พี่รักธัช " ผมพูดพลางจับมือธัชและจูบเบาๆ ที่หลังมือนั้น ธัชมองผมพลางขมวดคิ้วมุ่น
" จริงเหรอครับ " ธัชมองผมด้วยแววตาสงสัย
" พี่รักธัชจริงๆ " ผมพูดอีกครั้งด้วยความมั่นใจ
" แล้วเซนเซย์ล่ะ " ผมสะอึก กลืนน้ำลายลงคอมองธัชอย่างไม่เข้าใจ
" เซนเซย์เป็นคนดีนะธัช เซนเซย์ก็รักธัชด้วย "
" ผมก็รักเซนเซย์ฮะ เซนเซย์เป็นผู้มีพระคุณของผม " ธัชพูดออกมาอย่างแผ่วเบา ผมโล่งใจที่ธัชคิดแบบนั้น
" พี่กับเซนเซย์รักธัชนะ พี่อยากให้ธัชหายดี " ผมยิ้มให้น้องที่นอนนิ่งจ้องมองผม
" โกหก " ผมชะงัก จ้องมองธัชที่แววตาเริ่มเปลี่ยนไป
" พี่กับเซนเซย์วางแผนอะไรกัน จะทิ้งผมไปกันใช่ไหม ผมอุตส่าห์ไว้ใจเซนเซย์ แต่ก็รวมหัวกันหลอกผม " ผมส่ายหน้าไปมา
" ไม่ใช่นะธัช ฟังพี่ พี่กับเซนเซย์พยายามช่วยธัช พี่อยากได้น้องชายของพี่คืน " ธัชลุกพรวดออกจากตักของผม และมองผมด้วยแววตาน่ากลัว
" แล้วผมไม่ใช่น้องพี่เหรอ ผมเป็นตัวอะไร!!! " ธัชเริ่มตะโกนเสียงดังและมีสีหน้าไม่พอใจอีกแล้ว
" ผมอยากล็อคเซนเซย์ไว้ที่นี่เหมือนกัน ต้องจับไว้ ขังไว้ แต่จะทำยังไง " ธัชเดินวนไปมาพูดกับตัวเอง เหมือนกำลังวางแผนอะไรสักอย่าง ผมมองน้องด้วยความหวาดหวั่น ผมกลัวว่าธัชจะทำอะไรเซนเซย์ ถ้าต่อหน้าก็หมดหวัง แต่ถ้าลับหลังล่ะ
" ธัช อย่าทำแบบนั้นนะ ไปหาเซนเซย์และคุยกับเขาดีๆ ธัช เขาจะช่วยธัช " ผมพูดขอร้องธัชให้ธัชฟังผมอย่างอ่อนแรง
" ช่วยเหรอ ช่วยอะไร ผมไม่ได้เป็นอะไร!!! " ธัชตะคอกใส่ผมด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียม ธัชเดินออกไปจากห้องและสักพักก็กลับเข้ามา พร้อมกับมีดเล่มเล็กๆ ในมือ ผมตกใจลนลานรีบถอยห่างจากธัชด้วยความหวาดกลัว
" ไม่ได้ เสี่ยงเกินไป สู้ไม่ไหวแน่ ทำยังไงดี " ธัชยังคงบ่นงึมงัมกับตัวเอง พลางถือมีดอย่างน่าหวาดหวั่น
" ธัช อย่าทำแบบนั้นเลย " ผมพยายามพูดอีกครั้งเผื่อธัชจะรู้สึกตัว
" ทั้งสองคนจะได้ไม่ไปไหน ผมรักมากเลยครับ ทั้งสองคน อยู่กับธัชนะ อย่าหนีไปเลย " ธัชเดินมาหาผมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ผมกลับน้ำตาไหลออกมา
ผมอยากเตือนเซนเซย์ ให้รู้ตัวว่าธัชกำลังจะทำอะไร เซนเซย์ถึงแม้จะเก่งและฉลาดแค่ไหน แต่ก็เอ็นดูธัชเสมอ ถ้าหากว่าเผลอล่ะ ผมมือสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
ผมมองน้องที่ยังคงเดินไปมารอบๆ ห้อง และสักพักก็เดินออกไป นานสักประมาณชั่วโมงหนึ่งได้ธัชก็กลับเข้ามาอีกครั้ง ด้วยเสื้อช็อปวิศวะสีเข้ม และหวีผมเซ็ตแบบปกติ ดูดีเหมือนทุกๆ วันที่ไปเรียน ธัชใบหน้านิ่งเฉย และเดินเข้ามาหาผม จับมือผมและนั่งลงข้างๆ
" ธัชไปเรียนก่อนนะครับ แล้วจะรีบกลับมาฮะ ผมจะซื้อของกินมาให้นะ แล้วผมจะพาเซนเซย์มาอยู่เป็นเพื่อน พวกเราสามคน อยู่ด้วยกันตลอดไป " ผมมองใบหน้าเคลิ้มฝันของธัช ด้วยความหมองเศร้า
" อย่าทำอะไรเซนเซย์นะธัช พี่ขอร้อง " ผมจับมือธัชและพูดกับธัชทั้งน้ำตา
" เงียบซะ!!! ผมจะเป็นคนตัดสินใจเอง " ผมร้องไห้เพราะธัชนั้นตะโกนใส่ผมอีกครั้งด้วยความไม่พอใจ ธัชไม่เคยเป็นขนาดนี้เลย ขอร้องล่ะ เซนเซย์ช่วยหยุดธัชที ขอให้รู้ตัวทีเถอะ
เคียวเซนเซย์ ในตอนเช้า ผมได้มาที่คอนโดของทั้งสองคน เพื่อเช็คว่าทุกอย่างปกติดีหรือเปล่า เพราะเมื่อคืนในช่วงดึก ผมได้โทรหาธิชา และพบว่ามือถือได้ถูกปิดไป หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่สามารถติดต่อได้
ผมไม่คิดว่าผมนั้นกังวลเกินไป เพราะว่าธัชนั้นมีอาการที่หนักมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องน่าเศร้าและอันตราย ในความเป็นจริงแล้วผมต้องการให้ทั้งสองย้ายมาอยู่กับผม เพื่อที่จะได้ตรวจดูอาการและดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ธิชานั้นเป็นพวกที่ค่อนข้างจะไม่พึ่งใคร หัวดื้อ และคงจะไม่ยอม
หลังจากที่เคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ น่าแปลก ถ้าหากผมคาดเดาสถานการณ์ละก็ คิดในแง่ดี ทั้งสองอาจจะยังไม่ตื่น แต่ถ้าคิดในแง่ลบละก็ ซึ่งผมไม่อยากคิดเท่าไหร่ ธิชาน่าจะถูกทำให้ลุกขึ้นมาเปิดประตูไม่ได้ และธัชก็คงไม่กล้าเปิดประตูให้ผม ผมช่างใจว่าจะพังเข้าไปดีไหม แต่ถ้าหากทำแบบนั้น ธัชอาจจะคลั่งยิ่งกว่าเดิมก็เป็นได้ มันเป็นวิธีที่ไม่ควรทำ ผมต้องหาทางอื่น เพื่อเข้าไปแบบปกติ แบบที่ธัชไม่ระวังตัว หรือตอนที่ธัชไม่อยู่
ผมคิดมากไปหรือเปล่า ผมไม่สน ผมก็แค่คิดเผื่อไว้ทุกทางเท่าที่จะทำได้ ผมลงลิฟท์และติดต่อกับนิติบุคคลของคอนโดเพื่อขอให้จับตาดูห้องของฝาแฝดนี้ไว้ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นการละเมิด แต่สำหรับผม ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ผมจ่ายอย่างงาม ให้กับคนที่ทำงานให้ผม
ช่วงบ่ายนั้นผมมีสอน ซึ่งแน่นอน เป็นวิชาที่สองแฝดนั้นต้องเข้าเรียน แต่ถ้าหากมาแค่คนเดียวละก็ บิงโก
" เซนเซย์ครับ พี่ธิชไม่ค่อยสบายฮะ ผมเลยมาคนเดียว " ผมสังเกตการพูด สีหน้า แววตา หืม มีความเป็นไปได้ที่จะไม่สบายจริงๆ 20% ตอนพูดแววตาดูจะรื่นเริงเกินไป ถ้าพี่ชายป่วยจริงๆ ละก็ คนที่รักพี่สุดๆ แบบธัช จะไม่ร่าเริงเกินเหตุขนาดนี้ เพราะงั้นนี่น่ะ โกหก 80%
" เมื่อวานก็ยังดูร่าเริงอยู่เลยนะ แปลกจริงๆ " ผมลองพูดหยั่งเชิงดูปฏิกิริยาของธัชว่าจะออกมาในรูปแบบไหน
" นั่นสิครับ พี่น่ะ ชอบฝืนตัวเอง คงจะหลอกให้คิดว่าไม่เป็นไรอยู่นั่นแหละ เป็นแบบนี้เสมอเลยครับ " พริ้วไหวไหลลื่น ร้ายนักนะ
ผมมองสำรวจร่างกายของธัช วันนี้ใส่เสื้อแขนยาวข้างในทั้งๆ ที่อากาศร้อนมาก ใบหน้าดูขาวซีดกว่าปกติ ตาบวมเล็กน้อย หน้าผากเหมือนจะแดงๆ กว่าที่อื่น ทำร้ายตัวเองงั้นเหรอ ผมยื่นมือไปลูบหน้าผากธัชเบาๆ
" เซนเซย์วันนี้ไปกินข้าวกับผมนะ พาผมนั่งรถเล่นหน่อย " ผมเลิกคิ้วน้อยๆ มองธัชที่กำลังจับมือผมไว้และอ้อนผมแบบแปลกๆ
" ได้สิ ไปไหนก็ได้ที่เธออยากไป " ผมขยี้หัวธัชพลางผลักเบาๆ ให้กลับไปทำงานที่โต๊ะตามเดิม
ช่วงที่ผลัก ผมลูบเบาๆ และรวดเร็วผ่านเสื้อและกางเกงในส่วนที่น่าจะซ่อนอาวุธได้ และแน่นอน น่าจะเป็นมีดเล่มเล็กๆ ที่กางเกง แย่แฮะ ผมน่าจะต้องไป เดี๋ยวนี้
" ทุกคนทำงานให้เสร็จ ถ้าไม่เสร็จ ห้ามออกจากห้องนี้เด็ดขาด ถ้าใครไม่ฟังที่ฉันพูด ก็เตรียมใจไว้ได้เลย "
ผมมองธัชที่ยังคงทำงานของตัวเองอย่างตั้งใจ ผมอาศัยช่วงที่นักศึกษาพูดคุยปรึกษากัน และเดินขวักไขว่ไปมาแต่ละโต๊ะ รีบเดินออกไปจากห้อง และวิ่งไปที่ลานหน้าอาคารที่ผมนั้นจอดดูคาติคันโปรดไว้ ผมไม่มีเวลามาก ไม่ได้สวมเสื้อและหมวกเหมือนทุกที คว้ารถได้ก็ขึ้นคร่อมและบิดอย่างเร็วออกจากลานจอด
แต่ผมที่คิดว่าตัวเองไวแล้วนั้น ก็ต้องพบว่ามีคนอีกคนที่วิ่งตามมาอย่างรวดเร็ว ผมมองที่กระจกข้างและว่าพบธัชนั้นยืนอยู่ที่ลานจอดรถ คงตามหลังผมออกมาแทบจะทันที ธัชมองผมด้วยสีหน้าและแววตาที่พร้อมจะทำร้ายทุกคนที่ขวางทาง ถ้างั้นเรามาดูกันว่า ใครจะถึงตัวพี่ชายเธอก่อน
รอก่อนนะธิชา ฉันกำลังไปหาเธอแล้ว