พี่โหดครับ มารักกับผมไหม?
ตอนที่3 ผ้ารู้วววว ว่าพี่ซุสใจดี
'ความสำเร็จอย่างที่สุดของมนุษย์เรา จะมาหลังจากความผิดหวัง'
-Henry Ward Beecher-
8โมงเช้า ที่ใหม่ เวลาเดิม พระอาทิตย์ยังคงทำหน้าที่ได้ดีกว่าพนักงานบริษัทเงินเดือนแพง
ผมยืนมองนาฬิการอบแล้วรอบเล่า ทั้งๆที่รู้ว่ามองบ่อย ก็ไม่ทำให้เวลาเดินเร็วขึ้น แต่ก็มอง..........
แล้วเมื่อวานก็ลืมถามพี่เทสว่าให้มารอพี่ซุสกี่โมงเลยมารอตั้งแต่เช้า ถามว่าไม่มีเรียนหรอ? ถ้าไม่มีจะมามหาลัยทำไม ก็ต้องมีสิ
แต่นายแบบคนนี้สำคัญกว่าสิ่งใดๆในโลกแม้กระทั่งเงิน แต่ถ้าเงินเยอะพอก็จะคิดดูอีกที
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ สำหรับผมมันช่างยาวนาน ด้วยความที่เมื่อคืนนอนดึก ข้าวไม่ได้แดกตั้งแต่เมื่อวานยันตอนนี้ เหตุผลเพราะติสท์แตก อยากไปนอนนับดาวบนดาดฟ้าของหอ
นับไปได้แค่20กว่าดวง เสือกเผลอหลับ ยุงแทบหามไปทิ้งลงตึก โชคดีตื่นมาตอนตีหนึ่งแต่ก็คันจนนอนต่อไม่ไหว กว่าจะได้นอนอีกทีก็ตีสามกว่า เหี้ยจริงๆชีวิต
ผมไม่รู้ว่ารอเขามานานเท่าไหร่แล้ว นาฬิกาก็เลิกดูเพราะยิ่งดูยิ่งสะเทือนใจ เริ่มนั่งลงกับพื้นหญ้า โลกเริ่มหมุนติ้วๆ แดดแม่งก็ส่องจนแสบ
ไม่ไหวแล้ว อยากจะเดินออกไปจากตรงนี้ ไปกินข้าว เสร็จแล้วก็แอบงีบในห้องจิตกรรม แต่ก็กลัวว่าคนที่นัดผมไว้จะมาแล้วไม่เจอจนปล่อยให้เขาเก้อ โอ้ยยยยย ไม่ไหวแล้วโว้ย
นอนแม่งตรงนี้แหละ เช็ดเด้!!
.......................................
.......................................
ไม่รู้ว่าผมหลับไปนานเท่าไหร่ แต่พอลืมตาขึ้นมา กลายเป็นว่าไม่ได้อยู่กลางสนาม
"ห้องพยาบาล"
ผมพูดกับตัวเองเบาๆด้วยความสำออย ยกมือมากุมขมับเล็กน้อยให้ดูบอบบาง พอมาคิดอีกทีแล้วก็ทำเพื่อเหี้ยอะไรวะเนี่ย
"ตื่นสักทีนะไอ้บ้า กูคิดว่ามึงจะตายห่าไปแล้วซะอีก"
ไอ้เต้เดินกอดอกเข้ามา ตามมาด้วยพี่เทสและพี่ติว ราวกับนี่เป็นฉากในละครที่ญาติมายืนสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย
ฉันยังไม่ตายนะนายท่าน(สำเนียงอินเดีย)
"กูเป็นอะไรวะ?"
ผมถามเพื่อนออกไปด้วยความงวยงง
"กูจะไปรู้มึงหรอไอ้ควาย ดีนะพวกพี่เขาเห็นมึงนอนอยู่กลางสนาม ก็เลยแบกมานี่ไง"
กลางสนาม? เอ้าชิบหายแล้ว ท่านเทพของกูล่ะ โอ้ยยยยย พลาดแล้วไอ้ผ้า พลาดอย่างไม่น่าให้อภัย
"ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น กูรู้นะว่ามึงคิดอะไร ไอ้ซุสมันไม่ชอบวุ่นวายกับใคร ที่มันบอกให้ไปรอกลางสนาม มันก็คงจะแกล้งมึงแหละ กูก็ไม่คิดว่ามันจะแกล้ง"
พี่เทสเอ่ยด้วยสีหน้าที่แบบ เฮ้ยมึงกูรู้สึกผิดจริงๆ ว่าแต่ แป๊บเดียวมึงสนิทกับกูขนาดนี้เลยหรอ? อะไรดลใจมึง?
"ไม่เป็นไรหรอกพี่ แต่พี่พอจะรู้จักบ้านพี่ซุสไหม"
พอผมพูดจบ พี่เขาก็ทำหน้าอึ้งหันมองหน้ากันพรึบ
"เฮ้ย จะดีหรอวะ"
พี่ติวถาม ผมนี่รีบพยักหน้าเลย ไม่ดีแล้วผมจะพูดเรอะ!!! คนแบบพี่เทพซุสนะ ต้องเจอชนชั้นต่ำแบบไอ้ผ้า
"มึงเอาตัวเองให้รอดก่อนดีไหมผ้า นี่ตุ่มเหี้ยอะไรนักหนาเนี่ย อย่าบอกนะว่ามึงเป็นเอดส์?"
พอไอ้เต้พูดจบ พี่เทสกับพี่ติวก็ถอยกรูออกไปแทบจะทันที รักกูมาก ขอบใจ
"เอดส์พร่อม! เมื่อคืนกูไปนั่งนับดาวคนเดียว ยุงมันเลยอยู่เป็นเพื่อน ไปๆมาๆมันหิวมั้งเลยพึ่งพาอาศัยกู ขอแดกนิดนึง ตัวละลิตร"
"ไอ้เหี้ย ตลกนะมึง เดี๋ยวไข้เลือดออกแดกขึ้นมา กูไม่อยู่เฝ้ามึงที่โรงพยาบาลด้วย ให้ผีหลอกตายไปเลย"
โหดร้ายยย จริงๆ ทำไมถึงหยิ่งผยองงงง~~~~ เจอะกับน้องไม่พูดจา~~~
(คนอ่านเขาจะรู้จักเพลงนี้ไหมไอ้ผ้า?)
"พี่ครับ ผมขอร้อง นะ นะ ผมขอที่อยู่ของพี่ซุสหน่อยนะ"
ผมเลิกคุยกับเพื่อนหันมาคุยกับรุ่นพี่แทน
"นี่มึงต่างอะไรจากโรคจิตวะเนี่ยกูถามจริง อ่าๆไม่ต้องทำหน้าเหมือนหมาขนาดนั้น มันอยู่ที่คอนโดABC แถวๆXXX คอนโดดัง ถามใครก็รู้จัก"
พี่ติวพูดเหมือนขี้เกียจต่อกลอนกับผม ได้ยินแบบนั้นผมนี่กระหยิ่มยิ้มย่องด้วยความสุขีสโมสร
รอผมก่อนนะท่านเทพ ไอ้ผ้าขี้ริ้วคนนี้จะไปคว้าท่านลงมา อะโฮะ อะโฮะ
.......................................
.......................................
หน้าคอนโด เคลียร์!
ฝั่งขวาเคลียร์! ฝั่งซ้ายก็โล่ง
เอาล่ะ เริ่มปฏิบัติการได้ ผมเดินอาดๆเข้าไปอย่างห้าวหาญ แต่ทว่า......
"น้องครับ เข้าไม่ได้นะ ไม่ได้อยู่ที่นี้ใช่ไหมเรา"
ปราการด่านสุดท้ายก่อนที่เท้าผมจะได้แตะเข้าไปยังล็อบบี้สุดหรูหรา ผมหันไปยิ้มหวานดูเป็นมิตรที่สุดซึ่งมันง่ายมากเพราะปกติผมก็เป็นมิตรอยู่แล้วไง(เป็นบ้าต่างหาก) หยิบกระทิงแดง เอ็มร้อย และสปอนเซอร์ รวมถึงกาแฟกระป๋องออกมาจากเป้ที่สะพายติดตัวมาด้วย ของพวกนี้อยู่ในกระเป๋าของผมตลอดเพราะเพื่อนๆพี่ๆที่คณะของผมแม่งชอบใช้ให้ผมไปซื้อให้
"เออ แต่น้องคงมีคนรู้จักอยู่ในนั้นใช่ไหม ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ คนเราอย่ามองกันที่ภายนอกเนอะ น้องแต่งตัวสถุนแบบนี้ อาจจะเป็นเพื่อนกับเศรษฐีก็ได้"
เหมือนโดนหลอกด่ายังไงก็ไม่รู้ แต่ก็ยิ้มรับ
"ครับ ผมมาเพื่อคุยธุรกิจน่ะครับ รีสอร์ทที่ภูเก็ตใกล้จะเสร็จแล้ว เลยว่าจะชวนพี่ที่ร่วมหุ้นกันไปดูงานไฟนอลซะหน่อย"
แหลสดเลยกู รีสอร์ทห่าอะไร เอาจริงๆคือพ่อกับแม่ผมทำธุรกิจร้านขายของชำกับทำสวนอยู่บ้านนอก ฮ่าๆ
"จริงหรอ ดีแล้วๆ อายุแค่นี้ก็เริ่มทำธุรกิจแล้ว ไม่เหมือนลูกของพี่............."
แล้วพี่แกก็ฝอยจนน้ำลายแทบแตกฟอง เอิ่ม...........กูไม่ได้มาเพื่อฟังพี่โม้นะโว้ยยยย
ผมยิ้ม ตอบอยู่แค่ หรอครับ อ๋อ จริงเหรอ! ไม่น่าเชื่อ ต้องอดทนเข้าไว้ผมจะต้องพึ่งพาอาศัยพี่แกอีกยาว
แต่ในทันใดนั้นเองสายตาผมก็เหลือบไปเห็นรถยนต์สีดำสุดหรู แล่นทะยานเข้าไปข้างในโรงจอดรถ
"พี่ครับ ผมเข้าไปรอข้างในนะ"
ผมรีบหันมาบอกลาเพื่อหยุดบทสนทนาทั้งหมดทันที
"เออ ตามสบายเลยน้อง เห็นน้องแล้วพี่คิดถึงสมัยตัวเองเป็นหนุ่มๆ......"
จะฝอยอีกนานไหมครับพี่!!!!
ผมถอนหายใจทำหน้าเมื่อยแล้วเดินเข้าไปในตัวคอนโด แม่งระบบรักษาความปลอดภัยเป็นเลิศ คนนอกสามารถเข้ามาได้ด้วยกระทิงแดง
โอโห้ แต่ภายในนี่ตกแต่งสวยจริงๆ เรียบหรูดูมีมูลค่าชิบหาย เพิ่งเคยเข้ามาเหยียบคอนโดที่โคตรหรูแบบนี้เป็นครั้งแรกเลยครับ
แม่งแบบ...........เฮ้ย!!!
นั่นมัน..........รูปภาพ เป็นรูปแอ็บสแตร็กส์ในแบบที่ผมชอบ รูปพวกนี้มันต้องใช้จิตวิญญาณในการดูและวาดออกมา ผมถึงได้ชอบไง เพราะมันต้องใช้จิตวิญญาณณณณณณ~~~~~(ทำเสียงเหมือนโอเปร่า)
"ตามมาหลอกหลอนกูถึงนี่จนได้"
ผมดึงตัวเองออกมาจากจินตนาการเกี่ยวกับรูปตรงหน้า ก่อนจะหันไปมองคนข้างหลัง แหม อุตส่าแวะทักทาย นี่คือน้ำใจไมตรีที่ท่านหยิบยื่นมาให้ผมใช่ไหม พี่ซุสยืนกอดอกในชุดนักศึกษาที่แม้จะเป็นเวลาเย็นแล้วแต่ก็เรียบกริ๊บไม่มีที่ติ คนบ้าอะไรมันจะหล่อได้ขนาดนี้วะถามจริง
"คือผมชอบพี่จริงๆนะ ถึงแม้ว่าพี่จะมองว่าผมบ้า แต่ว่า......ผมก็ต้องการพี่...."
เอ่อ.......กูพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าวะ ทำไมเขามองกูแบบนั้น หูก็แว่วได้ยินเสียงพนักงานคุยกัน
"ดูสารรูปดิแก เหมือนลืมส่องกระจกอะ"
"นั้นดิ ยังกล้ามาจีบคุณซุสอีก น่าอายเนอะ"
เอ่อ กูได้ยินนะคุณผู้หญิง แล้วใครว่ากูจีบพี่เขา? ถ้าจีบกูไม่ทำแค่นี้หรอก โถ่
"เลิกพยายามเหอะ กูรำคาญ"
แล้วพี่เขาก็เดินผ่านหน้าผมไปช้าๆ(คิดเป็นภาพสโลโมชั่น) ผมกระพริบตาสองครั้ง ในหัวรันเพลงขึ้นมาเองอัตโนมัติ
~เธอกลับบอกว่าอย่าพยายาม อย่าพยายามอีกเลย ให้ฉันนั้นโยนทิ้ง ทุกอย่าง
พอสักที ได้ไหม
เธอกลับบอกว่าอย่าพยายาม แม้ฉันจะพยายามเท่าไหร่ ทุกอย่างมันคือความฝัน ที่ฉันฝันใฝ่ สุดท้ายเธอมองไม่เห็นค่า ฉันเลย~~~~
ผมหันตัวตามพี่ซุสที่กำลังเดินเข้าลิฟต์ไป ทำไมภาพที่ผมเห็นมันช่างเจ็บปวดแบบนี้ ม่ายย
จะยอมแพ้ไม่ได้นะไอ้ผ้า ในชีวิตมึงแพ้ได้แค่สิ่งเดียว นั้นคือน้ำอัดลม นอกนั้นมึงห้ามแพ้!!!!! คิดได้ดังนั้นผมก็พุ่งหลาวไปเกาะขาพี่ซุสไว้
พี่เขาก็ตกใจนะ แต่ไม่ได้ส่งเสียงอะไร แค่ทำหน้าตาโหดใส่ผมแค่นั้น ผมยิ้มแฉ่งให้เขาอย่างจริงใจ เช็ดรองเท้าให้ด้วยเนี้ย เลียได้กูเลียไปแล้ว
"ออกไป"
"ไม่ออก นะ พี่ซุส ผมขอร้องพี่จริงๆ พี่อยากได้อะไร ผมสรรหาให้พี่ได้หมด ยกเว้นดวงดาว จักรวาล ทางช้างเผือก บ้าน เงิน รถ ทอง เพชร......"
"มันก็ไม่เหลืออะไรแล้วไอ้ควาย"
เอาล่ะมึง เริ่มมาถูกทาง เริ่มโดนด่าแล้ว สักพักก็จะโดนทำร้ายร่างกาย สุดท้ายเขาก็ยอม ฮ่าๆ เป็นของผมซะดีๆ พี่ซุส
"แหม คนโง่ๆจนๆแบบผม ถึงจะจน ก็เป็นคนจนผู้ยิ่งใหญ่นะพี่ เคยฟังคาราบาวเปล่า"
"............"
"แน่ะ! จ้องแบบนี้แสดงว่าไม่เคยฟัง อะๆ ถึงผมจะไม่มีเงิน ไม่มีของแพงๆให้พี่ ไอ้คนแบบผมก็มีแต่ตัวกับหัวใจ แต่ว่าผมรักใครผมรักจริงนะเออ"
"............."
เขายังนิ่งครับ แต่เช็คจากบรรยากาศรอบๆตัว เขาน่าจะใจอ่อนลงบ้างแล้ว ผมรู้ได้ยังไงหรอ?
เหตุผลที่ทำให้ผมรู้จะเป็นอะไรไปได้นอกซะจาก ผมมั่ว
"แน่ใจ?"
เขาถาม ผมนี่รีบลุกขึ้นยืน ทำท่าตะเบ๊ะเป็นทหารฝึกใหม่
"พลทหารผ้า พร้อมรับคำสั่ง ครับผม!!!"
"ดี งั้นกูขอสั่ง ไสหัวออกไปให้พ้นๆตากูได้แล้ว"
"โห ไม่เอาดิ พี่จะเตะผม ต่อยผม กระทืบผมยังไงก็ได้ ขอร้องนะพี่นะ ผมยอมถวายหัวให้พี่เลยอะ"
ผมคุกเข่าลงไปนั่งอ้อนวอนพี่แกเหมือนเดิม คนเดินผ่านก็มองว่าผมมาขอความรักจากไอ้เทพบุตรใจหินนี่ หน้าตากูเหมือนคนขอความรักหรอวะ?
"หัวมึงกูไม่เอาหรอก กูจะเอามึงนี่แหละ"
พี่เทพเขาว่าแล้วนั่งยองๆข้างหน้าผม ทำหน้าเลวได้โล่รูปตีน
"โห แล้วพี่ไม่บอกผมล่ะว่าจะเอา ยึกๆยือๆอยู่ได้ บอกมาแต่แรกก็จบละ จะเอาใช่ปะ ได้ๆ"
ว่าแล้วผมก็จับชายเสื้อเตรียมถอดเลยกลัวเสียเวลา แม้จะกลัวๆกับการเสียตัวก็เหอะ ก็คนมันไม่เคยปะ? แต่ก็ช่างแล้วนาททีนี้เพื่องานวาด ผมยอมได้ทุกอย่าง
"มึงมัน..."
พี่เทพกูเริ่มหมดความอดทน รีบกดลิฟต์ไปที่ชั้น22โดยไม่พูดอะไรอีก แต่มองมาที่ผมเป็นระยะๆด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
"เอาในลิฟต์หรอพี่"
"หุบปาก!!!"
แหงะ หุบก็ได้ อารมณ์รุนแรงซะด้วย พี่เทพดุนะไอ้ผ้าจะไหวหรอ
ลิฟต์เปิดออกแล้ว พี่เทพกระชากผมออกจากลิฟต์ เขาหยิบคีย์การ์ดมาทาบกับห้อง2201 ก่อนจะกดรหัส แล้วเปิดเข้าไป
เขาโยนผมตุ้บลงบนพื้นพรมอันแสนหรูหราและนุ่มสบาย ก่อนจะเดินเข้ามาหาผมช้าๆ เอ่อ กูจะกลัวหรือตื่นเต้นก่อนดีวะ
ผมเริ่มสับสนว่าควรจะรู้สึกอย่างไรในตอนนี้
"มึงนี่มัน.........."
แล้วก็เงียบไปเหมือนคิดคำจะด่าไม่ออก เขาทิ้งตัวลงมาคร่อมผมไว้ พอเห็นใกล้ๆแบบนี้ความรู้สึกของผมมันยิ่งชัดเจนในใจ คือพี่เขาหล่อมาก
หล่อ แต่ก็อันตราย นาทีนั้นผมอยากจะหยิบกระดาษกับดินสอขึ้นมาวาดรูปพี่แกจริงๆ ถ้านั้นไม่ทำให้พี่เขาแดกหัวกูอะนะ
"เอ่อ...........พี่เทพ"
เชี้ย ตื่นเต้นจนเผลอเรียกชื่อลับๆที่แอบตั้งให้ซะงั้น
"มึงคิดว่ามึงเป็นใคร"
อยากจะคิดว่าตัวเองเป็นลีมินโฮเหมือนกันแหละ แต่เอมชอบพูดตลอดว่า 'ตื่นค่ะอีผ้า!'
"ผมชื่อผ้าใบ นายวาดฝัน เจริญศิลป์ ศิลปกรรมปี2 คติประจำใจ ต่อให้ต้องยอมตายก็จะเอาผู้ชายคนนี้มาเป็นนายแบบให้ได้"
ว่าแล้วชูกำปั้นขึ้นมาเพื่อยืนยันว่า เรื่องที่กูมาตื้อมึงเนี้ย กูไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!!!
"มึงเคยให้หมอเช็คสมองบ้างหรือเปล่า"
"ก็ เคยนะ ป๊าพาไป แต่พอกำลังได้เช็ค ไฟดับทั้งโรง'บาลเลย"
จริงๆนะ ตอนนั้นผมเรียนอยู่ม.6 ทั้งหมอทั้งพยาบาลวิ่งกันวุ่นเชียว ป๊าเลยพากลับ อดเช็คเลย
"แต่ตอนนี้ ผมทนไม่ไหวแล้ว........."
"อะไร?"
พี่เขาทำหน้าแปลกใจ
"อยู่นิ่งๆนะพี่ ผมไม่ไหวแล้ว"
อยู่ไหนวะ!! อา เจอแล้วๆ ผมดึงๆสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าออกมา แท๊นแทนนนนนนน สมุดวาดภาพ กับดินสอEEนั่นเอง!
"อะไรของมึง"
ปล่อยให้พี่เขาสงสัยต่อไป ผมนี่ลงมือวาดแล้วครับ ถึงจะไม่ถนัดเพราะนอนอยู่ แล้วพี่เขาคร่อมอีกที แต่นั่นไม่เป็นอุปสรรคของผม
เพราะการวาดรูปในแต่ละครั้งของผม แต่มืออย่างเดียวไม่พอ มันต้องมีจิตวิญญาณ!!!!!
ผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้ ที่รู้ๆคือ หน้าของพี่เทพมาโผล่อยู่ในสมุดของผมเรียบร้อย คนอะไร หล่อเทพๆ ผมชื่นชมผลงานของตัวเองสักพัก สมุดในมือผมก็โดนดึงออก
"ชื่นชมเสร็จหรือยัง"
เอ่อ........คำนี้มันคุ้นๆ
"มึงจะรับผิดชอบยังไง"
อ้ากกกกกกกกกก บรรยากาศสีดำนี่มันอะไรกันวะ!!!
.......................................
.......................................
"บ้า มึงโอเคปะวะ"
อดีตนายแบบของผมเอ่ยถาม ไอ้เหี้ยเต้นั่นเอง
"ไม่ค่อยโอเคว่ะ ปวดหลัง"
พูดถึงแล้วเจ็บใจนัก ทำไมท่านเจ้าคุณถึงทำกับอีเย็นแบบนี้!!!
"ไปทำอะไรมาวะ"
ผมหันไปมองหน้าเพื่อนรัก
"ถึงกูจะโดนเขาย่ำยี แต่สิ่งที่กูได้ตอบแทนมา มันช่างคุ้มนัก"
กูเริ่มเข้าโหมดนางทาสจริงๆแล้วเนี้ย
"ใครทำอะไรมึงอีเย็น มึงบอกกูมาสิ"
แน่ะ มีรับมุก ท่าตบเข้าฉาดของมึงตอแหลมากเต้ กูให้ผ่าน
"ท่านเจ้าคุณ.............ท่านเจ้าคุณเขา........"
"อีเย็น มึงอย่าชักช้า ท่านเจ้าคุณทำอะไรมึง!"
เดี๋ยวๆ มึงขึ้นในบทหรือมึงขึ้นจริงๆวะเนี้ย
"เขาใช้กู กวาดห้อง ถูห้อง ล้างห้องน้ำ ซักผ้า จับจิ้งจกโยนออกไปนอกห้อง ซึ่งจิ้งจกมันก็ไม่มีหรอก กว่าเขาจะพอใจ กูก้มถูบ้านจนปวดหลังหมดเลยมึง"
แรกๆก็เสียงอีเย็นนะ แต่หลังๆนี่ อารมณ์กูล้วนๆ
"กูก็นึกว่าไปโดนใครข่มขืนมา ไอ้สัด"
แล้วมันก็แจกขนมตีนเต้ให้ผม1ป้าบ ด้วยความรัก
"ฮัลโหลวววว หนุ่มๆ เจ๊กลับมาแล้วจ้า เป็นไงบ้างคิดถึงเจ๊ไหมเอ่ย"
เสียง18หลอดอันคุ้นหูทำให้ผมสงบศึกกับไอ้เต้ไปชั่วคราว มาแล้วครับ เจ๊ใหญ่ประจำคณะ เจ๊เอมนั่นเอง แม้จะเป็นแค่นักศึกษาปีสองเท่านั้นแต่ความโหด หื่น บ้าผู้ชายของมันก็ทำให้มันได้ฉายาเจ๊ใหญ่มาได้ไม่ยาก ผู้ชายคนไหนก็กลัวมันอะว่างั้นเถอะ
ที่มันไม่ค่อยมีบทในช่วงแรกๆเท่าไหร่เพราะช่วงนี้มันยุ่งๆกับธุรกิจที่บ้าน ตอนนี้น่าจะเคลียร์กันลงตัวแล้วเลยเสนอหน้ามานี่
"อีเต้ ตกลงมึงชวนผ้ามันหรือยัง"
เจ๊แกไม่คุยกับผมหรอกครับ เหตุผลอันน่าเจ็บปวดคือ มันเห็นเคราแล้วมันรู้สึกสยิวกิ้ว
"เออ กูลืมว่ะ มัวแต่คุยเรื่องนางทาสอยู่"
"อีเหี้ย นี่มันสมัยไหนแล้วยังคุยเรื่องนางทาสกันอยู่อีก ไม่ได้เรื่องเลยมึงอะ กูชวนเองก็ได้"
ว่าแล้วนางก็หันหน้ามาทางผม ก่อนจะเบนสายตาไปมองนู้นมองนี้
"อีผ้า เย็นนี้ไปแดกเหล้ากัน ไหนๆพรุ่งนี้ก็รับน้องแล้ว"
"มึงพูดกับกูก็มองหน้ากูสิอีเจ๊เอม"
ผมพูดแล้วยื่นหน้าไปใกล้มันกว่าเดิม อิอิ รู้สึกตัวเองหล่อมากที่ทำให้เอมมันเขินได้ (จริงๆมันเขินผู้ชายทุกคนในโลกใบนี้แหละ)
"ไม่เอาอะ กูมองหน้ามึงแล้วกูอยากมีผัว"
แหม จะเขินก็เขินอยู่นะ แต่อย่าดีกว่า ใครได้อีเจ๊เอมเป็นเมีย กูบอกเลย นรกนะจ๊ะ
"ฮายยยยย~~~ สวัสดีเพื่อนๆ เป็นยังไงบ้าง ไม่เจอกันเลยคิดถึงกันบ้างไหมเอ่ย"
ผมหันไปมองหน้าได้เต้งงๆ เมื่อไอ้หนุ่มมันวิ่งลั้นลาเข้ามาอย่างมีความสุข
"พูดเหมือนกับว่ามึงไปไหนอย่างงั้นแหละ"
จบคำพูดของผมทุกคนก็เงียบกริบทันที อะไรอีกล่ะ กูพูดทีไรแม่งเงียบกันทุกที กูน่าจะไปเป็นครูอนุบาลมากกว่าจิตกรเนอะ
"ไอ้ผ้า!!! มึงอะ กูงอนแล้ว"
อ่าว ผมนั่งงง ทำตาปริบๆเมื่อเพื่อนทำท่างอนเป็นแต๋วซะงั้น ในขณะที่ไอ้เต้กับเจ๊เอมมันนั่งขำ
"เออ มึงเคยบอกว่าไอ้ผ้ามันชอบติสท์เหนือโลกใช่ปะ แต่ก่อนกูไม่ค่อยเชื่อนะ เดี๋ยวนี้กูเริ่มเชื่อละ"
เจ๊เอมมันพูดไป หัวเราะไป อะไรวะ กูไม่เข้าใจ
"วันนั้นกูก็บอกไปแล้วอะ ว่ากูจะไปเมกา มึงก็อยู่กูจำได้"
ไอ้หนุ่มยังคงพูดแล้วปัดไม้ปัดมือไปมาจนน่าหมันไส้
"เอ่อ หรอ เออสงสัยกูหลับใน"
ผมพูดปัดเพราะคงนึกไม่ออกจริงๆว่าเพื่อนมันบอกผมตอนไหน
"หลับในพี่มึงดิผ้า วันนั้นมึงเหยียบขี้หมา แล้วมึงก็เอาแต่จ้องกองขี้หมาที่ถูกเหยียบ พึมพำๆว่าโคตรศิลปะอะไรสักอย่าง กูก็นึกว่ามึงฟัง ที่ไหนได้ จิตใจลงไปอยู่ในกองขี้หมาจนไม่รับรู้เหี้ยอะไรละ"
เต้มันเฉลยให้
"อ๋อ หรอวะ โทดทีๆ ไม่โกรธเนอะ"
"เดี๋ยวถ้ากูบอกว่าโกรธ มึงก็ร้องไห้อีก"
อืม ขอบใจนะที่เข้าใจกู(ถุย)
"ผ้าๆ นู้น พี่เทพบุตรของมึง"
เต้มันตบไหล่ผมแล้วชี้ไปที่เป้าหมาย ที่เดินมากับผองเพื่อน เท่านั้นแหละครับ ขากูทำงานอัตโนมัติ
"พี่เทพ หวัดดีครับ พี่ติวพี่เทส หวัดดีพี่"
"กูชื่อซุส"
"รู้แล้วน่า เย็นนี้พี่ไปไหนปะครับ"
ผมรีบประจบเลย
"ทำไม"
"พี่ไปไหน ผมไปด้วย เผื่อพี่ลำบากอะไร ผมจะได้ช่วยไง ดีไหมครับ"
"มึงพูดเองนะ"
"ครับ!!"
"ดี งั้นเย็นนี้มึงรออยู่นี่ กูจะมารับ"
"ได้ครับ"
"อย่าหนีล่ะมึง"
แล้วพี่เขาก็เดินจากไป ทิ้งไว้เพียงรอยยิ้มชั่วๆให้ผมขนลุกเล่น เอ่อ............นี่กูกำลังทำอะไรอยู่วะ?
Click for Episode 4