ขออภัยในความล่าช้าครับ เหตุเกิดจากงานหล่นทับ ค่อยๆ คลานกลับมาต่อได้ก็วาเลนไทน์พอดี
องค์กรลวงจิต Explicit Content
บทที่ 30 ไล่ล่าปีศาจ
[เมธัส]
งานสมาพันธ์ไม่ได้ยากอย่างที่ผมคิด หลักๆ ผมมีหน้าที่ตรวจสอบกรณีต่างๆ ที่แต่ละตระกูลรวบรวมหรือร้องขอมา จากนั้นผมก็มอบหมายงานให้สายงานหรือตระกูลต่างๆ ไปดำเนินการซึ่งอาจจะไม่ใช่กลุ่มที่รายงานเรื่องดังกล่าวมาก็ได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมมากกว่า พอดำเนินการเสร็จ ผู้ที่ได้รับมอบหมายก็จะส่งสรุปผลงานขึ้นมา ทั้งหมดนี้จะติดต่อผ่านรหัสลับโบราณเพื่อความปลอดภัยและเป็นการยืนยันว่าคำสั่งการมอบหมายงานต่างๆ มาจากศูนย์กลางของสมาพันธ์จริงๆ เป็นความฉลาดของบรรพบุรษที่วางกลไกไว้ไม่ให้แต่ละตระกูลติดต่อกันเอง ในชีวิตจริงจะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ความร่วมมือทั้งหมดต้องทำผ่านตระกูลผมเท่านั้นเพราะรหัสที่ใช้ติดต่อแต่ละตระกูลจะไม่เหมือนกัน แม้แต่รหัสที่ตระกูลนั้นๆ ส่งมา กับรหัสที่ส่วนกลางส่งไปก็ไม่เหมือนกัน ทำให้ไม่สามารถปลอมแปลงกันได้เลยถึงแม้จะมีคนทรยศในตระกูลต่างๆ ก็ตาม
งานที่ยากจริงๆ คือการขอความร่วมมือจากตระกูลที่มีอิทธิพลสูงๆ ซึ่งมีอยู่สองสามตระกูลมากกว่า พวกนี้ไม่ค่อยจะต้องพึ่งพาความร่วมมือจากพันธมิตรในสมาพันธ์เท่าไหร่ บางครั้งเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองก็ไม่ให้ความร่วมมือเอาดื้อๆ ถึงได้รับคำสั่งจากตระกูลผม ถ้าเจอแบบนี้ผมต้องใช้จิตวิทยาและวาทศิลป์พอดู บางครั้งจำเป็นผมก็จะไปพบผู้นำของตระกูลด้วยตัวเอง ซึ่งถือเป็นการแสดงความไว้ใจจากตระกูลหลัก ร้อยทั้งร้อยถ้าผมไปเองจะเสร็จผมหมด ไม่ว่าคนแก่หรือคนหนุ่มผมก็มีวิธีการที่จะกล่อมจนอยู่หมัด ไม่งั้นชมรมกีฬาเกือบทั้งมหาลัยไม่อยู่ใต้อาณัติผมหรอก
พอความร่วมมือมาเต็มที่ผมก็สามารถมอบหมายแก้ปัญหาภัยของชาติไปได้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นแชร์ลูกโซ่ที่มาในคราบธุรกิจสมัยใหม่แบบแปลกๆ ตั้งหลายบริษัทที่ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ตอนพี่ก้อนดินดูแล หรือการทอนอำนาจของกลุ่มมาเฟียรัสเซียที่มาปักหลักอยู่พัทยาจนธุรกิจท้องถิ่นได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว งานช้างอันต่อไปคือพวกปั่นหุ้น กับพวกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ที่หลอกให้โอนเงินทางเอทีเอ็ม พวกนี้เริ่มจัดการยากแล้วเพราะไม่เป็นกลุ่มเป็นก้อนแถมเดี๋ยวนี้ติดต่อกันทางอินเตอร์เน็ทตามรอยยากมาก
จริงๆ ผมก็มีข้อสังเกตว่าไอที่ทำเสร็จไปแล้วบางทีผมก็ไม่รู้ว่าผลเป็นไปตามที่รายงานมาจริงหรือเปล่า พวกตระกูลต่างๆ ที่มอบหมายไปจะทำได้ละเอียดรอบคอบแค่ไหน แต่พี่ก้อนดินก็บอกว่าเราไปตรวจสอบเองไม่ไหวก็ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ถึงยังไงตระกูลต่างๆ ก็ต้องอาศัยระบบอุปภัมถ์เพื่อเอื้อประโยชน์กันในด้านต่างๆ ซึ่งจะได้ผลมากเมื่อมาทำผ่านสมาพันธ์ เพราะงั้นคงไม่มีใครอยากทุบหม้อข้าวตัวเอง
ในเวลาแค่ไม่กี่เดือน ผมก็แสดงฝีมือให้เห็นเป็นที่ไว้ใจจนคุณพ่อเรียกไปชมกันต่อหน้าทุกคนในครอบครัวซึ่งถือว่าเป็นเรื่องพิเศษมาก เพราะอย่างพ่อผมไม่ค่อยชมใครง่ายๆ
“ว่าไง เจ้ามอมแมม ทำงานสมาพันธ์เหนื่อยไหม” คุณพ่อเอ่ยขึ้นหลังจากเรียกทุกคนเข้าไปในห้องทำงาน ซึ่งในครอบครัวผมแปลว่าเรื่องที่จะคุยกันสำคัญพอสมควร
“สนุกดีครับ คุณพ่อน่าจะให้มอมทำตั้งนานแล้ว”
“ก็เรายังเด็กอยู่ ก็เน้นเรื่องเรียนไปก่อน แต่ถึงมาเริ่มทำทีหลังแต่ลูกก็ทำได้ดีมากนะ แสดงว่าสิ่งที่พ่อกับคุณปู่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ เรื่องการจูงใจและใช้งานคนนี่ไม่เสียเปล่าจริงๆ”
“ขอบคุณครับ”
“วันนี้พ่อมีสองเรื่องที่จะบอกมอม เรื่องแรกคือพ่อจะวางมือถาวรจากสมาพันธ์แล้ว ให้ลูกเป็นคนจัดการทั้งหมด แต่พ่อจะให้พี่ดินประกบดูแลกันไปก่อนจนกว่าลูกจะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวจริงๆ ที่พ่อบอกว่าวางมือก็หมายความตามนั้นจริงๆ พ่อจะไม่เข้าไปรับรู้ยุ่งเกี่ยวกับงานของสมาพันธ์อีกยกเว้นมอมแมมหรือก้อนดินจะตั้งใจเอาเรื่องนั้นมาปรึกษาพ่อเอง”
“พี่ดินยังช่วยดูอยู่ก็ดีครับ แต่ที่บอกว่าจนกว่ามอมจะเป็นผู้ใหญ่นี่คืออะไร มอมก็โตแล้วเหอะ ยี่สิบกว่าแล้ว ไม่ใช่เด็กแล้ว” ผมเบะปากที่คุณพ่อยังมองผมเป็นเด็กอยู่
“ฮ่าๆ นี่นะที่บอกว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ยังงอนเป็นเด็กๆ อยู่เลย ที่พ่อพูดคือการเป็นผู้ใหญ่ตามความหมายของตระกูลเรา มอมก็รู้นี่ ความหมายของนิ้วมือทั้งห้าที่เป็นสัญลักษณ์ของตระกูล ถ้าเรายังมีคนในตำแหน่งนิ้วทั้งห้าไม่ครบก็ถือว่ายังไม่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว”
สัญลักษณ์ตระกูลเราไม่ได้มีอะไรพิเศษ เป็นแค่รูปนิ้วมือทั้งห้าเรียงชิดติดกัน แต่ความหมายที่ซ่อนอยู่คือการอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัย จะเรียกว่าระบบเส้นสายระบบอุปภัมถ์อะไรก็ตามแต่ สุดท้ายมันก็คือความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลผมและตระกูลอื่นๆ ในสมาพันธ์ เหมือนนิ้วทั้งห้าที่ต่างช่วยเหลือกันในการทำงานต่างๆ แต่ละนิ้วก็มีบทบาทหน้าที่ของตัวเองเพื่อให้งานบรรลุไปได้ สัญลักษณ์อันนี้เลยถูกใช้เป็นลักษณ์ลับๆ ของสมาพันธ์ด้วย
นอกจากจะมีความหมายในเชิงความเกื้อกูลอุปภัมถ์ซึ่งกันและกันแล้ว นิ้วแต่ละนิ้วยังแทนตำแหน่งที่คนในตระกูลจะเลือกคนที่มีความสำคัญในชีวิตที่นอกเหนือคนในครอบครัวขึ้นมาตามความสัมพันธ์ที่แทนด้วยนิ้วต่างๆ ตำแหน่งนิ้วโป้ง คือคนที่เข้มแข็งเป็นที่พึ่งพึงสนับสนุนให้กับเรา ตำแหน่งนิ้วชี้ คือคนที่คอยให้แนวทางชี้นำในเรื่องต่างๆ ให้กับเรา ส่วนตำแหน่งนิ้วกลางจะเป็นคนที่อยู่สูงกว่า ไม่ใช่ในเชิงเจ้านายแต่ในลักษณะเป็นแบบอย่างให้เราผลักดันตัวเองขึ้นไปให้ดีให้เก่งเท่าเขา
ตำแหน่งสวมแหวนอย่างนิ้วนาง จะแทนคนที่เป็นที่รักของเรา โดยทั่วไปก็จะเป็นสามีหรือภรรยา ส่วนตำแหน่งนิ้วก้อยน้อง น้อยคือคนที่เราอยากจะปกป้องดูแล
เรื่องนี้ผมรู้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว แต่ความหมายจริงๆ ของมันเพิ่งจะมาเข้าใจไม่นานนี้ ตำแหน่งเหล่านี้เมื่อมอบให้ใครแล้วถึงแม้จะไม่รู้ตัวก็ตาม คนๆ นั้นจะได้รับการยอมรับจากคนในตระกูลไปด้วย และเมื่อมอบไปแล้ว จะไม่ค่อยมีการเปลี่ยนกันเพราะถือว่าเสียหน้าที่เลือกคนผิดหรือจะถูกมองว่าจิตใจโลเล
“ตอนนี้ผมยังนึกไม่ออกหรอกครับ น่าจะมีแต่นิ้วก้อย ไว้ผมจะพามาพบนะครับ”
ผมนึกถึงแดน เด็กที่ผมเอ็นดูเป็นพิเศษ
“ฮ่าๆ น้องเล็กสุดของบ้านจะเป็นพี่คนขึ้นมาแล้วเหรอ ดีๆ จะได้เป็นผู้ใหญ่เร็วๆ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ก็รีบๆ หาให้ครบล่ะ ว่าแต่ตำแหน่งนิ้วนางนี่ จะหาได้สาวหรือหนุ่มกันนะ”
คุณพ่อแซวส่งท้าย คุณแม่กับพี่ๆ ก็หัวเราะกันใหญ่ เรื่องนี้เป็นหัวข้อที่คนในบ้านชอบแซวผมมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เรื่องสมัยก่อนผมก็จำไม่ได้หมดหรอก แต่คุณแม่เล่าว่า ตอนเด็กๆ ผมจะชอบคนหน้าดีเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะผู้หญิงผู้ชาย ถ้าเจอ ผมจะชอบไปขอให้เขาอุ้มบ้างขอหอมแก้มบ้าง โตขึ้นมาหน่อย ก็ชอบไปตีซี๊กับเพื่อนๆ ที่หน้าตาดี ไม่รู้ว่าเพราะที่บ้านผมมีแต่คนหน้าตาดีๆ ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ พี่ชาย พี่สาว หรือเปล่า เลยรู้สึกผูกพันกับคนหน้าตาดีไปทั่ว โดนพี่ๆ ล้อตลอดว่าเป็นพวกหลงรูป
พอเป็นวัยรุ่น ผมก็ยังชอบคนหน้าตาดีทั้งผู้หญิงผู้ชายอยู่ แต่เริ่มรู้สึกว่า สาวๆ เดี๋ยวนี้ ถึงจะสวยแต่ก็ดูคล้ายๆ กันไปหมด ไม่รู้ว่าด้วยสไตล์การแต่งหน้าหรือแอบไปศัลยกรรมจนเป็นพิมพ์เดียวกัน หลังๆ ผมเลยมองหนุ่มๆ ที่ดูจะมีความหลากหลายของความหน้าตาดีมากกว่า ที่บ้านก็สังเกตเห็นอีกเวลาผมเอาเรื่องคนโน้นคนนี้มาเล่าว่าหล่อบ้าง เท่บ้าง น่ารักบ้าง จนกลายเป็นหัวข้อใหม่ในการแซว แต่ผมก็ยังมั่นใจว่าตัวเองไม่ใช่เกย์ซะทีเดียว เพียงแค่ชอบมองอะไรที่มันดูดีสบายตาก็เท่านั้นเอง
เอาเข้าจริงผมก็ไม่ได้ซีเรียสนักหรอกที่จะต้องหาตำแหน่งนิ้วทั้งห้าให้ได้เร็วๆ เพื่อจะได้มีอิสระอะไรที่ว่า เพราะหลังจากนั้นสองสามวัน พี่ก้อนดินก็แอบมาตกลงลับๆ กับผมว่า ไหนๆ ผมก็ทำงานนี้ได้ดีแล้ว ช่วงนี้แกขอทุ่มเวลาที่มีไปกับภรรยาที่กำลังท้องอ่อนๆ ให้ผมบริหารสมาพันธ์ได้เต็มที่เลย ผมเห็นแก่พี่สะใภ้กับหลานในท้องนะเลยยอม ไม่ใช่อยากจะกุมบังเหียนสมาพันธ์คนเดียวซะหน่อย
ย้อนกลับไปเรื่องปัญหาของชมรมรักบี้ที่ค้างอยู่ ในที่สุดชมรมนี้ก็เข้ามาอยู่ในสังกัดผมเหมือนๆ กับชมรมบาส อย่านึกนะครับว่าผมยอมจะเปลืองตัวกับเด็กตัวควายๆ พวกนี้นะครับ เรื่องบางเรื่องถ้าเราไม่อยากทำก็ต้องใช้ตัวแทนได้โดยไม่ต้องให้ใครรู้ และเด็กฟีฟ่าก็คือผู้โชคดีที่ได้ทำหน้าที่นี้ ผมไม่ได้ตั้งใจแกล้งนะแต่เพราะปัญหานี้เกิดจากมันก็ต้องให้รับบทหนักที่สุดในการแก้
“พี่เมจะให้ผมทำจริงๆ เหรอ มันน่าสยองมากนะ ให้ผมชดเชยความผิดด้วยวิธีอื่นเถอะครับ” ฟีฟ่าทำท่าอิดออดเมื่อรู้ว่าต้องทำอะไร
“ไม่ต้องมาโอดครวญ คิดว่าเรื่องทั้งหมดนี่เกิดขึ้นเพราะใครกัน แล้วที่พี่อุตส่าห์บำรุงผิวก้นนายมาตลอดเดือนนึงนี่ไม่ได้ทำเล่นๆ นะ”
“โธ่ ผมนึกว่าพี่จะให้ผมไปโชว์คู่กันหรืออะไรทำนองนั้น ไม่นึกว่าพี่จะผลักภาระให้ไอพวกชมรมรักบี้มาจับก้นตูดแบบนี้ ศักดิ์ศรีนักกีฬาของผมปี้ป่นหมดแล้ว จะมีหน้าไปพบใครได้”
“ไม่มีใครรู้ซะหน่อย เล่นตามที่พี่จัดฉากไว้ พวกนั้นก็นึกว่าเป็นก้นพี่กันหมดแหละ”
ใช่แล้วครับ ผมใช้พีฟ่าเป็นรางวัลให้กับชมรมรักบี้ที่ดันได้แรงฮึดจากเรื่องนี้จนเอาชนะแชมป์เก่าไปได้อย่างขาดลอย แต่นี่คือการต้มหมู พอประกาศว่ารางวัลคือจะได้ลูบก้นเปลือยของผมคนละที พวกเด็กรักบี้ก็เฮกันลั่น ที่เหลือก็แค่จัดห้องจัดฉากปิดไฟให้น้องเข้าไปในห้องทีละคนไปยืนตรงจุดที่มีโต๊ะกั้นอยู่แล้วยื่นได้เฉพาะมือมาสัมผัสก้นผมคนละไม่เกินหนึ่งนาที แน่นอนว่าของจริงเป็นก้นของฟีฟ่าที่ซ่อนตัวอยู่ ส่วนผมจะยืนพากย์อยู่ติดกันให้น้องๆ ได้ยินเสียงในความมืดจะได้เข้าใจว่ากำลังลูบคลำก้นผมอยู่ ทุกคนตื่นเต้นกับสัมผัสนุ่มเนียนบนกล้ามก้นกระชับของฟีฟ่าขณะเคลิบเคลิ้มกับเสียงพากย์ของผมจนไม่มีใครสงสัยอะไร สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดีจนคนสุดท้าย ผมบอกให้กัปตันเคลียร์น้องชมรมออกไปให้หมดจนเหลือแต่ฟีฟ่ากับตูดที่ชอกช้ำอยู่ในห้องมืด ผมว่าพอปิดไฟไม่ต้องเห็นหน้าว่าใครเป็นใคร น้องๆ รักบี้เลยทำซะเต็มที่อย่างที่อยาก ทั้งขยำขยี้ มีทั้งควักทั้งล้วง แถมบางคนยังตีก้นอีก แล้วคิดดูว่าแรงนักรักบี้นะครับ ขนาดฟีฟ่าที่เป็นนักกีฬากล้ามตูดแน่นจะตายยังระบมเลย
พอจบเรื่องกัปตันทีมรักบี้ก็มาขอบอกขอบใจผมเป็นการใหญ่ บอกว่าถ้ามีเรื่องอะไรจะให้ทีมรักบี้ช่วยก็บอกได้เลย จุดนี้ทำให้ผมเกิดความคิดที่จะสร้างเครือข่ายในลักษณะเดียวกับสมาพันธ์ขึ้นมาเพื่อให้ผมใช้งานเป็นการส่วนตัว ผมเลยเริ่มเก็บจากชมรมกีฬาเล็กๆ ก่อน พวกนี้ไม่ยาก แค่ไปให้กำลังใจเปลืองตัวนิดๆ หน่อยๆ ก็สำเร็จแล้ว ทีนี้พอใครมาเป็นชมรมในสังกัดผมอย่างลับๆ ผมก็ช่วยให้ธุรกิจที่อยู่ในเครือข่ายสมาพันธ์มาช่วยเป็นสปอนเซอร์ให้ด้วย เงินก็ไม่กี่มากน้อยถ้าเทียบกับขนาดของธุรกิจเหล่านั้น แต่น้องๆ ก็ดีใจกันเพราะช่วยให้พวกเขามีงบสำหรับฝึกซ้อมกีฬาหรือเดินทางไปแข่งได้สะดวกสบายมากขึ้น ชมรมหลังๆ เลยยิ่งง่าย ยิ่งมีข่าวลือแพร่ไปลับๆ ว่าผมเป็นตัวนำโชค ชมรมไหนมาเข้าสังกัดเชียร์ของผมจะโชคดีในการแข่งก็ยิ่งทำให้ชมรมที่เหลือวิ่งวุ่นขอให้ผมเข้าไปช่วย จนตอนนี้ชมรมกีฬาทั้งมหาลัยอยู่ในสังกัดผมหมดยกเว้นชมรมเดียว
ชมรมที่เป็นจุดด่างพร้อยในความสำเร็จของผมคือชมรมฟุตบอลซึ่งเรียกได้ว่าเป็นชมรมที่ใหญ่ที่สุดและมีผลงานการแข่งที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับชมรมอื่นๆ ในมหาลัยผม โอเค ถึงชมรมนี้จะไม่ได้มีปัญหาเรื่องฝีมือหรือสปอนเซอร์ แต่ก็ไม่น่าจะรังเกียจกำลังใจเพิ่มเติมหรือเงินสนับสนุนเล็กๆ น้อยๆ จากผมสิ ปัญหาอยู่ที่กัปตันชมรมชมรมฟุตบอลครับ มันอยู่ปีสี่เหมือนกับผม ปกติควรจะวางมือให้น้องปีสามเข้ามาแทนแล้วแต่นี่ไม่รู้หวงตำแหน่งหรืออะไร ตอนที่ผมติดต่อไปก็โดนปฏิเสธเสียงแข็งจนเกินเหตุ ผมไปสืบมาทีหลังถึงรู้ว่ามันเป็นพวกแอนตี้เกย์อย่างรุนแรงเลยมองไปว่าการเอาโชว์ของผมไปเป็นรางวัลล่อใจลูกทีมเป็นเรื่องที่เกย์เขาทำกันซึ่งรับไม่ได้ ไม่รู้จะโบราณคร่ำครึไปไหน วัยรุ่นเดี๋ยวนี้เขาเปิดกว้างในเรื่องแบบนี้ไปไหนต่อไหนแล้ว ถึงเป็นชายแท้ก็มองผู้ชายหล่อๆ น่ารักๆ ได้เหมือนกัน ผมเชื่อทฤษฎีที่ว่าคนเราล้วนแต่มีความเป็นไบเซ็กชวลอยู่ในตัว แต่จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง ขนาดผมที่ไม่ใช่เกย์ยังชอบดูผู้ชายหน้าตาดีเลย หรือต่อให้เป็นผู้ชายแท้ๆ ที่ไม่รู้สึกอะไรเลยก็ยังน่าจะมองเป็นเรื่องสนุกเฮฮาร่วมกับเพื่อนได้ ไม่เห็นจะต้องรังเกียจปิดกั้นกันขนาดนี้เลย
แต่ระดับกุนซือของสมาพันธ์อย่างผมแล้วเรื่องแค่นี้ไม่ครนามือหรอกครับ ผมใช้กลวิธีทำให้สั่นคลอนจากฐานรากโดยให้คนไปเป่าหูพวกเด็กๆ ในชมรมฟุตบอลว่าให้ผมมาเชียร์แล้วจะสุดยอดยังไง ทั้งรางวัลสยิวล่อใจ ทั้งเงินสปอนเซอร์ที่ไหลมาเทมา ไหนจะความโชคดีของผมที่จะไปข่มดวงคู่ต่อสู้ ตัวการในการปล่อยข่าวก็ไม่ใช่ใครครับ นายฟีฟ่าของเรานี้เอง อย่าไปได้ยินเวลาที่มันบรรยายถึงก้นผมนะครับ ความหื่นมาเต็ม น้องๆ ทีมฟุตบอลท่าทางจะเคยได้ยินข่าวลือพวกนี้มาบ้างอยู่แล้ว ส่งไอเจ้าฟีฟ่าไปชงไม่กี่ทีคนในทีมก็ก่อหวอดประท้วงกัปตันตัวเองให้เอาชมรมฟุตบอลเข้าสังกัดผมบ้างจนสุดท้ายกัปตันต้องจำยอมเพราะกลัวทีมแตก