Heartbreaker : 15 (ต่อ)
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ที่ผมยังนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง จนเมื่อเสียงเคาะประตูดังทำให้ผมสะดุ้งเงยหน้ามองไปยังที่มาของเสียง ผมจ้องมันราวกับจะมองให้ทะลุไปถึงคนด้านนอก เสียงเคาะดังขึ้นอีก คราวนี้ดังถี่เหมือนเขาต้องการกระตุ้นให้ผมตอบสนอง
“เปิดประตู”
เสียงเข้มสั่ง แต่ผมยังนั่งนิ่งไม่ขยับเคลื่อนกาย
“เปิด!”
เขาตะคอกจนผมสะดุ้งตกใจอีกครั้ง บีบมือที่กำลังสั่นไว้แน่น
เสียงเคาะประตูเงียบหาย เขาคงไปแล้ว ผมค่อยๆขยับตัวลงจากเตียง เดินช้าๆไปที่ประตู ระบบล็อคยังอยู่ปกติ ผมถอนหายใจโล่ง อย่างน้อยปราการแข็งแกร่งนี้ก็ช่วยให้ผมปลอดภัยจากการคุกคามของเขา ผมหันหลังเดินกลับ แต่เสียงจากด้านนอกเรียกให้ผมหยุดชะงักหันกลับไปมอง
เสียงปลดล็อกประตูด้วยกุญแจห้อง!
ผมก้าวถอยหลังพอดีกับที่ประตูเปิดออก ร่างสูงก้าวเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่แววตาเยือกเย็น ผมมองเขาอย่างหวาดกลัวพลางก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆ
“ย…อย่า เข้ามา”
ผมบอกเสียงสั่น ท่าทีนิ่งๆแต่แฝงความคุกคามของเขาทำให้ผมกลัวจนลน
“เป็นอะไร”
ผมส่ายหน้า ถามว่าผมเป็นอะไร เขาน่าจะรู้ดีไม่ใช่เหรอ ว่าที่ผมเป็นแบบนี้ก็เพราะเขา แล้วทำไมยังทำเป็นไม่รู้เรื่อง มาถามผมอีก
“ออกไป”
ผมไล่เขา หยุดมองไปรอบตัว หาทางหนี ถ้าผมวิ่งสวนเขาออกไป ผมจะรอดรึเปล่า?
“กูไม่ไป มึงเป็นอะไร ห๊ะ! กูถามว่ามึงเป็นอะไร!”
ผมสะดุ้งเฮือกกับเสียงตวาด ขาวิ่งออกไปก่อนสมองสั่ง
“ปล่อยผม ปล่อย!”
ผมร้องโวยวายเมื่อแรงโอบรัดตามมาพันธนาการจนตัวลอยเข้าสู่อ้อมกอดเขา
“อย่า…ผมกลัวแล้ว อย่าทำผมเลย”
ผมขอร้องเสียงพร่า กลัวเขาจับใจ
“หุบปากแล้วมองกู”
“ไม่ ปล่อยผม ปล่อยผม”
แรงรัดที่เอวกระชับแน่น ผมพยามดิ้นรนขัดขืน แผ่นหลังสัมผัสกับความเหยียบเย็นของผนังห้อง ผมเบิกตากว้าง ผลักดันเขาออกห่าง แต่แรงดันและผละกำลังของเขามีมากกว่าบดเบียดจนตัวผมแนบสนิทกับตัวเขา สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆริดรดอยู่บนหน้าผาก
“อย่าทำ ผมกลัวแล้ว อย่าทำผมเลย”
ผมส่ายหน้าบอก เงยมองเขาอย่างอ้อนวอน
“เงียบ”
“กลัว ผมกลัว ปล่อยผม”
“กูบอกให้เงียบ”
นัยน์ตาสีเฮเซลจ้องผมอย่างดุดันคล้ายข่มขู่ ผมหายใจแรง ตัวสั่น พยายามออกแรงดันไหล่เขาไว้
“ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว ผมขอโทษ”
ผมละล่ำละลักบอกเขา ก้มหน้าหลบสายตาคม
“เงยหน้า”
ผมส่ายหน้าปฏิเสธ สายตาเขาน่ากลัว ผมกลัวเขา
“เงยหน้ามองกู!”
“ผมกลัว”
ผมบอกเขาเสียงพร่า แรงโอบรัดคลายออก ผมตัวแข็งทื่อกลั้นหายใจ จนเมื่อเขาผละห่างออกไป ขาก็อ่อนยวบลื่นไถลลงนั่งแหมะกับพื้น หายใจหอบ บีบมือที่กำลังสั่นแรงไว้แน่น
“ทำไม”
คำถามนิ่งๆแต่ทำเอาผมสะดุ้งหันไปมองเขาหน้าตาตื่น ผมรีบก้มหน้างุดขดตัวเข้าหาผนังห้อง
“มึงทำแบบนี้ทำไม”
“ผมกลัว กลัวว่าพี่จะทำร้ายผมอย่างคืนนั้น กลัวว่าพี่จะให้ผมกินยากระตุ้นนั่นอีก ผมกลัว ผมกลัว”
ผมบอกไปตามที่ภาพเหตุการณ์ในสมองฉายชัดขึ้นมา เสียงวอนขอแหบพร่าของผมในคืนนั้น ท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างคึกคะนองของพวกเขา ความเจ็บปวดที่ผมได้รับ ในขณะที่พวกเขามีความสุขอยู่บนความทุกข์ทรมานของผม พวกเขาไม่ฟังเสียงทัดทานของผมเลย
“ไม่!!!”
ผมร้องสุดเสียงเมื่อเขาดึงผมเข้าไปกอด ดิ้นสุดแรงแต่เขาก็กอดผมไว้แน่น
“นิ่งซะ”
“ปล่อยผม”
ผมทุบกำปั้นลงบนหลังเขาพลางดิ้นรน แต่เขาเพิ่มแรงกอดรัดทำให้ผมขันขืนไม่ได้ ผมหายใจแรงทุบเขาจนเหนื่อยหอบเขาก็ไม่ยอมปล่อย
“ผมขอร้อง ปล่อยผม”
ผมบอกเสียงแผ่ว ทิ้งมือลงอย่างหมดแรง
“กูไม่ปล่อย ไม่มีวัน”
ผมหลับตา ทำไมเขาไม่ฟังผมเลย ทำไม
สัมผัสจากฝ่ามือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังผมเบาๆราวกับเขาต้องการปลอบประโลมเรียกให้ผมลืมตา
“พี่ควิน”
ผมหลุดเสียงเรียกเขา อ้อมกอดค่อยๆคลายออก ผมรีบกระถดตัวถอยหนีเขาทันที
“อย่ากลัว”
ผมส่ายหน้า มองเขาอย่างหวาดระแวง เบิกตาโพล่งเมื่อเขายื่นมือเข้ามาใกล้
“อย่ากลัว”
เขาบอกซ้ำย้ำคำเดิม วางมือบนแก้มผมลูบไล้เบาๆ ผมนิ่ง มองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“หิวรึยัง“
น้ำเสียงเรียบเรื่อยเอ่ยถาม ผมเม้มปากแน่นมองเขาก่อนจะส่ายหน้า แต่ท้องผมกลับทรยศส่งเสียงร้องขึ้นมาอย่างไม่ไว้หน้าเจ้าของ ผมก้มหน้างุด รู้สึกอายเขา
บ้าชะมัด! มาร้องทำไมตอนนี้
“ลุกขึ้น”
ผมส่ายหน้าช้าๆ
“จะพาไปกินข้าว”
มือเขายังลูบแก้มผมอยู่ แต่ผมไม่ไว้ใจและยังกลัวเขา ไม่รู้ว่าเขาจะโกหกรึเปล่า
“พี่จะไม่ทำอะไรผมใช่ไหม”
ผมถามเสียงเบา ค่อยๆเงยหน้ามองเขา
“อืม”
“จริงนะ”
เขาพยักหน้า ผละมือออกจากแก้มมาจับมือผมกุมไว้แทน คล้ายว่าเขาจะทำให้ผมมั่นใจ ผมยิ้มบางๆ ยอมให้เขาช่วยพยุงตัวลุกขึ้น
“ไม่ได้โกหกผมใช่ไหม”
ผมถามเพื่อตอกย้ำความมั่นใจอีกครั้งว่าเขาจะไม่ผิดคำพูดทีหลัง
“อืม”
เขาตอบรับในลำคอเหมือนเดิมด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ถ้าเกิด…พี่ควินโมโห แล้ว…แล้ว…”
เขาบีบกระชับมือผม ก้มหน้าลงมาใกล้ ผมเตรียมจะถอยหนีแต่ไม่ทันสัมผัสที่ทาบทับลงมาบนปากอย่างนุ่มนวล ก่อนที่เสียงทุ้มจะบอกให้ผมวางใจ
“ไม่ต้องกลัว ต่อไปนี้ ถ้ากูโมโห กูจะไปให้ไกลจากมึง”
เขาผละออกไป สายตายังจับจ้องมองผมคล้ายจะบอกให้ผมเชื่อเขา ผมมองเขานิ่งก่อนตัดสินใจ
“ผมเชื่อพี่ครับ”
ผมยิ้มบอก กระชับมือตอบเขา
แม้เขาไม่ได้ให้คำสัญญากับผม แต่ผมจะลองเชื่อเขาอีกสักครั้ง แต่ถ้าเขาเกิดผิดคำพูดขึ้นมา ผมจะใช้จุดอ่อนที่เขากลัว แสดงให้เขารู้ ว่าผมเอาจริง!
-------------------------------------------------------------------
ต่อจากตอนที่แล้ว ไม่งงกันนะคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์และการติดตามค่ะ
เห็นแฟนคลับแซทออกมาเรียกร้องแระ
วันอังคารแซทกลับจากค่ายค่ะ ใจเย็นเน้อ
เสพติดความดาร์กและความน่ารัก(?) ของควินไปก่อน
เจอกันตอนหน้าจ้าาา รักคนอ่าน จุ๊บ