ว้าย อะไรกันคะ เดี๊ยนว่า เดี๊ยน เขียนเรื่อง ดราม่า นะคะ ไหงเป็นเเบบนี้
มาตอนนี้ล่ะค่ะ รับรอง น้ำตาตกกันเป็นเเถบเเน่ แอร๊ยยยยบทที่ 2 อยากได้.....เหมือนเขาบ้างเช้ามาวันนี้ ไม่อยากตื่นเอาเสียเลย ชั้นอยากจะนอนให้มันพ้นๆวันนี้ไปเสียทีเดียวเชียว
วันอะไรน่ะหรอ
อ๋อ ก็เเค่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ก็เเค่วันที่ต้องทำงานอีกวันก็เเค่นั้น......เเค่นั้นจริงๆย่ะ
ก็เเค่ไม่อยากโดนผู้ชายรุมเอาดอกไม้มาให้ โอ้ย เเค่คิดก็ปวดหัวจะตายอยู่เเล้ว ไม่ได้อยากออกห้องไปไหนเล้ย
อืมๆ อาบน้ำจนหอมละ ฉีดน้ำหอมซะหน่อย เป่าผมให้เเห้ง อุ้ย เซทผมสักนิด อ้าว สเปร์อยู่ไหนน้า อืมมม ใส่เสื้อตัวไหนล่ะนี่
ว้าย ชุดนี้เเจ่มมาก อะๆ ตบเเป้งนิดๆ เอาบิ๊กอายสีที่เข้ากับสีเสื้อ
ไหนดูซิ
โอเค สวยพร้อมไปทำงานเเล้วค่า
ย้ำอีกครั้งนะคะว่าไม่ได้อยากออกไปเล้ย
“โอ้ นายอาทิตย์ วันนี้แต่งตัวมาซะเต็มยศเลยนะ” นั่งที่ตัวเองไม่ทันไร หัวหน้าสุดเท่ห์ก็เดินมาทักซะละ เฮ้อ เป็นคนสวยนี่มันหนักใจจริงๆเลยสิ
“ก็ปกตินี่คะ หัวหน้า คริๆ” ฉันหัวเราะน้อยเอามือป้องปากอย่างพองาม
“เออใช่ นายอาทิตย์ ผมมีอะไรจะให้น่ะ” หัวหน้าพูดพร้อมกับล้วงมือไปในถุงกระดาษใบใหญ่ที่หิ้วมาด้วย
“ว้าย จริงหรือคะ แต่ความจริงไม่ต้องก็ได้นะคะ คริๆ” ฉันหัวเราะเล็กๆอีกครั้ง บอกปัดแต่พองาม พลางปลายตามองเพื่อน สาวที่นั่งส่งสายตาอิจฉามาให้
ก็คนมันสวยนี่คะ ช่วยไม่ได้
“อะ รีบแก้ให้เสร็จด้วย เอาก่อนเย็นนี้นะ”
“แอร๊ยยยย หัวหน้าคะ”
และทั้งวัน ฉันต้องนั่งจ้องแก้ไขเอกสารขนาดหนาเท่าสมุดปกเหลืองด้วยความเหนื่อยหน่าย แต่แค่งานน่ะไม่เท่าไรหรอกถ้านับ
“ว้าย พี่สักก็ เอามาให้เยอะเชียว” กรี๊ด อีนังชะนีเลขา ได้ช่อกุหลาบจาก หนุ่มหล่อหน้าหยก
“โห เค้าเขิลนะ มาได้ไงนี่” แอร๊ยยย ยัยน้อยหน่า เเม่บ้าน ก็ยังได้ดอกกุหลาบแดง
“ตัวเอง เค้าให้” กรี๊ด เพื่อนสาวชั้น แรงมาก เอาชอคโกแลต ไปยื่นให้ พี่อาร์ท เดือนแผนกอีก
“จ้า ที่รัก เลิกงานแล้วเจอกันนะ จ้า ที่เดิม” กรี๊ดดดดด
ยอมไม่ได้ซะแล้ว ต้องทำอะไรสักอย่าง
ฉันตัดสินใจเดินเข้าไปหา ท่านหัวหน้าที่ตอนนี้กำลัง นั่งเซ็นเอกสารอยู่
“เอ่อ หัวหน้าคะ”
“ว่าไงอาทิตย์”
“คือ......หัวหน้าไม่มีอะไรให้หนู จริงๆหรือคะ คือว่าวันนี้ วันพิเศษ”
หัวหน้าเอนตัวพิงพนักเก้าอี้พลางทำหน้าครุ่นคิด
“อ้อ....ใช่จริงๆ ชั้นลืมไปน่ะ โทษทีนะๆ” เขาล้วงเข้าไปในถุงกระดาษอีกครั้ง ชั้นมองไม่กระพริบ ตา ในที่สุดชั้นก็ได้ คริๆ
“อะ....รายงานอีกฉบับ ดีนะนี่ที่ทวง ไม่งั้นโดนลูกค้าด่าตายเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เขาโยนเอกสารปึกใหญ่อีกอันให้พลางหัวเราะไล่หลัง
ซิกๆ ไม่น่าหาเรื่องเลยเรา
“ว่าไงจ๊ะ อาทิตย์ เย็นนี้นัดหวานใจไปที่ไหนจ๊ะ” น้ำเสียงเยาะเย้ย ดังขึ้นข้างหลัง ฉันถอนหายใจ ไม่อยากหันไปเสวนากับ ชี มากนัก
“อ้าว ศรินทิพย์ ชั้นก็นึกว่าโดนไล่ออกไปแล้ว หายไปหลายวันนะนี่” ฉันตอบกลับโดยยังไม่ได้หันมอง ชี (ไม่เห็นน่าสนใจ)
“ว้าย เปล่าจ้า คุณเพื่อน ก็แค่ พี่พัน น่ะ เค้าชวนไปเที่ยวภูเก็ต กัน บรรยากาศดีมากเลยเธอ แล้วพี่เขานะ.........”
โอ้ย ใครอยากฟังยะ ไม่ไหวละ ต้องทำอะไรสักอย่า.......ตั้งเวลาปลุกโทรศัพท์ก่อน
และเมื่อเสียงปลุกดังขึ้น
“อ้าว สวัสดีจ้า ที่รัก อื้ม รู้แล้ว เค้ากำลังจะเลิกงาน แหม......ใจร้อนจริงๆเลย จ้า.....เจอกันที่เดิมนะ รักนะ” ฉันกรอกเสียงไปตามโทรศัพท์ที่ ไม่มีใครตอบรับ เล่นเอา ชี เงียบไป
“ศรินทิพย์ จ๊ะ เดี๋ยวต้องขอตัวก่อนนะ พอดีมีนัดน่ะ” คริๆ สะใจโว้ย เห็นหน้าเหวอ ของ ชี แบบนี้
………………………........................................................................................
“แน่ใจนะว่าไม่เป็นไร” เลิกงานปุ๊บ ฉันก็โทรหานังธรเพื่อนสาวทันที หมายจะชวนไปหาอะไรกินกันตามประสา สาวสวย แต่โสด แต่โชคร้าย เหมือน นังธรจะไม่สบาย ปวดหัว ตัวร้อน ปวดท้อง เจ็บขา โอ้ย เป็นซะให้หมด
ไปเที่ยวเองก็ได้วุ้ย
ก็แค่การเดินคนเดียว
แค่กินข้าวลำพัง
ไม่เห็นจะมีอะไร เพราะที่ผ่านมา ก็เป็นแบบนี้อยู่เรื่อย
เห็นใครๆเขาดูมีความสุข ได้รับดอกไม้ช่อใหญ่
เสียงเค้าหัวเราะฟังดูสดใส คงเพราะว่าภายในใจเค้ารักกัน
แต่เมื่อย้อนมาดูตัวเอง ก็ไม่เห็นเคยเป็นอย่างนั้น
อยู่เพียงตัวคนเดียว และอยู่ไปวันวันหมดความหมาย
นั่งดูคนโต๊ะ ข้างๆ ตักอาหารให้กันสิ........ไหนจะผู้คนที่เดินเป็นคู่ๆ จับมือกันไป เสียงหัวเราะและรอยยิ้มแบบนั้น จะมีวันไหมนะ ที่ฉันจะได้รู้จักมัน
มือที่มันเย็นในตอนนี้ ก็คงทำได้เพียง กุมมือตัวเองใครคลายหนาว
คนที่จะเดินเคียงข้าง คงมีเพียงคนแปลกหน้าที่ผ่านเข้ามาและพ้นไป
รอยยิ้มที่มีอยู่ มันก็ช่างฝืนซะเหลือเกิน
น้ำตาที่ควรจะเต็มไปด้วยความสุขกลับแห้งผาก เหลือไว้เพียงรอยน้ำตาแห่งความเหงา
อยากเพียงได้เธอเดินเคียงกาย.......อยากเพียงมีเธอกุมมือฉันไว้
อยากเพียงแค่เธอโอบกอด.......อยากเพียงคำพูดบอกรักเบาๆ
สำหรับฉันคนนี้คงยากเย็นนักสินะ
……………………….......................................................................................
“เอามาอีกขวด”
“โหเจ้ วันนี้มาดุ นะนี่”
“อย่ายุ่งน่า เอามาเร็ว”
รู้ตัวอีกที ฉันก็นั่งสั่งเบียร์อยู่ที่ร้านประจำซะแล้ว ไม่รู้สึ แค่ยังไม่อยากกลับห้อง ไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียวในคืนที่หลายๆคนอยู่ด้วยกัน
“เอามาอีกขวด” ฉันกระดกกลืนเบียร์จนหมดแก้ว พร้อมกับสั่งเพิ่มอีก
“เจ้ 6 ขวดละนะ” ไอ้ธัน เด็กเสริฟประจำร้านท้วงขึ้น เพราะปกติชั้นกินไม่เยอะเท่าไรนัก
“อ๊ะ แค่นี้สบายมาก”
“เออ อย่าเมาละกันเจ้ เดี๋ยวไม่มีแรง จิก หนุ่มๆ นะ” มันจิกเข้าให้พร้อมกับส่งเบียร์มาให้อีกขวด
เฮ้อ ไม่รู้คิดผิดหรือเปล่าที่มาเที่ยวในวันนี้
มองไปทางไหนก็มีแต่ ดอกกุหลาบ
สีแดง
สีชมพู
คู่รัก
อยากได้ดอกไม้บ้าง อยากได้ของขวัญให้ฉันบ้าง จะมีทางเป็นจริงซักเมื่อไร
อยากมีความรักและอยากที่จะมีเขาอยู่ใกล้ๆ เมื่อไรจะเจอซักที
ถ้าฉันมีเขาคงมีความสุข และคงได้ดอกไม้ช่อใหญ่
เสียงฉันหัวเราะคงฟังสดใส ก็เพราะมีใครสักคนที่รักกัน
อยากได้บ้าง อยากรู้สึกแบบนั้นบ้าง มันจะเป็นยังไง ไอ้ความรักที่ว่า
มันจะร้อนเป็นไฟ หรือ เย็นเหมือนน้ำ นะ
มันจะอ่อนนุ่มเป็นปุยฝ้าย หรือแข็งแกร่งปานเหล็กไหล
ฉันจะได้รู้สึกไหม
น้ำตาไหลลงมาอีกแล้ว ฉันกลั้นมันอีกไม่ไหว ทำได้เพียงก้มหน้าก้มตา ไม่อยากให้ใครเห็น
อยากได้บ้าง.....อยากมีบ้าง
ใครสักคนช่วยฉันทีได้ไหม
“พี่ครับ”
เสียงใครน่ะ
“พี่ครับ นี่ครับ”
ฉันรีบปาดน้ำตาแล้วเงยหน้ามองคนข้างหน้า
เป็นชายหนุ่มร่างสูง แต่ฉันเองมองหน้าไม่ชัดนักเนื่องจากน้ำตาที่ไหลนอง แต่ที่แน่ๆ ดอกกุหลาบ ก้านยาวดอกหนึ่งถูกยื่นมาหาฉัน
ฉันคลี่ยิ้มพลางเอื้อมมือไปจับดอกไม้ไว้
โอ้ วันนี้คงเป็นการเริ่มต้นที่ดี.................ขอบคุณ จริงๆ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ 50 บาทครับ”
“แอร๊ยยยยยยยย”เมื่อไรจะเจอ.....เจอเค้าเสียที