d o u b l e M
o n e
ตึง! ตึง! ตึง!
เสียงวิ่งตึงตังจากชั้นสองของบ้างลงมาจนถึงชั้นล่างแล้วเลี้ยวเข้าไปที่ครัวด้วยความไวแสง . . ทำไมถึงได้รีบนักน่ะเหรอ ก็เพราะว่า..
“แม่จ๋า! ทำไมแม่ไม่ปลุกมีนอ่าาาาา” คนตัวเล็กโวยวาย ก่อนคนที่ถูกเรียกว่าแม่จ๋าจะหันมามองและส่งยิ้มหวานให้ลููกชายของเธออย่างอารมณ์ดี รอยยิ้มของแม่ทำให้มีนอยากลงไปดิ้นกับพื้นให้รู้แล้ว รู้รอด
“คุณพระ..!” คุณแม่ทำหน้าตกใจพร้อมกับวางมือทั้งสองทาบอก “ทำไมลูกแม่ถึงได้ตื่นเช้ากันนะ” แม่จ๋าว่าอย่างนั้น.. เดี๋ยวนะ! ตื่นเช้างั้นหรือ! มีนนิ่งไปพลางนิ่งก่อนดวงตาจะเบิกกว้างเมื่อสายไปเหลือบเห็นตัวเลข 06:23 บนหน้าปัดนาฬิกาดิจัทัล
“แม่ทำอะไรกับนาฬิากาของมีนคร้าบบบบ”
“อุ้ย..” คุณแม่คนสวยยิ้มกลบเกลื่อนความผิด ให้ตายเถอะ! แม่นะแม่ ทำกันได้
“ปรับนาฬิกามีนอีกแล้วใช่ไหมครับ?” มีนถามเสียงอ่อย แม่ไม่ตอบแต่ส่งยิ้มมาให้ ไม่ใช่ยิ้มธรรมดาด้วยสิ มันมีฤทธิ์ทำลายล้างเลยนะ แล้วยังหัวเราะหน่อย ๆ ด้วย ใครจะไปโกรธลงล่ะ ฮือ!
“แม่กลัวมีนตื่นสายไง แม่ผิดตรงไหนครับ?” ครับ แม่ไม่ผิดเลยครับ ปรับนาฬิกาจากหกโมงไปเป็นสิบโมงก็ไม่ผิดหรอกครับ..
“แม่อ่าา~ แม่รู้ไหมว่ามีนตกใจขนาดไหน” เพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกน่ะสิ พอตื่นมาเพราะเสียงนาฬิกา ตัวเลขที่บอกกลับเลยเวลาเข้าเรียนไปมากโขก จะสายตั้งแต่วันแรกก็ใช่เรื่อง แล้วตอนนี้สภาพเขายังอยู่ในชุดนอนอยู่เลย หัวก็ฟู หน้าก็มันเยิ้ม มันน่าร้องไห้จริง ๆ
“โอ๋.. แม่ขอโทษนะกู๊ดบอย แต่แม่กลัวว่ามีนจะตื่นสายไง ลูกแม่ตื่นง่ายที่ไหนกันล่ะ หืม? แล้ววิธีนี้มันก็ได้ผลเกิดคาดเสียด้วยสิ”
เอากับคุณนายกรกานต์สิ.. นอกจากแมลงที่เขาแพ้ก็มีมนุษย์แม่นี่แหละที่ไม่เคยชนะสักที..
“ไหน ๆ ก็ตื่นแล้วนะคะคุณลูกชาย ไปอาบน้ำแต่งตัวค่ะ จะได้มากินข้าวเช้า วันนี้แม่ทำข้าวต้มกุ้งให้นะคนดี” คุณแม่คนสวยดันหลังลูกชายให้ออกจากครัว มีนมุ่ยหน้าแต่ก็ยอมเดินขึ้นชั้นสองไป
อ่า.. แอบหลับอีกสักหน่อยดีกว่า.. คิคิ
“อย่าไปนอนอีกนะมีน!!” หวายยยยย ทำไมแม่ถึงได้รู้ทันเขาล่ะเนี่ยยยยย
ณ โรงเรียนมัธยมสหศึกษา. . . เวลา 07 : 30
มือเล็กยกขึ้นปิดปากหาววอดขณะที่อีกข้างล้วงกระเป๋ากางเกง ตอนนี้มีนยืนรอรามินทร์อยู่หน้าทางเข้าโรงเรียน เมื่อเช้ามาทานข้าวเช้าเสร็จแม่จ๋าของเขาก็ขับรถมาส่งถึงหน้าโรงเรียนด้วยความที่คุณแม่มีต้องไปทำงานต่อแต่เช้า แต่คุณแม่ครับ มาหย่อนเขาไว้ตั้งแต่เจ็ดโมงยี่สิบ มันยังเช้ามากอยู่เลยนะ ง่วงก็ง่วง ยังต้องมายืนรอรามินทร์อีก แล้วเนี่ยเมื่อไหร่คุณชายจะเสด็จมากัน..
งั้นระหว่างรอรามินทร์ขอเขาส่องเด็กใหม่ก่อนละนะ. . .
“ไอ้มีนนนนนนน!” เสียงเรียกที่ค่อนข้างคุ้นหูทำให้มีนหันไปมอง ริมฝีปากสีเชอร์รี่คลี่ยิ้มพร้อมกับยกมือไฮไฟว์กับคนที่วิ่งทั่ก ๆ เข้ามาหา
“ไอ้เชี่ยเวฟฟฟฟฟ” เวฟเป็นเพื่อนห้องเดียวกันกับมีน เอาจริง ๆ ก็อยู่กลุ่มเดียวกัน
“ไอ้ห่า ทำไมมึงมาเช้าได้วะ แล้วทำไมไม่เข้าโรงเรียน รอกูใช่ม้าาาา”
“แม่มาส่ง ง่วงฉิบหายอ่ะ รอมินทร์อยู่”
“โวะ นึกว่ารอกู เสียใจเลยเนี่ย” มีนเบ้ปาก ก่อนจะส่งมือไปตบกระโหลกเพื่อนสนิท ระหว่างนั้นเวฟก็ชวนเขาคุยไปเรื่อย และไม่นานคนที่รอก็มา. . .
รามินทร์เดินแทรกกลางระหว่างเวฟกับมีน ซ้ำยังผลักเวฟออกไปอีก มีนปลดกระเป๋าเป้ลงแล้วหยิบนมกล่องออกมาส่งให้กับรามินทร์
“ขอบคุณครับ”
“ไมช้า?”
“แล้วทำไมมาเร็ว”
“โวะ” ปัดมือและหันหลังเดินเข้าโรงเรียนไปก่อน รามินทร์หัวเราะเบา ๆ แล้ววิ่งตามร่างเล็กไปเดินด้วยกัน ทิ้งให้เวฟทำหน้ามึน
ทั้งสามเดินเข้าโรงเรียนพร้อมกันโดยมีสายตาจากทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่เป็นจุดเดียว รวมถึงเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามา คนที่ป๊อปที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเด็กหนุ่มตัวสูงที่ยืนอยู่ตรงกลาง แต่รามินมร์หาได้สนใจสายตาพวกนั้นไม่.. เขาสนใจเจ้าลูกแมวที่ทำหน้าง่วงอยู่ข้าง ๆ เท่านั้นแหละ
พอมาถึงศาลาแดงแล้วเจอกลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่นั้น ลูกแมวหน้าง่วงก็เปลี่ยนเป็นตาใสกริ๊งวิ่งดุ๊กดิ๊กไป ทิ้งให้รามินทร์เลิกคิ้วมอง เวฟที่อยู่ข้าง ๆ ก็หัวเราะเบา ๆ . . .ศาลาแดงก็คือศาลาสีแดงที่มีโต๊ะหินอ่อนอยู่ตรงกลาง จัดไว้ให้นักเรียนได้นักพักผ่อนหย่อนคลายกัน ก็เท่านั้นแหละ. . .
คุยกันพอหอมปากหอมคอก็ชวนกันเอากระเป๋าไปเก็บไว้บนห้องเรียน พอเสียงสัญญาณก็ดังขึ้น กลุ่มเด็ก ๆ พากันเดินเอือย ๆ ไปเข้าแถวเพื่อทำกิจกรรมยามเช้า
“ดีจัง วันนี้แดดไม่ร้อนเลย”
“เพราะอยู่ในร่มต่างหากล่ะ” รามินทร์ใช้กำปั้นทุบหน้าผากของมีนเบา ๆ คนตัวเล็กหัวเราะแหะ ๆ แล้วหันหน้ากลับไปยืนตรงเคารพธงชาติ
การทำกิจกรรมยามเช้าจะไม่น่าเบื่อเพราะไอ้ลูกแมวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานี่แหละนะ
จริง ๆ แล้วมันก็ควรจะเรียงตามลำดับความสูงหรอกนะ แต่สุดท้ายก็แล้วแต่ใครจะยืนตรงไหนอยู่ดี เขาเลยลากมีนมายืนด้วยกัน มันน่าหงุดหงิดถ้าหากว่ารามินทร์ต้องยืนอยู่ท้ายแถวแล้วมีนต้องไปยืนอยู่ต้นแถว แล้วมันคงไม่น่ายินดีเท่าไหร่หากเขาต้องคอยฟังเสียงเพื่อนผู้หญิงที่เข้ามาชวนคุย
หมดเวลาการทำกิจกรรมตอนเช้า เด็กนักเรียนทั้งหลายก็กรูกันขึ้นอาคาร พอเข้ามาถึงห้องเรียน มีนก็ตรงดิ่งไปที่โต๊ะหลังห้องติดหน้าต่างที่ประจำ โต๊ะในห้องเรียนจัดไว้เป็นคู่ และแน่นอนคู่ของมีนคือรามินทร์.. อืม.. ไอ้บ้านี่มันก็นะ ตามคิดยิ่งกว่าเงา พี่ไม่เก็ท
เสียงพูดคุยจ็อกแจ็กจอแจเงียบไปเมื่อบานประตูห้องด้านหน้าถูกเปิดออกพร้อมกับการมาของครูประจำวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐานที่เป็นวิชาแรกของการเปิดเทอมวันนี้ และยังเป็นครูที่ปรึกษาประจำห้อง SM-5C SM ก็มาจาก Science-Mathematics หรือ วิทย์-คณิต นั่นแหละฮะ ที่ตั้งแบบนั้นก็เพราะความเว่อวังของผู้อำนวยการโรงเรียนล้วน ๆ เลย ทั้งที่โรงเรียนก็ไม่ได้เป็นนานาชาติ จะเป็น วิทย์-คณิต ธรรมดาก็ได้ แต่ก็นะ ตามใจท่านเลยครับ
“นักเรียนเคารพ!” เสียงหัวหน้าห้องสั่ง
“สวัสดีครับ/ค่ะคุณครู..” และก็ตามมาด้วยเสียงยานคางตามสไตล์นักเรียนไทย
“เอ้า! ให้มันกระฉับกระเฉงกันหน่อย! เพิ่งเปิดเรียนวันแรกก็แสดงออกว่าขี้เกียจแล้ว”
“โหยยยย”
“เงียบ!” อาจาร์ยประจำชั้นสั่งเสียง(พยายามจะ)เข้ม พูดนั่นนี่ไปประมาณสิบนาทีก็เข้าประเด็นหลัก “วันนี้วันแรก ครูจะไม่สั่งงาน เฮ้ย! เงียบ!”
“ทำไมครูไอโหดงี้” มีนพึมพำกับรามินทร์ เด็กตัวสูงกว่าเลิกคิ้วและยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ยื่นมือไปขยี้ผมของมีนเบา ๆ
“ถ้าไม่เงียบครูจะสั่งงานตั้งแต่คาบแรกเลยนะ!!” กริบกันเลยทีเดียว..
“โหยย ‘จารย์อย่าสั่งเลย วันนี้วันแรกนะคร้าบบบ” เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งพูดขึ้นมา และก็ตามมาพร้อมกับเสียงเห็นด้วยของเพื่อนร่วมห้องคนอื่น ครูไอยรากัดฟันข่มอารมณ์ไม่ให้ปะทุกับเด็กทะโมนพวกนี้
“กูบอกให้เงียบไง!!!” กริบกันอีกรอบ เพราะเสียงตะคอกและสีหน้าของครูประจำชั้นทำเอานักเรียนทั้งสี่สิบคนเงียบกริบและนั่งเจี๋ยมเจี้ยมกันหมด
“ถ้าเงียบแต่แรกก็ดีแล้ว พวกมึงนี่นะ” ก็เพราะสนิทกับนักเรียนมากไง แถมพวกนี้ยังเป็นเด็กในการปกครองอีก กู-มึงมันเรื่องปกติ ไม่ซีเรียสกัน พูดได้ แต่ส่วนใหญ่ก็จะใช้กับนักเรียนชาย นักเรียนหญิงก็กับพวกหน้ามึนหน่อยเท่านั้น ครูไอเป็นครูผู้หญิงที่โหดสัดมากอ่ะบอกเลย
“มีใครอยากเลือกตั้งหัวหน้าห้องคนใหม่หรือเปล่า?”
“ผม!” คนที่ยกมือก็ไม่ใช่ หัวหน้าห้องตอนม.4 นั่นแหละ
“เธออยากเสนอใคร?”
“รามินทร์ครับ!” เจ้าของชื่อเลิกคิ้วแล้วส่ายหน้า
“อืม.. รามินทร์ก็เหมาะดีนะครับ ครูไม่ว่างั้นหรอ?”
“มีนา..” คนถูกปรามหันมายิ้มหวานใส่ รามินทร์ถอนหายใจเฮือก โธ่ ๆ คนดีของพี่มีน ไม่เอา ไม่เครียด เดี๋ยวแก่เร็วนะรู้เปล่า
“เออ ไอ้มีนมันก็พูดถูก รามินทร์ว่าไง?”
“ถ้าจะให้ผมเป็นหัวหน้าห้อง รองหัวหน้าก็ต้องเป็นมีนณนนท์” อ้าว ไอ้ซั้ซ! ทำไมถึงทำกันแบบนี้ล่ะสหาย..
“เฮ้ย!! ไม่เอา ไม่เป็น!”
“ก็ตามนั้นแหละครับ”
สรุปแล้วหัวหน้าห้องและรองหัวหน้าก็เป็นคนเดิมก็คนเดิม ฝ่ายวิชาการ ฝ่ายกิจกรรมก็คนเดิม และเหรัญญิกก็คือมีน ก็คนเดิมอีกนั่นแหละ แฮ่ ที่มีนได้หน้าที่นี้เพราะเพื่อนส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า เนี่ยยยยยยยย ให้ไอ้มีนไปเลยยยย พอเขาถามว่าทำไมต้องเป็นเขาพวกมันก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า.. มึงงก!
สัด.. ขอบคุณ
คาบเช้าผ่านไปแล้ว ตอนนี้ก็เป็นเวลาพักเที่ยง เสียงคุยกันโฉ้งเฉ้งดังมาจากทั่วทุกสารทิศ มีนเดินตรงไปที่ร้านข้าวร้านประจำ พร้อมกับสั่งเมนูประจำ
“หมูทอดกับแกงเขียวหวานจานนึงฮะ แล้วก็หมูกรอบผัดพริกกับไข่ยางมะตูมอีกจานครับ” เสียงใสร้องสั่งพร้อมกับยิ้มให้แม่ค้า ร้านนี้มีนมากินบ่อยมากมากมากที่สุดแล้ว กับข้าวอร่อย แม่ค้าน่ารัก ที่สำคัญให้เขาเยอะด้วย อิอิ แต่หารู้ไม่.. เพราะว่าหน้าตาหน้าเอ็นดูของเจ้าตัวล้วน ๆ เลย
งืม..
“กินเยอะเชียวน้องมีน”
“อีกจานของรามินทร์ครับ”
“อ้าวหรอ ของรามินทร์หมูกรอบใช่ไหมลูก เดี๋ยวป้าเพิ่มให้”
“แฮ่ ขอบคุณครับ” บอกพร้อมกับโปรยยิ้มหวานไปอีกหนึ่งที มันช่างเป็นยิ้มที่ใครเห็นต่างก็ต้องหยุดมองจริง ๆ แล้วด้วยความเป็นคนอัธยาศัยดีก็เลยยิ้มให้คนนู้นคนนี้ไปทั่ว ทำเอารุ่นพี่ รุ่นน้อง รุ่นเพื่อน ทั้งชายและหญิง แทบทรุดไปกองกับพื้นเพราะโดนคนตัวเล็กแอทแทคเข้าเต็มเปา
“ทำไมช้า?” กลับถึงโต๊ะยังไม่ทันได้หย่อนตูดนั่ง คุณรามินทร์ก็ทำหน้าดุใส่แล้ว มีนไหวไหล่ ยิ้มเผล่
“คนมันเยอะไง”
มานี่มา เปิดเรื่องมายังไม่ทันได้แนะนำเพื่อนให้รู้จักเลย คนแรกเลยเนอะ นั่งอยู่ตรงข้ามพี่เนี่ยชื่อ เวฟ ก็ไอ้คนที่วิ่งมาหาเมื่อเช้านั่นแหละ ถัดจากเวฟก็คือ จันทร์เจ้า ถัดไปอีกก็ ไต้ฝุ่น งืม ก็หมดแล้ว แค่นี้แหละ รวมเขากับรามินทร์เข้าไปด้วยก็มีห้าคนไง กำลังดีเลย อิอิ
มองแบบนี้แล้วก็ตลกดีเนอะ จันทร์เจ้านั่งตรงกลางระหว่างเวฟกับไต้ฝุ่นงี้กลายเป็นบ่อเลย เห็นว่ามีนตัวเล็กกระทัดรัดงี้นะ จันทร์เจ้าตัวเล็กกว่าอีกอ่ะบอกเลย ฮี่ฮี่ แต่เดี๋ยวนะ ถ้าเขาย้ายไปนั่งแทนจันทร์เจ้าก็คงไม่ต่างกัน อืม เพราะฉะนั้นเราเลิกพูดถึงเรื่องนี้กันเต๊อะ!
“ถ้าเลิกเรียนแล้วเราจะไปไหนกันดี งั่ม ๆ”
“กลืนก่อนค่อยพูดไม่เป็นหรอวะไอ้จิ๋ว!” เวฟพูดไปก็ตบศีรษะของจันทร์เจ้าไปด้วย หูย พี่นี่เจ็บแทนเลย
“ตบเราทำไมงะ!!”
“กูอยากกดหน้ามึงลงชามสุกี้ด้วยซ้ำ ไอ้ห่า!”
“แบะ ๆ ๆ ว้ากกกก ฝุ่นจ๋าาา ช่วยด้วยย ไอ้คลื่นจะแดกหัวเรา” แล้วมนุษย์จิ๋วก็เอนตัวไปซบไต้ฝุ่น งืม.. ถ้าหน้าตาไม่น่ารักนะ พี่มีนจะยกขาสวย ๆ ถีบให้ตกเก้าอี้เลย
“กดเลย หมั่นไส้”
“อ้าว ;O;” พอไม่มีใครเข้าข้างมนุษย์จิ๋วก็เอ๋อเลยไง อ้าปากหวอเชียว แมลงวันบินเข้าไปไข่ได้เป็นสิบตัวแล้ว
“น้องจิ๋วมาซุกอกพี่มีนไหมงับ”
“พี่มีนไม่มีดูมดูม น้องจิ๋วไม่ซุกงับ” ฟาย! พอเลย จบ! มันหมดอารมณ์ฉันไม่ต้องการแล้วเธอ..
“-_-” พอเห็นมีนทำหน้างี้ไอ้น้องจิ๋วมันก็ยื่นมือมาดึงแก้มย้วย ๆ ของพี่ พร้อมกับพูดปลอบใจ
“โอ๋ ๆ ไม่งอนนะพี่มีน ปากห้อยจะถึงพื้นแล้วเนี่ย โอ๋ ๆ”
“ทำตัวแบบนี้ก็ออกจากกลุ่มเราไปเลย!”
“อิอิ”
“อิอิพ่อง! เฮ้ยยยย! มินทร์ อย่ามาแย่งหมูนี่ดิวะ!!” เพราะมัวแต่ก่อสงครามกับจันทร์เจ้าเลยไม่ทันระวังมนุษย์เพื่อนข้าง ๆ รามินทร์ส่งหมูทอดชิ้นใหญ่ที่สุดเข้าปากและเคี้ยวด้วยท่าทางแสนอร่อยจนคนตัวเล็กถึงกับควันออกหู
“แค่นี้ให้ไม่ได้?”
“.. มันของพี่มีนนะเว้ย!” ดีดหน้าหน้าผากมนดังเปาะ! ไม่เบาแต่ก็ไม่แรงด้วยความหมั่นไส้ เกิดก่อนเขาแค่สองเดือนสะเหล่อแทนตัวเองว่าพี่ คิดว่าน่ารักมากมั้ง
“กินแล้ว โทษนะ” ยักคิ้วกระตุ้นความโมโหของพี่มีนไปอีกที หึหึ
“นิสัยไม่ดีเลยว่ะ”
ใช่แล้ว.. มันน่ารักมาก
--------------
ตอนที่หนึ่งมาแล้วววว
มีจันทร์เจ้าด้วย~ แต่เรื่องนี้เป็นจันทร์เจ้าเวอร์ชั่นอายุสิบเจ็ด /)_(\
เพิ่งแต่งด้วยการบรรยายแบบนี้ครั้งแรก ถ้างง ๆ ยังไงก็ขออภัยนะคะ
แล้วก็ขอบคุณนะงับ ♥